บทที่ 24...“คุณราชันย์เอายัยหนูมาให้ฉันอุ้มก็ได้นะคะ คุณจะได้ทานข้าวถนัด”“คุณนั่นแหละ เอาตาหนูมาให้ผมอุ้มแล้วคุณก็ไปทานข้าว”“ถ้าฉันให้คุณอุ้ม แล้วคุณอุ้มไหวแน่หรอคะ”“ต้องได้สิ”“งั้นเราก็อุ้มกันคนละคนแบบนี้แหละค่ะ คุณราชันย์ทานได้ใช่ไหม”“ได้สิ คุณทานเถอะไม่ต้องห่วงผม”เว่ยเอินที่เห็นทั้งคู่คุยกันก็ใจชื้นขึ้นมาหนึ่งเปาะ เธออยู่กับกอหญ้ามานาน พอจะรู้นิสัยใจคอ กอหญ้าเป็นผู้หญิงที่เด็ดเดี่ยว แต่ก็ใจอ่อนเช่นเดียวกัน เธอเองก็ลุ้นว่าทั้งคู่จะสามารถสร้างครอบครัวด้วยกันได้ไหม แต่อีกใจก็เป็นห่วงผู้ชายอีกคนที่เฝ้าดูแลกอหญ้ามาตลอดเช่นกันยังไม่ทันที่ความกังวลจะหมดลง ปอร์เช่ก็เดินเข้ามาพอดี เว่ยเอินหันไปยิ้มหวานให้ แววตาของเว่ยเอินที่จับจ้องที่ปอร์เช่นั้นก็นิ่งไปเพราะเธอเห็นความเสียใจที่ออกมาผ่านดวงตาของผู้ชายคนนั้น“พี่ปอร์เช่ทานข้าวค่ะ นั่งเลย ๆ เดี๋ยวเว่ยเอินตักข้าวให้”“โอเค”ปอร์เช่นั่งมองกอหญ้ากับราชันย์ที่ตั้งหน้าตั้งตาทานข้าว แต่เหมือนหลานของเขาจะไม่เอื้ออำนวยสักเท่าไหร่ ข้าวเข้าปากกอหญ้าได้ไม่กี่คำอาร์เดนก็ร้องไห้งอแงขึ้นมา เมื่อได้ยินเสียงอาร์เดนร้อง อลิซเองก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน เล่
“ก็เป็นธรรมดา”“ธรรมดาตรงไหน ที่ได้ยินมาคุณราชันย์ไม่น่าจะใช่คนที่หนุบหนับแบบนี้เลยนี่นา”“ฉันก็คิดเหมือนเธอแหละยัยเปี๊ยก ราชันย์มันไม่น่าจะเป็นคนแบบนี้ แต่ก็นะ อย่างที่เห็น”ทั้งสองคนที่ยืนดูราชันย์ที่กำลังง่วนอยู่กับการซักเสื้อผ้าตัวเล็ก ๆ นั่น ถึงแม้ว่าเสื้อผ้าจะถูกปั่นอย่างอัตโนมัติไปหมดแล้ว แต่ราชันย์ก็ยังไม่ยอมออกห่างจากตรงนั้น ยังคงยืนมองผ้านในตู้ปั่นที่หมุนทำงานไปตามการตั้งค่าเท่านั้น“เว่ยเอิน มันหยุดแล้วต้องทำยังไงต่อ”“คุณราชันย์เอาออกจากตู้นั้นทั้งหมด มาใส่ตู้นี้ค่ะ”“เรียบร้อย แล้วยังไงต่อ”“ปิดฝา แล้วกดตรงนี้ เสร็จแล้วกดนี่ แล้วรอเหมือนเดิมค่ะ”“แบบนี้หรอ แล้วก็แบบนี้ โอ๊ะ! เครื่องหมุนแล้ว”“มันยุ่งยากใช่ไหมคะ ครั้งหน้าให้เว่ยเอินทำให้ดีกว่าค่ะ”“ไม่เห็นจะยุ่งยากตรงไหน...แล้วอีกอย่าง จะแทนตัวเองว่าหนูเหมือนที่คุยกับกอหญ้าก็ได้นะ”“ได้หรอคะ คุณราชันย์ไม่ถือใช่ไหมคะ”“อืม”ดวงตาที่หนักอึ้งของกอหญ้า ถูกเปิดขึ้นมาก็ต้องตกใจ เพราะล่าสุดจำได้ว่าลูกชายยังกินนมเธออยู่ข้าง ๆ แต่ก็ต้องแปลกใจอีกครั้งเมื่อเธอเห็นผ้านวมผืนหนา ที่คลุมร่างกายเธอไว้ หันไปมองที่เตียงเล็ก ก็เห็นเด็ก ๆ นอน
