หลินเซียงพยายามดิ้นรน แต่ก็ดิ้นไม่หลุด ใบหน้าเล็กแสดงสีหน้าเย็นชา เธอถามกลับ “แล้วจะให้มาเพราะเรื่องอะไรล่ะ? ฉันต้องถามให้รู้เรื่องชัดเจน ว่าทำไมคุณถึงจ้องจะเล่นงานฉีจื่อเหิง เขาไม่ได้ไปทำอะไรให้คุณไม่พอใจสักหน่อย”“ทำสิ”ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงเย็นชาหลินเซียงตกใจ “เมื่อไหร่?”ลู่สือเยี่ยนปล่อยมือ แล้วมองเธอด้วยความเย็นชา “ทำไมผมต้องบอกคุณด้วย? คุณเป็นอะไรกับเขา? มาถามผมในฐานะอะไร?”“คุณ…”หลินเซียงหายใจติดขัด มองท่าทางที่ไม่ยอมอ่อนข้อของเขา รู้สึกพูดไม่ออกและหมดหนทาง!พอเป็นแบบนี้แล้วเธอทำอะไรไม่ได้เลย!และดูท่าแล้ว เขาคงไม่ปล่อยฉีจื่อเหิงไปง่าย ๆ แน่ ทั้งหมดเป็นเพราะเธอที่ทำให้ฉีจื่อเหิงต้องเดือดร้อน เธอต้องจัดการเรื่องนี้ให้จบหลินเซียงหายใจเข้าลึก ก่อนจะปรับน้ำเสียงให้ฟังดูดีขึ้น แล้วถามว่า “ลู่สือเยี่ยน ถ้าเขาทำผิดอะไร หรือไปทำให้คุณไม่พอใจ ฉันขอโทษแทนเขา คุณเป็นถึงประธานบริษัทดีเคกรุ๊ป ควรใจกว้างต่อเพื่อนมนุษย์ อย่าถือสาหาความเขาเลยนะ”แต่ทันทีที่เธอพูดจบ สีหน้าของลู่สือเยี่ยนก็เย็นชายิ่งกว่าเดิม เขาหัวเราะเยาะ “คุณขอโทษแทนเขา? คิดว่าตัวเองเป็นใคร? แล้วเขาเป็นใคร?”หลินเ
ลู่สือเยี่ยนสั่ง “ไปดูสิ”หลินเซียง “…”เธอกลายเป็นเลขาของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่!น่าโมโหจริงเชียว!เธอเดินไปเปิดประตู พบว่าเป็นอาหารที่เธอสั่งมา จึงหยิบเข้ามาวางไว้บนโต๊ะลู่สือเยี่ยนลุกขึ้นเดินมาเปิดถุงอาหารทันที เมื่อเห็นหม้อไฟข้างใน เขาก็ขมวดคิ้วทันที“จะให้ผมกินแค่นี้เหรอ?”หลินเซียง “ฉันสั่งมากินเองต่างหาก…”ลู่สือเยี่ยนหรี่ตามองเธอ สีหน้าเคร่งเครียดหลินเซียงพูดเสียงเบา “ใครจะรู้ว่าคุณจะกลับมาตอนนี้ล่ะ ถ้าคุณบอกฉันก่อน ฉันคงทำกับข้าวไว้ให้คุณแล้ว”ห้องชุดนี้มีอุปกรณ์เครื่องครัวครบครัน มีห้องครัวขนาดย่อม สามารถปรุงอาหารง่าย ๆ ได้สบายลู่สือเยี่ยนบอกว่า “ตอนนี้คุณจะทำให้กินก็ได้นี่”หลินเซียง “…”เหมือนเธอขุดหลุมฝังตัวเองเธอมองเขาแล้วถามว่า “ถ้าฉันทำอาหารให้คุณ คุณจะปล่อยฉีจื่อเหิงไปไหม?”ลู่สือเยี่ยนมองเธออย่างเย็นชา “นี่คือท่าทีขอร้องที่ควรทำเหรอ?”หลินเซียงขมวดคิ้ว แล้วบอกว่า “ทำยังไงคุณถึงจะปล่อยเขา?”ลู่สือเยี่ยน “ตอนที่ผมอารมณ์ดี”หลินเซียงยิ้มแห้ง “ฉันว่าตอนนี้คุณก็ออกจะอารมณ์ดี ลอง…”ลู่สือเยี่ยนขัดจังหวะอย่างเย็นชา “ไม่ ตอนนี้ผมอารมณ์ไม่ดีเลย ฆ่าคนได้ด้วย
