“ตอนนี้นิต้ายังนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ที่ฉันรีบมาหานายเพราะวันนี้ฉันว่าจะไปเยี่ยมเธอ คิดว่าหมอคงให้เธอกลับได้แล้วล่ะ นี่เป็นข่าวดีมากเลยนะ นิต้าคงดีใจมากถ้าเธอได้เอกสารพวกนี้คืนถึงแม้เธอจะทำใหม่แล้วก็เถอะ”“นายจะไม่ลองตรวจดูของในกระเป๋าเพื่อนนายสักหน่อยหรือ”“อาจจะไม่...อืม...” ลอว์สันทำสีหน้าครุ่นคิดและลังเลชั่วครู่ขณะก้มลงดูกระเป๋าใบนั้น แต่แล้วเขาก็ตัดสินใจแกะถุงพลาสติกและเปิดมันออกดู ภายในนั้นมีเอกสารพวกหนังสือเดินทาง เขาคิดว่าจะดูแค่นั้นแต่พอจะปิดกระเป๋าก็มีบางอย่างร่วงหล่นลงในมือ ลอว์สันรับเอาไว้ซึ่งมันเป็นพาสปอร์ต เขาเพ่งมองรูปภาพใบหน้าหญิงสาวในนั้นและชื่อเจ้าของหนังสือเดินทางซึ่งทำให้เขาผงะและนิ่งงันไปชั่ววินาทีก่อนที่จะเพ่งมองให้ชัดอีกครั้งนางนิตา รัตนะรัศมี เวสเนอร์ ไม่ผิดแน่...ลอว์สันคิดว่าเขาอ่านไม่ผิดแม้จะต้องอ่านมันซ้ำอีกพันหนนางนิตา รัตนะรัศมี เวสเนอร์ “พุฒิ...ฉันถามอะไรนายหน่อยสิ” / “ถามมาสิ...นายมีอะไรสงสัยอย่างนั้นหรือ?”ลอว์สันนิ่งเงียบไปชั่วครู่และยกมือขึ้นเกาคางเบา ๆ ก่อนที่เขาจะตัดสินใจพูด“ฉันแค่อยากจะแน่ใจว่าผู้หญิงบางคนใช้สองนามสกุล...เอ้อ...และนามส
“เอ้อ...ผมเป็นเพื่อนของเธอน่ะครับหมอ...เอ้อ...สามีของเธออยู่ต่างประเทศน่ะครับ” ลอว์สันแสร้งบอก “อืม...ถ้าอย่างนั้นไม่ทราบว่าสามีของเธอรู้หรือเปล่าว่าตอนนี้เธอตั้งครรภ์ได้ประมาณสี่สัปดาห์แล้ว ครรภ์ยังอ่อนมากและหมอก็ตรวจพบภาวะเครียดจากการเต้นของหัวใจผู้ป่วย หมออยากจะให้เธอนอนพักที่นี่อีกสักสองสามวัน อยู่ภายใต้การดูแลของหมอเพื่อให้แน่ใจว่าเธอจะหายอ่อนเพลียและไม่มีสภาวะความเครียดเพราะมันจะกระทบกับทารกในครรภ์ของเธอซึ่งอาจเป็นอันตรายได้ครับ” ลอว์สันหันกลับไปมองผู้ที่ยังนอนสงบนิ่ง หัวใจของเขาไหววูบและอ่อนยวบลงในทันใดเมื่อได้ยินคำวินิจฉัยจากปากของนายแพทย์ ทว่าเขาก็พยักหน้ารับต่อทุกคำบอกกล่าวทั้งที่ในสมองตื้อตันไปหมด “ครับหมอ...ตอนนี้สามีของเธอยังไม่กลับมา ถ้ายังไงผมจะเป็นคนรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดของเธอเองครับ” ชายหนุ่มรับปากต่อนายแพทย์วัยกลางคนที่พยักหน้าด้วยความพอใจก่อนจะเดินออกไปจากห้องนั้นพร้อมนางพยาบาลผู้ช่วยปล่อยให้ลอว์สันยังคงยืนนิ่งงันอยู่ข้างเตียงผู้ป่วย เขายืนมองดวงหน้าแสนหวานของหญิงสาวชาวไทยผู้ซึ่งเดินทางมาไกลและได้พบกับเขาราว
