แชร์

บทที่ 331 ยอดคนในหมู่ชาวบ้าน

ผู้เขียน: ฮวาฮวาน่งหยวี่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-02-21 11:20:31
เมื่อกลับมาถึงโรงเตี๊ยม ไป๋อี้หรันก็อุ้มถูซินเยว่ พร้อมวางอีกฝ่ายลงบนเตียง พลางรีบหันไปสั่งว่า "รีบไปเชิญหมอมาเร็วเข้า"

ตอนนี้ถูซินเยว่หมดสติไปแล้ว หากไม่มีหมอมาดู นางคงไม่รอดเป็นแน่

กวานเหยียนพยักหน้า

เขาเคยซาบซึ้งต่อถูซินเยว่ที่ช่วยชีวิตคุณชายตนเอาไว้ ดังนั้นในขณะที่สำนึกบุญคุณ เขาก็หวังให้ถูซินเยว่ได้แคล้วคลาดในคราวนี้ ดังนัั้น ไม่ว่าคุณชายจะสั่งอะไร เขาก็ทำตามทั้งสิ้น

กวานเหยียนกำลังจะออกไป จู่ ๆ ไป๋อี้หรันไม่รู้นึกอะไรได้ หันมาเรียกตัวเขาไว้อีก และกล่าวว่า "ไปหาผู้หญิงมาอีกคน เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ท่านหมอเทวดาหน่อย"

"ขอรับ" หมอเทวดาเป็นหญิงสาว เขากับคุณชายย่อมไม่สะดวกที่จะเปลี่ยนชุดให้นางอยู่แล้ว

กวานเหยียนพยักหน้า แสดงถึงความเข้าใจ

เมื่อเขาออกไปแล้ว ไป๋อี้หรันก็หันมามองถูซินเยว่ เห็นนางนอนอยู่บนเตียง สีหน้าไม่ดูซีดเซียวเหมือนก่อนหน้าที่อยู่บนเขา ก็ค่อยเบาใจลงหน่อย

ตอนนี้พิษในตัวเขาได้ถูกถอนหมดแล้ว สมควรจะส่งข่าวให้บิดาได้รู้ เพื่อไม่ให้ทุกคนในตระกูลไป๋ต้องมาห่วงตนจนกินนอนไม่ได้ทุกวันอีก

ไป๋อี้หรันห่มผ้าให้แก่ถูซินเยว่ แล้วหันหลังเดินออกไป

ทันทีที่ร่างของหนุ่มน้อยลับหายไปจาก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   ​บทที่ 332 เถ้าแก่กลับมาแล้ว

    เพียงแต่ว่า ที่ยิ่งทำให้ไป๋อี้หรันตกตะลึงก็คือ พิษประหลาดในร่างกายกลับเป็นพิษจากหนานเจียงนี่สิหากเขาจำไม่ผิดละก้อ นับแต่เกิดมา แทบไม่เคยออกจากเมืองผิงโจวเลยซักครั้ง หนานเจียงเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่อยู่ทางใต้ มีป่าเขาล้อมรอบ ลือกันว่าเต็มไปด้วยงูเงี้ยวเขี้ยวขอและสัตว์ร้ายมากมาย คนต่างถิ่นถ้าบุ่มบ่ามเข้าไป สุดท้ายอาจประสบกับความหายนะก็เป็นได้บัดนี้มาหวนคิดดู ตระกูลไป๋ไม่เคยข้องแวะใด ๆ กับคนของหนานเจียง ยิ่งอย่าว่าแต่ล่วงเกินเลย เมื่อเป็นเช่นนี้ แล้วตนจะถูกพิษของหนานเจียงเข้าได้อย่างไรกัน?ใครคือผู้คิดร้ายต่อเขา?ไป๋อี้หรันตรองไม่ตก แต่กลับรู้สึกว่า เบื้องหลังคล้ายมีมือใหญ่อยู่ข้างหนึ่ง กำลังบีบคอหอยของตนไว้อยู่ และข้างหลังก็กางเป็นร่างแหอันใหญ่ ทำให้เขาไม่อาจดิ้นรนได้ส่วนภายในห้อง ถูซินเยว่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว เด็กสาวที่ไป๋อี้หรันพามากลับไม่ได้ช่วยประโยชน์มากนัก"ฮูหยินมีอะไรจะให้รับใช้อีกไหมเจ้าคะ ข้ารับเงินจากคุณชายไป๋มาหนึ่งตำลึง ไม่อยากไปง่าย ๆ โดยที่ไม่ได้ทำอะไรเลย" เด็กสาวผู้นี้อายุราวสิบสามปี หน้าตาหมดจดพอใช้ เพียงแต่ร่างกายค่อนข้างซูบผอม คล้ายกับขาดอาหารมานานปีถ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 333 ดีงู

