แชร์

บทที่ 340 แม่เฒ่าไม่ไหวแล้ว

ผู้เขียน: ฮวาฮวาน่งหยวี่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-02-21 11:20:42
แท้ที่จริงแล้ว โดยพื้นฐานนิสัยของนางหยูนั้น เป็นหญิงที่หัวโบราณเป็นอย่างมาก ซึ่งสตรีโบราณมักจะอนาถเช่นนี้เสมอ ถูกสั่งสอนมาแต่เล็กว่าเมื่อออกเรือนไปแล้ว ก็ต้องปรนนิบัติรับใช้ครอบครัวสามีให้ดี ไม่ว่าพวกเขาจะเห็นนางเท่าเทียมหรือไม่ ก็ต้องถือความกตัญญูไว้ก่อน

แม่เฒ่าตระกูลซูหากว่ารังแกนางหยู อย่างมากก็แค่ถูกนินทาว่าเป็นแม่สามีที่ใจร้าย แต่ทว่า ถ้าสะใภ้ไร้ซึ่งความกตัญญู ก็อาจถูกผู้คนแช่งชักหักกระดูกเลยทีเดียว

ด้วยเหตุนี้ แม้ว่าที่ผ่านมา แม่เฒ่าตระกูลซูแทบไม่ใยดีต่อชีวิตของนางหยูเลย และบัดนี้นางมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ในใจก็ยังคิดถึงแม่เฒ่าตระกูลซูอยู่ดี

ถูซินเยว่แม้จะไม่พอใจในเรื่องนี้ แต่ก็ไม่อาจห้ามปรามนางหยูได้

นับแต่ซูฟาเสียงแต่งไปเข้าบ้านของภรรยา สุขภาพของแม่เฒ่าตระกูลซูก็นับวันจะย่ำแย่ลง ตอนที่นางหยูย้ายออกไปนั้น อีกฝ่ายยังพอมีสติอยู่บ้าง เพียงแต่ไม่ค่อยพูดจามากนัก แต่นึกไม่ถึงว่า เมื่อนางหยูกลับมาอีกครั้ง แม่เฒ่าจะดูทรุดโทรมลงไปมาก

ในสายตาของนางหยู เห็นนางซูบผอมจนเหลือแต่กระดูกแล้ว

"ท่านแม่?" ขณะเดินไปถึงข้างเตียง เห็นเบ้าตาลึกของแม่เฒ่าตระกูลซูแล้ว นางหยูบอกไม่ถูกว่านั่นคือควา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   ​บทที่ 341 กลับบ้านแม่

    แม้ว่าที่ผ่านมาแม่เฒ่าตระกูลซูจะทำเรื่องไม่ดีไว้มาก แต่จะว่าไป อย่างไรก็เป็นผู้ใหญ่ของพวกนาง หลังจากที่นางหยูพูดประโยคนี้ออกมาแล้ว บรรยากาศการกินข้าวก็ดูจะตึงเครียดลงมากและปกตินางหยูซึ่งไม่ค่อยจะบ่นอะไรมากมายนัก จู่ ๆ ก็กลายเป็นพูดมากขึ้นนางกินเนื้อที่อยู่ในชามอย่างไม่รู้รสชาติพลางกล่าวว่า "หลายปีมานี้ แม้ข้าจะคอยดูแลปรนนิบัติท่านย่าของเจ้าแทนท่านปู่ ก็นับว่าพยายามเต็มที่แล้ว แต่ท่านย่าของเจ้า ยังไงก็ไม่ชอบข้าอยู่ดี ตอนนี้มาเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นอีก เมื่อครู่นี้ข้าคุกเข่าอยู่ข้างเตียงเสียตั้งนาน พูดจากับนางมากมาย นางยังแทบไม่ตอบกลับซักคำ เรื่องนี้ถึงเราจะอยากยุ่งเกี่ยว ก็คงอับจนด้วยปัญญา เอาแต่เอาใจช่วยเท่านั้น"ถูซินเยว่เข้าใจในฉับพลัน แม่เฒ่าตระกูลซูไม่ต้องการพบเห็นครอบครัวของนาง แม้จะอยู่ในช่วงบั้นปลายของชีวิต ก็ยังไม่เห็นพวกนางอยู่ในสายตา นางหยูจึงรู้สึกหมดหนทาง ต่อให้บากหน้าไปหานางอีก ถึงเวลาถ้าเกิดอะไรขึ้น รังแต่จะเป็นผลร้ายมากกว่าเมื่อเป็นเช่นนี้ ถูซินเยว่ก็รู้สึกปวดหัวยิ่งนัก"แล้วท่านแม่คิดจะทำยังไงต่อ? พรุ่งนี้ให้หมอหลี่มาดูที่บ้านอย่างงั้นหรือ?"เห็นซูเฟิ่งอี๋ดูแลแม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   ​บทที่ 342 เอาของมาฝาก

