ทันทีที่คำพูดนั้นจบลง บรรยากาศภายในรถเยือกเย็นลงอย่างเห็นได้ชัด อากาศที่อึดอัดแผ่กระจายไปทั่ว ราวกับมีลมหนาวพัดมาห่อหุ้มหลินเซียงขนตาที่ยาวของหลินเซียงสั่นไหวลู่สือเยี่ยนไม่พูดอะไร แต่ความเร็วรถกลับเพิ่มขึ้นอย่างไม่รู้ตัวหลินเซียงกำเข็มขัดนิรภัยไว้แน่น คิ้วขมวดเข้าหากัน “ลู่สือเยี่ยน ขับช้า ๆ หน่อย”ตอนนี้เป็นช่วงเวลาเร่งด่วน การที่เขาขับเร็วขนาดนี้ อยากจะพาเธอไปตายหรือไง?แต่เธอยังไม่อยากตาย!“เงียบ!”ลู่สือเยี่ยนไม่อยากได้ยินเสียงของเธอเลยแม้แต่น้อย คำพูดของเธอทำให้เขาอยากจะฆ่าเธอให้ตายเสียเดี๋ยวนี้!หลินเซียงตัวสั่นเล็กน้อยจากการที่เขาตะคอกใส่ เธอมองเขาอย่างงุนงง “ตะคอกทำไมเนี่ย!”สีหน้าของลู่สือเยี่ยนดูไม่ดีเลย ความเร็วรถยิ่งเพิ่มขึ้น!หลินเซียงไม่กล้าพูดอะไรอีก กลัวว่าเขาจะไม่พอใจและขับชนเข้ากับรถคันอื่น แล้วพวกเขาอาจจะตายกันทั้งคู่!ในที่สุด หลังจากที่หวาดเสียวอยู่พักใหญ่ รถของลู่สือเยี่ยนก็จอดอยู่ที่หน้าประตูคฤหาสน์หลังเก่าของตระกูลลู่รปภ.เปิดประตูให้ เขาขับรถเข้าไปหลินเซียงหลับตาลงและพูดว่า “ลู่สือเยี่ยน ในฐานะลูกผู้ชาย ฉันหวังว่าคุณจะทำตามคำพูดของตัวเอง”พ
หลินเซียงรอยยิ้มแข็งค้าง เมื่อลู่สือเยี่ยนพูดว่า “คุณย่า คุณย่าไม่สนใจผมเลย ถ้ามีเหลนแล้ว ย่าก็จะยิ่งไม่ชอบผม ผมเลยไม่อยากมีเจ้าตัวเล็กไงครับ”“ไป ไป ไป! แกกล้าหึงแม้กระทั่งลูกตัวเองงั้นเหรอ? พ่อคนไหนเขาเป็นแบบแกบ้าง? ต้องมีเหลนนะ ฉันจะได้เล่นกับเหลน!” คุณย่าลู่โบกมืออย่างไม่พอใจเมื่อได้ยินลู่สือเยี่ยนพูดลู่สือเยี่ยนยิ้มอย่างจนใจหลินเซียงพูดว่า “คุณย่า วันนี้ท้องฟ้าสวยนะคะ เราออกไปเดินเล่นในสวนกันดีไหมคะ?”“ดีดีดี ไปเดินเล่น ย่าชอบไปเดินเล่นกับเธอ” คุณย่าลู่พยักหน้าอย่างไม่ลังเลหลินเซียงจึงเข็นรถเข็นออกจากวิลล่าลู่สือเยี่ยนไม่ได้ตามออกไป แต่ขึ้นไปชั้นบน เข้าไปในห้องทำงานอวิ๋นหลานออกมาพอดี เห็นเขาแล้วก็ยิ้มให้ “สือเยี่ยน กลับมาแล้วเหรอ เมื่อกี้นี้พ่อเธอเพิ่งพูดถึงเธออยู่เลย รีบเข้าไปเถอะ”“ครับ”ลู่สือเยี่ยนตอบเสียงเรียบในห้องทำงาน บรรยากาศเคร่งเครียดลู่เจิ้งหรงนั่งอยู่บนเก้าอี้หนัง สวมแว่นอ่านเอกสารบางอย่าง“พ่อ มีเรื่องอะไรกับผมหรือเปล่าครับ?”ลู่สือเยี่ยนเดินเข้าไปแล้วถามลู่เจิ้งหรงส่งเอกสารในมือให้เขา “ดูอันนี้หน่อยสิ”ลู่สือเยี่ยนรับมาดู แล้วขมวดคิ้วทันที “ลา
