จูบพิตที่เธอเริ่มร้อนแรงขึ้นทีละนิด เมื่อต่างฝ่ายต่างมีความต้องการที่มากล้น นิโคไลดูดกลืนความหวานจากโพรงปากอุ่นจนเธอแทบจะขาดอากาศ เขาผละออกแล้วลากลิ้นร้อนไปตามซอกคอหอมกรุ่นขบเม้มสร้างรอยรักไปทั่วปากร้อนเข้าครอบครองยอดอกสีสวยอีกครั้งปรนเปรอสลับไปมาทั้งสองข้างอย่างไม่น้อยหน้า เขาดูดดึงเต้าอวบราวเด็กทารกที่หิวกระหาย ขณะอีกมือหนึ่งก็จับเรียวขาของเธอให้แยกออกทีละนิด จากนั้นก็ถูไถท่อนเอ็นลงบนกลีบกุหลาบงาม ปลุกเร้าอารมณ์วาบหวามจนหญิงสาวครางสะท้าน“นิค...”“อย่าหลับตาพั้นช์ มองหน้าผมที่รัก”“อื้อ....เจ็บ”หญิงสาวหยิกไปบนท่อนแขนของเขาแน่นเมื่อส่วนปลายของความเป็นชายรุกล้ำเข้าไปในช่องทางคับแน่นที่ไม่เปิดรับของใครมาก่อน“อ่าห์ ที่รัก ไม่เกร็งนะ”“นิค ของคุณใหญ่”พัณณ์ชิตาเคยเห็นของผู้ชายมาก็มากเพราะก่อนที่เธอจะมาเป็นหมอสูติเธอก็ต้องเรียนให้ครบทุกแผนก แต่ของผู้ชายเหล่านั้นมันเทียบไม่ได้กับขนาดของนิโคไลเลยสักนิด“ไม่ต้องกลัว ถึงมันจะใหญ่แค่ไหน คุณก็จะรับมันเข้าไปได้ รู้ใช่ไหม” เธอพยักหน้าอย่างอายๆ ขณะที่นิโคไลก้มลงจูบปลอบประโลมอีกครั้ง สองมือนวดเฟ้นอกอิ่ม กระตุ้นให้เธอผ่อนคลายจากนั้นก็กด
สัญญาณไฟเหนือประตูห้องผ่าตัดยังเปิดอยู่แม้ตอนนี้จะเป็นเวลาตีสามแต่ทุกคนด้านหลังประตูก็ทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อให้ผู้ป่วยและลูกน้อยในครรภ์รอดชีวิตหลังเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกแหกโค้งชนกับรถเก๋งเมื่อสองชั่วโมงก่อนคารินาก็ถูกส่งมายังโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุด เมื่อมาถึงโรงพยาบาลก็พบว่าหญิงสาวมีอาการที่น่าเป็นห่วงเพราะถูกหน้าท้องถูกสายเข็มขัดนิรภัยกระชากอย่างแรงจนทำให้ทารกในครรภ์ดิ้นน้อยลงทางโรงพยาบาลจึงต้องตามหมอเฉพาะทางเพื่อมาทำการเด็กออกก่อนแม้ว่าจะยังไม่ถึงกำหนดคลอดเพราะพิจารณาแล้วว่าอัตราการรอดชีวิตจะมากกว่าปล่อยให้อยู่ในท้องมารดาอรรถวุฒิผู้เป็นสามีรีบเซ็นชื่อให้ความยินยอมให้รับการผ่าตัดอย่างรวดเร็ว เขารู้ดีว่าถ้าหากตนเองตัดสินใจช้าเพียงเสี้ยววินาทีก็อาจจะต้องเสียคนรักทั้งสองคนไปอย่างไม่มีวันกลับหลังจากทำแผลตามร่างกายของตนเองแล้วเขาก็รีบตามมาที่หน้าห้องผ่าตัดซึ่งตอนนี้พี่ชายของภรรยามารออยู่ก่อนแล้ว“พี่นิค ผมขอโทษนะครับ”“ไม่ใช่ความผิดขอบนายหรอก รถบรรทุกนั่นต่างหากที่ขับมาเร็ว” ก่อนมาโรงพยาบาลชายหนุ่มที่ที่โรงพักมาแล้วจึงได้รู้ว่าทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะอะไร“อือ นายไม่เป็นไรมากใช่ไหม
