ฉินโหย่วหานยิ้มทันที “งั้นผมก็มาถูกจังหวะจริง ๆ รออยู่นั่นแหละ!”“ค่ะ”หลังจากวางสายหลินเซียงเงยหน้าขึ้นก็เห็นซ่งซ่งยิ้มอย่างมีเลศนัยเธอรู้สึกขนลุกกับรอยยิ้มนั้น ถามอย่างสงสัย “ยิ้มอะไร?”ซ่งซ่งกล่าว “ที่รักของฉัน ดูเหมือนเธอจะคิดได้แล้วนะ ก่อนหน้านี้ก็หนุ่มน้อยหน้าใสจากคลับหมายเลข 9 ตอนนี้ก็เจ้าชายแห่งไนต์คลับฉินโหย่วหาน ต่อไปจะเป็นใครกันน้า? เธอจะเป็นอาเจ๊แล้วจริง ๆ”หลินเซียง “...”“คิดมากไปแล้ว สวี่ซิงเย่ช่วยฉันไว้ ฉินโหย่วหานก็ช่วยฉันหลายครั้ง จะให้ฉันใช้ประโยชน์จากพวกเขาเสร็จแล้วก็ทิ้งเลยหรือไง?”ซ่งซ่ง “ชิ!”หลินเซียง “...”เธอไม่อยากคุยด้วยแล้ว!แต่ซ่งซ่งก็ยังไม่ยอมปล่อยเธอไป พูดว่า “พูดจริง ๆ นะ ฉันว่าสวี่ซิงเย่ก็ไม่เลว ฉินโหย่วหานก็ยิ่งไม่เลวเข้าไปใหญ่ เธอเลือกฉินโหย่วหานเถอะ อย่างน้อยเขาก็เป็นคนของตระกูลฉิน ยังพอจะฟัดกับลู่สือเยี่ยนได้”หลินเซียงพูดอย่างจนใจ “ให้พี่หานไปสู้กับลู่สือเยี่ยน ฉันมีสิทธิ์อะไร?”ซ่งซ่ง “ก็หุ่นเธอออกจะเซ็กซี่ เต่งตึงกระชับอ่อนเยาว์”หลินเซียง “...”เธอนี่มันจริง ๆ เลยเห็นหลินเซียงทำหน้าตาย ซ่งซ่งก็รีบยิ้ม “ฉันแค่รู้สึกว่า หลังจาก
หลินเซียงยิ้มเล็กน้อย "โอเค ถ้าวันไหนฉันอยากเปิดร้านจริง ๆ ฉันจะบอกพวกคุณแน่นอน ถึงตอนนั้นเชิญพวกคุณลงทุนกันเลย ฉันจะเป็นแม่ครัวเอง"ซ่งซ่ง "ไม่มีปัญหา!"หลายคนเข้าไปในห้องอาหารฉินโหย่วหานมองอาหารที่ทั้งสีสัน กลิ่น และรสชาติชวนรับประทาน ดวงตาสีพีชงดงามส่องประกาย "ผมต้องถ่ายรูปมื้อแรกหลังจากกลับประเทศเก็บไว้แล้วล่ะ"เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูปหลินเซียงและซ่งซ่งยืนอยู่ที่ขอบโต๊ะอาหาร มือของทั้งสองคนติดเข้าไปอยู่ในเฟรมด้วยเขาถ่ายเสร็จก็โพสต์ลงโซเชียลมีเดีย จากนั้นก็พูดว่า "ผมหิวมากแล้ว กินข้าวกันเถอะ""อืม"ทุกคนนั่งลงบรรยากาศครึกครื้นกว่าเดิมค่ำคืนค่อย ๆ มืดลงในบาร์ฟู่จิ่นซิ่วเล่นโทรศัพท์มือถืออย่างเบื่อหน่าย ยังคงคิดอยู่ว่าจะสารภาความผิดกับเสวี่ยเสวี่ยอย่างไรในตอนนั้นเอง เขาก็เห็นโพสต์ของฉินโหย่วหานเขาคลิกเปิดรูปภาพดู อาหารหกอย่างกับซุปหนึ่งอย่าง ทั้งสีสัน กลิ่นหอม และรสชาติชี้ชวนรับประทาน ดูก็รู้ว่าฝีมือไม่ธรรมดา!ที่ขอบโต๊ะอาหาร ยังมีมือของคนสองคนติดอยู่ในเฟรมด้วยเขาหรี่ตา ขยายภาพ มองดูมือข้างหนึ่งอย่างละเอียด จากนั้นก็พูดว่า "ซ่งซ่ง?"ลู่สือเยี่ยนเงยห
