อลินดากล่าวเสียงกระฟัดกระเฟียด เขย่งปลายเท้ามองหาคู่อริ แต่หล่อนกลับหายไปท่ามกลางกลุ่มคน
“ขืนด่ามันต่อ มันหลุดปากออกมาว่าเราทำระยำกับมันไว้ เรามิซวยหรือไงลูก”
ฉลวยเอ็ดเบาๆ นางมองซ้ายมองขวา ป้องปากกระซิบกับบุตรสาว “แม่เห็นกฎหมายใหม่คุ้มครองผู้หญิงที่ถูกกระทำ หากอีอลิสมันโวย เราได้กินข้าวแดงในคุกแน่ๆ”
กฎหมายยังคงความศักดิ์สิทธิ์...คนส่วนใหญ่สนับสนุนให้ใช้โทษสูงสุด สำหรับการลงโทษ...
ฉลวยไม่ได้กลัวกฎหมาย แต่ฉลวยกลัวความลำบาก...หากนางถูกลงโทษ นางขอตายดีกว่า การเดินเข้าไปอยู่ในกลุ่มนักโทษ
รถเมล์สายเดิมวิ่งด้วยความเร็วคงที่ เมื่อการจราจรบนถนนยังคลาคล่ำไปด้วยยวดยาน...แสงไฟข้างทางเริ่มส่องสว่างเมื่อแสงสุริยาที่ให้ความสว่างบนพื้นโลก เริ่มลาลับจากขอบฟ้า อลิชาถอนลมหายใจแรงๆ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งจบลง ไม่คิดว่าโลกจะแคบขนาดนี้ ขนาดเธอระวังตัวอย่างดี ไม่เคยเฉียดเข้าไปใกล้ถิ่นที่อยู่ของครอบครัวฉัตรสุวรรณ แต่ไม่คิดว่าวันหนึ่ง หลังผ่านไปหลายปี คนคุ้นเคยกลับโคจรมาเจอกันได้ โดยที่สองคนนั้น... กลับไม่สำนึกในส
ฉลวยแก้ตัวแบบขอไปที หล่อนเองก็จนปัญญา ไม่รู้จะบากหน้าไปขอความช่วยเหลือจากใครอื่นอีก เมื่อแต่ละคนที่ยืมมา นางก็ยังไม่เคยได้ชดใช้คืน ยืมมาโป๊ะดอกสายหยุดที่ไม่มีทีท่าจะลดลงเลย“เห็นจะไม่ได้ ยิ่งนานก็ยิ่งเป็นดินพอกหางหมู วันนี้ถ้าได้ไม่ครบ... แม่หลวยจะมาว่าฉันใจร้ายไม่ได้นะ” สายหยุดกล่าวเสียงกร้าว ดวงตายาวรีตวัดผ่านหน้าฉลวยไป จนเจ้าหล่อนสะดุ้ง!“ฉันวิ่งหาจนทั่ว ได้มาเท่านี้แหละ...เห็นใจฉันเถอะคุณนาย”ฉลวยคอตก แววตาอำมหิตนั่น ไม่ใช่สิ่งลวงตา สายหยุดเหี้ยมโหดจนลูกหนี้ขยาด นางพูดจริง ทำจริง...“ฉันเห็นใจแม่หลวยไง...แต่ว่า...มันก็ต้องเป็นไปตามสัญญาที่ตกลงกันไว้ แม่หลวยรับปากฉันแล้วทำไม่ได้อย่างที่พูด ฉันก็ต้องทำตามวิธีของฉัน”เจ้าหนี้ใจโหดกล่าวเสียงนิ่มๆ แต่ความหมายนั้น โหดเหี้ยมเกินพรรณนา“ฉันไม่มีอะไรให้คุณนายหรอก ที่เห็นนี่ก็ของปลอมทั้งนั้น”สร้อย แหวนที่สวมติดร่างกาย ไม่มีสักชิ้นที่เป็นของจริง เธอซื้อหามาเพื่อหน้าตาตนเอง จะให้คนนอกรู้ไม่ได้ว่าภายในกลวงโบ๋!“ฉันดูออกจ้ะ... ฉันไม่
บทที่14.ตกบันได เสร็จโจร!!แมทธิวสะดุ้งตื่นขึ้นมาเกือบเที่ยง ชายหนุ่มเหลียวมองด้านข้าง ที่ตรงนั้นมีใครบางคนนอนหลับสนิทอยู่ ใบหน้าหล่อนจมหายลงไปในหมอนนุ่มเกือบครึ่ง แต่โครงหน้านั้น ทำยังไงก็ไม่มีวันลืม มุมปากสีเข้มมีรอยยิ้ม เขาลดสายตาลงต่ำมองสำรวจตัวเอง ก่อนจะกระตุกยิ้ม!!ด้านบนของลำตัวของเขาไร้อาภรณ์ติดกาย โชคดีอยู่หน่อย ต่ำกว่าสะดือยังมีบ็อกเซอร์ลายสก็อตติดสะโพกอยู่ชายหนุ่มวาดปลายเท้า ก้าวลงจากเตียงนอนหนา เขากึ่งเดิน กึ่งย่อง ตรงไปยังประตูหน้าห้อง ลองขยับลูกบิดประตูดูล็อก!