บทที่ 25...“มาเฟียอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย ถ้ามีคนปล่อยภาพนี้ออกไปจะเหลือความน่ากลัวมั้ยนะ”“ให้มันน้อย ๆ หน่อยไอ้ธัน”“ครับ กลัวแล้วครับ”“แล้วงานที่ให้ไปทำ ถึงไหนแล้ว”“เรื่องจริงที่มันส่งคนมาที่ไต้หวัน”“แล้วมึงปล่อยมันไปทำไม”“กูให้คนที่นี่จับตาดูอยู่ แต่ว่านะห่วงแต่เรื่องเมีย โปรเจกต์ของคุณมาคัสนี่จะเอาไงต่อ”“อีกสักเดือนสองเดือนกูว่าจะกลับไทย ช่วงนี้ฝากมังกรดูไปก่อน”“ถ้ามันง่ายแบบนั้นกูจะไม่มาถามมึงเลยเอาจริง ๆ”“ทำไม ที่บริษัทมีเรื่องอะไร”“ตอนนี้มีคนเสนอข้อเสนอพิเศษกับคุณมาคัส เพื่อตัดหน้าบริษัทเรา”“หมายความว่าไงก็คุณมาคัสรับข้อเสนอเราแล้วนิ”“ในวงการใครบ้างไม่รู้จักมาคัส นักหักหลังเหลี่ยมทุกดอก”“ใครที่ยื่นข้อเสนอ”“บริษัทยักษ์ใหญ่จากดูไบ”“ดูไบ?”“อืม แบบที่มึงคิดนั่นแหละ”“หมายความว่าไง มันส่งคนสืบประวัติกูหรอ”“ใช่ แล้วตอนนี้มันรู้แล้วว่าลูกสาวนายพล คือเมียมึง”“.…”“จะเอาไงต่อละครับคุณราชันย์”“กูเป็นห่วงกอหญ้ากับลูก ไอ้คนที่ตื๊อเมียกูก็กลับไทยไปแล้วด้วย”“มึงเห็นกูไร้น้ำยาขนาดนั้นเลยหรอวะราชันย์”“มึงได้ไร้น้ำยา แต่ถ้ามันรู้ว่ากอหญ้าอยู่ที่นี่ ยัยเปี๊ยกของมึงก็อาจจะโด
เขาอุ้มเด็กน้อยพาดบ่า และอีกมือหนึ่งใช้ดันรถเข็นที่มีลูกสาวนอนหลับอยู่ เข้ามาในบ้าน เว่ยเอินที่ได้ยินเสียงตาหนูร้องก็รีบวิ่งหน้าตั้งมาหาราชันย์“คุณหนูเป็นอะไรคะคุณราชันย์”“ฉันก็ไม่รู้ นอนอยู่ดี ๆ ตื่นมาก็ร้องเอา ๆ นมก็ไม่ยอมกิน เธอดูยัยหนูให้ทีนะ จะพาตาหนูไปหากอหญ้า”“ได้ค่ะ ๆ คุณราชันย์รีบไปเถอะค่ะ”เขาหยิบผ้าและขวดนมแบบลวก ๆ แล้วอุ้มลูกชายเดินก้าวขายาว ๆ ออกจากบ้านทันที กอหญ้าบอกว่าจะไปดูดอกไม้ที่ตลาด เดิมทีเขาจะไปด้วย แต่เธอบอกอยากสูดอากาศ แต่ต้องมีคนดูลูกแฝด จะให้เว่ยเอินดูคนเดียวก็เกรงว่าจะไม่ไหว เขาจะไปเองกอหญ้าก็บอกว่ากลัวไม่ถูกใจ เขาจึงต้องรับบทพ่อบ้านเลี้ยงลูกไปโดยปริยายเขาเดินตรงลงมาไม่นานมากนักก็ถึงตลาดริมทะเลสาบ มองซ้าย มองขวาหาผู้หญิงร่างเล็กที่คุ้นตา แต่ก็ไร้วี่แววของเธอแอ๊!ลูกชายก็ไม่มีท่าทีจะหยุดร้อง เขาเดินเข้ามาในตลาดได้ครึ่งทาง ก็เห็นร่างเล็ก ๆ ที่คุ้นตาของคนที่ขึ้นชื่อว่าเมีย กำลังยืนเลือกต้นไม้อยู่ เขาปรี่เข้าไปหาเธอทันที กอหญ้าที่ได้ยินเสียงเด็กร้องก็หันมาด้วยความไว ใบหน้าของเธอตกใจอย่างเห็นได้ชัดที่เห็นราชันย์ เดินหน้าตั้งด้วยใบหน้าเหลอหลาเข้าไปหาเธอ“ตาหนู
บทที่ 26...3 สัปดาห์ผ่านไปทุกคนย้ายเข้าบ้านกลางทะเลสาบเป็นที่เรียบร้อย บ้านหลังนี้ถูกสร้างขึ้นราวกับรู้ว่าเจ้าของจะคือเธอ การจัดแปลนบ้านรวมถึงห้องหับต่าง ๆ เป็นที่ถูกใจเธอไปเสียทุกจุด บ้านหลังนี้อาจจะไม่ใหญ่มาก แต่ก็กว้างกว่าหลังก่อนหน้านี้สองเท่าได้ ด้านหน้ามองเห็นเป็นเส้นทางที่ออกไปสู่ถนน ด้านซ้าย ด้านหลัง และด้านขวา มองเห็นทะเลสาบสุดลูกหูลูกตา“กอหญ้าผมขุนต้นกุหลาบที่บ้านเก่ามาครบหมดแล้ว