ทุกคนนึกถึงตอนที่หลินเซียงไปที่บาร์ของฉินโหย่วหานครั้งแรก เมาแล้วสภาพเป็นยังไงน่ะเหรอ?ทำตัวติดกับคนอื่นไม่ปล่อยเลย!แต่หลินเซียงก็ดูไม่ใส่ใจ และพูดว่า “แค่เบียร์เอง ขวดเดียวไม่เป็นไรหรอก”ซ่งซ่ง “เซียงเซียง พูดแล้วนะ ขวดเดียวไม่เป็นไร งั้นก็ขวดเดียว!”ฉินโหย่วหานยิ้มมุมปาก รับเบียร์มาแล้วดึงฝาออกขณะกำลังจะดื่ม เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นซ่งซ่งสงสัย “ใครมาเวลานี้?”หลินเซียงก็มองไปด้วยความสงสัยแต่ฉินโหย่วหานกระดกเบียร์ขึ้นดื่มอย่างไม่ใส่ใจ เหมือนกับว่าใครจะมาหรือไม่มาเขาก็ไม่สนใจทั้งนั้นซ่งซ่งเปิดประตู เห็นสองคนที่ยืนอยู่หน้าประตู ก็ทำท่าจะปิดประตูใส่หน้าแต่ฟู่จิ่นซิ่วยื่นมือมาขวางไว้ มองเธออย่างมีเลศนัย “ปิดประตูทำไม? ทำเรื่องผิดศีลธรรมกันอยู่เหรอ?”ซ่งซ่ง “บ้าหรือเปล่า? ดูไม่ออกเหรอว่าฉันไม่ชอบหน้าพวกคุณ? แล้วนี่ก็ประตูบ้านฉัน ฉันอยากปิดก็ปิด คุณยุ่งอะไรด้วย?”ฟู่จิ่นซิ่วถึงกับหน้าเสียผู้หญิงคนนี้… น่ารังเกียจจริง ๆ!เมื่อคืนยังนอนกกกันอยู่บนเตียง แต่พอลงจากเตียงก็ไม่ยอมรับซะแล้ว!ยิ่งกว่านั้น ตอนนี้เธอทำหน้าเหมือนกินดินปืนเข้าไป ไม่จุดไฟก็พร้อมยิง!ฟู่จินซิวกัดฟัน
หลินเซียงขมวดคิ้วคำพูดนั้นดูถูกดูแคลนมากเกินไป! แทบจะชี้หน้าด่าฉินโหย่วหานว่าเป็นลูกนอกสมรส ไม่มีหน้ามีตาในสังคม เห็นได้ชัดว่ามาด้วยเจตนาหาเรื่อง!ฉินโหย่วหานยังคงยิ้มบาง ๆ บนใบหน้าที่หล่อเหลา พูดเบา ๆ ว่า “ชาติกำเนิดเลือกไม่ได้ก็จริง แต่ชีวิตเลือกได้ ใครกำหนดว่าลูกนอกสมรสจะไม่แสวงหาสิ่งที่ต้องการไม่ได้ล่ะ? ไม่ว่าจะเป็นอำนาจ หรือคน แค่พยายามก็ได้มาแล้ว”ขณะพูด ดวงตาคมกริบของเขามองไปที่หลินเซียง ดวงตาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และเจือไปด้วยอารมณ์ที่ลึกซึ้งคนอื่นอาจจะดูไม่ออก แต่ลู่สือเยี่ยนกลับมองเห็นชัดเจน สายตาที่ฉินโหย่วหานมองหลินเซียงนั้น เต็มไปด้วยความต้องการครอบครองและความทะเยอทะยาน!เขาต้องการแย่งหลินเซียงจริง ๆ ด้วย!“พูดดีมาก!”ซ่งซ่งพูดขึ้นจากด้านข้าง และยกนิ้วโป้งให้ฉินโหย่วหาน “พี่หานสุดยอด เรื่องสถานะอะไรไม่สำคัญเลย บางคนมีสถานะที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ทำแต่เรื่องชั่วร้ายมันจะมีประโยชน์อะไร?”ฟู่จิ่นซิ่วมองเธออย่างไม่พอใจ และกัดฟันกรอดผู้หญิงคนนี้ ลงจากเตียงแล้วกลับกลายเป็นคนใจดำไม่เหลือเยื่อใย!เขาประมาทเธอไปจริง ๆ!ซ่งซ่งไม่กลัวสายตาของเขา ยังจ้องเขากลับ แล้วหันไปยิ้มใ
“อยากรู้เหรอ? ว่าผมอยากทำอะไร?”ฟู่จิ่นซิ่วยืนกอดอก ยืนอยู่ข้างเตียง มองซ่งซ่งจากที่สูงเพราะถูกโยนลงบนเตียง ทำให้เสื้อคลุมของเธอหลุดลงมาที่ไหล่ เผยให้เห็นชุดนอนสายเดี่ยวสีขาว สายบาง ๆ คล้องอยู่บนไหล่ที่สวยงาม ผิวขาวเนียน มีรอยแดงเล็ก ๆฟู่จิ่นซิ่วมองเห็นชัดเจน นั่นคือร่องรอยที่เขาฝากไว้เมื่อคืนดวงตาของเขาเข้มขึ้น ลูกกระเดือกกลอกกลืนลง ความร้อนแผ่ซ่านออกมาจากร่างกายทันใดนั้น เขาก็รู้สึกกระหายน้ำซ่งซ่งคุกเข่าอยู่บนเตียง พยายามลุกขึ้น ร่างกายเล็กไม่ยอมแพ้ “ฉันต้องช่วยให้เซียงเซียงหย่ากับลู่สือเยี่ยน! ตั้งแต่แต่งงานกับเขามา เซียงเซียงของฉันถูกทำร้ายขนาดไหน? คุณตาบอดหรือเปล่า? ดูไม่ออกเหรอ?”