แชร์

บทที่ 211 เถ้าแก่เนียะ

ผู้เขียน: ฮวาฮวาน่งหยวี่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-01-16 17:00:01
ลุงเฉียนฟังจบ ก็ตาเป็นประกาย แล้วยกนิ้วโป้งให้ถูซินเยว่ พูดขึ้นว่า "ดี เป็นความคิดที่ดีมาก ไม่เสียดายที่เป็นคนที่ข้าเลื่อมใสมาโดยตลอด ไม่ต้องปรึกษากับเจ้าของแล้ว ข้าตัดสินใจเอง!"

"ได้เล้ย!" ถูซินเยว่พยักหน้า ยิ้มอย่างไม่มีพิษไม่มีภัย ราวกับกระต่ายน้อยผู้ไร้เดียงสา

หลังจากออกมาจากโรงเตี๊ยมเทียนเซียงแล้ว ซูจื่อหังก็เต็มไปด้วยความสงสัยจึงถามขึ้นว่า "ซินเยว่ เจ้าคิดวิธีอะไรได้กันแน่? เมื่อครู่เจ้าพูดกับลุงเฉียนไม่ให้ข้าได้ยิน ข้าอยากรู้"

ชายหนุ่มก้มหน้าลงด้วยสีหน้าวิงวอน ทำให้ถูซินเยว่ชอบใจ

เธอกระแอมขึ้นหนึ่งที ทำหน้าทะเล้น "ข้าไม่บอก"

ซูจื่อหังรู้สึกหมดหนทาง

ณ เวลานี้ ถูซินเยว่กำลังเดินไปกับซูจื่อหัง ส่วนลุงเฉียนก็เดินไปที่ด้านหลังของโรงเตี๊ยมเทียนเซียง เคาะที่ประตูเล็ก ๆ บานหนึ่ง

"เข้ามา" เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังลอดออกมา

ลุงเฉียนรีบผลักประตูเปิดออก เดินไปถึงฉากกั้นห้องแล้วหยุดลง

"เถ้าแก่เนียะ"

"เรื่องโรงเตี๊ยมชุนเฟิงงั้นหรือ?"

"ใช่ขอรับ!" ลุงเฉียนพยักหน้า แล้วเงยหน้ามองเงาที่อยู่บนฉากกั้นเล็กน้อย ก็เห็นว่าบุคคลที่อยู่ข้างหลังฉากนั้นกำลังพลิกตำราอ่านหนังสืออยู่ ก็ก้มหน้าลงพูดว
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 212 ยายเฉิน

    รอยยิ้มนั้นเห็นได้ชัดว่าเต็มไปด้วยความชื่นชมต่อคู่หนุ่มสาวถูซินเยว่รู้สึกจนปัญญา อยู่กับซูจื่อหังมานานขนาดนี้ เธอก็พอรู้ว่าสามีของตนนั้นเป็นคนเงียบและเฉยชา คนทั่วไปมักจะเข้าถึงยาก แต่พอได้สนิทกันแล้วก็จะรู้ว่าแท้จริงแล้วซูจื่อหังเป็นคนใจอ่อน และหน้าหนาพอสมควร"มีเรื่องอะไรกลับไปพูดที่บ้าน" ถูซินเยว่หยิกเอวชายหนุ่ม บ้าเอ้ย ที่เอวซูจื่อหังมีเนื้อนุ่ม ๆ ที่ไหนกัน มีแต่กล้ามเนื้อทั้งนั้น เธอจึงไม่สามารถหยิกเขาได้ เมื่อทำอะไรชายหนุ่มไม่ได้ ถูซินเยว่จึงได้แต่กรอกตาใส่แต่ซูจื่อหังกลับอารมณ์ดี กุมมือเธอไว้แน่น กลัวว่าเธอจะพลัดหายไปกับฝูงชน"ได้ กลับไปพูดที่บ้าน"ทั้งสองเดินเบียดเสียดกับผู้คนมาถึงหัวมุมหนึ่งในตลาดเพราะหัวมุมตรงนี้ทำเลไม่ดี ดังนั้นคนจึงน้อย แต่เมื่อมีแสงแดดหลังฝนที่สาดส่องไปยังผักสดต่างๆ บนแผง ทำให้ผักเหล่านั้นทอประกายสีเขียวสดใส"ยายเฉิน" ซูจื่อหังจูงมือถูซินเยว่มาที่หน้าแผงของหญิงชราคนหนึ่ง จากนั้นก็ส่งเสียงเรียกพร้อมรอยยิ้มบนแผงนั้นมีหญิงชราคนหนึ่งนั่งอยู่บนม้านั่ง กำลังหรี่ตาเลือกผักที่อยู่ตรงหน้า พอเห็นผักส่วนที่ไม่ดีก็เด็ดทิ้งลงในถังขยะที่อยู่ข้าง ๆเมื่อได้ยิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-16
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 213 เถ้าแก่น้อยโณงเตี๊ยมชุนเฟิง

