Home / รักโบราณ / หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง / ​บทที่ 349 เรื่องน่าอับอายของเจิ้งหมานหม่าน

Share

​บทที่ 349 เรื่องน่าอับอายของเจิ้งหมานหม่าน

Author: ฮวาฮวาน่งหยวี่
last update Last Updated: 2024-02-21 11:20:57
เมื่อใช้วิธีการของฉงเป่า ในที่สุดถูซินเยว่ก็สามารถพาเสี่ยวหวงไปด้วย

ในมิติแห่งน้ำพุศักดิ์สิทธิ์นั้นแตกต่างจากโลกข้างนอก ด้านในเต็มไปด้วยพลังวิญญาณ พื้นที่กว้างขวาง เสี่ยวหวงอยู่ข้างในก็เกรงว่าคงจะมีความสุขมาก

หลังจากจัดการปัญหาเสร็จแล้ว วันต่อมา ถูซินเยว่กับนางหยูก็เดินทางออกจากหมู่บ้านต้าเย่

บนรถม้า นางหยูอุทานอย่างอดไม่ได้ว่า "จากไปครั้งนี้ ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาอีกครั้งเมื่อใด แม่เฒ่าไม่อยู่แล้ว ซูฟาเสียงก็แต่งเข้าตระกูลเหลยไปแล้ว ต่อไปในบ้านก็เหลือแค่ป้าของเจ้าคนเดียวแล้ว"

ถูซินเยว่เลิกคิ้ว แต่ไม่ได้พูดอะไร

ที่จริงเธอไม่เป็นห่วงซูเฟิ่งอี๋เลยสักนิด คนแบบซูเฟิ่งอี๋ เกรงว่าต่อให้อยู่บ้านคนเดียว ก็สามารถมีความสุขได้

"ท่านแม่ ท่านก็วางใจเถอะ ท่านป้าเป็นคนที่ไม่เคยยอมให้ตนเองต้องลำบากอยู่แล้ว อีกอย่างหม่าโหวก็อยู่ที่บ้านมิใช่หรือ"

ถูซินเยว่พูดอย่างไม่ใส่ใจนัก

แต่พอพูดถึงเรื่องนี้ก็ทำให้เธอนึกขึ้นมาได้ เหมือนว่าจะไม่ได้เจอเจิ้งหมานหม่าน ภรรยาของหม่าโหวมานานแล้ว

"ก่อนหน้านี้เจิ้งหมานหม่านเพิ่งคลอดลูกชายให้หม่าโหวมิใช่หรือ ตอนนั้นท่านป้ายังดีอกดีใจมากเลย ทำไมกลับมาครั้งนี้ข้าถึงไม่เห
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   ​บทที่ 350 เด็กน้อยที่น่าสงสาร

    "นั่นเหลียงปินมิใช่รึ?" นางหยูแสดงท่าทีคาดไม่ถึงถูซินเยว่เองก็นึกขึ้นได้ นั่นเป็นเหลียงปินจริงๆ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน เหลียงปินน่าเกลียดยิ่งกว่าเมื่อก่อนอีกเมื่อก่อนแค่ตัวเตี้ยไปหน่อย แต่ตอนนี้ลงพุงด้วยจนทำให้ตัวกลมเหมือนลูกแตงโม ใบหน้าเริ่มมีกระ แม้ว่ารูปร่างจะดูอ้วนขึ้นไม่น้อย แต่แข้งขากลับดูอ่อนเรี่ยวอ่อนแรง ใต้ตาคล้ำเขียว ดูก็รู้ว่าเสพติดกามรมณ์เกินควร"ใช่เหลียงปินจริงๆ" ถูซินเยว่ขมวดคิ้ว แม้ว่าเธอกับเหลียงปินเคยหมั้นหมายกันไว้ แต่ตอนที่เธอข้ามมิติมา การหมั้นหมายนั้นก็เป็นโมฆะไปแล้ว ดังนั้น ตอนนี้สำหรับถูซินเยว่แล้ว เหลียงปินไม่ได้มีตัวตนอยู่ด้วยซ้ำไปถ้าจะให้พูดกันตามตรงก็คือเรื่องที่เกิดขึ้นกับถูหมิงซวน และความใจร้ายของเหลียงปิน ทำให้ทิ้งเป็นภาพจำที่ไม่ดีให้กับเธอผู้ชายที่เป็นแบบเหลียงปิน เรียกได้ว่าเลวแบบไม่มีใครทัดเทียมถูซินเยว่มองดูครู่หนึ่ง ก็เลิกมอง เธอหันกลับมาด้วยความรู้สึกเรียบเฉย และพูดอย่างเย็นชาว่า "ท่านแม่ เราไม่ต้องไปสนใจเขาหรอก ทานแค่อาหารของพวกเราก็พอ""อื้อ" นางหยูพยักหน้าที่จริงแล้วนางเองก็ไม่ค่อยชอบเหลียงปินเพราะตอนนั้นเหลียงปินถืออำนาจรังแกคน ไม่เ

    Last Updated : 2024-02-21
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   ​บทที่ 351 เงินสิบห้าตำลึง

