เมื่อทุกคนมาถึงกันพร้อมหน้า คุณกนกวรรณก็เริ่มทำหน้าที่ในการจับคู่ดูตัว จิรายุนั้นรู้จุดประสงค์ของผู้เป็นป้าอยู่แล้วว่าทำไมป้าของตัวเองถึงได้นัดป้าหลานคู่นี้มา แต่ก็ยังยอมที่จะเล่นไหลไปตามน้ำ
"ตาเจตน์ลูกนี่หนูแอล พึ่งกลับมาจากอังกฤษ รู้จักกันเอาไว้สิ เผื่อวันหน้าวันหลังจะได้สนิทสนมกันมากขึ้นกว่านี้"
"ครับป้าไก่ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับน้องแอล"
จิรายุกล่าวทักทายอีกฝ่ายไปแบบจริงใจและไม่ได้คิดที่จะมีเลศนัยอะไร ดูไปดูมาฝ่ายนั้นก็เป็นผู้หญิงออกหวานดูน่ารักเรียบร้อยดี
"สวัสดีค่ะพี่เจตน์ แล้วก็.."เอวารินยกมือขึ้นไหว้ทักทายจิรายุเสร็จแล้วจึงหันไปยิ้มหวานให้อิงรดา
"อ๋อ นั่นเจ้าอิงน่ะหนูแอล ก็น่าจะรุ่นเดียวกันกับหนูใช่ไหมจ๊ะ เจ้าอิงปีนี้ก็ยี่สิบสามย่างยี่สิบสี่ พึ่งเรียนจบกลับมาจากอเมริกา นั่นก็เลี้ยงดูกันมาเหมือนลูกเหมือนหลานคนหนึ่ง"อิงรดายกมือขึ้นไหว้และก็ยิ้มหวานทักทายกลับไป
"ชื่ออิงเหรอคะ เราชื่อพยัญชนะอออ่างเหมือนกันเลย อิงกับแอล ถ้าเกิดว่าแอลอยากจะขอเป็นเพื่อนกับอิงจะได้ไหม แอลเพื่อนน้อย กลับมานี่ก็ยังไม่ได้เจอใครเลย"
พอเอวารินพูดแบบนั้นออกไป ทำเอาทุกคนก็ออกอาการเหรอหราไปตามๆกัน จากที่ต้องการพาเอวารินให้มาทำความรู้จักกับจิรรายุ แต่ฝ่ายนั้นกลับมุ่งมาทางอิงรดา
"ถ้าคุณแอลอยากเป็นเพื่อนกับอิงก็ได้นะคะ ถ้าเป็นเพื่อนกันแล้วคุณแอลมาหาอิงที่บ้านบ่อยๆก็ได้ คุณแอลจะได้เจอกับคุณเจตน์ได้บ่อยๆด้วย ดีไหมคะ"
อิงรดาพูดเสนอความคิดเห็นของตัวเองออกไป และนั่นก็ทำให้ทั้งคุณกนกวรรณและคุณหทัยรัตน์ผู้ซึ่งเป็นป้าของเอวารินต่างยิ้มออกมาอย่างเห็นด้วย ยกเว้นเสียก็แต่จิรายุ ที่กำลังส่งสายตามองไปล็อกเป้าอิงรดาเอาไว้ แต่ดูแล้วเจ้าตัวไม่น่าจะรู้
"ป้าเห็นด้วยกับอิงนะลูก วันไหนว่างๆก็แวะมาหาอิง ถ้าเจออิงก็จะได้เจอพี่เจตน์ เพราะว่าสองคนนี้น่ะทำงานด้วยกัน หยุดก็หยุดพร้อมกัน" คุณกนกวรรณหันไปกล่าวสำทับ
"สรุปว่าให้หนูมาหาอิงได้เหรอคะ" เอวารินทำท่าดีใจจนออกนอกหน้า
"ได้สิลูก อยากมาเมื่อไหร่ก็มาได้เลย ใช่ไหมอิง"
"ค่ะคุณท่าน"
อิงรดายิ้มรับทุกๆคนที่ต่างพากันมองมาทางเธอ แต่มีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นที่นอกจากจะไม่ยอมยิ้มแล้ว ยังจ้องเขม็งมายังเธอแปลกๆ
บรรยากาศในการกินข้าวเต็มไปด้วยความอีหลุกขลุกขลัก สองป้าและอิงรดาพยายามชงให้หลานสาวตัวเองพูดคุยกับจิรายุให้มากขึ้น ส่วนหลานสาวก็เอาแต่วกกลับมาหาอิงรดาทุกทีจนทุกคนเหมือนจะเหนื่อยใจ เพราะดูท่าแล้วเอราวินน่าจะอยากมีเพื่อนมากกว่ามีแฟน
พอสองป้าหลานพากันกลับไปแล้วทุกคนต่างก็พากันแยกย้าย อิงรดาไปส่งยายและจิรายุก็ไปส่งคุณกนกวรรณขึ้นนอน จากนั้นเธอก็กลับเข้าห้องมา กะว่าจะเปิดซีรี่ย์ตอนที่ยังดูค้างไว้ตั้งแต่วันนั้นต่อ แต่ยังไม่ทันได้ดูไปถึงไหน เสียงเคาะประตูหน้าห้องก็ดังขึ้น
"ดูซีรี่ย์อยู่หรือเปล่า พอดีฉันเบื่อๆยังไม่ง่วงน่ะว่าจะมาขอดูด้วย"
