หลังสอบถามเรื่องโรงตีเหล็กเรียบร้อยแล้ว หนิงชิงก็บอกกับเสี่ยวเจียงว่านางจะทำให้เขาเอาไว้สักกระบอกหนึ่ง แต่กระสุนจะได้เท่าไหร่นั้นต้องแล้วแต่ดินปืนว่าจะมีมากน้อยเพียงใด เสี่ยวเจียงจึงอาสาจะเป็นธุระจัดหาดินปืนให้กับหนิงชิงอีกแรงหนึ่ง ทำให้นางพอใจไม่น้อยที่พี่ชายเสี่ยวเจียงไม่คิดเอาเปรียบนาง
เมื่อวางแผนการทำแล้วหนิงชิงก็ใส่กุญแจโต๊ะเสร็จพอดี นางบอกให้ท่านพ่อลองใช้ดูว่าโต๊ะนี้ล็อคใช้ได้ดีหรือไม่ เวลาไม่มีคนอยู่จะได้ล็อคสมุดบัญชีเอาไว้ได้ เพราะอย่างไรเสียเงินก็จะเอาไปเก็บไว้ที่ร้านอาหารอยู่แล้ว
หนิงกวานทดลองใช้ลิ้นชักพบว่าสะดวกดีไม่มีปัญหา เขายังอยากได้ไปติดกล่องสมบัติอีก หนิงชิงเองก็กระซิบบอกท่านพ่อนางว่านางซื้อมาเผื่อแล้ว ทำให้หนิงกวานถอนหายใจอย่างโล่งอก ต่อไปเขาจะได้พกกุญแจแทนเพื่อความปลอดภัยของทรัพย์สินครอบครัวของเขา
ทั้งสามคนไปที่โรงขายทาสหลวงใกล้กับที่ว่าการอำเภอ เสี่ยวเจียงเป็นคนแจ้งความต้องการว่าอยากได้ทาสไปใช้งานแบบใด เนื่องจากหนิงชิงบอกคุณสมบัติของทาสที่นางต้องการกับเขาก่อนหน้านี้แล้ว นายหน้าพอทราบความต้องการของลูกค้าแล้วก็พาทั้งสามคนเดินเข้าไปด้านในเพื่อเลือกทาสสำหรับใช้งาน หนิงชิงมองทาสในกรงขังอย่างสงสาร นางไม่คิดว่าการซื้อขายคนในสมัยนี้จะโหดร้ายเช่นนี้ บางคนยังมีรอยแผลจากการถูกทางการลงโทษก่อนขายมาเป็นทาสหลวง คนที่นี่ก็ไม่มีใครคิดจะสงสารหรือหาหมอมาให้คนพวกนี้เลยแม้แต่น้อย ข้าวน้ำก็คงให้วันละมื้อ ไม่เช่นนั้นคนพวกนี้จะผอมกะหร่องอย่างที่นางเห็นหรือ เพียงแต่นางไม่สามารถช่วยทุกคนได้ นางได้แต่บอกท่านพ่อให้ช่วยเลือกมาสักสามสี่คน หนิงกวานสอบถามเรื่องราวของทาสก่อนที่จะซื้อว่าพวกเขาทำงานไม้เป็นหรือไม่ ถ้าไม่เป็นเขาก็ไม่เอา หนิงกวานเห็นครอบครัวหนึ่งร้องตะโกนให้ช่วยพวกเขาด้วย &nbs
หนิงกวานพอมาถึงร้านแล้วก็รอสอบถามชื่อเสียงเรียงนามทาสของพวกเขา ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงไม่รู้ว่าจะเรียกกันอย่างไรเป็นแน่ เขาฟังแนวคิดของลูกสาวที่จะให้เหล่าทาสช่วยกันดูคุณสมบัติของสินค้าแต่ละอย่างว่าพวกเขาเข้าใจเพียงใด และท่าทางจะสามารถทำออกมาได้หรือไม่ก็เห็นด้วย