ใช่...ไดแอนดราไม่รู้ถึงความจริงที่อยู่เบื้องหลังความสัมพันธ์ระหว่างคนที่เธออยากได้เป็นคู่หมั้นและหญิงไทยคนหนึ่งที่มาตามหาคนรักไกลถึงอีกซีกโลก ถึงจะยังไม่กระจ่างชัดในความจริงแต่ลอว์สันก็พอจะเก็บชิ้นส่วนของเหตุการณ์ต่าง ๆ มาต่อเป็นเรื่องราวได้เกือบสมบูรณ์ แม้ยังเข้าใจไม่ทะลุปรุโปร่งแต่ลอว์สันก็เริ่มมองเห็นบางสิ่งบางอย่างที่แอบซ่อนอยู่ด้านหลังภาพต่อจิ๊กซอว์ที่เขาลำดับเหตุการณ์ได้ถึงตอนเกือบท้ายสุด ยังเหลือเพียงเหตุผลเท่านั้นว่าทำไมคลีฟถึงไม่ยอมรับว่านิตาเคยมีความสัมพันธ์อย่างไรกับเขาซึ่งเป็นสิ่งที่ลอว์สันมองไม่เห็นและเป็นสิ่งที่เขาอยากรู้จนแทบอดรนทนไม่ไหวที่จะรู้มันจากคลีฟ แต่ตอนนี้เขาเองต้องหยุดทุกอย่างที่ไดแอนดราตั้งใจจะสร้างขึ้นถึงแม้นั่นจะหมายถึงการทำลายความฝันของน้องสาวคนเดียว ซึ่งมันดีกว่ามิใช่หรือหากต้องปล่อยให้เธอพบกับความเจ็บปวดที่ไม่อาจเยียวยาได้ในท้ายที่สุด ร่างสูงใหญ่ภายใต้เสื้อเชิ้ตลายทางสวมทับด้วยเบลเซอร์สีน้ำตาลเข้มและกางเกงแสล็คสีเดียวกันนั่งบนเก้าอี้นวมตัวใหญ่ขณะนัยน์ตาสีน้ำเงินสะท้อนแสงแดดอ่อนยามเช้าเป็นประกายทอดมองออกไปยังท้องฟ้าไร้เมฆนอกผนังก
“ในฐานะที่ฉันเป็นเพื่อนสนิทของนาย ช่วยบอกฉันทีได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น ฉันพยายามปะติดปะต่อเรื่องราวและฉันก็พอจะเข้าใจว่ามันเป็นยังไง ฉันรู้ว่าที่ผ่านมานายต้องเจอกับปัญหาที่มันหนักหนามายังไงบ้าง แต่...ให้ตายเถอะ!...ฉันไม่รู้เหตุผลเลยว่าทำไมนายถึงได้...”“ทำเหมือนไม่รู้จักผู้หญิงที่ฉันเคยแต่งงานด้วยอย่างนั้นใช่มั้ย ลอว์” คลีฟทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวเดิมอีกครั้ง มือของเขาประสานกันและลอว์สันได้ยินเสียงหักข้อนิ้วของคลีฟราวกับเขาต้องการระบายความเครียด เสียงถอนหายใจของคลีฟหนักยิ่งกว่าเก่า นี่คงถึงเวลาแล้วที่เขาไม่อาจปิดบังสิ่งที่ยังคงติดค้างอยู่ในใจมาตลอดระยะเวลาสองปีกับเพื่อนสนิทที่สุดอย่างลอว์สันได้ นัยน์ตาสีน้ำเงินแซฟไฟร์ส่องประกายหมองลงขณะเหม่อมองออกไปด้านนอก“เมื่อสองปีที่แล้วก่อนที่ฉันจะเข้าร่วมปฏิบัติการทางทหารในอัฟกานิสถาน...ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่ฉันลาพักผ่อนจากกองทัพและเดินทางไปเที่ยวเมืองไทย ฉันได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่ง เธอเป็นผู้หญิงไทยที่...น่ารัก อ่อนหวาน เธอชื่อนิตา จริง ๆ แล้วฉันมักจะเรียกเธอติดปากว่า นีน่า เธอทำให้ฉันแทบไม่อยากกลับอเมริกา ฉันเลยตัดสินใจว่าจะต้องแต่งงานกับเธอ”เ
“วันนั้นฉันเจอนิต้าที่ร้านอาหาร เธอเป็นคนมีน้ำใจมากอุตส่าห์วิ่งเอากระเป๋าเอกสารที่ฉันลืมไว้มาให้จนกระเป๋าของตัวเองหายพร้อมเงินทั้งหมดที่เตรียมมาเพื่อตามหา...ตอนนั้นฉันไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเธอมาตามหาใครที่นิวยอร์ค เธอแค่ของานทำเพื่อเก็บเงินเป็นค่าเดินทางกลับเมืองไทย และฉันก็ช่วยเหลือเธอ คนแรกที่ฉันคิดว่าต้องช่วยได้คือนาย พระเจ้า...