แชร์

บทที่ 311 เป็นทุกข์แทนเขา

ผู้เขียน: ฮวาฮวาน่งหยวี่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-02-18 17:00:00
ถูซินเยว่เงยหน้าขึ้นและมองไปที่ซูจื่อหัง จากนั้นก็ผลักมือของอีกฝ่ายออกไปและพูดด้วยน้ำเสียงหดหู่ว่า "ข้าไม่ไป"

"ทำไม?"

หญิงสาวก้มศีรษะลงมาใกล้หน้าอกของเธอเรื่อยๆ แต่ใบหน้าของเธอนั้นเห็นได้ชัดว่าไม่มีความสุข

"ไม่อยากไป"

ซูจื่อหังอดขำไม่ได้

เขาจับมือของถูซินเยว่แล้วพูดอย่างจริงจัง "ข้าไม่รู้จักแม่นางหลิ่วคนเมื่อกี้จริงๆ เพียงแต่เมื่อวันก่อนนางโดนขโมยกระเป๋าเงิน ข้าเลยช่วยตามกลับมาให้ จากนั้นนางก็ตามข้ามาตลอดเลย"

ในเรื่องนี้ซูจื่อหังไม่คิดปิดบังถูซินเยว่อยู่แล้ว เพราะอย่างไรแล้วเขาก็เป็นคนตรงไปตรงมาและไม่มีอะไรที่พูดไม่ได้

ไม่ใช่ว่าถูซินเยว่ไม่เชื่อซูจื่อหัง แต่ก็แค่โมโหขึ้นมาเฉยๆ ตอนนี้เมื่อได้ยินชายหนุ่มสัญญาแบบนี้แล้ว เธอก็ไม่โวยวายโดยไม่มีเหตุผลอีก

"ข้าเชื่อท่าน"

แล้วรอยยิ้มที่จริงใจปรากฏขี้นบนใบหน้าของซูจื่อหัง

ถูซินเยว่กลัวว่าเขาจะได้ใจจนลืมตัว เธอจึงรีบพูดต่อว่า "แต่ว่าเราต้องตกลงกันก่อนนะว่าถ้าท่านทำอะไรที่มันล้ำเส้นเกินไป ข้าก็จะไม่ยกโทษให้ท่าน!"

คนสองคนอยู่กินด้วยกันกัน ถูซินเยว่ก็จะไม่สงสัยใครโดยไม่มีเหตุผล แต่อย่างไรก็ตามความไว้วางใจของเธอมีให้เขาได้เพียงครั้งเดียวเท
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 312 พ่อแง่แม่งอน

    พอมาถึงตลาดถูซินเยว่ก็เลือกผ้านวมหนา ๆ ให้ซูจื่อหัง คาดว่าหลังจากได้ห่มผ้าห่มผืนนี้แล้วซูจื่อหังคงจะไม่เป็นหวัดแล้ว เธอจึงค่อยรู้สึกโล่งใจขึ้นมาหน่อย"เดี๋ยวข้าจะเลือกเสื้อผ้าใหม่ให้ท่านสักสองชุด" ถูซินเยว่มองไปรอบๆ ด้วยความสนใจ พูดตามตรง เมืองหลวงไม่เพียงใหญ่กว่าชิงเฉิงมาก แต่ผู้คนที่เข้าและออกในตลาดก็มากกว่าเมืองเล็กๆ ที่พวกเขาอาศัยอยู่มากนัก ยิ่งเรื่องสิ่งที่น่าตื่นตาในตลาดยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยในทางกลับกันหนอนหนังสืออย่างซูจื่อหังเห็นอะไรก็เหมือนๆ กันทั้งนั้น เดิมทีเขาก็เดินตามถูซินเยว่อย่างว่าง่าย แต่เมื่อเขาได้ยินภรรยาของเขาบอกว่าเธอจะซื้อเสื้อผ้าให้เขาอีกสักสองชุด เขาก็ไม่สบายใจขึ้นมา"ก่อนมาเจ้าก็ซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้ข้าตั้งสองชุดแล้วไม่ใช่หรือ? ถ้าจะซื้อเสื้อผ้าตอนนี้อีกมันไม่เปลืองไปหรือ... ข้ามีเสื้อผ้าแล้วข้าก็ไม่หนาวด้วย!""แล้วใครใช้ให้ท่านไม่เอาเสื้อผ้ามาจากบ้านเล่า ซื้อแล้วก็ไม่ยอมใส่" ถูซินเยว่กลอกตามองอีกฝ่ายอย่างจนใจ แสร้งทำเป็นโกรธแล้วพูดว่า "ผู้ชายอกสามศอกอย่ามัวลังเลอยู่เลย ถ้าท่านยังมัวลังเลข้าจะไม่คุยด้วยแล้วนะ!"ต้องบอกว่าไม่ว่าจะพูดอะไรก็ไม่ได้ผลเท่ากับคำขู่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-18
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 313 อารมณ์หมองเศร้า

