Share

บทที่ 136

Penulis: เบลล่า
"ผมพูดจริงนะ เราออกไปจากที่นี่กันเถอะ ไปให้พ้นจากคนพวกนั้น คุณอาจตั้งสาขาธุรกิจที่นั่นก็ได้นะ"

ฉันรู้สึกอบอุ่นใจกับความตั้งใจดีของเขา แล้วริมฝีปากของฉันก็ยืดออกเป็นรอยยิ้ม "ฉันอยากจะทำอย่างนั้นเหมือนกัน" ฉันเริ่มพูดออกมา "แต่ฉันยังมีบางอย่างต้องจัดการที่นี่ เมื่อฉันจัดการอะไร ๆ ในบริษัทเสร็จแล้ว ฉันก็จะไปอิตาลีกับคุณค่ะ" ฉันตัดสินใจพูดต่อว่า "ฉันอยากไปดูที่ที่คุณใช้ชีวิตซักพักหนึ่ง"

เขายิ้ม "ผมทนรอไม่ไหวแล้ว"

“ฉันก็เหมือนกันค่ะ ส่วนเรื่องมาร์คนั้นฉันมาคิดทบทวนดูแล้ว ฉันคิดว่าในช่วงหลัง ๆ นี้ ฉันได้ทำตัวหยิ่งผยองเกินไป อย่างน้อยก็ทำกับเขานั่นแหละ ฉันคอยกวนประสาทและผลักให้เขาจนมุมมาเรื่อย ๆ ถึงเวลาที่ต้องใจเย็นลงและยุติอะไรพวกนี้ซะที ตอนนี้เราเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกันแล้ว ฉันไม่ควรหยิ่งผยองกับเขามากเกินไป"

“และคุณควรอยู่ห่างจากเขาด้วย" ลูคัสกล่าวเสริมแล้วฉันก็หัวเราะคิกคัก

“คุณเป็นผู้ชายขี้หึงนะ" ฉันหยอกเย้า

เขาส่ายหัวพร้อมกับยิ้มอ่อน "ไม่หรอก คุณไม่ได้ทำอะไรให้ผมรู้สึกหึงหวงหรอก ผมเป็นของคุณและคุณก็เป็นของผม ตลอดไป"

“อั๊ยยย" ฉันดึงเขาเข้ามา "ใช่แล้วล่ะลูคัส ฉันจะเป็นของคุณตลอดไป"

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 137

    ฉันตัวแข็งทื่อและไม่มีเลือดมาหล่อเลี้ยงอยู่บนในหน้าเลย“ฉันจะส่งที่อยู่ของโรงพยาบาลให้เธอเอง" มาร์คพูด จากนั้นก็ตัดสายทิ้ง“โอ้ พระเจ้า" เมื่อรู้สึกถึงสถานการณ์เร่งด่วน ลูคัสก็รีบม้วนตัวมาหาฉัน แล้วฉันก็กระโดดลงจากเตียง "ลูคัส ฉันต้องรีบไปที่นั่นนะ" ฉันไม่ยอมเสียเวลาควานหาเสื้อผ้าที่เราหลับหูหลับตาโยนทิ้งไปทั่วห้อง ฉันรีบวิ่งไปที่ตู้เสื้อผ้า แล้วคว้าชุดแรกที่เห็นออกมา นั่นคือชุดกระโปรงคอปกฉันควานหากางเกงในแล้วสวมมันไว้ มือของฉันสั่นเทาในขณะพยามถอดกระดุมเสื้อ จู่ ๆ ลูคัสก็มาอยู่ตรงหน้าฉัน เขาคว้าชุดนั้นไปจากฉันอย่างนุ่มนวลและเงียบงัน ปลดกระดุมเแล้วสวมชุดนั้นเข้าทางหัว จากนั้นก็ติดกระดุมให้ ฉันแค่ยืนอยู่ตรงนั้นปล่อยให้เขาแต่งเนื้อแต่งตัวให้ถึงแม้ว่าดอริสจะไม่ใช่คุณยายแท้ ๆ ของฉัน ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นคุณยายของผู้ชายที่ฉันเคยเกลียดชัง แต่ท่านก็ยังมีความหมายกับฉันมาก คุณยายดอริสเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ปฏิบัติต่อฉันเป็นอย่างดี เธอเป็นคนทำให้ฉันรู้ว่าการมีแม่นั้นเป็นฉันใด เธอเป็นคนดีมากตั้งแต่เราได้พบกัน ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับท่านฉันคิดว่าฉันคงทนรับไม่ได้แน่ ๆอาการของท่านคงจะแย่มากจริง ๆ ถึงไ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 138