หลินเซียงรู้สึกซาบซึ้งใจมากเธอกับคุณย่าลู่ไม่ได้สนิทสนมกันขนาดนั้นแต่คุณย่ากลับชอบเธอมากเห็นเธอแล้วก็มักจะให้ของดี ๆ แก่เธอเสมอหลินเซียงถึงกับเหม่อลอย เป็นไปได้ไหมว่าพ่อแม่ก็รักลูกแบบนี้?เธอไม่เคยสัมผัสความรู้สึกแบบนั้นมาก่อน ลูกของเธอ…ดวงตาของหลินเซียงฉายแววเศร้าเธอยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้มีลูกเป็นของตัวเองทุกครั้งที่อยู่กับลู่สือเยี่ยน เขามักจะใช้ถุงยางอนามัยเขาป้องกันความเสี่ยงนี้เสมอเธอไม่เคยคิดมาก แต่คำพูดของคุณย่าลู่ทำให้เธอฉุกใจคิดเขาไม่อยากมีลูก แต่ก็ไม่ยอมหย่าคนคนนี้ช่างขัดแย้งในตัวเองจริง ๆทันใดนั้น คนรับใช้ก็เข้ามาบอกว่าอาหารเย็นเสร็จแล้วหลินเซียงจึงพูดว่า “คุณย่า เราเข้าไปทานข้าวกันเถอะค่ะ”“ดีดีดี”คุณย่าลู่พยักหน้ารับ พร้อมกับมาลัยที่หลุดจากหัว เธอรีบรับไว้แล้วกอดไว้แนบอกหลินเซียงเห็นแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้กลับเข้าไปในวิลล่าหลินเซียงเห็นอวิ๋นหลานและลู่เจิ้งหรงก็ทักทายอย่างสุภาพ“คุณท่านลู่ คุณหญิงลู่”คุณย่าลู่ได้ยินแล้วก็ขมวดคิ้วทันที “ทำไมเรียกคุณลู่ล่ะ? ต้องเรียกคุณพ่อกับป้าอวิ๋นสิ เหมือนสือเยี่ยนไงล่ะ”สีหน้าหลินเซียงเปลี่ยนไปล
เซี่ยหว่านเหลือบมองหลินเซียงเล็กน้อยแต่อวิ๋นหลานทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น พูดว่า “ไปกันเถอะ ไปทานข้าวกัน”ตลอดเวลา หลินเซียงเอาแต่นิ่งเงียบเธอมองเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างเฉยชา อวิ๋นหลานสามารถกลายมาเป็นคุณผู้หญิงของตระกูลลู่ได้ แสดงว่าเธอไม่ใช่คนไร้สมองหรือเล่ห์เหลี่ยมฉากเมื่อครู่หมายความว่าอย่างไรกันแน่?เธอพยายามยุแยงความสัมพันธ์ของเธอกับลู่สือเยี่ยน หรือพยายามทำให้เธออิจฉาเซี่ยหว่าน?ใจเธออดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเล็กน้อยทันใดนั้น ลู่สือเยี่ยนก็เดินลงมาจากชั้นบน เมื่อเห็นสีหน้าของเธอ ดวงตาของเขาก็ดูอ่อนลง เดินเข้ามาถามว่า “เป็นอะไรไป?”หลินเซียงมองเขา และพูดว่า “ไม่มีอะไร ไปทานข้าวกันเถอะ”พูดจบ เธอก็ตั้งท่าจะเดินไป แต่ข้อมือของเธอถูกเขาจับไว้เธอเหลือบมองเขาด้วยความสงสัยคิ้วของลู่สือเยี่ยนขมวดเข้าหากัน พูดว่า “หลินเซียง ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นก็บอกผมได้ ลำพังคุณแก้ปัญหาเองไม่ได้หรอก”สีหน้าของหลินเซียงซีดลงเล็กน้อย มองเขาตรงๆ “เรื่องที่เกิดขึ้นกับฉัน ล้วนเกิดจากคุณทั้งนั้น ฉันแก้ปัญหาเองไม่ได้จริง ๆ นั่นแหละ เพราะงั้นเราหย่ากันเถอะ ตัดความสัมพันธ์กับคุณซะ เรื่องยุ่งยากเหล่านั้นก็จะไม่
หลินเซียงพยายามลดทอนการมีตัวตนของตัวเอง ตอนนี้พอคุณย่าลู่พูดกับเธอ เธอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย“คุณย่า ลองชิมขาไก่ดูสิคะ?” หลินเซียงใช้ตะเกียบกลางคีบกับข้าวให้คุณย่าลู่“ได้ เดี๋ยวย่าจะลองชิม” ความสนใจของคุณย่าลู่ถูกเบี่ยงเบนไปทันทีสายตาของลู่สือเยี่ยนจ้องมองหลินเซียงอย่างลึกซึ้ง แต่เธอมองเพียงคุณย่าลู่ แม้แต่สายตาที่เกินความจำเป็นก็ไม่ได้ส่งมาถึงเขาอวิ๋นหลานพูดว่า “พวกเธอไม่ได้กลับมาที่นี่นานแล้ว คืนนี้พักที่นี่เถอะ คุณย่าคิดถึงพวกเธอมาก”คุณย่าลู่พยักหน้า “ใช่ พักที่นี่เถอะ คืนนี้พวกเธอต้องพักที่นี่นะ”สีหน้าของหลินเซียงเปลี่ยนไป พลางมองไปที่ลู่สือเยี่ยน รอให้เขาปฏิเสธ ความสัมพันธ์ของพวกเขาในตอนนี้ไม่เหมาะที่จะพักอยู่ด้วยกันแต่ใครจะรู้ ลู่สือเยี่ยนกลับพยักหน้ารับเบา ๆ “ได้ครับ”คิ้วของเธอขมวดเข้าหากันทันทีเขาหมายความว่ายังไง?ไม่เห็นเหรอว่าเธอส่งสัญญาณให้เขา?คุณย่าลู่จับมือเธอ พูดด้วยรอยยิ้ม “เซียงเซียง เธอกับสือเยี่ยนต้องพยายามหน่อย รีบให้ย่าได้อุ้มเหลนเร็ว ๆ ย่าจะให้แม่ครัวทำซุปบำรุงร่างกายให้ ก่อนนอนต้องดื่มให้หมด”หลินเซียงพยักหน้ายิ้มเล็กน้อย “ค่ะ คุณย่า”คุณย่า
ลู่สือเยี่ยนเหมือนจะรู้ทันความคิดของหลินเซียง จึงพูดว่า “แค่คืนเดียวเอง คุณกลัวอะไร”หลินเซียงตอบ “ฉันไม่ได้กลัว แค่คิดว่าด้วยความสัมพันธ์ของเราตอนนี้ คงไม่เหมาะสมที่จะอยู่ด้วยกัน”ได้ยินดังนั้น สีหน้าของลู่สือเยี่ยนก็เปลี่ยนไป “ความสัมพันธ์แบบไหนล่ะ”หลินเซียง “ก็ความสัมพันธ์ที่กำลังจะหย่าขาดจากกันน่ะสิ”แต่ทันทีที่หลินเซียงพูดจบ ลู่สือเยี่ยนก็เดินเข้ามาหาเธอ ดวงตาคมกริบและลึกลับราวกับมีน้ำแข็งปกคลุมหลินเซียงก็ระแวงขึ้นมาทันที “คุณจะทำอะไร?”ลู่สือเยี่ยนหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ มองเธอด้วยสายตาที่หนักแน่น “งั้นคำว่า ‘ขอคิดดูก่อน’ ที่คุณพูดไปนั่นหมายความว่ายังไง”คิดมาหลายวันแล้ว ยังคงตัดสินใจจะหย่ากับเขาอยู่ดีเหรอหลินเซียงก้มหน้าลงเล็กน้อย ขนตายาวสั่นไหวเล็กน้อย แล้วพูดว่า “ลู่สือเยี่ยน ฉันคิดอย่างจริงจังแล้ว เราสองคนคงกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้วล่ะ ชีวิตแต่งงานควรทำให้คนรู้สึกอุ่นใจและผ่อนคลาย แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉันไม่เคยรู้สึกแบบนั้นเลย ฉันเชื่อว่าคุณก็คงไม่รู้สึกถึงมันเหมือนกัน ดังนั้นเราควรแยกทางกันดีกว่า บางทีมันอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับเราทั้งคู่”ขณะที่เธอพูดคำเหล่า
เธอมองลู่สือเยี่ยนด้วยสีหน้าที่จริงใจ พยายามอธิบายอย่างสุดความสามารถ เหมือนกลัวว่าเขาจะเข้าใจเธอผิดใบหน้าหล่อเหลาและคมเข้มของลู่สือเยี่ยนดูเรียบเฉยและเย็นชา “ผมไม่ได้คิดมาก”เซี่ยหว่านโล่งใจทันที “ดีมาก ฉันกลัวจริง ๆ ว่าคุณจะเข้าใจฉันผิด แล้วทำให้คุณกับคุณหลินทะเลาะกัน”เธอชะงักไปเล็กน้อย แล้วพูดว่า “แต่ฉันเห็นท่าทางของคุณหลินดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกคุณทะเลาะกันเหรอ?”ลู่สือเยี่ยนไม่พูดอะไร แค่มองเธอด้วยสายตาเย็นชาเซี่ยหว่านรู้ตัวว่าละลาบละล้วง จึงรีบพูดว่า “ขอโทษ ฉันไม่ควรยุ่งเรื่องระหว่างสามีภรรยา ฉันแค่คิดว่าตอนนี้เราเป็นเพื่อนที่คุยกันได้ทุกเรื่อง”ลู่สือเยี่ยนถาม “ยังมีอะไรอีกไหม?”ท่าทีของเขาห่างเหินอย่างเห็นได้ชัด แตกต่างจากก่อนหน้านี้มากเซี่ยหว่านกัดริมฝีปากเบา ๆ แล้วพูดว่า “ไม่มีอะไรแล้ว ฉันไม่รบกวนคุณแล้ว”พูดจบ เธอก็หันหลังเดินจากไปวันนี้เธอใส่กางเกงขาสั้น ทำให้ขาเทียมของเธอโผล่ออกมาอย่างชัดเจนสายตาของลู่สือเยี่ยนมองไปที่ขาเทียมของเธอ ดวงตาคมกริบของเขามืดมนลง…หลินเซียงเดินออกจากบ้านแล้วไปที่สวนเมื่อได้สูดอากาศบริสุทธิ์ เธอก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาบ้างตอนนี้
เซี่ยหว่านก้มหน้าซ่อนความคิดไว้ในใจ ครั้งนี้เธออยากจะดูซิว่าลู่สือเยี่ยนจะทำอย่างไร จะอยู่กับเธอต่อไปได้ยังไง!...หลินเซียงกลับมาที่วิลล่า คนรับใช้เดินเข้ามาหาเธอและพูดว่า "คุณผู้หญิงสาม ซุปบำรุงร่างกายที่คุณย่าสั่งให้ทำส่งไปที่ห้องของคุณชายสามแล้วนะคะ คุณอย่าลืมทานนะคะ""อืม ฉันรู้แล้ว" หลินเซียงพยักหน้าเล็กน้อย "คุณย่าหลับหรือยังคะ?"คนรับใช้ส่ายหัว "ยังค่ะ"หลินเซียงพูดว่า "งั้นฉันขอไปดูคุณย่าก่อน"คนรับใช้พาเธอไปที่ห้องของคุณย่าลู่ คุณย่าลู่กำลังเล่นมาลัยดอกไม้อยู่ เห็นหลินเซียงมาก็ถามด้วยความดีใจ "เซียงเซียง เธอมาอยู่เป็นเพื่อนย่าเหรอ""ค่ะ คุณย่า คืนนี้หนูขอนอนเป็นเพื่อนคุณย่านะคะ" หลินเซียงเดินเข้ามา นั่งลงตรงข้ามกับคุณย่าลู่คุณย่าลู่กำลังจะพยักหน้า แต่แล้วก็นึกอะไรขึ้นได้ จึงส่ายหัวแล้วพูดว่า "ไม่ได้ ๆ ถ้านอนกับย่าแล้ว ย่าจะไปกอดเหลนที่ไหนล่ะ หนูจะมานอนกับย่าไม่ได้ ต้องไปนอนกับเจ้าเด็กนั่น ลู่สือเยี่ยน"มุมปากของหลินเซียงกระตุกเล็กน้อยสมองดูเหมือนเหมือนเด็กน้อย แต่ในหัวของคุณย่ากลับมีแต่เรื่องเหลนคุณย่าลู่พูดว่า "ดึกแล้ว กลับไปนอนกับลู่สือเยี่ยนได้แล้ว"
ซ่งซ่งนอนไม่หลับ พลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง ทั้งตื่นเต้นและกังวลใจ เมื่อคิดว่าตัวเองกำลังจะออกจากเมืองอวิ๋น ออกไปจากฟู่จิ่นซิ่ว คนที่น่ารังเกียจนั่น เธอก็รู้สึกตื่นเต้นแทบแย่แทบนับเวลาถอยหลัง“ปัง ปัง ปัง!”แต่ในขณะนั้นเอง เสียงเคาะประตูดังสนั่นก็ดังขึ้นซ่งซ่งตกใจ รีบลุกขึ้นมองออกไปข้างนอก เด็กผู้หญิงก็ตกใจตื่นเช่นกัน “ใครน่ะ?”ในใจของซ่งซ่งมีความรู้สึกไม่ดีแวบเข้ามา หรือว่าเขาจะตามทันแล้ว?เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?เธอลุกจากเตียงพูดว่า “ฉันไปดูเอง พวกเธออย่าออกมาล่ะ”เด็กผู้หญิงกังวลใจ “ซ่งซ่ง จะไม่เป็นไรใช่ไหม?”ซ่งซ่งพยักหน้า “ไม่ต้องห่วง ไม่มีอะไรหรอก”เธอสวมเสื้อผ้าออกจากบ้าน “ใคร?”เธอถามอย่างระมัดระวัง“ซ่งซ่ง ฉันเอง รีบออกมาเร็ว!”เสียงของหลินเซียงดังขึ้นที่หน้าประตูซ่งซ่งชะงัก รีบไปเปิดประตู “ที่รัก กลับมาทำไม?”เธอไม่ได้กลับบ้านไปแล้วเหรอ?พอคำนวณเวลาแล้ว ตอนนี้ควรจะถึงเฟิงหลินหย่วนแล้วสิหลินเซียงจับข้อมือเธอ สีหน้ากระวนกระวาย “ฉันเห็นรถของฟู่จิ่นซิ่ว เขาหาเธอเจอแล้ว ไปกันเร็ว!”เมื่อได้ยินดังนั้น ซ่งซ่งก็ตกตะลึง “หาฉันเจอแล้ว? หาฉันเจอได้ยังไง?”การเคลื่อนไหวขอ
หลินเซียงใส่ขนมปังกรอบลงในถุง จัดเตรียมให้เรียบร้อย พลางพูดว่า “เวลาจำกัด ฉันเลยทำแค่อาหารที่เก็บรักษาง่ายและรสชาติใช้ได้ ให้เธอมีอะไรรองท้องระหว่างทาง”เมื่อได้ยินแบบนั้น ซ่งซ่งก็กะพริบตา แล้ววิ่งเข้ามากอดเธอ “ที่รัก ทำไมน่ารักแบบนี้นะ หรือพวกเราหนีไปด้วยกันเลยดีไหม!”หลินเซียงยิ้ม “พอแล้ว ไปล้างหน้าเร็ว ฉันจะไปส่งเธอที่ชานเมือง”รถบัสรอบแรกมาถึงพรุ่งนี้เช้า ซ่งซ่งต้องไปรอตั้งแต่คืนนี้แต่ซ่งซ่งส่ายหน้า “ไม่ต้อง ฉันติดต่อคนไว้แล้ว เธอพักผ่อนที่บ้านเถอะ ฉันไม่เป็นไร”หลินเซียงพูดว่า “ไม่ได้ ถ้าฉันไม่ไปส่งเธอด้วยตัวเอง ฉันไม่สบายใจ”ซ่งซ่งมองสีหน้าจริงจังของเธอ รู้ว่าเธอตัดสินใจแล้ว จึงกอดเธออีกครั้ง “ฮือ ฮือ ไม่อยากจากเธอเลย”หลินเซียงพาเธอไปที่ห้องน้ำ ดูแลเธอขณะล้างหน้าล้างตา ตรวจสอบสิ่งของที่จำเป็นอาหาร เครื่องดื่ม และของใช้ส่วนตัวง่าย ๆ ล้วนเป็นแบบใช้แล้วทิ้งอืม เกือบครบแล้วหลังจากจัดของเสร็จ ทั้งสองคนก็อยู่ด้วยกันอีกพักหนึ่ง ก่อนจะออกเดินทางตอนตีสองเมืองอวิ๋นในยามดึกเงียบสงบ ถนนแทบไม่มีรถสัญจร ผู้คนยิ่งไม่มีหลินเซียงขับรถไปทางชานเมือง ส่วนซ่งซ่งก็พูดถึงความหวังในอน
หลินเซียง “…”แม้ว่าครั้งที่แล้วจะสังเกตเห็นความผิดปกติของคนทั้งสอง แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่ซ่งซ่งพูดออกมาในตอนนี้ เธอก็พูดอะไรไม่ออกการที่เรื่องราวพัฒนามาถึงจุดนี้ จริง ๆ แล้วมีร่องรอยให้เห็นฟู่จิ่นซิ่วให้ความสนใจกับซ่งซ่งมากเกินไป และซ่งซ่งก็ไม่ได้ระวังตัวเพียงแต่…ตอนนี้เพิ่งจะคิดได้ จะสายเกินไปหรือเปล่า?หลินเซียงพูดความกังวลของตัวเองออกมาซ่งซ่งเข้ามาใกล้ และกระซิบว่า “ที่รัก ฉันวางแผนไว้แล้ว ฉันจะไม่นั่งเครื่องบินหรือรถไฟ แต่จะนั่งรถบัสไป เป็นรถบัสแบบที่วิ่งตามท้องถนนในชนบท ตราบใดที่ฉันออกจากเมืองอวิ๋นไปได้อย่างปลอดภัย ถึงเขาจะอยากหาฉันก็หาไม่เจอ”หลินเซียงขมวดคิ้ว “แต่แบบนั้นไม่ปลอดภัยนะ”ซ่งซ่ง “ตอนนี้ฉันยังต้องสนใจเรื่องความปลอดภัยอยู่อีกเหรอ? ถ้ายังอยู่ในเมืองอวิ๋น ฉันก็ไม่ปลอดภัยอยู่ดี ฉันเลยต้องคิดแล้วตัดสินใจไปแบบกะทันหัน เขาคงเดาไม่ได้ว่าฉันจะไปเมื่อไหร่”หลินเซียงยังคงรู้สึกไม่ดี เปลี่ยนมาถามว่า “แล้วงานของเธอล่ะ?”ซ่งซ่งพูดว่า “ฉันขอลาออกแล้ว และวันนี้ก็เริ่มส่งใบสมัครงาน สร้างภาพลวงตาว่าฉันแค่อยากเปลี่ยนงานเฉยๆ”เธอวางแผนทุกอย่างไว้แล้ว หลินเซียงไม่รู้จะพูดอะ