    ลุงเฉียนมองลงไป แม้โถงใหญ่ข้างล่างจะมีคนนั่งอยู่เยอะก็ตามแต่ด้วยความที่เด็กน้อยคนนั้นร้องไห้หนักมาก ดังนั้นลุงเฉียนจึงมองเห็นครอบครัวที่ถูซินเยว่บอกได้ในทันทีเมื่อมองเหลียงปินและแม่ของเขา เห็นหน้าตาพวกเขาเหมือนพวกชาวบ้านโลภมากชอบเอาเปรียบ ลุงเฉียนคิดว่างานนี่ไม่น่ายากจึงพยักหน้าแล้วตอบ "ไม่ต้องห่วง เรื่องนี้มอบให้ข้าจัดการเอง"ถูซินเยว่พยักหน้ายิ้มมองลุงเฉียนถึงลุงเฉียนจะเป็นแค่พ่อบ้านจัดซื้อของโรงเตี๊ยมเทียนเซียง แต่เขาฉลาดและมีไหวพริบมาก ในเมื่ออีกฝ่ายบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วถูซินเยว่พยักหน้าแล้วยิ้มตอบ "ลุงเฉียนจัดการข้าย่อมวางใจอยู่แล้ว"เมื่อลุงเฉียนบอกไปว่าไม่มีปัญหาแล้วก็ขอตัวไปก่อนถูซินเยว่ถึงค่อยวางใจแล้วนั่งกินข้าวกับนางหยูอย่างสบายใจหลังจากกินข้าวเสร็จ ถูซินเยว่ออกไปทางอีกฝั่งพร้อมนางหยูเพราะไม่อยากเผชิญหน้ากับเหลียงปินพวกเขาจ้างคนขับรถที่ไว้ใจได้และนั่งรถม้าออกเดินทางไปผิงโจวแม้ถูซินเยว่จะออกไปแล้วแต่เหลียงปินยังคงนึกย้อนความอยู่แม้จะไม่ได้พูดออกมาแต่ในใจเหลียงปินยังรู้สึกคับข้องใจ เพราะเดิมทีถูซินเยว่ควรเป็นเมียของเขา แต่แล้วเพราะ

    Last Updated : 2024-02-21
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   ​บทที่ 352 ซาบซึ้งใจ

    สีหน้าคาหวังของเหลียงปินทำให้ลุงเฉียนหลุดหัวเราะออกมา"เจ้าจะเอาเท่าไหร่ลองว่ามาสิ?""สิบห้าตำลึง" เหลียงปินรีบยื่นมืออกมาสิบห้าตำลึง เมื่อครู่ถูซินเยว่ให้ลุงเฉียนมายี่สิบตำลึงมันเหลือเฟือมากแล้ว แต่ต่อให้ตระกูลสูงศักดิ์ซื้อบ่าวหรือสาวใช้ที่อายุครบหนึ่งขวบก็ยังไม่ถึงสิบห้าตำลึงเลย อย่างมากแค่ห้าตำลึงก็พอแล้วแต่ตอนนี้ลูกของเหลียงปินอายุยังไม่ถึงขวบก็จะเอาสิบห้าตำลึงแล้ว ราคามหาศาลเกินไปหรือเปล่า?คิดว่าเขาเป็นคนซื่อเหรอถึงได้กล้าเรียกจำนวนนี้ออกมาลุงเฉียนกลอกตาแล้วจู่ ๆ ใบหน้าอันอ้วนท้วมก็ฉีกยิ้มออกมาแล้วพูดว่า "คุณชายเหลียงคิดดีแล้วเหรอ? ท่านคิดว่าลูกสาวตัวเองมีค่ามาถึงสิบห้าตำลึงเลยเหรอ?"เหลียงปินกระแอมไปหนึ่งที เขาเองก็รู้สึกละอายใจอยู่เหมือนกันเขาไม่ได้โง่ขนาดนั้นถึงคิดว่าเสี่ยวเถาเอ๋อร์จะขายได้ถึงสิบห้าตำลึง ต่อให้อีกหน่อยแต่งงานไปสินสอดอย่างมากก็แค่สิบตำลึง ยังไม่รวมที่ต้องเลี้ยงดูนางตลอดหลายปีอีก แล้วยังมีอะไรที่ไม่ต้องใช้เงินถึงสิบตำลึงอีก?แต่ทว่า เหลียงปินและมารดาเหลียงล้วนคิดว่าลุงเฉียนเหมือนจะชอบเสี่ยวเถาเอ๋อร์ของพวกเขามาก ดังนั้นทั้งคู่จึงหวังว่าจะได้ช้อนเงินจ

    Last Updated : 2024-02-21
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 353 สอบติดจอหงวน

