อิงรดากลับมาที่ห้องด้วยหัวใจที่ตื่นตระหนกไม่หยุด ไม่รู้ว่าเมื่อกี้ในห้องของจิรายุ ทำไมตัวเองถึงได้ใจกล้าพูดจาอะไรแบบนั้นออกไป รู้เพียงแค่ว่ามันทำให้หัวใจเธอเต้นแรงจนรู้สึกดี หรือเป็นเพราะว่าความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวลที่กำลังเกิดขึ้นนี้จะคือ..ความรัก ไม่จริงใช่ไหม นี่เธอกำลังตกหลุมรักจิรายุอย่างนั้นหรือ แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน ในเมื่อจิรายุนั้นไม่ได้ชอบผู้หญิง หรือว่าเป็นเธอเองที่กำลังสับสน จากตอนแรกที่ยังมีเพียงแค่ความรู้สึกสงสาร ไฉนเลยจึงได้พัฒนาเปลี่ยนมาเป็นความรักเฉยอิงรดานั่งทบทวนตัวเองไปสักพัก จนกระทั่งได้ยินเสียงนพนนท์และกับสามีพูดคุยกันอยู่ข้างนอก วันนี้จิรายุบอกว่าจะต้องตามนพนนท์เข้าไปดูมุกในฟาร์ม อิงรดาจึงพยายามดึงสติตัวเองให้กลับมาใหม่ แล้วจึงได้ผละเดินไปเข้าห้องน้ำอย่างเร็วหลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ออกไปข้างนอก บนโต๊ะอาหารมีสามีของนพนนท์และจิรายุนั่งกันอยู่ก่อนแล้ว หากแต่นพนนท์ยังคงเตรียมอาหารเช้าตรงไอส์แลนด์ครัวที่เปิดกว้างจนสามารถมองเห็นทะลุเข้าไปได้อยู่"Good morning ค่ะทุกคน ขอโทษทีค่ะอิงแต่งตัวช้าไปหน่อย"อิงรดาสามารถมองไปที่นพนนท์และสามีของนพนนท์ได้อย่างเต็มตา ห
ร้านบ้านหว้า เป็นทั้งร้านอาหาร มีบาร์เครื่องดื่ม และบาร์แดนซ์อยู่ในที่เดียวกันตั้งอยู่ริมทะเล ทีแรกจิรายุเปลี่ยนใจว่าจะไม่มา เพราะอยากให้นพนนท์และจิมมี่ได้ใช้ช่วงเวลาระลึกถึงวันเก่าๆด้วยกันสองคนมากกว่า แต่ก็ถูกสองสามีภรรยานั้นลากเขาและเธอให้ตามมาจนได้ด้วยเหตุผลที่ว่าคืนนี้มีงานปาร์ตี้พระจันทร์เต็มดวง ไปด้วยกันหลายคนสนุกกว่าบรรยากาศในร้านคืนนี้นั้นแสนจะคึกคัก ไม่ว่าจะเป็นเพราะว่าคืนนี้คือวันสุดสัปดาห์หรือว่าคนจากทุกที่ตั้งใจมารวมตัวกันเพราะงานปาร์ตี้พระจันทร์เต็มดวงที่ริมชายหาดที่มองเห็นอยู่ไกลๆ"เอาไว้ทานดินเนอร์เสร็จ แล้วพวกเราไปแจมปาร์ตี้ตรงโน้นกันนะ"นพนนท์ชี้ไม้ชี้มือไปทางที่มีกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติยืนรวมตัวกันเป็นกระจุกใหญ่ไม่ใช่เพียงแค่ดินเนอร์ที่ถูกจัดเต็ม พอยิ่งดึกเข้าบรรดาค็อกเทลหลายต่อหลายแก้วก็ต่างทยอยนำมาเสิร์ฟตามที่คู่สองสามีภรรยาสั่ง อิงรดาเองก็ซัดไปเสียหลายแก้ว ในขณะที่แน่นอนว่าจิรายุนั้นยกเข้าไปมากกว่า ดื่มไปดื่มมาก็ไม่รู้ว่าสองสามีภรรยาคู่นั้นพากันหายไปไหน เพราะมัวแต่หันไปมองทางด้านที่มีงานปาร์ตี้อยู่ พอหันกลับมาอีกที โต๊ะทั้งโต๊ะก็เหลือเพียงแค่เธอกับจิ
