หลังจากที่นอนไม่ได้สติมาเกือบหนึ่งอาทิตย์ ลินดาก็ค่อยๆ รู้สึกตัว เธอเห็นสามี ณัฐชยา และติณณ์ แต่กลับไม่เห็นธัญชยาแม้แต่เงา ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจบุตรสาวคนโปรดจึงเกิดขึ้น
“คุณแม่รู้สึกตัวแล้วเหรอคะ เจ็บตรงไหนไหม”“ไม่ลูก” ลินดารู้สึกตื้อๆ ในอก เพราะรู้ตัวว่าทำไม่ดีกับ ณัฐชยามาตั้งมาก แต่วันนี้คนที่คอยดูแลเธอเป็นอย่างดีกลับคือ ณัฐชยา“คุณแม่ปลอดภัยแบบนี้ ซอก็หมดห่วง” ณัฐชยาแอบปาดน้ำตา เพราะลินดาคือมารดา ต่อให้มารดาจะไม่รักเธอยังไง เธอก็ตัดขาดจากมารดาไม่ได้ และตอนนี้เธอกำลังจะกลายเป็นแม่คนด้วยแล้ว ก็ยิ่งรักลินดามากขึ้น “รีบหายเร็วๆ นะคุณลินดา จะได้มาช่วยกันเลี้ยงหลาน”“หลาน...ซอท้องเหรอลูก”“ค่ะคุณแม่” ใบหน้ายิ้มๆ ของณัฐชยาเอ่ยรับ เธอลูบท้องที่ภายในมีเจ้าตัวเล็กเติบโตอยู่ แต่พอรู้ตัวว่ากำลังตั้งครรภ์อาการแพ้ท้องที่เคยมีกลับไม่มี“แม่ดีใจด้วยนะซอ” ลินดาอ้าแขนรับบุตรสาว ณัฐชยาเดินเข้าไปใกล้แล้วโน้มตัวลงไปกอดกับมารดา อ้อมกอดที่ณัฐชยาโหยหามาตลอด ตอนนี้เ“ผลเลือดเป็นบวก...เป็นบวก” ธัญชยาเพ้อพูดผลตรวจเลือดซ้ำไปซ้ำมา สีหน้าเหม่อลอย สมองมึนงง เพราะไม่รู้จะทำยังไงต่อไป“พิณลูก” มนตรีลูบใบหน้าบุตรสาวเบาๆ“ผลเลือดเป็นบวก...เป็นบวก” ประโยคซ้ำๆ ยังดังมาจาก ธัญชยา นั่นทำให้หัวใจของมนตรีเจ็บปวดที่สุด ไม่คาดคิดว่าธัญชยาจะป่วยแบบนี้“พี่พิณใจเย็นๆ นะคะ ซอถามคุณหมอแล้ว ถ้าพี่พิณรับยาต้านติดต่อกันก็จะหาย”“ไม่! แกโกหกฉัน ฉันเป็นเอดส์ มันรักษาไม่หาย ฉันเป็นเอดส์ แกได้ยินไหมฉันเป็นเอดส์” ธัญชยาปัดมือของณัฐชยาออกห่าง มนตรีจึงเอ่ยขึ้นอีกคน“หายสิพิณ ลูกต้องหาย”“คุณพ่อไม่ต้องมาโกหก พิณรู้ พิณไม่ได้โง่” เสียงเกรี้ยวกราดของธัญชยาดังขึ้น เธอหวาดระแวงทุกอย่าง กังวลอาการป่วยของตัวเองจนไม่รับรู้ความจริงอะไรทั้งนั้น ฝังใจว่าสิ่งที่เป็นไม่มีวันรักษาหาย“ลูกพิณ” มนตรีคว้าตัวธัญชยาเข้ามากอดไว้แนบอก เพราะไม่รู้จะปลอบโยนบุตรสาวด้วยวิธีไหน ธัญชยาร้องไห้จนเผลอหลับไป ณัฐชยาแอบปาดน้ำตาอีกคน ติณณ์ยืนกุมมือภรรยาอยู่
แบรดทำท่าจะแย้ง แต่ธัญชยากลับโน้มตัวลงมาปิดกั้นเสียงพูดนั้น พร้อมกับขยับสะโพกขึ้นลงให้รัวเร็ว ถี่กระชั้นมากขึ้นจนสติของแบรดกระเจิดกระเจิง ตอบสนองเธอกลับไปอย่างถึงอกถึงใจ เสียงซี้ดปากดังต่อเนื่อง เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังเป็นจังหวะ ผสมผสานความเร่าร้อนก็ยิ่งทวีความวาบหวามยิ่งขึ้นธัญชยาทำตามใจตัวเองทุกอย่าง