ไม่นานหลังทุกคนเปลี่ยนชุดเสร็จก็มาหาหนิงชิง พวกเขาทำความเคารพหนิงกวานด้วยการคำนับแทนการคุกเข่าตามที่หนิงชิงบอกเอาไว้ก่อนหน้านี้ หนิงกวานเห็นพวกเขารู้ความก็ยิ้มให้พร้อมกับสอบถามชื่อเสียงเรียงนามแต่ละคน“ข้าต้าเจียง นี่ภรรยาข้าฮวนอัน บุตรชายข้าชื่อต้าเจิน ส่วนบุตรสาวนางชื่อต้าเป่าขอรับ”“ส่วนพวกข้ายังไม่มีชื่อขอรับ ขอนายท่านประทานชื่อให้ด้วยขอรับ”“อ้าว พวกเจ้าไม่มีชื่อหรอกรึ เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้เล่า”“พวกข้าเป็นแค่บ่าวทั่วไปขอรับ ส่วนใหญ่จะไม่มีใครตั้งชื่อให้ จะเรียกแค่หนึ่งสองสามไปตามลำดับการเข้าม
เมื่อทั้งเก้าคนมาตักอาหารไปกินแล้ว หนิงชิงยังให้พวกเขายกหม้อไปด้วยเลยเผื่อดึก ๆ จะหิวกัน แล้วตอนเช้าค่อยเอาหม้อมาคืน ทำเอาเหล่าทาสได้แต่อ้าปากค้าง อาหารเยอะขนาดนี้พวกเขาจะกินอย่างไรเล่า แต่นี่เป็นคำสั่งคุณหนู พวกเขาก็ต้องทำตามสินะ เฮ้อ ต้าเจียงได้แต่ปลงอนิจจัง จากเมื่อก่อนไม่มีอันใดกิน ตอนนี้สงสัยจะต้องกินจนเป็นหมูกันเป็นแน่ เจ้านายบ้านนี้ก็ช่างใจดีเสียเหลือเกิน ทั้งเก้าคนได้แต่ช่วยกันยกหม้ออาหารกลับไปสองหม้อพร้อมทั้งข้าวอีกหม้อหนึ่ง ไม่อย่างนั้นคุณหนูคงไม่ยอมให้พวกเขากลับไปแน่ ๆ หนิงชิงพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มอย่างพอใจที่ไม่มีใครขัดใจนาง นางไม่ชอบจริง ๆ นะคนขัดใจ ยิ่งเป็นเรื่องอาหารของนางแล้วล่ะก็ นางยิ่งอยากนำเสนอให้พวกเขาได้กินอาหารอร่อย ๆ วันต่อมาหลังขายอาหารเสร็จแล้ว หนิงชิงกับหนิงกวานก็ไปที่ร้านขายของแปลกเพื่อสอนพวกเขาทำสิ่งของ แต่ก่อนที่จะทำได้ พวกเขาต้องสอบถามความเข้าใจของพวกเขาเสียก
แม่ทัพชายแดนคนใหม่ชื่อเจียงเฉิง เขาไม่เข้าใจว่าแม่นางคนนั้นไม่สนใจเขาจริง ๆ หรืออย่างไร เขาเห็นนางไม่มองแม้แต่หน้าเขา ตอนแรกเขาคิดว่านางอาย แต่กลายเป็นว่านางไม่สนใจหน้าเขาจริง ๆ เขาหรือก็ออกจะหล่อเหลาเอาการ สาว ๆ ในเมืองหลวงต่างอยากแต่งงานกับเขาจนต้องหนีมาชายแดน แต่สาวเจ้าคนนี้เหตุใดไม่สนใจเขาเล่า ฮึ่ม เขาจะลองดูสิว่านางไม่สนใจเขาจริง ๆ หรือแค่เล่นตัว เจียงเฉิงยังสอบถามทหารในพื้นที่ว่านางเป็นใครอีกด้วย จนเขารู้ว่านางมีร้านอาหารเช้าด้วยร้านหนึ่ง