    หากไม่เพราะถูซินเยว่ มายืนจังก้าต่อหน้าให้เห็น เขายังนึกว่าสายตาตนเองมีปัญหาเสียด้วยซ้ำเมืองหลวงอยู่ห่างจากหมู่บ้านต้าเย่ไกลนับพันลี้ ต่อให้นางกับซูจื่อหังล้วนเป็นผู้ชาย ระหว่างทางก็ต้องระหกระเหิน ลำบากตรากตรำกว่าจะมาถึงเมืองหลวงได้แต่นี่ถูซินเยว่เป็นผู้หญิงแท้ ๆ นางมาได้อย่างไรกัน?"อาซ้อ ใช่ท่านจริงหรือน่ ข้ายังนึกว่าตัวเองฝันไปซะอีก"หนิงอวี้ตกใจเป็นอย่างมาก เดินมาตรงหน้าคนทั้งคู่ พลางพิจารณาถูซินเยว่ตั้งแต่หัวจรดเท้าหลายรอบ จึงได้เกิดความมั่นใจ“แล้วจู่ ๆ มาเมืองหลวงได้ยังไง ที่บ้านยังมีแม่ต้องดูแลไม่ใช่หรือ?"ถูซินเยว่คล้องแขนขอซูจื่อหัง พลางยิ้มเบา ๆ ใบหน้าเรียวเท่าฝ่ามือดูหมดจด ไม่ว่าจะพูดจาหรือยิ้มล้วนแสดงถึงความงามอันบาดตาทั้งสิ้นเรื่องตระกูลไป๋ถูกซูจื่อหังรับรู้เข้า ก็ถือว่าเหนือความคาดหมายแล้ว นางไม่ต้องการจะบอกคนนอกที่ไม่เกี่ยวข้องกับตนเองอีก ด้วยเหตุนี้ถูซินเยว่จึงได้แต่กล่าวว่า "นับแต่แต่งงานกันมา ยังไม่เคยได้พรากจากท่านพี่เลย ช่วงนี้ที่ท่านพี่ออกจากบ้าน ในใจจึงรู้สึกเป็นห่วงนัก ท่านแม่ก็เกรงว่าเขาจะมาลำบากที่เมืองหลวง จึงให้ข้าติดตามคนตระกูลไป๋แห่งผิงโจวมาด้วยก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-19
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 314 มุ่งสู่เทียนซาน

    ในบ้านตระกูลหลิ่ว หลิ่วโหรวโหรวยังคงเจ็บใจที่ตอนกลางวันถูกถูซินเยว่ลบหลู่ เมื่อกลับมาถึงห้องนอน ก็ลงสลักจากด้านในอย่างแน่นหนา พร้อมกับเริ่มขว้างปาข้าวของจวนแม่ทัพหลิ่วมีธิดาเพียงนางผู้เดียว จึงราวกับคาบช้อนทองมาเกิด กินดีอยู่ดีมาตั้งแต่เล็ก แม่ทัพกับฮูหยินยิ่งรักนางปานแก้วตาดวงใจ ทุกคนต่างก็ประคบประหงม เรียกว่าต้องการอะไรก็จะได้สมหวังทุกอย่างด้วยเหตุนี้ จึงทำให้นิสัยของหลิ่วโหรวโหรวกลายเป็นอย่างทุกวันนี้ ที่ยโสเอาแต่ใจ ไม่เคยเห็นใครอยู่ในสายตาเมื่อนางระบายอารมณ์อยู่ในห้อง บ่าวไพร่ก็ได้แต่มองตาปริบ ๆ ไม่มีใครกล้าเข้าไปห้ามปราม แต่ละคนได้แต่ยืนก้มหน้าอยู่ใต้ชายคา ส่งสายตาให้กันและกันพลางฟังเสียงโครมครามที่อยู่ด้านในไม่หยุด ล้วนเป็นเสียงกระเบื้องตกพื้นทั้งสิ้น"นับแต่คุณหนูได้รู้จักกับคุณชายซูผู้นั้น ทุกวันพอกลับมาก็เป็นต้องขว้างปาข้าวของ จนแจกันในห้องไม่รู้เปลี่ยนใหม่ตั้งกี่ใบแล้ว" สาวใช้กล่าวอย่างกลัดกลุ้ม "คุณหนูทำลายสิ่งของ ฮูหยินไม่เคยโทษนางแม้แต่น้อย กลับมาตำหนิพวกเราแทน หาว่าไปขัดใจคุณหนูเข้าอีก...""แต่ถึงให้เรามีความสามารถเพียงไหน ครั้งนี้ก็ยากจะให้คุณหนูสมหวังดังใจ เพราะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-19
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 315 หนึ่งหมื่นตำลึง