"แน่ใจนะคะว่าคราวนี้จะมาดูจริงๆ"
"แน่ใจ คราวที่แล้วฉันขอโทษที่ทำบรรยากาศการดูซีรี่ย์ของเธอเสียหมด รับรองว่าคราวนี้จะนั่งดูด้วยเงียบๆ"
"งั้นก็เข้ามาค่ะ" ว่าแล้วทั้งอิงรดาและจิรายุก็หย่อนตัวนั่งลงบนเบาะรองพื้นที่วางอยู่ แล้วซีรี่ย์เรื่องโปรดของอิงรดาก็เริ่มขึ้น
"โอ๊ยน่ากลัว รีบๆเดินไปหลบกันไวๆเข้าสิ เดี๋ยวเจ้าพวกสัตว์ประหลาดก็วิ่งออกมาหรอก" อิงรดาดูไปก็พร่ำไป โดยเธอยกเข่าทั้งสองข้างขึ้นมากอดและหรี่สายตาเอาไว้แต่ก็ยังแอบมองดูน้อยๆ จิรายุมองท่าทางคนข้างๆก็อยากจะขำ ไม่รู้ว่ากลัวขนาดนี้แล้วจะอยากดูไปทำไม
"ตอนนี้คุณเจตน์ดูไปแล้วใช่ไหมคะ แล้วตกลงเป็นยังไงต่อ พวกสัตว์ประหลาดมันจะออกมาจริงๆใช่ไหม"อิงรดาทั้งเขย่าแขนทั้งถามจิรายุเสียงสั่น
"ดูหนังใครเขาสปอยล์กันเล่า"
"งื้อก็หนูกลัวอ่ะ คุณเจตน์บอกหน่อยสิคะว่าตกลงเจ้าพวกสัตว์ประหลาดมันจะออกมาฉากนี้จริงๆใช่ไหม"
"ดูไปเดี๋ยวก็รู้เองแหละ"
แล้วจิรายุก็นึกอะไรสนุกๆขึ้นมาได้ เมื่อเห็นอิงรดาเงียบไปและใช้ชายผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้าตัวเองไปครึ่งหน้าแล้วเหลือลูกกระตาไว้ ดวงตากลมโตมองไปที่จออย่างลุ้นระทึกไม่กระพริบ ไม่ขยับและราวกับว่าไม่ได้หายใจ จังหวะถึงตอนที่จิรายุรู้แล้วว่ามันกำลังจะมีอะไรออกมา อยู่ๆเขาก็ใช้มือเขย่าเข้าไปที่สองไหล่ของอิงรดาและทำเสียงหลอกใส่เสียจนเสียงดัง
"แฮ่!"
"กรี๊ด!"
ทันที่ที่ถูกเขย่าตัว อิงรดาก็หลับหูหลับตาร้องกรี๊ดด้วยความตกใจ จากนั้นก็รีบกระโดดลุกขึ้นแล้วจึงพุ่งตัวเองเข้าไปในทิศทางที่จิรายุุนั่งดูก่อนจะล้มทับไปบนหน้าอกแกร่งนั้นแบบเต็มๆ
จุ๊บ! ริมฝีปากแตะริมฝีปาก สันปลายจมูกโด่งรั้นของเธอทิ่มลงไปชนกับปลายจมูกโด่งๆของเขา ทั้งสองสบตากันนิ่งอยู่อย่างนั้นและยังไม่มีใครกล้าขยับ มีเพียงเสียงหัวใจที่เต้นแข่งกันระรัว
ตึกตักๆ ไม่รู้ว่านั่นเป็นเสียงหัวใจเขาหรือเธอ แต่ที่แน่ๆมันดังเสียจนได้ยินชัดแจ๋ว นี่มันครั้งที่สองแล้วนะที่เธอโดนเขาจูบ แม้ว่ามันจะไม่ใช่จูบที่ดูดดื่มอะไร แต่มันก็ขึ้นชื่อว่าเธอได้เสียทั้งจูบแรกและก็จูบที่สองให้เขาไปแล้ว
"กลัวขนาดนั้นเลย"
จิรายุเป็นฝ่ายพูดออกมาก่อน ใบหน้าเขามีรอยยิ้มปรากฎขึ้นมาน้อยๆก่อนที่อิงรดาจะได้สติแล้วค่อยๆยันตัวลุกขึ้นนั่ง
"คุณเจตน์เล่นบ้าอะไรก็ไม่รู้ ก็รู้อยู่ว่าหนูกลัว"
"ขอโทษที ไม่คิดว่าเธอจะขวัญอ่อนขนาดนี้ กลับไปนั่งดูต่อดีๆสิ ทีนี้ฉันไม่แกล้งแล้ว"
จากนั้นทั้งเธอและเขาก็ลุกกลับขึ้นมานั่งประจำตำแหน่งกันแบบเงียบๆ แต่สิ่งหนึ่งที่อิงรดาอยากจะบอกก็คือว่าเวลานี้เธอดูซีรี่ย์ไม่รู้เรื่องเลย ในใจยังคงสั่นโครมครามและดูท่าว่ามันจะยังคงไม่ยอมสงบลงง่ายๆเมื่อข้างกายยังมีจิรายุนั่งดูด้วยตัวเป็นๆ สายตามันเอาแต่คอยจะแอบเหลือบมองไป หูก็แอบเงี่ยฟัง ได้ยินแม้กระทั่งเสียงลมหายใจเข้าออกของเขา
นี่เธอกำลังเป็นอะไรไป ลืมไปแล้วหรือไงว่าเขาเป็น..