    เมื่อเห็นความบ้าบิ่นของเถ้าแก่เช่นนี้ ถูซินเยว่ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะคนยอมตายเพราะทรัพย์ ปักษายอมตายเพื่ออาหาร ไม่เห็นจะต้องปิดบังตรงไหนเลยและว่าไปแล้ว นางเองก็เห็นแก่เงินหนึ่งแสนห้าหมื่นตำลึง จนยอมดั้นด้นจากผิงโจวมายังเขาเทียนซาน เพื่อช่วยไป๋อี้หรันตามหาบัวหิมะเช่นกันและบัดนี้ เถ้าแก่ทำเพื่อเงินหนึ่งหมื่นตำลึง จนยอมละทิ้งแขนก็ไม่ใช่เรื่องแปลกจากสิ่งที่พบเห็นบนเขาเทียนซานมาหลายวันนี้ได้บอกแก่ถูซินเยว่ว่า ชีวิตผู้คนที่นี่ไม่ได้สุขสบายเหมือนดั่งที่เห็น ในการเลี้ยงวัวเลี้ยงแกะ อยู่กับทุ่งหญ้าอย่างมีความสุข อิสระเสรีไร้ห่วงกังวลใด ๆ นั่นเป็นเพียงภาพฝันในนิทานของเด็กเท่านั้นชีวิตจริงคือเหมือนอย่างเสี่ยวเถาเมื่อครู่นี้ต่างหาก ถ้าเจอกับสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ ความเป็นอยู่ทั้งครอบครัวจะลำบากนัก ใครจะมีแก่ใจไปชื่นชมความงามของธรรมชาติ ความงามของหิมะบนเขาเทียนซานอีก?เพียงแต่สิ่งที่ต่างกับเถ้าแก่ก็คือ ถ้าถูซินเยว่รู้แต่แรกว่าตนได้ตั้งครรภ์ งั้นเป็นตายร้ายดีวันนี้นางก็จะไม่ไปเสี่ยงภัยเป็นอันขาดเงินหมดไปยังหาใหม่ได้ นางมั่นใจในตัวเอง แต่หากสูญเสียลูกไป นางคงเสียใจชั่วชีวิตเป็นแน่ในระหว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   ​บทที่ 334 จากไป

    ถูซินเยว่บอกว่าในตัวไป๋อี้หรันยังมีพิษตกค้าง ไม่ใช่การหลอกลวงเขา หากแต่เป็นเช่นนั้นจริง ๆและพิษที่อยู่ในตัวไป๋อี้หรันนั้น แม้แต่ถูซินเยว่ก็ไม่รู้ชื่อ รู้เพียงว่าต้นตอมาจากหนานเจียง เคยสูญหายไปนาน คล้ายกับมาจากลัทธิอะไรซักอย่างหนทางยาวไกลถึงเพียงนั้น ไป๋อี้หรันมาถูกพิษชนิดนี้ได้อย่างไร ถูซินเยว่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันแม้จะคิดไม่ตก แต่นางก็ไม่ได้เอ่ยปากถาม เพราะปกติในตระกูลใหญ่มักมีเรื่องบางอย่างที่ต้องปกปิด บางครั้งการรู้มากก็ไม่ใช่เรื่องดี อาจทำให้ตนเอาชีวิตไปทิ้งก็ได้แม้ว่าตอนนี้ เปลือกนอกนางจะเป็นผู้มีบุญคุณที่ช่วยชีวิตไป๋อี้หรันเอาไว้ และเขาก็ให้เกียรตินางไม่น้อย แต่ในใจคนอื่นจะคิดยังไงก็สุดจะรู้ได้นางอยู่ในที่แจ้ง คนวางยาพิษอยู่ในที่ลับ จึงควรต้องระวังตัวให้มากและเป็นดั่งที่ถูซินเยว่ได้กล่าวไว้ ในตัวของไป๋อี้หรันยังมีพิษตกค้างอยู่จริง ๆ เพราะยังไงเขาก็ถูกพิษมายี่สิบกว่าปี สั่งสมมายาวนาน จะให้กำจัดให้หมดสิ้นในคราวเดียวก็เห็นทีจะยากดังนั้นไป๋อี้หรันจึงทำตามคำแนะนำของถูซินเยว่ ผสมยาลงในถังไม้ แช่และอาบกว่าครึ่งชั่วยาม จนเห็นน้ำใสแต่เดิมค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำ จึงขมวดคิ้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 335 ในที่สุดก็ได้กลับบ้าน