คุณจะให้ปลูกที่ไหน”“ฉันจะลงหลังบ้าน คุณราชันย์ช่วยขนไปหลังบ้านให้หน่อยได้ไหมคะ”“ได้ครับ”ราชันย์ไม่รอช้า จัดการขนต้นกุหลาบทั้งหมดไปไว้ที่หลังบ้าน เมื่อขนมาถึงเขาสังเกตว่าพื้นที่ไม่ค่อยน่าจะเหมาะกับการปลูกกุหลาบสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่อยากทำให้กอหญ้าไม่พอใจ เขาจัดการนำกุหลาบทั้งหมดลงจากรถขนคันน้อยทีละต้นช้า ๆ ราวกับกลัวว่ามันจะบอบช้ำ กุหลาบทุกต้นกำลังออกดอกสะพรั่งสวยงาม ส่งกลิ่นหอมออกมาเย้ายวนแมลง ผ่านไปพักใหญ่ ๆ ต้นสุดท้ายก็ถูกวางลงด้านล่างอย่างเบามือ“ทำไมฉันรู้สึกว่าพื้นที่ไม่ค่อยเหมาะกับการปลูกดอกไม้นะ คุณราชันย์คิดว่าไงคะ”“ผมก็คิดว่าไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ ถ้าเป็นไม้ยืนต้นน่าจะเหมาะกว่า”“กอหญ้า
“ก็แล้วทำไมคุณไม่ไปนอนดี ๆ ที่ห้องละคะ”“ผมไม่มีห้องหรอก ผมจะนอนโซฟาในห้องคุณ”“คุณจะไปนอนที่โซฟาอีกทำไม บ้านหลังนี้ห้องเยอะแยะคุณก็ไปเลือกสักห้องสิคะ”“ไม่เอา เผื่อคุณจะเรียกใช้ผมตอนกลางคืน เผื่อลูกร้อง เผื่อคุณไม่สบาย ผมจะได้ดูแลคุณกับลูกได้ทัน”กอหญ้าที่เห็นดังนั้นก็ไม่ได้ต่อความยาวสาวความยืด เพราะรู้แน่ชัดว่าไล่ยังไงราชันย์ก็ไม่ยอมลุกไปแน่ เธอจึงปล่อยให้เขานอนแบบนั้นแบบเลยตามเลย ราชันย์เองก็ไม่เห็นว่ากอหญ้าจะผลักไสไล่ส่งก็ขยับท่านอนให้ถนัด เปลือกตาที่หนักอึ้งค่อย ๆ ปิดลงช้า ๆ“มีคนตามหาตัวฉัน เพราะเรื่องพ่อของฉันอยู่ใช่ไหมคะ”“หืม!?”“กอหญ้าได้ยินคุณคุยกับคุณธันวา”“ไม่มีอะไรหรอก เรื่องนี้ผมจัดการได้”“แต่ฉันทำให้คุณเดือดร้อน”“ถ้ากังวลว่าจะเป็นต้นเหตุให้ผมเดือดร้อน งั้นคุณก็มาแต่งงานกับผมสิ ผมจะได้ดูแลคุณได้สะดวกกว่านี้”“คุณราชันย์ คุณจะเห็นเป็นเรื่องเล่น ๆ ไปถึงไหนคะ”“ผมพูดจริงนะกอหญ้า ลูกก็มีด้วยกันแล้ว งั้นเรามาแต่งงานกันเถอะ”“...”“ผมไม่ได้เร่งเอาคำตอบหรอกนะ แต่เรื่องนี้ผมคิดมาดีแล้ว”“ไม่ค่ะ”“...”“กอหญ้าจะไม่แต่งงานกับคุณค่ะ”“ทำไมละ”“กอหญ้าขอโทษนะคะคุณราชันย์ ที่ทำให้
บทที่ 27...ถึงแม้ราชันย์จะไม่อยากห่างลูกห่างเมีย แต่หน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เมื่อคืนนี้เขาได้รับโทรศัพท์จากมังกร ซึ่งติดต่อเข้ามาเรื่องของมาคัส และครั้งนี้เขาคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ มังกรเป็นพี่ชายที่เก่งและฉลาด แต่อย่างว่านะ คนเราเก่งและถนัดไม่เหมือนกัน รายนั้นถ้าเรื่องเกี่ยวกับเกษตรและการแปรรูป เชื่อได้เลยว่ามังกรไม่เคยแพ้ใคร“ดูแลลูกเมียฉันให้ดี”“เออ รู้แล้ว”“ฝากกอหญ้ากับเจ้าแฝดด้วยนะไอ้ธัน”“คิดว่าใช้เวลาเท่าไหร่”“คิดว่าน่าจะห้าถึงหกเดือน”“อืม