คลีฟ...ฉันดูไม่ออกเลยจริง ๆ ว่านายกับนิต้า...เคยเป็นสามีภรรยากันมาก่อน”“ฉันพยายามไม่อยู่ใกล้ ทำเหมือนไม่รู้จัก ฉันรู้ว่าเธอเจ็บปวดและคงทรมานมากจากความเฉยชาของสามีตัวเอง แต่ฉันไม่มีทางเลือก ฉันอยากให้เธอกลับเมืองไทยให้เร็วที่สุด แต่ทุกอย่างก็ไม่เป็นอย่างที่ฉันคิด”“เธอรักนายและนายก็ปล่อยเธอไปไม่ได้ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมนายถึงได้พาเธอไปอยู่ที่แอนนาโพลิส นายช่วยยืนยันกับฉันได้มั้ยว่าตอนนี้นายยังรักนิต้ามากเกินกว่าจะปล่อยให้เธอลอยหายไปจากชีวิต”“ฉันรักเธอ...รักมากกว่าชีวิตของฉันเพราะไม่อย่างนั้นฉันคงไม่หาทางปกป้องเธอจากด้านมืดของตัวฉันเอง ฉันทรมานนะลอว์สัน มันเป็นความทรมานใจที่ฉันอธิบายให้ใครฟังไม่ได้เลย”“ถ้าอย่างนั้นแล้ว...เรื่องของนายกับไดแอนดรา...” ลอว์สันม
“ผมเคยจดทะเบียนสมรสมาครั้งหนึ่งแล้ว ผมเคยมีภรรยาอยู่ที่เมืองไทยและผมก็รักเธอมาก มากเกินกว่าที่จะแต่งงานกับใครคนใหม่ได้”“ไม่จริง!” ไดแอนดราค้านเสียงแข็ง “ถ้าคุณเคยแต่งงานแล้วทำไมไม่มีใครรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย ทั้งที่คุณเป็นประธานใหญ่ของเวสเนอร์ กรุ๊ป แล้วทำไมถึงไม่มีใครรู้เรื่องนี้”“ไดแอนดรา...เธอควรจะฟังเขาก่อน” ลอว์สันเข้าไปจับมือน้องสาวเพื่อปรามแต่เธอสะบัดมือเขาจนหลุดและหันไปตวาดแหว“พี่อย่ามายุ่งเรื่องนี้ดีกว่า! ฉันรู้ว่าพี่ไม่อยากให้คลีฟแต่งงานกับฉัน พี่มาพูดอะไรกับเขา”“พี่ไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น พี่มาฟังความจริงจากปากของคลีฟต่างหาก”“ความจริงอย่างนั้นหรือ?” ไดแอนดราแทบทรงตัวไม่อยู่ รอบเบ้าตาของเธอมีน้ำคลอหน่วย เธอรู้สึกชาไปหมดทั้งตัว ไม่เคยผิดหวังมากเท่านี้มาก่อนในชีวิต ในแวดวงสังคมนิวยอร์คไม่มีใครที่ไม่รู้จักเธอ ไดแอนดรา เบอร์ลิน สาวสวยจบการศึกษาสูงและร่ำรวย อยากได้อะไรเธอไม่เคยพลาดหวังที่จะได้สิ่งนั้น แต่ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น เธอกำลังถูก คลีฟ เวสเนอร์ ประธานใหญ่แห่งเวสเนอร์ กรุ๊ป ปฏิเสธการแต่งงานซึ่งมันเป็นสิ่งที่หญิงสาวรับไม่ได้เลย“ลอว์สัน...นายไม่ต้องพูดอะไรหรอก” คลีฟ
ไดแอนดราตีบตันเกินกว่าจะพูดอะไรออกมาได้ เหมือนมีก้อนแข็งวิ่งขึ้นมาจุกที่อก เธอรับไม่ได้กับเรื่องแบบนี้ สังคมจะคิดยังไงถ้ารู้ว่าคู่ชีวิตของเธอเคยผ่านการบำบัดเพราะป่วยทางจิตมาก่อน หญิงสาวตวัดฝ่ามือลงบนใบหน้าคร้ามเข้มของคลีฟเต็มแรงหากทว่าเขาก็ยังยืนนิ่งในขณะที่ลอว์สันตกใจกับการกระทำของน้องสาว ไดแอนดราเหยียดปากเยาะหยัน“คลีฟ เวสเนอร์ คุณเป็นถึงประธานใหญ่แห่งเวสเนอร์ กรุ๊ป บริหารบริษัทในเครือตั้งไม่รู้กี่สาขาทั่วโลกแต่กลับไม่รู้ว่าจะจัดการกับชีวิตของตัวเองยังไง”“ผมยอมรับในสิ่งที่คุณพูดมาทุกอย่าง คุณพูดถูกแล้วไดแอนดรา ผมจัดการองค์กรของตัวเองได้แต่กลับจัดการกับปัญหาของตัวเองไม่ได้”“คุณมันบ้า!...