หลังจากที่นั่งแลกจูบกันจนน้ำลายแห้ง อิงรดาจำเป็นต้องหยุดจิรายุไว้ด้วยการขอตัวไปเข้าห้องน้ำ หลังๆมาจูบของเขาชักจะหนักหน่วงเกินไป มือไม้ลูบไล้ไต่ไปตามเนื้อตัวจนทำเอาเธอแทบเกือบหายใจหายคอไม่ทัน เลยจำเป็นจำใจต้องหยุดความหื่นกระหายของเขาเอาไว้ก่อนที่จะกลายเป็นจุดสังเกตของผู้คนที่เดินผ่านมาผ่านไป ซึ่งถึงแม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติแล้วก็ไม่ได้มีใครแคร์เลยสักนิดว่าจะมีใครมาแอบนั่่งจูบกันอยู่ตรงนี้ก็เถอะ"เดี๋ยวหนูมานะคะคุณเจตน์ หนูปวดฉี่ ขอวิ่งไปเข้าห้องน้ำตรงข้างร้านนี้แปปเดียวค่ะ""ให้ฉันเดินไปเป็นเพื่อนหรือเปล่า ยิ่งตอนนี้มีแต่คนเมาด้วย ฉันว่ามันอันตรายนะ""อันตรายจริงๆด้วยค่ะ นี่หนูก็พึ่งถูกคนเมาขโมยจูบไปจนปากเจ่อเมื่อกี้นี้เอง"จิรายุยิ้มขำกับความประชดประชันของเธอ ก่อนที่อิงรดาจะรีบเดินกึ่งวิ่งตรงไปที่ร้านบาร์เครื่องดื่มที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล ระหว่างที่เดินไปก็อดอมยิ้มให้กับเหตุการณ์ที่พึ่งผ่านมาสดๆร้อนๆไม่ได้ กระทั่งวินาทีนี้เธอเองก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมจิรายุถึงได้ชอบขโมยจูบเธอนัก ถ้าเขาเป็นผู้ชายมาดแมนเต็มร้อยก็ว่าไปอย่าง หากแต่ตัวตนที่จิรายุเป็นนั้นอิงรดาไม่สามารถที่จะเข้าใจได้เหร
"กลับบ้านกันเถอะ ฉันไม่สนุกละ"อิงรดามองจิรายุเดินดิ่งหน้ายุ่งหัวเสียเข้ามาหาเธอก่อนจะฉกจูงข้อมือเธอให้ปลิวตามเขาไป โดยที่เธอยังไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยถาม หากแต่ความสงสัยก็มีมากเกินกว่าที่จะเก็บเงียบเอาไว้ได้"คุณเจตน์คะ เกิดอะไรขึ้น""เรื่องนั้นเธออย่าพึ่งถาม"อิงรดาหน้าจ๋อยลงทันทีที่จิรายุตอบกลับมาอย่างหงุดหงิด ภายในใจเกิดความรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมานิดๆ คล้ายกับอารมณ์ประมาณว่าถูกคนรักหักอก ทั้งที่เมื่อกี้เธอกับเขายังทำราวกับพึ่งจะสวีทหวานอมชมพูกันอยู่แท้ๆ เวลานี้ทุกอย่างกลับดำมืดสนิทลง"แต่คุณนนท์ก็ยังไม่มาเลยนะคะ แล้วคุณเจตน์จะกลับบ้านได้ยังไง""ไม่เป็นไร เดี๋ยวเรียกแท็กซี่กลับ"ว่าแล้วจิรายุก็พาเธอก้าวเดินฉับๆขึ้นมาบนถนนเรียบหาด เขาล้วงมือลงไปในกระเป๋า กดหาข้อมูลเบอร์โทรของแท็กซี่แล้วก็บอกความต้องการไป ไม่นานนักรถแท็กซี่ก็วิ่งมาจอดรับ ระหว่างทางจิรายุนั้นปิดปากเงียบสนิทและไม่ยอมพูดอะไรเลย แถมใบหน้ายังดูเครียดขรึม ราวกับว่าสิ่งที่พึ่งเกิดขึ้นนั้นมีอิทธิพลกับความรู้สึกของเขามากจนกระทั่งในที่สุดอิงรดาก็ยังไม่สามารถรับรู้ได้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร แล้วเข้ามาคุยอะไรกับจิรายุ แต่ที่แน่ๆความรู