    "หนูอยู่นี่แล้วค่ะคุณยาย" ฉันร้องไห้สะอึกสะอื้น“ขอบใจจ้ะ" เธอกระซิบแล้วหลับตาไปครู่หนึ่ง ซึ่งฉันรับรู้ได้ว่าท่านกำลังรู้สึกเจ็บปวด ท่านกำลังเจ็บปวดมากแต่ไม่อยากให้เราเห็นเธอลูบผมฉันพร้อมกับจ้องตา มีรอยยิ้มเศร้าสร้อยและเสียใจผุดขึ้นบนริมฝีปาก "รู้ไหม ยายหวังมาตลอดว่าเธอกับมาร์คจะครองรักกันไปได้นาน ๆ …ตลอดไป แต่โชคไม่ดีที่เขาไม่ทะนุถนอมเธอไว้ เขาไม่คู่ควรกับเธอ ยายก็เลยจะไม่วิงวอนขอร้องให้เธอกลับมาคบกับเขาหรอก แต่ยายขอร้องให้เธอคอยช่วยเหลือและเป็นกำลังใจให้เขาหน่อยนะ" ฉันอยากจะบอกท่านว่าถึงแม้ฉันจะคอยช่วยเหลือเขา มาร์คก็หยิ่งยะโสเกินกว่าจะโชว์ความอ่อนแอ และยอมรับความช่วยเหลือจากฉันได้ แต่ท่านก็ห้ามฉันเอาไว้“ยายเข้าใจดีว่ามาร์คเป็นคนเอาแต่ใจ และอาจพูดได้ว่าเป็นคนห่างเหิน แต่เชื่อยายเถอะว่าเขาเป็นคนใส่ใจ และต้องการใครสักคนมาดูแลเหมือนกัน ครอบครัวของเราอาจเป็นครอบครัวใหญ่ แต่หลังจากยายจากไปแล้ว มาร์คจะต้องอยู่ตัวคนเดียว แม่ของเขาก็อย่างที่รู้ ๆ กันนั่นแหละ เป็นคนผิวเผินและไม่รู้เรื่องราวอะไร แล้วสมาชิกในครอบครัวคนอื่น ๆ ก็จับจ้องตำแหน่งของเขาอยู่ เขาเป็นคนเดียวที่สามารถพึ่งพาได้เมื่อฉ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 139

    มุมมองของซิดนีย์คุณยายดอริสยิ้มให้มาร์ค แล้วพูดขึ้นว่า "ขอบใจมาก"มาร์คพยักหน้าพร้อมกับเม้มปาก จากนั้นคุณยายก็หันมาทางฉัน "ลูคัสอยู่ไหน? เขามากับหนูหรือเปล่า?”“มาด้วยค่ะ" ฉันตอบอย่างรวดเร็ว ฉันรู้ว่าลูคัสก็อยากจะเจอท่านเหมือนกัน "เขารออยู่ข้างนอกค่ะ"“บอกให้เขาเข้ามา ยายอยากจะเจอเขาเหมือนกัน" ดอริสพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงฉันลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปที่ประตู จากนั้นก็เปิดประตูแล้วโผล่หัวออกไปเหมือนตอนออกมาเรียกมาร์ค เขาวางข้อศอกไว้บนเข่าแล้วเอามือกุมหัวไว้ ฉันสงสัยจังว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่?“ที่รักคะ" ฉันเรียกเขาเบา ๆ แล้วเขาก็กระเด้งตัวลุกขึ้นจากที่นั่ง“ครับ" เขาพูดอย่างกระอึกกระอัก แล้วรีบวิ่งมาที่ประตู "คุณยายเป็นยังไงบ้าง?”“ก็" ฉันยักไหล่เล็กน้อย "ท่านยังคงอยู่ที่นั่น" จากนั้นก็ส่งข้อความจากคุณยายให้เขา "ท่านอยากพบคุณ"ลูคัสเลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับทำปากหวอราวกับเขาไม่ได้คาดหวังว่าจะถูกเรียกเข้าไปพบด้วยฉันเปิดประตูให้กว้างขึ้นแล้วถอยห่างออกไปจากประตู "เข้ามาสิคะ" ฉันพูดแล้วหันกลับไปที่เตียงของดอริส ประตูส่งเสียงดังกริ๊กเบา ๆ เมื่อเขาปิดมันหลังจากเดินตามฉันเข้ามา ฉันกับมาร์คมอง