คุณหลอกพวกเรา พี่ชายฉันอาจจะรู้เรื่องที่คุณเคยได้รับการบำบัดอาการป่วยมาก่อน แต่เขาไม่มีวันรู้เรื่องนี้”หญิงสาวเปิดกระเป๋าสะพายด้วยมืออันสั่นเทาแล้วหยิบซองกระดาษออกมาก่อนจะเปิดมันออกแล้วดึงรูปนับสิบใบออกมาขว้างใส่หน้าอกของคลีฟ เขาไม่แสดงอาการโกรธแต่ก้มลงหยิบรูปเหล่านั้นขึ้นมาดู“คุณปั่นหัวพวกเราเล่น ตอนอยู่ที่นี่คุณทำเหมือนไม่รู้จักแม่ผู้หญิงที่เร่ร่อนมาจากเมืองไทยคนนั้น แต่พอไปอยู่ที่แอนนาโพลิสคุณ
“เธอไม่เป็นอะไร...แต่...นายอยากจะไปเยี่ยมเธอจริง ๆ อย่างนั้นหรือ” พอเพื่อนสนิทถามกลับไปแบบนั้นคลีฟกลับมีสีหน้าเคร่งเครียดยิ่งกว่าเก่า มือทั้งสองที่จับไหล่ของลอว์สันตกลงข้างลำตัวก่อนที่เขาจะหันหลังให้และเดินไปหยุดที่ผนังกระจก เขาหลับตาลงขณะนึกถึงคำพูดสุดท้ายที่เขาใช้ทำร้ายนิตา“ผมจะแต่งงานกับน้องสาวของลอว์สัน...แต่งงานกับไดแอนดรา...จริงสินะ นอกจากเธอก็คงจะไม่มีใครอีกแล้วที่เข้าใจผมก็ในเมื่อเธอเป็นผู้หญิงคนเดียวที่น่าจะเข้าใจผมมากที่สุดและเหมาะสมกับผมที่สุดอย่างที่คุณว่า ผมจะแต่งงานกับเธอ มีลูกกับเธอและรักเธอ และผมจะลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยมี จะไม่ขอจดจำสิ่งที่มันผ่านไปแล้ว ให้มันเป็นอดีตที่ผมจะไม่มีวันนึกถึงมันอีกต่อไป!”ชายหนุ่มยกมือขึ้นค้ำยันบนผนังกระจกพร้อมทั้งก้มหน้า “ฉันลืมไปลอว์สัน...ฉันลืมตัวและพูดสิ่งที่ทำร้ายจิตใจเธอ นีน่าคงไม่อยากเห็นหน้าฉันอีก ถ้าเธอหายดีแล้วเธอคงจะเดินทางกลับเมืองไทยในทันที” ลอว์สันมองเพื่อนของเขาก่อนจะก้มลงหยิบภาพที่หล่นอยู่บนพื้นขึ้นมาดู มันเป็นภาพของคลีฟและนิตาซึ่งต่างคนต่างนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวและกำลังกอดรัดพร้อมทั้งจูบอย่างดูดดื่มที่หน้าระเบียงคฤหาสน์ใน
“ผมจะบอกอะไรให้นะ ที่รัก” เขาเชยคางของเธอขึ้น ดวงหน้าแสนงามเปื้อนด้วยคราบน้ำตาและสาบานได้ว่าเขาจะไม่ยอมให้เธอต้องเสียใจอีกแล้ว“พอผมรู้ว่าไดแอนดราคิดจะทำอะไร ผมก็ตัดสินใจได้ในทันทีเหมือนกันว่าผมต้องทำอะไรบ้าง ผมสั่งแองเจิ้ลให้ส่งเทียบเชิญลูกค้าและแขกคนสำคัญของผมภายในวันนั้น เชิญนักข่าวจากสื่อต่าง ๆ เพื่อให้พวกเขามาร่วมงานแถลงข่าวเปิดห้างใหม่ของเวสเนอร์ ดูเป็นงานที่เร่งรีบไปหน่อยแต่มันเป็นแค่จุดประสงค์รองของผมเท่านั้น ความตั้งใจของผมคือการทำตามความต้องการของไดแอนดรา”“คลีฟ...”