    ถูซินเยว่เหลือบมองเขาเล็กน้อย เลิกคิ้วพลางถามว่า "ใครเป็นคนกำหนด ว่าผู้หญิงตัวเล็ก ๆ จะต้องเกรงกลัว ข้าไม่กล้าเสียอย่าง ใครจะมาทำอะไรข้าได้?"อีกอย่าง ภูเขาหิมะในสายตาของคนสมัยก่อน อาจมีความสูงใหญ่และลึกลับน่ากลัว แต่สำหรับคนสมัยใหม่อย่างนางที่เคยปีนผ่านเขาหิมะมาแล้ว มันก็เป็นเพียงภาพธรรมชาติทั่วไปเท่านั้นไม่เห็นจะมีอะไรน่าหวาดกลัวเพียงแต่ระหว่างทางขึ้นเขานั้น ดูขาวโพลนไปทั่ว หากเป็นคนที่ไม่รู้เส้นทาง อาจหลงทางอยู่บนเขาก็เป็นได้เห็นไป๋อี้หรันยังคงมองตนอย่างครุ่นคิด ถูซินเยว่จึงโบกมือและกล่าวว่า "สิ่งที่เราควรคิดคำนึงไม่ใช่เรื่องนี้ แต่เป็นเพราะเร่งเดินทางมาเร็ว จนข้าหิวจะแย่แล้ว รีบหาโรงเตี๊ยมพักก่อนดีกว่า""ก็ได้" ไป๋อี้หรันพยักหน้ามองตามแผ่นหลังของถูซินเยว่ สายตาของชายหนุ่มมีแววลึกซึ้งไม่รู้เพราะเหตุใด เขามักรู้สึกว่าหญิงสาวเบื้องหน้าผู้นี้ ดูคล้ายกับเป็นป่าลึก ให้คนมองดูแล้วไม่เห็นที่สิ้นสุด แต่ยิ่งเป็นเช่นนี้ คนก็ยิ่งอยากค้นคว้า จนแทบอยากจุดไฟเผาป่านั้นให้ราบเป็นหน้ากลอง เพื่อดูว่าข้างในมีอะไรอยู่กันแน่อำเภอเทียนซานเป็นเพียงที่เท่าหยิบมือในเชิงเขาเท่านั้น เนื่องจากอาก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-19
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 316 ออกเดินทาง

    เมื่อเถ้าแก่มั่นใจว่าถูซินเยว่สามารถจ่ายเงินหนึ่งหมื่นตำลึงได้จริง นัยน์ตาก็กลอกกลิ้ง ท่าทีเปลี่ยนเป็นอ่อนลงในฉับพลัน"หากจะพูดถึงความคุ้นเคยบนเขาเทียนซาน คงไม่มีใครมาเทียบข้าได้ เพียงแต่ที่ผ่านมาข้ามัวแต่ค้าขาย จึงไม่เคยเป็นผู้นำทางให้ใคร" สายตาของเถ้าแก่ฉายแววเจ้าเล่ห์ "หากเจ้าสามารถจ่ายได้ถึงหมื่นตำลึงจริง งั้นเรื่องเปิดร้านหรือไม่คงไม่สำคัญอีก แล้วพวกเจ้าจะขึ้นเขาเมื่อไหร่ ข้าจะได้ตามไป"ถูซินเยว่มองหน้าอีกฝ่ายอย่างข้องใจ พลางเลิกคิ้ว"ความหมายของเถ้าแก่คือจะเป็นผู้นำทางให้เรา พาไปเขาเทียนซานอย่างงั้นหรือ?""เจ้าไม่เชื่อข้าหรือยังไง?" เห็นถูซินเยว่ใช้สายตามองดูตนอย่างสำรวจ เถ้าแก่ก็ให้ร้อนใจในฉับพลัน รีบเดินออกจากโต๊ะเก็บเงินพลางพบมือและกล่าวว่า "ในอำเภอเทียนซานนี้ใคร ๆ ก็รู้ว่าข้าหวังเหล่าเอ้อร์อยู่ที่นี่มาตั้งแต่เล็ก ถึงบอกว่าทั่วทั้งเขาเทียนซาน ไม่มีใครคุ้นเคยกับสถานที่มากกว่าข้าอีก ถ้าพวกเจ้าจะไปหาบัวหิมะจริง ก็ต้องพาข้าไปด้วย"น้ำเสียงเถ้าแก่มั่นอกมั่นใจแฝงด้วยความร้อนรน ทำท่าราวกับหากถูซินเยว่ไม่เชื่อใจ เขาจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดกระนั้นที่จริงถูซินเยว่ก็ใช่ว่าจะไม่เชื่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-20
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 317 มีหมาป่า