    ตอนออกจากผิงโจวนั้น ในช่วงเดินทางแรก ๆ ถูซินเยว่เฝ้าคิดว่าจะได้ไปเมืองหลวงเพื่อพบซูจื่อหัง จึงรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก จนแทบอยากเร่งให้รถม้ารีบไปเร็ว ๆแต่ช่วงหลัง นางกลัวว่าไป๋อี้หรันจะรับไม่ไหว ทั้งหวังจะหาบัวหิมะเทียนซานให้พบโดยเร็ว เพื่อจะได้ถอนพิษให้แก่เขาแต่ตอนนี้เป็นขากลับ และนางรู้แล้วว่าตนกำลังตั้งครรภ์อยู่ จึงให้กวานเหยียนเดินทางให้ช้าลง จนแทบกลายเป็นชมนกชมไม้ระหว่างทางมากกว่า"การเดินทางในยุคโบราณ ไปไหนมาไหนแต่ละครั้งต้องใช้เวลาหลายเดือน เพราะการคมนาคมไม่สะดวก ขุนเขาสายน้ำต่าง ๆ หากจะชมให้ทั่ว อาจต้องใช้เวลาถึงครึ่งค่อนชีวิต"ไม่เหมือนยุคสมัยใหม่ มีทั้งเครื่องบินและทางด่วน ต่อให้คิดเดินทางรอบโลก ก็ใช้เวลาเพียงแค่วันเดียวถูซินเยว่รู้สึกสะท้อนใจนัก ชีวิตคนโบราณช่างยากเย็นเหลือเกินไป๋อี้หรันอยู่ในรถม้าคันเดียวกับนาง ได้ยินถูซินเยว่มองออกนอกหน้าต่างแล้วบ่นพึมพำ จึงได้ถามว่า "ฟังจากน้ำเสียงเจ้า คล้ายกับเคยเห็นยานพาหนะที่เหนือชั้นกว่านี้ จึงได้ดูถูกรถม้าคันนี้"ถูซินเยว่ยื่นมือออกมา พลางหัวเราะหึ ๆ สองทีและกล่าวว่า "ยานพาหนะเร็วที่สุดที่ข้าเคยเห็นก็คือรถม้านี่แหละ นอกนั้นก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 336 ความดีใจของนางหยู

    "ท่านแม่ ที่ผ่านมาสบายดีหรือเปล่า?""สบายดี ๆ" นางหยูพยักหน้า พลางรีบยืนขึ้น และพิจารณาถูซินเยว่ตั้งแต่หัวจรดเท้า จากนั้นจึงได้กล่าวว่า "เจ้ากับจื่อหังต่างไม่อยู่ทั้งคู่ ปกติข้าอยู่ว่าง ๆ ไม่มีอะไรทำ ได้แต่เฝ้ารอให้พวกเจ้ากลับมาเร็ว ๆ"ถูซินเยว่พยักหน้าพร้อมกับกล่าวว่า "ข้ากลับมาแล้ว ท่านแม่ และไปเมืองหลวงเยี่ยมท่านพี่มาด้วย""เจ้าไปพบจื่อหังด้วยหรือ?"ถูซินเยว่พยักหน้า หากไม่เพราะตนต้องรีบเดินทางต่อ บวกกับเกรงว่าจะรบกวนการท่องตำราของซูจื่อหัง ใจจริงนางก็อยากอยู่เมืองหลวงให้นานกว่านั้นด้วยซ้ำ"ท่านพี่อยู่เมืองหลวงสบายดี ตอนนี้ใกล้จะสอบแล้ว คาดว่าผ่านอีกช่วงหนึ่งคงน่าจะส่งข่าวมาได้" ถูซินเยว่กล่าว"งั้นก็ดีแล้ว งั้นก็ดี" นางหยูพยักหน้า และกล่าวต่ออีก "หวังว่าจื่อหังจะสอบติดขุนนาง เพื่อเชิดชูวงศ์ตระกูลของเรา"ถูซินเยว่กลับไม่ห่วงเรื่องนี้ซักเท่าไหร่ เพราะยังไง ซูจื่อหังในสายตาของนาง เป็นคนมีความสามารถโดดเด่นอยู่แล้ว ยิ่งบวกกับความจำเป็นเลิศของเขาด้วยแล้ว ถ้าจะสอบไม่ติด นางคงไม่เชื่อเด็ดขาด"ท่านแม่วางใจเถอะ ท่านพี่ต้องสอบได้แน่นอน""จริงสิ เจ้าเพิ่งกลับมา คงจะหิวแย่แล้ว ข้าจะไปท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 337 ความเจ็บปวดของน้าหลิน

    ถูซินเยว่เลิกคิ้วด้วยความฉงน แอบนึกแปลกใจอยู่ครามครัน ด้วยไม่คิดว่าตนจากไปตั้งนาน เสี่ยวเอ้อคนนี้ยังจำตนได้อยู่"หลายวันนี้ดูเหมือนว่ากิจการจะไม่เลว" ถูซินเยว่เดินเข้าไป เสี่ยวเอ้อรีบกล่าวตอบ "ชั้นล่างมีลูกค้า เถ้าแก่เนียะเชิญไปคุยชั้นบนดีกว่า หากท่านต้องการจะดูบัญชี อีกซักครู่ข้าจะนำขึ้นไปให้"ถูซินเยว่โบกมือ กล่าวช้า ๆ ว่า "ไม่ต้องรีบร้อน ข้าแค่มาถามดูเท่านั้น น้าหลินล่ะ?"เปลือกนอกนั้นเจ้าของร้านดาหลาคล้ายจะเป็นของถูซินเยว่คนเดียว แต่ลับหลังทุกคนในร้านต่างก็รู้ดี ว่าหลินเพียวเหมียวก็คือเถ้าแก่เนียะคนที่สอง ที่สำคัญ สัญญาขายตัวของทุกคนล้วนอยู่ในมือหลินเพียวเหมียวทั้งสิ้น"พักก่อนน้าหลินก็ขยันมาร้านบ่อย แต่หลัง ๆ มานี้ ไม่ค่อยเห็นนางได้มาอีก""เพราะกลับไปเมืองชิงเฉิงหรือเปล่า?" ถูซินเยว่ก็รู้สึกแปลกใจ เดิมทีนางยังคิดอยู่ ถ้าน้าหลินยังอยู่ในเมืองผิงโจว นางจะไปเยี่ยมอีกฝ่ายซักหน่อยเพราะว่าไปแล้ว หลินเพียวเหมียวได้ช่วยเหลือนางหลายอย่าง และสุขภาพของน้าหลินก็ไม่สู้ดี คราวนี้ ถูซินเยว่ได้นำโสมแดงที่ช่วยบำรุงโลหิตมาจากเทียนซาน ว่าจะแบ่งให้น้าหลินซักหนึ่งต้น"ไม่ใช่ขอรับ ดูเหมือนจะเป็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   ​บทที่ 338 กลับหมู่บ้านต้าเย่