    "แม่นาง เจ้าก็เอาไปเถอะ ก็แค่ตะกร้าใบหนึ่งเท่านั้น กลับบ้านไปข้าให้สามีข้าสานใบใหม่อีกใบก็พอ" ยายเฉินเร่งเร้าจนถูซินเยว่ต้านทานไม่ไหว"ที่รัก เจ้าว่า...""ทำตามยายเฉินว่าเถอะ" เขาพยักหน้ายายเฉินจึงนำถั่วเหลืองเหล่านี้ไปชั่งดูว่ามีอยู่เท่าไร"ทั้งหมดยี่สิบเอ็ดชั่ง ราคาสามอีแปะต่อชั่ง เจ้าให้ข้าหกสิบอีแปะก็พอ อีกหนึ่งชั่งที่เหลือแถมให้พวกเจ้า" ยายเฉินยังคิดเงินเป็นตัวเลขกลมๆ ให้กับพวกเขาอีกต่างหากถูซินเยว่ได้ตะกร้าจากยายเฉินมาใบหนึ่งก็เกรงใจมากพอแล้ว แล้วจะให้เธอเอาเปรียบผู้อื่นอีกได้อย่างไร เธอให้ซูจื่อหังอุ้มตะกร้าที่ใส่ถั่วเหลืองอยู่ขึ้นมา และไม่พูดอะไรมาก ก้มหน้าหยิมเหรียญทองแดงกองหนึ่งจากกระเป๋าเงินให้ยายเฉิน พูดว่า "เงินอยู่ตรงนี้ ท่านนับดูก่อน ข้ายังมีของที่ต้องซื้อ ขอตัวก่อน" "อื้อ" ยายเฉินเชื่อใจพวกเขามาก และไม่กลัวว่าถูซินเยว่จะตั้งใจจ่ายเงินให้ไม่ครบถูซินเยว่ดึงแขนซูจื่อหังเดินจากไป จนกระทั่งทั้งคู่เดินออกไปไกลแล้ว ยายเฉินถึงนับเหรียญทองแดงที่วางอยู่บนแผง"หกสิบห้าอีแปะ? ไม่ใช่หกสิบอีแปะรึ?" ยายเฉินชะงัก จากนั้นก็เผยรอยยิ้มที่ยอมใจออกมา ก้มหน้าพิมพำว่า "เด็กสองคนนี้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-16
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 214 ทำเต้าหู้

    พระอาทิตย์กำลังตกดิน หลังจากที่เดินทางมาหลายชั่วยาม ถูซินเยว่กับซูจื่อหังก็มองเห็นประตูหมู่บ้านต้าเย่จากที่ไกลๆ เสียที"ในที่สุดก็ถึงแล้ว!" วันนี้เดินทางไปโน่นนี่ทั้งวัน จนถูซินเยว่รู้สึกว่าขาแข้งแทบจะหักอยู่แล้ว ตอนนี้เธอคิดถึงระบบการขนส่งของยุคปัจจุบันเป็นอย่างมากไม่ต้องถึงขั้นรถยนต์ ขอแค่จักรยานให้เธอสักคันหนึ่ง เธอก็สามารถปั่นกลับมาถึงภายในครึ่งชั่วโมง"ที่รัก ให้ข้าช่วยเจ้าถือหน่อยไหม" ถูซินเยว่หันไปมองซูจื่อหังตลอดทางเธอจำไม่ได้แล้วว่าตนเองถามซูจื่อหังไปแล้วกี่ครั้งว่าจะให้ตนเองช่วยถือของไหม แต่น่าเสียดายที่ซูจื่อหังดื้อรั้นมาก ปฏิเสธลูกเดียว พอถูซินเยว่จะแย่งเอาของมาถือ เขายังทำท่าเหมือนโดนหยามศํกดิ์ศรีอีกต่างหากถูซินเยว่ก็จนปัญญา แต่ก็เป็นห่วงแผลที่มือของซูจื่อหัง ในเมื่อทำอะไรไม่ได้ เธอจึงได้แต่คอยถามตลอดทาง เผื่อว่าบางทีซูจื่อหังอาจจะเหนื่อยแล้วก็ได้?เมื่อเห็นเขาอุ้มตะกร้าโดยที่ใช้ฝ่ามือข้างหนึ่งกับหลังมือข้างหนึ่ง ถูซินเยว่ก็รู้สึกเจ็บปวดใจ"ใกล้จะถึงบ้านอยู่แล้ว เจ้าก็อย่าห่วงนักเลย วันนี้เจ้าเดินทางมามาก กลับไปข้าต้มน้ำให้เจ้าแช่ขา"ซูจื่อหังพูดด้วยน้ำเสียงหนัก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-17
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 215 เต้าหู้เนื้อนิ้มเด้ง