แมทธิวถอยหลังกลับมานอนเหยียดยาวที่เดิม เขาพลิ้มเปลือกตาหลุบลง พร้อมกับประตูที่ถูกล็อก ถูกดันให้เปิดออกพอดี...“ว้าย! อะไรกันนี่ คุณไทคะ มาดูอะไรนี่เร็ว!”เสียงน้ำอิงร้องตะโกนลั่น!! หล่อนส่งเสียงวี๊ดว้ายเรียกหาสามี ชายหนุ่มปรือตามอง เขารีบตวัดอลิชาเข้ามาอยู่ในวงแขน ซุกใบหน้าแนบทรวงอกอิ่ม พร้อมกับอมยิ้มน้อยๆ เมื่อเสียงฝีเท้าวิ่งกรูตรงมาทางทิศนี้“อะไร! เกิดอะไ
ไทธัชแอบอมยิ้ม ไอ้ที่แมทธิวยอมง่ายๆ เพราะกลัวเสียชื่อนั่นเอง เสือผู้หญิงนอนเป็นหุ่นปูนปั้น จับพลิกซ้ายพลิกขวายังไม่รู้สึก กับผู้หญิงที่อวบอัดไปทั้งตัว เขาทำได้แค่...นอนมอง...ใครรู้เขา ชื่อเสียงคงป่นปี้ แต่อะไรก็ตามที่ทำให้แมทธิวสมยอม ไทธัชภาวนา... พระเจ้าคงไม่ใจร้ายเกินไป เพราะอลิชาทนทุกข์มานาน ผู้หญิงน่าสงสารคนนั้น ควรมีความสุขสักที ในเมื่อแมทธิวเป็นคนป้ายรอยราคีไว้บนร่างกายอลิชา เขาควรต้องรับผิดชอบผลพวงในเหตุการณ์ครั้งนั้น รณฤทธิ์จะได้มีพร้อมทั้งพ่อและแม่“แต่...”“เอาไงก็ว่ามาเลยไอ้ไท อย่ามาโยก?”แมทธิวหันไปหาเพื่อนหนุ่มไม่ได้สนใจผู้หญิงข้างตัว เสียงพึมพำไม่ได้ทำให้ความคิดของเขาเปลี่ยนไป แมทธิวอยากรู้เหมือนกัน ไอ้ตัวเจ้าแผนการ มันจะทำยังไงต่อ...“ไม่อะไรหรอกไอ้คุณเพื่อน...แค่ขอให้คุณรับผิดชอบสิ่งที่ทำ...ตามประสาลูกผู้ชาย ผมเชื่อว่าคุณไม่ใช่คนใจร้ายนะแมท ผู้ชายทั้งแท่ง กล้าทำก็ต้องกล้ารับ... ยังไงละก็เมตตาอลิสด้วยล่ะ...อย่าใจร้ายนักเลยว่ะ”มองตากันตามประสาผู้ชาย แมทธิวไม่ได้เป็นคนโหดร้าย เพียงแ
อลิชาไม่ได้ตอบในทันใด เธอเดินไปหย่อนบุตรชายไว้กลางเตียงนอน รณฤทธิ์ผวาเข้าหาตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ขนนุ่มฟู เขาหมดความสนใจมารดา เมื่อมีของเล่นถูกใจ“เรื่องมันยาวค่ะป้า ว่าแต่ป้าไม่ได้อยู่บ้านฉัตรสุวรรณแล้วเหรอคะ?”หญิงสาวจูงมืออดีตคนในบ้านฉัตรสุวรรณ เดินไปทิ้งตัวนั่งบนโซฟาปลายเตียง“ออกนานแล้วล่ะค่ะ...อีคุณนายมันไม่ยอมจ่ายค่าแรง...ค้างหลายเดือนจนทนไม่ไหว! ติ๋มต้องกินต้องใช้น่ะค่ะ เลยกระเสือกกระสนมาหางานทำ ได้มาทำงานที่นี่ก็เหมือนอยู่บนสวรรค์ คุณแมทเธอไม่จุกจิก...ทำงานตามหน้าที่ รับเงินเดือนเต็มร้อย...”“ลุงสบายดีมั้ยคะ?” อลิชาเลี่ยงที่จะถามถึงสมาชิกในบ้านฉัตรสุวรรณคนอื่น เมื่อความเจ็บปวดยังไม่จางหายไป“คุณภพเธอก็อยู่ตามอัตภาพ เธอไม่รู้หรอกว่าเมียกับลูก ทำระยำตำบอนยังไงบ้าง...พูดแล้วยังแค้นไม่หาย...ติ๋ม ลาออกมานี่ เงินซักแดงยังไม่ได้เลยค่ะ”อลิชานิ่วหน้า...ฐานะของฉลวยไม่ได้อัตคัดถึงขนาดเงินขาดมือ จนต้องค้างค่าแรงลูกจ้าง...เกิดอะไรกับสภาพคล่องทางการเงินของคนบ้านนั้น“เกิดอะไรขึ้นคะ?”