พัณณ์ชิตาเดินลงมายังลานจอดในเวลาเกือบจะตีห้า หญิงสาวทั้งง่วงทั้งเพลียเพราะคืนก่อนหน้านี้เธอก็ผ่าตัดจนตึกและคืนนี้ก็ถูกปลุกทั้งที่เพิ่งเข้านอนไปได้ไม่ถึงสองชั่วโมงด้วยซ้ำ“ดูท่าทางแล้วหมอคนสวยคงจะเหนื่อยมากนะครับ ให้ผมขับรถไปส่งไหม” นิโคไลที่รออยู่ตรงลานจอดรถเกือบครึ่งชั่วโมงก็เดินเข้ามาหา“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันกลับเองได้”“แต่ผมอยากไปส่ง”“จะไปส่งฉันให้มันได้อะไรขึ้นมาล่ะคะ ทำไมคุณไม่เอาเวลานี้ไปเฝ้าหลานสาวหรือน้องสาวของคุณล่ะ”“เพราะที่นั่นมีคนเฝ้าเยอะแล้วไงล่ะ แต่ยังไม่มีใครเฝ้าคุณเลยสักคน”“ทำไมจะต้องเฝ้าฉันด้วยล่ะ” พัณณ์ชิตาถามอย่างไม่เข้าใจ“ก็คุณหมอบอกผมเองนี่ว่าจะรับผิดชอบ”“ใช่ ฉันเป็นคนรับผิดชอบ แต่คุณไม่จำเป็นต้องมาเฝ้าฉันแบบนี้”“จำเป็นสิ ถ้าเกิดคุณกลัวความผิดแล้วหนีไป ผมกับครอบครัวจะหาคนรับผิดชอบที่ไหนล่ะ เพราะฉะนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมจะตามติดคุณเป็นเงาตามตัวจนกว่าหลานสาวผมจะออกจากโรงพยาบาล”“ว่างมากเหรอคะ”“ไม่ว่างแต่ก็จะพยายามวางครับ” เขาตอบด้วยท่าทางยียวน“ฉันก็บอกแล้วไงว่าฉันผ่าตัดตามข้อบ่งชี้ ไม่มีตรงไหนที่ฉันทำพลาดเลย ถ้าคุณไม่เชื่อจะลองไปถามหมอที่โรงพยาบาลอื่นดูก็ไ
หญิงสาวขึ้นมาถึงห้องตัวเองก็เหนื่อยและง่วงเกินกว่าจะอาบน้ำเธอจึงเลือกที่จะนอนบนโซฟาในห้องรับแขกแทนที่จะเข้าไปนอนบนเตียงนุ่มๆ เธอรู้สึกตัวตื่นอีกครั้งเมื่อพี่ชายที่เป็นตำรวจโทรเข้ามา“พั้นช์ตื่นหรือยัง” พชรถามน้องสาวอย่างร้อนใจ“ตื่นแล้วค่ะพี่เพชร มีอะไรหรือเปล่าคะ”“พี่ต้องถามเรามากกว่าว่าเกิดอะไรขึ้นกับพั้นช์หรือเปล่า แล้วเราไปเกี่ยวข้องกับผู้ชายคนนั้นยังไง”“เรื่องมันยาวค่ะพี่เพชร”“ก็สรุปสั้นๆ สิ”พัณณ์ชิตาเล่าให้พี่ชายฟังอย่างรวบรัดเพราะถ้าไม่เล่าก็กลัวว่าพี่ชายจะเอาเรื่องนี้ไปบอกมารดา“ประวัติเขาเท่าที่พี่หาได้ก็คือเขาเป็นนักธุรกิจทั่วๆ ไป แต่ค่อนข้างมีอิทธิพลในรัสเซีย”“เขาคงไม่ทำอะไรพั้นช์หรอกค่ะพี่เพชร พั้นช์ก็แค่หมอตัวเล็กเองๆ” หญิงสาวบอกพี่ชายทั้งที่ตัวเองก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ เพราะท่าทางของผู้ชายที่ชื่อนิโคไลนั้นเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน“แล้วเรื่องน้องสาวของเขาล่ะ เรามั่นใจใช่ไหมว่าไม่มีอะไรผิดพลาดให้เขาตามเอาเรื่องได้”“มั่นใจสิคะ พี่เพชรถามเหมือนไม่เชื่อฝีมือน้องสาวเลยนะคะ” พัณณ์ชิตาถามพี่ชายกลับ“เชื่อสิ แต่ที่ถามย้ำก็เพราะพี่รู้มาว่าเขาคนนี้เป็นคนรักครอบครัวมาก ถ้าเกิด