ฟู่จิ่นซิ่วหัวเราะเยาะ “เรื่องของคนสองคน เกี่ยวอะไรกับคนนอกอย่างคุณ? ไม่เคยได้ยินคำว่าทะเลาะกันตอนเช้า คืนดีกันตอนเย็นหรือไง? ตอนนี้พวกเขาแค่รู้สึกไม่ดีต่อกัน แต่ในอนาคต ไม่คิดว่าความสัมพันธ์ของพวกจะดีขึ้นหรือไง? ถึงตอนนั้นคุณก็ไม่สำคัญแล้ว!”เขาชี้ไปที่เธอ พูดอย่างไม่พอใจ “อย่าทำเรื่องโง่ ๆ แบบนี้อีก โอเคไหม?”“คุณว่าใครโง่?” ซ่งซ่งโกรธ ยกมือขึ้นจะตบเขา!แต่ฟู่จิ่นซิ่วจับข้อมือเล็ก ๆ ของเ
ซ่งซ่งถูกกดทับจนลุกไม่ขึ้นเธอเริ่มตกใจ!ไอ้ผู้ชายบ้านี่เป็นอะไรอีก?จะนอนกับเธออีกรอบเหรอ?ไม่ได้นะ!ฝีมือเขาแย่มาก เธอไม่อยากโดนทรมานอีกแล้ว!เธอต่อต้านอย่างหนัก!ร่างกายอ่อนนุ่มขยับดิ้นไปมาอยู่ใต้ร่างเขา ดวงตาของฟู่จิ่นซิ่วมืดลงทันที“ขยับอีกสิ ผมจะได้จัดการคุณตอนนี้เลย”เขาพูดเสียงแหบพร่าซ่งซ่งไม่กล้าขยับแล้ว เพราะเธอก็รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่แข็งตัวขึ้น ใบหน้าเล็ก ๆ แดงก่ำขึ้นมาทันที “คะ… คุณ… รีบลุกไปเร็ว ๆ!”ฟู่จิ่นซิ่วไม่เพียงแต่ไม่ลุก กลับกอดเธอแน่นขึ้น “อย่าขยับ เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว”เขาก้มลง ลมหายใจพัดผ่านผิวหนังที่บอบบางของเธอ ทำให้เธอตัวสั่นสะท้าน!ซ่งซ่งไม่กล้าขยับอีก!แม้จะกลัว แต่ถ้าเขาใช้กำลังขึ้นมา เธอก็สู้เขาไม่ได้!ไอ้ผู้ชายบ้า!ทำไมเสน่ห์แรงแบบนี้!…ลู่สือเยี่ยนมองฉินโหย่วหานอย่างเย็นชา มุมปากบางยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “ได้สิ ลองแนะนำมาดู ผมก็อยากรู้ว่าเขามีฝีมือขนาดไหน”ฉินโหย่วหานมองแต่หลินเซียงหลินเซียงก้มหน้าลงเล็กน้อย ขนตาสั่นไหวและพูดว่า “ขอบคุณพี่หานค่ะ แต่ตอนนี้ไม่ต้องแล้ว”“ต้องสิ ทำไมไม่ต้อง?” ลู่สือเยี่ยนพูด “ผมก็มีทนายความด้าน
หลินเซียงนึกถึงตอนที่ฟู่จิ่นซิ่วแบกซ่งซ่งไปทางห้องนอนเธอรีบลุกไป แต่ถูกลู่สือเยี่ยนขวางไว้“หลบไปเลย!”หลินเซียงพูดด้วยสีหน้าจริงจังแต่ลู่สือเยี่ยนจับมือเธอไว้ พูดเสียงเบาว่า “ถ้าเข้าไปตอนนี้ พวกเขาไม่รู้สึกอึดอัดแย่เหรอ?”