    เหตุเพราะน้าหลินไม่อยากพูด ถูซินเยว่จึงไม่คิดฝืนใจนาง มีแต่กำชับให้น้าหลินดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี พร้อมพูดคุยเกี่ยวกับกิจการในร้านขายเครื่องประดับ จากนั้นก็ขอตัวกลับบ้านเมื่อกลับมาถึงบ้าน นางหยูได้เตรียมอาหารไว้เต็มโต๊ะแล้ว ถูซินเยว่เห็นเข้า มุมปากก็แทบกระตุก พลางกล่าวอย่างอ่อนใจว่า "ท่านแม่ อาหารเยอะถึงเพียงนี้ ข้าคงกินไม่หมด สุดท้ายก็ต้องสิ้นเปลืองเปล่า ๆ ทีหลังทำกินง่าย ๆ เถอะ เราสองคนแค่กับข้าวสี่อย่างก็เพียงพอแล้ว"เมื่อเห็นอาหารเต็มโต๊ะเช่นนี้ มีทั้งปลาและเนื้อ นางหยูก็เช็ดมืออย่างกระดาก เพิ่งคิดได้ว่าตนทำอาหารมากไปแล้วจริง ๆเพียงแต่แรก ๆ ตอนทำนั้น นางไม่ได้คิดอะไรมากมาย ในใจคิดเพียงว่า ตอนนี้ซินเยว่กำลังตั้งครรภ์อยู่ ส่วนใหญ่หญิงที่มีครรภ์นั้น มักจะเบื่ออาหารง่าย และนางก็ไม่รู้ว่าซินเยว่ชอบกินอะไรบ้าง จึงอยากทำทุกอย่างที่นางสามารถจะกินได้"แม่รู้แล้ว ทีหลังเจ้าอยากกินอะไร ให้มาบอกล่วงหน้า แล้วข้าจะได้ทำไว้ให้""ได้" ถูซินเยว่พยักหน้า เห็นนางหยูยอมเชื่อฟังตนเอง ก็ค่อยเบาใจลงบ้างเพราะในอดีตมักมีแม่สามีบางราย ที่ให้ความสำคัญแก่หลานของตนมากกว่า โดยไม่สนใจว่าสะใภ้จะชอบหรือไม่ช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   ​บทที่ 339 หน้าด้านหน้าทน

    เพราะเด็กในครรภ์ของถูซินเยว่ เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลซูแท้ ๆตอนนี้ซูจื่อหังไม่ได้อยู่กับถูซินเยว่คอยดูแลนาง และไม่รู้ว่าภรรยาได้ตั้งครรภ์แล้ว นางหยูในฐานะเป็นมารดา ย่อมต้องคอยดูแลประคบประหงมแทนลูกชายให้ดีด้วยเหตุนี้ ระหว่างทางถ้าถูซินเยว่มีอาการไม่สบายเพียงเล็กน้อย นางหยูก็จะตื่นเต้นเป็นอย่างมากและในสภาพเช่นนี้ กลับทำให้ถูซินเยว่วางตัวลำบากมากกว่า"ท่านแม่ อย่าเป็นห่วงนักเลย ข้าไม่ได้เป็นอะไร" ถูซินเยว่จับมือของนางหยูไว้ เอ่ยปากยับยั้งความคิดของอีกฝ่ายที่คิดจะตามหมอมาดู พลางกล่าวว่า "ร่างกายข้า ๆ รู้ตัวเองดี เพียงแค่เดินทางไกลเลยรู้สึกเพลียบ้าง นอนพักซักคืนก็คงหายดี และนี่ก็เย็นมากแล้ว ท่านก็อย่าลำบากอีกเลย รีบพักผ่อนซะดีกว่า"เดิมทีนางหยูก็ไม่เต็มใจนัก แต่เมื่อฟังถูซินเยว่พูดเช่นนี้ ก็ได้แต่พยักหน้าอย่างจำใจ พลางกล่าวว่า "งั้นก็ได้ เจ้าก็ดูแลตัวเองดี ๆ แล้วกัน หากรู้สึกว่าไม่สบายตรงไหน ก็ไม่ต้องเกรงใจล่ะ รีบมาบอกข้าได้"พูดพลาง นางหยูก็เพิ่งนึกขึ้นได้ ตนกลับมาถึงบ้าน ยังไม่ได้ไปบ้านตระกูลซูเยี่ยมเยียนแม่เฒ่าเลย จึงได้กล่าวว่า "เจ้าพักผ่อนอยู่บ้านก่อน แม่จะแวะไปดูท่านย่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21