นิโคไลเดินเข้ามาในห้องพักฟื้นของน้องสาวซึ่งในเวลานี้ผ้าม่านบริเวณเตียงผู้ป่วยถูกปิดไว้เขาเลยมานั่งที่มุมห้องรวมกับมารดาที่มาเยี่ยมน้องสาวตั้งแต่เช้า“ไปไหนมาล่ะนิค ดูเหมือนคนไม่ได้นอนเลยนะ” มารดาของชายหนุ่มที่เป็นคนช่างสังเกตถามลูกชายตัวดีที่เมื่อคืนก็ไม่ยอมกลับไปนอนที่บ้าน“นอนไม่หลับครับแม่ เป็นห่วงยายหนู แม่ไปดูยายหนูมาหรือยังครับ”“ไปมาแล้วจ้ะ ยายหนูตัวเล็กมาก แม่ล่ะอดเป็นห่วงไม่ได้ นี่หมอก็ให้น้องเราปั๊มนมไปส่ง แต่หมอก็ยืนยันนะว่าทุกอย่างไม่มีปัญหาอะไร”“ก็ลองมีปัญหาสิ ผมจะจับตัวมาลงโทษให้หมดเลยคอยดู”“ใจเย็นสินิค” นิชาภาปรามลูกชาย“จะเย็นได้ยังไงครับแม่ แม่ยังไม่เจอหมอที่ผ่าเอาเด็กแกใช่ไหมล่ะ” “ทำไม หมอมีปัญหาอะไรหรือเปล่าลูก”“ไม่มีหรอกครับแม่ พี่นิคเขาก็แค่กังวลเกินเหตุ”“นายก็เขาข้างหมออีกคนเหรอ หรือว่าเพราะเห็นว่าเธอสวยหน่อยก็เลยเข้าข้างกัน”“ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย ผมว่าหมอทำถูกแล้วที่รีบผ่าเอาเด็กออก ถ้ารอนานไปจะเป็นอันตรายทั้งแม่และลูกได้นะครับ” อรรถวุฒิอธิบายตามที่เขาเข้าใจเพราะก่อนตกลงให้ผ่าตัดเขาก็ได้รับการอธิบายอย่างละเอียด“แต่หมอยังเด็กมากเลยนะครับ ไม่รู้ว่ายังเรีย
หลังจากตรวจร่างกายของคารินาแล้วพัณณ์ชิตาก็บอกถึงอาการของลูกสาวให้กับเธอทราบเพราะก่อนจะมาที่นี่คุณหมอสาวแวะไปสอบถามอาการของเด็กทารกมาก่อนแล้วเพื่อให้คุณแม่ได้สบายใจ“หมอคะ เคทขอไปดูลูกได้ไหมคะ”“ได้ค่ะ แต่ต้องหลังจากที่คนไข้ไม่มีอาการเวียนหัวแล้วนะคะ”“ตอนนี้เคทก็ไม่ค่อยเวียนหัวแล้วนะคะ”“เอาไว้ตอนบ่ายหมอจะให้พยาบาลมาถามอาการอีกครั้งนะคะ ถ้าไม่มีอาหารเวียนหัวเลย หมอจะให้พยาบาลพาไปที่ห้องเด็กนะคะ”“ขอบคุณค่ะหมอ”“คนไข้มีอะไรสงสัยจะถามหมอเพิ่มเติมไหมคะ”“เคทอยากรู้ว่านมที่เอาไปลูกเคทกินได้ไหมคะ”“ได้ค่ะ พยาบาลจะแบ่งให้มือละนิดหน่อยค่ะ แต่คนไข้ก็ต้องปั๊มนมเก็บไว้นะคะ ช่วงแรกนมจะมาน้อยแต่ถ้าเราปั๊มออกมาบ่อยๆ ทุกสองชั่วโมงอีกหน่อยน้ำนมก็จะเยอะเองค่ะ เดี๋ยวหมอจะให้พยาบาลมาสอนการปั๊มนมและเก็บนมใส่ถุงอีกครั้งนะคะ” เมื่อคนไข้ไม่มีข้อสงสัยคุณหมอก็ขอตัวกลับ“วันนี้วันเสาร์หมอตรวจเสร็จแล้วจะไปหรือเปล่าจ๊ะ”“ไม่หรอกค่ะ คุณป้ามีอะไรหรือเปล่าคะ”“ป้ามีเรื่องจะปรึกษาหน่อยจ้ะ พอจะมีที่ส่วนตัวคุยกันหน่อยไหม”“แม่ครับ คุยที่นี่ก็ได้ มีแต่พวกเรากันเองทั้งนั้น” นิโคไลรีบบอกเพราะกลัวว่าถ้าคุณหมอมีโอกาสอยู่ต