หลินเซียงนิ่งไปลู่สือเยี่ยนพูด “บางเรื่องก็ต้องปล่อยให้เป็นความสมัครใจ ถ้าไม่เต็มใจ ใครก็บังคับไม่ได้”หลินเซียง “…”เธอขมวดคิ้ว มองไปทางห้องนอน ก่อนที่จะตัดสินใจไม่เข้าไปนึกถึงร่องรอยบนตัวซ่งซ่งแล้ว รวมถึงท่าทีที่ไม่ใส่ใจของเธอบางที…เธออาจจะแค่มองอีกฝ่ายเป็นของเล่นเมื่อเล่นจนเบื่อแล้วคงไม่กลับมายุ่งอีกหลินเซียงหันหลังกลับ ทุกคนออกไปแล้วปิดประตูทางเดินแคบ สามารถลงบันไดได้ทีละคนลู่สือเยี่ยนอยู่ข้างหน้า หลินเซียงอยู่ตรงกลาง ฉินโหย่วหานเดินตามหลังเขาพูดกับหลินเซียงว่า “ผมเจอสวนสนุกน่าสนใจที่ต่างประเทศด้วย เดี๋ยวว่าง ๆ จะเอารูปให้ดู”หลินเซียงหันไปมองเขา แล้วพูดว่า “ได้ค่ะ”ฉินโหย่วหานยิ้มมุมปาก “ไม่ใช่แค่เครื่องเล่นนะที่สนุก วิวก็สวยด้วย แสงเหนือที่เกาะบีสวยมาก มีโอกาสก็ไปด้วยกันนะ”ดวงตาของหลินเซียงเต็มไปด้วยความคาดหวัง “ได้ยินว่าหาดทรายดำ
“ใช่เหรอ?”ลู่สือเยี่ยนจ้องมองใบหน้าขาวสะอาดบริสุทธิ์ของเธอ ก่อนจะก้มตัวลงกดศีรษะเธอไว้แล้วจูบลงมาการจูบของเขามีเทคนิค ค่อย ๆ ล่อลวงเธอ รอจนเธอทนไม่ไหวแล้วเข้ามาเกาะเกี่ยวเขาเอง“ฉันไม่เชื่อ”ลมหายใจของเขาหนักหน่วงและลึกล้ำ ลากเลียริมฝีปากเธอ น้ำเสียงแหบพร่ายามค่ำคืนภายนอกค่อย ๆ มืดลง แสงไฟถนนส่องไม่ถึงภายในรถ ภายในรถมืดมิด ลมหายใจของทั้งสองคนเกี่ยวกระหวัดพันกัน อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆรถจอดอยู่ใต้ต้นไม้ เงาไม้ไหวเป็นระลอก ใบหน้าของทั้งสองคนถูกเงาบาง ๆ ปกคลุมหลินเซียงอยากจะขัดขืนก็ไม่ทันแล้ว ร่างกายของเธอคุ้นเคยกับการสัมผัสของลู่สือเยี่ยนมากเกินไปคุ้นเคยจนไม่ต้องใช้เวลามาก เธอก็อ่อนยวบลงอย่างรวดเร็วลู่สือเยี่ยนหัวเราะเบา ๆ “แต่ร่างกายคุณบอกว่าชอบผมนะ”ดวงตาใสของหลินเซียงฉ่ำไปด้วยน้ำตา หายใจไม่ทั่วถึง และพูดว่า “ฉันเป็นผู้หญิง ถูกผู้ชายอย่างคุณล่อลวง มีปฏิกิริยาแบบนี้ไม่ใช่เรื่องปกติเหรอ? ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่น ฉันก็…”แต่เธอยังพูดไม่จบ ลู่สือเยี่ยนก็จูบปิดปากเธออีกครั้งพูดออกมาแล้วไม่น่าฟังเลย!ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่น เธอก็จะมีปฏิกิริยาอ่อนหวานแบบนี้ด้วยงั้นเหรอ?เขา
คุณย่าลู่ “จะมีใครทำร้ายเธอได้ยังไง? นั่นเป็นแค่การคาดเดาของเธอเท่านั้น”“เหอะ!”ลู่สือเยี่ยนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดต่อ “คุณย่าครับ คนคนหนึ่งที่เพิ่งฟื้นขึ้นมาแต่ความจำเสื่อม จะไปอยู่บนถนนได้ยังไง? คนดูแลที่บ้านเราล่ะ? หายหัวไปไหนหมด?”คุณย่าลู่เงียบไปลู่สือเยี่ยนพูดต่อ “ตอนนั้นเธอเป็นคนที่ช่วยผม พาผมกลับบ้าน ถ้าไม่ใช่เธอ วันนี้ย่าก็คงไม่ได้เจอหน้าผมแล้ว”คุณย่าลู่มองหลินเซียง แล้วพูดขึ้นมาทันทีว่า “ความจริงเป็นแค่เรื่องบังเอิญหรือเปล่า ตอนนี้ยังสรุปไม่ได้ ถ้าเกิดเธอรู้ตัวตนของหลานตั้งแต่แรกล่ะ?”“ฉันไม่รู้ค่ะ”หลินเซียงรู้สึกว่าเธอควรจะพูดอะไรสักอย่างเธอมองคุณย่าลู่อย่างสงบ “คุณย่าคะ ฉันไม่รู้ว่าทำไมคุณย่าถึงได้เกลียดฉันขนาดนี้ แต่เมื่อก่อนย่าไม่ใช่แบบนี้ แถมยังชอบฉันมาก ถึงกับบอกเขาว่า ถ้าเขาทำร้ายฉัน คุณย่าจะช่วยฉันตีเขา ฉันยังจำคำพูดพวกนั้นได้อยู่เลย”เธอหายใจออกเบา ๆ แล้วพูดต่อ “แต่แน่นอนค่ะ คุณย่าจำไม่ได้ งั้นก็ไม่สำคัญแล้ว ฉันไม่รู้จักตัวตนของเขาตั้งแต่แรก จนกระทั่งเขาได้ความทรงจำกลับมา แล้วมาเปิดตัวในที่ที่ฉันทำงานอยู่ ฉันถึงได้รู้จักตัวตนของเขา”คุณย่าลู่เงียบไป ใบหน้