บทที่15.อยากเป็นอะไรล่ะ เมีย หรือ นางบำเรอ?ในขณะที่อลิชากำลังปรับตัวเข้ากับที่อยู่ใหม่ เจ้าของบ้านหลังมหึมากลับกำลังคร่ำเคร่งกับงานมากมายที่กองท่วมหัว เขาหงุดหงิดเป็นครั้งแรก! นับตั้งแต่เข้ามารับหน้าที่แทนบิดา ชายหนุ่มเริ่มเบื่อที่งานมีมากมายก่ายกองจนทำแทบไม่ทัน แฟ้มเอกสารกองจนเกือบล้นโต๊ะ เอกสารด่วนที่เมื่อก่อนแมทธิวชอบตรวจทาน เวลานี้ชายหนุ่มนึกอยากจะโยนงานเหล่านี้ ให้คนอื่นๆ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบเองบ้าง เขาอยากมีเวลาส่วนตัวกับใครบางคน“อันนี้ผมต้องดูด้วยเหรอ? หัวหน้าแผนกนั้นไม่มีหรือไง?”เสียงเข้มๆ ตวาดลั่น แฟ้มงานสีดำหนาเตอะถูกเหวี่ยงจนกระเด็น ตามด้วยแฟ้มงานอีกหลายแฟ้มที่ CEO หนุ่มโยนตามมาติดๆ“เออ...” สุเมธการ์ดหนุ่มกึ่งเลขานุการ ทำหน้าพิกล...เขามองเจ้านายหนุ่ม สลับกับแฟ้มเอกสารในมือ...ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะโครงการเล็ก หรือใหญ่ แมทธิวขอมีเอี่ยวด้วยตลอด เขาอยากเห็นความคืบหน้า แต่เวลานี้เจ้านายกลับรำคาญ“ต่อไปนี้ อะไรที่ไม่สำคัญ ให้เขาตัดสินใจกัน
พอเอาเข้าจริงๆ อุตส่าห์ยกเลิกการประชุม ยกเลิกนัดกับลูกค้า ยกเลิกนัดกับสาวโสภาที่กำลังคั่ว! แมทธิวกลับไม่กล้ากลับไปที่คฤหาสน์ไบเล่ย์ เขาหาข้ออ้างให้ตัวเองไม่ได้ และกลัวว่าอลิชาจะวางตัวไม่ถูกชายหนุ่มมาหมกตัวอยู่ที่ผับชั้นสูงแห่งหนึ่ง เขาดื่มบรั่นดีย้อมใจ เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่กล้า...สามชั่วโมงที่ทนกระวนกระวาย จนแอลกอฮอลล์ เข้าไปแทนที่เลือดเกือบทุกพื้นที่ มันคงเต็มที่จนความกลัวหายไปจนหมด“เช็กบิลด้วยไอ้น้อง!” เสียงอ้อแอ้ร้องสั่งบริกรที่เดินผ่านไปมา บัตรเครดิตสีดำถูกยื่นส่งให้ ก่อนจะกระดกบรั่นดีแก้วสุดท้าย สาดหายไปในลำคอ ชายหนุ่มเดินโงนเงน คลำทางไปจนถึงรถยนต์คันหรู พาหนะยี่ห้อหรู และมีได้เฉพาะคนกระเป๋าหนักเท่านั้นชายหนุ่มถอยรถยนต์ ขับเคลื่อนออกจากที่ ด้วยสติที่ไม่เต็มร้อย ความมึนเมาทำให้เกิดอุบัติเหตุเล็กๆ ชายหนุ่มเสยกระจังหน้ากับเสาไฟฟ้าข้างทาง แต่ก็ยังพาพาหนะสุดหรู กลับมาถึงคฤหาสน์หลังงาม โดยที่คนขับไม่ถูกรถบรรทุกเสยเอาไปกินเสียก่อนแต่...กระถางต้นไม้ราคาแพง ที่ตั้งอยู่ตามสองข้างทางถูกเสยเรียบ...คนงานส่ายศีรษะ
โหนกแก้มแดงก่ำ ดวงตาฉ่ำเยิ้ม ยืนยังยืนไม่อยู่ แต่ก็ยังมีแรงบีบบังคับเธอจนได้“อลิสไม่เลือก...ขออยู่ห่างๆ คุณสะดวกใจกว่า”หญิงสาวเชิดหน้าตอบ“เสียใจอลิชา...เธอเลือกไม่ได้ ไม่ว่าจะเมีย หรือนางบำเรอ หน้าที่ของเธอ คือการนอนกับผม!”ชายหนุ่มตะคอกกลับ เขาเดินเอียงไปเอียงมา ก่อนจะกระโจนเข้าใส่หญิงสาว จนล้มกลิ้งไปด้วยกันทั้งคู่ บนที่นอนหนาและกระเพื่อมเหมือนระลอกคลื่น“อืม...” เสียงทุ้มต่ำครางในลำคอ ปลายจมูกซุกอยู่ตรงแอ่งชีพจร กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ระเหยออกมาจากผิวกายนวลเนียน ทำให้แมทธิว หมดความยับยั้งชั่งใจปลายลิ้นสากและร้อน แลบออกมาเลาะเล็มผิวเนื้อชื้นเหงื่อ เขาตวัดปลายลิ้นเบาๆ จนคนใต้ร่างสะดุ้ง! มือของเธอพยายามดันลำตัวหนาหนักที่มีแต่กลิ่นแอลกอฮออล์ออกไปให้พ้น แต่แมทธิวเกร็งตัวไว้ เขาจูบดะไปทั่ว เร่งปลุกกระแสความกระสัน ก่อนที่ตนเองจะหมดแรงความเสียวซ่านก่อตัวทีละน้อย เป็นเหมือนคลื่นลมเบาๆ ที่พัดเข้าหาฝั่ง ก่อนจะทวีอานุภาพความแรงขึ้น จนแม้แต่หาดทรายเรียบกริบ ยังแทบจะล่มสลาย
แมทธิวกลั้นความต้องการอันมากล้นของตนเองไว้ในอก เขาแช่ตัวนิ่งๆ ขยับร่างกายทีละน้อยๆ ทั้งๆ ที่อยากถาโถมเข้าใส่แบบสุดแรงเกิดอลิชาสูดลมหายใจลึกๆ เธอผ่อนคลายความตึงเครียด พยายามไม่ใส่ใจสิ่งแปลกปลอมที่คืบคลานเข้ามาในร่างกาย เปลือกตาพลิ้มหลับลง กัดริมฝีปากล่างกลั้นเสียงสะอื้น ปล่อยใจไปกับกระแสธารที่เชี่ยวกราก ไม่พยายามฝืน เพราะนั่นจะทำให้เธอเจ็บมากกว่าเดิมริมฝีปากหนาอ้าครอบเม็ดทับทิมสีระเรื่อ เขาดูดดื่มทรวงงามแรงๆ จนหญิงสาวครางลั่น กลไกธรรมชาติปรับตัวแบบอัตโนมัติ น้ำหวานฉ่ำเยิ้มถูกกลั่นออกมาจากซอกลึกลับ หล่อชโลมแก่นกายขึงขังจนชุ่มโชก แมทธิวทดลองเคลื่อนกายช้าๆ ความคับแน่นไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไป เมื่อส่วนนั้นชุ่มโชกไปด้วยละอองปรารถนาชายหนุ่มเริ่มโถมเข้าใส่ มือแข็งแรงรั้งเอวคอดกิ่ว กระแทกอัดกับตัวตนแรงๆพรึ่บ! พรึ่บ!เสียงผิวกายเปียกเหงื่อกระแทกใส่กันดังก้องห้องนอนกว้าง เสียงครางคร่ำแผ่วพร่า ที่ระดับความดังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แมทธิวสูดปาก ครางเสียงแหบห้าว เขาเร่งความเร็วมากขึ้น พอๆ กับเพิ่มแรงโยกจนเรือนกายอวบอิ่มกระเพื่อมไหวทั้งลำตัว ชายหนุ่มโ