พัณณ์ชิตาราวน์คนไข้จนครบทุกคนแล้วก็กำลังคิดหาทางกลับคอนโดของตนเองโดยไม่ให้คนของนิโคไลที่เตร็ดเตร่อยู่หน้าประตูโรงพยาบาลรู้ แต่คิดยังไงก็คิดไม่ออกจนกระทั่งได้ยินพยาบาลที่วอร์ดคุยกันว่าเที่ยงนี้รถพยาบาลจะออกไปให้บริการประชาชนที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง“พี่ภัทรคะ จะเป็นไรไหมคะถ้าพั้นช์จะขอติดรถไปที่ห้างด้วยค่ะ”“ได้สิคะ วันนี้หมอพั้นช์ไม่เอารถมาเหรอคะ”“ค่ะ เมื่อเช้าติดรถเพื่อนมาน่ะคะ”“หมอให้แผนกรับส่งเอารถคันอื่นไปส่งที่คอนโดได้นะคะ ไม่ต้องนั่งรถพยาบาลไปก็ได้” จิตาภัทรบอกคุณหมอคนสวยเพราะปกติแล้วที่โรงพยาบาลก็จะมีรถไว้คอยรับส่งบุคลากรต่างหากอยู่แล้ว“ไม่เป็นไรค่ะ พั้นช์ว่าจะไปเดินเล่นที่ห้างอยู่พอดี”“งั้นไปรอที่รถเลยนะคะ ตอนนี้เขากำลังเตรียมของกันอยู่เดี๋ยวพี่โทรบอกให้เขารอนะคะ”“ขอบคุณค่ะพี่ภัทร” พัณณ์ชิตายังคงสวมแมสก์และชุดกาวน์อีกทั้งยังหยิบแว่นกรองแสงที่มักเอาใช้เวลาต้องนั่งหน้าคอมนานๆ ออกมาสวมหญิงสาวเดินผ่านคนของนิโคไลที่ประตูทางออกแล้วเดินขึ้นรถพยาบาลไปโดยที่ไม่มีใครผิดสังเกตพอมาถึงห้างสรรพสินค้าพัณณ์ชิตาก็เดินเลือกซื้อของอย่างสบายใจ แม้จะรู้ว่าคงหลบเขาได้ไม่ตลอดแต่อย่างน้อยวัน
นิโคไลมองตามหลังคุณหมอด้วยสายตาคาดโทษ เมื่อวานเขาให้ลูกน้องเฝ้าทุกทางเข้าออกโรงพยาบาลแต่เธอก็ยังหนีไปได้ พอจะโทรหาเธอก็บล็อกเบอร์ของเขา ชายหนุ่มไปดักรอที่คอนโดก็ปรากฏว่าเธอไม่ได้กลับไปค้างที่นั่นไม่เคยมีใครทำให้เขารู้สึกเสียหน้าแบบนี้มาก่อนวันนี้เขาจะต้องคุยกับเธอให้รู้เรื่องถ้าเธอไม่ยอมคุยดีๆ ก็คงต้องใช้ไม้แข็งกันบ้าง“นิค มีอะไรกับคุณหมอหรือเปล่า แม่เห็นลูกมองเธอด้วยสายตาแปลกๆ นะ”“เปล่าครับแม่”“เมื่อไหร่นิคจะกลับไปทำงานสักที แม่ว่าทิ้งงานมานานจะไม่ดีเอานะ” ถึงแม้งานของลูกชายไม่จำเป็นต้องเข้าบริษัทตลอดแต่เธอก็ไม่อยากให้เขาทิ้งภาระให้ผู้ช่วยมากจนเกินไป“ผมบอกแม่แล้วไงครับ ผมจะอยู่ที่นี่จนกว่ายายหนูจะออกจากโรงพยาบาล”“อย่าไล่เขากลับเลยค่ะแม่ ที่ผ่านมาเขาทำงานมาตลอด ช่วงนี้ก็ถือว่าเขาพักร้อนแล้วกันนะคะ”“แม่ก็อดห่วงไม่ได้นี่เคท”“แม่ครับบอริสทำงานกับผมมาเกือบสิบปีผมเชื่อมือเขาครับ”“งั้นก็ตามใจ แล้วอยู่แต่ในโรงพยาบาลไม่อึดอัดเหรอ แม่ว่าไหนๆ ก็ไม่กลับรัสเซียแล้วนิคน่าจะหาเวลาเที่ยวบ้างนะ”“ผมไม่รู้จะไปเที่ยวไหนนี่ครับแม่”“ก็ให้ธนัทพาไปสิ” เธอหมายถึงคนสนิทของเขาที่เป็นทั้งผู้ช่วย คนขั
จูบพิตที่เธอเริ่มร้อนแรงขึ้นทีละนิด เมื่อต่างฝ่ายต่างมีความต้องการที่มากล้น นิโคไลดูดกลืนความหวานจากโพรงปากอุ่นจนเธอแทบจะขาดอากาศ เขาผละออกแล้วลากลิ้นร้อนไปตามซอกคอหอมกรุ่นขบเม้มสร้างรอยรักไปทั่วปากร้อนเข้าครอบครองยอดอกสีสวยอีกครั้งปรนเปรอสลับไปมาทั้งสองข้างอย่างไม่น้อยหน้า เขาดูดดึงเต้าอวบราวเด็กทารกที่หิวกระหาย ขณะอีกมือหนึ่งก็จับเรียวขาของเธอให้แยกออกทีละนิด จากนั้นก็ถูไถท่อนเอ็นลงบนกลีบกุหลาบงาม ปลุกเร้าอารมณ์วาบหวามจนหญิงสาวครางสะท้าน“นิค...”