หลินเซียงมองคุณย่าลู่ด้วยความประหลาดใจไม่เคยคิดมาก่อนว่าคุณย่าที่เคยใจดีกับเธอ ในระดับที่เรียกว่าเอาใจใส่ กลับคิดร้ายกับเธอแบบนี้ แล้วยังมองเธอด้วยสายตาเย็นชาหลินเซียงรู้สึกเจ็บปวดในใจที่แท้ไม่ใช่แค่ตอนที่ลู่สือเยี่ยนทำร้ายเธอเท่านั้นถึงจะรู้สึกเจ็บปวดการถูกคนที่เคยสนิทสนมทำร้าย ใจก็เจ็บปวดเช่นกันเธอเม้มริมฝีปาก แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาลู่สือเยี่ยน“ฮัลโหล?”ไม่นานปลายสายก็รับ ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มดังขึ้นหลินเซียงบอกว่า “คุณย่ามีเรื่องจะพูดกับพวกเรา ตอนนี้คุณช่วยมาโรงพยาบาลหน่อย”ลู่สือเยี่ยนถามว่า “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”หลินเซียง “มาถึงเดี๋ยวก็รู้เอง”พูดจบก็วางสายไปเรื่องหย่าควรจะพูดต่อหน้าทั้งสองคนจะดีกว่าบอกกับเธอแค่คนเดียวมีประโยชน์อะไร?เธออยากหย่า แต่ลู่สือเยี่ยนไม่ยอม คุณย่าลู่ก็ไม่เชื่อเธอทำผิดอะไร?ถึงได้ถูกปฏิบัติแบบนี้?หลินเซียงนั่งลงบนโซฟา ก้มหน้าลง ไม่มองคุณย่าลู่อีกนิสัยของเธอค่อนข้างแปลกถ้าคนคนนั้นทำร้ายเธอ ก็ยากที่จะเข้าไปอยู่ในใจเธอได้อีกคุณย่าลู่ไม่ค่อยชอบท่าทางของหลินเซียง จึงจับมือเซี่ยหว่านแล้วคุยต่อ เพราะชอบท่าทางอ่อนโยนขอ
หลังจากออกจากโรงพยาบาล ลู่สือเยี่ยนมองเธอ “อย่าคิดมาก คุณย่าแค่ลืมความทรงจำไปสองปีเท่านั้นเอง”หลินเซียงมองเขา แล้วถามว่า “แล้วถ้าคุณย่ายืนกรานจะให้คุณแต่งงานกับเซี่ยหว่านล่ะ?”ลู่สือเยี่ยนมองเธออย่างลึกซึ้ง “หลินเซียง เธอควรเลิกคิดเรื่องนี้นะ เพราะผมไม่หย่ากับคุณแน่”หลินเซียงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ แล้วพูดว่า “จริง ๆ แล้ว เราหย่ากันก็ไม่เลวนะ ฉัน…”“หยุด!”ลู่สือเยี่ยนมองเธอด้วยความหงุดหงิด “ฟังที่ผมพูดไม่รู้เรื่องเหรอ? ถ้าพูดถึงเรื่องหย่าอีก ผมจับคุณขังไว้แน่!”ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ รอบตัวเต็มไปด้วยออร่าเย็นชาหลินเซียงหยุดชะงัก ไม่พูดต่อเพราะเขาทำได้จริงเมื่อหันหลังเดินไป ใบหน้าเล็ก ๆ นั้นเย็นชายิ่งกว่าเก่าลู่สือเยี่ยนมองตามหลังเธอไป ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรงเขาเปิดประตูแล้วก้าวขึ้นรถ สีหน้ามืดครึ้มอย่างที่สุดในขณะนั้น เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์เขาดังขึ้น เขาหยิบขึ้นมาดู เป็นสายจากซืออวี่“พูดมา!”ซืออวี่ตกใจกับน้ำเสียงเย็นชาของเขา ก่อนจะกลืนน้ำลายอึกใหญ่ “พี่ใหญ่ ฉันสืบได้เรื่องบ้างแล้ว แต่คนคนนั้นฉลาดเป็นกรด ปกปิดตัวตนได้ดีมาก รู้แค่ว่าเป็นผู้ชาย”ลู่สือเยี
