Share

EP.03 พรบุหลัน

last update Last Updated: 2024-12-03 21:08:02

เสียงพระสงฆ์สวดมาติกาบังสุกุลดังผ่านเครื่องขยายเสียงของทางวัด ทำให้แขกเหรื่อที่มาร่วมงานรู้โดยอัตโนมัติว่า ร่างอันไร้วิญญาณในศาลาใดกำลังจะถูกฌาปนกิจ ณ เวลา 16:00 น. ของวันนี้ เนื่องจากวัดในสมัยใหม่นิยมสร้างศาลาสวดศพให้อยู่รายรอบเมรุ เพื่อให้สะดวกในการเคลื่อนย้ายร่างไร้วิญญาณขึ้นสู่สถานที่อันจะทำให้ร่างนั้นกลับคืนสู่ธรรมชาติได้อย่างแท้จริง

            ดังนั้นการตั้งศพเพื่อสวดพระอภิธรรมจึงอาจมีมากกว่าหนึ่งร่างในแต่ละค่ำคืน ทว่าจะมีเพียงร่างเดียวเท่านั้นที่จะทำการฌาปนกิจในแต่ละวัน เพราะพิธีการแต่ละขั้นตอนต้องใช้เวลาและต้องทำให้ถูกต้อง กว่าจะส่งร่างนั้นไปสู่เส้นทางอันสุคติได้สำเร็จ ย่อมกินเวลาตั้งแต่ช่วงเช้าไปจนถึงค่อนดึก

            ผ้าลูกไม้สีขาวผืนบางคลุมทับโลงไม้ไว้อีกชั้นนั้น เพื่อให้ลวดลายอ่อนหวานช่วยลดทอนความโศกเศร้าจากผู้พบเห็น และเพื่อแสดงออกว่าผู้วายชนม์เดินทางไปสู่สถานที่ที่มีความสุขแล้ว ทว่าเมื่อมาอยู่รวมกับดอกไม้ช่อยาวสีขาวที่นำมาประดับโดยรอบแล้วนั้น กลิ่นหอมจัดจนฉุนกลับทำให้บรรยากาศอวมงคลเด่นชัดมากขึ้น เพราะนั่นคือ ‘ซ่อนกลิ่น’ ดอกไม้ที่ใช้ซ่อนร่างไร้วิญญาณ

            ท่วงทำนองจากเครื่องดนตรีไทยบรรเลงเพลงโศกคลอไปกับเสียงบทสวดภาษาบาลีที่คุ้นเคย เพราะได้ฟังมามากหนเมื่อครั้งเคยมาร่วมแสดงความเสียใจแก่ญาติพี่น้องของผู้วายชนม์ ทว่าในครั้งนี้เมื่อเธออยู่ในสถานะนั้นเสียเอง จึงไม่อาจเก็บกลั้นหยาดน้ำตาเอาไว้ได้

            น้ำตาที่พยายามฝืนกลั้นเอาไว้ปิ่มจะไหลลงมาเสียให้ได้ แต่ก็จำต้องสะกดไว้เพราะไม่อยากให้คนที่จากไปเป็นห่วง เพราะสิ่งสุดท้ายที่เธอจะทำให้แม่ได้ก็คือ ‘ต้องเข้มแข็ง’           

             ดวงตาบอบช้ำมีวาวน้ำตาฉ่ำชื้นอยู่ตลอดเวลาทอดมองไปยังโลงไม้ที่ตั้งสงบนิ่งอยู่บนตั่งด้านในศาลา ดั่งจะบอกกับคนที่นอนนิ่งอยู่ในนั้นว่าเธอคิดถึงเหลือเกิน

            ‘จันทร์...อย่าเสียใจให้นานนักนะลูก ทุกคนต้องตายทั้งนั้น ไม่ใช่แค่แม่หรอก หนูต้องอยู่ให้ได้ รักษาเนื้อรักษาตัวให้ดี จะทำอะไรก็ให้คิดไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน แล้วสิ่งที่หนูตัดสินใจก็จะดีที่สุด’