ลู่สือเยี่ยนพูดว่า "แล้วทำไมต้องจ้องผมตลอดเวลา? ชอบผมเหรอ?"พูดจบ เขาก็ยิ้มเล็กน้อยตรงมุมปาก แล้วยื่นมือไปลูบใบหน้าของเธอ "ผมรู้ว่าคุณชอบผมมาตลอด ดังนั้นไม่ต้องมองผมตรง ๆ แบบนั้นก็ได้ เพราะเดี๋ยวผมจะอดใจไม่ไหวแล้วทำอะไรกับคุณตรงนี้ซะเลย"หลินเซียง "..."บ้าไปแล้ว!เธอรีบลุกขึ้นจากตัวเขา ใบหน้าร้อนผ่าว หันหลังแล้วไปที่ห้องน้ำลู่สือเยี่ยนจ้องมองแผ่นหลังของเธอ มุมปากของเขาก็ตกลง ลุกขึ้นจากโต๊ะกินข้าวและกลับไปยุ่งอยู่กับงานของตัวเองอีกครั้งหลินเซียงล้างหน้าด้วยน้ำเย็น จนกระทั่งเธอสงบอารมณ์ลงได้ไม่งั้นเธอคงอดใจไม่ไหวที่จะตบเขาสักฉาด!ตอนนี้เธอเป็นฝ่ายขอร้อง ต้องลดท่าทีแข็งกร้าวลงหลินเซียงยิ้มอย่างขมขื่น เธอเป็นภรรยาเขาแท้ ๆ แต่พอต้องการให้เขาทำอะไรสักอย่าง เธอกลับต้องลดท่าที ยอมอ่อนน้อม ถึงจะทำให้เขาพอใจช่างล้มเหลวในการเป็นภรรยาจริง ๆ!แต่แน่นอนว่าเขาในฐานะสามีล้มเหลวมากกว่าเธอเป็นร้อยเท่า!หลินเซียงออกจากห้องน้ำ เห็นว่าเขานั่งทำงานอยู่ จึงเดินไปถามอย่างระมัดระวังว่า "ลู่สือเยี่ยน คุณช่วย...""ผมยุ่งอยู่"เสียงทุ้มต่ำของลู่สือเยี่ยนดังขึ้นอย่างไร้อารมณ์คำพูดของหลินเซียง
ลู่สือเยี่ยนพูดว่า “ผมอยากอาบ คุณมีปัญหาอะไร?”หลินเซียง "..."เธอสูดหายใจเข้าลึก แล้วถามว่า “คุณเสร็จงานแล้วใช่ไหม? งั้นตอนนี้เราก็คุยกันเรื่องฉีจื่อเหิงได้แล้วน่ะสิ?”ลู่สือเยี่ยนหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่มอึกหนึ่ง สีหน้าเย็นชา “ผมต้องไปงานเลี้ยงเย็นนี้ คุณไปกับผม ถ้าทำตัวดี ผมจะพิจารณาปล่อยผ่านเขา”หลินเซียงขมวดคิ้ว “พูดให้มันแน่นอนไม่ได้หรือไงว่าถ้าฉันทำตัวดี คุณจะปล่อยเขา?”ทำไมต้องมีคำว่า ‘พิจารณา’ ด้วย?ถ้าเกิดเขาพิจารณาแล้วไม่อยากปล่อยฉีจื่อเหิงจะทำยังไงล่ะ?ลู่สือเยี่ยนมองเธอด้วยแววตาเยาะเย้ย “ฉลาดดีนี่”หลินเซียง "..."ขอบคุณ แต่ฉันไม่ชอบคำชมแบบนี้ลู่สือเยี่ยนเชิดคางขึ้น “ไปเปลี่ยนชุด”หลินเซียงมองตามสายตาของเขาไป เห็นชุดราตรีวางอยู่บนโซฟาอีกด้านหนึ่งเธอเดินไปหยิบขึ้นมาแล้วเข้าไปเปลี่ยนในห้องโชคดีที่ชุดราตรีค่อนข้างเรียบร้อย ไม่เผยให้เห็นเนื้อหนังมังสามากเกินไป ทั้งยังปกปิดร่องรอยที่น่าอายได้เธอเดินออกมา เห็นลู่สือเยี่ยนสวมสูทเรียบร้อยแล้ว กำลังกำลังสวมนาฬิกาอยู่ ทั้งเนื้อทั้งตัวประดับด้วยเสื้อผ้าหรูหราล้นเหลือ จนคนมองอดใจไม่ไหวที่จะหลงใหลขนตาของหลินเซียงสั่นไหว
หลินเซียงจ้องมองตามแผ่นหลังของเขา ถ้าสายตาสามารถฆ่าคนได้ ตอนนี้เขาคงเต็มไปด้วยบาดแผลนับไม่ถ้วนน่ารังเกียจจริง ๆ!“คุณผู้หญิงครับ รีบขึ้นรถเถอะครับ”ซ่งจั่วกระตุ้นเบา ๆ จากด้านข้าง หลินเซียงมองเขา “บอกแล้วไงว่าอย่าเรียกฉันแบบนั้น ไม่เข้าใจเหรอ?”ซ่งจั่ว "..."หลังจากที่หลินเซียงพูดจบ เธอก็ขึ้นรถทันที มองใบหน้าเย็นชาของลู่สือเยี่ยน พยายามระงับอารมณ์ของตัวเอง ใช้เวลาปลอบใจตัวเองสักพักแล้วพูดว่า “ลู่สือเยี่ยน ฉันไม่ได้มีเจตนาอื่น ฉันแค่คิดแทนคุณ ไหน ๆ เซี่ยหว่านก็รู้แล้วว่าคุณไม่อยากหย่ากับฉัน ซึ่งเธอก็คงเสียใจแน่ ๆ แล้วถ้าเกิดเธอเกิดขู่จะกระโดดตึกตายขึ้นมาอีกล่ะ?”