เธอชอบอะไรแบบไหนก็จัดแบบนั้นให้แบรด จนชายหนุ่มอดที่จะเอะใจความคุ้นเคยนี้ไม่ได้ว่าเคยได้รับจากใครมาก่อน แต่ความคิดนั้นก็ต้องหยุดลงเมื่อความเสียวซ่านเข้ามาทำให้สติหลุดลอย แบรดไม่อยากให้เธอคุมเกมฝ่ายเดียว จึงรีบเด้งตัวขึ้นแล้วรั้งธัญชยาลงไปนอนราบ ส่งตัวเองเข้าหาเธอในจังหวะหนักๆ สลับโน้มตัวลงไปจูบปาก มือก็คลึงหน้าอกไม่ได้หยุด“ฉันไม่ไหวแล้ว” ธัญชยาพยายามอดกลั้น แต่ความเร่าร้อนของแบรดก็ทำให้เธอยอมแพ้ ชายหนุ่มยิ้มกริ่ม เพราะชอบที่ให้คู่นอนถึงสวรรค์ก่อนหลายๆ รอบ“ไม่ไหวก็ถึงเลย” แบรดไม่ต้องเอ่ยธัญชยาก็นำหน้าชายหนุ่มไปแล้วหนึ่งยก ความชื้นแฉะที่ไหลออกมาจากร่างกายเธอทำให้เขารู้ว่าธัญชยาทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าไปแล
ลินดาพยายามฟื้นฟูร่างกายจนเกือบจะกลับมาเดินได้ โดยมี ณัฐชยาคอยดูแลไม่ห่าง แม้จะกำลังตั้งครรภ์อยู่ก็ตามที ในทุกๆ วันเธอถามหาธัญชยาจนมนตรีไม่รู้จะหาเหตุผลใดๆ มาอ้างดี สุดท้ายก็จำต้องพูดความจริงออกไปในวันที่ลินดาพร้อมจะรับฟังทุกอย่างแล้ว“ลูกพิณเป็นเอดส์เหรอคะ” ลินดาเอ่ยทวนประโยคที่ได้ยินจากสามี มนตรีได้แต่พยักหน้ารับว่าใช่“ต่อให้ลูกเป็นอะไร เราก็จะไม่ทิ้งแก”“ขอบคุณนะคะคุณ ฉันไม่ดีเอง ฉันเป็นแม่ที่ไม่ดี”“คุณไม่ผิดหรอก ถ้าจะผิดเราก็ผิดด้วยกันทั้งคู่ ผมเองก็เป็นพ่อที่ไม่ดีเหมือนกัน” มนตรีกุมมือของภรรยาไว้“ตอนนี้ฉันรู้สึกผิดมาก โดยเฉพาะผิดต่อซอ ฉันทำผิดกับลูกคนนี้ไว้มากจริงๆ”“แต่ผมรู้ว่าซอไม่เคยคิดโทษคุณเลย นั่นก็เพราะว่าซอรักและหวังดีกับคุณมาก คุณคือแม่ที่ดีที่สุดของแก ผมอยากให้คุณมอบความรัก ความเอ็นดูให้ซอบ้าง แค่ครึ่งที่คุณมอบให้พิณก็ยังดี”“คุณมนตรี” แววตาของลินดาดูอึ้งไปที่ได้ยินสามีร้องขอแบบนี้ ยิ่งทำให้เธอรู้สึกผิด“ผมค
“ดื่มสิ” แต่อยู่ๆ ธัญชยากลับยืนตัวแข็งทื่อ เมื่อณัฐชยาคว้าตัวไปกอด“ขอบคุณนะคะพี่พิณ ขอบคุณที่ดีกับซอแบบนี้ ซอรักพี่สาวคนนี้มากนะคะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ซอก็รักพี่พิณ เพราะพี่คือพี่สาวของซอ”“ซอ” คำพูดของณัฐชยาทำให้ความคิดร้ายๆ ของธัญชยาหายไป ณัฐชยาผละออกจากพี่สาวเล็กน้อยเพื่อดื่มนม แต่จังหวะที่ปากแก้วกำลังจรดกับริมฝีปากอิ่ม ธัญชยาก็กำลังจะแย้ง แต่เสียงของติณณ์ที่เพิ่งเดินออกจากห้องน้ำก็ดังขึ้นเสียก่อน“พี่สาวกับน้องสาวคู่นี้ทำอะไรกันครับ”“อ้อ...พี่พิณเอานมมาให้ซอดื่มค่ะพี่ติณ ยังอุ่นๆ อยู่เลย” ณัฐชยาหันไปตอบสามี ธัญชยาตกใจเพราะไม่คิดว่าติณณ์จะอยู่ในห้องด้วย ทั้งๆ ที่วันนี้เธอถามณัฐชยาแล้วว่าชายหนุ่มจะกลับตอนไหน ซึ่งคำตอบคือดึก เธอจึงตัดสินใจลงมือปลิดชีพน้องสาววันนี้ แต่ตอนนี้ความคิดบ้าๆ นั่นหายไปแล้ว“แต่ซอพึ่งดื่มนมไปแก้วใหญ่นี่ครับ ดื่มอีกจะไหวเหรอ”“ไม่เป็นไรค่ะ ซอดื่มได้”&l