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 140

    ในขณะที่ฉันเฝ้ามองและฟังพวกเขาสนทนากัน ฉันก็อดที่จะนึกถึงสิ่งที่ลูคัสเคยบอกฉันไม่ได้ ซึ่งมีอยู่คืนหนึ่งที่เราพูดคุยกันในเรื่องต่าง ๆ มากมายหลังจากมีเซ็กซ์กัน ฉันพูดในขณะขดตัวอยู่ในอ้อมกอดของเขา โดยเอาหัวหนุนหน้าอกกว้าง ๆ ของเขาอย่างสบายใจ...“เล่าให้ฉันฟังหน่อยสิ ฉันไม่รู้เรื่องอดีตของคุณเลย...“ผมเป็นลูกนอกสมรสของแฮร์รี่ สามีของคุณยายดอริส...”“ฉันได้ยินเรื่องนี้มานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว" ฉันขัดจังหวะเขาด้วยการส่งเสียงร้องพร้อมกับพูดติดตลก "เล่าเรื่องที่ฉันยังไม่รู้สิ" เขาหัวเราะคิกคักกับคำพูดของฉัน ซึ่งทำให้ฉันยิ้มออกมาโดยอัตโนมัติ“ก็ได้ ผมจะเล่าเรื่องที่คุณยังไม่รู้ แม่ของผมชื่อเซราฟิน่า" เขาพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยพร้อมกับใช้มือลูบเส้นผมของฉันอย่างเหม่อลอยฉันจำได้เลยว่าฉันฟังเขาหูผึ่งเลย ลูคัสไม่เคยพูดถึงแม่ของเขาเลย“แฮร์รี่อยากได้ผู้หญิงที่อายุน้อยกว่า ใครสักคนที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็กได้อีกครั้ง แม่ของผมเป็นได้มากกว่าที่เขาตั้งเป้าเอาไว้ เขาตกหลุมรักเธอแล้วตัดสินใจหย่ากับดอริส"ฉันนิ่งเงียบไปนานเลย ฉันเบ้ปากเพราะคิดว่าเขาจะจบลงแค่นั้น แต่เขาก็ยังพูดต่อไป“พ่อเ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 141

    "อ้อ ขอโทษค่ะ" ฉันพึมพำออกไปด้วยความรู้สึกเขินอายนิดหน่อย แล้วหลีกทางให้เธอเปลี่ยนขวดน้ำเกลือให้ดอริส ตรวจอุณภูมิร่างกาย และทำอะไรต่ออะไรที่นางพยาบาลพีงกระทำยามมาตรวจคนไข้ เสร็จแล้วก็เดินจากไปดอริสยังคงพูดคุยกับลูคัสต่อไป "ตอนนี้ฉันโล่งใจขึ้นมากที่เธอพบความสุขแล้ว"“ผมพบความสุขแล้วครับ" ลูคัสพูดซ้ำ แล้วดอริสกับลูคัสก็หันมามองฉันพร้อมกัน ลูคัสยิ้มแฉ่ง ส่วนมาร์คก็เงยหน้าขึ้นมาด้วย ฉันยืนหน้าแดงก่ำท่ามกลางสายตาจ้องมองของพวกเขา โดยภาวนาให้พวกเขาหันไปมองทางอื่น โชคดีที่พวกเขาหันหน้าไป แต่สายตาล้ำลึกของมาร์คยังคงจับจ้องอยู่ ฉันจ้องตาเขาแล้วเลิกคิ้วใส่เขา จากนั้นเห็นหันหน้าหนีไปดอริสมองดูลูคัสด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเศร้าสร้อย ความเสียใจ และ...ความพึงพอใจคละเคล้ากัน? “ลูคัส" ท่านเอามือลูบแก้มเขาอีกครั้ง "เธอเป็นเด็กดีนะ ฉันหวังว่าเธอคงไม่จะไม่ทิ้งอะไรก็ตามที่ทำให้เธอมีความสุขไปหรอกนะ" ท่านจ้องมองเขาอย่างแข็งกร้าว "อย่าปล่อยให้เธอหลุดมือไปนะลูคัส" เขาพยักหน้าแต่คุณยายส่ายหัว "สัญญากับฉันสิ"ลูคัสไม่ได้ได้ตอบทันที เขาสวมกอดรีเบคก้าแน่นขึ้น และดูเหมือนทั้งคู่จะจ้องตากัน จากนั้นลูคัสก

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 142

    หนึ่งเดือนต่อมาหลังจากที่คุณยายถูกประกาศว่าอยู่ในอาการโคม่าผ่านไปเหมือนภาพรางเลือน ธุรกิจกำลังเฟื่องฟู ฉันกับลูคัสก็สนิทสนมกันมากกว่าเดิม ดูเหมือนทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดีมาร์คกับแซนดร้าประกาศหมั้นหมายกัน และกำหนดวันหมั้นในวันนี้ แซนดร้าไม่สามารถหยุดคุยฟุ้งไปทั่วทั้งอินเตอร์เน็ตได้“ฉันสงสัยจังว่าสตีเว่นกับแซนดร้าจะรู้สึกยังไงกับเรื่องนี้" เกรซกำลังนั่งดูหนึ่งในหลาย ๆ คลิปพรีเวดดิ้งของแซนดร้าอยู่ แล้วเธอพูดขึ้นมาอย่างเลื่อนลอยฉันก็แค่เลิกคิ้วขึ้นโดยไม่พูดอะไรเลย เธอไม่ได้เงยหน้าขึ้นมารอฟังคำตอบ ฉันจึงไม่คิดว่าเธอจะต้องการคำตอบ นอกจากนี้ฉันก็ไม่สนใจด้วยว่าคนทั้งคู่นั้นจะรู้สึกอย่างไร ซึ่งฉันอาจสนใจความรู้สึกของมาร์คมากกว่า แต่นั่นเป็นเพราะฉันให้สัญญากับดอริสเอาไว้ บางครั้งฉันก็รู้สึกต้องรับผิดชอบต่อเขาบ้าง ฉันรู้สึกหนักใจเหลือเกินเมื่อนึกถึงคุณยายด้วยสถานะทางการเงินที่เฟื่องฟูอย่างต่อเนื่องของมาร์ค ความต้องการอย่างเข้มงวดและหรูหราของแซนดร้าจึงได้รับการตอบสนองถ้าจะให้พูดตามตรงแล้ว เรื่องราวทั้งหมดนั้นก็เหมือนเป็นการทำธุรกิจกัน มากกว่าจะเป็นการจับคู่ของชายหญิงที่พยายามแสดงตนเป็นคู