แถมอาหารอร่อยและราคาถูกมากด้วย ผู้คนในเมืองมักจะมากินข้าวเช้าที่ร้านนางเป็นประจำ พวกเขาเองก็เพิ่งรู้ว่านางเปิดร้านขายของแปลกอีกร้านหนึ่ง นับว่านางมีความสามารถมากจริง ๆ พอรู้ว่านางเป็นใครแล้ว เจียงเฉิงตัดสินใจที่จะมากินอาหารเช้าที่ร้านของนางพรุ่งนี้ดูสิว่าจะอร่อยตามที่คนอื่นบอกหรือเปล่า เขาเห็นส่วนใหญ่มีแต่ราคาคุย ถ้าเทียบกับเมืองหลวง อาหารที่นี่จะอร่อยกว่าได้
หลังส่งอาหารเสร็จหนิงกวานก็บอกให้ลูกสาวไปนั่งพักผ่อนก่อนเพื่อให้อารมณ์ดีขึ้น ปกติลูกสาวเขาอารมณ์ดีกับลูกค้าตลอด แต่นี่ดูเหมือนว่านางจะเหนื่อยจากงานทำสิ่งของแล้วเช้ายังต้องมาขายของอีก แถมยังถูกลูกค้าบ่นว่าแต่เช้าทำเอานางโมโหอย่างที่เห็น เจียงเฉิงสอบถามว่าเกิดอันใดขึ้นเหตุใดพวกเขาจึงได้สั่งอาหารมาเสียมากมายจนแทบจะไม่มีที่วางเช่นนี้ ลูกน้องจึงเล่าเรื่องให้เขาฟังอย่างตรงไปตรงมา ทำเอาเจียงเฉิงได้แต่หน้าบูดที่นางไม่ไว้หน้าเขาเลยสักนิด ตอนเดินเข้ามาเขาหันมองนาง ก็ไม่เห็นว่านางจะจำเขาได้สักนิด ฮึ่ม ให้มันได้อย่างนี้สิ เพิ่งเจอกันเมื่อวาน วันนี้ลืมเขาไปเสียแล้ว ผู้หญิงอะไรใจร้ายชะมัด เจียงเฉิงได้แต่กินกระแทกกระทั้นอาหารโดยแทบไม่รู้รสชาติ แต่ลูกน้องสองคนของเขาต่างกินอย่างเอร็ดอร่อยพร้อมทั้งชมว่าร้านทำอร่อยจริงๆ สมแล้วที่เจ้านายพาพวกเขามากิน นั่นแหละเจียงเฉิงจึงได้ตั้งใจลิ้มรสอาหารว่าอร
หลังสั่งตีเหล็กเสร็จแล้วหนิงกวานก็กลับไปที่ร้านอาหารเช้าเพื่อดูว่าเหลืออาหารอีกมากหรือไม่กว่าจะได้ปิดร้านแล้วไปช่วยพวกที่ร้านขายของแปลก เช้านี้พวกเขามาเอากับข้าวแต่เช้าก่อนที่คนในร้านจะเข้าเสียอีก ทำเอาหนิงชิงดีใจยกใหญ่ที่พวกเขาขยันขันแข็งกันเช่นนี้ หนิงชิงคิดจะให้เงินทุกคนที่ทำงานให้นางแต่แรก นางจึงกำชับต้าเจียงให้เปิดร้านตามปกติ หากสิ่งใดหมดให้ทำรายการเอาไว้ นางว่างเมื่อไหร่จะทำเพิ่มให้เขาเอง ส่วนเรื่องมีดบินนางก็บอกให้ต้าเจียงลงบัญชีเอาไว้ว่าลูกค้าจ่ายมัดจำแล้วห้าร้อยตำลึงหลังจากพ่อนางออกไปสั่งตีเหล็กนางก็วิ่งไปบอกเขาก่อน หนิงชิงยังเดินไปดูที่หลังร้านก็เห็นพี่ชายเจิ้งทั้งห้านั่งทำส่วนประกอบหน้าไม้กันอย่างขยันขันแข็ง นางบอกพวกเขาว่ารอให้นางปิดร้านก่อนจะมาช่วยพวกเขาประกอบและตรวจสอบคุณภาพงานให้ ทั้งห้าคนที่ก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ต่างตอบรับคุณหนูของพวกเขาอย่างพร้อมเพรียงกัน พวกเขามีหน้าที่แค่ทำส่วนประกอบออกมาให้เหมือนกันหมดเท่านั้น ซึ่งแต่ละคนจะได้ทำแต่ละชิ้นส่ว