    "อาซ้อถู ตอนที่ข้าเพิ่งรู้ ก็ดีใจเหมือนท่านเช่นกัน แต่เรื่องนี้เป็นความจริงแน่นอน" นางหยูเอ่ยถึงเรื่องนี้ทีไร สีหน้าแววตามีแต่รอยยิ้มอย่างสุขใจสายตาของนางหลินรีบมองไปยังหน้าท้องของถูซินเยว่ เมื่อครู่ไม่ทันได้สังเกตจึงไม่เห็นอะไร แต่ตอนนี้ดูดี ๆ จริงซะด้วย หน้าท้องของบุตรสาวเริ่มนูนขึ้นบ้างแล้ว"ตัั้งครรภ์จริงนั่นแหละ" นางหลินแทบจะกลั้นรอยยิ้มไว้ไม่อยู่ นางหัวเราะเสียงและกล่าวว่า "วิเศษเลย ๆ ช่างดียิ่งนัก ไม่นึกว่าซินเยว่จะมีลูกจริง ๆ อย่างน้อย ก็ถือว่าไม่ผิดต่อตระกูลซูของท่าน"นางหลินพูดไปพูดมา อดไม่ได้ที่จะซับน้ำตาให้ตัวเองถูซินเยว่รีบตรงเข้าพยุงนางหลิน กล่าวว่าอ่อนใจว่า "ท่านแม่ นี่เป็นเรื่องที่น่าดีใจ ทำไมท่านกลับเศร้าโศกซะล่ะ อย่าร้องไห้เลยนะ ถ้าท่านร้องไห้ อาจเป็นเรื่องอัปมงคลก็ได้"นางหลินรีบพยักหน้าโดยพลัน กล่าวอย่างยินดีว่า "วันนี้ไม่รู้ว่าเจ้าจะมา พ่อเจ้ายังไปทำงานในนาอยู่ เสี่ยวเป้ยก็ไปเข้าเรียนที่สำนักบัณฑิตในหมู่บ้าน เจ้ารอเดี๋ยวนะ แม่จะไปบอกท่านย่ากับท่านปู่ของเจ้าก่อน แล้วอยากกินอะไร เดี๋ยวแม่จะทำให้กิน"ท่าทีของนางหลินในเวลานี้ แทบไม่ต่างกับนางหยูตอนที่รู้ว่าถูซิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   ​บทที่ 343 ขอของขวัญ

    ถูชิวหลานไม่ได้รู้สึกประหลาดใจเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะเดิมทีนางแค่พูดไปเรื่อย แต่คาดไม่ถึงจริงๆ ว่าถูซินเยว่จะเตรียมของขวัญไว้ให้นางจริงๆเมื่อมองไปที่เสื้อผ้าของถูซินเยว่ ถูชิวหลานรู้สึกว่า สิ่งที่อีกฝ่ายเตรียมไว้ให้ จะต้องไม่ใช่ของที่เล็กน้อย แต่มีค่ามากๆ อย่างแน่นอนไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เมื่อคิดถึงตรงนี้ ถูชิวหลานก็รู้สึกว่าถูซินเยว่ ยัยคนชวนให้รังเกียจที่เห็นอยู่ตรงหน้า เหมือนจะไม่ขัดหูขัดตามากนักแล้วหลังลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ถูชิวหลานก็ถามอย่างหน้าด้านว่า "ซินเยว่ ไม่รู้ว่าเจ้าเตรียมของขวัญอะไรให้พวกเราหรือ?"ตนเองนานๆ จะมาที่บ้านตระกูลถู แต่ถูชิวหลานเอาแต่พูดถึงแต่ของขวัญ มิน่าถึงได้คิดสั้นให้ลูกสาวตัวเองแต่งงานกับเหลียงปิน จนทำลายชีวิตของถูหมิงซวนไปทั้งชีวิตซึ่งแม้แต่แม่เฒ่าตระกูลถูที่นั่งดูอยู่ก็ทนไม่ไหวแม่เฒ่าตระกูลถูเป็นคนหวงศักดิ์ศรีและหน้าตา ยิ่งอยู่ต่อหน้าผู้ที่อายุน้อยกว่าก็ยิ่งวางมาด แต่เมื่อถูชิวหลานพูดเช่นนี้ ก็เห็นได้ชัดว่ากำลังทวงขอของขวัญจากถูซินเยว่ตรงๆ ตระกูลถูเองก็ใช่ว่าไม่มีทรัพย์สิน ไม่ได้ยากจนถึงขนาดนั้น ทำแบบนี้คนที่ไม่รู้ คงจะคิดว่าพวกเขาหวังเงินเล็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   ​บทที่ 344 ความตั้งใจของเสี่ยวเป้ย