    เทียบกับตอนขึ้นเขาใหม่ ๆ มีความแตกต่าง ยิ่งเดินลึกเข้าไปเท่าไร ผู้คนก็ยิ่งกระจัดกระจายมากขึ้นผู้คนที่ตามพวกเขามาหาบัวหิมะเทียนซานเช่นกัน บัดนี้ต่างกระจายไปหมดแล้วทางเดินเบื้องหน้ายังไม่ลาดชันมากนัก ใกล้เคียงกับพื้นราบ ตามพื้นเต็มไปด้วยหิมะหนาทึบ รอบข้างไร้สรรพเสียงใด ๆ นอกจากเสียงรองเท้าที่ย่ำลงบนพื้นหิมะแล้ว แทบไม่มีเสียงอื่นใดอีก ช่างเป็นความเงียบสงัดอย่างแท้จริงนอกจากตอนขึ้นเขาแรก ๆ ที่มีการพูดคุยกับเถ้าแก่บ้าง หลังจากนั้นอาจเพราะบรรยากาศตึงเครียดเกินไป ทุกคนจึงต่างไม่พูดจา ได้แต่ก้มหน้าก้มตาเดินตามหลังเถ้าแก่แรกเริ่มที่ออกจากบ้านมา ถูซินเยว่ยังห่วงว่าการขึ้นเขาหิมะจะรู้สึกเหน็บหนาว จึงเพิ่มเสื้อผ้ามาอีกหลายตัว แต่บัดนี้กลับกลายเป็นยิ่งเดินก็ยิ่งอุ่นขึ้น ซ้ำยังมีเหงื่อออกซึมตามแผ่นหลังอีกไป๋อี้หรันก็รู้สึกเช่นเดียวกัน รวมถึงบ่าวเด็กชายอีกสองคนก็ไม่แตกต่างเพียงแแต่ถูซินเยว่และไป๋อี้หรันเอาแต่ก้มหน้าเดินตามหลังเถ้าแก่ ต่างไม่พูดไม่จา เว้นแต่บ่าวเด็กชาย คล้ายอดรนทนไม่ไหวจึงได้เอ่ยปากโอดครวญ"ยิ่งเดินก็ยิ่งร้อนขึ้น หากรู้แต่แรกจะไม่หอบหิ้วของมามากมาย ซ้ำยังมีผ้านวมมาอีก แบก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-20
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 318 ค่ำคืน

    ตรงข้ามกับถูซินเยว่ซึ่งเป็นหญิงสาว แววตากลับไม่มีความประหลาดใจอันใด กลับเห็นด้วยกับความคิดของเถ้าแก่เสียด้วยซ้ำ"พูดถูกต้อง ที่แบบนนี้มักจะมีหมาป่าปรากฏตัวเป็นกลุ่ม อีกทั้งที่ ๆ หิมะตกจะไม่ค่อยมีสัตว์อื่น ถ้าหมาป่าพบเห็นมนุษย์ก็จะกรูเข้ามาราวกับคลุ้มคลั่ง ถึงตอนนั้นคิดหนีก็คงไม่ง่ายแล้ว"กวานเหยียนอ้าปากค้าง เหมือนคนตกใจแทบสิ้นสติเดิมคิดว่ากลางคืนแค่ห่มผ้าหนา ๆ ไม่ให้หนาวตายก็พอแล้ว ที่ไหนได้ยังต้องเผชิญกับสัตว์ดุร้ายเข้าอีก"แล้ว...ถ้าพวกมันมองเห็นเราล่ะ...""เจ้านี่ปากเสียจริง ๆ ยังไม่รีบหุบปากอีก" เถ้าแก่ทำตาขวางใส่เขา ท่าทางเหมือนจะโกรธ น้ำเสียงก็ฟังดูร้อนรน ในใจแอบคิดว่าอย่าให้อีกฝ่ายพูดถูกเลยพอได้ยินเถ้าแก่พูดเช่นนี้ กวานเหยียนก็รู้สึกละอายใจ จึงได้หุบปากเงียบ ๆพอเถ้าแก่บอกว่ามีหมาป่าหิวโหย ทุกคนที่เดินทางก็เริ่มรู้สึกตึงเครียด ต่างผ่อนฝีเท้าให้ช้าลงเดินตามหลังเถ้าแก่ ช่วยกันมองหาที่สำหรับพักผ่อนชั่วคราวและแล้วก่อนตะวันจะตกดิน ก็เจอที่ราบเรียบพอสมควรที่หนึ่ง เถ้าแก่เดินสำรวจรอบ ๆ พลางแหงนหน้าขึ้นมองตามริมทาง พยักหน้ากล่าวว่า "ตั้งกระโจมที่นี่ก็แล้วกัน เดี๋ยวเจ้าตามข้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-20
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 319 เจอหมาป่า

    เมื่อกี้ตอนที่นั่งล้อมกองไฟกินอาหารแห้ง คำพูดที่เถ้าแก่พูดกับกวานเหยียนไม่มีคำไหนเป็นเท็จ ในวันที่หิมะปกคลุมโดยเฉพาะคืนที่มีพระจันทร์เช่นนี้ มักจะพบกับหมาป่าร้ายได้ง่ายๆสัตว์อย่างหมาป่าโดยธรรมชาติแล้วมักอยู่รวมกันเป็นฝูง หากพบแค่ตัวเดียวก็หมายความว่าด้านหลังยังรออยู่อีกเป็นฝูง ตอนนี้รอบๆ พวกเขาไม่มีอะไรเลย มีเพียงแค่คนสี่คน และในนั้นเป็นคนป่วยตัวผอมแห้งหนึ่งคน กับผู้หญิงอีกหนึ่งคน หากเจอเข้ากับฝูงหมาป่าจริงๆ อย่าว่าแต่หนีเลย ถึงตอนนั้นเกรงว่าจะไม่มีเหลือแม้แต่เสี้ยวกระดูกดังนั้นตอนที่อยู่เฝ้ายามเถ้าแก่จึงระวังอย่างมาก เพราะกลัวจะเจอกับฝูงหมาป่า ตอนที่เลือกสถานที่ตั้งเต็นท์ เขาก็ระมัดระวังมากเช่นกันโดยเดินไปสำรวจดูรอบๆ แต่เมื่อไม่พบรอยเท้าของฝูงหมาป่าจึงได้วางใจเพียงแต่เมื่อได้ยินเสียงครวญครางท่ามกลางเสียงลม ทันใดนั้นเถ้าก็รู้ทันทีว่าสิ่งที่หวาดกลัวกำลังเข้ามา บางทีคืนนี้พวกเขาคงจะได้พบกับสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในเขาเทียนซานเข้าแล้วสีหน้าของเขามีความระมัดระวังมากกว่าเมื่อกี้นี้มาก เขายื่นมือมาจับไม้ฟืนท่อนหนึ่งจากกองไฟ ดวงตากว้านมองไปรอบๆ ด้วยความระมัดระวังพร้อมความหวาดกลัวราวกับนก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21