“ลูกผมหล่อมากนะครับหมอ ดูสิ จมูกโด่งเป็นสันเชียว” คนขี้เห่อเอ่ยขึ้น ณัฐชยาส่ายหน้าให้ติณณ์“หล่อค่ะ” หมอเอ่ยรับ เพราะลูกใครใครก็ชมว่าหล่อว่าน่ารักทั้งสิ้น เมื่อตรวจเสร็จหมอก็ให้ฟิล์มใบหน้าเจ้าตัวเล็กแก่ว่าที่คุณพ่อคุณแม่ได้เชยชม ติณณ์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ปลาบปลื้มกับใบหน้าบุตรชาย ก่อนจะโทรศัพท์ไปบอกเรื่องนี้ให้มารดาและผู้เป็นยายรู้ทันที“จริงเหรอติณ เป็นผู้ชายเหรอ”“ครับแม่ อาวุธเด่นชัดมาก”“พี่ติณ...ทะลึ่ง” ณัฐชยาที่นั่งอยู่ข้างๆ เหน็บชายหนุ่มไปแรงๆ ที่พูดอะไรทะลึ่งๆ แบบนั้น“ฝากบอกซอให้ดูแลตัวเองดีๆ นะลูก ใกล้คลอด แม่กับยายจะลงไปกรุงเทพฯ”“ครับแม่” เสียงมีความสุขของติณณ์เอ่ยรับ ก่อนที่ชายหนุ่มจะคุยกับมารดาและยายครู่หนึ่ง จากนั้นจึงวางสายไปแล้วหันมายิ้มให้ณัฐชยา อยู่ๆ ก็โน้มตัวลงไปจูบหน้าท้องนูนเบาๆ“พ่อรักลูก รักแม่ของลูกมากนะครับ โตขึ้นมาต้องเป็นเด็กดี ไม่ดื
เสียงทะเลาะกัน ของเด็กหญิงฝาแฝดสองคนดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตมากขึ้น เมื่อคนที่ทำผิดกลับก่อกวน ตุ๊กตาตัวขนาดกลางถูกยื้อยุดฉุดกระชาก คนหนึ่งจับตัวและหัวไว้ อีกคนจับแขนตุ๊กตาไว้มั่น บอกใจว่าไม่มีวันปล่อยมือแน่นอน“พี่พิณ ปล่อยมือตุ๊กตาของซอนะ” เสียงเล็กๆ ของเด็กหญิง ณัฐชยาในวัยเก้าขวบเอ่ยบอกพี่สาวฝาแฝดที่ชื่อว่า...ธัญชยา “เรื่องอะไรจะปล่อย อีกอย่างเธอไม่ต้องมาพูดดี เพราะฉันจะเอาตุ๊กตาตัวนี้” แทนที่จะปล่อยมือ แต่ธัญชยากลับยื้อตุ๊กตาจนเธอเกือบจะยึดได้ทั้งตัว ติดแต่แขนตุ๊กตาซึ่งน้องสาวยังจับไว้แน่น “ไม่...ซอไม่ให้ พี่พิณมีตุ๊กตาออกตั้งเยอะ ทำไมต้องมาแย่งตุ๊กตาตัวนี้ของซอด้วย” สีหน้างอง้ำของณัฐชยาเอ่ยตอบกลับไป “ก็ฉันจะเอา”“ซอไม่ให้” “ไม่ให้ใช่ไหม...ดี เอามานี่” เมื่อได้ยินจากปากณัฐชยาว่าไม่ให้แบบนี้แล้ว ธัญชยาก็ยิ่งอยากเอาชนะมากขึ้น ตั้งแต่จำความได้ณัฐชยาหรือใครไม่เคยปฏิเสธความต้องการของธัญชยาคนนี้ได้แม้แต่คนเดียว “พี่พิณ...อย่านะ ปล่อยมือจากตุ๊กตาของซอ” เพราะเห็นรอยขาดตรงแขนตุ๊กตาทำให้ณัฐชยาเอ่ยห้ามพี่สาว แต่ธัญชยากลับไม่เชื่อฟัง เด็กหญิงออกแรงยื้อจนในที่สุดแขนตุ๊กตาก็ขาดจากตัว