    เสี่ยวเป้ยเองก็ดีใจมาก เมื่อกี้ระหว่างทางกลับ นางหลินได้บอกกับเขาว่าในท้องของพี่สาวมีลูกน้อยแล้ว บอกให้เสี่ยวเป้ยระวังมากขึ้นตอนที่เล่นกับถูซินเยว่ อย่าเล่นตรงบริเวณหน้าท้องแรงๆเสี่ยวเป้ยไม่มีน้อง ดังนั้นจึงอยากรู้อยากเห็นเรื่องเด็กน้อยในท้องของถูซินเยว่มาก"ท่านพี่ ในท้องท่านพี่มีเด็กน้อยตัวเล็กๆ จริงหรือ?" เสี่ยวเป้ยกอดกระเป๋า และมองอีกฝ่ายด้วยท่าทีสงสัยถูซินเยว่พยักหน้า พูดว่า "ใช่แล้ว ในท้องพี่มีเด็กน้อยอยู่ แต่ว่าตอนนี้เขายังเล็กมากๆ ต้องรออีกหลายเดือน ให้เขาโตขึ้นก่อนถึงจะออกมาจากท้องได้""เด็กน้อยคนนี้ เป็นลูกของท่าพพี่กับพี่เขยหรือ?" เสี่ยวเป้ยถามด้วยทีท่าไร้เดียงสา"แน่นอนอยู่แล้ว" ถูซินเยว่ขบขันเล็กน้อย แล้วใช้มือลูบไปที่ศรีษะของเสี่ยวเป้ยอย่างจนปัญญา พูดว่า "เจ้าเด็กคนนี้ อยากรู้อยากเห็นไปหมด ไหนข้าลองทดสอบดูหน่อยสิว่าวันนี้เจ้าเรียนอะไรในสำนักบัณฑิตไปบ้าง?""ตั้งแต่ที่เข้าเรียนในสำนักบัณฑิต ข้าก็อ่านหนังสือได้เร็วขึ้น ขนาดอาจารย์ก็ยังชมว่าข้าเก่งด้วย" เมื่อพูดถึงเรื่องของสำนักบัณฑิต เสี่ยวเป้ยก็กระตือรือร้นขึ้นมาทันทีถูซินเยว่ทดสอบเสี่ยวเป้ยด้วยข้อสอบง่ายๆ เล็กน้อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   ​บทที่ 345 แบ่งหุ้น

    เมื่อคิดว่าครั้งนี้ออกจากหมู่บ้านต้าเย่ไปแล้ว ต่อไปคงจะกลับมาน้อยมาก ดังนั้นเมื่อเผชิญหน้ากับญาติสนิทมิตรสหายเหล่านี้ นางหยูก็รู้สึกอาลัยอาวรณ์ไม่น้อยเพราะอย่างไรเสียยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา นางหยูก็มีชีวิตอยู่ที่หมู่บ้านต้าเย่มาตลอด ตอนนี้อยู่ๆ จะต้องจากไป จึงเป็นธรรมดาที่จะไม่คุ้นชิน"ก่อนหน้านี้ขอบคุณทุกคนที่เหลือเหลือกัน หากไม่ได้ความช่วยเหลือจากทุกๆ ท่าน พวกเราก็คงไม่มีวันนี้" นางหยูยกแก้วเหล้าขึ้น แล้วพูดว่า "ข้าขอดื่มให้กับทุกท่านที่นี่""อาซ้อ ทำไมถึงได้พูดจาห่างเหินกันเช่นนี้เล่า ทุกคนที่นี่คนกันเองทั้งนั้น การช่วยเหลือกันก็เป็นเรื่องที่สมควรอยู่แล้ว" หยวนเป่ารีบลุกขึ้นยืนพูดว่า "อีกอย่าง ถ้าหากไม่ใช่เพราะซินเยว่ พวกเราเองก็คงไม่มีวันนี้เช่นกัน! บางที ตอนนี้ทุกคนอาจจะยังได้แต่ก้มหลังคดหลังแข็งดำดินปักข้าวอยู่ก็ได้ หากเกิดภัยแล้ง คงไม่มีใครรอด""นั่นสิๆ" คำพูดของหยวนเป่าเรียกเสียงเห็นด้วยจากทุกคนเพราะสิ่งที่เขาพูดมานั้นเป็นความจริง ถ้าหากไม่ใช่เพราะถูซินเยว่ละก็ ตอนนี้ทุกคนคงไม่ได้มีชีวิตที่ดีเช่นนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดไปถึงเรื่องการสร้างเนื้อสร้างตัวเลยหลังจากที่หมู่บ้านต้าเย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   ​บทที่ 346 เกิดเรื่อง