    จากชิงเฉิงไปยังผิงโจว เดินทางเพียงแค่ไม่กี่วันเท่านั้น สามวันให้หลัง ถูซินเยว่กับนางหยูก็มาถึงเมืองผิงโจวทั้งคู่มาถึงบ้านพักในเมืองผิงโจว นั่งยังไม่ทันได้ก้นร้อน ก็ได้รับจดหมายที่ส่งมาจากเมืองหลวง"ต้องเป็นจื่อหังแน่" นางหยูรอคอยข่าวของซูจื่อหังที่มาจากเมืองหลวงนานแล้ว บัดนี้เห็นจดหมายมา ก็แย้มยิ้มหน้าบานทันที"ถึงเวลานี้แล้ว ผลการสอบน่าจะประกาศออกมาเรียบร้อย"ขณะที่ถูซินเยว่กำลังฉีกจดหมายอยู่ นางหยูรีบเตือนนางให้รู้เดิมทีถูซินเยว่ยังคิดว่า จดหมายของซูจื่อหังฉบับนี้เพียงแต่แจ้งข่าวธรรมดา แต่พอฟังนางหยูพูดเช่นนี้ ฉับพลันนางก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาบ้าง การสอบจอหงวนในสมัยโบราณ แทบไม่ด้อยกว่าการสอบเอ็นทรานซ์ของยุคสมัยใหม่ เพราะเป็นการชี้ชะตาของคน ๆ หนึ่งก็ว่าได้ ต่อให้ถูซินเยว่เอง ก็ยังรู้สึกหายใจติดขัดขึ้นมา"ท่านแม่" เมื่อนำจดหมายออกมาแล้ว ถูซินเยว่ก็กลายเป็นสีหน้าอมทุกข์ กล่าวอยางอ่อนใจว่า "ก่อนสอบก็ตื่นเต้นนัก มาตอนนี้เป็นเช่นนี้อีก จนข้าแทบไม่กล้าเปิดอ่านแล้ว"พูดพลาง นางก็ยื่นจดหมายส่งให้นางหยู แต่มาคิดอีกที นางหยูอ่านหนังสือไม่ออกนี่นา จึงต้องนำกลับมาอีกครั้งเห็นนางหยูสองมื

    Last Updated : 2024-02-21
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 354 คำเชิญของไป๋อี้หรัน

    "ไม่พบตั้งนาน ได้ยินว่าเจ้ากลับไปยังชิงเฉิง" สายตาของไป๋อี้หรันจับจ้องที่หน้าท้องเริ่มนูนขึ้นของถูซินเยว่ พลางยิ้มอย่างดีใจและถามว่า "เด็กเป็นอย่างไรบ้าง?""ทุกคนสบายดี" ถูซินเยว่ชงน้ำชาให้ไป๋อี้หรันถ้วยหนึ่ง นั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเขา มองดูสีหน้าแดงปลั่งของไป๋อี้หรัน ร่างกายที่เคยซูบผอมก็เริ่มกำยำมากขึ้น จึงได้กล่าวว่า "ดูท่า พิษในตัวท่านคงถอนหมดแล้วจริง ๆ เพราะหน้าตาทุกวันนี้ ต่างจากเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิง เปลี่ยนแปลงไปมาก"ไป๋อี้หรันหัวเราะเสียงต่ำและกล่าวว่า "ขอบคุณท่านหมอเทวดา"พูดพลางเขาก็ลุกขึ้นยืน และโค้งคำนับให้แก่ถูซินเยว่ถูซินเยว่รีบกล่าวตอบ "ที่จริงท่านก็ไม่ต้องเกรงใจถึงเพียงนี้ การช่วยเหลือท่าน ข้าก็ได้รับผลประโยชน์จากตระกูลไป๋เช่นกัน หากท่านยังมาเกรงใจอีก ข้ากลับวางตัวไม่ถูกมากกว่า" ไป๋อี้หรันคารวะจบ ก็นั่งลงที่เก้าอี้ตามเดิม "ท่านหมอเทวดาเปรียบดั่งพ่อแม่ที่ชุบชีวิตให้ข้าใหม่ ทุกครั้งที่พบเจอ จึงต้องให้เกียรติคารวะก่อน แต่ว่า แต่ว่า ที่มาวันนี้ ก็ใช่ว่าเจาะจงจะมาขอบคุณท่านหมอเทวดาเสียทีเดียว เพราะได้ยินว่าพวกท่านจะไปยังเมืองหลวง ข้าจึงรีบมาพบ"ถูซินเยว่ได้ยินเขาพูด

    Last Updated : 2024-02-21
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 355 เรื่องบาดหมางของตระกูลกู้