“ค่ะ” อลิชายิ้มรับ เธอเงยหน้าขึ้น รับจูบหวานๆ จากแมทธิวโดยไม่ขัดขืนเป็นการยินยอมพร้อมใจ หลังจากไตร่ตรองจนแน่ใจ ไม่มีอะไรดีขึ้น หากตนเองยังหลบอยู่หลังเกราะที่สร้างไว้ป้องกันตัวเอง...ในเมื่อแมทธิวยอมถอยให้หนึ่งก้าว เธอก็ควรเปิดใจกว้างๆ ยอมรับสิ่งที่เขามอบให้ เพราะมัวแต่วิ่งหนี ชั่วชีวิตนี้ เธอคงต้องหนีไปตลอด ไม่มีใครไม่เคยทำผิด มนุษย์ทุกคนบนโลกล้วนแล้วแต่เคยผ่านความผิดพลาดมาแล้วทั้งนั้นมันขึ้นอยู่ว่าคนเหล่านั้น จะแก้ปัญหา หรือฝังกลบไว้ แสร้งทำเป็นลืม แต่...ความลับไม่มีในโลก สักวันสิ่งที่ขุดหลุมกลบเอาไว้ก็จะโผล่ขึ้นมาเตือนความจำอยู่ดี ปัญหามีไว้ให้แก้ ใช้สติตรึกตรอง และก้าวผ่านมันไปให้ได้ ใช้อดีตเป็นบทเรียน เพื่ออนาคตจะไม่เดินซ้ำรอยเดิม...ถนนชีวิต ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ต่อให้คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด หนทางเดินก็มักจะมีขวางหนาม เป็นอุปสรรค เพื่อวัดความอดทนของคนเมื่อก้าวผ่านสิ่งเหล่านั้นไปได้ ไม่ว่าปัญหาจะเล็กหรือใหญ่ ทุกปัญหาที่ผ่านเข้ามาคือบทเรียนเช้าวันใหม่...แอนเดอสันยิ้มตาม เมื่อสายตาของท่านมอง
อลิชาเสก้มหน้าหลบสายตาวาววามคู่นั้น หัวใจเธอเต้นถี่ยิบ และหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ หัวใจดวงน้อยของตนเองอาจจะหยุดเต้น เพราะความตื่นเต้นก็เป็นได้“จะถือกระดาษนั่นอีกนานแค่ไหน...เซ็นๆ มาเถอะ”ชายหนุ่มปรายตามองกระดาษสีขาวแผ่นเดียวที่อลิชาถือไว้ในมือ“คุณจะเอาไปทำอะไรคะ?” หญิงสาวถามแบบไม่ใคร่เข้าใจ กระดาษเปล่าไร้ข้อความ หากชายหนุ่มคิดร้าย คนที่ซวยคงเป็นเธอ“เอาไปยื่นคำร้องเป็นพ่อให้หนูนั่นไง ลูกผม ก็ต้องใช้นามสกุลผมสิ ใช้นามสกุลบ้านนั้นทำไม...”แมทธิวเฉลย...มันคันยิบๆ ในใจ ทุกครั้งที่เห็นชื่อ นามสกุลของบุตรชายที่ตนเองไม่มีส่วนร่วมอลิชาหัวเราะคิก เมฆสีดำทะมึน เคลื่อนผ่านไปจากชีวิตตนเอง นับจากนี้ไป อนาคตของเธอและบุตรชายคงมั่นคงขึ้น เธอจรดปลายปากกาเซ็นชื่อตนเองโดยไม่ได้พูดอะไร ก่อนจะยื่นส่งให้แมทธิว พร้อมกับยิ้มน้อยๆแมทธิวเดินไปเก็บที่โต๊ะตัวใหญ่ เขาเดินโทงๆ จนอลิชาอายจนแก้มแดง เมื่อมองเห็นสรีระชายหนุ่มหมดทุกซอกทุกมุมดังนั้น...เมื่อแมทธิวเดินกลับมา เขาจึงได้เห็นสายตาเป็นประกายของหญิงสาว ชายหน
ชายหนุ่มกระเด้งตัวลุกขึ้น เขาเดินอาดๆ ไปที่โต๊ะตัวใหญ่กลางห้อง ชายหนุ่มฉวยกระดาษขนาด A4 เดินกลับมายื่นส่งให้อลิชา หญิงสาวผุดลุกขึ้นนั่ง มองกระดาษแผ่นนั้นงงๆ“เซ็นชื่อซะ...” ปากกาสีทอง แมทธิวยื่นใส่หน้าอลิชา เกือบจะทิ่มตาหญิงสาวผวา เธอส่ายหน้าแรงๆ เก็บมือไว้ ไม่ยอมยื่นออกไปรับกระดาษเปล่าแผ่นนั้นเด็ดขาด...“อย่าคิดมากน่า ผมไม่ได้ทำเรื่องร้ายหรอก ...