            น้ำตาท่วมท้นเมื่อช้อนมองใบหน้าสวยงามของผู้เป็นแม่ที่ปรากฏอยู่ในกรอบรูปหน้าศพ รอยยิ้มพิมพ์ใจนั้นแม่มีให้เธอเสมอมา เธอรู้และเข้าใจในสิ่งที่แม่บอกว่าทุกคนล้วนต้องตาย แค่ช้าหรือเร็วกว่ากันเท่านั้น เพียงแต่เธออยากให้แม่อยู่ได้นานกว่านี้ อย่างน้อยก็ให้เธอได้มีงานทำเสียก่อน ให้เธอได้เลี้ยงดูตอบแทนบุญคุณของแม่บ้าง ไม่ใช่เพียงเธอเรียนจบแม่ก็จากไป

            “เสร็จหรือยังล่ะจันทร์ พระท่านสวดเสร็จแล้วนะ”

            พรบุหลัน กัษษากร ตื่นจากภวังค์ หันมองรอบกายแล้วก็พบว่าพระท่านสวดเสร็จแล้วจริงๆ และเมื่อหันมาพบกับสายตาเอื้ออารีของคนข้างๆ ก็ฝืนหยาดน้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ไม่ได้ แต่เจ้าตัวก็รีบปาดทิ้งเสียเร็วไว ก่อนจะส่งรอยยิ้มเนือยๆ พร้อมตอบคำถามนั้น

            “ค่ะพี่กร เสร็จแล้วค่ะ”

            พรบุหลันเลื่อนถาดใส่ดอกไม้ธูปเทียนพร้อมทั้งพุ่มเครื่องไทยธรรมมาตรงหน้าเพื่อเตรียมส่งมอบให้ ภากร เพื่อนบ้านที่มีอาชีพเป็นคุณครูในโรงเรียนประถมใกล้บ้าน ซึ่งเป็นโรงเรียนเดียวกับที่แม่ของเธอสอนอยู่ และก็ได้ภากรนี่ละที่ช่วยจัดการทุกอย่างให้เมื่อแม่ตาย ตั้งแต่พาแม่ออกจากโรงพยาบาลมาที่วัด ดูแลประสานงานกับทางวัด ทั้งการสวดพระอภิธรรม ตลอดจนถึงงานฌาปนกิจในวันนี้ เพราะเธอเองไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนอีก ชีวิตนี้มีแต่แม่เท่านั้นที่เป็นญาติสนิทเพียงคนเดียว ทั้งคนมาร่วมงานก็เป็นเพื่อนบ้านที่มีน้ำใจคอยช่วยกันดูแลยามเจ็บป่วย คุณครู และนักเรียนที่แม่เคยสอนมา

            “จันทร์ เข้มแข็งนะ จันทร์ต้องส่งแม่ให้ถึงฝั่ง”    

            “ค่ะพี่กร จันทร์จะทำให้ดีที่สุด”

            ภากรมองตามร่างงามระหงที่เดินถือถาดดอกไม้ธูปเทียนไปให้แขกที่มาร่วมงานได้ ‘จบของ’ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้วายชนม์ เห็นใบหน้าของหญิงสาวที่พยายามเก็บกลั้นน้ำตาไว้อย่างที่สุดแล้วทำให้ภากรสงสารเธอจับใจ เพราะความรู้สึกยามขาดร่มโพธิ์ร่มไทรนั้นเขาผ่านมาแล้ว แต่เขายังดีที่มีญาติพี่น้องอยู่รายล้อม ขณะที่พรบุหลันไม่มีใครเลย

            เขารู้เพียงว่า ครูรัชนีกร แม่ของเธอก็เป็นคนในหมู่บ้านนี้เช่นกัน แต่ได้ย้ายครอบครัวไปอยู่ที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ยังรุ่นสาว ญาติพี่น้องที่มีอยู่ก็ทยอยตายจาก หรือไม่ก็ย้ายไปตั้งรกรากที่อื่น ดังนั้นคนที่จะนับได้ว่าเป็นญาติสนิทกันจริงๆ และอยู่ในละแวกใกล้จึงไม่มีเลย

            และเมื่อครูรัชนีกรขอย้ายกลับมาสอนที่โรงเรียนในบ้านเกิด เธอก็มีลูกสาวที่ชื่อว่าพรบุหลันกลับมาด้วย เนื่องจากบ้านของเขาและบ้านของครูรัชนีกรอยู่ติดกัน การช่วยเหลือเกื้อกูลจึงไม่ต่างจากญาติพี่น้อง และทั้งหมดที่เขาทำลงไปนั้นเขาก็เต็มใจ และก็หวังอย่างที่สุดว่า สักวันหนึ่งพรบุหลันจะมองเห็นหัวใจของเขาบ้าง

.