    คือกู้เยว่หวาถูซินเยว่จำเสียงของนางได้ แทบจะในฉับพลันทันใดแต่ว่า นางก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย นี่มันเวลาไหน ทำไมจู่ ๆ กู้เยว่หวามาหาถึงบ้านได้เพราะเท่าที่นางรู้ นับแต่เฉินหวานไปจากเมืองผิงโจว กู้เยว่หวาก็ไม่ค่อยได้มาหาตนอีกถูซินเยว่รีบเปิดประตูเร็วพลัน ที่ไหนได้ กู้เยว่หวายืนอยู่ด้านนอกกลับสองตาแดงก่ำ ซ้ำยังตาบวมปูด แสดงถึงว่าได้ผ่านการร้องไห้อย่างหนักมา"นี่มันเกิดอะไรขึ้น" กู้เยว่หวาเป็นหญิงสาวที่ใสซื่อ ถูซินเยว่จึงค่อนข้างชอบนางอยู่มาก เมื่อเห็นนางร้องห่มร้องไห้จนน่าสงสารเช่นนี้ จึงรีบดึงตัวเข้ามาในบ้านทันที"ซินเยว่" กู้เยว่หวาขยี้ตาตนเอง เช็ดน้ำตาจนแห้ง กล่าวด้วยน้ำเสียงแหบเครือว่า "ข้าไม่รู้จะไปที่ไหนได้อีก จึงต้องมาอยู่กับเจ้าชั่วคราวที่นี่"ถูซินเยว่หยุดชะงัก รู้แล้วว่าคงเกิดอะไรขึ้นแน่"ทำไมไม่กลับบ้านล่ะ ที่บ้านเกิดเรื่องหรืออย่างไร?""ไม่ใช่" กู้เยว่หวาส่ายหน้าก่อน แต่แล้วก็พยักหน้า กล่าวเสริมต่อว่า "ใช่ ข้าก็ไม่รู้จะพูดยังไงดี ซินเยว่ ข้าไม่อยากกลับไปบ้านอีกแล้ว ข้ารู้สึกว่าตัวเองไม่มีบ้านอีก""อยู่ดี ๆ ทำไมพูดจารุนแรงเช่นนี้ล่ะ"ถูซินเยว่เห็นนางร้องไห้จนน่าสงสา

    Last Updated : 2024-02-21
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 356 สามีภรรยาแตกหัก

    กู้เยว่หวาเงยหน้ามองถูซินเยว่ แววตาเป็นประกายวูบขึ้น แต่แล้วก็กลายเป็นหม่นลงอีก นางกล่าวอย่างอ่อนใจว่า "ที่บ้านกลายเป็นแบบนี้แล้ว ถึงข้ากลับไปยังจะทำอะไรได้อีก? ขนาดท่านแม่ยังรังเกียจข้า แล้วไม่รู้ว่าท่านพ่อจะยิ่งเกลียดชังหรือเปล่า"เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ กู้เยว่หวาก็พูดอย่างสิ้นหวังต่อ "ยังมีหลินเพียวเหมียว นางเป็นคนสวยงามนัก บุคลิกก็สง่างาม ข้าไม่เข้าใจเลยจริง ๆ เหตุใดผู้หญิงประเภทนี้ จึงยอมเป็นอนุของพ่อข้าได้ นางหวังอะไรกันแน่?"หวังอะไรน่ะหรือ?ถูซินเยว่ก็ไม่รู้ว่าหลินเพียวเหมียวต้องการอะไรเช่นกัน แต่มีเรื่องหนึ่งที่นางมั่นใจเต็มร้อย ก็คือทั้งใต้เท้ากู้และกู้ฮูหยิน จะไม่ถือเอาเรื่องนี้เป็นเหตุ จนตัดขาดกับกู้เยว่หวาแน่นอนเพราะบัดนี้ ถูซินเยว่ก็กำลังจะเป็นแม่คน ฉะนั้นนางจึงรู้ดีว่า ในสายตาของพ่อแม่ทุกคน ลูกมีความสำคัญเพียงไหนอีกอย่าง ตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา กู้เยว่หวาได้รับการเลี่้ยงดูจากพวกท่านเป็นอย่างดี แล้วจะขัดขาดง่าย ๆ ได้อย่างไร"นี่เป็นเรื่องของผู้ใหญ่" ถูซินเยว่ลูบแผ่นหลังของกู้เยว่หวา ปลอบใจนางและกล่าวว่า "เราเกิดเป็นบุตรหลาน เรื่องเช่นนี้ก็ปล่อยให้พ่อแม่ไปจัดการเองเถอะ

    Last Updated : 2024-02-21
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 357 หย่าร้าง

    น้ำเสียงของถูซินเยว่มั่นใจเต็มเปี่ยมกู้เยว่หวาจ้องมองถูซินเยว่นิ่งอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงได้กล่าวต่อ "สามีภรรยาคือคน ๆ เดียวกัน เจ้าเชื่อใจเขาเช่นนี้ย่อมเป็นเรื่องดี แต่ว่า แต่ซักวันหนึ่ง เกิดสามีเจ้านอกใจจริง ๆ เจ้ามิเสียใจแย่หรอกหรือ?"กู้เยว่หวาใช่ว่าจะมีเจตนาทำให้เสียบรรยากาศ เพียงแต่หลังเกิดเหตุการณ์พ่อแม่ของนางมา ทำให้ยากจะเชื่อได้ว่า ระหว่างสามีภรรยาจะได้อยู่ร่วมอย่างมีความสุขจริง ๆเดิมทีกู้เยว่หวาเพียงแต่ถามไปเรื่อยเปื่อย แต่ไม่คาดคิดว่า ถูซินเยว่จะเอาเรื่องนี้ไปขบคิดอย่างจริงจัง นางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงได้กล่าวว่า "หากว่าซูจื่อหังนอกใจข้าจริง ข้าก็คงไม่อดทนเช่นกัน ถึงตอนนั้นอาจจะพาลูกหนีไป และต่อจากนั้น ก็จะไม่เกี่ยวข้องใด ๆ กับเขาอีก ถือว่าในอดีตตัวเองตาบอด ดูคนผิดไป"กู้เยว่หวาหยุดชะงัก มองดูถูซินเยว่ด้วยความแปลกใจ คล้ายกับได้พบเจอคนที่ตนไม่เคยรู้จักมาก่อนอย่างนั้น นางถอนใจและกล่าวว่า "เจ้าเป็นคนใจแข็งนัก หากเป็นข้า คงไม่กล้าทำเรื่องเช่นนี้ออกมา อย่างตอนนี้แม่ข้าทะเลาะกับท่านพ่อก็จริง นางเพียงแต่โกรธว่า เหตุใดท่านพ่อต้องนอกใจนาง แต่ไม่เคยคิดหนีออกจากบ้านแม้แต่