    นี่เป็นแผนการที่ถูซินเยว่คิดไว้ ซึ่งเธอไม่ได้ใจดีสูงส่งขนาดนั้น ที่ทำระบบแบบนี้ขึ้นมาเพื่อคนในหมู่บ้านต้าเย่ เพียงแต่ในอนาคต เธอไม่สามารถที่จะคอยอยู่การทำงานของทุกคนที่หมู่บ้านต้าเย่การสร้างระบบเช่นนี้ขึ้นมา ก็เพื่อป้องกันว่าอนาคตเมื่อตนเองไม่อยู่ ทุกคนก็จะเริ่มปล่อยปละละเลย กลับกันจะทำให้โรงงานเต้าหู้ดียิ่งขึ้นในเมื่อถูซินเยว่ตัดสินใจแล้ว ทั้งสองคนจึงไม่พูดอะไรมากมายอีก หยวนเป่าพยักหน้าพูดว่า "เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ช่วยเหลือชาวบ้าน ข้าไม่ปฏิเสธแน่นอน ซินเยว่ ข้าเป็นตัวแทนทุกคนขอบคุณเจ้า""พี่เองก็ไม่ต้องเกรงใจกันหรอก" ถูซินเยว่ยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า "หุ้นร้อยละห้าสิบตรงนี้ พวกพี่แยกร้อยละสิบออกมา แบ่งคนละครึ่งกับหลี่เม่า ถือเสียว่าเป็นคำขอบคุณที่หลายปีมานี้ พวกพี่ช่วยข้าดูแลบ้านข้าและโรงงานเต้าหู้"หยวนเป่ากับหลี่เม่าสบตากัน ดวงตาของทั้งคู่แสดงความซาบซึ้งใจหลักจากที่หารือเรื่องโรงงานเต้าหู้กับถูซินเยว่เสร็จแล้ว หยวนเป่ากับหลี่เม่าก็ทยอยกลับบ้านไปสองวันนี้ ถูซินเยว่ไปจัดการเรื่องต่างๆ นานภายในบ้าน ส่วนนางหยูได้เชิญหมอหลี่มาตรวจดูอาการแม่เฒ่าตระกูลซูอย่างละเอียดได้ยินซูเฟิ่งอี๋

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   ​บทที่ 347 งานศพ

    สามีของซูเฟิ่งอี๋มักไม่อยู่บ้านเป็นเวลานาน หลายปีมานี้ คนที่นางพึ่งพาได้ก็มีเพียงบ้านฝั่งแม่แม้ว่าเม่เฒ่าตระกูลซูจะเห็นใจนาง แต่หัวใจก็ยังคงลำเอียง ความรักก็มอบให้ลูกชายคนเล็กเสียมากกว่า ซูเฟิ่งอี๋รู้สึกไม่พอใจในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ดังนั้นหลังจากที่แม้เฒ่าตระกูลซูล้มหมอนนอนเสื่อ นางเองก็ไม่ได้ปรนนิบัติดูแลเต็มที่มากนักก่อนหน้านี้ถูกนางหยูว่าไปเช่นนั้น ซูเฟิ่งอี๋จะไม่รู้สึกหวั่นใจได้อย่างไรเพียงแต่พอนึกได้ว่าก่อนหน้านี้แม่เฒ่าเอาเงินทั้งหมดให้ซูฟาเสียง นางก็รู้สึกคลางแคลงใจนักนางจึงยืดเยื้ออยู่เรื่อย แต่กลับคาดไม่ถึงว่า จะยืดเยื้อจนแม่เฒ่าหมดลมหายใจตอนที่ถูซินเยว่กับนางหยูไปถึง ซูเฟิ่งอี๋กำลังคุกเข่าอยู่ที่หัวเตียง มองไปแม่เฒ่าตระกูลซูที่นอนลืมตาอยู่บนเตียง พร้อมกับร้องไห้อย่างหนักหน่วง"พี่ใหญ่ เกิดอะไรขึ้นหรือ?" นางหยูเดินเร็ว หลังจากที่เข้ามาเห็นสถานการณ์ ก็รีบเดินหน้าเข้าไปดูข้างใน เพราะพวกนางที่เดินเข้ามาอย่างเร็ว ทำให้ตะเกียงที่อยู่บนโต๊ะถูกลมพัดดับไป ทันใดนั้นบ้านทั้งหลังก็มืดสนิท เหลือเพียงแสงจันทร์อ่อนๆ ในยามค่ำคืนที่สาดส่องเข้ามาในห้องที่มืดมิดจากรอยแยกของหน้าต่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   ​บทที่ 348 พาเสี่ยวหวงไปด้วย

    ว่าไปแล้ว ถูซินเยว่ก็ไม่ได้ขึ้นมาที่ภูเขานานแล้วครั้งก่อนที่มาดูเสี่ยวหวงบนภูเขา ก็เป็นเรื่องก่อนที่ซูจื่อหังจะเข้าไปเตรียมสอบที่เมืองหลวง จนถึงตอนนี้ ก็เป็นเวลาเกือบจะสามเดือนแล้วขณะที่นั่งอยู่บนก้อนหินใหญ่ในป่า ถูซินเยว่ก็ตักน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ออกมาจากในมิติแห่งน้ำพุศักดิ์สิทธิ์อย่างที่เคยทำ จากนั้นก็รอเสี่ยวหวงด้วยความอดทนตอนเที่ยงวัน แดดค่อนข้างแรง เธอไม่ได้เหนื่อย เพียงแต่รู้สึกร้อน เม็ดเหงื่อได้ผุดปรากฏขึ้นบนหน้าผากของเธอถูซินเยว่กำลังพัดโบกพัดในมือ ขณะนั้นเอง พุ่มไม้ในป่าก็สั่นไหว แล้วร่างสีเหลืองก็กระโดดออกจากพุ่มไม้มาอยู่ตรงหน้าถูซินเยว่ และไม่รอให้หญิงสาวตั้งสติได้ เสี่ยวหวงก็ได้เดินเข้ามาอยู่ใกล้ๆ ขาของถูซินเยว่ และส่งเสียงร้องด้วยความสนิทสนมการได้พบกันอีกครั้ง ทำให้ถูซินเยว่ดีใจเป็นอย่างมากเธอหยิบน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ออกมาป้อนเสี่ยวหวงไปพลาง พร้อมทั้งใช้มือลูบหัวของอีกฝ่ายไปพลาง แล้วยิ้มและพูดว่า "ไม่พบกันตั้งนาน ข้าแทบจะจำเจ้าไม่ได้แล้ว! เสี่ยวหวง เจ้าโตขึ้นไม่น้อยเลยนะ หัวใหญ่มากขึ้นเชียว!"เสี่ยวหวงส่งเสียงร้องเบาๆ และขยับเข้าไปใกล้ถูซินเยว่ หลังจากที่ดื่มน้ำพุศัก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21