คำพูดของเธอดูจริงใจมากแต่ลู่สือเยี่ยนได้ยินก็ยิ่งโมโหมากขึ้น เขาหลับตาลง ทำเป็นไม่สนใจเธอหลินเซียงมองสีหน้าที่มืดมนของเขา อารมณ์ของเธอกลับดีขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุ เธอไม่ได้พูดอะไรต่อ หันไปมองวิวข้างนอกหน้าต่างแทนรถวิ่งไปตามถนนราบเรียบเทศมณฑลอันเป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ ความคึกคักในเวลากลางคืนไม่อาจเทียบเท่ากับความคึกคักของเมืองใหญ่ ถนนหนทางเงียบเหงาลงเร็วมากรถวิ่งเข้าสู่ถนนทางเลียบขึ้นเขา นี่คือทางที่นำไปสู่กลางหุบ
ลู่สือเยี่ยนผลักเธอออกห่าง แล้วหยิบกล่องเล็ก ๆ ออกมา “สุขสันต์วันเกิดนะ”เจียงเนี่ยนอวี๋รับมาด้วยความดีใจ “ขอบคุณค่ะพี่สือเยี่ยน ฉันชอบของขวัญที่พี่ให้มากเลยค่ะ!”ของขวัญไม่สำคัญ สำคัญคือใครเป็นคนให้ของขวัญลู่สือเยี่ยนยิ้มอ่อน “ถ้าชอบก็ดีแล้ว”เจียงเนี่ยนอวี๋สังเกตเห็นหลินเซียงที่อยู่ด้านข้างลู่สือเยี่ยน เห็นหลินเซียงคล้องแขนลู่สือเยี่ยนไว้ไม่ห่าง สีหน้าของเจียงเนี่ยนอวี๋เปลี่ยนไปทันที พลันผลักหลินเซียงออกไป แล้วมาคล้องแขนลู่สือเยี่ยนแทน“คุณเป็นใครกัน? พี่สือเยี่ยนจะกลายเป็นคนของคุณได้ยังไง?”ท่าทางหยิ่งยโส เหมือนเจ้าหญิงน้อยที่ถูกตามใจจนเสียคนหลินเซียงไม่ทันตั้งตัว ถูกผลักจนเซ ลู่สือเยี่ยนดึงเธอไว้จึงยังทรงตัวได้ดวงตาของเธอฉายแววเย็นชา กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สบตากับลู่สือเยี่ยนที่มองมาด้วยสายตาตักเตือนเอาเถอะ อดทนก็อดทนเจียงเนี่ยนอวี๋เกี่ยวก้อยกับลู่สือเยี่ยน แล้วเดินเข้าไปข้างใน “พี่สือเยี่ยน ฉันได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นกับพี่แล้วนะ ดีใจจังที่พี่ปลอดภัย พ่อฉันก็เป็นห่วงพี่มากเหมือนกัน ท่านรอพี่อยู่ข้างใน”“อืม พี่ไม่เป็นไร”ลู่สือเยี่ยนพูดเบา ๆหลินเซียงเดินตามพวก
ลู่สือเยี่ยนตัวแข็งทื่อ มองรอยยิ้มอ่อนหวานที่มุมปากเธอ หัวใจพลอยอ่อนลงตามไปด้วย“อืม”“ประธานลู่ใจดีที่สุดเลยค่ะ”หลินเซียงพูดเสียงหวานเจียงเนี่ยนอวี๋โมโหจนแทบคลั่ง!เป็นอย่างที่พี่สาวพูดจริง ๆ ด้วย ผู้หญิงคนนี้มันร้ายกาจ เหมือนปีศาจจิ้งจอก!ไม่ได้ ฉันจะไม่ยอมให้ผู้หญิงแบบนี้มาอยู่ข้าง ๆ พี่สือเยี่ยนเด็ดขาด พี่สือเยี่ยนต้องเป็นของฉัน!“คุณพ่อคะ หนูอยากให้พี่สือเยี่ยนอยู่เป็นเพื่อนหนูตลอดทั้งงาน วันนี้เป็นวันเกิดหนูนะคะ อย่ามัวคุยเรื่องธุรกิจน่าเบื่ออยู่เลยค่ะ”เจียงเนี่ยนอวี๋คล้องแขนเจียงจิ่นหรง ทำท่าทางออดอ้อนเจียงจิ่นหรงรักลูกสาวคนนี้มาก ขยี้จมูกเธอเบา ๆ แล้วพูดว่า “โตขนาดนี้แล้ว ทำไมยังทำตัวเหมือนเด็กอยู่ได้ อย่าสร้างปัญหาให้สือเยี่ยนล่ะ ได้ยินไหม?”“ค่า รู้แล้วค่ะ”เจียงเนี่ยนอวี๋พูดจบก็หันไปมองลู่สือเยี่ยน “พี่สือเยี่ยน เราออกไปข้างนอกกันดีไหมคะ? สวนดอกไม้ของฉันสวยมากเลยนะ ฉันไม่เคยเชิญใครเข้าไปดูเลย เพราะอยากเก็บไว้ให้พี่ดูคนเดียว”เจียงจิ่นหรงพูดเสริม “สือเยี่ยน วันนี้เป็นวันเกิดของหนูเล็ก เราไม่ต้องคุยเรื่องงานกันแล้ว พวกเธอหนุ่มสาวไปเดินเที่ยวกันเถอะ ไม่ต้องมานั่
ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงเบาว่า "เพื่อนเธอมากันแล้ว ไปดูสิว่าพวกเขาเอาของขวัญอะไรมาให้"เจียงเนี่ยนอวี๋กัดริมฝีปากอย่างไม่ยอมแพ้ มองหลินเซียงอย่างมุ่งร้าย แล้วยกชายกระโปรงเดินออกไปหลินเซียงพูดด้วยเสียงกระซิบ "ลู่สือเยี่ยน ฉันสงสัยว่าคุณกำลังทำให้ฉันตกเป็นเป้านิ่ง"ลู่สือเยี่ยน "ยังไง?"หลินเซียงพูดว่า "เจ้าหญิงน้อยคนนี้โกรธฉันเข้าแล้ว ฉันเป็นคนที่คุณพามา ดังนั้นคุณต้องปกป้องความปลอดภัยของฉันนะ ถ้าฉันเป็นอะไรไป คุณต้องรับผิดชอบ"ลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธอด้วยดวงตาสีเข้ม ริมฝีปากบางยิ้มจาง ๆ พลางพูดว่า "สบายใจได้ ผมไม่ปล่อยให้คุณแขนขาดขาขาดหรอก"หลินเซียงหดคอลงโดยไม่รู้ตัว ไม่อยากพูดเรื่องนี้ต่อแล้วต้องยอมรับว่าภูเขาดอกกุหลาบสวยงดงามจริง ๆ เธออดไม่ได้ที่จะมองด้วยความชื่นชมหลายครั้งลู่สือเยี่ยนและหลินเซียงเดินเล่นในสวนอยู่หลายรอบ ชื่นชมทิวทัศน์ที่สวยงาม เมื่อเดินไปถึงศาลากลางสวน ลู่สือเยี่ยนก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ เขาหยิบขึ้นมาดู แล้วพูดว่า "ผมขอไปรับโทรศัพท์ก่อนนะ"หลินเซียงพยักหน้า เธอยืนอยู่ในศาลาไม่เตร่ไปไหนที่นี่เป็นถิ่นของตระกูลเจียง แถมเจียงเนี่ยนอวี๋ยังจงเกลียดจงชังเธออีก ถ้าเธ
สวีซินหรานหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออก ในระหว่างนั้น สายตาของเธอมองไปยังหลินเซียงที่อยู่ไม่ไกลนัก ในดวงตาปรากฏความเคียดแค้น“ฮัลโหล คุณเซี่ย ช่วยฉันหน่อยได้ไหม? ฉันอยากฆ่าหลินเซียง นังสารเลวนั่น!”…ซืออวี่สังเกตเห็นความผิดปกติของหลินเซียงเธอเย็นชามาก ไม่สนใจอะไรเลย แต่ก็ยังคงทำงานที่ได้รับมอบหมายได้เป็นอย่างดีซืออวี่บอกข่าวนี้กับลู่สือเยี่ยนในขณะนั้น ลู่สือเยี่ยนกำลังดูสิ่งที่ซ่งจั่วได้มาจากการสืบสวน คิ้วขมวดแน่นฉินโหย่วหานจับเซี่ยหว่านขังไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ ถือเป็นการแก้แค้นแทนหลินเซียง แต่สิ่งนี้เกี่ยวข้องอะไรกับการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเธอกัน?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงต่ำ “จับตาดูซือเยี่ยนไว้ เขาดูไม่ปกติ”ซ่งจั่วชะงัก “คงไม่ใช่มั้งครับ เขาคอยปกป้องคุณหลินมาตลอดไม่ใช่เหรอ?”ลู่สือเยี่ยนพูดอย่างเย็นชา “บอกให้ไปก็ไป ทำไมต้องพูดมาก?”ซ่งจั่ว “ครับ”การตรวจสอบพฤติกรรมของซือเยี่ยนเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา แต่เมื่อเขาเห็นสิ่งที่ได้จากการตรวจสอบ เขาก็ตกใจมากช่วงเย็น ซ่งจั่วก็นำหลักฐานที่ได้มาส่งให้ลู่สือเยี่ยนเขามองลู่สือเยี่ยนอย่างหวาดหวั่น มือที่กำแน่นมีเหงื่อออกลู่สือเยี่ย