ณัฐชยารีบเข้าไปห้าม จึงถูกธัญชยาผลักจนเซถลา ในขณะที่ลินดาได้แต่ยืนดูเท่านั้น “สมน้ำหน้า” ธัญชยาสะแยะยิ้มใส่น้องสาวผู้อ่อนแออย่างสะใจ จากนั้นก็เดินกลับออกไปพร้อมมารดา เพราะลึกๆ เธอไม่ได้ต้องการตุ๊กตาขี้เหร่ตัวนั้นมากมาย แต่หมั่นไส้ที่ณัฐชยาหวงและเห่อ อุ้มไปนั่นไปนี่รอบๆ บ้าน นั่งคุยกับมันราวกับคนบ้า เธอจึงเข้าไปแย่งจนแขนตุ๊กตาขาด พอจังหวะที่ล้มไปนั่งกับพื้นก็ร้องไห้ให้ดัง เพื่อให้มารดาได้ยิน และก็จริง เพราะเมื่อมารดาเข้ามา เธอนั้นชนะใสๆ ต่อให้ผิดมารดาก็จะเข้าข้างบอกว่าเธอถูก เมื่อมารดาและพี่สาวฝาแฝดกลับออกไปแล้ว น้ำตาของความเสียใจ น้อยใจของณัฐชยาก็ไหลอาบแก้ม เธอก้มหยิบตุ๊กตาขึ้นมากอดและพยายามเอาแขนที่ขาดหวังมาต่อให้เป็นเหมือนเดิม แต่พยายามอยู่นานเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล ณัฐชยานั่งร้องไห้กับตุ๊กตาตัวโปรดและหวงมากที่สุด จนป้าอ้วนแม่บ้านที่เลี้ยงณัฐชยามาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอยต้องเข้ามาดู“คุณหนูซอ อย่าร้องนะคะคนดีของป้า”“ป้าจ๋า” แทนที่จะหยุดร้อง พอเห็นหน้าป้าอ้วน ณัฐชยากลับร้องไห้มากขึ้น อ้อมกอดของป้าอ้วนนั้นอบอุ่นและคอยปกป้องดูแลณัฐชยาเสมอ เพราะเลี้ยงมาตั้งแต่แรกเกิดทำให้ป้าอ้วนรัก ณัฐชยาเหมื
“คุณหนูของป้า อย่าคิดมากนะคะ” คำปลอบโยนของป้าอ้วนฟังดูอบอุ่น ณัฐชยาได้ยินคำปลอบแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆ “ซอไม่ได้คิดมากแล้วนะคะป้า แต่บางทีก็อดไม่ได้จริงๆ” คำตอบที่ได้ยินทำให้ป้าอ้วนส่งยิ้มมา แววตาเอ็นดูมองหญิงสาวที่ตนนั้นรักเหมือนลูกแท้ๆ ก็ไม่ปาน จำได้ว่าแม้ธัญชยากับณัฐชยาจะเป็นฝาแฝด แต่ก็แทบจะไม่มีเค้าโครงความเหมือน ตอนเด็กๆ ณัฐชยานั้นตัวผอมบางผิวคล้ำ เสื้อผ้าไม่เคยมีชุดใหม่ๆ มีเพียงชุดที่พี่สาวไม่ชอบแล้วเท่านั้น ส่วนธัญชยาเป็นเด็กน่ารักน่าชัง ผิวขาวอมชมพูแก้มยุ้ย ลินดาอุ้มไปทางไหนก็มีแต่คนชมชอบ ของใช้ล้วนแต่มียี่ห้อขายตามห้าง กระทั่งทั้งคู่โตเป็นสาวสะพรั่ง ตอนนี้รูปร่าง หน้าตากลับยิ่งเหมือน จนหลายคนแยกไม่ออกว่าใครคือธัญชยาหรือณัฐชยามนตรีเองก็กลัวว่าลูกสาวคนเล็กจะมีปมด้อยเรื่องมารดา จึงมอบความรักให้ณัฐชยามากเช่นกัน แต่ลึกๆ แล้วณัฐชยานั้นอยากได้ความรัก ความห่วงใย การโอบกอด คำชื่นชม รอยยิ้มจากผู้เป็นแม่อยู่ไม่น้อย แต่ในเมื่อไม่ได้ตามที่ต้องการจึงพยายามไม่คิดมาก แค่ได้อยู่ใกล้ๆ ก็มากพอแล้ว “ซอหิวแล้ว ป้าอ้วนมีอะไรให้ซอกินบ้างคะ”“ก๋วยเตี๋ยวลุยสวนเป็นยังไงคะ ของโปรดคุณซอ เดี๋ยวป้ายกมาใ