บรรยากาศในลิฟต์ค่อนข้างแปลกประหลาดมีความเย็นชาปะปนกับความผ่อนคลาย บรรยากาศที่กดดันแผ่ซ่านไปทั่ว แต่เมื่อปะทะกับฉินโหย่วหานและหลินเซียง มันก็หายไปความรู้สึกแปลกประหลาดที่อธิบายไม่ได้ ทำให้รู้สึกอึดอัดลิฟต์เคลื่อนขึ้นไปอย่างราบรื่น ไม่นานประตูลิฟต์ก็เปิดออก ลู่สือเยี่ยนก้าวออกไปด้วยสีหน้าเย็นชาเป็นอย่างมากฉินโหย่วหานมองตามแผ่นหลังของเขา เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ เขาไม่ทำอะไรเลย นี่ไม่เหมือนนิสัยปกติของเขาหรือว่าเขาจะยอมปล่อยหลินเซียงแล้วจริง ๆ?ประตูลิฟต์ปิดลง สายตาของฉินโหย่วหานจับจ้องไปที่ใบหน้าของหลินเซียง แต่เห็นเธอมองประตูลิฟต์อย่างเหม่อลอยไม่ใช่สิ่งที่เธอมองน่าจะเป็นลู่สือเยี่ยนเพียงแต่ตอนนี้ประตูลิฟต์ปิดลง บดบังสายตาของเธอไว้ในดวงตาของฉินโหย่วหานมีความเย็นชาเพิ่มขึ้น เขาถามว่า “คิดอะไรอยู่?”ขนตาของหลินเซียงสั่นเล็กน้อย “ฉันแค่คิดว่า ในเรื่องนี้ เขากำลังรับบทบาทเป็นอะไร”ฉินโหย่วหานกล่าวว่า “ไม่ว่าเขาจะแสดงบทบาทไหน ก็ไม่เกี่ยวกับพวกเราแล้ว”หลินเซียงเหม่อลอยไปครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “คุณพูดถูก”เธอและลู่สือเยี่ยนหย่ากันแล้วดังนั้นจึงไม่มีความเกี่
ฉินโหย่วหานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “บอกเรื่องที่คุณรู้ทั้งหมดให้ผมฟังหน่อย”หลินเซียงพยักหน้า เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟังอย่างละเอียดครู่หนึ่ง ฉินโหย่วหานก็หัวเราะเบา ๆหลินเซียงมองเขา “เป็นอะไรไป?”ฉินโหย่วหานพูดว่า “หลินเซียง ผมขอเดาแบบบ้า ๆ เลยนะ”“พูดมาก่อนค่ะ” หลินเซียงมองเขาอย่างจริงจัง ในดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัยฉินโหย่วหานจอดรถข้างทาง เอามือวางบนพวงมาลัย บนใบหน้าหล่อเหลาและอ่อนโยนปรากฏรอยยิ้มขบขัน “คุณว่ามีความเป็นไปได้ไหม ที่มีคนปลอมตัวเป็นจ้าวข่ายไปทำเรื่องพวกนั้น แล้วโยนความผิดให้เขา?”เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของหลินเซียงก็เบิกกว้างขึ้นเรื่อย ๆ มือของเธอกำขนมปังกรอบแน่นความเป็นไปได้นี้ เธอไม่เคยคิดถึงมาก่อน!เมื่อคิดดูให้ดี ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอหรือรูปถ่ายที่ลู่สือเยี่ยนให้เธอดู ‘จ้าวข่าย’ คนนั้นสวมหมวกและหน้ากากตลอดเวลา มองจากรูปร่างก็คิดว่าเป็นจ้าวข่ายได้ไม่ยากแต่ถ้าไม่ใช่ล่ะ?ถ้าเป็นแค่คนที่มีรูปร่างคล้ายกับจ้าวข่ายมาก ๆ ล่ะ?เมื่อนึกถึงห้องใต้ดินที่มืดมิด จ้าวข่ายที่ล้มลุกคลุกคลานอยู่บนพื้น พยายามอธิบายด้วยความเจ็บปวดเขาพูดมาตลอดว่าเขาไม่ได้ขโมย เ