ทันทีที่หันหน้ามา จิรายุก็เห็นอิงรดาเขย่งปลายเท้าขึ้นมาจูบงับริมฝีปากของเขาเอาไว้แน่น สองมือเล็กนั่นประกบเข้าที่สองข้างแก้มสาก แล้วเธอก็พยายามสอดแทรกปลายลิ้นเล็กๆให้ทะลุผ่านเข้ามาลีลาการจูบของอิงรดานั้นเป็นไปตามแบบที่เขาเคยสอน คนตัวเล็กที่เคยจูบแบบเงอะงะในวันนั้น ตอนนี้กลับสามารถจูบแบบเรียกร้องเอาความวาบหวามจากส่วนลึกภายในให้เกิดขึ้นทั่วร่างกายของเขาได้ แน่นอนว่าเขาเองก็ชอบจูบนั่นจิรายุคิดว่าตอนนี้เขากำลังถูกอิงรดามอมเมาด้วยรสจูบแสนหวาน พอทนปล่อยให้เธอได้รุกรานไล่ต้อนอยู่เขาอยู่สักพัก จิรายุเองก็เริ่มทนยืนเป็นฝ่ายโดนจูบอยู่ฝ่ายเดียวไม่ไหว จึงได้ยกฝ่ามือใหญ่เลื่อนขึ้นมาจับลงไปที่บนเอวคอดน้อยๆ แล้วหันมาจูบตอบสนองเธอกลับบ้างทั้งเธอและเขาต่างก็มัวเมากันในรสจูบ สองลิ้นร้อนชื้นพัวพันเกี่ยวกระหวัดดูดงับอย่างไม่มีใครยอมใคร จนคลับคล้ายว่าสติแทบจะพร่าเบลอไปจนเกือบจะลืมตัว ถ้าไม่ใช่ว่าได้ยินเสียงบานประตูที่ปิดงับลง แล้วลูกบิดก็ถูกกดล็อกลงเสียก่อน แน่นอนว่านั่นไม่ใช่ฝีมือเขา หากแต่เป็นฝีมือของอิงรดา จิรายุยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าคนตัวเล็กข้างหน้ากำลังปลุกเร้าอารมณ์ของเขาให้ตื่นเต็มที่ ร่างกาย
จิรายุที่ตอนแรกตั้งใจว่าจะขอจัดการคนเมา พอเอาเข้าจริง เขากลับเป็นฝ่ายที่กำลังถูกคนเมาจัดการแทน ไม่รู้ว่าอิงรดาไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน ถึงได้จัดการจับเขาให้มานอนหงายโดยที่มีเธอนั่งขี่อยู่บนตัวได้ หรือว่าจริงๆแล้วมันเป็นเพราะตัวเขาเอง ที่เห็น โนม..แล้วดันตาลาย มือไม้สั่นจนไร้เรี่ยวแรงขัดขืน"อิง เมาแล้วนะเราน่ะ รู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังทำอะไรลงไป"อิงรดาไม่ตอบ ได้แต่จ้องเขาตาแป๋วแล้วจากนั้นก็ก้มโน้มใบหน้าลงมาใกล้ๆ เนื้อตัวของอิงรดาข้างบนนั้นเปลือยเปล่าแล้ว จิรายุก็เลยถือโอกาสแอบมองอะไรขาวๆที่ขยับชิดเข้ามาจนใกล้ใบหน้าด้วยอาการใจสั่นเชี่ยจริงๆเลย..แม่งขาวชิ..บหาย"หนูรู้ตัวดีคุณเจตน์ไม่ต้องห่วง ว่าแต่คุณเจตน์เถอะค่ะ กลัวเหรอคะถึงได้ทำหน้าตาตื่นแบบนี้"'อิงเอ๊ย ถ้าผู้ชายที่แมนทั้งแท่งแบบเขากลัวการมีเซ็กซ์ล่ะก็ เธอคงไม่โดนเขาจูบไปตั้งหลายครั้งหลายทีหรอก ทั้งทีตัวเองตอนโดนเขาจูบแรกๆยังออกอาการเงอะงะตัวสั่นอยู่เลยแท้ๆ ตอนนี้กลับเก่งกล้าถึงขนาดที่จะเป็นฝ่ายปล้ำเขาเองก่อนแล้ว'"ก็มันน่าไหมล่ะ ดูเธอสิอยู่ๆเธอก็ขึ้นมานั่งแก้ผ้าอยู่ตรงหน้าแบบนี้ ใครเห็นก็ต้องตกใจ""ไม่ต้องกลัวหรอกนะคะคุณเจตน์ขา หนูว