“ลูกผมหล่อมากนะครับหมอ ดูสิ จมูกโด่งเป็นสันเชียว” คนขี้เห่อเอ่ยขึ้น ณัฐชยาส่ายหน้าให้ติณณ์“หล่อค่ะ” หมอเอ่ยรับ เพราะลูกใครใครก็ชมว่าหล่อว่าน่ารักทั้งสิ้น เมื่อตรวจเสร็จหมอก็ให้ฟิล์มใบหน้าเจ้าตัวเล็กแก่ว่าที่คุณพ่อคุณแม่ได้เชยชม ติณณ์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ปลาบปลื้มกับใบหน้าบุตรชาย ก่อนจะโทรศัพท์ไปบอกเรื่องนี้ให้มารดาและผู้เป็นยายรู้ทันที“จริงเหรอติณ เป็นผู้ชายเหรอ”“ครับแม่ อาวุธเด่นชัดมาก”“พี่ติณ...ทะลึ่ง” ณัฐชยาที่นั่งอยู่ข้างๆ เหน็บชายหนุ่มไปแรงๆ ที่พูดอะไรทะลึ่งๆ แบบนั้น“ฝากบอกซอให้ดูแลตัวเองดีๆ นะลูก ใกล้คลอด แม่กับยายจะลงไปกรุงเทพฯ”“ครับแม่” เสียงมีความสุขของติณณ์เอ่ยรับ ก่อนที่ชายหนุ่มจะคุยกับมารดาและยายครู่หนึ่ง จากนั้นจึงวางสายไปแล้วหันมายิ้มให้ณัฐชยา อยู่ๆ ก็โน้มตัวลงไปจูบหน้าท้องนูนเบาๆ“พ่อรักลูก รักแม่ของลูกมากนะครับ โตขึ้นมาต้องเป็นเด็กดี ไม่ดื
“ดื่มสิ” แต่อยู่ๆ ธัญชยากลับยืนตัวแข็งทื่อ เมื่อณัฐชยาคว้าตัวไปกอด“ขอบคุณนะคะพี่พิณ ขอบคุณที่ดีกับซอแบบนี้ ซอรักพี่สาวคนนี้มากนะคะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ซอก็รักพี่พิณ เพราะพี่คือพี่สาวของซอ”“ซอ” คำพูดของณัฐชยาทำให้ความคิดร้ายๆ ของธัญชยาหายไป ณัฐชยาผละออกจากพี่สาวเล็กน้อยเพื่อดื่มนม แต่จังหวะที่ปากแก้วกำลังจรดกับริมฝีปากอิ่ม ธัญชยาก็กำลังจะแย้ง แต่เสียงของติณณ์ที่เพิ่งเดินออกจากห้องน้ำก็ดังขึ้นเสียก่อน“พี่สาวกับน้องสาวคู่นี้ทำอะไรกันครับ”“อ้อ...พี่พิณเอานมมาให้ซอดื่มค่ะพี่ติณ ยังอุ่นๆ อยู่เลย” ณัฐชยาหันไปตอบสามี ธัญชยาตกใจเพราะไม่คิดว่าติณณ์จะอยู่ในห้องด้วย ทั้งๆ ที่วันนี้เธอถามณัฐชยาแล้วว่าชายหนุ่มจะกลับตอนไหน ซึ่งคำตอบคือดึก เธอจึงตัดสินใจลงมือปลิดชีพน้องสาววันนี้ แต่ตอนนี้ความคิดบ้าๆ นั่นหายไปแล้ว“แต่ซอพึ่งดื่มนมไปแก้วใหญ่นี่ครับ ดื่มอีกจะไหวเหรอ”“ไม่เป็นไรค่ะ ซอดื่มได้”&l