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 143

    "ห๊ะ?” ช้อนที่เต็มไปด้วยโกโก้ ป๊อปส์ของฉันหยุดนิ่งกลางอากาศ หลังจากได้อ่านคำบรรยายใต้ภาพ มันฟังไม่สมเหตุสมผลเลยจนกระทั่งโหลดคลิปวิดีโอเสร็จ แล้วเห็นว่าของขวัญแต่งงานนั้นคืออะไรไคลฟ์ คริสเตียน ได้รังสรรค์น้ำหอมกลิ่นโปรดของเธอที่มีจำนวนจำกัด และตั้งชื่อกลิ่นหอมนั้นตามชื่อของเธอ พวกเขาปรุงน้ำหอมนี้ให้เธอหลายพันขวด เพื่อใช้เป็นของขวัญให้เธอได้แบ่งปันกับแขกที่มาร่วมงานแต่งงาน“โอ๊ย นี่มันบ้าไปแล้ว!” ฉันอุทานออกมา แล้วปล่อยช้อนหล่นลงในถ้วย“นั่นอะไรน่ะ?” เกรซเงยหน้าขึ้นจากถุงใส่เสื้อผ้าอย่างรวดเร็วฉันหันโทรศัพท์ให้เกรซดู แล้วเธอก็หัวเราะคิกคัก "เด็กเอาแต่ใจ เธอทำงานโดยไม่ได้อะไรเลย แต่กลับใช้จ่ายเงินไปอย่างมากมาย" เกรซพูดในขณะที่เธอนำชุดสูทแต่งงานของมาร์กบรรจุลงในถุงใส่เสื้อผ้าเจ้าบ่าวคนนี้ไม่เหมือนกับเจ้าสาว เขาเพียงแต่สั่งตัดชุดสูทจากลักซ์ โว้คเท่านั้นเอง เกรซใช้เวลาอันแสนหวานในการออกแบบและตัดเย็บสูทให้เขา ซึ่งเป็นสูทสามชิ้นสีดำที่มีผิวสัมผัสสุดนุ่มและเรียบเนียน ฉันสงสัยจังว่าเธอใช้เวลาขนาดไหนในการปักลวดลายอันซับซ้อนนั้นลงบนบริเวณคอเสื้อและข้อมือ ซึ่งทำให้สูทดูโดดเด่นและเข้ากับบุคล

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 144

    ฉันถอนหายใจและทำเมินเฉยต่อคำถามของเขา ฉันดูแลความเรียบร้อยในการสวมสูทให้เขาต่อไป ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ฉันกับมาร์คก็ค่อย ๆ ปรับตัวให้เข้ากับความสัมพันธ์แบบเพื่อนและหุ้นส่วนทางธุรกิจ แต่เราทั้งคู่ต่างรู้สึกว่ามีอะไรที่เดือดพล่านอยู่ภายใต้พิธีการและความเป็นมืออาชีพของเรา ไม่มีใครยอมรับในเรื่องนี้ นั่นจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมฉันถึงไม่อยากใช้เวลากับเขามากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่กันตามลำพัง ตอนนี้ฉันแค่อยากทำงานให้เสร็จโดยเร็วที่สุด แล้วเดินออกจากที่นี่ไปแต่ฉันก็น่าจะรู้ว่าเขาจะไม่มีวันยอมถอย มาร์คไม่ใช่คนประเภทขี้อายหรือถอยหนีจากอะไรทั้งนั้น“ผมถามคำถามคุณอยู่นะ" เขาพูดอย่างจริงจังฉันถอนหายใจอีกครั้ง ฉันไม่มีอารมณ์มาต่อล้อต่อเถียงกับเขาในเช้านี้ "นี่เป็นวันแต่งงานของคุณนะมาร์ค" ฉันพูดด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย "ทำไมคุณถึงถามคำถามแบบนั้นกับฉัน?”ฉันส่ายหัวแล้วเหลือบมองเขาเล็กน้อย ก่อนจะทำภารกิจสุดท้ายในการสวมสูทให้ดูเหมาะเจาะกับตัวเขา ฉันถอยหลังออกไปก้าวหนึ่ง แล้วเลื่อนสายตาขึ้นลงตามรูปทรงของสูทที่ดูพอดีตัว จากนั้นก็ยิ้มออกมาจนได้ เมื่อมองไกล ๆ คุณก็สามารถบอกได้เลยว่าสูทตัว