วันรุ่งขึ้น ทั้งสองคนไปที่โรงพยาบาลคุณย่าลู่ทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว อวิ๋นหลานนั่งคุยกับเธออยู่“คุณย่าครับ”ลู่สือเยี่ยนเดินเข้าไปเรียกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนคุณย่าลู่เห็นเขา ใบหน้าที่แก่ชราพลันมีรอยยิ้ม“สือเยี่ยน เธอมาแล้ว” คุณย่าลู่จับมือเขาไว้ มองใบหน้าหล่อเหลาของเขาแล้วพูดขึ้นมาทันทีว่า “สือเยี่ยน ทำไมดูเปลี่ยนไปจังเลย? ดูเหมือนจะโตขึ้นมากเลยนะ”ริมฝีปากบางของลู่สือเยี่ยนโค้งเป็นรอยยิ้ม “โตขึ้นแล้วไม่ดีเหรอครับ?”คุณย่าลู่พยักหน้า “ดี แน่นอนว่าดี แต่ฉันยังชอบเธอตอนเด็ก ๆ ที่ไร้เดียงสามากกว่า เอาแต่วิ่งตามหลังพี่ชายตลอดเวลา แล้วยังทำหน้าบึ้งใส่เขา มีแต่พี่ชายที่ตามใจ ถ้าเป็นคนอื่นคงตีเธอไปแล้ว”รอยยิ้มที่มุมปากของลู่สือเยี่ยนแข็งทื่อไปชั่วขณะคุณย่าลู่สังเกตเห็นหลินเซียงในตอนนี้ จึงถามว่า “แล้วเธอล่ะ มายังไง?”ลู่สือเยี่ยนบอกว่า “ย่าครับ เธอเป็นภรรยาผม หลินเซียง”หลินเซียงมองคุณย่าลู่ “คุณย่า”คิ้วของคุณย่าลู่ขมวดเข้าหากันทันที เธอปล่อยมือลู่สือเยี่ยน “ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าจะแต่งงานกับหว่านหว่านไม่ใช่เหรอ? ฉันเห็นว่าเด็กคนนั้นก็ใช้ได้นะ ทำไมถึงแต่งงานกับคนอื่นล่ะ?”ท่าทีนั้
ใบหน้าของลู่สือเยี่ยนแสดงออกถึงความซับซ้อนเล็กน้อย เขาพูดอย่างสงบว่า “เรื่องนี้ยังบอกไม่ได้ ต้องรอผลตรวจของแพทย์”หลินเซียงพยักหน้า ตอนนี้คงทำได้แค่นี้ลู่เจิ้งหรงมองหลินเซียงด้วยสายตาไม่เป็นมิตร แล้วพูดกับลู่สือเยี่ยนว่า “อาการของย่าแกดูเหมือนจะดีขึ้น ความคิดของผู้ใหญ่ แกคงรู้ดี น่าจะอยากเห็นแกแต่งงานกับหว่านหว่าน ตอนนั้นแกเป็นคนพาหว่านหว่านไปหาท่านเอง ตอนนี้ถ้าท่านขอร้อง แกก็ปฏิเสธไม่ได้”อวิ๋นหลานกล่าวว่า “เจิ้งหรง แต่สือเยี่ยนกับหลินเซียงรักกันดี ทำแบบนี้ไม่ค่อยดีหรอกมั้ง?”“เหอะ!” ลู่เจิ้งหรงหัวเราะเยาะ “รักกันดี? หลินเซียงไม่ใช่เหรอที่อยากหย่ามาตลอด? ใช้โอกาสนี้หย่ากันไปซะสิ ไม่ต้องมีใครขัดขวางใคร!”อวิ๋นหลานมองหลินเซียงด้วยความกังวล กลัวว่าเธอจะเสียใจแต่หลินเซียงเหมือนไม่ได้ยิน ยืนอยู่มุมห้อง ก้มหน้าลง ปากสวยเม้มเป็นเส้นตรงลู่สือเยี่ยนไม่ได้สนใจคำพูดของลู่เจิ้งหรงเลยเขาตามหาลู่จิ้นหนานจนแทบคลั่ง ยังมีเวลาสนใจเรื่องของเขากับหลินเซียงอีกเหรอ?ดูเหมือนว่าเขาควรหาอะไรให้อีกฝ่ายทำบ้าง!ประมาณสองชั่วโมงผ่านไปผลการตรวจของคุณย่าลู่ออกมาแล้วแพทย์ถือรายงานผลการตรวจแล้วพูด