ลินดาพยายามฟื้นฟูร่างกายจนเกือบจะกลับมาเดินได้ โดยมี ณัฐชยาคอยดูแลไม่ห่าง แม้จะกำลังตั้งครรภ์อยู่ก็ตามที ในทุกๆ วันเธอถามหาธัญชยาจนมนตรีไม่รู้จะหาเหตุผลใดๆ มาอ้างดี สุดท้ายก็จำต้องพูดความจริงออกไปในวันที่ลินดาพร้อมจะรับฟังทุกอย่างแล้ว“ลูกพิณเป็นเอดส์เหรอคะ” ลินดาเอ่ยทวนประโยคที่ได้ยินจากสามี มนตรีได้แต่พยักหน้ารับว่าใช่“ต่อให้ลูกเป็นอะไร เราก็จะไม่ทิ้งแก”“ขอบคุณนะคะคุณ ฉันไม่ดีเอง ฉันเป็นแม่ที่ไม่ดี”“คุณไม่ผิดหรอก ถ้าจะผิดเราก็ผิดด้วยกันทั้งคู่ ผมเองก็เป็นพ่อที่ไม่ดีเหมือนกัน” มนตรีกุมมือของภรรยาไว้“ตอนนี้ฉันรู้สึกผิดมาก โดยเฉพาะผิดต่อซอ ฉันทำผิดกับลูกคนนี้ไว้มากจริงๆ”“แต่ผมรู้ว่าซอไม่เคยคิดโทษคุณเลย นั่นก็เพราะว่าซอรักและหวังดีกับคุณมาก คุณคือแม่ที่ดีที่สุดของแก ผมอยากให้คุณมอบความรัก ความเอ็นดูให้ซอบ้าง แค่ครึ่งที่คุณมอบให้พิณก็ยังดี”“คุณมนตรี” แววตาของลินดาดูอึ้งไปที่ได้ยินสามีร้องขอแบบนี้ ยิ่งทำให้เธอรู้สึกผิด“ผมค
แบรดทำท่าจะแย้ง แต่ธัญชยากลับโน้มตัวลงมาปิดกั้นเสียงพูดนั้น พร้อมกับขยับสะโพกขึ้นลงให้รัวเร็ว ถี่กระชั้นมากขึ้นจนสติของแบรดกระเจิดกระเจิง ตอบสนองเธอกลับไปอย่างถึงอกถึงใจ เสียงซี้ดปากดังต่อเนื่อง เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังเป็นจังหวะ ผสมผสานความเร่าร้อนก็ยิ่งทวีความวาบหวามยิ่งขึ้นธัญชยาทำตามใจตัวเองทุกอย่าง เธอชอบอะไรแบบไหนก็จัดแบบนั้นให้แบรด จนชายหนุ่มอดที่จะเอะใจความคุ้นเคยนี้ไม่ได้ว่าเคยได้รับจากใครมาก่อน แต่ความคิดนั้นก็ต้องหยุดลงเมื่อความเสียวซ่านเข้ามาทำให้สติหลุดลอย แบรดไม่อยากให้เธอคุมเกมฝ่ายเดียว จึงรีบเด้งตัวขึ้นแล้วรั้งธัญชยาลงไปนอนราบ ส่งตัวเองเข้าหาเธอในจังหวะหนักๆ สลับโน้มตัวลงไปจูบปาก มือก็คลึงหน้าอกไม่ได้หยุด“ฉันไม่ไหวแล้ว” ธัญชยาพยายามอดกลั้น แต่ความเร่าร้อนของแบรดก็ทำให้เธอยอมแพ้ ชายหนุ่มยิ้มกริ่ม เพราะชอบที่ให้คู่นอนถึงสวรรค์ก่อนหลายๆ รอบ“ไม่ไหวก็ถึงเลย” แบรดไม่ต้องเอ่ยธัญชยาก็นำหน้าชายหนุ่มไปแล้วหนึ่งยก ความชื้นแฉะที่ไหลออกมาจากร่างกายเธอทำให้เขารู้ว่าธัญชยาทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าไปแล
“ผลเลือดเป็นบวก...เป็นบวก” ธัญชยาเพ้อพูดผลตรวจเลือดซ้ำไปซ้ำมา สีหน้าเหม่อลอย สมองมึนงง เพราะไม่รู้จะทำยังไงต่อไป“พิณลูก” มนตรีลูบใบหน้าบุตรสาวเบาๆ“ผลเลือดเป็นบวก...เป็นบวก” ประโยคซ้ำๆ ยังดังมาจาก ธัญชยา นั่นทำให้หัวใจของมนตรีเจ็บปวดที่สุด ไม่คาดคิดว่าธัญชยาจะป่วยแบบนี้“พี่พิณใจเย็นๆ นะคะ ซอถามคุณหมอแล้ว ถ้าพี่พิณรับยาต้านติดต่อกันก็จะหาย”“ไม่! แกโกหกฉัน ฉันเป็นเอดส์ มันรักษาไม่หาย ฉันเป็นเอดส์ แกได้ยินไหมฉันเป็นเอดส์” ธัญชยาปัดมือของณัฐชยาออกห่าง มนตรีจึงเอ่ยขึ้นอีกคน“หายสิพิณ ลูกต้องหาย”“คุณพ่อไม่ต้องมาโกหก