เขามองซ่งจั่วอย่างเย็นชา “เธอเป็นอะไรไป?”ซ่งจั่วทำหน้างง “ผม ผมไม่รู้ครับ”ตอนเจอหลินเซียงที่โรงพยาบาลก่อนหน้านี้ เธอยังไม่เป็นแบบนี้ แต่หลินเซียงตอนนี้ เรียกได้ว่าเย็นชาและไม่เป็นมิตรอย่างมากช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงเย็น “ไปสืบมาให้ชัดเจน”“ครับ” ซ่งจั่วพยักหน้าลู่สือเยี่ยนไม่ออกไป แต่ไปที่ชั้นใต้ดิน ราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้จึงพูดว่า “เรียกซือเยี่ยนมาพบฉัน”“ครับ”ดีเค กรุ๊ปทันทีที่ลู่สือเยี่ยนเข้าไปในห้องส่วนตัวของประธาน ซือเยี่ยนก็เคาะประตูห้อง“เข้ามา”ซือเยี่ยนเปิดประตูเข้าไป สีหน้าค่อนข้างเกร็ง “ท่านประธานลู่”ลู่สือเยี่ยนนั่งลงบนเก้าอี้ ถามด้วยเสียงเย็นชา “นายติดตามหลินเซียงมาตลอด เห็นความผิดปกติของเธอบ้างไหม?”ดวงตาของซือเยี่ยนกะพริบเล็กน้อย เมื่อคืนเขาไม่ได้ติดตามหลินเซียงตลอดเวลา แต่เรื่องก่อนหน้านี้ก็ยังพอจะตอบคำถามได้“ฉินโหย่วหานไปรับคุณหลิน แล้วทั้งสองคนไปที่ชายหาด ที่เดียวกับที่ที่คุณหลินถูกจับตัวไปครั้งก่อน” ซือเยี่ยนเริ่มเล่าเมื่อได้ยินดังนั้น ลู่สือเยี่ยนก็หรี่ตาลงเล็กน้อย “พวกเขาไปที่นั่นทำไม?”ซือเยี่ยน “ผม ผมไม่ทราบครับ ผมอย
สีหน้าของหลินเซียงชะงักไปเล็กน้อย นิ้วที่กำโทรศัพท์แน่นขึ้น เสียงพูดแห้งผาก “ฉันเหมือนจะไม่เคยพูดว่าเขารักฉันนี่คะ”เซี่ยซือซือถอนหายใจ “หลินเซียง พวกเราแพ้แล้ว”หลินเซียงหลับตาลง “ขอโทษนะคะ คุณเซี่ย แผนการฉันดันไปดึงคุณลงมาซวยด้วย ถ้ามันสร้างความเสียหายอะไรให้คุณ คุณบอกฉันได้เลย”เซี่ยซือซือหัวเราะขมขื่น “ไม่ ไม่มีอะไรเสียหาย ฉันเต็มใจร่วมมือกับคุณเอง ไม่ว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง ฉันก็ต้องรับผิดชอบ”หลินเซียงพูดอะไรไม่ออก เพราะพวกเขาไม่เคยคิดว่าเรื่องราวจะดำเนินไปในทิศทางนี้ไม่เคยคิดเลยว่าลู่สือเยี่ยนจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเซี่ยหว่านทำไมกัน?คำถามนี้ เธอคิดไม่ตกมาตลอดทำไมเขาต้องช่วยเซี่ยหว่าน?ในใจของหลินเซียง ตอนนี้มีความรู้สึกอยากจะไปหาลู่สือเยี่ยน ถามเขาว่านี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่เสียงของเซี่ยซือซือดังขึ้น “หลินเซียง ฉันขอจัดการเรื่องของตัวเองก่อน มีความคืบหน้าอะไร เราค่อยติดต่อกันใหม่”“ค่ะ”หลังจากวางสายหลินเซียงยังคงอยู่ในสภาพเหม่อลอยไม่รู้ทำไม เสียงของเซี่ยซือซือถึงดังก้องอยู่ในหูเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าลู่สือเยี่ยนรักเธอจริงเหรอ?เคยรักจริง ๆ บ้างหรือเปล่า?