แค่อยากให้สิทธิพิเศษบางอย่างกับเธอ...อย่ากลัวล่วงหน้าสิ...ยิ่งกว่านี้เธอก็เคยผ่านมาแล้ว จะกลัวอะไรอีก” ชายหนุ่มติง เขาขยายความเข้าใจของอลิชาเสียใหม่ ถึงเขาจะเป็นคนเอาแต่ใจ แต่ก็ไม่ชั่วช้า จนต้องทำอะไรเลวทราม“เธอต้องการอะไรล่ะ บอกมาได้เลย...” ชายหนุ่มเอ่ยปาก เขามองสบนัยน์ตากลมโตแบบคนอารมณ์ดี หลังขจัดความหวาดระแวงในใจจนหมดสิ้น“อลิสไม่เคยอยากได้อะไรจากคุณเลยค่ะ” อลิชาตอบตามตรง รับกระดาษแผ่นนั้น กับปากกามาถือไว้ โดยยังไม่ได้ขยับทำอะไรอย่างที่แมทธิวต้องการ เธอไม่เคยอยากได้อะไรจากแมทธิว เธอปรารถนาอยากมีชีวิตสุขสงบ อยู่กันตามประสาแม่ลูก มีบ้านคุ้มหัว มีที่นอนอุ่น
บทที่19.สุดสวาทนางบำเรอที่รัก!น้ำตาไหลรินเป็นสาย เรียวปากอิ่มเม้มแน่น อลิชากำลังชั่งใจ หากเธอพูดความจริง...อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป หลังจากนี้!!“บอกมา!” น้ำเสียงทุ้มต่ำ แมทธิวพยายามข่มความโกรธ“มันผ่านไปนานแล้ว... คุณลืมไปเถอะค่ะ” หญิงสาวกลั้นใจตอบ เธอกลัว...กลัวที่จะถูกทิ้งไว้เพียงลำพัง“อลิชา! ที่เธอพยายามเลี่ยงนี่ เพราะไอ้หนูนั่นเกี่ยวพันกับผมใช่มั้ย?”แมทธิวตะคอก มือจับบ่าบอบบาง เขย่าหล่อนจนตัวสั่น“มะ ไม่ค่ะ ไม่ใช่!” หญิงสาวตอบเสียงสั่น น้ำตากลบดวงตากลมโต“ผมไม่ได้โง่นะอลิส...ผมรู้ แค่ผมไม่แน่ใจ...” น้ำเสียงที่ใช้อ่อนลง แมทธิวรู้สึกเวทนาผู้หญิงตรงหน้า หล่อนถูกคนชั่วหลอกลวง แถมยังต้องแบกรับความทุกข์ไว้คนเดียว เวลาเกือบสามปี อลิชาต้องผ่านความลำบากมามากขนาดไหน? หล่อนแกร่งมาก ถึงผ่านความทุกข์ระทมนั่นมาได้ ผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่หัวใจหล่อนประเสริฐยิ่งนักดวงตากลมโตเบิกกว้าง มือเรียวยกปาดคราบน้ำต
“อ้ายยยย” หญิงสาวผวาเฮือก เรือนกายเกร็งกระตุก ร่างกายอ่อนยวบหลังตะเกียงตะกายคว้าดวงดาวมาไว้ในอุ้งมือสำเร็จแมทธิวทิ้งตัวนอนแผ่ สูดลมหายใจแรงๆ จนซี่โครงยุบวาบ ชายหนุ่มควานมือด้านข้าง ก่อนจะรั้งเรือนกายชื้นเหงื่อของอลิชามาแนบอกอุ่น พึมพำเบาๆ พอให้ได้ยินกันสองคน “เธอยอมแพ้ผมมั่งก็ได้นะอลิส...ถ้าเธอไม่พูด ผมคงได้ขาดใจตายก่อนแน่”รอยยิ้มอ่อนแต้มมุมปาก มือไล้ผิวกายเรียบลื่นเล่นอลิชาแอบมอง เธอไม่เข้าใจความคิดของแมทธิวสักนิด ชายหนุ่มต้องการอะไรกันแน่ เขาดูยาก อ่านไม่ออก ภายในหัวเขา กำลังคิดอะไรอยู่?“ผมต้องการเธอ ทั้งตัว แล้วก็หัวใจ ไม่ต้องเก็บไว้หรอก ผมจะดูแลให้เอง”เสียงชายหนุ่มเปรยเบาๆ หญิงสาวเม้มปากแน่น สิ่งที่เขาต้องการนั้น หากไม่มอบให้ก่อน มีหรือจะได้อย่างที่เขาต้องการ“ไม่เอาเปรียบไปหน่อยหรือคะ คุณเอาแต่ได้...แล้วอลิสได้อะไรตอบแทนล่ะคะ”ความอยากรู้ทำให้อลิชาลืมตัว เธอโพล่งถาม ก่อนจะรีบกัดปากตัวเอง...แมทธิวพลิกตัวกลับอย่างรวดเร็ว เขากางแขนคร่อมเรื