Bab terbaru

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 438

    มุมมองของนักเขียนอาน่าถอนหายใจเสียงดังขณะเดินเข้าไปในห้องพักของเดนนิสและนั่งลงข้าง ๆ เขา เธอหยิบหนังสือออกมาและเริ่มอ่านเป็นครั้งคราว เธอจะเปิดโทรศัพท์เพื่อดูจัสตินนอนหลับหรือเล่นรอบบ้านในขณะที่พี่เลี้ยงยุ่งอยู่ หรือแค่ซุกตัวบนโซฟาตัวหนึ่งเพื่ออ่านหนังสือ โดยคอยจับตาดูจัสตินตอนนี้มันกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของอาน่าไปแล้วในวันที่เธอพักค้างคืนที่โรงพยาบาล เธอจะออกจากที่นั่นแต่เช้าเพื่อไปดูแลจัสตินและกลับมา ขณะที่เธอนั่งอยู่ข้างๆ เขา นิ้วอุ่นๆ ของเธอประสานกับนิ้วเย็นๆ ที่ยังคงนิ่งของเขา เธอจะอ่านหนังสือเดนนิสยังคงอยู่ในอาการโคม่า และในแต่ละวัน อาน่ารู้สึกว่าความกลัวกำลังเพิ่มขึ้น... กลัวว่าเขาอาจจะยังคงอยู่ในอาการโคม่าจนถึงแก่ชีวิต ทั้งหมดเป็นเพราะเธอคนเดียวเธอต้องการให้เขาลืมตาขึ้นมามองเธอด้วยความรักที่เขามีให้เธอเสมอ เธอต้องการบอกเขาว่าเธอรักเขามากแค่ไหนและรู้สึกขอบคุณที่มีเขาในชีวิตของเธอ แต่ที่สำคัญที่สุด เธอต้องการขอโทษเขาเธอเห็นแก่ตัวมาก คิดว่าความเจ็บปวดของพวกเขาไม่ยิ่งใหญ่เท่าของเธอ... พวกเขาทุกคนรักเอมี่อย่างสุดซึ้ง และพวกเขาทุกคนเจ็บปวดกับการจากไปของเธอจากชีวิตนี้ ห

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 437

    มุมมองของนักเขียนชารอนถูกตัดสินว่าไม่มีความผิดฐานมีส่วนร่วมโดยตรงในการเสียชีวิตของเอมี่ แต่มีความผิดฐานสมรู้ร่วมคิด เธอโชคดีพอที่จะได้รับการลดหย่อนโทษ จำคุกในระยะเวลาอันสั้น ทนายของเธอทำให้แน่ใจว่ามันจะเป็นเช่นนั้น และทั้งหมดนี้เป็นเพราะพ่อของเธอแม้ว่าพ่อของเธอจะผิดหวังกับทุกสิ่งที่เธอทำ แต่เธอก็เป็นลูกสาวของเขา ทายาทที่น่าเกรงขามเพียงคนเดียวของเขา ไม่มีทางที่เขาจะทอดทิ้งเธอได้ขณะที่เธอรับโทษจำคุก นับถอยหลังสู่วันที่เธอจะได้ออกไปจากที่นั่นในที่สุด เธอได้รับเอกสารหย่าร้างส่งมาให้เธอเธอคิดว่าเช้าวันนั้นหนาวเกินไปสำหรับฤดูกาล ห้องขังเล็กๆ ของเธอรู้สึกเล็กกะทันหัน มันรู้สึกเหมือนมันจะปิดล้อมเธอ และเธอเอามือสอดเข้าไปในช่องประตูเพื่อหายใจเมื่อหนึ่งในผู้คุมมาพาเธอไปเธอนั่งลง ได้รับปากกา และต่อหน้าเธอ บนโต๊ะเหล็ก มีจดหมายหย่าร้างวางอยู่ เหตุผลหลักที่เธอเข้าไปเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมและการกระทำสกปรกเหล่านี้ทั้งหมดคือเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ไอเดนทิ้งเธอ มันน่าเศร้าจริงๆ ที่เธอทำงานอย่างหนักเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งนี้ แต่กลับถูกโยนใส่อย่างแรงที่ใบหน้าของเธอในตอนท้ายดวงตาปวดหนึบด้วยน้ำตาขณะที่เธ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 436