บทล่าสุด

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 381 ช่างคล้ายคลึงนัก

    ทั้งคู่เดินถึงหน้าประตู ปะเหมาะเวลานี้ จวนแม่ทัพหลิ่วก็มีคนเดินออกมาเช่นกัน"คนนี้ก็คือใต้เท้าซูที่เจ้าชอบอย่างงั้นหรือ" ฮูหยินหลิ่วเหลียวมองบุตรีซึ่งอยู่ข้างกาย สื่อเป็นนัยให้อีกฝ่ายอย่าได้วู่วามทุกวันนี้คราใดที่หลิ่วโหรวโหรวเห็นถูซินเยว่กับซูจื่อหังเดินมาด้วยกัน ด้วยท่าทีรักใคร่ปรองดอง นางจะรู้สึกเดือดดาลในใจ ราวกับภูเขาไฟที่ใกล้ระเบิดกระนั้นนางทำเสียงฮึดฮัด "ถูซินเยว่มีวันนี้ได้ ก็เพราะอาศัยบารมีซูจื่อหัง แต่คอยดูไปเถิด หญิงบ้านนอกเช่นนาง ใหม่ ๆ ยังพอทำให้ซูจื่อหังพอใจได้บ้าง แต่พอนานวันเข้า ได้เห็นสาวงามในเมืองหลวงมากมาย ความรักของพวกเขายังมั่นคงเหมือนแต่ก่อนได้อีก ก็แสดงว่าผิดมนุษย์แล้ว"ฮูหยินหลิ่วแสดงท่าทีนิ่งเฉยแต่บุตรีพูดก็มีเหตุผล ผู้ชายในโลกนี้น้อยนักที่จะไม่คิดได้ใหม่ลืมเก่า ยกตัวอย่างเช่นสามีของนาง ในอดีตก็เคยให้คำมั่นสัญญา ว่าแม้เป็นหรือตายก็จะขอรักอดีตคนรักเพียงผู้เดียว แต่พอบ้านเขาประสบภาวะเดือดร้อน สุดท้ายก็มาเลือกแต่งงานกับตน จนบัดนี้ลืมหน้านังคนแพศยานั่นไปถึงไหนต่อไหนแล้วแสดงว่าความจริงใจของผู้ชายคือสิ่งที่ไร้ประโยชน์ปกติเสแสร้งทำเป็นรักมั่นจริงใจ แต่พอเอ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 380 ลูกสาวจอมโง่เขลา

    หากซูจื่อหังไม่รังเกียจถูซินเยว่แล้วล่ะก็ งั้นต่อให้หลิ่วโหรวโหรววทุ่มเทแรงกายแรงใจมากแค่ไหนก็ตาม เกรงว่าก็คงไม่สามารถเข้าไปในจวนสกุลซูได้ดั่งใจปรารถนาหรอกแต่น่าขําที่ลูกสาวคนนี้ของนางกลับไม่รู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้เลย รู้แต่ไปเหยียดหยามถูซินเยว่อย่างโง่เขลาเท่านั้นนี่ถ้าทําให้ถูซินเยว่อับอายต่อหน้าทุกคนก็ว่าไปอย่าง แต่นี่กลับยังโดนถูซินเย่วตอบโต้กลับมาจนขายหน้า นี่ไม่ใช่เป็นการตบหน้าตัวเองหรือไง?เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินหลิ่วก็ไม่อยากเห็นหน้าลูกสาวคนนี้แม้แต่นิดนางขมวดคิ้ว จู่ ๆ ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า "ใช่แล้ว เรื่องนี้ข้ายังไม่ได้บอกพ่อเจ้า ถ้าพ่อเจ้ารู้ ดูสิว่าเขาจะสั่งสอนเจ้ายังไง เจ้าระวังตัวหน่อย"ภายใต้การเกลี้ยกล่อมและคําเตือนของฮูหยินหลิ่ว ในที่สุดหลิ่วโหรวโหรวก็หลับตาลง นางนั่งอยู่บนที่นั่งของตัวเองอย่างเซ็ง ๆ ทั้งหน้ามีแค่อารมณ์เดียวนั่นก็คือ นางไม่มีความสุขฮูหยินหลิ่วถอนหายใจอย่างจนใจ แล้วเงยหน้ามองฝั่งตรงข้าม ตําแหน่งของนาง มีเพิงดอกไม้อยู่ตรงกลางบดบังร่างของถูซินเยว่พอดี ดังนั้นนางจึงเห็นเพียงโครงร่างผ่านเถาวัลย์อย่างคลุมเครือเท่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 379 จางเยียนหรัน

    วันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงเชิญตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ก่อนมาซูจื่อหังเคยพูดกับนางว่า เขากับตระกูลจางเข้ากันได้ดีในราชสํานัก ดังนั้นวันนี้ ถูซินเยว่ก็ไม่อยากสร้างปัญหาอะไรให้กับตระกูลจาง เพื่อไม่ให้คนอื่นรู้สึกว่าพวกเขาไม่มีมารยาทเห็นเหล่าฮูหยินกับหลิ่วโหรวโหรวเพิ่งเยาะเย้ยเธอเมื่อครู่ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ถูซินเยว่ก็สบายใจไม่น้อย ก้มหน้าก้มตากินอาหารด้วยตัวเองไม่สนใจใครทั้งนั้นในขณะที่เธอกําลังกินอย่างมีความสุข จู่ ๆ ก็มีคนผลักแขนของเธอเบา ๆถูซินเยว่นิ่งงันไปพักหนึ่ง หันหน้ากลับไปอย่างสงสัยใคร่รู้ เห็นหญิงสาวในชุดสีเหลืองคนหนึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ ตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ กําลังใช้ดวงตากลมโตจ้องมองเธออย่างอยากรู้อยากเห็นดวงตาของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและไร้เดียงสา แต่กลับไม่มีเจตนาร้ายเลยแม้แต่น้อยถูซินเยว่เคยเห็นคนมามากมาย เรื่องเหล่านี้เธอยังพอสามารถมองออกได้ตั้งแต่แรกเห็นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีเจตนาร้าย ท่าทีของเธอก็อ่อนโยนลงมาก"ไม่ทราบว่าแม่นางมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?"ถ้าเธอจําไม่ผิด คนที่นั่งข้างเธอเมื่อกี้น่าจะเป็นผู้หญิงที่เยาะเย้ยเธ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 378 หน้าแตก

    ถูซินเยว่ชะงัก และรู้สึกตลก เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายก็รู้สึกประหลาดใจ ตอนที่ออกจากมาตอนเช้า เธอได้สวมใส่เครื่องประดับมาหลายชิ้นจริงๆแต่ระหว่างทาง ถูซินเยว่รู้สึกว่าต่างหูระเกะระกะเกินไป จึงแอบถอดมันออกและวางไว้บนรถม้าคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าในงานเลี้ยงจะมีคนไม่กินไม่ดื่ม แต่หันมาจับจ้องที่เครื่องหัวของตนเองแทนถูซินเยว่ยื่นมือไปจับที่ผมของตนเองอัตโนมัติ จากนั้นก็พูดเสียงราบเรียบว่า "ในเมื่อวันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพ แขกสำคัญจึงเป็นตระกูลจาง แล้วเหตุใดข้าจักต้องแต่งตัวให้ดูดีขนาดนั้น""จนก็ยอมรับว่าจนเถอะ จะหาเหตุผลอะไรมาอ้างมากมายไปทำไม ในที่นี้ใครไม่รู้บ้างว่าพวกเจ้ามาจากบ้านนอก ข้าเองก็แค่รู้สึกเสียดายแทนใตเท้าซูเท่านั้น ทั้งที่มีมีอนาคตอันดี หากแต่งงานกับบุตรสาวขุนนางสักคน ก็คงยิ่งช่วยส่งเสริมให้เจริญก้าวหน้า แต่กลับเลือกจะเฝ้าอยู่แค่หญิงชาวบ้านเฉกเช่นเจ้า..."ประโยคหลังแม้ว่าจะไม่ได้พูดต่อจนจบ แต่ก็สามารถเข้าใจได้ถึงแม้บนใบหน้าของถูซินเยว่จะแสดงสีหน้าใดๆ แต่สาวรับใช้ที่อยู่ข้างๆ สีหน้าย่ำแย่มากแล้วนางอาศัยอยู่ที่ตระกูลซูมานาน ก็พอจะรู้ว่าถูซินเยว่ไม่ได้ไม่มีเงิน และเงินส่วนใ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 377 ดูถูก