“เห็นจะไม่ได้” เสียงเย็นชาตอบกลับมา จนอลิชาต้องลืมตามอง แววตาตัดพ้อของเธอทำให้แมทธิวสะดุด เขาหรี่เปลือกตาลง ก่อนจะพูดเสียงเนิบนาบ “เธอคงไม่ได้ ‘ท้อง’ ใช่มั้ย?” คำถามของชายหนุ่ม เล่นเอาอลิชาใจโหวงวูบ! เหตุการณ์เดิมๆ ย้อนกลับมาอีกครั้ง ครั้งนี้คงเป็นหายนะสำหรับตัวเธอเอง ทำไมเธอถึงได้ลืมเรื่องสำคัญ การป้องกันที่เคยทำมาแล้วครั้งหนึ่ง เหตุใดเล่า ครั้งนี้เธอจึงลืมเสียสนิทหญิงสาวกลั้นใจตอบ ดันตัวลุกขึ้นนั่งอย่างโผเผ “อลิสคงไม่โชคร้ายหรอกมั้งคะ”“นั่นสินะ ผมลืมได้ยังไง เธอเคยมีประสบการณ์เรื่องแบบนี้มาก่อน คงไม่พลาดแบบโง่ๆ” น้ำเสียงที่ฟังไม่ออกกล่าวขึ้นอีกครั้ง มันฟังแปลกๆ เหมือนชายหนุ่มกำลังแดกดันเธอ แต่...เพื่ออะไรล่ะ เมื่อเขาเองก็ไม่ได้ต้องการให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นเช่นกันนี่“คุณอย่าห่วงไปเลยค่ะ...” น้ำตาเกือบทะลัก แต่ก็ยังสู้อุตส่าห์กลั้นไว้ จนเผลอตัวกัดกระพุ้งตนเอง มันเจ็บน้อยกว่าหัวใจที่กำลังร่ำไห้ขณะนี้เสียอีกแมทธิวเดินเข้ามาหา แววตาของเขาอ่านไม่ออก จนกระทั่งชายหนุ่ม
บทที่18.ยกให้ทั้งตัว...และใจอลิชาไม่ได้รู้สึกไปเอง...หลังแมทธิว กลับมาจากการไปทำงาน เขาดูเงียบผิดปกติ สายตาคมดุคู่นั่น หยุดมองที่หน้าท้องเธอบ่อยๆ“วันนี้ลาบรสจัดนิดนะคะ...” ติ๋มกระซิบบอกนายสาวเมื่ออลิชาไม่ได้ลงครัวเอง เธอรู้สึกเวียนศีรษะ หลังน้ำอิงกลับไปแล้ว จึงพักผ่อนอยู่บนห้อง ติ๋มเลยอาสาลงไปช่วยในครัวจัดการอาหารมื้อนี้ด้วย“ไม่นี่ อร่อยดี” แมทธิวท้วง เขากำลังอร่อยกับรสชาติจัดจ้านจนตักอาหารจานนั้นถี่ๆแอนเดอสันแหล่มองบุตรชาย แมทธิวไม่ใช่คนรับประทานอาหารรสจัด ชายหนุ่มนิยมนม เนยมากกว่า อาหารที่รสจัดจ้าน แต่วันนี้มาแปลก สีสันบ่งบอกว่ารสชาติไม่ธรรมดา ท่านเองยังขยาด แต่คนไม่คุ้นกลับชื่นชมติ๋มยิ้มแป้น นางเอ่ยแนะนำเจ้านายหนุ่ม เมื่ออาหารมื้อนี้ นางเป็นคนออกความคิด“ต้ำยำนี่ก็แซ่บเจ้าค่ะ คล่องคอดีค่ะ”ต้มยำกระดูกอ่อนรสจัดจ้านพอกัน...อลิชาเหลือบมอง อาหารมื้อนี้ออกไปทางรสจัด เธอรับประทานได้ แต่ไม่แน่ใจว่าแมทธิวกับแอนเดอสันจะชอบ