หลานกับกอหญ้ากูดูแลให้เอง”เขาตบไหล่ธันวาสองสามทีเป็นการขอบคุณ เท้าที่ก้าวยาว ๆ เดินตรงดิ่งเข้ามาในห้อง ก็เห็นเว่ยเอินกำลังตั้งหน้าตั้งตาเรียนภาษาไทยอยู่ เธอแหงนหน้ามามองราชันย์และส่งยิ้มทักทายเล็กน้อย ก่อนจะก้มลงไปศึกษาตำราในหน้าหนังสือต่อราชันย์เดินไปที่เตียงเล็กที่มีเด็กน้อยสองคนกำลังนอนหลับตาพริ้ม แก้มยุ้ย ๆ ของทั้งสองคนดึงดูดให้ผู้เป็นพ่อก้มหน้าลงไปขโมยหอมแก้มคนละฟอดสองฟอดฟืดดดดด!ฟืดดดดด!เว่ยเอินละสายตาจากหนังสือมามองราชันย์อีกครั้ง มันคงเป็นภาพที่ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้เห็น มาเฟียที่เธอเคยได้ยินมานานเกือบ
บทที่ 28...แสงแดดอ่อน ๆ ลอดผ่านผ้าม่านสีเทาผืนหนาตามแรงของเครื่องปรับอากาศที่ถูกเปิดจนเย็นฉ่ำ แต่ใบหน้าของผู้ที่อยู่บนเตียงขนาดคิงไซต์กลับมีแต่เหงื่อเม็ดโตเต็มกรอบหน้า ราชันย์นอนตัวสั่นอยู่ในผ้าห่มผืนหนา ที่เขาพยายามซุกตัวเข้าไปให้ได้มากที่สุด และมีแค่ใบหน้าและศีรษะเท่านั้นที่โผล่พ้นผ้านวมผืนนั้นออกมาเขาหลับตานอนอยู่ในผ้าห่มอย่างไม่สะทกสะท้าน ใบหน้าเริ่มรื้นสีแดงระเรื่อขึ้นเรื่อย ๆ แต่คนที่อยู่ใต้ผ้านั้นกลับรู้สึกว่าอากาศช่างหนาวมากนัก เปลือกตาที่แสบร้อนและหนักอึ้งเปิดออกอย่างเชื่องช้า เขาความหารีโมตมาเบาเครื่องปรับอากาศ และโยนมันทิ้งอย่างไม่ไยดี และตอนนี้เขายังมีอาการมีนหัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ราชันย์ไม่ได้สนใจอาการทั่วไปของตัวเองมาหนัก เขาเปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งนั้นอีกครั้ง เอื้อมมือหยิบมาถือมาเปิดหน้าจอแชต ไม่มีข้อความจากคนที่เขารอ แต่นั่นก็ไม่อาจทำให้เขาน้อยใจหรืออะไรได้ ราชันย์กดพิมข้อความหากอหญ้าสามสี่ประโยค และเขายังคงรอการตอบกลับของเธอ ผ่านไปไม่นานนักหน้าจอก็แสดงสถานะว่าปลายทางนั้นอ่านแล้วราชันย์ยังคงรอว่าเธอจะตอบว่าอะไร แต่จนแล้วจนรอดก็มีแค่หน้าจอที่แสดงว่าเธออ่านแล้วเท่
กอหญ้าคลานขึ้นมาบนเตียงที่มีราชันย์นอนหน้ามุ่ยคอหักดั่งปลาทูแม่กลอง ก่อนจะมุดเข้าไปในผ้านวมผืนหนา มือเล็กลูบไล้ขาแกร่งของราชันย์อย่างเบามือ รับรู้ได้ว่าราชันย์เองก็เกร็งขาเป็นระยะ แต่ยังทำท่าทีไม่สนใจเมียเหมือนเดิมมือเล็กของกอหญ้าเลื่อนไปปลดเข็มขัดของเขาออก ปลดกระดุมกางเกงช้า ๆ รูดซิปออกก่อนจะดึงกางเกงของผู้ชายใต้ร่างของเธอออกอย่างง่ายดาย เหลือเพียงกางเกงในสีขาวแบรนด์ดังที่บัดนี้ปิดเจ้าโลกไว้ไม่มิดด้วยซ้ำ ราชันย์น้อยที่หัวเห็ดขนาดใหญ่โผล่พ้นออกมาจากขอบกางเกงใน ผงกหัวราวกับกำลังเชิญชวนให้เธอมาทำมิดีมิร้าย แต่เจ้าตัวกลับยังทำหน้ามุ่ยไม่สนใจ เพียงแค่ปลายนิ้วชี้ของเธอกระตุกทั้งกางเกงนอกกางเกงในของราชันย์ก็ถูกถอดออกโยนไปกองที่พื้นโดยที่ได้รับการช่วยเหลืออย่างไม่ขัดแม้แต่น้อยของเขามือเล็กของเธอกำเข้ากับเจ้าโลกที่ขยายเต็มที่ หัวเห็ดบานยั่วเย้าเหล่าแมลงมีน้ำหวานผุดออกมาจากปลายหัวเห็ดให้นิ้วชี้ของกอหญ้าได้ไล้วน สร้างความเสียวซ่านกระตุกถี่ กอหญ้าใช้ลิ้นอุ่น ๆ ไล้เลียไปที่หัวเห็ดบานจนทั่วยิ่งเธอวนรอบหัวมากเท่าไหร่ น้ำหวานที่ไหลเยิ้มก็ยิ่งผลิตออกมามากเท่านั้น ไล้เลียรอบหัวจนพอใจลิ้นของเธอก็ค่อย
“ค่ะเฮีย หญ้าได้ยินแล้ว เฮียดีใจเสียงดังไปแล้วค่ะ”“คุณแม่ฝากครรภ์เลยไหมคะ”“ฝากเลยค่ะ”“ได้เลยค่ะ”คนที่ดูจะตื่นเต้นสุดเหมือนจะเป็นผู้ชายข้าง ๆ มากกว่าเธอเสียอีก กอหญ้าที่เห็นราชันย์ดีใจมากก็ทำให้เธอยิ้มออกมาอย่างดีใจ เธอเองก็ไม่เคยคิดมาก่อน ว่าเด็กผู้หญิงที่ครอบครัวล้มละลาย จะได้มีครอบครัวที่มีความสุขขนาดนี้ ผู้ชายที่ครั้งหนึ่งเธอเคยคิดแต่จะรีบให้หมดเวลาสัญญา ผู้ชายที่ครั้งหนึ่งเธอตกหลุมรักเขาโดยที่รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่แม้แต่จะชายตามอง ผู้ชายที่เธอไม่คิดว่าวันหนึ่งจะมายืนเคียงข้างเธอเป็นครอบครัวของเธอจริง ๆ“เฮีย”“ว่าไงจ๊ะเมียจ๋า”“หญ้ารักเฮียนะ”“เฮียก็รักหญ้า รักมาก ๆ รักที่สุดเลย”“แต่หญ้าเหม็นหน้าเฮียมากนะ”“…”“หญ้าว่าจนกว่าจะคลอด อยากให้เฮียอยู่ห่าง ๆ หญ้าหน่อยจะได้ไหมคะ”“แต่เฮียอะ..อยากอยู่กับหญ้าตลอดเวลาเลยจริง ๆ นะ”“อะแห่ม! เดี๋ยวเรื่องนั้นยังไงค่อยกลับไปตกลงกันเนอะ แต่ตอนนี้เรามาทำประวัติฝากครรภ์กันก่อนดีกว่าน๊า”ถึงแม้คุณหมอจะพูดแบบนั้น แต่แก้มหมอกลับยิ้มไม่หุบเมื่อเห็นความมุ้งมิ้งของสองสามีภรรยานี้ ยิ่งทำให้หมอยิ้มแก้มแทบปริ กอหญ้าเองก็ลืมตัวว่ายังอยู่ที่โรงพยาบาล ทำ
กอหญ้าไม่ได้พูดเล่น แต่เธอรู้สึกว่าราชันย์นั้นมีกลิ่นตัวที่ผิดจากปกติ เป็นกลิ่นที่เตะจมูกแบบแปลกกว่าที่ผ่านมา ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ยังคงใช้แชมพูกลิ่นเดิม ครีมอาบน้ำกลิ่นเดิม และน้ำหอมก็ยังคงกลิ่นเดิม แต่สองสามวันมานี้เวลาเจอราชันย์กลับมีกลิ่นที่แปลกไป แต่เธอไม่กล้าพอที่จะบอกกับเขา กลัวว่าผู้เป็นสามีของตนจะน้อยใจแต่พอยิ่งเห็นเขา อาการเหม็นกลิ่นตัวเขาก็ยิ่งจุกในอกมากขึ้นจนบางครั้ง ก็อยากที่จะเดินหนีเขาให้พ้น ๆ ต่างกันกับราชันย์ที่มีความต้องการที่อยากจะคลอเคลียนัวเนียกับผู้เป็นภรรยาตลอดเวลา อยากอยู่ใกล้อยากเห็นหน้าตลอดเวลา อยากจะไปไหนมาไหนทำอะไรด้วย เขารู้สึกว่ากลิ่นกายของกอหญ้าหอมเป็นพิเศษ และเป็นสิ่งเดียวที่เขาไม่รู้สึกคลื่นไส้เวลาพบเจอและเพียงแค่เขาออดอ้อนเมียได้ไม่นานนัก ความมวนท้องก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับความรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกที่คอ ยังไม่ทันที่จะได้เดินออกจากหน้าห้องน้ำ ราชันย์ก็หันหลังตรงดิ่งเจ้าไปกอดคอชักโครกสุดที่รักเช่นเดิม กอหญ้าเองถึงแม้จะเห็นความทรมานของราชันย์ก็เถอะ แต่พอเธอจะก้าวขาเข้าไปลูบหลังก็ต้องชะงัก เพราะเมื่อเห็นหน้าราชันย์เธอเองกลับรู้สึกคลื่นไส้มาเสียอย่างนั้น