ช่างน่าขันอะไรอย่างนี้?สิ่งที่ตัวเองวางแผนไว้ วิธีการลงโทษคนอื่น สุดท้ายก็เหมือนกับการชกเข้ากับปุยนุ่นอ่อนปวกเปียก ไร้เรี่ยวแรงถูกแล้วแม้แต่ความโกรธของเธอก็ยังไร้เรี่ยวแรง เพราะคนที่เธอเผชิญหน้าคือลู่สือเยี่ยนเธอไม่สามารถต่อต้านเขาได้เลย!ตราบใดที่เขาต้องการ เขาสามารถปิดกั้นเส้นทางทั้งหมดของเธอได้จ้าวข่ายก่อนหน้าก็เป็นแบบนี้ เซี่ยหว่านในตอนนี้ก็ลงเอยแบบนี้เธอเข้าไปพัวพันกับคนแบบไหนมานานขนาดนี้กันนะ?สายตาของหลินเซียงเหม่อลอยไปเล็กน้อย มองไปยังความมืดด้านหน้าอย่างงุนงง ราวกับเหวลึกที่ไม่มีที่สิ้นสุดกำลังค่อย ๆ ปกคลุมเธอเข้าไปฉินโหย่วหานจับมือเธอ “หลินเซียง ไม่เป็นไรนะ?”“ฉัน…ไม่เป็นไรค่ะ” หลินเซียงขยับริมฝีปากพูดเธอสบายดี เธอไม่เป็นอะไร แค่ล้มเหลวเท่านั้น ไม่เป็นไรน้ำตาที่เงียบงันไหลลงมาจากแก้ม รู้สึกเพียงแค่ความเย็นเยียบที่แก้ม พอยื่นมือไปสัมผัส มองลงไปก็เห็นคราบน้ำใสบนนิ้วร้องไห้ทำไม?มีอะไรให้ร้องกัน?ควรรู้ตัวตั้งนานแล้วต่างหาก!ความคิดของเขา เธอคาดเดาไม่ได้เลย!แต่เธอยังกล้าที่จะต่อสู้กับเขา?หึ ฮ่าฮ่าฮ่า!หลินเซียงหัวเราะเยาะตัวเอง แต่ไม่รู้ทำไม น้ำต
ซือเยี่ยนค่อนข้างลนลาน “คุณเซี่ย อย่าร้องไห้เลย ไม่มีใครอยากให้คุณตาย อย่าร้องไห้…”เซี่ยหว่านมองเขาด้วยดวงตาที่พร่ามัวไปด้วยน้ำตา “แต่นายมาช่วยฉัน ถ้านายมาไม่ทันล่ะ? ฉันคงตายไปแล้ว!”ซือเยี่ยน “อ่า…คือว่า”เซี่ยหว่านกำแขนเขาแน่น “นายช่วยฉันได้ไหม? ฉันไม่อยากตายจริง ๆ…”ซือเยี่ยนเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “คุณเซี่ย อยากให้ผมทำอะไรครับ?”แววแห่งความภาคภูมิใจฉายวาบในดวงตาของเซี่ยหว่าน จากนั้นก็พูดว่า “ช่วยปกป้องฉันได้ไหม?”ซือเยี่ยนขมวดคิ้ว “ไม่ได้ครับ ผมทำตามคำสั่งของท่านประธานลู่เท่านั้น”เซี่ยหว่านก้มหน้าลงด้วยความผิดหวัง “แต่ถ้านายไม่ปกป้องฉัน ฉันก็จะตาย เธอต้องฆ่าฉันแน่ ๆ เพราะฉันแย่งสือเยี่ยนไป…”ซือเยี่ยนขมวดคิ้ว รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “คือ…ผมขอคิดดูก่อนได้ไหมครับ? แล้วก็คุณเซี่ย ที่นี่ไม่ปลอดภัย ผมส่งคุณกลับไปก่อนดีกว่า”เซี่ยหว่านพยักหน้า “ได้”รถแล่นออกไปในความมืด บนถนนเล็ก ๆนิ้วของฉินโหย่วหานวางอยู่บนพวงมาลัย มองไปที่หลินเซียงอย่างนึกสนใจ “คุณเห็นหมดแล้วใช่ไหม?”สีหน้าของหลินเซียงดูเหม่อลอยเล็กน้อย “เห็นแล้ว…”ฉินโหย่วหานพูดว่า