.

            เสียงเครื่องดนตรีไทยบรรเลงท่วงทำนองแสนเศร้า ดังชัดเจนออกมาจากเครื่องขยายเสียงของทางวัด จนแทรกเข้ามาภายในรถยุโรปคันหรูที่จอดนิ่งอยู่นอกศาลา แต่คนที่นั่งนิ่งตีสีหน้าเรียบเฉยอยู่นี้ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะก้าวลงไป

            ่ดวงตาคมเข้มมองตรงไปข้างหน้าเพื่อมองภาพบรรยากาศของงาน ‘ขาว-ดำ’ แม้เขาจะไม่เคยไปงานศพใครในเมืองไทยมาก่อน แต่เท่าที่มองดูก็เห็นความหดหู่และเศร้าใจไม่ต่างจากงานฝังศพของญาติทางฝ่ายบิดาที่อังกฤษสักเท่าไร และที่ต้องมาในวันนี้ก็เพราะคำร้องขอของแม่

            ‘ไปอโหสิกรรมให้เขานะลูก จะได้ไม่มีอะไรติดค้างกันอีก’

Related chapters

  • หนี้เสน่หาจอมมาร   EP.04 อโหสิกรรม?

    สายตาของแขกที่อยู่ร่วมในงานคล้ายจะสนใจการมาของเขา ตั้งแต่รถเลี้ยวเข้ามาจอดด้านข้างศาลา เพราะคงไม่มีใครคาดคิดว่าผู้วายชนม์หรือเจ้าภาพของงานจะมีผู้มาร่วมงานในฐานะเทียบเท่ากับเขา ก็แน่ละ เพราะตั้งแต่รถเขาเคลื่อนเข้ามาในอำเภอแห่งนี้ ทั้งบ้านเรือนสองฝั่งข้างทาง ทั้งชีวิตความเป็นอยู่ของคนในพื้นนี้ และทั้งสิ่งที่แม่บอก ก็พอคาดเดาได้ว่าบั้นปลายชีวิตของเธอคนนั้นคงไม่ได้สบายสักเท่าไร แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่เธอเลือกเอง เมื่อเลือกผิดก็ต้องยอมรับผลจนตัวตาย “เอ่อ...บอสจะลงไปเลยมั้ยครับ” เลขาฯ คู่ใจที่ควบตำแหน่งคนขับรถจำเป็นหันไปถามเจ้านายที่นั่งหน้านิ่ง ไม่พูดอะไรเลยตั้งแต่เดินทางออกมาจากกรุงเทพฯ และเขาก็ไม่ถามด้วย เพราะนายหญิงสั่งไว้ว่าถ้าฝ่ายนั้นไม่พูดออกมาก่อน เขาก็อย่าได้สะเออะเอ่ยปากก่อนเด็ดขาด ถ้ายังอยากมีอวัยวะครบอาการ 32 กลับไปกรุงเทพฯ แต่ครั้งนี้เขาจำเป็นต้องฝืนคำสั่ง เพราะภาพบรรยากาศตรงหน้าแสดงให้เห็นว่าพิธีกรรมกำลังเริ่มขึ้นแล้ว อารัญ แอนโทนี แฟรงเกนส์ ตวัดดวงตาคมเข้มที่สะท้อนลูกแก้วสีน้ำตาลขึ้นมอง ใช้สายตาปราม กาย เลขาฯ ส่วนตัวผ่านกระจกมองหลัง ย้ำเตือนว่าอย่าตั้งคำถ