เสียงของคุณย่าลู่ดังขึ้น ทุกคนในห้องนั่งเล่นต่างก็ตกตะลึง!สีหน้าของลู่สือเยี่ยนตึงเครียดขึ้น เขาคุกเข่าครึ่งตัวอยู่ข้างหน้าคุณย่าลู่แล้วถามว่า “คุณย่าครับ ตอนนี้คุณย่าจำอะไรได้แล้วเหรอครับ?”คุณย่าลู่เอามือลูบหัวเขา “ย่าต้องจำได้อยู่แล้วสิ ย่ายังไม่แก่จนความจำเลอะเลือนซะหน่อย ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าจะแต่งงานกับหว่านหว่าน แล้วทำไมวันนี้ถึงไม่พาเธอมาด้วย?”ลู่สือเยี่ยนรู้สึกถึงความผิดปกติอย่างรวดเร็ว เขาชี้ไปที่หลินเซียงแล้วถามว่า “แล้วคุณย่าจำเธอได้ไหมครับ?”คุณย่าลู่มองตามนิ้วมือของเขาไป แล้วส่ายหัว “ไม่รู้จัก เธอเป็นใคร? คนใช้ใหม่ของบ้านเราเหรอ?”หลินเซียงได้ยินคำพูดของเธอ เหมือนกับถูกตบหน้าอย่างแรง ก่อนหน้านี้ตอนที่คุณย่าลู่ความจำเสื่อม เธอมักจะคิดว่าเซี่ยหว่านเป็นคนใช้ของบ้านตระกูลลู่ และยังดีกับหลินเซียงเป็นพิเศษแต่ตอนนี้กลับกัน!ลู่สือเยี่ยนลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า “ผมจะพาคุณย่าไปโรงพยาบาลครับ”คุณย่าลู่ขมวดคิ้ว ใบหน้าที่แก่ชราเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ “ไปโรงพยาบาลทำไม? ย่ารู้สึกว่าย่าสบายดีนะ”ลู่สือเยี่ยน “ตรวจร่างกายคุณย่านิดหน่อย เชื่อผมเถอะครับ”คุณย่าลู่ก็ยังไม่ค่อยเต็มใจ
หลังจากที่ลู่สือเยี่ยนพูดจบ เขาก็ไม่ได้วางสาย ได้ยินเสียงเขาเปิดประตูรถลงจากรถ ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าที่เร่งรีบหลินเซียงกำโทรศัพท์แน่น ยื่นมือไปกดปุ่มปิดประตูอีกครั้งครั้งนี้ประตูลิฟต์ปิดลง หัวใจที่สั่นไหวก็ค่อยผ่อนคลายลงอย่างเฉียบพลัน"ประตูลิฟต์ปิดแล้ว" หลินเซียงพูด ตอนนี้เธอเพิ่งรู้ว่าขาของตัวเองอ่อนแรงแค่ไหน!ลู่สือเยี่ยนพูดว่า "อย่าออกจากลิฟต์ก่อนถึงชั้นหนึ่งนะ""อืม"หลินเซียงตอบ ยังไม่วางสายโชคดีที่ลิฟต์มาถึงชั้นหนึ่งอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ไม่มีใครทำงานล่วงเวลาในตึกแล้วเมื่อประตูลิฟต์เปิดออก หลินเซียงก็เห็นลู่สือเยี่ยนยืนอยู่ที่ประตู เธอวิ่งออกไปทันที!ลู่สือเยี่ยนกอดเธอไว้พลางปลอบเบา ๆ "ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมจะตรวจสอบให้ชัดเจน"ด้วยกลิ่นอายที่สดชื่นของเขา หลินเซียงจึงผ่อนคลายลง ตามมาด้วยความหวาดกลัวอย่างรุนแรง!จมูกของเธอรู้สึกแสบร้อน น้ำตาเกือบไหล แต่เธอก็อดทนไว้!ลู่สือเยี่ยนประกองกอดเธอแล้วออกจากอาคารพอก้าวขึ้นรถ ความอบอุ่นจากเครื่องทำความร้อนทำให้ร่างกายที่เย็นเยือกเริ่มอุ่นขึ้นลู่สือเยี่ยนจับมือเธอ ถามว่า "คุณเห็นใครหรือเปล่า?"หลินเซียงส่ายหัว "ไม่มีนะ"แล้วถา