    "หยุด!" เสียงของเธอสั่นเครือขณะที่เธอตะโกนบอกคนขับแท็กซี่แค่นั้นก็เพียงพอให้อาน่าหันกลับมา"ฉันทำอะไรลงไป?" ลมหายใจของเธอสั่นเทาขณะที่เธอเปิดประตูและรีบออกจากแท็กซี่ มือของเธอสั่นเทาขณะที่เธอสะดุดลงบนทางเท้า"เดนนิส!" เธอตะโกนขณะที่เข่าของเธอล้มลงบนพื้นคอนกรีตแข็ง "ได้โปรด อย่า" เธอพูดกระซิบ สายตาของเธอจ้องมองไปที่รถที่พังยับเยิน "เดนนิส ต้องรอดให้ได้นะ"เธอคลานไปที่รถ มองเข้าไปข้างในเพื่อดูเขา แต่ข้างในนั้นมืดมิดและเสียงสะอื้นของเธอก็ดังขึ้น "ทำไมฉันถึงออกมา? ทำไมฉันไม่รอเขา?"เธอเช็ดน้ำตา "ฉันสัญญา" เธอสะอื้น "ฉันจะไม่ไปหาเอมี่อีกแล้ว ฉันสัญญา เดนนิส ได้โปรดออกมา" เธอร้องไห้ขณะที่เธอจำได้เลือนรางว่าเขาบอกเธอว่าเอมี่ได้รับความยุติธรรมแล้ว และไม่จำเป็นต้องไปหาเธออีกต่อไปนี่เป็นความผิดของเธอทั้งหมด เธอควรจะฟังเขา เธอควรจะรอเขาก่อนที่เธอจะออกไป"อาน่า!" ไอเดนตะโกนขณะที่เขารีบออกจากรถ เขารู้สึกโล่งใจที่เห็นอาน่า เขาหารถแท็กซี่หลังจากที่เดนนิสขับออกไปสักพัก และตามเขาไป เมื่อเขาสังเกตเห็นฝูงชนและเห็นว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เขาก็กลัวว่าจะเป็นอาน่า"ให้ตายสิ!" เขาพึมพำขณะหยุดอยู่ต่อ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 435

    มุมมองของนักเขียนหลังจากที่ไอเดนได้ยินคำพูดเหล่านั้น เขาไม่ลังเลเลยก่อนที่จะเดินออกจากห้องพิจารณาคดีหัวใจของชารอนแตกสลายเมื่อมองดูไอเดนเดินออกไปอย่างโกรธจัด เขาเกลียดชังเธอมากจนทนดูการพิจารณาคดีของเธอไม่ได้เลยหรือ? น้ำตาไหลลงมาบนใบหน้าของเธอ และเธอรีบเช็ดมันออกก่อนที่พ่อของเธอจะเห็นพ่อของเธอบอกเธอไปก่อนหน้านี้ว่า "พอได้แล้ว ชารอน อย่าร้องไห้เพราะผู้ชายอย่างเขาเลย" แต่นั่นหลังจากที่เขาตำหนิเธอสำหรับทุกสิ่งที่เธอทำ"มีการตัดสินแล้วหรือยัง คุณไอเดน? คุณจะประกันตัวภรรยาของคุณไหม?"คำถามทั้งหมดของพวกเขาไม่ได้เข้าหูไอเดนแม้แต่น้อย เขาไม่ได้สนใจสิ่งใดเลยขณะที่เขาเร่งรีบไปที่รถของเขาและขับออกจากบริเวณศาลระหว่างทางไปโรงพยาบาล เขาโทรหาทีมรักษาความปลอดภัยของเขาที่ตามเขามาทันทีที่เขาขับรถออกไป "อาน่าสตาเซียเพิ่งหนีออกจากโรงพยาบาลบ้า ตามหาเธอ" เขาออกคำสั่ง "ผมจะส่งรูปของเธอให้คุณตอนนี้""ครับ"เขาตัดสาย ขณะที่เขาขับรถ เขาหารูปอาน่าที่ชัดเจนและส่งให้ทีมรักษาความปลอดภัยที่เริ่มตามหาเธอทันทีจากนั้นไอเดนพยายามโทรหาเดนนิส แต่เขาก็ยังไม่รับสายเมื่อมาถึงโรงพยาบาล เขาพบเดนนิสอยู่ข้างนอก เขา