    Last Updated : 2024-02-21

Latest chapter

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 381 ช่างคล้ายคลึงนัก

    ทั้งคู่เดินถึงหน้าประตู ปะเหมาะเวลานี้ จวนแม่ทัพหลิ่วก็มีคนเดินออกมาเช่นกัน"คนนี้ก็คือใต้เท้าซูที่เจ้าชอบอย่างงั้นหรือ" ฮูหยินหลิ่วเหลียวมองบุตรีซึ่งอยู่ข้างกาย สื่อเป็นนัยให้อีกฝ่ายอย่าได้วู่วามทุกวันนี้คราใดที่หลิ่วโหรวโหรวเห็นถูซินเยว่กับซูจื่อหังเดินมาด้วยกัน ด้วยท่าทีรักใคร่ปรองดอง นางจะรู้สึกเดือดดาลในใจ ราวกับภูเขาไฟที่ใกล้ระเบิดกระนั้นนางทำเสียงฮึดฮัด "ถูซินเยว่มีวันนี้ได้ ก็เพราะอาศัยบารมีซูจื่อหัง แต่คอยดูไปเถิด หญิงบ้านนอกเช่นนาง ใหม่ ๆ ยังพอทำให้ซูจื่อหังพอใจได้บ้าง แต่พอนานวันเข้า ได้เห็นสาวงามในเมืองหลวงมากมาย ความรักของพวกเขายังมั่นคงเหมือนแต่ก่อนได้อีก ก็แสดงว่าผิดมนุษย์แล้ว"ฮูหยินหลิ่วแสดงท่าทีนิ่งเฉยแต่บุตรีพูดก็มีเหตุผล ผู้ชายในโลกนี้น้อยนักที่จะไม่คิดได้ใหม่ลืมเก่า ยกตัวอย่างเช่นสามีของนาง ในอดีตก็เคยให้คำมั่นสัญญา ว่าแม้เป็นหรือตายก็จะขอรักอดีตคนรักเพียงผู้เดียว แต่พอบ้านเขาประสบภาวะเดือดร้อน สุดท้ายก็มาเลือกแต่งงานกับตน จนบัดนี้ลืมหน้านังคนแพศยานั่นไปถึงไหนต่อไหนแล้วแสดงว่าความจริงใจของผู้ชายคือสิ่งที่ไร้ประโยชน์ปกติเสแสร้งทำเป็นรักมั่นจริงใจ แต่พอเอ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 380 ลูกสาวจอมโง่เขลา

    หากซูจื่อหังไม่รังเกียจถูซินเยว่แล้วล่ะก็ งั้นต่อให้หลิ่วโหรวโหรววทุ่มเทแรงกายแรงใจมากแค่ไหนก็ตาม เกรงว่าก็คงไม่สามารถเข้าไปในจวนสกุลซูได้ดั่งใจปรารถนาหรอกแต่น่าขําที่ลูกสาวคนนี้ของนางกลับไม่รู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้เลย รู้แต่ไปเหยียดหยามถูซินเยว่อย่างโง่เขลาเท่านั้นนี่ถ้าทําให้ถูซินเยว่อับอายต่อหน้าทุกคนก็ว่าไปอย่าง แต่นี่กลับยังโดนถูซินเย่วตอบโต้กลับมาจนขายหน้า นี่ไม่ใช่เป็นการตบหน้าตัวเองหรือไง?เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินหลิ่วก็ไม่อยากเห็นหน้าลูกสาวคนนี้แม้แต่นิดนางขมวดคิ้ว จู่ ๆ ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า "ใช่แล้ว เรื่องนี้ข้ายังไม่ได้บอกพ่อเจ้า ถ้าพ่อเจ้ารู้ ดูสิว่าเขาจะสั่งสอนเจ้ายังไง เจ้าระวังตัวหน่อย"ภายใต้การเกลี้ยกล่อมและคําเตือนของฮูหยินหลิ่ว ในที่สุดหลิ่วโหรวโหรวก็หลับตาลง นางนั่งอยู่บนที่นั่งของตัวเองอย่างเซ็ง ๆ ทั้งหน้ามีแค่อารมณ์เดียวนั่นก็คือ นางไม่มีความสุขฮูหยินหลิ่วถอนหายใจอย่างจนใจ แล้วเงยหน้ามองฝั่งตรงข้าม ตําแหน่งของนาง มีเพิงดอกไม้อยู่ตรงกลางบดบังร่างของถูซินเยว่พอดี ดังนั้นนางจึงเห็นเพียงโครงร่างผ่านเถาวัลย์อย่างคลุมเครือเท่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 379 จางเยียนหรัน

    วันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงเชิญตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ก่อนมาซูจื่อหังเคยพูดกับนางว่า เขากับตระกูลจางเข้ากันได้ดีในราชสํานัก ดังนั้นวันนี้ ถูซินเยว่ก็ไม่อยากสร้างปัญหาอะไรให้กับตระกูลจาง เพื่อไม่ให้คนอื่นรู้สึกว่าพวกเขาไม่มีมารยาทเห็นเหล่าฮูหยินกับหลิ่วโหรวโหรวเพิ่งเยาะเย้ยเธอเมื่อครู่ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ถูซินเยว่ก็สบายใจไม่น้อย ก้มหน้าก้มตากินอาหารด้วยตัวเองไม่สนใจใครทั้งนั้นในขณะที่เธอกําลังกินอย่างมีความสุข จู่ ๆ ก็มีคนผลักแขนของเธอเบา ๆถูซินเยว่นิ่งงันไปพักหนึ่ง หันหน้ากลับไปอย่างสงสัยใคร่รู้ เห็นหญิงสาวในชุดสีเหลืองคนหนึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ ตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ กําลังใช้ดวงตากลมโตจ้องมองเธออย่างอยากรู้อยากเห็นดวงตาของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและไร้เดียงสา แต่กลับไม่มีเจตนาร้ายเลยแม้แต่น้อยถูซินเยว่เคยเห็นคนมามากมาย เรื่องเหล่านี้เธอยังพอสามารถมองออกได้ตั้งแต่แรกเห็นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีเจตนาร้าย ท่าทีของเธอก็อ่อนโยนลงมาก"ไม่ทราบว่าแม่นางมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?"ถ้าเธอจําไม่ผิด คนที่นั่งข้างเธอเมื่อกี้น่าจะเป็นผู้หญิงที่เยาะเย้ยเธ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 378 หน้าแตก

    ถูซินเยว่ชะงัก และรู้สึกตลก เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายก็รู้สึกประหลาดใจ ตอนที่ออกจากมาตอนเช้า เธอได้สวมใส่เครื่องประดับมาหลายชิ้นจริงๆแต่ระหว่างทาง ถูซินเยว่รู้สึกว่าต่างหูระเกะระกะเกินไป จึงแอบถอดมันออกและวางไว้บนรถม้าคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าในงานเลี้ยงจะมีคนไม่กินไม่ดื่ม แต่หันมาจับจ้องที่เครื่องหัวของตนเองแทนถูซินเยว่ยื่นมือไปจับที่ผมของตนเองอัตโนมัติ จากนั้นก็พูดเสียงราบเรียบว่า "ในเมื่อวันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพ แขกสำคัญจึงเป็นตระกูลจาง แล้วเหตุใดข้าจักต้องแต่งตัวให้ดูดีขนาดนั้น""จนก็ยอมรับว่าจนเถอะ จะหาเหตุผลอะไรมาอ้างมากมายไปทำไม ในที่นี้ใครไม่รู้บ้างว่าพวกเจ้ามาจากบ้านนอก ข้าเองก็แค่รู้สึกเสียดายแทนใตเท้าซูเท่านั้น ทั้งที่มีมีอนาคตอันดี หากแต่งงานกับบุตรสาวขุนนางสักคน ก็คงยิ่งช่วยส่งเสริมให้เจริญก้าวหน้า แต่กลับเลือกจะเฝ้าอยู่แค่หญิงชาวบ้านเฉกเช่นเจ้า..."ประโยคหลังแม้ว่าจะไม่ได้พูดต่อจนจบ แต่ก็สามารถเข้าใจได้ถึงแม้บนใบหน้าของถูซินเยว่จะแสดงสีหน้าใดๆ แต่สาวรับใช้ที่อยู่ข้างๆ สีหน้าย่ำแย่มากแล้วนางอาศัยอยู่ที่ตระกูลซูมานาน ก็พอจะรู้ว่าถูซินเยว่ไม่ได้ไม่มีเงิน และเงินส่วนใ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 377 ดูถูก