พิเศษ ตอนที่ 3...“หม่ำ หม่ำ”เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กน้อยวัยหนึ่งขวบเศษ ที่กำลังนั่งเก้าอี้รอกินข้าวอย่างใจจดใจจ่อ โดยที่เก้าอี้ข้างกันนั้นยังมีเด็กชายพี่น้องฝาแฝดที่ทำหน้านิ่งมองหน้าอลิซที มองหน้าผู้เป็นพ่อที และเด็กน้อยก็รอเพียงไม่นานผู้เป็นแม่อย่างกอหญ้าก็เดินมาพร้อมกับอาหารสีสันสดใสน่ารับประทานนำมาวางไว้ที่เก้าอี้ ส่งผลให้เด็กน้อยอารมณ์ดีอย่างอลิซปรบมือดีใจยกใหญ่“หม่ำ หม่ำ”“โอเค ข้าวมาแล้วลูกสาวป๊าจะได้กินข้าวแล้ว”“อาร์เดนหิวข้าวมั้ยลูก”“…”ไม่มีเสียงตอบรับจากลูกชายของเธอมีเพียงตาตาที่ดุราวกับเสือร้ายที่จดจ้องมองไปที่จานข้าวอย่างไม่ละสายตา ดูท่าทางแล้วเขาจะได้ลูกชายที่ค่อนข้างเงียบมากมาคนหนึ่งแน่นอน กอหญ้าไม่ลีลาให้ลูกต้องรอนาน เธอส่งสัญญาณให้ราชันย์เริ่มป้อนข้าวลูกได้ ถึงแม้อาร์เดนจะมีท่าทีไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่ แต่พอเธอป้อนข้าวให้ก็ไม่มีท่าทีว่าจะไม่ทาน ผ่านไปเพียงไม่นานข้าวผัดสีสันสดใสก็หมดเกลี้ยงจานทั้งคู่ สร้างความพึงพอใจให้กับผู้เป็นแม่เป็นอย่างมาก“หม่ำ”และยังคงเป็นเช่นนี้ อาร์เดนจะส่งเสียงร้องขอก็ต่อเมื่อเห็นจานผลไม้เท่านั้น ครั้งนี้ก็เช่นกัน ลูกชายของเขาแลดูจะชอบผลไม
“ยังเลย”“ทำไมเธอดูตื่นเต้นขนาดนี้”“ทำอย่างกับนายไม่ตื่นเต้น”“ก็ไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่นะ”เพียงไม่นานประตูห้องคลอดก็ถูกเปิดออกโดยมีกลุ่มคุณหมอเดินออกมาสามสี่คน ทั้งคู่รีบวิ่งเข้าไปหาคุณหมอทันที“คุณหมอคะ คนไข้ที่เพิ่งเข้าไปเป็นยังไงบ้างคะ คลอดหรือยังคะ”“คุณแม่ยังไม่คลอดนะคะ ปากมดลูกยังไม่เปิด”“เธอเป็นยังไงบ้างคะ”“ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วค่ะ แต่เบื้องต้นอายุครรภ์ยังไม่ถึงกำหนด คลอดออกมาเด็ก ๆ อาจจะต้องเข้าตู้อบก่อนนะคะ”“ขอบคุณมากค่ะ”เวลาผ่านไปเกือบสามชั่วโมงก็ไม่มีท่าทีว่าเธอจะคลอด ทั้งธันวาและเว่ยเอินเองก็สลับกันลุกนั่ง วนอยู่หน้าห้องคลอด และไม่มีท่าทีจะคลอดง่าย ๆ ยิ่งทำให้เว่ยอินและธันวารู้สึกกังวลเพิ่มขึ้น“ไอ้ธัน”“มาสักที”“กอหญ้าเป็นไงบ้าง นานแล้วนะยังไม่คลอดอีกหรอ”“ยังเลย”“คุณเป็นใครคะ”“อ่อ..คนนี้เว่ยเอินที่เคยเล่าให้ฟัง..ส่วนนี่ราชันย์”“สวัสดีครับ”ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้ทำความรู้จักกัน ก็มีกลุ่มคุณหมอสามสี่คนรีบวิ่งมาที่หน้าห้องคลอด ทำให้ราชันย์เองก็ตกใจไปด้วยเขาคว้าข้อมือของหมอผู้ชายคนหนึ่งเอาไว้“เกิดอะไรขึ้นครับ”“คุณแม่มีภาวะครรภ์เป็นพิษครับ หมอขอตัวก่อนนะคร