พิณรู้ พิณไม่ได้โง่” เสียงเกรี้ยวกราดของธัญชยาดังขึ้น เธอหวาดระแวงทุกอย่าง กังวลอาการป่วยของตัวเองจนไม่รับรู้ความจริงอะไรทั้งนั้น ฝังใจว่าสิ่งที่เป็นไม่มีวันรักษาหาย“ลูกพิณ” มนตรีคว้าตัวธัญชยาเข้ามากอดไว้แนบอก เพราะไม่รู้จะปลอบโยนบุตรสาวด้วยวิธีไหน ธัญชยาร้องไห้จนเผลอหลับไป ณัฐชยาแอบปาดน้ำตาอีกคน ติณณ์ยืนกุมมือภรรยาอยู่
หลังจากที่นอนไม่ได้สติมาเกือบหนึ่งอาทิตย์ ลินดาก็ค่อยๆ รู้สึกตัว เธอเห็นสามี ณัฐชยา และติณณ์ แต่กลับไม่เห็นธัญชยาแม้แต่เงา ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจบุตรสาวคนโปรดจึงเกิดขึ้น“คุณแม่รู้สึกตัวแล้วเหรอคะ เจ็บตรงไหนไหม”“ไม่ลูก” ลินดารู้สึกตื้อๆ ในอก เพราะรู้ตัวว่าทำไม่ดีกับ ณัฐชยามาตั้งมาก แต่วันนี้คนที่คอยดูแลเธอเป็นอย่างดีกลับคือ ณัฐชยา“คุณแม่ปลอดภัยแบบนี้ ซอก็หมดห่วง” ณัฐชยาแอบปาดน้ำตา เพราะลินดาคือมารดา ต่อให้มารดาจะไม่รักเธอยังไง เธอก็ตัดขาดจากมารดาไม่ได้ และตอนนี้เธอกำลังจะกลายเป็นแม่คนด้วยแล้ว ก็ยิ่งรักลินดามากขึ้น“รีบหายเร็วๆ นะคุณลินดา จะได้มาช่วยกันเลี้ยงหลาน”“หลาน...ซอท้องเหรอลูก”“ค่ะคุณแม่” ใบหน้ายิ้มๆ ของณัฐชยาเอ่ยรับ เธอลูบท้องที่ภายในมีเจ้าตัวเล็กเติบโตอยู่ แต่พอรู้ตัวว่ากำลังตั้งครรภ์อาการแพ้ท้องที่เคยมีกลับไม่มี“แม่ดีใจด้วยนะซอ” ลินดาอ้าแขนรับบุตรสาว ณัฐชยาเดินเข้าไปใกล้แล้วโน้มตัวลงไปกอดกับมารดา อ้อมกอดที่ณัฐชยาโหยหามาตลอด ตอนนี้เ
“แม่ไม่เป็นอะไรซอ ลูกล่ะ” น้ำเสียงที่เอ่ยถามฟังดูอ่อนโยนอย่างที่ณัฐชยาไม่เคยได้ยินมาก่อน แค่นี้กลับทำให้เธอตื้นตันในความห่วงใยที่มารดามีให้“ไม่ต้องไปห่วงมันหรอกค่ะคุณแม่ ยายซออึดและถึกจะตายไป โดนแค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ” ไม่พูดเปล่า ธัญชยายังตามมาจิกหัวของณัฐชยาไปแล้วตบตีเธออีกครั้งราวกับต้องการหาที่ระบายอารมณ์ ยิ่งณัฐชยาไม่ตอบโต้ใดๆ แบบนี้ ธัญชยาก็ยิ่งได้ใจติณณ์ที่กลับบ้านมาก่อนเวลาเพราะใจนั้นรู้สึกห่วงณัฐชยามาก ชายหนุ่มได้ยินเสียงเอะอะโวยวายคล้ายคนทะเลาะกันอยู่ชั้นบนจึงรีบขึ้นมาดู จนรู้ว่าต้นเสียงนั้นมาจากห้องนอนของเขา ชายหนุ่มรีบก้าวไป และเมื่อเปิดประตูสิ่งที่เห็นก็ทำให้ชายหนุ่มถึงกับช็อก เพราะตอนนี้ธัญชยากำลังตบตีณัฐชยา ผู้ซึ่งเป็นภรรยาของเขานั่นเอง“ทำอะไรน่ะพิณ” ติณณ์รีบเข้าไปห้ามใช้ตัวเองปกป้อง ณัฐชยา ธัญชยารีบเก็บมือที่เงื้อขึ้นจะฟาดหน้าของณัฐชยาเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ลืมนับอย่างอัตโนมัติ พร้อมกับทำหน้าทำตาไม่รู้ไม่ชี้“พิณไม่ได้ทำอะไรนะคะ พิณไม่รู้เรื่อง”“นี่มันเกิดอะไรขึ้นครับคุณแม่&rdq