ในเมื่อจะดูซีรี่ย์ต่อก็ดูไม่รู้เรื่อง อยู่ๆอิงรดาจึงได้บอกจิรายุออกไปว่าเธอน่ะเริ่มง่วงแล้ว แล้วเขาจึงได้กลับออกไป ทั้งๆที่พยายามบอกใจตัวเองไปแล้วว่าเธอคิดอะไรกับเขาไม่ได้ แต่ทำไมสายตาที่จิรายุมองมาตอนที่ริมฝีปากของเธอและเขาประกบกันอยู่ถึงยังคงมีอิทธิพลนัก ไม่ได้ๆ เธอต้องรีบจัดการความรู้สึกติ๊ดๆ เสียงแจ้งเตือนข้อความในโทรศัพท์มือถือดังขึ้น พอเปิดดูไอ้อาการร้อนหน้าวูบวาบเหมือนเมื่อกี้ก็กลับมาอีกเมื่อเห็นข้อความที่ถูกส่งมา'ใช้ลิปสติกของอะไร ทำไมปากถึงได้นุ่มจัง'เขาชอบลิปสติก เขาชอบลิปสติกจ้า..เขาอยากปากนุ่มเหมือนปากเธอ คงอยากแอบหามาใช้บ้าง อิงรดาอ่านข้อความแล้วก็บอกตัวเองไปแบบนั้น ก่อนจะจัดการถ่ายรูปแท่งลิปสติกสีหวานของตัวเองส่งกลับไปให้จิรายุ'ยี่ห้อนี้ไม่มีขายที่ไทยนี่ จะว่าอะไรไหมถ้าฉันอยากขอแบ่งใช้กับเธอบ้าง''คิดว่าไม่ได้ค่ะ เพราะว่ามันใกล้จะหมดแล้ว''หวงแบบนี้ เห็นทีต้องขโมยจุ๊บเอาจากปากเธอ'เฮ้อ! อิงรดาถอนหายใจออกไปแล้วก็รีบปิดไฟนอน ขนาดนอนไปแล้วก็ยังต้องพลิกไปพลิกมาเพราะนอนไม่หลับ นี่จิรายุคงจะไม่ได้คิดจะทำแบบนั้นจริงๆหรอกใช่ไหม หลับตื่นขึ้นมาก็มีข้อความจากจิรายุส่งมาแต่เช้า
อิงรดาเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็นั่งเล่นเอาขาจุ่มลงไปในสระว่ายน้ำ สายตายังคงโฟกัสไปที่จิรายุที่เดินเล่นอยู่ริมหาดคนเดียวไกลๆ เธอนั่งมองดูเขามาสักพักหนึ่งแล้วและไม่ได้คิดว่าจะอยากเข้าไปหา บางทีการที่ปล่อยให้เขาได้อยู่กับตัวเองและได้คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยคนเดียวมันอาจจะเป็นการดีกับเขามากขึ้นก็ได้"เจตน์ล่ะจ๊ะน้องอิง"นพนนท์และสามีกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่เธอก็ไม่ทันได้สังเกต รู้อีกทีในมือของทั้งสองก็หอบหิ้วพวกอาหารสดกันเข้ามาเต็มมือ"โน่นค่ะ เดินวนไปมาอยู่อย่างนั้นมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว สงสัยอยากคิดอะไรคนเดียวเงียบๆหนูก็เลยไม่อยากเข้าไปขัด" อิงรดาบุ้ยปากและชี้มือไปยังทิศทางที่จิรายุอยู่"คงต้องปล่อยให้เจ้านั่นมันได้คิดอะไรอยู่กับตัวเองสักพัก เดี๋ยวมันก็คงจะค่อยๆดีขึ้น พี่ว่าเราไปช่วยกันเตรียมกับข้าวเย็นนี้กันดีกว่าเถอะ นี่พี่กับจิมมี่ซื้ออาหารทะเลสดๆมากันเยอะเลย เดี๋ยวก่อเตานิดหน่อยจะได้ปิ้งย่างกัน ขอแรงน้องอิงมาช่วยพี่หน่อยนะคะ สามีพี่น่ะถนัดกินอย่างเดียว"อิงรดาพยักหน้ารับก่อนจะลุกขึ้นจากสระว่ายน้ำ หากแต่สายตาก็ยังมิวายหันไปมองคนที่ตอนนี้นั่งกอดเข่าหล่อนก้นลงไปบนชายหาดเป็นที่เรียบร้อย"หวังว
หลังจากเดินกลับเข้ามา ภาพตรงหน้าก็น่าจะเหมือนกำลังตอกย้ำความรู้สึกของจิรายุให้ดำดิ่งลงไปทุกทีในสายตาของอิงรดา เมื่อขณะที่ทั้งเธอและเขาเดินกลับเข้ามา ภาพเบื้องหน้าก็คือนพนนท์ที่เปิดเพลงยืนโอบกอดเต้นรำกันกับสามียิ่งเห็นอิงรดาก็ยิ่งชักหมั่นไส้เพื่อนสาวตัวร้าย..ไม่สิ อดีตคนเคยรักของจิรายุมากขึ้นไปอีก ที่เอะอะก็เอาแต่จุ๊บแก้ม กอดหอม คลอเคลียกันตั้งแต่บ่ายยันเย็น โดยไม่รู้จักนึกสงสารหรือเห็นใจอดีตคนเคยรักอย่างจิรายุบ้างอิงรดายืนมองคนทั้งสองคนยืนกอดกันกลมเต้นรำใต้แสงโคมไฟอยู่ตรงหน้า ส่วนจิรายุก็เดินเข้าไปเปิดเบียร์ขวดใหม่ออกมากระดกดื่ม แน่นอนว่าสิ่งที่อิงรดาเห็นจากจิรายุคือเขามีแต่ความเจ็บช้ำ หากขอได้เธออยากจะมีพรวิเศษที่จะสามารถช่วยปัดเป่าความเจ็บปวดให้หายไปจากเขา"นี่เจตน์ แกพาน้องอิงมาเต้นรำด้วยกันสิ เพลงเพราะขนาดนี้โรแมนติกเวอร์มากแม่" นพนนท์ตะโกนเบาๆและหันกลับมามองทางที่เธอและจิรายุนั่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล"ไม่ล่ะ ฉันมันไม่ใช่ผู้ชายโรแมนติก แกเต้นกันกับผัวแกไปเถอะ""เศร้าไปมันก็ไม่มีอะไรดีขึ้น สู้ทำตัวใหม่ให้ไฉไลและสดใสขึ้นให้เขาเสียดายเล่นไม่ดีกว่าเหรอ" นพนนท์ยังคงตื้อไม่หยุดและดูเหมือน