หลินเซียงรู้สึกใจสั่นระรัวเสียงน้ำไหลในห้องน้ำดังขึ้น หลินเซียงจึงโล่งใจเล็กน้อยเธอค่อย ๆ ผ่อนคลายและกอดตัวเองขณะกำลังจะหลับ เตียงข้าง ๆ ก็ยุบลงไป ร่างกายของลู่สือเยี่ยนที่ยังเปียกชื้นจากน้ำ เข้ามากอดเธอแน่น หลินเซียงไม่ขยับหรือดิ้นรน ลู่สือเยี่ยนจูบที่ไหล่เธอเบา ๆ "ราตรีสวัสดิ์ ที่รัก"ขนตาของหลินเซียงกระตุกเล็กน้อย แต่เธอก็ยังไม่ตอบสนองอะไร…วันรุ่งขึ้น หลินเซียงไปทำงานก็พบว่าสวี่ซิงเย่มาถึงแล้ว เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาด ดูสดใสและมีเสน่ห์ เป็นหนุ่มน้อยที่สดใสสวี่ซินหรานกำลังคุยกับเขาอยู่และสวี่ซิงเย่ก็ตอบด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นเธอมาถึง สวี่ซิงเย่รีบลุกขึ้นยืนและเดินมาหาเธอ "คุณหลิน อรุณสวัสดิ์ครับ!"หลินเซียงยิ้มบาง "ตอนนี้เราเป็นเพื่อนร่วมงานกันแล้ว นายเรียกฉันว่าหลินเซียงก็ได้"สวี่ซิงเย่เกาจมูกด้วยความเขินอายเล็กน้อย "หลินเซียง""อืม อรุณสวัสดิ์ค่ะ" หลินเซียงพยักหน้าเล็กน้อยสวี่ซินหรานนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย "ถ้าไม่รู้ว่าเธอแต่งงานแล้ว ฉันนึกว่าพวกเธอเป็นแฟนกันซะอีก"เมื่อได้ยินแบบนั้น สวี่ซิงเย่ขมวดคิ้ว พูดว่า "อย่าพูดอย่างนั้นเลยครับ ผมกั
“ลู่สือเยี่ยน คุณเป็นอะไรมากไหม?”หลินเซียงรู้สึกงงกับเขา!เธอไม่ได้ทำอะไรเลย แต่เขากลับจะยัดเยียดให้เธอไปเปิดห้องกับผู้ชายคนอื่น?เขาเป็นบ้าหรือเปล่า?ลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธออย่างเงียบ ๆ แล้วพูดว่า “หลินเซียง ห้ามรับของจากผู้ชายคนอื่น และห้ามชอบผู้ชายคนอื่นด้วย ถ้าผมรู้ คุณอาจไม่ตาย แต่ผู้ชายคนนั้นต้องตายแน่!”เขาเตือนอย่างจริงจังด้วยความเคร่งขรึม ดวงตาของเขาแสดงความต้องการครอบครองเธออย่างไม่มีปิดบังหลินเซียงกัดริมฝีปาก มองเขาด้วยสายตาซับซ้อนถ้าเป็นก่อนหน้านี้ เขาแสดงออกแบบนี้เธอคงดีใจมาก!แต่หลังจากผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มาแล้ว เมื่อได้ยินเขาพูดแบบนี้ เธอกลับไม่รู้สึกอะไร!เธอเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย “ตอนนี้ฉันไปอาบน้ำได้แล้วใช่ไหม? ทำงานมาทั้งวัน เหนื่อยมากจริง ๆ”ลู่สือเยี่ยนมองเธออีกสักพัก แล้วปล่อยเธอไปหลินเซียงเดินไปที่ห้องน้ำลู่สือเยี่ยนเรียกคนใช้มาเก็บเค้กเมื่อหลินเซียงออกมา เธอก็เห็นเขานั่งอยู่บนโซฟา บนโต๊ะมีขี้ผึ้งวางอยู่“ทายา”เมื่อเห็นเธอหันมามอง เขาพูดเสียงต่ำหลินเซียงกัดริมฝีปาก แล้วพูดว่า “ฉันทาเองได้”พูดจบ เธอก็เดินไปหยิบขี้ผึ้งแต่ลู่สือเยี่ยนมือไวกว่