    ตั้งแต่ตอนที่อยู่ในหมู่บ้านต้าเย่ เพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หรือเพราะผลประโยชน์อันน้อยนิด แม้เป็นครอบครัวเดียวกัน ก็ยังสามารถโกรธแค้นกันจนตัดญาติขาดมิตรไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นใด แค่ในตระกูลถู เพียงเพื่อสินสอดของตระกูลเหลียง ถูชิวหลานก็ดันทุรังจะสับเปลี่ยนตัวเธอกับลูกสาว ภายหลังยังไม่ยอมรับด้วย แถมยังผลักไสความผิดทุกอย่างไปที่เจ้าของร่างหากเธอไม่ได้ข้ามิติมาอยู่ในร่างของเจ้าของร่างซื่อบื้อคนนั้น นางจะใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลซูอย่างไร เกรงว่าคงเหลือแต่เสี้ยววิญญาณแล้วอย่างด้านซูเฟิ่งอี๋ในตระกูลซู ตอนนั้นพวกเขาเองก็หวงแหนเงินเล็กๆ น้อยๆ เห็นชีวิตนางหยูกำลังตกอยู่ในอันตรายก็ยังไม่ยอมรักษาให้นางเรื่องราวของญาติสนิทมิตรสหายที่ทำร้ายคนใกล้ตัวเพียงเพื่อผลประโยชน์และเงินทองมีมากมายเกินกว่าจะพูด ขนาดบ้านเธอยังเป็นเช่นนี้ แล้วต้าฉีที่มีบ้านสกุลมากมายขนาดนี้ล่ะชาวบ้านธรรมดาทั่วไป อาจทำไปเพื่อเงินทอง แต่องค์ชายสามกับองค์ชายใหญ่ กลับทำเพื่อแก่งแย่งแผ่นดิน ขนาดที่เป็นการต่อสู้เพื่อความเป็นความตาย และไม่มีใครยอมอ่อนข้อให้ใคร ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้"ชีวิตคนเรามีหลายเรื่องที่มักไม่เป็นดังที่หวัง ข

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 376 อิจฉา

    "วันนี้เป็นงานเลี้ยงของตระกูลจาง ข้าก็นึกว่าเจ้าจะพูดคุยเรื่องอะไรกับข้า คาดไม่ถึงว่าจะใช้เรื่องนี้มาข่มขู่ข้าในที่ๆ ไม่มีคนเช่นนี้?"ชายผู้นั้นหัวคิ้วกระตุก รีบก้มศรีษะลงแล้วพูดว่า "กระหม่อมมิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่กระหม่อมทราบว่าองค์ชายสามเป็นคนเฉลียวฉลาด แต่ไหนแต่ไรมา การที่บุตรสายตรงรับสืบราชบัลลลังก์ต่อก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล แล้วไฉนองค์ชายสามจึงมิตั้งใจเป็นข้าราชบริพานบริสุทธิ์ คอยค้ำจุนเสด็จพี่ของพระองค์เล่าพ่ะย่ะค่ะ?"ฉีหวานหัวดราะเสียงดัง น้ำเสียงเย็นเยือกลงฉับพลัน เขาสะบัดแขนเสื้อ พร้อมสีหน้าเย็นชา "แม่ทัพหลิ่วพูดเช่นนี้ ช่างไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ตอนที่ข้าพบกับมือสังหารไล่เอาชีวิตตอนที่รีบเดินทางกลับมาจากเป่ยเจียงอันไกล แม้วันนี้ข้าไม่พูด เชื่อว่าท่านแม่ทัพเองก็คงทราบดีว่าเป็นฝีมือของใคร?"ถูซินเยว่ที่นั่งอยู่ในศาลาชะงักงัน ที่แท้คนที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับฉีหวานก็คือแม่ทัพหลิ่วนี่เอง หากนางจำไม่ผิดละก็ ก่อนหน้านี้ที่หน้าประตูตระกูลจาง ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวก็คือแม่ทัพหลิ่วผู้นี้สินะ?เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ถูซินเยว่ก็รู้สึกเซ็งขึ้นมา ถ้ารู้แต่แรกว่าพวกเขาจะคุยกันเรื่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 375 แอบฟัง

    หลิ่วโหรวโหรวก็มองเห็นพวกเขาเช่นกัน และเมื่อนึกถึงความสนิทสนมของถูซินเยว่และซููจื่อหังวันนั้นในจวนซู นางก็กำหมัดแน่นแม่ทัพหลิ่ว หลิ่วถิง เมื่อเห็นว่าบุตรสาวของตนเองอยู่ๆ ก็หน้าตาไม่สดใส ทั้งที่เมื่อสักครู่ยังดีอกดีใจ ก็ขมวดคิ้วถามว่า "เป็นอะไรไป? มีคนรู้จักรึ?""เจ้าค่ะ..." หลิ่วโหรวโหรวกำลังจะอ้าปากพูด ฮูหยินหลิ่วที่อยู่ข้างๆ ก็ผลักนาง และส่งสายตาให้กับอีกฝ่ายหลิ่วโหรวโหรวจึงได้แต่หุบปากเงียบอย่างไม่พอใจนักฮูหยินหลิ่วเดินไปข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวอย่างเงียบๆ กระตุกแขนเสื้อของบุตรสาวและพูดเตือนเสียงเบาว่า "เจ้าอย่าได้พูดถึงเรื่องของตระกูลซูอีก หากเจ้าพูดถึงอีกข้าจะไม่ยกโทษให้เจ้า! เมื่อกี้เจ้าไม่เห็นฮูหยินตระกูลซูหรือย่างไร? นางท้องโตขนาดนั้นแล้ว! เจ้าคิดจะไปเป็นภรรยาน้อยของคนอื่นหรือ? พูดออกไปรังแต่จะกลายเป็นเรื่องตลก!"หลิ่วโหรวโหรวสีหน้าย่ำแย่ทันทีแม้ว่าซูจื่อหังมีภรรยาหลวงอยู่แล้ว แต่ในใจนางนั่นก็เป็นเพียงหญิงบ้านนอกที่เทียบกับตนเองไม่ได้เลยด้วยซ้ำ นางซึ่งเป็นบุตรีสายตรงของจวนแม่ทัพ จะตกเป็นรองอยู่เป็นภรรยาน้อยของซูจื่อหังหรืออย่างไร?ลำพังแค่คิด นางก็ไม่ต้องการหลิ่วโหรวโหร