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 434

    ไอเดนเมื่อเวลาผ่านไป คดีของเอมี่ได้รับความสนใจจากสื่อมากมาย ช่องข่าวทุกช่องมีรูปเด็กผู้หญิงน่าสงสารคนนั้นขณะที่พวกเขาพูดถึงการตายที่ไม่ยุติธรรมของเธอ และทุกคนที่รับผิดชอบต้องถูกลงโทษตามนั้นท่ามกลางทุกสิ่งทุกอย่าง จุดสนใจก็เปลี่ยนจากเอมี่มาเป็นชารอนและผม อย่างไรก็ตาม มีข่าวลือเกี่ยวกับชีวิตแต่งงานของเราและการตั้งครรภ์ปลอมของเธอผมเริ่มได้รับโทรศัพท์จากหมายเลขที่ไม่รู้จักหลายหมายเลข โทรมาถามคำถามไร้สาระทั้งหมดเพื่อต้องการข้อมูลโดยตรงจากแหล่งข่าว ผมต้องเปลี่ยนซิมการ์ดในโทรศัพท์ของผมเป็นซิมที่ผู้ช่วยของผมใช้ หากมีข้อมูลใดๆ เขาก็แค่ส่งต่อมา ผมเบื่อที่จะรับมือกับสายเรียกเข้าที่ไม่หยุดหย่อนเหล่านั้นเมื่อชารอนอาการดีขึ้นและเธอต้องถูกส่งตัวกลับไปที่สถานีตำรวจ พวกเขามาถึงสถานีพร้อมกับกลุ่มนักข่าวที่ทางเข้าตำรวจคุ้มกันเธอขณะพาเธอเข้าไปข้างใน แต่นั่นไม่ได้หยุดนักข่าวจากการตะโกนถามคำถามของพวกเขา"คุณเสแสร้งว่าท้องจริง ๆ เหรอ คุณนายไอเดน?""คุณชารอน คุณยังเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้วอยู่ไหม?""สามีของคุณอยู่ที่ไหน? เขายังรักคุณอยู่ไหม?""จะมีการหย่าร้างไหม?""คุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสีย

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 433

    เดนนิสอาน่าถูกส่งตัวไปยังศูนย์บำบัดวิกฤตสุขภาพจิต และผมใช้เวลาส่วนใหญ่ของผมที่นั่น แม้ว่าผมจะพยายามแบ่งเวลาอย่างเท่าเทียมกันระหว่างงาน จัสติน และเอมี่ แต่ผมก็พบว่าตัวเองใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่นี่งานเป็นไปด้วยดีอย่างยิ่ง ตอนนี้ผมทำเงินได้มากกว่าที่เคยทำก่อนที่ผมจะถูกหลอก แต่ผมไม่มีความสุข คนที่ผมรักที่สุดอยู่ในบ้านพักผู้ป่วยทางจิต ทุกวันที่ผมไปที่นั่น ผมหวังว่าอาการของเธอจะเริ่มดีขึ้นในไม่ช้า ครึ่งหนึ่งของเวลา เธอดูปกติดี แค่นั่งอยู่คนเดียวด้วยสีหน้าที่เป็นกลาง เธอจะไม่พูดคุยกับใครเป็นเวลาหลายชั่วโมง อีกครึ่งหนึ่งใช้ไปกับการร้องไห้และขอร้องให้ผมพาพวกเราไปหาเอมี่แพทย์บอกว่าเธอดีขึ้น แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้นสำหรับผมจัสตินทำได้ดีมาก เขาดูเหมือนจะไม่โศกเศร้าอย่างที่ไอเดนแนะนำ มีบางครั้งที่เขาจะร้องไห้และไม่มีอะไรทำให้เขาหยุดได้จนกว่าเขาจะหลับไป แต่ช่วงเวลาเหล่านั้นหายาก และผมคิดว่าเขาแค่คิดถึงแม่ของเขาผมทำให้แน่ใจว่าผมมีเวลาให้เขาเสมอ เหมือนกับที่ผมมีเวลาให้อาน่า ไม่ว่างานจะยุ่งแค่ไหน ผมไม่ต้องการปล่อยเขาไว้กับพี่เลี้ยงทั้งหมด แม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่ดี แต่ผมต้องการให้ไอเดนเติ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 432

    ไอเดนนักสืบส่งที่อยู่โรงพยาบาลที่ชารอนถูกนำตัวส่งมาให้กับผมภายในห้อง ชารอนนอนขดตัวอยู่กับตนเองพร้อมกับกุญแจมือที่คล้องอยู่พอจะเอื้อมถึงเธอรีบลุกขึ้นนั่งเมื่อเห็นผมเข้ามาในห้อง "ไอเดน" เธอหายใจออกมา ดวงตาเบิกกว้างด้วยความกลัว"ไม่เพียงแต่คุณจะเป็นอาชญากร แต่ยังเป็นคนโกหกด้วยเหรอ? คนโป้ปด!" ผมพูดออกมาขณะที่สายตาเหลือบไปที่ท้องแบนราบของเธอ ผมหัวเราะเยาะตัวเองขณะทรุดตัวลงบนเก้าอี้ที่หันหน้าเข้าหาเตียงของเธอ ผมรู้สึกหมดแรงจนแทบจะยืนด้วยขาของตัวเองไม่ได้เธอส่ายหัว น้ำตาไหลลงมาบนใบหน้าของเธอ เหมือนกับที่มันไหลลงมาบนใบหน้าของเธอตอนที่เธอถูกจับกุม "มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด ฉันสาบานได้นะ ฉัน…" เธอพูดไม่ออกและไหล่ของเธอก็สั่นเทาขณะที่เธอร้องไห้หนักขึ้นผมเอียงศีรษะไปด้านข้างและมองเธออยู่ครู่หนึ่ง ผมไม่แปลกใจเลยที่ผมไม่รู้สึกสงสารเธอแม้แต่น้อย "ถ้ามันไม่ใช่อย่างที่ผมคิด แล้วมันคืออะไร? บอกมาสิ""คุณแกล้งทำเป็นท้องมาตั้งหลายเดือน!" เสียงหัวเราะขมขื่นหลุดออกจากริมฝีปากขณะที่ผมส่ายหัว มันยังคงรู้สึกเหมือนเรื่องตลก ผมคงไม่เชื่อนักสืบเลย ถ้าไม่มีสัญญาณทั้งหมดที่ผมมองข้ามไปผมโน้มตัวไปข้างหน้