“ตกใจมากใช่ไหม?” ซ่งจั่วมองสีหน้าตกตะลึงของเขาแล้วยิ้มขมขื่น“แหงล่ะ พวกเราทุกคนคิดว่าเซี่ยหว่านเป็นคนช่วยท่านประธานลู่จริง ๆ ถือว่าเธอเป็นผู้มีบุญคุณอย่างมาก แต่ต่อมาพวกเราก็รู้ความจริง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตัวเอง เธอทำได้ทุกวิถีทาง”ซ่งจั่วเก็บแท็บเล็ต “ซือเยี่ยน สิ่งที่นายยึดมั่นมานานผิดทั้งหมด”“ทำไมเป็นแบบนี้?” ซือเยี่ยนพึมพำกับตัวเอง “ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้?”ลู่สือเยี่ยนมองเขาอย่างเย็นชา “อยู่กับฉันมานานขนาดนี้ หัวคิดไม่มีความก้าวหน้าเลยสักนิด”ซือเยี่ยนตัวสั่น มองลู่สือเยี่ยนด้วยสายตาอ้อนวอน “ท่านประธานลู่ครับ ผมรู้ตัวแล้วว่าผิด ผมสำนึกผิดจริง ๆ ได้โปรดให้โอกาสผมอีกครั้ง…”เสียงของเขาเริ่มสั่นเครือ ตัวสั่นสะท้านอย่างรุนแรงเพราะเขารู้ว่าลู่สือเยี่ยนจะไม่ให้โอกาสเขาอีกลู่สือเยี่ยนมองเขาอย่างเย็นชา แล้วพูดกับซ่งจั่วว่า “ตัดเอ็นข้อมือข้อเท้าเขาซะ แล้วเอาไปทิ้งที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำ”“ครับ”ซ่งจั่วรู้สึกสงสาร แต่นี่เป็นคำสั่งของลู่สือเยี่ยนลู่สือเยี่ยนหันหลังเดินจากไปซือเยี่ยนมองตามลู่สือเยี่ยนที่จากไปด้วยสีหน้าสิ้นหวัง ในดวงตาเต็มไปด้วยความเสียใจ!…หลินเซียงออกมา
สวีซินหรานหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออก ในระหว่างนั้น สายตาของเธอมองไปยังหลินเซียงที่อยู่ไม่ไกลนัก ในดวงตาปรากฏความเคียดแค้น“ฮัลโหล คุณเซี่ย ช่วยฉันหน่อยได้ไหม? ฉันอยากฆ่าหลินเซียง นังสารเลวนั่น!”…ซืออวี่สังเกตเห็นความผิดปกติของหลินเซียงเธอเย็นชามาก ไม่สนใจอะไรเลย แต่ก็ยังคงทำงานที่ได้รับมอบหมายได้เป็นอย่างดีซืออวี่บอกข่าวนี้กับลู่สือเยี่ยนในขณะนั้น ลู่สือเยี่ยนกำลังดูสิ่งที่ซ่งจั่วได้มาจากการสืบสวน คิ้วขมวดแน่นฉินโหย่วหานจับเซี่ยหว่านขังไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ ถือเป็นการแก้แค้นแทนหลินเซียง แต่สิ่งนี้เกี่ยวข้องอะไรกับการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเธอกัน?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงต่ำ “จับตาดูซือเยี่ยนไว้ เขาดูไม่ปกติ”ซ่งจั่วชะงัก “คงไม่ใช่มั้งครับ เขาคอยปกป้องคุณหลินมาตลอดไม่ใช่เหรอ?”ลู่สือเยี่ยนพูดอย่างเย็นชา “บอกให้ไปก็ไป ทำไมต้องพูดมาก?”ซ่งจั่ว “ครับ”การตรวจสอบพฤติกรรมของซือเยี่ยนเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา แต่เมื่อเขาเห็นสิ่งที่ได้จากการตรวจสอบ เขาก็ตกใจมากช่วงเย็น ซ่งจั่วก็นำหลักฐานที่ได้มาส่งให้ลู่สือเยี่ยนเขามองลู่สือเยี่ยนอย่างหวาดหวั่น มือที่กำแน่นมีเหงื่อออกลู่สือเยี่ย