หลังกินข้าวเสร็จ เจียงเฉิงจ่ายเงินแล้วกลับไปที่ค่ายทหาร เขาต้องรีบตื่นแต่เช้าเพื่อมากินข้าวที่ร้านของหนิงชิง จึงต้องรีบกลับไปทำงานของเขาต่อ เขาคิดว่าวันนี้นางจำเขาได้แล้วก็จะเว้นระยะการมาสักหน่อย เพราะที่ร้านนางกับค่ายทหารของเขานั้นไม่ได้อยู่ใกล้กันนัก แถมเขายังมีงานมากมายที่ยังต้องทำอยู่ ยิ่งเขาเพิ่งมาจัดระเบียบเวรยามก็ยิ่งรู้ว่าที่นี่มีโจรชุกชุมมากแค่ไหนที่ชอบปล้นคนต่างชาติที่เข้ามาค้าขายที่นี่ ทางการก็จับได้บ้างไม่ได้บ้าง พวกเขาจึงต้องเข้าไปเป็นกำลังเสริมให้กับทางการ หนิงชิงที่อารมณ์ดียังคงยิ้มส่งลูกค้ารายใหญ่ของนางกลับไปอย่างสบายอารมณ์ นางไม่คิดว่าแค่ยิ้มจะทำให้คนอื่นเข้าใจผิดว่านางสนใจผู้ชายอย่างเจียงเฉิงได้ อีกอย่างนางไม่เคยคิดเรื่องพวกนี้มาแต่ไหนแต่ไร ชาติก่อนนางก็อยู่เป็นโสดจนตายไปแล้วมาอยู่ที่นี่ นางจึงไม่ได้คิดมากเรื่องการยิ้มแย้มแจ่มใสให้กับลูกค้าของนางแม้แต่น้อย ส่วนเจียงเฉิงที่ได้รับรอยยิ้มขอบคุณที่มาทานอ
หลังจากยุ่งกับเรื่องหน้าไม้ห้าพันอันอยู่ หนิงชิงกลับลืมไปเลยว่าปืนไฟที่ส่งให้โรงตีเหล็กทำน่าจะเสร็จแล้ว กระทั่งเสี่ยวเจียงมาหาหนิงชิงแล้วบอกว่าครบกำหนดที่โรงตีเหล็กให้ไปรับของแล้ว ค่าของที่เหลือจากมัดจำหนิงชิงต้องจ่ายอีกร้อยตำลึง นางจึงให้ต้าเจียงเอาเงินออกมาให้พี่ชายเสี่ยวเจียง เสี่ยวเจียงเองก็อายที่ต้องมาขอเงินน้องสาวเช่นนี้ แต่เงินตั้งร้อยตำลึงเขาไม่มีน่ะสิ เขาเงินเดือนแค่ไม่กี่ตำลึงต่อเดือนเท่านั้น ใช้กินอยู่ก็หมดแล้ว นี่เขายังไม่ได้เก็บเงินส่งให้ที่บ้านเลย เขาไม่รู้ว่าพี่ชายทั้งสองนั้นส่งให้ที่บ้านบ้างหรือไม่ หนิงชิงเห็นสีหน้าของเสี่ยวเจียงก็รู้ว่าเขาเกรงใจ นางกับพ่อจึงบอกว่าอย่าได้คิดมาก นี่เป็นสิ่งที่นางกับพ่ออยากให้เป็นของขวัญที่พี่ชายเสี่ยวเจียงสอบผ่านและยังช่วยพวกเขาเสียหลายอย่าง เสี่ยวเจียงเข้าใจดีว่าพวกเขากลัวว่าเขาจะเกรงใจกระมัง เสี่ยวเจียงจึงได้ยิ้มรับของขวัญอย่างเต็มใจ ความจริงเขาเองก็