"เจ็บจังเลยค่ะคุณเจตน์ขา""ครั้งแรกก็เจ็บแบบนี้แหละเด็กน้อย เอาไว้ถ้าเราทำกันบ่อยๆเดี๋ยวเธอก็ชินเอง""หมายความว่าคุณเจตน์ยังอยากจะทำมันกับหนูอีกเหรอคะ""ไม่ได้เหรอ""ดะ ได้สิคะ หนูตามใจคุณเจตน์"สงสัยว่าอิงรดาจะหายจากอาการเมาแล้วแน่ๆ แก้มนวลขาวถึงได้เปล่งแดงขึ้นมาแบบนี้ จิรายุสังเกตได้ว่าเธอกำลังอาย แต่เหนือสิ่งอื่นใดร่างกายของเขาก็กำลังเสียวซ่านทรมานอยู่ภายในตัวเธอ อิงรดาทั้งตอดรัดเขาจนแน่น หากแต่มันก็ยังพอไหลลื่นจนขยับได้"เริ่มหายเจ็บบ้างหรือยัง""ค่ะ ระ..เริ่มหายเจ็บแล้ว อ๊ะ""ถ้าหายเจ็บแล้ว ก็แสดงว่า..เสียว ถ้าเสียวก็ต้องร้องครางออกมาดังๆ""คุณเจตน์พูดแบบนี้หนูก็เขินนะคะ""ไม่ทันแล้วมั้ง จะมาเขินทำไมตอนนี้ ทีเมื่อกี้แก้ผ้าโทงๆยังไม่เห็นอาย""ก็เมื่อกี้หนูเมานี่คะ""งั้นวันหลังก็เมาอีกนะ เวลาเธอเมาเเล้วเซ็กซี่ดีจะตาย"จากนั้นจิรายุก็แสดงให้อิงรดาได้เห็นว่าความต้องการของเขาที่มีต่อเธอนั้นมีมากมายเพียงใด สองชั่วโมงเต็มที่จิรายุยังคงไม่มีท่าทีว่าจะหยุด จนกระทั่งด้านนอกมีเสียงรถยนต์กลับเข้ามาจอด ทุกอย่างจึงค่อยๆเบาลงและเงียบเสียงไป"นนท์กลับมาแล้ว อย่าพึ่งร้องนะเดี๋ยวมันได้ยิน"ชั่วจั
พอตื่นเช้ามาอิงรดาก็พบว่าจิรายุนั้นเก็บกระเป๋าเดินทางออกมายืนรอที่หน้าระเบียงบ้านแล้ว สายตาของเขาพุ่งมองตรงไปยังฝืนทะเลข้างหน้า และพอหันกลับมาเห็นเธอเข้า เขาก็ไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ นี่เขาคงยังโกรธเธอเรื่องเมื่อคืนอยู่อีกใช่หรือเปล่า อิงรดาจึงได้ลองขยับเดินเข้ามาใกล้ๆ แต่แล้วเขาก็ทำท่าว่าจะขยับตัวและหันหน้าหนี แน่นอนว่าท่าทางแบบนี้คงโกรธเธอชัวร์"คุณเจตน์ โกรธหนูเหรอคะ" อิงรดาลองถามเสียงเบา แต่กลายเป็นว่าเขายังคงเงียบและไม่ยอมตอบ ท่าทางยืนนิ่งสายตาปักหมุดมองไปข้างหน้า นี่เขาจะรู้บ้างไหมว่าเมื่อคืนเธอเองก็ไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้ เพราะภายในใจเอาแต่คิดย้อนวนไปถึงเรื่องที่พึ่งเกิดขึ้นระหว่างเขาและเธอ โดยมีตัวเธอนั้นเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ถึงกระนั้นอิงรดาเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองใจกล้าหน้าด้านทำอะไรแบบนั้นไป แม้ว่าจะไม่ได้คิดเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย แต่อาการท่าทีที่จิรายุเป็นอยู่นี่ต่างหากที่เธอทำให้เธอไม่สบายใจ"ตกลงเรื่องที่ฉันถามไปเมื่อคืนเธอตัดสินใจว่ายังไง ถ้าไม่คิดจะช่วย ต่อไปก็อย่าเข้ามาใกล้ฉันอีก"จิรายุพูดขณะที่ยืนเท้าสะเอวมองหันหน้าไปทางอื่น อิงรดาได้แต่มองตามแผ่นหล
"หนูท้องจริงๆด้วยค่ะคุณเจตน์""อะไรนะ นี่พูดจริงหรือเปล่าอิง""สองขีดชัดเจนขนาดนี้โกหกได้ด้วยเหรอคะ"อิงรดาชูแผ่นตรวจการตั้งครรภ์ที่ปรากฎสัญลักษณ์สองขีดที่อยู่ในมือชููยื่นให้จิรายุดู ช่วงสองสามอาทิตย์ที่ผ่านมานี้เธอมีอาการแปลกๆ เอาแต่เวียนหัวหงุดหงิดวิงเวียนเป็นว่าเล่น ดึกๆดื่นๆก็ชอบตื่นลุกขึ้นมาหาอะไรกินทั้งที่นอนหลับไปแล้ว