ณัฐชยารีบลุกขึ้นจากเตียงในช่วงใกล้รุ่ง เธอยกมือขึ้นปิดปาก เพราะบางสิ่งบางอย่างกำลังไหลย้อนขึ้นมา นั่นทำให้ติณณ์ที่นอนกอดเธออยู่พลอยสะดุ้งรู้สึกตัวไปด้วยอีกคน ก่อนจะรีบก้าวเข้าไปลูบหลังให้ภรรยาที่ตอนนี้โก่งคออาเจียนดูทรมาน“ซอ...ซอครับ เป็นยังไงบ้าง ไปหาหมอหรือเปล่า”“ซอไม่เป็นอะไรค่ะ” แม้ปากจะบอกว่าไม่เป็นอะไร แต่ ณัฐชยาก็ยังคงอาเจียนอย่างต่อเนื่อง ติณณ์หยิบน้ำเปล่ามาส่งให้เธอบ้วนปาก ณัฐชยากลืนน้ำลงคอ แต่เพียงครู่เดียวเธอก็อาเจียนออกมาจนหมดกระเพาะ ใบหน้าสวยซีดเซียว แรงที่จะทรงตัวก็แทบไม่มีณัฐชยาอาเจียนอยู่แบบนั้นเป็นนานก่อนที่อาการจะดีขึ้น ติณณ์เช็ดหน้าเช็ดตาให้เธอ ก่อนจะพยุงกลับไปนั่งบนเตียง มือหนากุมมือบางที่สั่นเทาไว้หลวมๆ สงสารที่เห็นเธอทรมานแบบนี้“ไปหาหมอไหมครับ”“ไม่เป็นไรค่ะ ซอดีขึ้นมากแล้ว อีกเดี๋ยวคงหาย”“แต่หน้าซอซีดมาก พี่ว่าไปหาหมอดีกว่า จะได้รู้ว่าเป็นอะไร” ติณณ์เป็นห่วงณัฐชยามาก เขาแทบอยากเจ็บ อยา
“ค่ะคุณ” ลินดาเอ่ยรับอีกคน ก่อนจะขึ้นไปบนห้องพร้อม ธัญชยา สองแม่ลูกมองหน้ากันแล้วยิ้ม เพราะการกลับมาบ้านดูราบรื่นกว่าที่คิดไว้มาก บ้านหลังอบอุ่นทำให้หวนคิดถึงเรื่องเก่าๆ แต่เมื่ออยู่ตามลำพัง ธัญชยาก็มักจะมีอาการเงียบขรึม ไม่สดใสร่าเริงอย่างแต่ก่อนวันนั้นมื้อค่ำของครอบครัวเพ็ญประเสริฐอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาในรอบหลายเดือนก็ว่าได้ มนตรีจึงมีโอกาสได้บอกทุกคนว่าตอนนี้ติณณ์รับหน้าที่สำคัญอะไรจากครอบครัว พอรู้ว่าชายหนุ่มร่ำรวยมากแค่ไหน เป็นถึงทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลใหญ่ที่เชียงใหม่ ธัญชยาก็หูผึ่งทันที ความคิดที่ต้องการแย่งติณณ์ให้กลับมาเป็นของเธอหวนคืนมาอีกครั้ง ทั้งๆ ที่เพิ่งพูดไปแท้ๆ ว่าเธอนั้นไม่ได้รักชายหนุ่มแม้แต่น้อย แต่ธัญชยาก็ไม่อยากแหวกหญ้าให้งูตื่น เธอต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป มั่นใจว่าติณณ์ต้องรักเธออย่างแต่ก่อนแน่นอนยิ่งได้เห็นติณณ์เอาอกเอาใจณัฐชยามากเท่าไหร่ ธัญชยาก็รู้สึกไม่ชอบใจมากเท่านั้น ชีวิตอันสวยหรูของเธอต้องพังทลายไม่เป็นท่า แต่ชีวิตของณัฐชยากลับมีแต่ความสุข แบบนี้เธอจะยอมไม่ได้ เธอไม่ยอมให้ ณัฐชยามีความสุขมากกว่าเธอ เธอไม่ยอม