ดวงตาของซือเยี่ยนเป็นประกายขึ้นทันที รีบวิ่งไปที่ตู้คอนเทนเนอร์นั้น พลางตะโกนถาม “คุณเซี่ย ใช่คุณหรือเปล่า คุณเซี่ย?”“ปัง ๆ!”เสียงดังออกมาจากตู้คอนเทนเนอร์นั้นอีกครั้ง ถือเป็นการตอบรับซือเยี่ยนดีใจมาก จากนั้นก็เริ่มตรวจสอบกุญแจของตู้คอนเทนเนอร์ เนื่องจากตู้คอนเทนเนอร์แถวนี้ถูกทิ้งร้าง กุญแจจึงไม่ใช่แบบพิเศษอะไร เขาหาหินมาทุบสิบกว่าครั้ง จนกุญแจพังเขาเปิดตู้คอนเทนเนอร์ ก็เห็นเซี่ยหว่านถูกมัดมือมัดเท้านอนอยู่ข้างใน ตอนนี้น้ำทะเลไหลเข้ามาถึงหูของเซี่ยหว่านแล้วเมื่อเซี่ยหว่านเห็นซือเยี่ยนก็ร้องไห้ออกมาซือเยี่ยนเข้าไปพยุงเซี่ยหว่านขึ้น จากนั้นก็แกะเชือกที่มัดตัวเธอออก แล้วดึงเทปที่ปิดปากเธอออก“อ๊ะ…”เซี่ยหว่านอุทานออกมาสั้น ๆ จากนั้นก็พูดทั้งน้ำตาว่า “หลินเซียง! ต้องเป็นนังหลินเซียงแน่ ๆ ที่จงใจเล่นงานฉัน ต้องเป็นเธอที่ส่งคนมามัดฉันไว้ที่นี่!”ซือเยี่ยนชะงักไป “แต่ผมติดตามคุณหลินตลอด เธอไม่ได้ทำเรื่องแบบนั้นเลยนะครับ”เซี่ยหว่านจับแขนเขา “ซือเยี่ยน ฉันช่วยสือเยี่ยนไว้ แต่หลินเซียงกลับจะฆ่าฉัน นายต้องช่วยฉันแก้แค้นนะ!”ซือเยี่ยนรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่ที่นี่ไม่ใช่ที่ท
น้ำทะเลเริ่มหนุนแล้วตู้คอนเทนเนอร์ที่อยู่ไกลออกไปดูเหมือนสัตว์ประหลาดที่ตั้งตระหง่านอยู่ในความมืด กลืนกินคนข้างในทีละเล็กทีละน้อยหลินเซียงจ้องมองไปทางนั้นอย่างใจเย็น แต่ความมืดที่อยู่ไกลทำให้เธอไม่สามารถมองเห็นกระบวนการน้ำขึ้นได้อย่างชัดเจนภาพเหตุการณ์ที่เธอถูกขังอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ผุดขึ้นมาในหัว มือและเท้าถูกมัดไว้ ร่างกายเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและขอความช่วยเหลือเฝ้าดูความตายเข้ามาใกล้ แต่เธอทำอะไรไม่ได้เลยเซี่ยหว่าน ตอนนี้เธอคงรู้สึกแบบนี้ใช่ไหม?หลินเซียงหรี่ตาลงเล็กน้อย ไม่มองต่อในขณะนั้น โทรศัพท์มือถือก็ยื่นมาตรงหน้าเธอ“หืม?”หลินเซียงมองไปที่ฉินโหย่วหานด้วยความสงสัยรอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาของฉินโหย่วหาน “ผมติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้บนตู้คอนเทนเนอร์นั้นด้วย คุณจะได้เห็นท่าทีที่สิ้นหวังทั้งหมดของเซี่ยหว่าน”เขามองเข้าไปในดวงตาของหลินเซียง “อยากดูไหม?”หลินเซียงประหลาดใจมาก ไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนี้ฉินโหย่วหานพูดว่า “ไม่ต้องแปลกใจ ผมแค่รู้สึกว่า ถ้าไม่ได้เห็นกับตาว่าคนที่เคยทำร้ายตัวเองได้รับโทษ แล้วโทษนั้นจะมีความหมายอะไร?”สายตาของเขาเหม่อลอยไปชั่วขณะ