    Last Updated : 2024-12-03
  • หนี้เสน่หาจอมมาร   EP.05 อดีตรัก

    ‘คุณไม้คะ คุณไม้อยากรู้อะไรคะ หรือไม่เข้าใจตรงไหน ถามพี่สิคะ’ ใบหน้าเธอเอียงน้อยๆ อย่างต้องการคำตอบ คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากัน แต่ริมฝีปากอมยิ้มน้อยๆ คล้ายกับจะเอ็นดูเขาอยู่มาก หรือนั่นคือเธอกำลังเอียงอายกันแน่ ยิ่งคิดก็ยิ่งทำให้เขาประหม่ามากขึ้นไปอีก แต่ถ้าไม่พูดออกไปเขาคงอัดอั้นจนไม่มีสมาธิฟังในสิ่งที่เธอสอนแน่ ‘ผม...เอ่อ... ผมอยากรู้ว่า...ว่า... เอ่อ...พี่เดือน...พี่เดือนมีแฟนหรือยังครับ’ นั่นคือคำถามที่โพล่งออกไปตามใจคิด และหัวใจของเขาก็พองโตมากขึ้น เพราะระยะที่ใกล้กันเพียงโต๊ะกั้นทำให้เขามองเห็นริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันน้อยๆ ดวงตาสวยหวานหลุบมองลงต่ำ รวมทั้งแก้มสีขาวนวลที่ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อ อาการที่เห็นนี้แปลว่า ‘มี’ หรือ ‘ยังไม่มี’ กันนะ ดังนั้นคำถามรุกเร้าจึงเดินหน้าต่อ ‘ว่ายังไงล่ะครับ พี่เดือนมีแฟนแล้วหรือยัง’ ‘เอ่อ...พี่ว่ามันไม่เกี่ยวกับการเรียนของเรานะคะ คุณไม้ถามเฉพาะเรื่องเรียนดีกว่า อย่าสนใจเรื่องของพี่เลย ตั้งใจเรียนจะได้สอบได้คะแนนเยอะๆ คุณแม่ของคุณไม้จะได้ไม่ตำหนิพี่ด้วย มาเถอะค่ะ สงสัยข้อไหนบอกพี่ม

    Last Updated : 2024-12-03
  • หนี้เสน่หาจอมมาร   EP.01 เจ็บสุด

    “ผมไม่เชื่อ! เดือนไม่มีทางทำแบบนั้นแน่ แม่โกหกผม!” เด็กหนุ่มแผดเสียงลั่นต่อว่าแม่ตนเอง ทั้งยังยืนจังก้ากำมือแน่น ไม่ยอมรับรู้ในสิ่งที่แม่กำลังบอกกล่าวเลยสักนิด ใบหน้าหล่อจัดสไตล์หนุ่มลูกครึ่งยุโรปออกสีแดงก่ำด้วยความโมโห ปะปนกับความผิดหวังและรับไม่ได้กับสิ่งที่แม่กล่าวหาเธอคนนั้น แม่กล่าวหาว่าผู้หญิงที่เขารักจากไปแล้ว จากไปพร้อมกับเงินก้อนโต “ไม้! นี่ลูกจะบ้าไปแล้วหรือไง แม่เป็นแม่ของลูกนะ แม่จะโกหกลูกไปทำไม” “ก็แม่เกลียดเดือนน่ะสิ ผมรู้นะว่าแม่ไม่อยากให้ผมกับเดือนรักกัน แม่กีดกันผม แม่ไล่เธอไปใช่มั้ย!” น้ำเสียงที่เค้นออกมาคือความขื่นขม ความผิดหวังที่แม่กีดกันความรักของเขา จนถึงกับระเบิดอารมณ์ใส่ผู้ให้กำเนิด “ไม้ เอาละ เอาละ ในเมื่อลูกอยากฟังความจริง แม่ก็จะบอก ลูกจะได้ตาสว่างเสียที ผู้หญิงคนนั้นเขาไม่ได้เลือกลูก แต่เขาเลือกเงิน เขาไม่ได้รักลูก ลูกได้ยินที่แม่พูดมั้ยไม้ เธอเลือกเงิน ไม่ใช่ลูก!” “ไม่...ผมไม่เชื่อแม่ ไม่มีวันเชื่อ แม่โกหกผม” คำพูดพึมพำติดอยู่ที่ริมฝีปาก เพราะสิ่งที่แม่พูดนั้นไม่เคยอยู่ในค