จนจิรายุเองยังเคยแอบแซวว่าสงสัยเธอคงจะท้องแล้วแน่ๆยิ่งพอได้ย้ายมาอยู่ด้วยกัน รายนั้นก็ชอบจับเธอกินทั้งเช้าและค่ำ บางทีดึกดื่นค่ำมืดกว่าจะได้หลับได้นอนก็ปาไปเกือบค่อนคืน ทั้งทีเธอเองก็บอกไปแล้วว่าให้เขาเพลาๆลงหน่อย งานแต่งก็ยังไม่ได้จัด กว่าจะถึงฤกษ์ก็ต้องรออีกตั้งสองเดือนถึงจะถึงวันที่คุณกนกวรรณหาเอาไว้ให้ เธอเลยกลัวว่าป่านนั้นตัวเองจะได้ท้องโย้ก่อนเข้าพิธีแต่งงาน"เย้!ในที่สุดลูกพ่อก็มาสักที แบบนี้ต้องประกาศให้โลกรู้ว่าจิรายุก็มีน้ำยา นึกว่าจะต้องอับอายขายขี้หน้าคนแถวนี้เสียแล้วว่าฉันทำลูกไม่เป็น"จิรายุกระโดดเย้วๆอยู่สามสี่ทีก็วิ่งกลับมาอุ้มเธอขึ้นหมุนไปรอบๆ อิงรดาอดขำไม่ได้ที่จิรายุยังจำได้อยู่ว่าเธอแกล้งล้อเขาว่าอะไร เพราะตั้งแต่ที่ตั้งใจมีอะไรกันไปแบบไม่มีกา
"แกต้องรับผิดชอบยายอิง"นั่นคือคำประกาศิตที่คุณกนกวรรณพึ่งจะประกาศออกไป อิงรดายังคงนั่งก้มหน้าโดยมีจิรายุหลานชายของเธอนั่งจับมือไว้ คงจะเป็นเพราะว่าเด็กนั่นกลัวทำให้เธอและผู้เป็นยายผิดหวังเสียใจ จึงไม่กล้าเงยหน้าสบตา หากแต่ว่าความจริงเป็นอย่างไร คงจะมีแต่เธอเท่านั้นที่รู้อยู่เต็มอก นึกย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน ตอนที่เธอยังคงส่งนักสืบเฝ้าติดตามดูความเคลื่อนไหวของอดีตสามีที่ย้ายออกจากบ้านไปอยู่กับภรรยาใหม่ ซึ่งก็คือ นันที อดีตแม่บ้าน ด้วยความที่ยังคงรักและเป็นห่วง บวกกับที่เธอได้ข่าวมาว่าพักหลังมานี้อดีตสามีสุขภาพไม่ค่อยจะดีนักและออกไปไหนไม่ค่อยได้ ทำให้ฝ่ายหญิงนั้นแอบลักลอบมีความสัมพันธ์กับชายคนใหม่ และไม่ได้ใส่ใจดูแลอดีตสามีของเธออย่างที่ควรจะเป็น จนอดีตสามีของเธอรู้เข้าก็เริ่มตรอมใจ เธอเองด้วยความที่อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาหลายปี บอกตามตรงก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ เลยยังแอบดูแลให้ความช่วยเหลือในฐานะเพื่อนเก่า โดยที่ไม่เคยเอ่ยปากบอกให้ใครรู้แต่พอสืบไปสืบมา นอกเหนือจากเรื่องสามี ความจริงบางอย่างที่เธอได้รับรู้เพิ่มมาอีกอย่างด้วยก็คือ พ่อหลานชายตัวดี ยังคงติดต่อคบหากับเอมมิกาลูกสาวของนันที
ไม่ใช่แค่อิงรดาที่หน้าเหวอ แต่เอวารินที่โทรมาอยู่ในสายก็หน้าเหวอตกใจไปตามๆกัน แถมฝ่ายนั้นยังจะถามจิรายุซ้ำเพื่อความแน่ใจอีกต่างหาก จนได้ฟังคำตอบรอบที่สองของจิรายุไป ทำเอาอิงรดาถึงกับต้องรีบแย่งโทรศัพท์มือถือที่ถูกจิรายุแย่งไปคืนกลับมา'น้องแอลฟังไม่ผิดหรอกครับ พี่บอกว่าอิงเป็นแฟนพี่ หรือว่าจะเอาให้ชัดๆเลยก็คือ อิงเป็นเมียพี่ครับ'"คุณเจตน์พูดแบบนั้นกับคุณแอลไปได้ยังคะ""ทำไมล่ะ ก็ในเมื่อฉันพูดความจริง หรือเธอจะเถียงอีกว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน"จิรายุหน้ายุ่งคิ้วยุ่งสวนกลับคนตัวเล็กทันทีที่เธอแหวมา