    ตั้งแต่ตอนที่อยู่ในหมู่บ้านต้าเย่ เพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หรือเพราะผลประโยชน์อันน้อยนิด แม้เป็นครอบครัวเดียวกัน ก็ยังสามารถโกรธแค้นกันจนตัดญาติขาดมิตรไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นใด แค่ในตระกูลถู เพียงเพื่อสินสอดของตระกูลเหลียง ถูชิวหลานก็ดันทุรังจะสับเปลี่ยนตัวเธอกับลูกสาว ภายหลังยังไม่ยอมรับด้วย แถมยังผลักไสความผิดทุกอย่างไปที่เจ้าของร่างหากเธอไม่ได้ข้ามิติมาอยู่ในร่างของเจ้าของร่างซื่อบื้อคนนั้น นางจะใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลซูอย่างไร เกรงว่าคงเหลือแต่เสี้ยววิญญาณแล้วอย่างด้านซูเฟิ่งอี๋ในตระกูลซู ตอนนั้นพวกเขาเองก็หวงแหนเงินเล็กๆ น้อยๆ เห็นชีวิตนางหยูกำลังตกอยู่ในอันตรายก็ยังไม่ยอมรักษาให้นางเรื่องราวของญาติสนิทมิตรสหายที่ทำร้ายคนใกล้ตัวเพียงเพื่อผลประโยชน์และเงินทองมีมากมายเกินกว่าจะพูด ขนาดบ้านเธอยังเป็นเช่นนี้ แล้วต้าฉีที่มีบ้านสกุลมากมายขนาดนี้ล่ะชาวบ้านธรรมดาทั่วไป อาจทำไปเพื่อเงินทอง แต่องค์ชายสามกับองค์ชายใหญ่ กลับทำเพื่อแก่งแย่งแผ่นดิน ขนาดที่เป็นการต่อสู้เพื่อความเป็นความตาย และไม่มีใครยอมอ่อนข้อให้ใคร ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้"ชีวิตคนเรามีหลายเรื่องที่มักไม่เป็นดังที่หวัง ข

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 376 อิจฉา

    "วันนี้เป็นงานเลี้ยงของตระกูลจาง ข้าก็นึกว่าเจ้าจะพูดคุยเรื่องอะไรกับข้า คาดไม่ถึงว่าจะใช้เรื่องนี้มาข่มขู่ข้าในที่ๆ ไม่มีคนเช่นนี้?"ชายผู้นั้นหัวคิ้วกระตุก รีบก้มศรีษะลงแล้วพูดว่า "กระหม่อมมิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่กระหม่อมทราบว่าองค์ชายสามเป็นคนเฉลียวฉลาด แต่ไหนแต่ไรมา การที่บุตรสายตรงรับสืบราชบัลลลังก์ต่อก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล แล้วไฉนองค์ชายสามจึงมิตั้งใจเป็นข้าราชบริพานบริสุทธิ์ คอยค้ำจุนเสด็จพี่ของพระองค์เล่าพ่ะย่ะค่ะ?"ฉีหวานหัวดราะเสียงดัง น้ำเสียงเย็นเยือกลงฉับพลัน เขาสะบัดแขนเสื้อ พร้อมสีหน้าเย็นชา "แม่ทัพหลิ่วพูดเช่นนี้ ช่างไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ตอนที่ข้าพบกับมือสังหารไล่เอาชีวิตตอนที่รีบเดินทางกลับมาจากเป่ยเจียงอันไกล แม้วันนี้ข้าไม่พูด เชื่อว่าท่านแม่ทัพเองก็คงทราบดีว่าเป็นฝีมือของใคร?"ถูซินเยว่ที่นั่งอยู่ในศาลาชะงักงัน ที่แท้คนที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับฉีหวานก็คือแม่ทัพหลิ่วนี่เอง หากนางจำไม่ผิดละก็ ก่อนหน้านี้ที่หน้าประตูตระกูลจาง ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวก็คือแม่ทัพหลิ่วผู้นี้สินะ?เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ถูซินเยว่ก็รู้สึกเซ็งขึ้นมา ถ้ารู้แต่แรกว่าพวกเขาจะคุยกันเรื่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 375 แอบฟัง

    หลิ่วโหรวโหรวก็มองเห็นพวกเขาเช่นกัน และเมื่อนึกถึงความสนิทสนมของถูซินเยว่และซููจื่อหังวันนั้นในจวนซู นางก็กำหมัดแน่นแม่ทัพหลิ่ว หลิ่วถิง เมื่อเห็นว่าบุตรสาวของตนเองอยู่ๆ ก็หน้าตาไม่สดใส ทั้งที่เมื่อสักครู่ยังดีอกดีใจ ก็ขมวดคิ้วถามว่า "เป็นอะไรไป? มีคนรู้จักรึ?""เจ้าค่ะ..." หลิ่วโหรวโหรวกำลังจะอ้าปากพูด ฮูหยินหลิ่วที่อยู่ข้างๆ ก็ผลักนาง และส่งสายตาให้กับอีกฝ่ายหลิ่วโหรวโหรวจึงได้แต่หุบปากเงียบอย่างไม่พอใจนักฮูหยินหลิ่วเดินไปข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวอย่างเงียบๆ กระตุกแขนเสื้อของบุตรสาวและพูดเตือนเสียงเบาว่า "เจ้าอย่าได้พูดถึงเรื่องของตระกูลซูอีก หากเจ้าพูดถึงอีกข้าจะไม่ยกโทษให้เจ้า! เมื่อกี้เจ้าไม่เห็นฮูหยินตระกูลซูหรือย่างไร? นางท้องโตขนาดนั้นแล้ว! เจ้าคิดจะไปเป็นภรรยาน้อยของคนอื่นหรือ? พูดออกไปรังแต่จะกลายเป็นเรื่องตลก!"หลิ่วโหรวโหรวสีหน้าย่ำแย่ทันทีแม้ว่าซูจื่อหังมีภรรยาหลวงอยู่แล้ว แต่ในใจนางนั่นก็เป็นเพียงหญิงบ้านนอกที่เทียบกับตนเองไม่ได้เลยด้วยซ้ำ นางซึ่งเป็นบุตรีสายตรงของจวนแม่ทัพ จะตกเป็นรองอยู่เป็นภรรยาน้อยของซูจื่อหังหรืออย่างไร?ลำพังแค่คิด นางก็ไม่ต้องการหลิ่วโหรวโหร