ซ่งซ่งหงุดหงิดเล็กน้อย ก่อนจะเอามือขยี้ผมในขณะนั้น โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นอีกครั้ง เป็นสายจากประธานบริษัทซ่งซ่งสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะรับโทรศัพท์ “สวัสดีค่ะ?”“ซ่งซ่ง ทางคุณฟู่แจ้งมาว่าแบบมีปัญหา แถมยังบอกว่าคุณไม่ยอมรับโทรศัพท์เขา เธออยากจะทำให้สตูดิโอของเราพังทั้งบริษัทเลยหรือไง? รีบโทรกลับหาคุณฟู่เดี๋ยวนี้เลย…”“ฉันจะลาออก”ซ่งซ่งพูดอย่างเรียบเฉยอีกฝ่ายชะงักไป “ว่าไงนะ? จะลาออก? ล้อเล่นหรือเปล่า? เธอคงรู้นะว่าการลาออกของเธอจะส่งผลอะไรบ้าง?”ซ่งซ่ง “อืม ฉันรู้ค่ะ แต่ผลที่ตามมาทั้งหมด ฉันจะรับผิดชอบเอง”อีกฝ่ายยิ่งงงเข้าไปใหญ่ “เธอเป็นบ้าไปแล้วหรือไง? แค่ทำโปรเจกต์นี้เสร็จ รายได้ของเธอจะมหาศาลเลยนะ”ซ่งซ่งแสยะยิ้ม “แต่ถ้าทำไม่เสร็จล่ะคะ? ฟู่จิ่นซิ่วคอยหาเรื่องฉันอยู่ตลอด ฉันเหนื่อยแล้ว ไม่อยากเล่นกับเขาต่อแล้วค่ะ”“เธอ…” อีกฝ่ายคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็พูดอะไรไม่ออกซ่งซ่งพูดอย่างใจเย็น “แค่นี้นะคะ สวัสดีค่ะ”พูดจบก็วางสายทันทีอยู่ไปก็ไม่มีความหมายไปดีกว่าออกจากเมืองอวิ๋นไปซะแต่เธอต้องคิดให้ดีว่าจะพูดเรื่องนี้กับหลินเซียงอย่างไรคนอย่างฟู่จิ่นซิ่ว เธอไม่กล้ามีเรื่อ
สีหน้าของสวีซินหรานดูไม่ดีขึ้นมาทันที “เธอหมายความว่ายังไง?”หลินเซียงหัวเราะเบา ๆ “ฟังไม่ออกเหรอ? ฉันกำลังเยาะเย้ยเธอไง เห็นเรื่องพวกนั้นแล้ว ที่เธอทำได้ก็แค่นั่งอยู่ในออฟฟิศแล้ววิจารณ์คนอื่น อย่างมากเข้าหน่อยก็เป็นนักเลงคีย์บอร์ดในอินเทอร์เน็ต เธอมีความสามารถอื่นอีกไหม?”สวีซินหรานลุกขึ้นยืนทันที สีหน้าของเธอดูแย่มาก “หลินเซียง เธอคิดว่าฉันกลัวเธอเหรอ? ตอนนี้เธอไม่มีที่พึ่งแล้ว!”“อ้อ แล้วไง?” สีหน้าของหลินเซียงยังคงเรียบเฉย “อยากจะฆ่าฉันเหรอ?”สวีซินหรานกัดฟัน รู้สึกโกรธมาก ผู้หญิงคนนี้เมื่อก่อนไม่เคยพูดอะไร แต่พักหลังมานี้ไม่รู้เป็นอะไร พอเธอเยาะเย้ย หลินเซียงก็ตอบโต้กลับทันที!แถมเธอก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินเซียงเลย!หลินเซียงเบนสายตา “เอาเวลาไปพัฒนาผลงานของตัวเองดีกว่า อิจฉาคนอื่นไม่ได้ทำให้เธอดีขึ้นหรอกนะ แต่มันจะทำให้เธออัปลักษณ์มากขึ้น”“เธอ!”สวีซินหรานอยากจะพุ่งเข้าไป แต่ถูกคนสองคนห้ามไว้ทันทีบรรยากาศในออฟฟิศตึงเครียดขึ้นทันทีแต่หลินเซียงกลับไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ ก่อนจะเริ่มทำงานของเธอต่อไปสวีซินหรานถูกกดให้นั่งลงบนเก้าอี้ มองหลินเซียงด้วยสายตาอาฆาต รอก่อนเถอะ สั