เขาอุ้มกอหญ้าและเดินช้าๆ ให้เข้าไปนั่งรอในรถ ทางด้านเว่ยเอินเองเธอก็รีบวิ่งมาหอบหิ้วข้าวของอย่างพะรุงพะรังเข้าไปยัดไว้ในรถเช่นเดียวกัน ก่อนที่เธอกระโดดขึ้นรถด้วยความเร็วแสง เคาะเบาะรถเบา ๆ ให้ธันวานั้นขับรถออกไปอย่างรวดเร็วปลายทางคือโรงพยาบาล ถึงแม้โรงพยาบาลจะอยู่ไม่ไกลมากนักแต่ช่วงเวลานี้ รถบนท้องถนนย่อมมีมากกว่าปกติเพราะเป็นช่วงเวลาทำงานพอดีนั่นจึงทำให้รถของเขาที่กำลังจะมุ่งหน้าสู่โรงพยาบาลนั้นเกิดการล่าช้าอย่างช่วยไม่ได้ ธันวาที่พยายามเหยียบคันเร่งรถอย่างเต็มที่เพื่อให้ไปถึงโรงพยาบาลอย่างเร็วที่สุด ก็ต้องฟันฝ่ากับอุปสรรคบนท้องถนน คนข้างๆ เขาเองก็ต้องฝ่าอุปสรรคความเจ็บปวดที่รู้สึกได้เลยว่ามดลูกกำลังบีบตัวลง และเวลาต่อมาก็ยิ่งทำให้เธอตกใจเข้าไปอีก เมื่อเธอรู้สึกว่าเบาะที่เธอนั่งนั้นตอนนี้เปียกชุ่มไปด้วยน้ำที่เธอเองก็ไม่รู้ว่ามาจากไหน จะบอกว่าเธอฉี่แตกก็ไม่น่าจะใช่ เธอไม่รู้สึกเลยว่ามันไหลออกมาตอนไหน เมื่อรู้ตัวอีกทีมันก็เปียกชุ่มไปหมดแล้ว"น้ำเปียกเบาะหมดแล้ว""ห๊ะ! เดี๋ยวนะอย่าเพิ่งคลอดนะ บนรถอันตราย""คุณธันวาขับเร็วกว่านี้ได้ไหม เห็นไหมพี่หญ้าหน้าซีดหมดแล้ว""ฉันก็กำลังรีบอยู่"ใ
พิเศษ ตอนที่ 2 | เจ้าแฝดของป๊ามาเฟีย...ในฤดูหนาวของช่วงปลายปี อากาศยามเช้าที่สดชื่นเป็นพิเศษ หลังจากที่เมื่อคืนได้ผ่านพายุหิมะที่ถล่มจนแทบมองไม่เห็นพื้น ต้อนรับยามเช้าที่สดใสด้วยดอกกุหลาบ และดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ที่หญิงสาวได้ลงมือลงแรงปลูกเองกับมือ กำลังบานสะพรั่งต้อนรับแสงตะวัน แม้กลีบดอก กลีบใบบางส่วนจะยังคงถูกปกคลุมด้วยเกล็ดหิมะบางจุดอยู่บ้างก็ตาม แต่ก็มิสามารถปกปิดความงามของดอกไม้ไว้ได้ลมจากทะเลสาบที่ขยันจะพัดโชยตลอดเวลา กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของทะเลลอยเข้ามาแตะจมูก สร้างความสดชื่นให้กับผู้คนที่อยู่ละแวกนั้น ในห้องนอนของหญิงสาวที่อายุครรภ์ใกล้ครบกำหนดคลอดเข้ามาทุกที กำลังนั่งพับเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้เตรียมคลอด พร้อมกับทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่างมองดอกไม้ที่อยู่ด้านนอกอย่างสบายอารมณ์ ความสวยงามของธรรมชาติที่เธอบรรจงสร้างขึ้น ถือเป็นความสบายใจของเธอเป็นอย่างมาก ทางด้านของธันวาเองก็ยังคงรายงานสถานการณ์ให้กับราชันย์ทราบอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ราวกับว่าราชันย์เองยืนอยู่ในเหตุการณ์นั้น ๆ ด้วยอย่างไรอย่างนั้น ทางด้านของเด็กสาวอารมณ์ดีอย่างเว่ยเอินก็นั่งนับนอนนับวันรอแล้วรอเล่า ตั