“เขาคงไม่ต้องการหรอกค่ะ”อลิชาตอบเสียงเศร้า รณฤทธิ์คนเดียว เขายังไม่รู้เลยว่าเป็นลูก คนอย่างแมทธิว ไม่ได้ต้องการบุตร เขาต้องการแค่เสพสมกับเธอแค่นั้น ถึงวันที่เบื่อ คงเขี่ยเธอทิ้งเหมือนผู้หญิงคนก่อนๆแอนเดอสันสะกิดใจ ความนัยในคำพูดของน้ำอิง มันบอกอะไรบางอย่าง และสิ่งนั้น เขาก็ตงิดๆ ในใจอยู่แล้ว คนเราจะคล้ายคลึงกันโดยไม่มีสายเลือดเกี่ยวพันกันได้ยังไง? มันต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกันสิ ไม่อย่างนั้น อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น เมื่อเด็กชายผู้นั้น ถอดเค้าหน้ามาจากแมทธิวเกือบทุกส่วนชายสูงวัยจึงนิ่งฟังสองสาวสนทนากัน เขาทำเป็นสนใจทิวทัศน์ด้านนอก ปล่อยให้สองหญิงกระซิบ กระซาบคุยกันตามสบายเท่าที่จับใจความได้ มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แมทธิวบุตรชายของท่าน เคยพบเจอกับหญิงผู้นี้มาก่อน และอาจจะถึงขั้นมีความสัมพันธ์ทางกายต่อกัน จนเกิดบางอย่างขึ้นมา ก่อนที่อลิชาจะหายไปจากชีวิตแมทธิวมือเหี่ยวๆ ยกขึ้นเกาคาง ลองคิดเล่นๆ ในใจ หาก เด็กชายผู้นั้น ไม่ได้เป็นเพียงแค่ลูกติดอลิชามา เขาอาจจะเป็นสายเลือดของแมทธิวก็ได้ เปอร์เซ็นต์ความเป็นไปได้มีเกินครึ่ง การป้
“ป้าจ๋า...ไปตักข้าวต้มในครัวมาให้ท่านสิจ๊ะ” หญิงสาวหันไปสั่งติ๋มเสียงหวาน เมื่อประมุขเฒ่าของบ้านไบเล่ย์ ไม่ถือตัวกับบุตรชายของตนเอง เหมือนกับเขาจะรู้ลึกถึงความสัมพันธ์ทางสายเลือดมื้อเช้ามื้อแรกที่รังรักที่จากไปนาน ความสุขที่เหือดหายไป เริ่มไหลเข้ามาในใจทีละน้อย มีเสียงหัวเราะ ผสมกับเสียงพูด ดังขึ้นหลายรอบ เมื่อคนแก่คนหนึ่ง กับเด็กชายดูเหมือนจะเข้าขากันดีแอนเดอสันมีความสุขมาก เขารู้สึกเหมือนกับว่าความอบอุ่นครั้งเก่าย้อนกลับมา เพียงแค่มีเด็กชายช่างพูดคนนี้อยู่ใกล้ๆ ชายสูงวัยนึกละอายใจ...ในอดีตเพราะความผิดหวัง เขาทิ้งขว้างปล่อยให้บุตรชายโดดเดี่ยว แม้จะห้อมล้อมไปด้วยบริวาร แต่จะเหมือนมีพ่อ-แม่เคียงข้างได้อย่างไร ถึงกนกลดาจะสลัดท่านและบุตรชายทิ้ง ตัวท่านเองก็ไม่น่าปล่อยปละละเลยบุตรชายไปด้วย แอนเดอสันนึกอยากจะขอโทษแมทธิวขึ้นมาทันใด เมื่อมองเห็นความเหงาในหน่วยตาของรณฤทธิ์ ถึงจะอายุเพียงน้อยนิด แต่ความอ้างว้างที่ท่านพอจะมองออก ก็เพราะเด็กชายคนนี้ ไร้บิดานำพาเช่นเดียวกัน รณฤทธิ์ โชคดีที่มารดาคอยอยู่ข้างๆ แม้จะขาดผู้ให้กำเนิด แต่ก็ไม่เลวร้ายเหมือนที่แมทธิวผจญ