บทล่าสุด

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 381 ช่างคล้ายคลึงนัก

    ทั้งคู่เดินถึงหน้าประตู ปะเหมาะเวลานี้ จวนแม่ทัพหลิ่วก็มีคนเดินออกมาเช่นกัน"คนนี้ก็คือใต้เท้าซูที่เจ้าชอบอย่างงั้นหรือ" ฮูหยินหลิ่วเหลียวมองบุตรีซึ่งอยู่ข้างกาย สื่อเป็นนัยให้อีกฝ่ายอย่าได้วู่วามทุกวันนี้คราใดที่หลิ่วโหรวโหรวเห็นถูซินเยว่กับซูจื่อหังเดินมาด้วยกัน ด้วยท่าทีรักใคร่ปรองดอง นางจะรู้สึกเดือดดาลในใจ ราวกับภูเขาไฟที่ใกล้ระเบิดกระนั้นนางทำเสียงฮึดฮัด "ถูซินเยว่มีวันนี้ได้ ก็เพราะอาศัยบารมีซูจื่อหัง แต่คอยดูไปเถิด หญิงบ้านนอกเช่นนาง ใหม่ ๆ ยังพอทำให้ซูจื่อหังพอใจได้บ้าง แต่พอนานวันเข้า ได้เห็นสาวงามในเมืองหลวงมากมาย ความรักของพวกเขายังมั่นคงเหมือนแต่ก่อนได้อีก ก็แสดงว่าผิดมนุษย์แล้ว"ฮูหยินหลิ่วแสดงท่าทีนิ่งเฉยแต่บุตรีพูดก็มีเหตุผล ผู้ชายในโลกนี้น้อยนักที่จะไม่คิดได้ใหม่ลืมเก่า ยกตัวอย่างเช่นสามีของนาง ในอดีตก็เคยให้คำมั่นสัญญา ว่าแม้เป็นหรือตายก็จะขอรักอดีตคนรักเพียงผู้เดียว แต่พอบ้านเขาประสบภาวะเดือดร้อน สุดท้ายก็มาเลือกแต่งงานกับตน จนบัดนี้ลืมหน้านังคนแพศยานั่นไปถึงไหนต่อไหนแล้วแสดงว่าความจริงใจของผู้ชายคือสิ่งที่ไร้ประโยชน์ปกติเสแสร้งทำเป็นรักมั่นจริงใจ แต่พอเอ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 380 ลูกสาวจอมโง่เขลา

    หากซูจื่อหังไม่รังเกียจถูซินเยว่แล้วล่ะก็ งั้นต่อให้หลิ่วโหรวโหรววทุ่มเทแรงกายแรงใจมากแค่ไหนก็ตาม เกรงว่าก็คงไม่สามารถเข้าไปในจวนสกุลซูได้ดั่งใจปรารถนาหรอกแต่น่าขําที่ลูกสาวคนนี้ของนางกลับไม่รู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้เลย รู้แต่ไปเหยียดหยามถูซินเยว่อย่างโง่เขลาเท่านั้นนี่ถ้าทําให้ถูซินเยว่อับอายต่อหน้าทุกคนก็ว่าไปอย่าง แต่นี่กลับยังโดนถูซินเย่วตอบโต้กลับมาจนขายหน้า นี่ไม่ใช่เป็นการตบหน้าตัวเองหรือไง?เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินหลิ่วก็ไม่อยากเห็นหน้าลูกสาวคนนี้แม้แต่นิดนางขมวดคิ้ว จู่ ๆ ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า "ใช่แล้ว เรื่องนี้ข้ายังไม่ได้บอกพ่อเจ้า ถ้าพ่อเจ้ารู้ ดูสิว่าเขาจะสั่งสอนเจ้ายังไง เจ้าระวังตัวหน่อย"ภายใต้การเกลี้ยกล่อมและคําเตือนของฮูหยินหลิ่ว ในที่สุดหลิ่วโหรวโหรวก็หลับตาลง นางนั่งอยู่บนที่นั่งของตัวเองอย่างเซ็ง ๆ ทั้งหน้ามีแค่อารมณ์เดียวนั่นก็คือ นางไม่มีความสุขฮูหยินหลิ่วถอนหายใจอย่างจนใจ แล้วเงยหน้ามองฝั่งตรงข้าม ตําแหน่งของนาง มีเพิงดอกไม้อยู่ตรงกลางบดบังร่างของถูซินเยว่พอดี ดังนั้นนางจึงเห็นเพียงโครงร่างผ่านเถาวัลย์อย่างคลุมเครือเท่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 379 จางเยียนหรัน

    วันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงเชิญตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ก่อนมาซูจื่อหังเคยพูดกับนางว่า เขากับตระกูลจางเข้ากันได้ดีในราชสํานัก ดังนั้นวันนี้ ถูซินเยว่ก็ไม่อยากสร้างปัญหาอะไรให้กับตระกูลจาง เพื่อไม่ให้คนอื่นรู้สึกว่าพวกเขาไม่มีมารยาทเห็นเหล่าฮูหยินกับหลิ่วโหรวโหรวเพิ่งเยาะเย้ยเธอเมื่อครู่ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ถูซินเยว่ก็สบายใจไม่น้อย ก้มหน้าก้มตากินอาหารด้วยตัวเองไม่สนใจใครทั้งนั้นในขณะที่เธอกําลังกินอย่างมีความสุข จู่ ๆ ก็มีคนผลักแขนของเธอเบา ๆถูซินเยว่นิ่งงันไปพักหนึ่ง หันหน้ากลับไปอย่างสงสัยใคร่รู้ เห็นหญิงสาวในชุดสีเหลืองคนหนึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ ตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ กําลังใช้ดวงตากลมโตจ้องมองเธออย่างอยากรู้อยากเห็นดวงตาของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและไร้เดียงสา แต่กลับไม่มีเจตนาร้ายเลยแม้แต่น้อยถูซินเยว่เคยเห็นคนมามากมาย เรื่องเหล่านี้เธอยังพอสามารถมองออกได้ตั้งแต่แรกเห็นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีเจตนาร้าย ท่าทีของเธอก็อ่อนโยนลงมาก"ไม่ทราบว่าแม่นางมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?"ถ้าเธอจําไม่ผิด คนที่นั่งข้างเธอเมื่อกี้น่าจะเป็นผู้หญิงที่เยาะเย้ยเธ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 378 หน้าแตก

    ถูซินเยว่ชะงัก และรู้สึกตลก เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายก็รู้สึกประหลาดใจ ตอนที่ออกจากมาตอนเช้า เธอได้สวมใส่เครื่องประดับมาหลายชิ้นจริงๆแต่ระหว่างทาง ถูซินเยว่รู้สึกว่าต่างหูระเกะระกะเกินไป จึงแอบถอดมันออกและวางไว้บนรถม้าคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าในงานเลี้ยงจะมีคนไม่กินไม่ดื่ม แต่หันมาจับจ้องที่เครื่องหัวของตนเองแทนถูซินเยว่ยื่นมือไปจับที่ผมของตนเองอัตโนมัติ จากนั้นก็พูดเสียงราบเรียบว่า "ในเมื่อวันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพ แขกสำคัญจึงเป็นตระกูลจาง แล้วเหตุใดข้าจักต้องแต่งตัวให้ดูดีขนาดนั้น""จนก็ยอมรับว่าจนเถอะ จะหาเหตุผลอะไรมาอ้างมากมายไปทำไม ในที่นี้ใครไม่รู้บ้างว่าพวกเจ้ามาจากบ้านนอก ข้าเองก็แค่รู้สึกเสียดายแทนใตเท้าซูเท่านั้น ทั้งที่มีมีอนาคตอันดี หากแต่งงานกับบุตรสาวขุนนางสักคน ก็คงยิ่งช่วยส่งเสริมให้เจริญก้าวหน้า แต่กลับเลือกจะเฝ้าอยู่แค่หญิงชาวบ้านเฉกเช่นเจ้า..."ประโยคหลังแม้ว่าจะไม่ได้พูดต่อจนจบ แต่ก็สามารถเข้าใจได้ถึงแม้บนใบหน้าของถูซินเยว่จะแสดงสีหน้าใดๆ แต่สาวรับใช้ที่อยู่ข้างๆ สีหน้าย่ำแย่มากแล้วนางอาศัยอยู่ที่ตระกูลซูมานาน ก็พอจะรู้ว่าถูซินเยว่ไม่ได้ไม่มีเงิน และเงินส่วนใ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 377 ดูถูก