เมื่อช่วยกันวิ่งเก็บข้าวเก็บของจนตัวเปียกฝนหมดแล้ว ทีนี้ทุกคนก็ต่างว่าเป็นอันได้แยกย้ายตัวใครตัวมันเพื่อไปอาบน้ำ นพนนท์และสามีของเขานั้นพักอยู่กันที่ชั้นบน ส่วนเธอและจิรายุอยู่ห้องติดกันที่ชั้นล่างอิงรดาอาบน้ำอาบท่าเสร็จแล้วจึงออกมานั่งเป่าผมและคิดอะไรไปพลางๆ มิวายใบหน้าและสัมผัสของจิรายุก็ยังตามมาหลอกหลอนเข้าอีกจนได้ จนกระทั่งได้ยินเสียงเคาะประตู ก๊อกๆ อย่าบอกนะว่า.."นอนหรือยังอิง""ยังค่ะ คือว่าหนูพึ่งอาบน้ำเสร็จ คุณเจตน์มีอะไรคะ""พึ่งสองทุ่มครึ่งเอง ฉันนอนไม่หลับ""แล้ว?""ขอเข้าไปคุยด้วยหน่อย"จากนั้นจิรายุก็เดินดุ่มๆเข้ามาหน้าตาเฉย ทำเอาอิงรดาที่ทำท่าว่าจะอ้าปากห้ามเอาไว้เพราะยังไม่หายจากอาการใจเต้นเมื่อจิรายุพาตัวเองเข้ามาอยู่ใกล้ๆอีกถึงกับต้องรีบหุบปากไป"ทำอะไร เป่าผมอยู่เหรอ""ค่ะ หนูกำลังไดร์ผมอยู่""มานั่งสิเดี๋ยวเป่าให้""หือ คุณเจตน์เนี่ยนะคะเป่าผมเป็น" อิงรดายังคงยืนงงและมองหน้าจิรายุตาปริบๆ เพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะมาไม้ไหน ตอนเย็นก็ทำเอาเธอใจเต้นไปทีหนึ่งแล้ว ส่วนตอนนี้ก็ดันบุกเข้าห้องเธอมาเฉยๆเพื่อที่จะมาไดร์ผมให้"ยืนงงอะไร มานั่งลงสิ""มันเอ่อจะดีเหรอคะ หนูว่ายังไง
จิรายุใจเต้นโครมครามทันทีที่อิงรดาเปิดหน้าเว็บไซต์หนังรักผู้ใหญ่ขึ้นมา ในขณะที่คนข้างๆยังคงนั่งนิ่งหน้าตาเฉย แต่หลายส่วนในร่างกายของเขากำล้งเริ่มมีอาการ "คุณเจตน์ชอบแบบไหนคะ""แบบไหนก็ได้ ฉันแล้วแต่เธอ"อิงรดาเลื่อนมือกดเลื่อนขึ้นลงไปช้าๆ แถมยังมิวายหันมาถามเอาความเห็นจากเขาอีกด้วยว่าเรื่องนั้นหรือว่าเรื่องนี้ดีไหม เขาก็เลยจำต้องช่วยตอบส่งๆไป จากนั้นคลิปวีดีโอที่เลือกก็ถูกเปิด"เธอชอบแบบนี้เหรอ" "ปละ เปล่านะคะ หนูก็แค่กดมั่วไปเฉยๆ"แล้วจากนั้นทั้งภาพและเสียงก็พากันปรากฎขึ้นมาทันทีที่นิ้วอิงรดากดคลิกลงไป เขาและเธอต่างคนต่างก็ไม่มีใครขยับ ราวกับว่าถ้าพลาดสายตาไปเพียงเสี้ยววินาทีเดียวแล้วจะทำให้พลาดเนื้อหาสำคัญสำหรับอิงรดาตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้างเขาไม่รู้ แต่สำหรับเขานั้นความอดทนมันใกล้จะหมดลงไปทุกที ช่วงจังหวะทำนองรักที่สองชายหญิงนั้นบรรเลง สร้างความปั่นป่วนให้เกิดขึ้นภายในกายของจิรายุ ความร้อนประทุระอุเพิ่มขึ้นด้วยฝีมือของคนข้างๆที่ยังนั่งเฉยเป็นทองไม่รู้ร้อนภาพคู่ชายหญิงชาวเอเชียคู่หนึ่งกำลังทำการผลัดเปลี่ยนกันเล้าโลม เสียงครางที่ทั้งสองเปล่งออกมาชักชวนพาให้เธอและเขาใจหวิว จิรายุสู
ทันทีที่แผ่นหลังแตะลงบนที่นอน ชุดนอนตัวเบาของอิงรดาก็เริ่มถูกถอด แม้ภายในหัวของอิงรดากำลังอื้ออึงกับรสจูบและสัมผัสอันเร่าร้อน แต่ก็ยังมิวายเกิดคำถามต่างๆขึ้นมากมายถึงสิ่งที่จิรายุกำลังทำ'จิรายุกำลังจะทำอะไร ทดสอบทฤษฎีหนังรักที่พึ่งเรียนมาจากห้องของเธอเมื่อครู่อยู่จริงๆ หรือว่า ทดสอบสภาพจิตใจตัวเองว่าจะสามารถสัมผัสแตะเนื้อต้องตัวผู้หญิงแบบเธอได้ไหม แต่ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลข้อใดข้อหนึ่ง เธอก็..พร้อมที่จะสนับสนุน'อิงรดาและจิรายุต่างคนก็ต่างราวกับว่าตกอยู่ในสภาวะลืมตัว ยามเมื่อคนตัวใหญ่สอดลิ้นเข้ามาเกาะเกี่ยว อิงรดาก็คอยแต่จะพะเน้าพะนอน้อมรับ กายสาวร้อนรุ่มและสั่นนิดๆ ยามใดที่เขาลูบสัมผัส ยามนั้นอิงรดาก็แอบหลุดเสียงครางออกมาแผ่วเบา"คะ..คุณเจตน์""หืม""คุณเจตน์ อยากจะลองทำมันไหมคะ"จังหวะที่ฝ่ามือใหญ่กำลังคลึงเค้นไปบนหน้าอกอวบอย่างลืมตัวและใบหน้าเขานั้นก็กำลังซุกไซ้ไปทั่วซอกคอกรุ่น พอได้ยินสิ่งที่อิงรดาเอ่ยเอื้อนออกมา ทำเอาสติสัมปชัญญะของจิรายุที่ในตอนแรกเกิดหายไปก็วิ่งก็สว่างวาบขึ้นไม่ เขาไม่สามารถทำมันได้ ไม่สิ..อันที่จริง ถ้าเขาจะทำก็สามารถทำมันได้ แต่ว่า..ไม่ควร อิงรดากำลังเข้าใจเขาผ
หลังจากตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดอันอบอุ่นในตอนหกโมงเช้า อิงรดาก็ค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นเพื่อที่จะได้รีบกลับห้องตัวเองก่อนที่นพนนท์หรือสามีจะมาเห็นเข้า ไม่เช่นนั้นคงไม่รู้ว่าจะต้องอธิบายว่ายังไง เหตุใดทำไมตัวเองถึงได้ออกมาจากห้องจิรายุในเวลานี้ "ทำไมตื่นเช้าจัง""หนูว่าจะกลับห้องหน่อยค่ะ เดี๋ยว..เอ่อ""กลัวคนอื่นเห็นเหรอว่ามานอนที่ห้องฉัน""แล้วคุณเจตน์ไม่กลัวเหรอคะ""กลัวทำไม ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด โสดก็โสด แฟนก็ไม่มี อีกอย่างเมื่อคืนเธอก็เป็นคนบอกเองว่า 'ฟีลเพื่อนสาว' ไม่ใช่เหรอ นี่ฉันก็กำลังนอนกอดเธอสบายๆเลย ไม่น่ารีบตื่น" อิงรดาถึงกับเหนื่อยใจเมื่อหันไปมองหน้าคนที่มองเธอยิ้มๆด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ นี่จิรายุไม่รู้สึกว่ามันออกจะแปลกๆบ้างเลยหรือไงกับสิ่งที่เขากับเธอเผลอไผลกันไปเมื่อคืนด้วยความรู้สึกที่มันผสมเสปนเปกันในหลายๆอย่าง แต่สำหรับเธอนั้น พอเวลาที่มีสติครบถ้วนสมบูรณ์ดีทุกอย่างแล้ว ก็ชักจะเขินๆอายๆยังไงก็ไม่รู้"เอ่อ หนูว่าเอาไว้เราค่อยมานอนด้วยกันอีกก็ได้ค่ะ..เจ่เจ้""เจ่เจ้?" จิรายุถึงกับต้องเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถามเมื่อได้ยินสรรพนามใหม่ที่อิงรดาเอ่ยเรียก คราวนี้จะมา เจ่จ้งเจ่เจ้อะไรอีกล่ะ "ก
อิงรดากลับมาที่ห้องด้วยหัวใจที่ตื่นตระหนกไม่หยุด ไม่รู้ว่าเมื่อกี้ในห้องของจิรายุ ทำไมตัวเองถึงได้ใจกล้าพูดจาอะไรแบบนั้นออกไป รู้เพียงแค่ว่ามันทำให้หัวใจเธอเต้นแรงจนรู้สึกดี หรือเป็นเพราะว่าความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวลที่กำลังเกิดขึ้นนี้จะคือ..ความรัก ไม่จริงใช่ไหม นี่เธอกำลังตกหลุมรักจิรายุอย่างนั้นหรือ แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน ในเมื่อจิรายุนั้นไม่ได้ชอบผู้หญิง หรือว่าเป็นเธอเองที่กำลังสับสน จากตอนแรกที่ยังมีเพียงแค่ความรู้สึกสงสาร ไฉนเลยจึงได้พัฒนาเปลี่ยนมาเป็นความรักเฉยอิงรดานั่งทบทวนตัวเองไปสักพัก จนกระทั่งได้ยินเสียงนพนนท์และกับสามีพูดคุยกันอยู่ข้างนอก วันนี้จิรายุบอกว่าจะต้องตามนพนนท์เข้าไปดูมุกในฟาร์ม อิงรดาจึงพยายามดึงสติตัวเองให้กลับมาใหม่ แล้วจึงได้ผละเดินไปเข้าห้องน้ำอย่างเร็วหลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ออกไปข้างนอก บนโต๊ะอาหารมีสามีของนพนนท์และจิรายุนั่งกันอยู่ก่อนแล้ว หากแต่นพนนท์ยังคงเตรียมอาหารเช้าตรงไอส์แลนด์ครัวที่เปิดกว้างจนสามารถมองเห็นทะลุเข้าไปได้อยู่"Good morning ค่ะทุกคน ขอโทษทีค่ะอิงแต่งตัวช้าไปหน่อย"อิงรดาสามารถมองไปที่นพนนท์และสามีของนพนนท์ได้อย่างเต็มตา ห