บทล่าสุด

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 381 ช่างคล้ายคลึงนัก

    ทั้งคู่เดินถึงหน้าประตู ปะเหมาะเวลานี้ จวนแม่ทัพหลิ่วก็มีคนเดินออกมาเช่นกัน"คนนี้ก็คือใต้เท้าซูที่เจ้าชอบอย่างงั้นหรือ" ฮูหยินหลิ่วเหลียวมองบุตรีซึ่งอยู่ข้างกาย สื่อเป็นนัยให้อีกฝ่ายอย่าได้วู่วามทุกวันนี้คราใดที่หลิ่วโหรวโหรวเห็นถูซินเยว่กับซูจื่อหังเดินมาด้วยกัน ด้วยท่าทีรักใคร่ปรองดอง นางจะรู้สึกเดือดดาลในใจ ราวกับภูเขาไฟที่ใกล้ระเบิดกระนั้นนางทำเสียงฮึดฮัด "ถูซินเยว่มีวันนี้ได้ ก็เพราะอาศัยบารมีซูจื่อหัง แต่คอยดูไปเถิด หญิงบ้านนอกเช่นนาง ใหม่ ๆ ยังพอทำให้ซูจื่อหังพอใจได้บ้าง แต่พอนานวันเข้า ได้เห็นสาวงามในเมืองหลวงมากมาย ความรักของพวกเขายังมั่นคงเหมือนแต่ก่อนได้อีก ก็แสดงว่าผิดมนุษย์แล้ว"ฮูหยินหลิ่วแสดงท่าทีนิ่งเฉยแต่บุตรีพูดก็มีเหตุผล ผู้ชายในโลกนี้น้อยนักที่จะไม่คิดได้ใหม่ลืมเก่า ยกตัวอย่างเช่นสามีของนาง ในอดีตก็เคยให้คำมั่นสัญญา ว่าแม้เป็นหรือตายก็จะขอรักอดีตคนรักเพียงผู้เดียว แต่พอบ้านเขาประสบภาวะเดือดร้อน สุดท้ายก็มาเลือกแต่งงานกับตน จนบัดนี้ลืมหน้านังคนแพศยานั่นไปถึงไหนต่อไหนแล้วแสดงว่าความจริงใจของผู้ชายคือสิ่งที่ไร้ประโยชน์ปกติเสแสร้งทำเป็นรักมั่นจริงใจ แต่พอเอ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 380 ลูกสาวจอมโง่เขลา

    หากซูจื่อหังไม่รังเกียจถูซินเยว่แล้วล่ะก็ งั้นต่อให้หลิ่วโหรวโหรววทุ่มเทแรงกายแรงใจมากแค่ไหนก็ตาม เกรงว่าก็คงไม่สามารถเข้าไปในจวนสกุลซูได้ดั่งใจปรารถนาหรอกแต่น่าขําที่ลูกสาวคนนี้ของนางกลับไม่รู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้เลย รู้แต่ไปเหยียดหยามถูซินเยว่อย่างโง่เขลาเท่านั้นนี่ถ้าทําให้ถูซินเยว่อับอายต่อหน้าทุกคนก็ว่าไปอย่าง แต่นี่กลับยังโดนถูซินเย่วตอบโต้กลับมาจนขายหน้า นี่ไม่ใช่เป็นการตบหน้าตัวเองหรือไง?เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินหลิ่วก็ไม่อยากเห็นหน้าลูกสาวคนนี้แม้แต่นิดนางขมวดคิ้ว จู่ ๆ ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า "ใช่แล้ว เรื่องนี้ข้ายังไม่ได้บอกพ่อเจ้า ถ้าพ่อเจ้ารู้ ดูสิว่าเขาจะสั่งสอนเจ้ายังไง เจ้าระวังตัวหน่อย"ภายใต้การเกลี้ยกล่อมและคําเตือนของฮูหยินหลิ่ว ในที่สุดหลิ่วโหรวโหรวก็หลับตาลง นางนั่งอยู่บนที่นั่งของตัวเองอย่างเซ็ง ๆ ทั้งหน้ามีแค่อารมณ์เดียวนั่นก็คือ นางไม่มีความสุขฮูหยินหลิ่วถอนหายใจอย่างจนใจ แล้วเงยหน้ามองฝั่งตรงข้าม ตําแหน่งของนาง มีเพิงดอกไม้อยู่ตรงกลางบดบังร่างของถูซินเยว่พอดี ดังนั้นนางจึงเห็นเพียงโครงร่างผ่านเถาวัลย์อย่างคลุมเครือเท่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 379 จางเยียนหรัน

    วันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงเชิญตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ก่อนมาซูจื่อหังเคยพูดกับนางว่า เขากับตระกูลจางเข้ากันได้ดีในราชสํานัก ดังนั้นวันนี้ ถูซินเยว่ก็ไม่อยากสร้างปัญหาอะไรให้กับตระกูลจาง เพื่อไม่ให้คนอื่นรู้สึกว่าพวกเขาไม่มีมารยาทเห็นเหล่าฮูหยินกับหลิ่วโหรวโหรวเพิ่งเยาะเย้ยเธอเมื่อครู่ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ถูซินเยว่ก็สบายใจไม่น้อย ก้มหน้าก้มตากินอาหารด้วยตัวเองไม่สนใจใครทั้งนั้นในขณะที่เธอกําลังกินอย่างมีความสุข จู่ ๆ ก็มีคนผลักแขนของเธอเบา ๆถูซินเยว่นิ่งงันไปพักหนึ่ง หันหน้ากลับไปอย่างสงสัยใคร่รู้ เห็นหญิงสาวในชุดสีเหลืองคนหนึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ ตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ กําลังใช้ดวงตากลมโตจ้องมองเธออย่างอยากรู้อยากเห็นดวงตาของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและไร้เดียงสา แต่กลับไม่มีเจตนาร้ายเลยแม้แต่น้อยถูซินเยว่เคยเห็นคนมามากมาย เรื่องเหล่านี้เธอยังพอสามารถมองออกได้ตั้งแต่แรกเห็นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีเจตนาร้าย ท่าทีของเธอก็อ่อนโยนลงมาก"ไม่ทราบว่าแม่นางมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?"ถ้าเธอจําไม่ผิด คนที่นั่งข้างเธอเมื่อกี้น่าจะเป็นผู้หญิงที่เยาะเย้ยเธ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 378 หน้าแตก

    ถูซินเยว่ชะงัก และรู้สึกตลก เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายก็รู้สึกประหลาดใจ ตอนที่ออกจากมาตอนเช้า เธอได้สวมใส่เครื่องประดับมาหลายชิ้นจริงๆแต่ระหว่างทาง ถูซินเยว่รู้สึกว่าต่างหูระเกะระกะเกินไป จึงแอบถอดมันออกและวางไว้บนรถม้าคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าในงานเลี้ยงจะมีคนไม่กินไม่ดื่ม แต่หันมาจับจ้องที่เครื่องหัวของตนเองแทนถูซินเยว่ยื่นมือไปจับที่ผมของตนเองอัตโนมัติ จากนั้นก็พูดเสียงราบเรียบว่า "ในเมื่อวันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพ แขกสำคัญจึงเป็นตระกูลจาง แล้วเหตุใดข้าจักต้องแต่งตัวให้ดูดีขนาดนั้น""จนก็ยอมรับว่าจนเถอะ จะหาเหตุผลอะไรมาอ้างมากมายไปทำไม ในที่นี้ใครไม่รู้บ้างว่าพวกเจ้ามาจากบ้านนอก ข้าเองก็แค่รู้สึกเสียดายแทนใตเท้าซูเท่านั้น ทั้งที่มีมีอนาคตอันดี หากแต่งงานกับบุตรสาวขุนนางสักคน ก็คงยิ่งช่วยส่งเสริมให้เจริญก้าวหน้า แต่กลับเลือกจะเฝ้าอยู่แค่หญิงชาวบ้านเฉกเช่นเจ้า..."ประโยคหลังแม้ว่าจะไม่ได้พูดต่อจนจบ แต่ก็สามารถเข้าใจได้ถึงแม้บนใบหน้าของถูซินเยว่จะแสดงสีหน้าใดๆ แต่สาวรับใช้ที่อยู่ข้างๆ สีหน้าย่ำแย่มากแล้วนางอาศัยอยู่ที่ตระกูลซูมานาน ก็พอจะรู้ว่าถูซินเยว่ไม่ได้ไม่มีเงิน และเงินส่วนใ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 377 ดูถูก