สองปีผ่านไป หนิงชิงตอนนี้ขยายสาขาเพิ่มอีกหนึ่งมณฑลแล้ว กิจการที่นั่นดำเนินไปได้ด้วยดี หนิงชิงแนะนำเทคนิคการวางขายสินค้าทั่วไปเสียก่อนที่จะวางขายสินค้าสั่งทำ เนื่องจากของใช้ทั่วไปคนธรรมดาเองก็สามารถซื้อได้ มันจะทำให้รายได้ของร้านคงที่ได้ระยะหนึ่งเลยทีเดียว ต้าเจียงเองก็ทำหน้าที่พ่อบ้านใหญ่ได้ดีสมกับที่หนิงชิงหวังเอาไว้เช่นเดียวกัน ไม่ว่างานที่จวนหรือที่ร้านเขาก็เป็นผู้ดูแลอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ตอนนี้ลูก ๆ ของหนิงชิงก็อายุครบสามขวบแล้ว ยิ่งโตพวกเขายิ่งผอมลง ไม่เหมือนตอนเด็กที่อ้วนท้วนกันใหญ่ ฮ่องเต้เองก็มักเรียกหาเหลน ๆ ทั้งสองเข้าวังไปเล่นด้วยอยู่บ่อย ๆ หลัง ๆ มานี้หนิงชิงก็ให้แม่นมพาทั้งสองไปหาเสด็จปู่ของพวกเขาแทนที่นางจะไปเอง เพราะหนิงชิงกลับไปดูงานที่ร้านอีกครั้งแล้ว เมื่อปีก่อนน้องสาวนางก็พาหล
วันนี้กว่าที่พ่อกับแม่ของหนิงชิงจะกลับก็เป็นตอนที่ลูกทั้งสองของนางเข้านอนตอนบ่ายแล้วนั่นเอง พวกท่านยังบอกให้นางดูแลหลานของพวกเขาให้ดี แล้วว่าง ๆ พวกเขาจะมาเยี่ยมใหม่ หลังจากร่ำลากันแล้ว พ่อแม่ของเจียงเฉิงและหนิงชิงก็ส่งพวกเขาขึ้นรถม้าแล้วออกจากจวนไป พ่อกับแม่ของเจียงเฉิงยังเยินยอพ่อแม่ของหนิงชิงเสียมากมายให้นางฟัง ก่อนที่พวกท่านจะไปพักผ่อนยามบ่ายกันตามปกติ ส่วนหนิงชิงที่วันนี้เหน็ดเหนื่อยกับการจับเจ้าลูกชายที่เพิ่งจะเดินได้มากขึ้นก็อยากกลับไปนอนพักผ่อนเช่นเดียวกัน แม่นมทั้งสองเองก็คอยดูแลคุณชายน้อยทั้งสองเป็นอย่างดี หนิงชิงจึงไม่ได้ห่วงอันใดพวกเขานัก สองวันต่อมา ต้าเจียงนำสมุดบัญชีมาให้หนิงชิงหลังจากที่ต้าเจินลูกชายของเขาเดินทางไปตรวจสอบบัญชีที่ร้านสาขาทั้งสองกลับมาเมื่อวานนี้ เขายังนำตั๋วแลกเงินจำนวนนับหลายหมื่นตำลึงกลับมาให้หนิงชิงด้วย ต