"หนูท้องจริงๆด้วยค่ะคุณเจตน์""อะไรนะ นี่พูดจริงหรือเปล่าอิง""สองขีดชัดเจนขนาดนี้โกหกได้ด้วยเหรอคะ"อิงรดาชูแผ่นตรวจการตั้งครรภ์ที่ปรากฎสัญลักษณ์สองขีดที่อยู่ในมือชููยื่นให้จิรายุดู ช่วงสองสามอาทิตย์ที่ผ่านมานี้เธอมีอาการแปลกๆ เอาแต่เวียนหัวหงุดหงิดวิงเวียนเป็นว่าเล่น ดึกๆดื่นๆก็ชอบตื่นลุกขึ้นมาหาอะไรกินทั้งที่นอนหลับไปแล้ว จนจิรายุเองยังเคยแอบแซวว่าสงสัยเธอคงจะท้องแล้วแน่ๆยิ่งพอได้ย้ายมาอยู่ด้วยกัน รายนั้นก็ชอบจับเธอกินทั้งเช้าและค่ำ บางทีดึกดื่นค่ำมืดกว่าจะได้หลับได้นอนก็ปาไปเกือบค่อนคืน ทั้งทีเธอเองก็บอกไปแล้วว่าให้เขาเพลาๆลงหน่อย งานแต่งก็ยังไม่ได้จัด กว่าจะถึงฤกษ์ก็ต้องรออีกตั้งสองเดือนถึงจะถึงวันที่คุณกนกวรรณหาเอาไว้ให้ เธอเลยกลัวว่าป่านนั้นตัวเองจะได้ท้องโย้ก่อนเข้าพิธีแต่งงาน"เย้!ในที่สุดลูกพ่อก็มาสักที แบบนี้ต้องประกาศให้โลกรู้ว่าจิรายุก็มีน้ำยา นึกว่าจะต้องอับอายขายขี้หน้าคนแถวนี้เสียแล้วว่าฉันทำลูกไม่เป็น"จิรายุกระโดดเย้วๆอยู่สามสี่ทีก็วิ่งกลับมาอุ้มเธอขึ้นหมุนไปรอบๆ อิงรดาอดขำไม่ได้ที่จิรายุยังจำได้อยู่ว่าเธอแกล้งล้อเขาว่าอะไร เพราะตั้งแต่ที่ตั้งใจมีอะไรกันไปแบบไม่มีกา
"แกต้องรับผิดชอบยายอิง"นั่นคือคำประกาศิตที่คุณกนกวรรณพึ่งจะประกาศออกไป อิงรดายังคงนั่งก้มหน้าโดยมีจิรายุหลานชายของเธอนั่งจับมือไว้ คงจะเป็นเพราะว่าเด็กนั่นกลัวทำให้เธอและผู้เป็นยายผิดหวังเสียใจ จึงไม่กล้าเงยหน้าสบตา หากแต่ว่าความจริงเป็นอย่างไร คงจะมีแต่เธอเท่านั้นที่รู้อยู่เต็มอก นึกย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน ตอนที่เธอยังคงส่งนักสืบเฝ้าติดตามดูความเคลื่อนไหวของอดีตสามีที่ย้ายออกจากบ้านไปอยู่กับภรรยาใหม่ ซึ่งก็คือ นันที อดีตแม่บ้าน ด้วยความที่ยังคงรักและเป็นห่วง บวกกับที่เธอได้ข่าวมาว่าพักหลังมานี้อดีตสามีสุขภาพไม่ค่อยจะดีนักและออกไปไหนไม่ค่อยได้ ทำให้ฝ่ายหญิงนั้นแอบลักลอบมีความสัมพันธ์กับชายคนใหม่ และไม่ได้ใส่ใจดูแลอดีตสามีของเธออย่างที่ควรจะเป็น จนอดีตสามีของเธอรู้เข้าก็เริ่มตรอมใจ เธอเองด้วยความที่อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาหลายปี บอกตามตรงก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ เลยยังแอบดูแลให้ความช่วยเหลือในฐานะเพื่อนเก่า โดยที่ไม่เคยเอ่ยปากบอกให้ใครรู้แต่พอสืบไปสืบมา นอกเหนือจากเรื่องสามี ความจริงบางอย่างที่เธอได้รับรู้เพิ่มมาอีกอย่างด้วยก็คือ พ่อหลานชายตัวดี ยังคงติดต่อคบหากับเอมมิกาลูกสาวของนันที
ไม่ใช่แค่อิงรดาที่หน้าเหวอ แต่เอวารินที่โทรมาอยู่ในสายก็หน้าเหวอตกใจไปตามๆกัน แถมฝ่ายนั้นยังจะถามจิรายุซ้ำเพื่อความแน่ใจอีกต่างหาก จนได้ฟังคำตอบรอบที่สองของจิรายุไป ทำเอาอิงรดาถึงกับต้องรีบแย่งโทรศัพท์มือถือที่ถูกจิรายุแย่งไปคืนกลับมา'น้องแอลฟังไม่ผิดหรอกครับ พี่บอกว่าอิงเป็นแฟนพี่ หรือว่าจะเอาให้ชัดๆเลยก็คือ อิงเป็นเมียพี่ครับ'"คุณเจตน์พูดแบบนั้นกับคุณแอลไปได้ยังคะ""ทำไมล่ะ ก็ในเมื่อฉันพูดความจริง หรือเธอจะเถียงอีกว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน"จิรายุหน้ายุ่งคิ้วยุ่งสวนกลับคนตัวเล็กทันทีที่เธอแหวมา ก็จะให้เขาทำยังไงได้ล่ะ ยอมทนเห็นแฟนตัวเองถูกคนอื่นจีบเฉยๆอย่างนั้น ถึงแม้ว่าคนๆนั้นจะเป็นผู้หญิงก็ตามอย่างนั้นเหรอ คงไม่ใช่เขาล่ะ คอยดูเถอะ นี่ขนาดยังไม่ได้คบกันออกหน้าออกตาเขายังหวงเธอขนาดนี้ วันไหนที่มีโอกาสได้ประกาศความเป็นเจ้าของขึ้นมา รับรองว่าอิงรดาจะไม่มีทางได้เหลียวมองใคร"แต่ตอนนี้เราก็ยังไม่ได้เป็นอะไรกันจริงๆนี่คะ"อิงรดาน้ำเสียงอ่อนลง แถมยังทิ้งตัวนั่งลงไปบนเตียงราวกับว่าหมดอะไรตายยาก ในเมื่อตอนนี้เธอเองไม่สามารถแสดงสิทธิ์ในการครอบครองเขาได้ เพราะฉะนั้นเรื่องสถานะความสัมพันธ์ระหว