เขามองซ่งจั่วอย่างเย็นชา “เธอเป็นอะไรไป?”ซ่งจั่วทำหน้างง “ผม ผมไม่รู้ครับ”ตอนเจอหลินเซียงที่โรงพยาบาลก่อนหน้านี้ เธอยังไม่เป็นแบบนี้ แต่หลินเซียงตอนนี้ เรียกได้ว่าเย็นชาและไม่เป็นมิตรอย่างมากช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงเย็น “ไปสืบมาให้ชัดเจน”“ครับ” ซ่งจั่วพยักหน้าลู่สือเยี่ยนไม่ออกไป แต่ไปที่ชั้นใต้ดิน ราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้จึงพูดว่า “เรียกซือเยี่ยนมาพบฉัน”“ครับ”ดีเค กรุ๊ปทันทีที่ลู่สือเยี่ยนเข้าไปในห้องส่วนตัวของประธาน ซือเยี่ยนก็เคาะประตูห้อง“เข้ามา”ซือเยี่ยนเปิดประตูเข้าไป สีหน้าค่อนข้างเกร็ง “ท่านประธานลู่”ลู่สือเยี่ยนนั่งลงบนเก้าอี้ ถามด้วยเสียงเย็นชา “นายติดตามหลินเซียงมาตลอด เห็นความผิดปกติของเธอบ้างไหม?”ดวงตาของซือเยี่ยนกะพริบเล็กน้อย เมื่อคืนเขาไม่ได้ติดตามหลินเซียงตลอดเวลา แต่เรื่องก่อนหน้านี้ก็ยังพอจะตอบคำถามได้“ฉินโหย่วหานไปรับคุณหลิน แล้วทั้งสองคนไปที่ชายหาด ที่เดียวกับที่ที่คุณหลินถูกจับตัวไปครั้งก่อน” ซือเยี่ยนเริ่มเล่าเมื่อได้ยินดังนั้น ลู่สือเยี่ยนก็หรี่ตาลงเล็กน้อย “พวกเขาไปที่นั่นทำไม?”ซือเยี่ยน “ผม ผมไม่ทราบครับ ผมอย
สีหน้าของหลินเซียงชะงักไปเล็กน้อย นิ้วที่กำโทรศัพท์แน่นขึ้น เสียงพูดแห้งผาก “ฉันเหมือนจะไม่เคยพูดว่าเขารักฉันนี่คะ”เซี่ยซือซือถอนหายใจ “หลินเซียง พวกเราแพ้แล้ว”หลินเซียงหลับตาลง “ขอโทษนะคะ คุณเซี่ย แผนการฉันดันไปดึงคุณลงมาซวยด้วย ถ้ามันสร้างความเสียหายอะไรให้คุณ คุณบอกฉันได้เลย”เซี่ยซือซือหัวเราะขมขื่น “ไม่ ไม่มีอะไรเสียหาย ฉันเต็มใจร่วมมือกับคุณเอง ไม่ว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง ฉันก็ต้องรับผิดชอบ”หลินเซียงพูดอะไรไม่ออก เพราะพวกเขาไม่เคยคิดว่าเรื่องราวจะดำเนินไปในทิศทางนี้ไม่เคยคิดเลยว่าลู่สือเยี่ยนจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเซี่ยหว่านทำไมกัน?คำถามนี้ เธอคิดไม่ตกมาตลอดทำไมเขาต้องช่วยเซี่ยหว่าน?ในใจของหลินเซียง ตอนนี้มีความรู้สึกอยากจะไปหาลู่สือเยี่ยน ถามเขาว่านี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่เสียงของเซี่ยซือซือดังขึ้น “หลินเซียง ฉันขอจัดการเรื่องของตัวเองก่อน มีความคืบหน้าอะไร เราค่อยติดต่อกันใหม่”“ค่ะ”หลังจากวางสายหลินเซียงยังคงอยู่ในสภาพเหม่อลอยไม่รู้ทำไม เสียงของเซี่ยซือซือถึงดังก้องอยู่ในหูเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าลู่สือเยี่ยนรักเธอจริงเหรอ?เคยรักจริง ๆ บ้างหรือเปล่า?