“อย่าหลับตาพั้นช์ มองหน้าผมที่รัก”“อื้อ....เจ็บ”หญิงสาวหยิกไปบนท่อนแขนของเขาแน่นเมื่อส่วนปลายของความเป็นชายรุกล้ำเข้าไปในช่องทางคับแน่นที่ไม่เปิดรับของใครมาก่อน“อ่าห์ ที่รัก ไม่เกร็งนะ”“นิค ของคุณใหญ่”พัณณ์ชิตาเคยเห็นของผู้ชายมาก็มากเพราะก่อนที่เธอจะมาเป็นหมอสูติเธอก็ต้องเรียนให้ครบทุกแผนก แต่ของผู้ชายเหล่านั้นมันเทียบไม่ได้กับขนาดของนิโคไลเลยสักนิด“ไม่ต้องกลัว ถึงมันจะใหญ่แค่ไหน คุณก็จะรับมันเข้าไปได้ รู้ใช่ไหม” เธอพยักหน้าอย่างอายๆ ขณะที่นิโคไลก้มลงจูบปลอบประโลมอีกครั้ง สองมือนวดเฟ้นอกอิ่ม กระตุ้นให้เธอผ่อนคลายจากนั้นก็กด
“พั้นช์ คุณหอมหวานไปทั้งตัว”นิโคไลกล่าวชมด้วยเสียบแหบพร่าพลางพรมจูบไปทั่วผิวขาวนุ่ม เขาอยากสัมผัสเธอไปทุกสัดส่วน ร่างกายของเขากำลังร้อนขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ไม่อยากผลีผลามเพราะอยากให้คนรักประทับใจกับครั้งแรกที่เขาจะมอบความสุขให้“นิค...”พัณณ์ชิตาใช้ข้อศอกดันตัวเองลุกขึ้นมองเขาที่กำลังไล้จมูกโด่งไปบนหน้าท้องแบนราบ นิโคไลเงยหน้าขึ้นแววตาเขาเต็มไปด้วยไฟปรารถนา หญิงสาวใบหน้าร้อนผ่าวเมื่อประสานกับสายตาคู่นั้น“เชื่อใจผมนะพั้นช์ ผมจะทำให้คุณมีความสุขที่สุด”ชายหนุ่มให้คำมั่น ก่อนจะละสายตาจากใบหน้าหวานลงมามาพร้อมกับจับเรียวขาของหญิงสาวให้กางออก“สวยมากพั้นช์ คุณสวยมาก”เสียงแหบพร่าเอ่ยชมกลีบกุหลาบสีสวยที่ปิดสนิทแต่มีหยดน้ำหวานกำลังซึมออกมาทีละนิด เขาเลียริมฝีปากที่แห้งผากอยากจะกลืนกินเธออย่างที่สุด“นิคคะ อย่าจ้องแบบได้ไหม”เธอพยายามเอามือลงมาปิด แต่เขาก็จับข้อมือเล็กนั้นให้ออกห่างจากกลางกาย“ไม่เห็นต้องอาย มันสวยจริงๆ พั้นช์”เพียงแค่ได้เห็นนิโคไลก็รู้สึกว่าท่อนเอ็นของเขามันกำลังเรียกร้องให้เขาเอามันออกมาปลดปล่อย แต่เขาก็ต้องข่มมันเอาไว้เพราะตอนนี้เขาอยากจะลิ้มรสน้ำหวานที่ไม่เคยคิดจะลิ้มลองมาก
พัณณ์ชิตาพานิโคไลตามมาสมทบกับเพื่อนหมอที่ผับ เธอแนะนำให้ชายหนุ่มรู้จักกับทุกในสถานะแฟน นิโคไลให้คนรักได้พูดคุยกับเพื่อนๆ ในขณะที่เขาก็นั่งดื่มอยู่เงียบๆในอดีตเขาไม่เคยต้องนั่งรอใครแบบนี้มาก่อน ทุกคนต้องตามเอาใจเขา การรอคอยมันเป็นอะไรที่น่าเบื่อ แต่พัณณ์ชิตาก็ทำให้เขาทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ แต่ก่อนเขาไม่เคยเข้าใจบิดาของตนเลยว่าทำไมท่านถึงไปรอมารดาทำผมและทำเล็บที่ร้านได้ครั้งละหลายๆ ชั่วโมง แต่ตอนนี้เขาคิดว่าเข้าใจความรู้สึกของท่านแล้วเขารอจนกระทั่งเพื่อนของเธอกลับไปกันไปหมดแล้ว จึงเดินตามมานั่งด้วย“เบื่อไหมคะ”“ไม่เลยครับ ผมชอบนะที่เห็นคุณผ่อนคลายและสนุกกับเพื่อนๆ แบบนี้”“เรากลับกันเลยไหมคะ” พัณณ์ชิตารู้สึกว่าตอนเองเริ่มจะมึนนิดๆ เพราะเมื่อครู่ดื่มไปหลายแก้ว“พั้นช์เดินไหวไหม เมาหรือเปล่า”“ไม่ค่ะ แค่มึนเอง”นิโคไลเดินมาส่งหญิงสาวที่ห้องพักของเธอก่อนที่ตัวเองจะกลับไปห้องของตัวเอง หลังจากอาบน้ำและเตรียมเข้านอนก็มีสายเรียกเข้าจากพัณณ์ชิตา“นิคคะ เมื่อกี้คุณมาเคาะห้องพันช์หรือเปล่าคะ พอดีพั้นช์อยู่ในห้องน้ำเลยไม่ทันเปิด”“เปล่านะครับ เพื่อนคุณหรือเปล่า แต่ดึกขนาดนี้เขาจะมาเคาะทำไมนะ ผมว่า
“นิค” พัณณ์ชิตาไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง เพราะเมื่อตอนเย็นที่คุยกันเขายังอยู่ที่กรุงเทพ“คุยธุระเสร็จแล้วใช่ไหมครับ” นิโคไลเดินเข้ามาหาพร้อมทั้งดึงเธอเข้าไปกอด“ค่ะ คุณมาได้ยังไง” พัณณ์ชิตาไม่ขัดขืนที่เขากอด แถมเธอยังกอดเขากลับอีกต่างหาก“คิดถึงครับก็เลยรีบมาหา” นิโคไลพูดพลางกดจูบไปบนหน้าผากของหญิงสาวอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ“วิน พั้นช์ขอตัวก่อนนะ” หญิงสาวหันมาบอกขณะที่มือของเธอยังกอดเอวของนิโคไลเอาไว้“แต่เรายังไม่ได้บอกเรื่องสำคัญของเราเลยนะ” ธาวินมองอดีตคนรักด้วยสายตาตัดพ้อ“เรื่องสำคัญของวิน แต่มันไม่สำคัญสำหรับพั้นช์นี่ค่ะ ไปกันเธอคะนิค พั้นช์นัดเพื่อนไว้ที่ผับ เราไปฟังเพลงกันต่อนะคะ” หญิงสาวหันมาส่งยิ้มหวานให้กับนิโคไลราวกับจะประกาศให้อีกคนรู้ว่าตอนนี้เธอไม่ได้สนใจเขาเลยสักนิด“ผมขอตัวก่อนนะครับ” นิโคไลหันมากล่าวอย่างสุภาพก่อนจะเดินจับมือกับพัณณ์ชิตาออกมาจากชายหาดหน้าโรงแรมเขายังคงจับมือเธอไม่ปล่อยแม้จะพ้นจากสายตาของธาวินแล้วก็ตาม ทุกอย่างที่เขาปฏิบัติกับพัณณ์ชิตาวันนี้ไม่ใช่การแสดงแต่มันเป็นความรู้สึกที่เขาอยากแสดงออกกับเธอจริงๆพัณณ์ชิตาไม่ได้ว่าอะไรที่เขาจะจับมือเธอเดินไปแบบ
พัณณ์ชิตาเข้าประชุมกับเพื่อนร่วมอาชีพที่ได้ทั้งความรู้และได้เพื่อนใหม่อีกหลายคน หลังจากประชุมเสร็จในบ่ายวันศุกร์ก็มีการจัดงานเลี้ยงเล็กๆ ขึ้นที่ห้องจัดเลี้ยงของทางโรงแรมซึ่งงานจะเริ่มในเวลาหนึ่งทุ่ม แต่หญิงสาวไม่ค่อยอยากจะไปร่วมงานสักเท่าไหร่ “ผมอยากเห็นจังว่าเย็นนี้คุณจะสวมชุดไหน” นิโคไลถามเพราะเขากลัวว่าเธอจะแต่งตัวเช็กซี่จนหมอหนุ่มๆ ตามจีบ “ก็แค่เดรสธรรมดาเองค่ะ มันเป็นงานเลี้ยงเล็กๆ ไม่ได้หรูหราอะไรหรอกค่ะ พั้นช์ไม่ค่อยอยากไปเท่าไหร่เลยค่ะ” “เหนื่อยเหรอครับ นี่เพิ่งห้าโมงเย็นเองนะ พั้นช์นอนพักก่อนก็ได้ งานเริ่มหนึ่งทุ่มไม่ใช่เหรอครับ” “ไม่เหนื่อยหรอกค่ะ คุณก็รู้ว่าพั้นช์อึดแค่ไหน แค่นั่งประชุมอย่างเดียวไม่เหนื่อยเลย” “แล้วทำถึงไม่อยากไปล่ะครับ” “มีบางคนที่พั้นช์ไม่ค่อยอยากเจอค่ะ” “ไหนพั้นช์บอกว่าเขาไม่ไป” นิโคไลถามอย่างร้อนรน “ค่ะ เขาไม่ได้เข้าประชุม แต่หมออีกคนที่เป็นเพื่อนสนิทของเขามาประชุม เขาเลยมาหาเพื่อนเขาเมื่อตอนบ่ายนี้ค่ะ แล้วก็คงจะมางานเลี้ยงเย็นนี้ด้วย ถ้าพั้นช์รู้มาก่อนก็คงไม่นัดเพื่อนหมอคนอ