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังสนั่นก้องอยู่ภายในห้องครัว ยิ่งอิงรดาส่งเสียงกระเส่าครวญครางออกมาเท่าไหร่ เเรงกระแทกที่ถูกส่งไปก็ยิ่งมีมากเพิ่มขึ้นเท่านั้น ทันที่ผละออกจากริมฝีปากหวานได้ สายตาคมของเขาก็ก้มจ้องลงมายังจุดสอดประสาน อิงรดามองภาพจิรายุซี๊ดปากหน้านิ่วที่เกิดจากการกระทำร่วมกันของเขาและเธอก็เกิดความเสียวซ่านบวกกับความอาย จิรายุเองก็เลือกที่จะมองสลับกันบนล่าง ใบหน้างดงามที่กำลังเสียวซ่านของอิงรดา สลับกับจุดเชื่อมประสานกลางกาย"อ่าส์ แน่นดีมากๆเลยอิง ได้มองหน้าเธอสลับกับมองนมไปด้วยแบบนี้ ขยับแค่ไม่กี่ทีฉันก็เกือบจะเสร็จแล้ว""แน่ใจเหรอคะว่าคุณเจตน์มองแค่หน้าหนูแล้วก็มองนม หนูเห็นว่าคุณเจตน์ชอบมองลงไป..ข้างล่าง""ก็อันนั้นฉันก็อยากเห็นไงว่าร่างกายของเราสองคนเข้ากันได้ดีมากแค่ไหน ว่าแต่เธอยังเจ็บอยู่อีกหรือเปล่า""ไม่เจ็บแล้วค่ะ ตอนนี้มีแต่..เสียว"อิงรดายิ้มหวานตาหยี พร้อมกับใบหน้ายู่ยี่แล้วจึงแลบลิ้นน้อยๆออกมา พอจิรายุเห็นเข้าก็รีบตามเข้าไปประกบดูดปากอย่างไว ในขณะที่สะโพกแกร่งยังคงซอยขยับเรียกเสียงครางหวานๆ อิงรดาปล่อยตัวปล่อยใจไปกับความสุขที่จิรายุมอบให้ จนเผลอปล่อยเสียงครางออกมาเป็นที
"แล้วคุณเจตน์กับพี่เอม เอ่อ คบกันมานานแล้วเหรอคะ""อื้ม เป็นสิบปีแล้ว แต่ก็คบๆเลิกๆ บางทีเลิกกันไปปีสองปีแล้วก็กลับมาคบกันใหม่ ฉันเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงได้ตัดเอมออกไปจากชีวิตจริงๆไม่ได้บางทีก็อาจจะเป็นเพราะว่า เราเป็นคนแรกของกันและกัน""คุณเจตน์กับพี่เอม เป็นคนแรกของกันและกัน" อิงรดาเผลอพูดย้ำซ้ำคำนั้นออกมาเสียงเบา ราวกับว่าสิ่งนั้นกำลังสร้างความเจ็บปวดให้กับเธออยู่ลึกๆ ดวงตากลมโตกระพริบปริบๆน้อยๆสามสี่ทีเพื่อไล่เอามวลน้ำตาที่กำลังทำท่าว่าจะเอ่อทะลักขึ้นมา กระนั้นถ้าหากตอนนี้เขาได้จ้องมองเข้ามาในดวงตาก็คงจะเห็นได้ถึงร่องรอยความแดงของมัน"เธอหึงฉันเหรออิง น้อยใจฉันอยู่หรือเปล่า""ปละ เปล่านี่คะ""แต่ถ้าเธอจะบอกว่าหึงแทนคำว่าเปล่า คำนั้นมันอาจจะทำให้ฉันดีใจมากกว่าก็ได้นะ"จิรายุเองก็มองมาที่เธอตาละห้อยสร้อยเศร้า ทั้งในใจก็ยังเอาแต่ครุ่นคิดว่าความรู้สึกที่อิงรดามีต่อตนเองนั้นจะใช่ความจริงหรือเปล่า หากแต่ก็ทำได้เพียงแค่เว้าวอนว่าขอให้เธอชอบเขาจริงๆ เพราะตอนนี้ตัวเขานั้นสามารถพูดได้อย่างเต็มปากแล้วว่า เขาชอบเธอ"คุณเจตน์ อยากให้หนูรู้สึกอย่างนั้นจริงๆเหรอคะ""อื้ม อยาก เพ
'ถ้าเธออยากจะยกเลิกเรื่องที่เคยตกลงกันไว้ก็ได้ แต่ระหว่างนี้ห้ามกินยาคุมฉุกเฉินเด็ดขาด รอจนกว่าประจำเดือนจะมา ถ้าประจำเดือนมาเธอก็รอดตัวไป แต่ถ้าไม่ เราก็ต้องมาตกลงกัน'อิงรดานั่งเหม่อกับข้อเสนอแกมคำสั่งล่าสุดของจิรายุอยู่ที่บริเวณใต้ร่มไม้หน้าบ้านอย่างหมดไร้ซึ่งหนทางและไม่เข้าใจเลยว่าจิรายุจะบังคับเธอไปทำไม ในเมื่อการมีลูกกับเธอนั้นก็ไม่ได้ใช่สิ่งที่เขาต้องการ เพราะการที่เธอยอมตกลงทำเรื่องอะไรกับเขาแบบนี้ตั้งแต่เริ่มแรกเลยนั้นก็คือความต้องการของคุณกนกวรรณต่างหาก บวกกับความสงสารและแอบมีเขาเข้ามาอยู่ในใจ ด้วยความที่อยากจะมีเขาอยู่ใกล้ๆ เลยทำให้เธอยอมรับปากอะไรออกไปแบบนั้น การที่เธอยินยอมที่จะปล่อยให้เลือดเนื้อเชื้อไขของเขาได้เข้ามาเจริญเติบโตในร่างกายของเธอได้ นั่นก็เป็นเพราะว่า เธอรักเขา แล้วเขาล่ะ รักเธอก็ไม่ได้รัก ในเมื่อตัวเองก็ไม่ได้ผิดเพศผิดปกติอะไรเสียหน่อย ทำไมถึงต้องรั้งเธอไว้ด้วยเรื่องแบบนี้ ไม่รู้บ้างเลยหรือไงว่าแค่นี้เธอก็เจ็บเจียนตายอยู่มะรอมมะร่อแล้วภายใต้ความทึบของม่านกรองแสงผืนยาวบนชั้นสอง เรือนร่างสูงใหญ่ยืนเอียงตัวพิงบานกระจกหนามองทะลุผ่านเงาสะท้อนออกไปยังด้านนอก เพื