    ตั้งแต่ตอนที่อยู่ในหมู่บ้านต้าเย่ เพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หรือเพราะผลประโยชน์อันน้อยนิด แม้เป็นครอบครัวเดียวกัน ก็ยังสามารถโกรธแค้นกันจนตัดญาติขาดมิตรไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นใด แค่ในตระกูลถู เพียงเพื่อสินสอดของตระกูลเหลียง ถูชิวหลานก็ดันทุรังจะสับเปลี่ยนตัวเธอกับลูกสาว ภายหลังยังไม่ยอมรับด้วย แถมยังผลักไสความผิดทุกอย่างไปที่เจ้าของร่างหากเธอไม่ได้ข้ามิติมาอยู่ในร่างของเจ้าของร่างซื่อบื้อคนนั้น นางจะใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลซูอย่างไร เกรงว่าคงเหลือแต่เสี้ยววิญญาณแล้วอย่างด้านซูเฟิ่งอี๋ในตระกูลซู ตอนนั้นพวกเขาเองก็หวงแหนเงินเล็กๆ น้อยๆ เห็นชีวิตนางหยูกำลังตกอยู่ในอันตรายก็ยังไม่ยอมรักษาให้นางเรื่องราวของญาติสนิทมิตรสหายที่ทำร้ายคนใกล้ตัวเพียงเพื่อผลประโยชน์และเงินทองมีมากมายเกินกว่าจะพูด ขนาดบ้านเธอยังเป็นเช่นนี้ แล้วต้าฉีที่มีบ้านสกุลมากมายขนาดนี้ล่ะชาวบ้านธรรมดาทั่วไป อาจทำไปเพื่อเงินทอง แต่องค์ชายสามกับองค์ชายใหญ่ กลับทำเพื่อแก่งแย่งแผ่นดิน ขนาดที่เป็นการต่อสู้เพื่อความเป็นความตาย และไม่มีใครยอมอ่อนข้อให้ใคร ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้"ชีวิตคนเรามีหลายเรื่องที่มักไม่เป็นดังที่หวัง ข

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 376 อิจฉา

    "วันนี้เป็นงานเลี้ยงของตระกูลจาง ข้าก็นึกว่าเจ้าจะพูดคุยเรื่องอะไรกับข้า คาดไม่ถึงว่าจะใช้เรื่องนี้มาข่มขู่ข้าในที่ๆ ไม่มีคนเช่นนี้?"ชายผู้นั้นหัวคิ้วกระตุก รีบก้มศรีษะลงแล้วพูดว่า "กระหม่อมมิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่กระหม่อมทราบว่าองค์ชายสามเป็นคนเฉลียวฉลาด แต่ไหนแต่ไรมา การที่บุตรสายตรงรับสืบราชบัลลลังก์ต่อก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล แล้วไฉนองค์ชายสามจึงมิตั้งใจเป็นข้าราชบริพานบริสุทธิ์ คอยค้ำจุนเสด็จพี่ของพระองค์เล่าพ่ะย่ะค่ะ?"ฉีหวานหัวดราะเสียงดัง น้ำเสียงเย็นเยือกลงฉับพลัน เขาสะบัดแขนเสื้อ พร้อมสีหน้าเย็นชา "แม่ทัพหลิ่วพูดเช่นนี้ ช่างไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ตอนที่ข้าพบกับมือสังหารไล่เอาชีวิตตอนที่รีบเดินทางกลับมาจากเป่ยเจียงอันไกล แม้วันนี้ข้าไม่พูด เชื่อว่าท่านแม่ทัพเองก็คงทราบดีว่าเป็นฝีมือของใคร?"ถูซินเยว่ที่นั่งอยู่ในศาลาชะงักงัน ที่แท้คนที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับฉีหวานก็คือแม่ทัพหลิ่วนี่เอง หากนางจำไม่ผิดละก็ ก่อนหน้านี้ที่หน้าประตูตระกูลจาง ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวก็คือแม่ทัพหลิ่วผู้นี้สินะ?เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ถูซินเยว่ก็รู้สึกเซ็งขึ้นมา ถ้ารู้แต่แรกว่าพวกเขาจะคุยกันเรื่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 375 แอบฟัง

    หลิ่วโหรวโหรวก็มองเห็นพวกเขาเช่นกัน และเมื่อนึกถึงความสนิทสนมของถูซินเยว่และซููจื่อหังวันนั้นในจวนซู นางก็กำหมัดแน่นแม่ทัพหลิ่ว หลิ่วถิง เมื่อเห็นว่าบุตรสาวของตนเองอยู่ๆ ก็หน้าตาไม่สดใส ทั้งที่เมื่อสักครู่ยังดีอกดีใจ ก็ขมวดคิ้วถามว่า "เป็นอะไรไป? มีคนรู้จักรึ?""เจ้าค่ะ..." หลิ่วโหรวโหรวกำลังจะอ้าปากพูด ฮูหยินหลิ่วที่อยู่ข้างๆ ก็ผลักนาง และส่งสายตาให้กับอีกฝ่ายหลิ่วโหรวโหรวจึงได้แต่หุบปากเงียบอย่างไม่พอใจนักฮูหยินหลิ่วเดินไปข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวอย่างเงียบๆ กระตุกแขนเสื้อของบุตรสาวและพูดเตือนเสียงเบาว่า "เจ้าอย่าได้พูดถึงเรื่องของตระกูลซูอีก หากเจ้าพูดถึงอีกข้าจะไม่ยกโทษให้เจ้า! เมื่อกี้เจ้าไม่เห็นฮูหยินตระกูลซูหรือย่างไร? นางท้องโตขนาดนั้นแล้ว! เจ้าคิดจะไปเป็นภรรยาน้อยของคนอื่นหรือ? พูดออกไปรังแต่จะกลายเป็นเรื่องตลก!"หลิ่วโหรวโหรวสีหน้าย่ำแย่ทันทีแม้ว่าซูจื่อหังมีภรรยาหลวงอยู่แล้ว แต่ในใจนางนั่นก็เป็นเพียงหญิงบ้านนอกที่เทียบกับตนเองไม่ได้เลยด้วยซ้ำ นางซึ่งเป็นบุตรีสายตรงของจวนแม่ทัพ จะตกเป็นรองอยู่เป็นภรรยาน้อยของซูจื่อหังหรืออย่างไร?ลำพังแค่คิด นางก็ไม่ต้องการหลิ่วโหรวโหร