“ในเมื่อไดแอนดรากล้าที่จะเอาเรื่องของผมมาต่อรองกับคุณ ผมก็กล้าพอที่จะเปิดเผยเรื่องราวทุกอย่างด้วยตัวผมเองเช่นกัน ผมเคยบอกคุณแล้วยังไงนีน่าว่าไดแอนดรายังไม่รู้จักผมดีพอ ถ้าเธอรู้จักผมก็จะรู้ว่าผมก็บ้าพอที่จะยอมแลกความเจ็บปวดกับทุกอย่าง”“ฉันรู้ค่ะ คลีฟ...ฉันรู้ค่ะ” “และรู้มั้ยว่า...งานวันนี้ผมตั้งใจจะจัดมันขึ้น...เพื่อคุณ”ชายหนุ่มแนบริมฝีปากบนแก้มของหญิงสาว นิตาเงยหน้ารับจุมพิตของเขาเสมือนว่ามันได้ซับน้ำตาของเธอจนแห้งเหือดไปสิ้น“นีน่า...ผมเคยทำผิดต่อคุณไว้มาก ผมทอดทิ้งคุณ ทำให้คุณเจ็บปวดด้วยคำพูดและการกระทำที่ไ
เขาส่ายหน้า “พี่รักเธอเสมอไดแอนดรา...ถ้าหากเธอจะเข้าใจตัวเองมากกว่านี้ หัวใจของคลีฟไม่ได้เป็นของเธอตั้งแต่แรก ยอมรับเถอะว่าเธอไม่สามารถแทนที่นิต้าได้เพราะนิต้า...คือหัวใจของเขา” ไดแอนดราแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่หากแต่เธอก็ต้องสะกดมันไว้ด้วยนิสัยที่ไม่เคยยอมใครแม้จะผิดหวังก็ต้องไม่แสดงความอ่อนแอให้ใครเห็นแม้แต่พี่ชายตัวเอง ร่างระหงเดินเฉียดไหล่ลอว์สันกลับออกไปจากห้องนั้นในขณะที่ชายหนุ่มหันกลับไปมองชายหญิงทั้งสองที่กอดเกี่ยวกันท่ามกลางแขกเหรื่อและแสงแฟลชจากกล้องของเหล่ากองทัพสื่อที่พร้อมใจกันถ่ายภาพเพื่อจะลงข่าวใหญ่ในวันรุ่งขึ้น หรือไม่ก็อาจจะเป็นอีกไม่กี่นาทีหลังจากนี้ ข่าวเบื้องหลังของประธานใหญ่แห่งเวสเนอร์และภรรยาตัวจริงของเขาจะถูกเผยแพร่ออกไปทางโซเชียลเน็ตเวิร์ค และไม่ว่ามันจะได้รับผลตอบกลับมาในแง่ดีหรือร้าย ลอว์สันก็คิดว่าเพื่อนของเขาคงเตรียมใจรับไว้อย่างดีแล้ว เพราะอย่างน้อยตอนนี้คลีฟก็ไม่ได้โดดเดี่ยวอีกต่อไป เขามี เพื่อน คู่คิดที่จะคอยร่วมเดินไปบนเส้นทางสายใหม่ ซึ่งเป็นเส้นทางที่คลีฟ เวสเนอร์ใช้หัวใจของเขาเลือกเดินForever Romantic นิตายืนมองภาพบรรยากาศอันขมุกขมัว
“ทุกท่านได้ยินไม่ผิดหรอกครับ ผมเคยจดทะเบียนสมรสกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เมืองไทยก่อนจะเดินทางกลับมาสหรัฐเพื่อเข้าร่วมรบในสงครามประเทศตะวันออกกลาง และพอหลังจากโดนระเบิดผมต้องรักษาตัวอยู่นานเกือบปีกว่าจะหายเป็นปกติ หลังจากนั้นผมก็เข้ารับตำแหน่งประธานเวสเนอร์ กรุ๊ป ตามเจตจำนงในพินัยกรรมของคุณพ่อบุญธรรมก่อนที่ท่านจะเสียชีวิต ตอนนั้นพอผมรู้ว่าตัวเองป่วยผมก็พยายามตัดใจลืมเธอ ผมไม่ได้กลับไปหาเธอที่เมืองไทยด้วยเหตุผลที่ว่า...ผมไม่อยากทำให้เธอเจ็บปวดเพราะอาการป่วยที่ต้องได้รับการบำบัด เรื่องนี้ไม่เคยมีใครรู้...แต่...ผมอยากบอกว่า ผมไม่ได้ตั้งใจจะทอดทิ้งเธอ...ผู้หญิงที่ผมรักเธอมากที่สุดในชีวิต” เขาก้าวเดินเข้าไปหาหญิงสาวในชุดราตรียาวสีขาวที่ยังนั่งนิ่งท่ามกลางสายตานับร้อยคู่รวมทั้งคนที่นั่งร่วมโต๊ะต่างก็ประหลาดไปตาม ๆ กัน“ผมอาจจะเคยเป็นทหารกล้าในสนามรบ ผมเคยเจอกับยุทธวิธีการโจมตีหลากหลายรูปแบบโดยไม่นึกกลัว แต่ผมกลับเป็นผู้ชายที่แย่ที่สุดสำหรับผู้หญิงคนหนึ่งที่เธอรักผมและยอมทุ่มเททุกอย่างเพื่อผม ผมปล่อยให้เธอต้องอยู่อย่างเดียวดายหลังจากที่เราจดทะเบียนสมรสกันได้แค่เพียงเดือนเดียว ผมจากเธอมาเพราะภาระหน