ไม่รู้ว่าทำอะไรลงไปบ้าง อิงรดาไม่รู้ตัวเลยสักนิดด้วยซ้ำว่าเผลอเอื้อมมือไปเปิดประตูให้เอมมิกาเข้ามาในบ้านตั้งแต่ตอนไหน รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เดินกลับเข้ามาในบ้านแล้วได้ยินเสียงของเอมมิกาพยายามเสียงดังแข่งใส่จิรายุอยู่"แต่เอมไม่เลิก! เจตน์คบกับเอมมาถึงขนาดนี้แล้ว เอมเสียเวลาชีวิตไปเป็นสิบๆปีก็เพราะว่าเจตน์มัวแต่เกรงใจป้า เอมต้องการเจตน์คืน ยังไงเจตน์ก็ต้องกลับมาคบกับเอมเหมือนเดิม""เลิกพูดอะไรที่มันเป็นไปไม่ได้ได้แล้วนะเอม คุณเลิกกับผมแล้วแต่งงานใหม่ไปแล้ว ตอนนี้จะมาอยากทวงผมคืน คุณบ้าไปแล้วหรือเปล่าฮะ""เอมไม่ได้บ้า แต่เอมแค่อยากมาขอโอกาสเจตน์อีกครั้ง เอมคิดถึงเจตน์ ที่เอมต้องแต่งงานไปก็เพราะว่าแม่บังคับเอม ความจริงเอมไม่เคยรักผู้ชายคนนั้นเลย เอมรักเจตน์""แต่ผมไม่ได้รักคุณแล้วเอม ผมรักคนอื่น""คนอื่นของเจตน์ คืออีนังเด็กอิงรดาเนี่ยเหรอ เจตน์อย่าคิดนะว่าคืนนั้นเอมไม่เห็นว่าคุณนั่งจูบกันกับมันอยู่ที่ริมหาด""แล้วไง ผมกับคุณเลิกกันไปแล้ว ผมจะไปกอดใครจูบใครมันก็เรื่องของผมเอม"และอีกร้อยล้านถ้อยคำสารพัดสารเพที่ยังพากันหลั่งไหลเข้ามาในหูของอิงรดาผู้น่าสงสาร เธอไม่ได้เดินกลับเข้าไปในบ้าน หากเ
ในที่สุดอิงรดาก็ทำใจกล้าเปิดประตูออกไปได้เสียที หลังจากที่ยืนสวดมนต์ทำใจอยู่เสียนาน พอจิรายุบอกว่าจะเป็นฝ่ายเปิดออกไปเองก็ไม่ยอม บานประตูค่อยๆเปิดกว้างออกขึ้นทีละน้อย จนในที่สุดจิรายุทนไม่ไหวจึงได้เบียดตัวออกไปยืนอยู่หน้าห้องทันทีนาทีนั้นอิงรดาแทบจะอยากกรี๊ดออกมาดังๆแต่ก็ทำไม่ได้ ในเมื่อตกลงกันแล้วว่าเธอจะเป็นฝ่ายเปิดออกไปก่อนเพื่อดูลาดเลาแล้วเขาค่อยตามเธอไป เพราะถ้าหากว่าแถวนั้นมีใครอยู่ เธอจะได้เบี่ยงเบนความสนใจให้จิรายุออกมาได้ แต่พอออกมา ปรากฎว่าบ้านทั้งหลังนั้นกลับว่างเปล่า อิงรดาชะเง้อหน้ามองหาคนในบ้าน แต่ก็ไม่เจอใครเลย "เห็นไหม ไม่เห็นมีใครเลย""คุณเจตน์ อย่าพึ่งเสียงดังไปสิคะ"คนตัวเล็กรีบยกมือขึ้นมาจุ๊ปากเป็นสัญลักษณ์ให้จิรายุนั้นพูดเบาๆ แม้ว่าในใจจะคิดว่ามันแปลกมาก แต่อิงรดาก็เลือกที่จะสาวเท้าเข้าไปในครัว เพราะเป็นที่อยู่ประจำของยาย แต่พอเดินเข้าไปแล้วยังคงเห็นแก้วเปล่าใบที่จิรายุนั้นวางเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืนก็เริ่มหน้าแดงขึ้นมา"รู้นะว่าคิดอะไร""หนูเปล่านะ"จิรายุที่เดินตามเข้ามาติดๆ หยุดมองตามทิศทางสายตาที่อิงรดานั้นมองไปก็ได้โอกาสแซวขึ้นมาทันที ยิ่งเดินอ้อมไปข้างหน้าแล้
อิงรดาถูกจิรายุอุ้มหวือตัวลอยขึ้นไปจากพื้น ทันทีที่เขาก้าวเดินพ้นจากห้องครัวออกมา ภายในใจก็ได้แต่ภาวนาขอว่าอย่าให้ใครได้ออกมาพบเห็นหรือเจอะเจอเลย แม้ว่าเปอร์เซ็นความเป็นไปได้จะน้อยมากที่หญิงสูงวัยทั้งสองคนนั้นจะเดินลงมาข้างล่างดึกดื่นป่านนี้ แต่ยังไงเสียเธอก็ยังกลัวอยู่ดี อิงรดากลัวว่าจะทำให้คุณกนกวรรณและผู้เป็นยายผิดหวัง กลัวถูกตราหน้าว่าเนรคุณ แต่หัวใจเจ้ากรรมกลับไม่สามารถที่จะหักห้ามไม่ให้พาเอาตัวเองเข้าไปใกล้จิรายุได้แต่ทันทีที่บานประตูห้องนอนถูกปิด ราวกับว่าเวลานี้โลกทั้งโลกนั้นมีเพียงแค่เธอกับเขาแค่สองคน ยามเมื่อจิรายุวางเธอลงไปบนเตียงนุ่ม อิงรดาก็ใช้มือวาดไปโอบกอดรอบคอแกร่งนั่นให้โน้มลงมาหาแล้วตอบกลับเขากลับด้วยจูบในแบบเดียวกัน ลิ้นร้อนเล็กใหญ่เกี่ยวก่ายพันกันจนแน่น เสื้อยืดของเธอถูกเขาเลิกขึ้นมาจนมากองรวมกันอยู่ที่คอ ในขณะที่เขาเริ่มใช้ฝ่ามือใหญ่สำรวจบีบคลึงไปทั่ว"คุณเจตน์"อิงรดาหลุดครางเสียงหวานออกมาทันทีที่ความอวบงามนั้นถูกเขี่ย สองคู่ชูชื่นพากันแข็งเกร็งตั้งชูราวกับรู้ว่าอีกไม่นานจะต้องถูกจิรายุแวะเข้ามาเยี่ยมชมเสื้อยืดสีขาวถูกเขาถอดออกไปทางศรีษะ ตามด้วยเสื้อยืดสีดำของต