    Last Updated : 2024-12-03
  • หนี้เสน่หาจอมมาร   EP.02 สักวันแค้นจะได้ชำระ

    นิ้วมือยกขึ้นแตะซับที่หน้าผากด้านซ้ายภายใต้ไรผมปกปิด ความรู้สึกวาบลึกวิ่งเร้าอยู่ภายใต้ร่องรอยแผลเป็นจางๆ เพราะเสียงร่ำร้องในหัวใจบอกว่าบาดแผลนี้ไม่มีวันหายขาด แม้ด้านนอกจะแทบไม่เห็นรอย แต่ใครจะรู้เล่าว่าความเจ็บปวดนั้นหยั่งรากลงลึกจนถึงหัวใจ เปรี๊ยะ! แก้ววิสกี้เนื้อดีถูกบีบจนแตกคามือ เลือดสีแดงสดซึมออกมาตามร่องนิ้ว ทว่าใบหน้าหล่อเหลานั้นไม่ได้แสดงความเจ็บปวดเลยสักนิด มีเพียงดวงตาคมเข้มเท่านั้นที่กร้าวขึ้นแลดูเจ็บปวดอยู่ลึกๆ เขาแค่นยิ้มที่มุมปาก บาดแผลแค่นี้ไม่ทำให้เจ็บได้หรอก เพราะสิ่งที่เจ็บอยู่นี้มากมายเกินกว่าแล้ว ไม่มีความเจ็บปวดใดๆ ในโลกที่เขาจะทนไม่ได้อีก เพราะความเจ็บจากการโดนกระชากหัวใจออกจากร่างทั้งที่ยังมีชีวิตเกินกว่าที่คนจะทนไหว แต่ที่เขายังมีชีวิตอยู่ได้ก็เพราะมี ‘ความแค้น’ และ ‘ความอดสู’ ที่ถูกทอดทิ้ง เป็นเหมือนเชื้อเพลิงให้ร่างกายยังหายใจ และไม่บ้าบอคิดตัดช่องน้อยแต่พอตัวไปก่อน ดวงตาคมกร้าวขึ้นตวัดมองภาพเคลื่อนไหวนั้นต่อ เสียงหัวเราะอย่างมีความสุขของคนทั้งคู่ยังดังต่อเนื่อง เด็กหนุ่มทำโจทย์ข้อยากๆ ได้โดยง่าย เขาตั้งใจเรีย

    Last Updated : 2024-12-03

Latest chapter

  • หนี้เสน่หาจอมมาร   EP.05 อดีตรัก

    ‘คุณไม้คะ คุณไม้อยากรู้อะไรคะ หรือไม่เข้าใจตรงไหน ถามพี่สิคะ’ ใบหน้าเธอเอียงน้อยๆ อย่างต้องการคำตอบ คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากัน แต่ริมฝีปากอมยิ้มน้อยๆ คล้ายกับจะเอ็นดูเขาอยู่มาก หรือนั่นคือเธอกำลังเอียงอายกันแน่ ยิ่งคิดก็ยิ่งทำให้เขาประหม่ามากขึ้นไปอีก แต่ถ้าไม่พูดออกไปเขาคงอัดอั้นจนไม่มีสมาธิฟังในสิ่งที่เธอสอนแน่ ‘ผม...เอ่อ... ผมอยากรู้ว่า...ว่า... เอ่อ...พี่เดือน...พี่เดือนมีแฟนหรือยังครับ’ นั่นคือคำถามที่โพล่งออกไปตามใจคิด และหัวใจของเขาก็พองโตมากขึ้น เพราะระยะที่ใกล้กันเพียงโต๊ะกั้นทำให้เขามองเห็นริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันน้อยๆ ดวงตาสวยหวานหลุบมองลงต่ำ รวมทั้งแก้มสีขาวนวลที่ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อ อาการที่เห็นนี้แปลว่า ‘มี’ หรือ ‘ยังไม่มี’ กันนะ ดังนั้นคำถามรุกเร้าจึงเดินหน้าต่อ ‘ว่ายังไงล่ะครับ พี่เดือนมีแฟนแล้วหรือยัง’ ‘เอ่อ...พี่ว่ามันไม่เกี่ยวกับการเรียนของเรานะคะ คุณไม้ถามเฉพาะเรื่องเรียนดีกว่า อย่าสนใจเรื่องของพี่เลย ตั้งใจเรียนจะได้สอบได้คะแนนเยอะๆ คุณแม่ของคุณไม้จะได้ไม่ตำหนิพี่ด้วย มาเถอะค่ะ สงสัยข้อไหนบอกพี่ม

  • หนี้เสน่หาจอมมาร   EP.04 อโหสิกรรม?