“อะไรนะครับ คุณจะไปภูเก็ตเหรอ ผมไม่เห็นรู้เลย คิดจะหนีผมอีกแล้วใช่ไหมพั้นช์”“พั้นช์ก็เพิ่งรู้เมื่อกี้เองค่ะ พอดีมีประชุมวิชาการที่นั่นแล้วเพื่อนของเขาพั้นช์ลงทะเบียนไว้แล้วแต่ติดธุระด่วน พอดีว่าพั้นช์มีวันลาเหลืออีกเยอะก็เลยถือโอกาสไปแทนค่ะ”“คุณจะไปกี่วัน”“ประชุม 2 วันอยู่พักผ่อนอีก 2 วันค่ะ ถามทำไมคะ อย่าบอกนะว่าจะตามไปด้วย”“ไม่ได้เหรอครับ”“พั้นช์ว่าอย่าเลยค่ะ ขอเวลาพั้นช์อยู่คนเดียวนะคะ ถ้ากลับมาแล้วจะให้คำตอบที่คุณขอ” “แล้วเขาไปด้วยไหมครับ” “ไม่ค่ะ” เพราะรู้ว่าธาวินไม่ได้เธอจึงไปแทนเพื่อน“ผมหวังว่ากลับมาผมได้ยินข่าวดีจากคุณนะ”“ไม่คิดเผื่อใจไว้หน่อยเหรอคะ”“ผมรู้ว่าระหว่างเรามันเริ่มต้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ที่ผ่านมาผมก็ไม่เคยทำอะไรไม่ดีกับคุณเลย ถ้าคุณไม่อคติหรือปิดกั้นตัวเองจนเกินไปผมก็ยังมีความหวัง”“ทำไมถึงคิดว่าพั้นช์ปิดกั้นตัวเองล่ะคะ”“ก็เพื่อนๆ คุณคุยกันว่านานแล้วที่คุณไม่คบใครเลย ผมไม่รู้ว่าเพราะคุณปิดกั้นตัวเองหรือเปล่า”“ไม่ใช่หรอกค่ะ ที่พั้นช์ที่พั้นช์ยังไม่คบกับใครทั้งที่อายุเยอะแล้วก็เพราะยังไม่เจอคนที่ยอมรับและเข้าใจการทำงานของพั้นช์ อีกอย่าง
“เฮ้อ!...” พัณณ์ชิตาถอนหายใจอย่างหนักหลังจากประตูรถปิดลง“ดูท่าเขาจะไม่ค่อยเชื่อนะว่าเราเป็นแฟนกัน”“แล้วฉันต้องทำยังไง ไม่ใช่ว่าเขาจะตามดูเราตลอดนะ”“ผมไม่รู้ว่านิสัยเขาเป็นยังไง เชื่อคนง่ายหรือเปล่า แต่อย่างมากก็คงตามถึงคอนโดนั่นแหละครับ”“ไม่ได้นะ ฉันไม่อยากให้เขารู้ว่าพักอยู่ที่ไหน” พัณณ์ชิตารู้จักนิสัยของคนรักเก่าดีว่าเป็นพวกชอบตามตื๊อ ถ้าเขารู้ว่าคอนโดเธออยู่ที่ไหนชีวิตของเธอคงจะวุ่นวายน่าดู“เขาไม่เคยไปที่นั่นเหรอครับ”“ไม่เคยค่ะ ฉันเพิ่งย้ายมาอยู่ที่คอนโดนั่นไม่นาน แต่ก่อนฉันอยู่บ้านค่ะ”“ถ้าไม่อยากให้เขาตามไปก็มีสองทางเลือกคือ ไปค้างที่บ้านผมหรือไม่เราก็ไปนั่งดื่มกันต่อ”“ถ้าเขาตามเข้าไปล่ะคะ”“เขาคงตามแน่ แต่ในนั้นคนเยอะครับ เขาคงจับตาดูเราไม่ได้ตลอดหรอก” อันที่จริงถ้าไม่อยากให้เขาตามนิโคไลก็แค่โทรบอกลูกน้องให้จัดการทุกอย่างก็เรียบร้อย แต่ที่ไม่ทำแบบนั้นเพราะอยากชวนพัณณ์ชิตาไปนั่งดื่มด้วยกันสักหน่อย เนื่องจากพรุ่งนี้เป็นวันหยุดของเธอจึงไม่ต้องรีบตื่นนอนตั้งแต่เช้า“งั้นก็ตกลงค่ะ”นิโคไลขับรถพาพัณณ์ชิตามายังผับแห่งหนึ่งที่คนค่อนข้างจะพลุกพล่านเพราะเป็นคืนวันเสาร์แต่ก่อนมาเขาใ