“ผมคิดว่าตัวเองตายไปแล้ว ได้ยินเสียงเพื่อนทหารด้วยกันตะโกนลั่น และเมื่อรู้สึกตัวอีกทีผมก็ถูกพามารักษาตัวอย่างเร่งด่วนที่นิวยอร์ค เวลาผ่านไปเกือบปี หลังบาดเจ็บสาหัสจากระเบิดผมต้องรักษาบาดแผลภายนอกที่มันค่อย ๆ สมานตัวและหายไปในที่สุด แต่บาดแผลข้างในบาดลึกและเป็นแผลฉกรรจ์ที่ผมมองไม่เห็น ตอนแรกผมละเลยและคิดว่ามันแค่อาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นกับใครก็ได้ ก็แค่นอนไม่หลับ เห็นภาพเหตุการณ์ระเบิดแบบเลวร้ายซ้ำ ๆ แต่มันไม่ได้มีเพียงแค่นั้น จนกระทั่งผมตัดสินใจที่จะ...เข้ารับการบำบัดอาการป่วยที่มองไม่เห็นที่ศูนย์เพื่อความเป็นเลิศด้านวีรกรรมแห่งชาติในบีเทสดา” พอเขาพูดจบเสียงภายในห้องนั้นก็อื้ออึงขึ้นมา และคนที่ตระหนกต่อคำสารภาพต่อหน้าสาธารณชนนั้นก็คือนิตาที่มองเขาด้วยสีหน้าที่ไม่อยากเชื่อว่าประธานใหญ่แห่งเวสเนอร์จะกล้าพูด“ผมเข้ารับบำบัดอาการป่วยที่นั่นอยู่เกือบปี ผมเดินทางไปบีเทสดาซึ่งในช่วงระยะเวลานั้นผมก็สานต่องานบริษัทของคุณพ่อบุญธรรมไปพร้อม ๆ กันด้วย และนี่คือหลักฐานการเข้าบำบัดของผมที่นั่น มันเป็นการใช้ศิลปะบำบัดเพื่อช่วยให้อาการป่วยภายในที่คนทั่วไปไม่สามารถมองเห็นได้จากภายนอกผ่อนคลายลง” เสียงอ
ทั้งนักธุรกิจ นักการเมืองรวมไปถึงผู้คนในแวดวงสังคมดัง ๆ และหนึ่งในนั้นคือเจ้าของร่างเล็กบอบบางในชุดราตรียาวสีขาวซึ่งนั่งอยู่ท่ามกลางแขกคนสำคัญที่โต๊ะด้านหน้าเวที นิตารู้สึกประหม่า เธอกุมกระเป๋าคลัชต์ใบเล็กไว้ในมือและบีบมันแน่นตลอดเวลาเหมือนหัวใจของเธอตอนนี้ที่ถูกบีบคั้นด้วยความตึงเครียดภายใน เธอหายใจขัดและตื่นเต้น บอดี้การ์ดของคลีฟพาเธอมานั่งที่โต๊ะเลี้ยงรับรองแขกซึ่งอยู่ชิดขอบเวที หญิงสาวเหลือบมองดูเวลาบนหน้าปัดนาฬิกาของบุรุษวัยกลางคนซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ และคิดหาทางที่จะออกจากห้องนี้โดยไม่ให้เป็นที่สังเกตของทั้งเชสและไนเจอร์ กระทั่งเสียงรอบ ๆ ห้องนั้นเงียบสงบลงและเสียงทุ้มห้าวของบุรุษคนสำคัญบนเวทีดังขึ้น นิตาเงยหน้ามองร่างสูงใหญ่ซึ่งเขายืนอยู่หลังไมค์โดยไม่ยอมนั่งที่โต๊ะซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จัดเอาไว้“สวัสดีครับ ท่านสุภาพบุรุษ สุภาพสตรีและแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ผม...คลีฟ เวสเนอร์ ประธานคณะกรรมการผู้บริหารเวสเนอร์ กรุ๊ป มีความยินดีอย่างยิ่งในวันนี้ที่เรียนเชิญทุกท่านมาเป็นเกียรติให้แก่งานแถลงข่าวการเปิดห้างใหม่ของเวสเนอร์ ซึ่งเราจะดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบในอีกสามเดือนข้างหน้า...อาจดูเร็วไป