    สายตาของแขกที่อยู่ร่วมในงานคล้ายจะสนใจการมาของเขา ตั้งแต่รถเลี้ยวเข้ามาจอดด้านข้างศาลา เพราะคงไม่มีใครคาดคิดว่าผู้วายชนม์หรือเจ้าภาพของงานจะมีผู้มาร่วมงานในฐานะเทียบเท่ากับเขา ก็แน่ละ เพราะตั้งแต่รถเขาเคลื่อนเข้ามาในอำเภอแห่งนี้ ทั้งบ้านเรือนสองฝั่งข้างทาง ทั้งชีวิตความเป็นอยู่ของคนในพื้นนี้ และทั้งสิ่งที่แม่บอก ก็พอคาดเดาได้ว่าบั้นปลายชีวิตของเธอคนนั้นคงไม่ได้สบายสักเท่าไร แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่เธอเลือกเอง เมื่อเลือกผิดก็ต้องยอมรับผลจนตัวตาย “เอ่อ...บอสจะลงไปเลยมั้ยครับ” เลขาฯ คู่ใจที่ควบตำแหน่งคนขับรถจำเป็นหันไปถามเจ้านายที่นั่งหน้านิ่ง ไม่พูดอะไรเลยตั้งแต่เดินทางออกมาจากกรุงเทพฯ และเขาก็ไม่ถามด้วย เพราะนายหญิงสั่งไว้ว่าถ้าฝ่ายนั้นไม่พูดออกมาก่อน เขาก็อย่าได้สะเออะเอ่ยปากก่อนเด็ดขาด ถ้ายังอยากมีอวัยวะครบอาการ 32 กลับไปกรุงเทพฯ แต่ครั้งนี้เขาจำเป็นต้องฝืนคำสั่ง เพราะภาพบรรยากาศตรงหน้าแสดงให้เห็นว่าพิธีกรรมกำลังเริ่มขึ้นแล้ว อารัญ แอนโทนี แฟรงเกนส์ ตวัดดวงตาคมเข้มที่สะท้อนลูกแก้วสีน้ำตาลขึ้นมอง ใช้สายตาปราม กาย เลขาฯ ส่วนตัวผ่านกระจกมองหลัง ย้ำเตือนว่าอย่าตั้งคำถ

  • หนี้เสน่หาจอมมาร   EP.03 พรบุหลัน

    เสียงพระสงฆ์สวดมาติกาบังสุกุลดังผ่านเครื่องขยายเสียงของทางวัด ทำให้แขกเหรื่อที่มาร่วมงานรู้โดยอัตโนมัติว่า ร่างอันไร้วิญญาณในศาลาใดกำลังจะถูกฌาปนกิจ ณ เวลา 16:00 น. ของวันนี้ เนื่องจากวัดในสมัยใหม่นิยมสร้างศาลาสวดศพให้อยู่รายรอบเมรุ เพื่อให้สะดวกในการเคลื่อนย้ายร่างไร้วิญญาณขึ้นสู่สถานที่อันจะทำให้ร่างนั้นกลับคืนสู่ธรรมชาติได้อย่างแท้จริง ดังนั้นการตั้งศพเพื่อสวดพระอภิธรรมจึงอาจมีมากกว่าหนึ่งร่างในแต่ละค่ำคืน ทว่าจะมีเพียงร่างเดียวเท่านั้นที่จะทำการฌาปนกิจในแต่ละวัน เพราะพิธีการแต่ละขั้นตอนต้องใช้เวลาและต้องทำให้ถูกต้อง กว่าจะส่งร่างนั้นไปสู่เส้นทางอันสุคติได้สำเร็จ ย่อมกินเวลาตั้งแต่ช่วงเช้าไปจนถึงค่อนดึก ผ้าลูกไม้สีขาวผืนบางคลุมทับโลงไม้ไว้อีกชั้นนั้น เพื่อให้ลวดลายอ่อนหวานช่วยลดทอนความโศกเศร้าจากผู้พบเห็น และเพื่อแสดงออกว่าผู้วายชนม์เดินทางไปสู่สถานที่ที่มีความสุขแล้ว ทว่าเมื่อมาอยู่รวมกับดอกไม้ช่อยาวสีขาวที่นำมาประดับโดยรอบแล้วนั้น กลิ่นหอมจัดจนฉุนกลับทำให้บรรยากาศอวมงคลเด่นชัดมากขึ้น เพราะนั่นคือ ‘ซ่อนกลิ่น’ ดอกไม้ที่ใช้ซ่อนร่างไร้วิญญาณ ท่วงทำ