ข่าวที่หนิงชิงได้รับแต่งตั้งเป็นฮูหยินอันดับหนึ่งดังไปทั่วเมืองหลวงในเวลาไม่นาน มีบรรดาฮูหยินขุนนางมากหน้าหลายตาเข้ามาส่งของขวัญแสดงความยินดีกับหนิงชิงมากมายในช่วงเวลาเกือบสองสัปดาห์ที่นางต้องปั้นยิ้มรับของที่ไม่อยากได้เข้าจวน กระทั่งเหล่าฮูหยินมอบของขวัญครบทุกคนแล้วนั่นแหละ หนิงชิงจึงได้ถอนหายใจได้เสียที นางเบื่อการเข้าสังคมจอมปลอมเช่นนี้ที่สุด หากให้นางต้องไปนั่งดื่มชานินทาชาวบ้านล่ะก็นางคงทำไม่ได้ การได้รับความโปรดปรานใช่ว่าจะมีแต่ข้อดีเสียหน่อย ข้อเสียก็คือจะมีคนมารบกวนเรามากขึ้นเหมือนที่ผ่านมาอย่างไรเล่า อาหารเย็นวันนี้แม่ของเจียงเฉิงได้สอบถามหนิงชิงว่านางรู้สึกอย่างไรที่มีตำแหน่งสูงที่สุดในเหล่าฮูหยินขุนนางแล้ว หนิงชิงได้แต่ยิ้มแหยตอบกลับไป“ท่านแม่เจ้าคะ ข้าไม่เคยคิดหวังที่จะได้รับตำแหน่งนี้มาก่อน ทุกอย่างที่ข้าทำเพื่อเลี้ยงลูกก็เป็นจิตสำนึกของข้าเอง ข้ารู้ว่าฝ่าบ
สามวันต่อมา ราชโองการลงโทษจวนอดีตเสนาบดีกรมพิธีการสั่งการให้คนที่กระทำความผิดถูกประหารรวมทั้งบ่าวไพร่ที่ร่วมมือด้วยก็เช่นเดียวกัน ส่วนผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องให้เนรเทศไปชายแดนเหนือและห้ามเข้ารับราชการอีกตลอดชีวิต เสนาบดีกรมอาญาน้อมรับราชโองการและแจ้งวันประหารในอีกสามวันถัดไป เพราะพวกเขาต้องคัดคนที่จะถูกเนรเทศออกไปก่อนจึงต้องใช้เวลาสักหน่อยก่อนที่จะแยกออกได้ เจียงเฉิงที่ทำหน้าที่ของตนเองเสร็จแล้วก็กลับไปทำงานที่ค่ายทหารเช่นเคย หนิงชิงยังเคยบอกเจียงเฉิงว่าดีที่ตอนนี้ไม่มีศึกสงคราม ทำให้แคว้นพัฒนาไปได้มาก อีกทั้งนางยังไม่ต้องแยกจากสามีด้วยสี่เดือนต่อมา ฮ่องเต้ที่คิดถึงเหลนชายตัวอ้วนก็มีรับสั่งให้คนในจวนแม่ทัพเข้าเฝ้าเป็นกรณีพิเศษ วันนี้เจียงเฉิงพอได้รับข่าวก็รีบมาจากค่ายทหารแล้วพาทุกคนในครอบครัวเข้าไปในวัง แ
ไม่ถึงสามวัน คนที่เจียงเฉิงส่งไปสืบเรื่องราวก็รู้ว่าเป็นฮูหยินกับบุตรสาวของเสนาบดีกรมพิธีการที่ทำเรื่องเช่นนี้จริง ๆ เจียงเฉิงพอรู้ว่าเกี่ยวข้องกับเสนาบดีกรมพิธีการก็ยิ่งแค้นนัก เขาหรือก็ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวที่เสนาบดีกรมพิธีการกระทำมาก่อน ตอนนี้เขากลับกล้ามาแตะเกล็ดย้อนของเขา คนพวกนี้ไม่รู้หรืออย่างไรว่าเขารักภรรยามากจึงได้ทำเช่นนี้ เจียงเฉิงนั่งคิดอยู่พักใหญ่ จากนั้นเขาจึงให้คนของเขาไปหาหลักฐานการทุจริตหรือการทำชั่วต่าง ๆ ที่คนในจวนเสนาบดีเคยทำมาให้หมด ในเมื่อเป็นเสนาบดีดีดีไม่ชอบ เจียงเฉิงก็จะให้เขากลายเป็นนักโทษไปเสียให้สิ้นเรื่องสิ้นราว ถือว่าเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู จะได้ไม่มีใครกล้ามาทำเช่นนี้อีก หลังรับคำสั่งแล้วคนของเจียงเฉิงมากกว่ายี่สิบคนก็แยกกันออกไปตามหาเบาะแสเรื่องของเสนาบดีกรมพิธีการทันที พวกเขารู้ดีว่านายน้อยใจร้อนมากเพียงใด หากพวกเขามัวแต่ชักช้า นายน้อยคงสั่งลงโท
คืนนี้หนิงชิงจึงได้นอนหลับอย่างสบายโดยที่สามีไม่ก่อกวนนางจริง ๆ เจียงเฉิงที่ได้แต่กอดภรรยานอน เขาอดหมั่นเขี้ยวคนตัวเล็กไม่ได้ จึงแอบหอมแก้มนางฟอดใหญ่ก่อนจะหลับไปพร้อมกับความอ่อนเพลียเช่นกัน จวนแม่ทัพเลี้ยงดูเด็ก ๆ ได้เกือบห้าเดือนแล้ว ช่วงนี้กลับมีข่าวลือว่าแม่ทัพใหญ่ไปติดพันลูกสาวเสนาบดีกรมพิธีการเสียได้ หนิงชิงไม่รู้ว่าข่าวนี้ใครเป็นคนปล่อย แต่สามีนางน่าจะรู้เรื่องนี้แล้วกระมัง ขนาดนางที่อยู่แต่ในจวนยังรู้เลย เขาที่ไปทำงานทุกวันจะไม่รู้ได้อย่างไร อีกทั้งข่าวลือยังบอกอีกว่าฮ่องเต้สนับสนุนให้แม่ทัพใหญ่มีฮูหยินรองเพื่อจะได้มีทายาทสืบทอดเพิ่มขึ้นอีก ทั้งสัปดาห์มีแต่ข่าวลือเรื่องนี้ ด้านเจียงเฉิงได้แต่โกรธแค้นว่าใครกันเป็นคนปล่อยข่าวบ้า ๆ นี่ออกมา เขาที่ทำงานที่ค่ายทหารงก ๆ จะเอาเวลาที่ไหนไปยุ่งกับหญิงอื่น อีกทั้งเขายังรักภรรยาคนเดียวด้วย จะมีหญิงใดที่เขาชายตามองในเมืองหลวงบ้างเ
สัปดาห์ต่อมาหลังจากเจียงเฉิงเริ่มจับทางเจ้าอ้วนน้อยทั้งสองได้แล้วว่าจะนอนตอนไหน แผนการเผด็จศึกภรรยาสุดที่รักก็เริ่มขึ้นทันที คืนนั้นเจียงเฉิงอาบน้ำให้ภรรยาพร้อมกับใส่ชุดให้นางแล้วอุ้มไปที่เตียงทันที หนิงชิงเองก็งงกับสามีตัวดีว่าจะทำอันใด ปกตินางก็เดินไปนอนเองอยู่แล้วหลังเขาใส่เสื้อผ้าให้ แต่วันนี้สามีนางมาแปลก เมื่อถึงเตียงแล้วเจียงเฉิงก็เริ่มปฏิบัติการเล้าโลมภรรยาตัวน้อยทันที หนิงชิงที่กว่าจะตั้งสติได้ก็ตอนที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ยหมดแล้ว นางเข้าใจแล้วว่าเหตุใดสามีตัวดีจึงได้ทำตัวแปลก ๆ ที่แท้เขาก็กำลังคิดเรื่องบนเตียงอยู่นั่นเอง หนิงชิงได้แต่กลัวว่าลูกจะตื่นจึงได้บอกเขาทั้งที่นางเองก็พร้อมให้กับสามีที่กำลังเล้าโลมนางอยู่ไม่น้อย เจียงเฉิงกระซิบบอกภรรยาที่รักของเขาว่าลูก ๆ จะยังไม่ตื่นจนกว่าจะอีกหนึ่งชั่วยาม เขาที่จับตาดูลูกมาตลอดหนึ่งสัปดาห์มั่นใจมาก หนิงชิงที่ได้ยินเช่นนั้นได้แต่บ่นสามีในใจว่าเขาถึงกับดูกิจวัตรประจำวันของเจ้าอ้วนน้อยทั้งสอ