นิโคไลรีบหันหน้าเข้าหากำแพงเมื่อประตูห้องน้ำเปิดออก เพราะไม่อยากให้ผู้ชายที่คุยกันในห้องน้ำเมื่อครู่รู้ว่าตนเองแอบฟังอยู่ พอสองคนเดินไปออกไปไกลแล้ว ชายหนุ่มก็ได้แต่มองตามหลัง เพราะได้ยินแต่เสียงเลยไม่รู้ว่าคนไหนที่เคยเป็นแฟนของพัณณ์ชิตามาก่อนแต่ตอนนี้มันไม่สำคัญอีกแล้วเพราะนิโคไลตัดสินใจแล้วว่าจากนี้เขาจะจีบคุณหมอคนสวยอย่างจริงจัง เพราะตั้งแต่ได้ใกล้ชิดมาตลอดหนึ่งเดือนมันทำให้เขามั่นใจว่าพัณณ์ชิตาคือผู้หญิงที่เขาอยู่ใกล้แล้วมีความสุขโดยไม่มีเรื่องบนเตียงมาเกี่ยวข้องจะว่าไปแล้วนิโคไลก็รู้สึกแปลกใจกับตัวเองอยู่เหมือนกัน ปกติแล้วเขาไม่เคยขาดเรื่องอย่างว่าได้นานขนาดนี้มาก่อน เขาชักจะสงสัยแล้วว่าตนน่าจะกามตายด้านไปแล้วหรือไม่ก็เครียดจนไม่มีอารมณ์ทางเพศ เขารีบสลัดความคิดพวกนี้ออกจากหัวก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปจัดการธุระส่วนตัวชายหนุ่มเดินกลับมานั่งที่เดิมอีกครั้งขณะที่พัณณ์ชิตาก็กำลังนั่งฟังเพื่อนคนหนึ่งเล่าถึงการไปออกหน่อยแพทย์เคลื่อนที่ในถิ่นธุระกันดาร“หายไปนานเลยนะคะ นึกว่ากลับไปแล้ว”“พอดีมีงานให้ต้องโทรไปจัดการนิดหน่อยครับ” เขาตอบพลางขยับเข้ามาใกล้จนพัณณ์ชิตารู้สึกว่ามันใกล้จนแทบจะตั
พัณณ์ชิตาแนะนำนิโคไลให้กับเพื่อนๆ จนครบทุกคนจากนั้นก็เริ่มทานอาหารจนกระทั่งทุกคนทานอิ่ม ความโกลาหลก็เกิดขึ้น เพราะแต่ละคนดูเหมือนจะไม่ได้เจอกันนานมาก ต่างฝ่ายต่างเล่าเรื่องราวที่ตัวเองเจอมาให้เพื่อนๆ ฟัง จนแยกแทบไม่ออกว่าเสียงใครเป็นเสียงใครเขาไม่เคยเห็นพัณณ์ชิตาในมุมนี้มาก่อนเลย วันนี้เธอดูร่าเริงสดใสและช่างคุยเรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนๆ ได้เป็นอย่างดี คุยไปสักพักเธอก็หันมาถามว่าเขาเบื่อไหม พอนิโคไลส่ายหน้าหญิงสาวก็หันไปคุยกับเพื่อนต่อนิโคไลฟังที่พวกเธอคุยกันรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างแต่ก็ไม่ได้รู้สึกเบื่ออะไร ในทางกลับกันเข้ากลับรู้สึกเพลินด้วยซ้ำ“พั้นช์ ผมขอไปเข้าห้องน้ำนะ”“ค่ะ ถ้าเบื่อจะรอข้างนอกก็ได้นะคะ”“ไม่เป็นไรผมว่าพวกคุณคุยสนุกดี”พอบอกหญิงสาวเสร็จเขาก็เดินมาเข้าห้องน้ำและบังเอิญเจอกับคุณหมอคนหนึ่งที่กำลังเดินออกมาพอดี“คุณหมอครับ พอจะมีเวลาคุยกับผมนิดไหมครับ”“มีสิครับ ว่าแต่คุณจะไม่เข้าห้องน้ำก่อนเหรอ”“ไม่เป็นไรครับผมมีเรื่องจะถามคุณหมอนิดหน่อย”“ไปคุยกันตรงนั้นไหม” คุณหมอชี้ไปทางด้านหน้าร้านที่มีเก้าอี้หินอ่อนตั้งอยู่“ครับ” นิโคไลเดินตามมาจากนั้นทั้งสองก็นั่งลงบ