“ผมเต็มใจเสมอ นิต้า...ขอให้บอกมา ไม่ว่าผมจะอยู่ที่ไหน แค่คุณบอกหรือแค่คิดถึงผมก็ยินดีที่จะตามไปช่วยเหลือคุณ”หญิงสาวเกือบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ หากเธอต้องเข้มแข็ง อย่าให้ลอว์สันจับสังเกตและเห็นความผิดปกติในตอนนี้ เพราะหากเขารู้คลีฟก็จะต้องรู้สิ่งที่เธอคิดด้วย“ฉันขอเข้าไปในงานก่อนนะคะ อีกเดี๋ยวคลีฟคงเดินทางมาถึงแล้ว” “ตามสบายนิต้า แล้วเดี๋ยวผมจะตามไป” ลอว์สันกล่าวด้วยรอยยิ้ม เขามองตามร่างเล็กในชุดราตรียาวแสนสวยเดินเข้าไปในกลุ่มคนที่แทบไม่มีใครสังเกตว่านิตาคือใครและมีหน้าที่อะไรในงานแถลงข่าวใหญ่ครั้งนี้ แม้จะรู้สึกแปลกใจหากลอว์สันก็ไม่ได้เปิดปากถามว่าเหตุใด เธอจึงไม่เดินทางมาที่งานพร้อมสามีของเธอ ชายหนุ่มกำลังจะก้าวตามไปหากก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นใครคนหนึ่งยืนนิ่งอยู่ที่ซุ้มดอกไม้อีกด้านของสถานที่จัดงานซึ่งเต็มไปด้วยแขกเหรื่อมากมาย“ไดแอนดรา” เขาเรียกน้องสาวคนเดียวซึ่งวันนี้เธออยู่ในชุดกระโปรงรัดรูปผ้าทวีดสีชมพูขับผิวขาวของเซเลบสาวให้เปล่งปลั่งหากก็เป็นความงามของเธอตามปกติอยู่แล้ว ไดแอนดราหันมามองพี่ชายของเธอพร้อมรอยยิ้มมุมปากที่สำหรับลอว์สันเขาไม่ได้รู้สึกไปเองว่ามันไม่ใช่รอยยิ้มที่ม
คริสตัลก้าวห่างจากหญิงสาวและโน้มใบหน้าต่ำเพื่อพิศดูความงามบนใบหน้าแสนสวยใต้กรอบเรือนผมสีน้ำตาลที่ถูกมวยไว้ด้านหลัง นิตาเหมือนเทพธิดาผู้งดงามอย่างแท้จริง เขาไล้ปลายนิ้วไปตามสันกรามเล็กของหญิงสาว“บอกแล้วยังไงว่าโครงหน้าของเธอน่ะเป็นโครงหน้าที่ธรรมชาติมากและฉันก็ชอบผู้หญิงหน้าตาแบบนี้ด้วย อยากรู้จังว่าถ้าเธอสวมชุดแต่งงานจะสวยขนาดไหน” คำพูดนั้นทำให้หญิงสาวอึ้งไปชั่วขณะลมหายใจ นิตายิ้มกลบเกลื่อนให้กับความคิดอันแท้จริง...จะไม่มีวันนั้น ไม่มีวันที่เธอจะได้สวมชุดแต่งงานเพื่อเดินเข้าสู่ประตูวิวาห์กับประธานใหญ่แห่งเวสเนอร์ หญิงสาวรู้ดีว่ามันจะเป็นเพียงภาพฝัน เธอจะเก็บมันไว้ การรอคอยในสิ่งที่ไม่มีวันมาถึงชั่วชีวิต“อืม...ดูเหมือนใกล้ถึงเวลาที่ท่านประธานจะมาถึงแล้วนะ เมื่อกี๊ตอนออกไปฉันเห็นนักข่าวกับพวกคนดังในแวดวงธุรกิจและสังคมนิวยอร์คมากันเยอะเลยล่ะ ฉันคิดว่านี่เป็นงานที่สำคัญมากสำหรับท่านประธาน แต่...ถามอะไรหน่อยเถอะนิต้า ทำไมเธอไม่มาพร้อมท่านล่ะ”“คุณก็รู้นะคะคริสตัลว่าฉันน่ะ ไม่ชินกับการที่ต้องอยู่ต่อหน้าคนมาก ๆ...ฉันบอกคลีฟแล้วค่ะว่าอยากดูเขาอยู่ห่าง ๆ อาจจะมุมไหนสักมุมหนึ่งในงาน”“โอเค...