  • หนี้เสน่หาจอมมาร   EP.02 สักวันแค้นจะได้ชำระ

    นิ้วมือยกขึ้นแตะซับที่หน้าผากด้านซ้ายภายใต้ไรผมปกปิด ความรู้สึกวาบลึกวิ่งเร้าอยู่ภายใต้ร่องรอยแผลเป็นจางๆ เพราะเสียงร่ำร้องในหัวใจบอกว่าบาดแผลนี้ไม่มีวันหายขาด แม้ด้านนอกจะแทบไม่เห็นรอย แต่ใครจะรู้เล่าว่าความเจ็บปวดนั้นหยั่งรากลงลึกจนถึงหัวใจ เปรี๊ยะ! แก้ววิสกี้เนื้อดีถูกบีบจนแตกคามือ เลือดสีแดงสดซึมออกมาตามร่องนิ้ว ทว่าใบหน้าหล่อเหลานั้นไม่ได้แสดงความเจ็บปวดเลยสักนิด มีเพียงดวงตาคมเข้มเท่านั้นที่กร้าวขึ้นแลดูเจ็บปวดอยู่ลึกๆ เขาแค่นยิ้มที่มุมปาก บาดแผลแค่นี้ไม่ทำให้เจ็บได้หรอก เพราะสิ่งที่เจ็บอยู่นี้มากมายเกินกว่าแล้ว ไม่มีความเจ็บปวดใดๆ ในโลกที่เขาจะทนไม่ได้อีก เพราะความเจ็บจากการโดนกระชากหัวใจออกจากร่างทั้งที่ยังมีชีวิตเกินกว่าที่คนจะทนไหว แต่ที่เขายังมีชีวิตอยู่ได้ก็เพราะมี ‘ความแค้น’ และ ‘ความอดสู’ ที่ถูกทอดทิ้ง เป็นเหมือนเชื้อเพลิงให้ร่างกายยังหายใจ และไม่บ้าบอคิดตัดช่องน้อยแต่พอตัวไปก่อน ดวงตาคมกร้าวขึ้นตวัดมองภาพเคลื่อนไหวนั้นต่อ เสียงหัวเราะอย่างมีความสุขของคนทั้งคู่ยังดังต่อเนื่อง เด็กหนุ่มทำโจทย์ข้อยากๆ ได้โดยง่าย เขาตั้งใจเรีย

  • หนี้เสน่หาจอมมาร   EP.01 เจ็บสุด

    “ผมไม่เชื่อ! เดือนไม่มีทางทำแบบนั้นแน่ แม่โกหกผม!” เด็กหนุ่มแผดเสียงลั่นต่อว่าแม่ตนเอง ทั้งยังยืนจังก้ากำมือแน่น ไม่ยอมรับรู้ในสิ่งที่แม่กำลังบอกกล่าวเลยสักนิด ใบหน้าหล่อจัดสไตล์หนุ่มลูกครึ่งยุโรปออกสีแดงก่ำด้วยความโมโห ปะปนกับความผิดหวังและรับไม่ได้กับสิ่งที่แม่กล่าวหาเธอคนนั้น แม่กล่าวหาว่าผู้หญิงที่เขารักจากไปแล้ว จากไปพร้อมกับเงินก้อนโต “ไม้! นี่ลูกจะบ้าไปแล้วหรือไง แม่เป็นแม่ของลูกนะ แม่จะโกหกลูกไปทำไม” “ก็แม่เกลียดเดือนน่ะสิ ผมรู้นะว่าแม่ไม่อยากให้ผมกับเดือนรักกัน แม่กีดกันผม แม่ไล่เธอไปใช่มั้ย!” น้ำเสียงที่เค้นออกมาคือความขื่นขม ความผิดหวังที่แม่กีดกันความรักของเขา จนถึงกับระเบิดอารมณ์ใส่ผู้ให้กำเนิด “ไม้ เอาละ เอาละ ในเมื่อลูกอยากฟังความจริง แม่ก็จะบอก ลูกจะได้ตาสว่างเสียที ผู้หญิงคนนั้นเขาไม่ได้เลือกลูก แต่เขาเลือกเงิน เขาไม่ได้รักลูก ลูกได้ยินที่แม่พูดมั้ยไม้ เธอเลือกเงิน ไม่ใช่ลูก!” “ไม่...ผมไม่เชื่อแม่ ไม่มีวันเชื่อ แม่โกหกผม” คำพูดพึมพำติดอยู่ที่ริมฝีปาก เพราะสิ่งที่แม่พูดนั้นไม่เคยอยู่ในค

DMCA.com Protection Status