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 374 งานเลี้ยงตระกูลจาง

    ขณะที่ถูซินเยว่กำลังยุ่งอยู่กับการเปิดร้านขายเครื่องประดับ และนางหยูกำลังกังวลเรื่องลูกค้าอยู่นั้น เทียบเชิญฉบับหนึ่งก็ได้ส่งมาถึงที่บ้าน"เป็นงานฉลองวันเกิดของมารดาเฒ่าตระกูลจางจากเสนาบีดีกระทรวงการคลัง"ถูซินเยว่ถือเทียบเชิญไว้ในมือและยิ้มอย่างประหลาดใจ "ในเมืองหลวงแห่งนี้ข้านั้นไม่ได้รู้จักใครเลยสักคนหนึ่ง แต่นึกไม่ถึงว่าตระกูลจางจะส่งเทียบเชิญมาให้ข้า"สามีของตนเองก็เป็นข้าราชการขั้นเจ็ดเล็กๆ คนหนึ่ง แม้ว่าตระกูลจากจะไม่ใช่ข้าราชการชั้นสูง แต่ก็เป็นข้าราชการขั้นห้า และบรรพบุรุษก็ล้วนเป็นข้าราชการทั้งนั้น ซึ่งก็นับว่าเป็นตระกูลที่มีคุณธรรมสูงส่งการที่ส่งเทียบเชิญมาให้พวกเขาในงานเลี้ยงวันเกิดเช่นนี้ ก็เรียกได้ว่าไม่ได้ดูถูกพวกเขาเพียงแต่ คนในยุคโบราณส่วนมากจะดูแคลนคนทำธุรกิจ หากตนเองไปร่วมงานละก็ จะทำให้พวกเขารู้ว่าภรรยาของซูจื่อหังเป็นหญิงทำมาค้าขาย ก็ยากที่จะไม่ดูแคลนเดิมทีถูซินเยว่ไม่อยากไป แต่คาดไม่ถึงว่าซูจื่อหังจะหันมากุมมือเธอไว้ ยิ้มแล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจนักว่า "บุตรชายของใต้เท้าจางสนิทกับข้า ภรรยาของข้าเป็นหญิงสาวที่มีเสน่ห์มากที่สุดในใต้หล้า ไม่ว่าทำอะไรก็ดีทั้งนั้น แล

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 373 ฮ่องเต้หมดสติ

    สำหรับถูซินเยว่แล้ว จะเป็นลูกผู้ชายหรือผู้หญิงก็ไม่เป็นไร สิ่งสำคัญคือ การที่ลูกน้อยสามารถคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัยเพราะในยุคโบราณการที่ผู้หญิงคลอดลูกนั้นเปรียบเสมือนการเดินไปขอบประตูนรก ดังนั้นการที่สามารถให้กำเนิดลูกได้อย่างปลอดภัยถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย เธอจึงไม่คาดหวังอย่างอื่นอีกแต่ว่าช่วงนี้เธอมักจะถูกนางหยูล้างสมองอยู่บ่อยๆ จนถูซินเยว่เองก็คิดว่าท้องนี้อาจจะเป็นลูกผู้ชายก็ได้เป็นผู้ชายก็ดี เพราะความคิดปิดกั้นในยุคโบราณนั้นสร้างความลำบากให้กับหญิงสาวอย่างมาก หากเป็นเด็กผู้ชาย ก็สามารถลดความลำบากหลายๆ อย่างให้เธอได้ไม่น้อยเดิมทีถูซินเยว่อยากจะถามฉงเป่าว่าในท้องตนเองนั้นเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิงกันแน่ ซึ่งตามปกติแล้วขอเพียงเอาของกินมาล่อนิดล่อหน่อย ฉงเป่าก็ยอมพูดทุกอย่าง มีเพียงแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่ไม้ว่าถูซินเยว่ถามอย่างไร อีกฝ่ายก็ไม่ยอมบอก"อย่างไรเสียลูกก็อยู่ในท้องของข้า เจ้าจะบอกหน่อยมิได้หรือว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง? ถึงเจ้าพูดมา ด้วยเงื่อนไขการรักษาแบบนี้ข้าก็ทำอะไรเจ้าไม่ได้มิใช่หรือไง?"อีกอย่าง ถูซินเยว่เองก็ไม่มีความคิดการให้ความสำคัญชายมากกว่าหญิงด

DMCA.com Protection Status