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 374 งานเลี้ยงตระกูลจาง

    ขณะที่ถูซินเยว่กำลังยุ่งอยู่กับการเปิดร้านขายเครื่องประดับ และนางหยูกำลังกังวลเรื่องลูกค้าอยู่นั้น เทียบเชิญฉบับหนึ่งก็ได้ส่งมาถึงที่บ้าน"เป็นงานฉลองวันเกิดของมารดาเฒ่าตระกูลจางจากเสนาบีดีกระทรวงการคลัง"ถูซินเยว่ถือเทียบเชิญไว้ในมือและยิ้มอย่างประหลาดใจ "ในเมืองหลวงแห่งนี้ข้านั้นไม่ได้รู้จักใครเลยสักคนหนึ่ง แต่นึกไม่ถึงว่าตระกูลจางจะส่งเทียบเชิญมาให้ข้า"สามีของตนเองก็เป็นข้าราชการขั้นเจ็ดเล็กๆ คนหนึ่ง แม้ว่าตระกูลจากจะไม่ใช่ข้าราชการชั้นสูง แต่ก็เป็นข้าราชการขั้นห้า และบรรพบุรุษก็ล้วนเป็นข้าราชการทั้งนั้น ซึ่งก็นับว่าเป็นตระกูลที่มีคุณธรรมสูงส่งการที่ส่งเทียบเชิญมาให้พวกเขาในงานเลี้ยงวันเกิดเช่นนี้ ก็เรียกได้ว่าไม่ได้ดูถูกพวกเขาเพียงแต่ คนในยุคโบราณส่วนมากจะดูแคลนคนทำธุรกิจ หากตนเองไปร่วมงานละก็ จะทำให้พวกเขารู้ว่าภรรยาของซูจื่อหังเป็นหญิงทำมาค้าขาย ก็ยากที่จะไม่ดูแคลนเดิมทีถูซินเยว่ไม่อยากไป แต่คาดไม่ถึงว่าซูจื่อหังจะหันมากุมมือเธอไว้ ยิ้มแล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจนักว่า "บุตรชายของใต้เท้าจางสนิทกับข้า ภรรยาของข้าเป็นหญิงสาวที่มีเสน่ห์มากที่สุดในใต้หล้า ไม่ว่าทำอะไรก็ดีทั้งนั้น แล

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 373 ฮ่องเต้หมดสติ

    สำหรับถูซินเยว่แล้ว จะเป็นลูกผู้ชายหรือผู้หญิงก็ไม่เป็นไร สิ่งสำคัญคือ การที่ลูกน้อยสามารถคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัยเพราะในยุคโบราณการที่ผู้หญิงคลอดลูกนั้นเปรียบเสมือนการเดินไปขอบประตูนรก ดังนั้นการที่สามารถให้กำเนิดลูกได้อย่างปลอดภัยถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย เธอจึงไม่คาดหวังอย่างอื่นอีกแต่ว่าช่วงนี้เธอมักจะถูกนางหยูล้างสมองอยู่บ่อยๆ จนถูซินเยว่เองก็คิดว่าท้องนี้อาจจะเป็นลูกผู้ชายก็ได้เป็นผู้ชายก็ดี เพราะความคิดปิดกั้นในยุคโบราณนั้นสร้างความลำบากให้กับหญิงสาวอย่างมาก หากเป็นเด็กผู้ชาย ก็สามารถลดความลำบากหลายๆ อย่างให้เธอได้ไม่น้อยเดิมทีถูซินเยว่อยากจะถามฉงเป่าว่าในท้องตนเองนั้นเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิงกันแน่ ซึ่งตามปกติแล้วขอเพียงเอาของกินมาล่อนิดล่อหน่อย ฉงเป่าก็ยอมพูดทุกอย่าง มีเพียงแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่ไม้ว่าถูซินเยว่ถามอย่างไร อีกฝ่ายก็ไม่ยอมบอก"อย่างไรเสียลูกก็อยู่ในท้องของข้า เจ้าจะบอกหน่อยมิได้หรือว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง? ถึงเจ้าพูดมา ด้วยเงื่อนไขการรักษาแบบนี้ข้าก็ทำอะไรเจ้าไม่ได้มิใช่หรือไง?"อีกอย่าง ถูซินเยว่เองก็ไม่มีความคิดการให้ความสำคัญชายมากกว่าหญิงด

DMCA.com Protection Status