    ตั้งแต่ตอนที่อยู่ในหมู่บ้านต้าเย่ เพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หรือเพราะผลประโยชน์อันน้อยนิด แม้เป็นครอบครัวเดียวกัน ก็ยังสามารถโกรธแค้นกันจนตัดญาติขาดมิตรไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นใด แค่ในตระกูลถู เพียงเพื่อสินสอดของตระกูลเหลียง ถูชิวหลานก็ดันทุรังจะสับเปลี่ยนตัวเธอกับลูกสาว ภายหลังยังไม่ยอมรับด้วย แถมยังผลักไสความผิดทุกอย่างไปที่เจ้าของร่างหากเธอไม่ได้ข้ามิติมาอยู่ในร่างของเจ้าของร่างซื่อบื้อคนนั้น นางจะใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลซูอย่างไร เกรงว่าคงเหลือแต่เสี้ยววิญญาณแล้วอย่างด้านซูเฟิ่งอี๋ในตระกูลซู ตอนนั้นพวกเขาเองก็หวงแหนเงินเล็กๆ น้อยๆ เห็นชีวิตนางหยูกำลังตกอยู่ในอันตรายก็ยังไม่ยอมรักษาให้นางเรื่องราวของญาติสนิทมิตรสหายที่ทำร้ายคนใกล้ตัวเพียงเพื่อผลประโยชน์และเงินทองมีมากมายเกินกว่าจะพูด ขนาดบ้านเธอยังเป็นเช่นนี้ แล้วต้าฉีที่มีบ้านสกุลมากมายขนาดนี้ล่ะชาวบ้านธรรมดาทั่วไป อาจทำไปเพื่อเงินทอง แต่องค์ชายสามกับองค์ชายใหญ่ กลับทำเพื่อแก่งแย่งแผ่นดิน ขนาดที่เป็นการต่อสู้เพื่อความเป็นความตาย และไม่มีใครยอมอ่อนข้อให้ใคร ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้"ชีวิตคนเรามีหลายเรื่องที่มักไม่เป็นดังที่หวัง ข

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 376 อิจฉา

    "วันนี้เป็นงานเลี้ยงของตระกูลจาง ข้าก็นึกว่าเจ้าจะพูดคุยเรื่องอะไรกับข้า คาดไม่ถึงว่าจะใช้เรื่องนี้มาข่มขู่ข้าในที่ๆ ไม่มีคนเช่นนี้?"ชายผู้นั้นหัวคิ้วกระตุก รีบก้มศรีษะลงแล้วพูดว่า "กระหม่อมมิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่กระหม่อมทราบว่าองค์ชายสามเป็นคนเฉลียวฉลาด แต่ไหนแต่ไรมา การที่บุตรสายตรงรับสืบราชบัลลลังก์ต่อก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล แล้วไฉนองค์ชายสามจึงมิตั้งใจเป็นข้าราชบริพานบริสุทธิ์ คอยค้ำจุนเสด็จพี่ของพระองค์เล่าพ่ะย่ะค่ะ?"ฉีหวานหัวดราะเสียงดัง น้ำเสียงเย็นเยือกลงฉับพลัน เขาสะบัดแขนเสื้อ พร้อมสีหน้าเย็นชา "แม่ทัพหลิ่วพูดเช่นนี้ ช่างไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ตอนที่ข้าพบกับมือสังหารไล่เอาชีวิตตอนที่รีบเดินทางกลับมาจากเป่ยเจียงอันไกล แม้วันนี้ข้าไม่พูด เชื่อว่าท่านแม่ทัพเองก็คงทราบดีว่าเป็นฝีมือของใคร?"ถูซินเยว่ที่นั่งอยู่ในศาลาชะงักงัน ที่แท้คนที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับฉีหวานก็คือแม่ทัพหลิ่วนี่เอง หากนางจำไม่ผิดละก็ ก่อนหน้านี้ที่หน้าประตูตระกูลจาง ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวก็คือแม่ทัพหลิ่วผู้นี้สินะ?เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ถูซินเยว่ก็รู้สึกเซ็งขึ้นมา ถ้ารู้แต่แรกว่าพวกเขาจะคุยกันเรื่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 375 แอบฟัง

    หลิ่วโหรวโหรวก็มองเห็นพวกเขาเช่นกัน และเมื่อนึกถึงความสนิทสนมของถูซินเยว่และซููจื่อหังวันนั้นในจวนซู นางก็กำหมัดแน่นแม่ทัพหลิ่ว หลิ่วถิง เมื่อเห็นว่าบุตรสาวของตนเองอยู่ๆ ก็หน้าตาไม่สดใส ทั้งที่เมื่อสักครู่ยังดีอกดีใจ ก็ขมวดคิ้วถามว่า "เป็นอะไรไป? มีคนรู้จักรึ?""เจ้าค่ะ..." หลิ่วโหรวโหรวกำลังจะอ้าปากพูด ฮูหยินหลิ่วที่อยู่ข้างๆ ก็ผลักนาง และส่งสายตาให้กับอีกฝ่ายหลิ่วโหรวโหรวจึงได้แต่หุบปากเงียบอย่างไม่พอใจนักฮูหยินหลิ่วเดินไปข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวอย่างเงียบๆ กระตุกแขนเสื้อของบุตรสาวและพูดเตือนเสียงเบาว่า "เจ้าอย่าได้พูดถึงเรื่องของตระกูลซูอีก หากเจ้าพูดถึงอีกข้าจะไม่ยกโทษให้เจ้า! เมื่อกี้เจ้าไม่เห็นฮูหยินตระกูลซูหรือย่างไร? นางท้องโตขนาดนั้นแล้ว! เจ้าคิดจะไปเป็นภรรยาน้อยของคนอื่นหรือ? พูดออกไปรังแต่จะกลายเป็นเรื่องตลก!"หลิ่วโหรวโหรวสีหน้าย่ำแย่ทันทีแม้ว่าซูจื่อหังมีภรรยาหลวงอยู่แล้ว แต่ในใจนางนั่นก็เป็นเพียงหญิงบ้านนอกที่เทียบกับตนเองไม่ได้เลยด้วยซ้ำ นางซึ่งเป็นบุตรีสายตรงของจวนแม่ทัพ จะตกเป็นรองอยู่เป็นภรรยาน้อยของซูจื่อหังหรืออย่างไร?ลำพังแค่คิด นางก็ไม่ต้องการหลิ่วโหรวโหร