ก็จะให้เขาทำยังไงได้ล่ะ ยอมทนเห็นแฟนตัวเองถูกคนอื่นจีบเฉยๆอย่างนั้น ถึงแม้ว่าคนๆนั้นจะเป็นผู้หญิงก็ตามอย่างนั้นเหรอ คงไม่ใช่เขาล่ะ คอยดูเถอะ นี่ขนาดยังไม่ได้คบกันออกหน้าออกตาเขายังหวงเธอขนาดนี้ วันไหนที่มีโอกาสได้ประกาศความเป็นเจ้าของขึ้นมา รับรองว่าอิงรดาจะไม่มีทางได้เหลียวมองใคร"แต่ตอนนี้เราก็ยังไม่ได้เป็นอะไรกันจริงๆนี่คะ"อิงรดาน้ำเสียงอ่อนลง แถมยังทิ้งตัวนั่งลงไปบนเตียงราวกับว่าหมดอะไรตายยาก ในเมื่อตอนนี้เธอเองไม่สามารถแสดงสิทธิ์ในการครอบครองเขาได้ เพราะฉะนั้นเรื่องสถานะความสัมพันธ์ระหว
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังสนั่นก้องอยู่ภายในห้องครัว ยิ่งอิงรดาส่งเสียงกระเส่าครวญครางออกมาเท่าไหร่ เเรงกระแทกที่ถูกส่งไปก็ยิ่งมีมากเพิ่มขึ้นเท่านั้น ทันที่ผละออกจากริมฝีปากหวานได้ สายตาคมของเขาก็ก้มจ้องลงมายังจุดสอดประสาน อิงรดามองภาพจิรายุซี๊ดปากหน้านิ่วที่เกิดจากการกระทำร่วมกันของเขาและเธอก็เกิดความเสียวซ่านบวกกับความอาย จิรายุเองก็เลือกที่จะมองสลับกันบนล่าง ใบหน้างดงามที่กำลังเสียวซ่านของอิงรดา สลับกับจุดเชื่อมประสานกลางกาย"อ่าส์ แน่นดีมากๆเลยอิง ได้มองหน้าเธอสลับกับมองนมไปด้วยแบบนี้ ขยับแค่ไม่กี่ทีฉันก็เกือบจะเสร็จแล้ว""แน่ใจเหรอคะว่าคุณเจตน์มองแค่หน้าหนูแล้วก็มองนม หนูเห็นว่าคุณเจตน์ชอบมองลงไป..ข้างล่าง""ก็อันนั้นฉันก็อยากเห็นไงว่าร่างกายของเราสองคนเข้ากันได้ดีมากแค่ไหน ว่าแต่เธอยังเจ็บอยู่อีกหรือเปล่า""ไม่เจ็บแล้วค่ะ ตอนนี้มีแต่..เสียว"อิงรดายิ้มหวานตาหยี พร้อมกับใบหน้ายู่ยี่แล้วจึงแลบลิ้นน้อยๆออกมา พอจิรายุเห็นเข้าก็รีบตามเข้าไปประกบดูดปากอย่างไว ในขณะที่สะโพกแกร่งยังคงซอยขยับเรียกเสียงครางหวานๆ อิงรดาปล่อยตัวปล่อยใจไปกับความสุขที่จิรายุมอบให้ จนเผลอปล่อยเสียงครางออกมาเป็นที
"แล้วคุณเจตน์กับพี่เอม เอ่อ คบกันมานานแล้วเหรอคะ""อื้ม เป็นสิบปีแล้ว แต่ก็คบๆเลิกๆ บางทีเลิกกันไปปีสองปีแล้วก็กลับมาคบกันใหม่ ฉันเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงได้ตัดเอมออกไปจากชีวิตจริงๆไม่ได้บางทีก็อาจจะเป็นเพราะว่า เราเป็นคนแรกของกันและกัน""คุณเจตน์กับพี่เอม เป็นคนแรกของกันและกัน" อิงรดาเผลอพูดย้ำซ้ำคำนั้นออกมาเสียงเบา ราวกับว่าสิ่งนั้นกำลังสร้างความเจ็บปวดให้กับเธออยู่ลึกๆ ดวงตากลมโตกระพริบปริบๆน้อยๆสามสี่ทีเพื่อไล่เอามวลน้ำตาที่กำลังทำท่าว่าจะเอ่อทะลักขึ้นมา กระนั้นถ้าหากตอนนี้เขาได้จ้องมองเข้ามาในดวงตาก็คงจะเห็นได้ถึงร่องรอยความแดงของมัน"เธอหึงฉันเหรออิง น้อยใจฉันอยู่หรือเปล่า""ปละ เปล่านี่คะ""แต่ถ้าเธอจะบอกว่าหึงแทนคำว่าเปล่า คำนั้นมันอาจจะทำให้ฉันดีใจมากกว่าก็ได้นะ"จิรายุเองก็มองมาที่เธอตาละห้อยสร้อยเศร้า ทั้งในใจก็ยังเอาแต่ครุ่นคิดว่าความรู้สึกที่อิงรดามีต่อตนเองนั้นจะใช่ความจริงหรือเปล่า หากแต่ก็ทำได้เพียงแค่เว้าวอนว่าขอให้เธอชอบเขาจริงๆ เพราะตอนนี้ตัวเขานั้นสามารถพูดได้อย่างเต็มปากแล้วว่า เขาชอบเธอ"คุณเจตน์ อยากให้หนูรู้สึกอย่างนั้นจริงๆเหรอคะ""อื้ม อยาก เพ
'ถ้าเธออยากจะยกเลิกเรื่องที่เคยตกลงกันไว้ก็ได้ แต่ระหว่างนี้ห้ามกินยาคุมฉุกเฉินเด็ดขาด รอจนกว่าประจำเดือนจะมา ถ้าประจำเดือนมาเธอก็รอดตัวไป แต่ถ้าไม่ เราก็ต้องมาตกลงกัน'อิงรดานั่งเหม่อกับข้อเสนอแกมคำสั่งล่าสุดของจิรายุอยู่ที่บริเวณใต้ร่มไม้หน้าบ้านอย่างหมดไร้ซึ่งหนทางและไม่เข้าใจเลยว่าจิรายุจะบังคับเธอไปทำไม ในเมื่อการมีลูกกับเธอนั้นก็ไม่ได้ใช่สิ่งที่เขาต้องการ เพราะการที่เธอยอมตกลงทำเรื่องอะไรกับเขาแบบนี้ตั้งแต่เริ่มแรกเลยนั้นก็คือความต้องการของคุณกนกวรรณต่างหาก บวกกับความสงสารและแอบมีเขาเข้ามาอยู่ในใจ ด้วยความที่อยากจะมีเขาอยู่ใกล้ๆ เลยทำให้เธอยอมรับปากอะไรออกไปแบบนั้น การที่เธอยินยอมที่จะปล่อยให้เลือดเนื้อเชื้อไขของเขาได้เข้ามาเจริญเติบโตในร่างกายของเธอได้ นั่นก็เป็นเพราะว่า เธอรักเขา แล้วเขาล่ะ รักเธอก็ไม่ได้รัก ในเมื่อตัวเองก็ไม่ได้ผิดเพศผิดปกติอะไรเสียหน่อย ทำไมถึงต้องรั้งเธอไว้ด้วยเรื่องแบบนี้ ไม่รู้บ้างเลยหรือไงว่าแค่นี้เธอก็เจ็บเจียนตายอยู่มะรอมมะร่อแล้วภายใต้ความทึบของม่านกรองแสงผืนยาวบนชั้นสอง เรือนร่างสูงใหญ่ยืนเอียงตัวพิงบานกระจกหนามองทะลุผ่านเงาสะท้อนออกไปยังด้านนอก เพื
ไม่รู้ว่าทำอะไรลงไปบ้าง อิงรดาไม่รู้ตัวเลยสักนิดด้วยซ้ำว่าเผลอเอื้อมมือไปเปิดประตูให้เอมมิกาเข้ามาในบ้านตั้งแต่ตอนไหน รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เดินกลับเข้ามาในบ้านแล้วได้ยินเสียงของเอมมิกาพยายามเสียงดังแข่งใส่จิรายุอยู่"แต่เอมไม่เลิก! เจตน์คบกับเอมมาถึงขนาดนี้แล้ว เอมเสียเวลาชีวิตไปเป็นสิบๆปีก็เพราะว่าเจตน์มัวแต่เกรงใจป้า เอมต้องการเจตน์คืน ยังไงเจตน์ก็ต้องกลับมาคบกับเอมเหมือนเดิม""เลิกพูดอะไรที่มันเป็นไปไม่ได้ได้แล้วนะเอม คุณเลิกกับผมแล้วแต่งงานใหม่ไปแล้ว ตอนนี้จะมาอยากทวงผมคืน คุณบ้าไปแล้วหรือเปล่าฮะ""เอมไม่ได้บ้า แต่เอมแค่อยากมาขอโอกาสเจตน์อีกครั้ง เอมคิดถึงเจตน์ ที่เอมต้องแต่งงานไปก็เพราะว่าแม่บังคับเอม ความจริงเอมไม่เคยรักผู้ชายคนนั้นเลย เอมรักเจตน์""แต่ผมไม่ได้รักคุณแล้วเอม ผมรักคนอื่น""คนอื่นของเจตน์ คืออีนังเด็กอิงรดาเนี่ยเหรอ เจตน์อย่าคิดนะว่าคืนนั้นเอมไม่เห็นว่าคุณนั่งจูบกันกับมันอยู่ที่ริมหาด""แล้วไง ผมกับคุณเลิกกันไปแล้ว ผมจะไปกอดใครจูบใครมันก็เรื่องของผมเอม"และอีกร้อยล้านถ้อยคำสารพัดสารเพที่ยังพากันหลั่งไหลเข้ามาในหูของอิงรดาผู้น่าสงสาร เธอไม่ได้เดินกลับเข้าไปในบ้าน หากเ