“...”“คุณราชันย์ขา เรามาต่อกันดีกว่าค่ะ อย่าแกล้งมาหยาแบบนี้สิคะ”“ใส่เสื้อผ้าแล้วออกไป”“คะ?”“ฉันบอกว่าให้ใส่เสื้อผ้าแล้วออกไป”“คุณจะมาทำแบบนี้กับมาหยาไม่ได้นะคะ!!”กริ๊ก!ราชันย์ที่ได้ยินเสียงประตูหน้าห้องด้านนอกถูกเปิดออก และคนที่จะมาคงไม่พ้นผู้หญิงที่ทำให้เขาหงุดหงิดจนถึงตอนนี้ เขามองสภาพห้องนอนที่บัดนี้มีเสื้อผ้ากระจัดกระจายไปทั่วห้อง“ใส่เสื้อผ้าซะ”ราชันย์ไม่ได้พูดอะไรมากมาย แต่น้ำเสียงแสดงออกได้ถึงความหงุดหงิด มาหยาที่ยังมึนงงกับการกระทำของเขาและถูกราชันย์ทิ้งกลางอากาศก็ยิ่งทำให้หงุดหงิด แต่ก็ยอมไปเก็บเสื้อผ้าขึ้นมาสวมอย่างลวก ๆ“พี่พราว”“…..”“พี่พราวหรือเปล่าคะ”“…..”เธอได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเรียกชื่อใครสักคนที่ไม่เคยได้ยิน เธอหันมาค้อนตามองราชันย์อย่างขอความเห็นว่าเธอควรทำอะไร แต่ราชันย์เองก็ไม่ได้สะทกสะท้านหรือมีท่าทีจะสนใจทั้งตัวเธอหรือเสียงด้านนอก เธอจึงสวมเสื้อผ้าที่เก็บมาสวมอย่างลวก ๆ กระฟัดกระเฟียดออกจากห้องไปอย่างไม่สบอารมณ์“แกเป็นใคร เข้ามาในห้องราชันย์ได้ยังไง”“คุณต่างหาก เป็นใครคะ”“แกก็ถามแปลก ฉันเดินออกมาจากห้องนอนราชันย์ ก็ต้องเป็นแฟนราชันย์อยู่แ
เธองัดมารยาหญิงที่มีออกมาสุดฤทธิ์เพื่อที่จะปลุกอารมณ์ของผู้ชายเบื้องหน้า เขาเองก็ไม่ให้เธอต้องรอนาน ราชันย์เดินตรงมาหาเธอที่นอนแผ่หลารออยู่บนเตียงอย่างไม่รีบร้อนร่างกายที่กำยำของเขาค่อย ๆ โน้มลงไปคร่อมเธอเอาไว้ ผ้าเช็ดตัวผืนน้อยที่จะหลุดแหล่มิหลุดแหล่ ถูกนิ้วมือของเธอกระตุกเพียงแค่ครั้งเดียว ก็หลุดออกตามแรงกระชากของเธอมาโดยง่าย เผยให้เห็นจ้าวโลกที่ลุกขึ้นมาชี้หน้าเธออย่างเดือดดาล พร้อมที่จะกระโจนลงถ้ำอย่างไม่ต้องร้องขอเขายังไม่ทันได้ขยับตัวไปไหน นั่นยิ่งปลุกให้อารมณ์สวาทที่กำลังมาของเธอยิ่งพลุ่งพล่านเข้าไปอีก มาหยาไม่รอให้ราชันย์ได้คิดนาน เธอตวัดเรียวแขนโอบกอดรอบคอของเขา ก่อนจะดันให้ร่างที่เปลือยเปล่าของราชันย์นั้นล้มลงไปนอนแผ่หลาโชว์จ้าวโลกที่เตียงคิงไซต์แทนเธอใช้ความรวดเร็วเข้าประชิดเขาด้วยความช่ำชอง เผลอแค่พริบตาเดียว เธอนั้นก็ได้พาร่างเล็กขึ้นไปนั่งคร่อมทับบดขยี้บนแก่นกายของราชันย์เรียบร้อยแล้ว ชุดเดรสรัดติ้วสีดำที่เธอสวมมา จากที่ว่าสั้นเสมอหูอยู่แล้ว บัดนี้มันถูกเรียวขาที่อ้าออกคร่อมราชันย์ไว้รั้งร่นไปกองอยู่ที่สะโพกของเธออย่างช่วยไม่ได้ เผยให้เห็นชั้นในลายลูกไม้ตัวจิ๋วสีดำที่