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 374 งานเลี้ยงตระกูลจาง

    ขณะที่ถูซินเยว่กำลังยุ่งอยู่กับการเปิดร้านขายเครื่องประดับ และนางหยูกำลังกังวลเรื่องลูกค้าอยู่นั้น เทียบเชิญฉบับหนึ่งก็ได้ส่งมาถึงที่บ้าน"เป็นงานฉลองวันเกิดของมารดาเฒ่าตระกูลจางจากเสนาบีดีกระทรวงการคลัง"ถูซินเยว่ถือเทียบเชิญไว้ในมือและยิ้มอย่างประหลาดใจ "ในเมืองหลวงแห่งนี้ข้านั้นไม่ได้รู้จักใครเลยสักคนหนึ่ง แต่นึกไม่ถึงว่าตระกูลจางจะส่งเทียบเชิญมาให้ข้า"สามีของตนเองก็เป็นข้าราชการขั้นเจ็ดเล็กๆ คนหนึ่ง แม้ว่าตระกูลจากจะไม่ใช่ข้าราชการชั้นสูง แต่ก็เป็นข้าราชการขั้นห้า และบรรพบุรุษก็ล้วนเป็นข้าราชการทั้งนั้น ซึ่งก็นับว่าเป็นตระกูลที่มีคุณธรรมสูงส่งการที่ส่งเทียบเชิญมาให้พวกเขาในงานเลี้ยงวันเกิดเช่นนี้ ก็เรียกได้ว่าไม่ได้ดูถูกพวกเขาเพียงแต่ คนในยุคโบราณส่วนมากจะดูแคลนคนทำธุรกิจ หากตนเองไปร่วมงานละก็ จะทำให้พวกเขารู้ว่าภรรยาของซูจื่อหังเป็นหญิงทำมาค้าขาย ก็ยากที่จะไม่ดูแคลนเดิมทีถูซินเยว่ไม่อยากไป แต่คาดไม่ถึงว่าซูจื่อหังจะหันมากุมมือเธอไว้ ยิ้มแล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจนักว่า "บุตรชายของใต้เท้าจางสนิทกับข้า ภรรยาของข้าเป็นหญิงสาวที่มีเสน่ห์มากที่สุดในใต้หล้า ไม่ว่าทำอะไรก็ดีทั้งนั้น แล

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 373 ฮ่องเต้หมดสติ

    สำหรับถูซินเยว่แล้ว จะเป็นลูกผู้ชายหรือผู้หญิงก็ไม่เป็นไร สิ่งสำคัญคือ การที่ลูกน้อยสามารถคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัยเพราะในยุคโบราณการที่ผู้หญิงคลอดลูกนั้นเปรียบเสมือนการเดินไปขอบประตูนรก ดังนั้นการที่สามารถให้กำเนิดลูกได้อย่างปลอดภัยถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย เธอจึงไม่คาดหวังอย่างอื่นอีกแต่ว่าช่วงนี้เธอมักจะถูกนางหยูล้างสมองอยู่บ่อยๆ จนถูซินเยว่เองก็คิดว่าท้องนี้อาจจะเป็นลูกผู้ชายก็ได้เป็นผู้ชายก็ดี เพราะความคิดปิดกั้นในยุคโบราณนั้นสร้างความลำบากให้กับหญิงสาวอย่างมาก หากเป็นเด็กผู้ชาย ก็สามารถลดความลำบากหลายๆ อย่างให้เธอได้ไม่น้อยเดิมทีถูซินเยว่อยากจะถามฉงเป่าว่าในท้องตนเองนั้นเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิงกันแน่ ซึ่งตามปกติแล้วขอเพียงเอาของกินมาล่อนิดล่อหน่อย ฉงเป่าก็ยอมพูดทุกอย่าง มีเพียงแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่ไม้ว่าถูซินเยว่ถามอย่างไร อีกฝ่ายก็ไม่ยอมบอก"อย่างไรเสียลูกก็อยู่ในท้องของข้า เจ้าจะบอกหน่อยมิได้หรือว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง? ถึงเจ้าพูดมา ด้วยเงื่อนไขการรักษาแบบนี้ข้าก็ทำอะไรเจ้าไม่ได้มิใช่หรือไง?"อีกอย่าง ถูซินเยว่เองก็ไม่มีความคิดการให้ความสำคัญชายมากกว่าหญิงด

DMCA.com Protection Status