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 374 งานเลี้ยงตระกูลจาง

    ขณะที่ถูซินเยว่กำลังยุ่งอยู่กับการเปิดร้านขายเครื่องประดับ และนางหยูกำลังกังวลเรื่องลูกค้าอยู่นั้น เทียบเชิญฉบับหนึ่งก็ได้ส่งมาถึงที่บ้าน"เป็นงานฉลองวันเกิดของมารดาเฒ่าตระกูลจางจากเสนาบีดีกระทรวงการคลัง"ถูซินเยว่ถือเทียบเชิญไว้ในมือและยิ้มอย่างประหลาดใจ "ในเมืองหลวงแห่งนี้ข้านั้นไม่ได้รู้จักใครเลยสักคนหนึ่ง แต่นึกไม่ถึงว่าตระกูลจางจะส่งเทียบเชิญมาให้ข้า"สามีของตนเองก็เป็นข้าราชการขั้นเจ็ดเล็กๆ คนหนึ่ง แม้ว่าตระกูลจากจะไม่ใช่ข้าราชการชั้นสูง แต่ก็เป็นข้าราชการขั้นห้า และบรรพบุรุษก็ล้วนเป็นข้าราชการทั้งนั้น ซึ่งก็นับว่าเป็นตระกูลที่มีคุณธรรมสูงส่งการที่ส่งเทียบเชิญมาให้พวกเขาในงานเลี้ยงวันเกิดเช่นนี้ ก็เรียกได้ว่าไม่ได้ดูถูกพวกเขาเพียงแต่ คนในยุคโบราณส่วนมากจะดูแคลนคนทำธุรกิจ หากตนเองไปร่วมงานละก็ จะทำให้พวกเขารู้ว่าภรรยาของซูจื่อหังเป็นหญิงทำมาค้าขาย ก็ยากที่จะไม่ดูแคลนเดิมทีถูซินเยว่ไม่อยากไป แต่คาดไม่ถึงว่าซูจื่อหังจะหันมากุมมือเธอไว้ ยิ้มแล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจนักว่า "บุตรชายของใต้เท้าจางสนิทกับข้า ภรรยาของข้าเป็นหญิงสาวที่มีเสน่ห์มากที่สุดในใต้หล้า ไม่ว่าทำอะไรก็ดีทั้งนั้น แล

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 373 ฮ่องเต้หมดสติ

    สำหรับถูซินเยว่แล้ว จะเป็นลูกผู้ชายหรือผู้หญิงก็ไม่เป็นไร สิ่งสำคัญคือ การที่ลูกน้อยสามารถคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัยเพราะในยุคโบราณการที่ผู้หญิงคลอดลูกนั้นเปรียบเสมือนการเดินไปขอบประตูนรก ดังนั้นการที่สามารถให้กำเนิดลูกได้อย่างปลอดภัยถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย เธอจึงไม่คาดหวังอย่างอื่นอีกแต่ว่าช่วงนี้เธอมักจะถูกนางหยูล้างสมองอยู่บ่อยๆ จนถูซินเยว่เองก็คิดว่าท้องนี้อาจจะเป็นลูกผู้ชายก็ได้เป็นผู้ชายก็ดี เพราะความคิดปิดกั้นในยุคโบราณนั้นสร้างความลำบากให้กับหญิงสาวอย่างมาก หากเป็นเด็กผู้ชาย ก็สามารถลดความลำบากหลายๆ อย่างให้เธอได้ไม่น้อยเดิมทีถูซินเยว่อยากจะถามฉงเป่าว่าในท้องตนเองนั้นเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิงกันแน่ ซึ่งตามปกติแล้วขอเพียงเอาของกินมาล่อนิดล่อหน่อย ฉงเป่าก็ยอมพูดทุกอย่าง มีเพียงแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่ไม้ว่าถูซินเยว่ถามอย่างไร อีกฝ่ายก็ไม่ยอมบอก"อย่างไรเสียลูกก็อยู่ในท้องของข้า เจ้าจะบอกหน่อยมิได้หรือว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง? ถึงเจ้าพูดมา ด้วยเงื่อนไขการรักษาแบบนี้ข้าก็ทำอะไรเจ้าไม่ได้มิใช่หรือไง?"อีกอย่าง ถูซินเยว่เองก็ไม่มีความคิดการให้ความสำคัญชายมากกว่าหญิงด

DMCA.com Protection Status