“ฉัน...เอ้อ...”“ผมอยากให้คุณอยู่ที่นั่น นีน่า” คลีฟประคองใบหน้ารูปไข่ไว้ในอุ้งมือทั้งสอง “ผมอยากให้คุณมองเห็นความสำเร็จของผมหลังจากที่ผมสามารถพาเวสเนอร์ กรุ๊ปข้ามผ่านเวลาที่ยากลำบากมาได้ตอนที่คุณพ่อบุญธรรมของผมจากไป...นี่เป็นลมหายใจสุดท้ายของท่าน และผมจะสร้างมันใหม่ให้ยิ่งใหญ่มากกว่าในยุคสมัยที่ท่านทำไว้”“จะไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่เข้าใจ ทุกคนจะต้องคิดว่าเขาผิดปกติ เป็นคนโรคจิตเพราะเคยผ่านวิกฤติเลวร้ายในสงครามมาก่อน ทุกคนจะรังเกียจเขา ไม่อยากอยู่ใกล้ เวสเนอร์ กรุ๊ปต้องย่อยยับเพราะภูมิหลังที่ไม่โสภาของเขา ฉันไม่อยากคิดเลยว่าถ้าหากเรื่องนี้ถูกเปิดเผยให้คนภายนอกได้รับรู้...”เสียงของไดแอนดราก้องขึ้นมาในหูของหญิงสาว มันยังอื้ออึงและกระชากความรู้สึกของนิตาให้ดิ่งลงต่ำ เสียงนั้นราวคมมีดกรีดหัวใจของเธอออกเป็นล้านชิ้น คลีฟกำลังก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดในหน้าที่การงานโดยปราศจากสิ่งใดขวางกั้น แล้วเธอยังจะเห็นแก่ตัวเหนี่ยวรั้งความรุ่งโรจน์ของเขาไว้ในโลกอันน่าเศร้าของตัวเองอย่างนั้นหรือ“คลีฟ...”“ผมรู้ที่รัก...ผมรู้ว่าคุณต้องอยู่ที่นั่น อยู่เคียงข้างผม เพราะคุณสัญญาแล้วว่าคุณจะไม่จากผมไปไหนอีก อย่า
“นี่เป็นตั๋วเครื่องบินกลับเมืองไทยพร้อมด้วยเงินสดหนึ่งแสนเหรียญ เป็นเงินส่วนตัวของฉันที่คิดว่าเธอจะเก็บมันไว้ใช้ได้อย่างเหลือเฟือที่เมืองไทย ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเครื่องจะออกจากสนามบินนิวยอร์คคืนพรุ่งนี้ตอนสองทุ่ม ฉันคิดว่าเธอทำถูกแล้วกับการแลกชีวิตของเธอเพื่ออนาคตของคนที่เธอรักด้วยการ...เดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ...นิต้า” ไดแอนดราหยิบกระเป๋าคลัชต์ของเธอก่อนลุกขึ้นเดินออกไปจากที่นั้นปล่อยให้นิตานั่งนิ่งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบงันหากทว่าข้างในของเธอกลับอึงอนไปด้วยเสียงแห่งความเจ็บช้ำซึ่งไม่มีวันที่ใครจะได้ยิน ไปจากเขา...เพื่อให้คลีฟมีชีวิตอยู่อย่างปกติสุขได้ในสังคม...ไดแอนดราบีบบังคับเธอเป็นครั้งที่สอง หากแต่ครั้งนี้ผู้หญิงคนนั้นได้ยื่นข้อเสนอที่เธออาจปฏิเสธได้ยากยิ่ง หาใช่จำนวนเงินในเช็คใบนี้ แต่เป็นชีวิตของผู้ชายที่เธอรักมากที่สุด นิตารู้สึกหนักอึ้งราวแบกโลกไว้ทั้งโลกบนบ่าเล็ก ๆ ...หรือนี่คือสิ่งที่เธอควรตัดสินใจ ไปจากชีวิตของคลีฟแลกกับการที่เขาจะได้มีชีวิตอย่างคนปกติทั่วไป มันอาจทำให้เขามีความสุขจริง ๆ อย่างที่ไดแอนดราพูดก็เป็นได้ นิตาหยิบซองกระดาษสีขาวบนโต๊ะขึ้นมากุมไว้ เธอ