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 431

    ไอเดนผมตกใจกับคำพูดของเขา เดนนิสรู้แล้วเหรอ?เดนนิสก็มีส่วนร่วมในการสอบสวนด้วย เขาแค่ไม่ได้กระตือรือร้นเท่าผม ดังนั้นมันไม่น่าแปลกใจที่เขาจะได้ยินเรื่องนี้ นอกจากนี้ มันเป็นคดีของลูกสาวเขาด้วย เขาจึงมีสิทธิ์ที่จะรู้แต่ผมเลือกที่จะเพิกเฉยต่อคำพูดที่รุนแรงของเขา ผมยังคงสับสนกับข่าวที่ว่าอนาอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวชในขณะนี้ มันเป็นไปได้อย่างไร? เขาปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? ผมอยากจะตะโกนใส่เขา แต่ผมก็สงบสติอารมณ์ ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของผมตั้งแต่แรก... และของชารอน"แล้วเธออยู่ที่โรงพยาบาลไหน?" มันฟังดูไม่จริง ผมรู้ว่าเธอรักเอมี่มาก แต่ผมไม่คิดว่ามันจะส่งผลกระทบต่อเธอมากขนาดนี้เดนนิสหันมาหาผม คิ้วของเขาขมวดลึกขณะที่เขาขมวดคิ้ว "อยากรู้ไปทำไม? จะได้เอาไปบอกภรรยานายหรือไง?"ให้ตายสิ! ผมรู้สึกว่ามือกำแน่นโดยอัตโนมัติผมหายใจเข้าลึกๆ "ฉันโทรหาพวกนาย แต่ไม่มีใครรับสาย อาน่าก็ปิดโทรศัพท์อีก ฉันก็แค่เป็นห่วง..." ผมพูดเสียงแผ่วและไหล่สั่น “ฉันก็เลยตัดสินใจมาดูเธอนี่ไง"“ตอนนี้นายก็รู้แล้วนะว่าเธออยู่ไหน งั้นเชิญออกไปได้แล้ว”เขามีสิทธิ์ทุกประการที่จะขอให้ผมออกจากบ้านและชีวิต แต่ผ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 430

    ไอเดน"ไม่เป็นไรแล้วค่ะ" ชารอนพูดขณะที่เธอโอบแขนรอบไหล่ "คุณต้องหยุดโทษตัวเองเรื่องนี้ได้แล้ว ที่รัก มันไม่ใช่ความผิดของคุณ และการทุ่มเทตัวเองให้กับการสอบสวนทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไรด้วยเลย""ผมต้องหาตัวคนผิดมาให้ได้ ชารอน ผมต้องหาว่าใครทำเรื่องนี้ นี่เป็นสิ่งเดียวที่ผมทำเพื่อลูกสาวผมได้ ซึ่งจะทำให้ความรู้สึกผิดนี้ทุเลาลง" "ถ้ามันเป็นวิธีเดียว คุณก็ควรทำอยู่แล้ว" เธอให้กำลังใจ "ฉันจะคอยดูแลให้พ่อช่วยในคดีนี้ด้วย ฉันสัญญา"พ่อของเธอโทรหาผมครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความเสียใจกับการจากไปของลูกสาวผม ซึ่งไม่ได้เป็นอะไรกับลูกสาวเขาเลย และเขาฟังดูไม่พอใจนัก ผมประหลาดใจด้วยซ้ำที่เธอจะบอกเรื่องนั้นกับพ่อของเธอ ผมสงสัยว่าเขาอยากจะช่วยเปิดโปงฆาตกรของเด็กที่ไม่ใช่ลูกของเขาในทางใดทางหนึ่งหรือไม่ แต่ผมเก็บเรื่องนั้นไว้กับตัวเอง"ขอบคุณครับ" ผมบอกเธอแทนเธอโอบกอดผมครึ่งหนึ่ง และคราวนี้ไม่ได้ผละออกทันที ในวันแบบนี้เองที่เธอไม่ได้กระโดดหนีจากผมเหมือนผมติดเชื้อเมื่อใดก็ตามที่ผมพยายามสัมผัสเธอ"แล้วคุณจะยิ้มให้ฉันไหม?" เธอยิ้มขณะที่ดึงผิวแก้มของผมเพื่อพยายามทำให้ผมยิ้มเมื่อผมเอามือของเธอออก เธอก็แสร้

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status