ในที่สุดอิงรดาก็ทำใจกล้าเปิดประตูออกไปได้เสียที หลังจากที่ยืนสวดมนต์ทำใจอยู่เสียนาน พอจิรายุบอกว่าจะเป็นฝ่ายเปิดออกไปเองก็ไม่ยอม บานประตูค่อยๆเปิดกว้างออกขึ้นทีละน้อย จนในที่สุดจิรายุทนไม่ไหวจึงได้เบียดตัวออกไปยืนอยู่หน้าห้องทันทีนาทีนั้นอิงรดาแทบจะอยากกรี๊ดออกมาดังๆแต่ก็ทำไม่ได้ ในเมื่อตกลงกันแล้วว่าเธอจะเป็นฝ่ายเปิดออกไปก่อนเพื่อดูลาดเลาแล้วเขาค่อยตามเธอไป เพราะถ้าหากว่าแถวนั้นมีใครอยู่ เธอจะได้เบี่ยงเบนความสนใจให้จิรายุออกมาได้ แต่พอออกมา ปรากฎว่าบ้านทั้งหลังนั้นกลับว่างเปล่า อิงรดาชะเง้อหน้ามองหาคนในบ้าน แต่ก็ไม่เจอใครเลย "เห็นไหม ไม่เห็นมีใครเลย""คุณเจตน์ อย่าพึ่งเสียงดังไปสิคะ"คนตัวเล็กรีบยกมือขึ้นมาจุ๊ปากเป็นสัญลักษณ์ให้จิรายุนั้นพูดเบาๆ แม้ว่าในใจจะคิดว่ามันแปลกมาก แต่อิงรดาก็เลือกที่จะสาวเท้าเข้าไปในครัว เพราะเป็นที่อยู่ประจำของยาย แต่พอเดินเข้าไปแล้วยังคงเห็นแก้วเปล่าใบที่จิรายุนั้นวางเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืนก็เริ่มหน้าแดงขึ้นมา"รู้นะว่าคิดอะไร""หนูเปล่านะ"จิรายุที่เดินตามเข้ามาติดๆ หยุดมองตามทิศทางสายตาที่อิงรดานั้นมองไปก็ได้โอกาสแซวขึ้นมาทันที ยิ่งเดินอ้อมไปข้างหน้าแล้
อิงรดาถูกจิรายุอุ้มหวือตัวลอยขึ้นไปจากพื้น ทันทีที่เขาก้าวเดินพ้นจากห้องครัวออกมา ภายในใจก็ได้แต่ภาวนาขอว่าอย่าให้ใครได้ออกมาพบเห็นหรือเจอะเจอเลย แม้ว่าเปอร์เซ็นความเป็นไปได้จะน้อยมากที่หญิงสูงวัยทั้งสองคนนั้นจะเดินลงมาข้างล่างดึกดื่นป่านนี้ แต่ยังไงเสียเธอก็ยังกลัวอยู่ดี อิงรดากลัวว่าจะทำให้คุณกนกวรรณและผู้เป็นยายผิดหวัง กลัวถูกตราหน้าว่าเนรคุณ แต่หัวใจเจ้ากรรมกลับไม่สามารถที่จะหักห้ามไม่ให้พาเอาตัวเองเข้าไปใกล้จิรายุได้แต่ทันทีที่บานประตูห้องนอนถูกปิด ราวกับว่าเวลานี้โลกทั้งโลกนั้นมีเพียงแค่เธอกับเขาแค่สองคน ยามเมื่อจิรายุวางเธอลงไปบนเตียงนุ่ม อิงรดาก็ใช้มือวาดไปโอบกอดรอบคอแกร่งนั่นให้โน้มลงมาหาแล้วตอบกลับเขากลับด้วยจูบในแบบเดียวกัน ลิ้นร้อนเล็กใหญ่เกี่ยวก่ายพันกันจนแน่น เสื้อยืดของเธอถูกเขาเลิกขึ้นมาจนมากองรวมกันอยู่ที่คอ ในขณะที่เขาเริ่มใช้ฝ่ามือใหญ่สำรวจบีบคลึงไปทั่ว"คุณเจตน์"อิงรดาหลุดครางเสียงหวานออกมาทันทีที่ความอวบงามนั้นถูกเขี่ย สองคู่ชูชื่นพากันแข็งเกร็งตั้งชูราวกับรู้ว่าอีกไม่นานจะต้องถูกจิรายุแวะเข้ามาเยี่ยมชมเสื้อยืดสีขาวถูกเขาถอดออกไปทางศรีษะ ตามด้วยเสื้อยืดสีดำของต