กว่างานเลี้ยงจะเลิกก็เกือบเย็นแล้ว ครอบครัวเจียงเฉิงกับหนิงชิงพากันส่งแขกร่วมกันที่หน้าจวนจนกระทั่งแขกกลับกันหมดแล้ว หนิงกวานก่อนจะกลับจวนเช่นกันก็มอบของเล่นเอาไว้ให้หลาน ๆ เสียหลายอย่าง พ่อกับแม่ของเจียงเฉิงได้แต่ขอบคุณท่านตาของหลานพวกเขาที่สละเวลาทำของเล่นออกมาเสียมากมาย หนิงกวานได้แต่หัวเราะและบอกว่าพวกเขาเป็นหลานชายตัวอ้วนที่พวกเขามี หากมีสิ่งใดดี ๆ เขาก็อยากมอบให้หลาน ๆ มากกว่าที่จะให้กับคนอื่น หลังจากร่ำลากันได้สักพักพวกหนิงกวานก็ขึ้นรถม้าจากไป ตอนนี้จวนแม่ทัพกลับมาเงียบสงบดังเดิมแล้ว บ่าวไพร่เองต่างก็ช่วยกันเก็บข้าวของเพื่อให้บริเวณงานเลี้ยงสะอาดสะอ้านเหมือนก่อนที่จะจัดงาน พ่อกับแม่ของเจียงเฉิงที่เหนื่อยมาทั้งวันต่างชวนกันไปพักผ่อน วันนี้พวกเขาเสียเรี่ยวแรงไปมากจริง ๆ เอาไว้พรุ่งนี้พวกเขาค่อยไปเล่นกับหลาน ๆ ก็ยังไม่สาย อย่างไรหลานของพวกเขาก็อยู่ด้วยกันที่จวนอยู่แล้วด้วย ฟากฝ
สิ่งของสำหรับเลือกในครั้งนี้มีทั้งอุปกรณ์การช่างที่หนิงชิงเป็นคนวาง ตำราที่ฮ่องเต้ให้ขันทีวางลงไป ก้อนเงินที่ฮองเฮาประทาน ส่วนของไทเฮานั้นเป็นกุญแจอายุยืนที่นางสั่งร้านเครื่องประดับทำขึ้นมา สิ่งของอื่น ๆ ก็ยังมีของเล่นที่หนิงกวานทำมา มีดไม้แกะสลักก็ยังมี ไหนจะดาบของเล่นที่เจียงเฉิงเป็นคนวางอีกเล่า ยังไม่รวมสิ่งของอื่น ๆ อีกนับสิบอย่างที่มีคนมาวางเอาไว้ให้คุณชายน้อยทั้งสองเลือกอีก เมื่อถึงเวลาเลือกของแล้ว หนิงชิงกับเจียงเฉิงก็วางลูกลงบนกองสิ่งของแล้วให้พวกเขาเลือกมาสักหนึ่งอย่าง ด้านโหย่วเฉียงและคงหมิงได้แต่มองกันตาปริบ ๆ พวกเขารู้เพียงว่าอยากได้สิ่งของมาเล่นเท่านั้น จึงทำให้ทั้งคู่คลานต้วมเตี้ยมวน ๆ หาดูว่าจะเอาสิ่งใดมาเล่นดี โหย่วเฉียงที่เห็นดาบของเล่นก็ชอบใจ เขาเลือกดาบและตำราโดยนำดาบมาฟันตำราเล่นเสียอย่างนั้น การกระทำของเขาทำเอาแขกทั้งหลายมีแต่เสียงหัวเราะเอ็นดูเด็กน้อยกันทั้งนั้น ส่วนคงหมิงนั้นเลือกก้อนเงินและอุปกรณ์แปลก ๆ ของหนิงชิง &nb