    ถูซินเยว่รับคำแล้วพูดอย่างคลุมเครือว่า "ข้ากำลังจะทำน้ำปูนใส วันนี้ข้าจะทำอาหารรสเลิศอย่างหนึ่ง เชื่อว่าท่านแม่ทานแล้วต้องชอบแน่นอน"เต้าหู้รสชาติอร่อย และดีต่อผิวพรรณ ถูซินเยว่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้าฉีจึงไม่มีใครค้นพบหรือริเริ่มวิธีทำเต้าหู้ แต่ก็ไม่เป็นไร ในเมื่อยังไม่ถูกค้นพบ เธอก็ได้ผลประโยชน์นี้มาเองถูซินเยว่คิดอย่างดีอกดีใจในเมืองไม่มีขายน้ำปูนใส ดังนั้นถูซินเยว่จึงต้องซื้อปูนขาวกลับมาทำเองหลังจากที่ตักน้ำใส่ถังไม้เล็กน้อย ถูซินเยว่ก็กะดูปริมาณของปูนขาว จากนั้นก็เทน้ำลงไปในปูนขาวตามอัตราส่วน ซึ่งขั้นตอนการเทน้ำนั้นสำคัญมาก ถ้าน้ำมากเกินไป หินปูนเกิดปฏิกิริยามากเกินไปก็จะกลายเป็นหินปูนวันนี้เธอซื้อปูนขาวกลับมาจากตลาดสองชั่ง แต่ถูซินเยว่เอามาใช้แค่ครึ่งชั่ง เพราะถั่วเหลืงยี่สิบเอ็ดชั่งทำเต้าหู้ได้ไม่มากนัก ดังนั้นปูนขาวก็ต้องการปริมาณไม่มากหลังจากที่เทปูนขาวลงในหม้อเหล็กแล้ว ถูซินเยว่ก็ค่อยๆ เทน้ำใส่เข้าไป ผิวหน้าปูนขาวก็เริ่มเกิดเป็นฟองอากาศ เหมือนอย่างน้ำที่กำลังเดือด ในขณะที่ปูนขาวกับน้ำกำลังทำปฏิกิริยยากัน อุณหภูมิจะสูงขึ้น ตอนนั้นเองคนจะไม่สามารถใช้มือสัมผัสมันได้ มิเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-17
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 216 น่าสงสงสาร

    ด้านในลานบ้าน ซูเฟิ่งอี๋ถือไม้กวาดไว้ในมือ และฟาดลงไปบนตัวเจิ้งหมานหม่านทีแล้วทีเล่า พร้อมด่าทอด้วยใบหน้าที่ดุร้ายว่า "นังแพศยา ข้าบอกให้เจ้าดูขาหมูอย่าให้มันไหม้ แล้วดูเจ้าสิ เจ้าทำอะไรอยู่? กล้าขโมยของกินเรอะ? ข้าจะตีนังแม่ไก่ที่ไข่ไม่เป็นอย่างเจ้าให้ตายไปเลย" ตอนกลางคืนในฤดูใบไม้ผลิ อากาศยังคงหนาวเหน็บเข้ากระดูก เสื้อผ้าของเจิ้งหมานหม่านนั้นถูกซูเฟิ่งอี๋ดึงหลุดไปแล้วตั้งแต่ที่ฉุดกระชากกัน เหลือเพียงเสื้อบางข้างใน นางนั่งขดตัวอยู่บนพื้น ตัวสั่นทด้วยความหนาวไม้กวาดที่ตีลงบนเนื้อหนังที่หนาวจนแข็ง แรกเริ่มยังเจ็บแสบดั่งผิวหนังฉีกขาด แต่ตอนหลังกลับกลายเป็นชินชา ไร้ความรู้สึกใดๆเจิ้งหมานหม่านร้องด้วยความเจ็บปวด พูดอ้อนวอนขอการยกโทษว่า "ท่านแม่ ข้าหิวมากจริงๆ ข้าไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้ว! ข้ากินไปแค่เนื้อมันที่พวกท่านต่างก็ไม่ชอบชิ้นเดียวเท่านั้น...ข้าไม่ได้ตั้งใจจะขโมยกินจริงๆ ท่านแม่อย่าตีข้าอีกเลย ท่านจะตีข้าตายอยู่แล้ว!""เนื้อมันชิ้นเดียว เจ้ายังกล้าเถียงอีกรึ?" ซูเฟิ่งอี๋แสยะยิ้ม ยิ่งฟาดไม้กวาดในมือแรงขึ้นไปอีก นางตีไปพร้อมด่าทอไปด้วยว่า "ใครว่าข้าไม่ชอบกินเนื้อมัน นังคนกินบนเร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-17
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 217 เต้าหู้ถูกปล้น

    แม้รู้ว่าเต้าหู้ทำอย่างไร แต่ที่จริงถูซินเยว่เองก็ไม่ได้มีความมั่นใจ เพราะเธอเพิ่งทำเต้าหู้เป็นครั้งแรก! ถ้าทำพลาด ก็คงไม่ดีแน่ตอนที่ทั้งคู่เดินไปถึงที่ครัว นางหยูก็อยู่ข้างในกำลังยกแผ่นไม้ที่วางทับเต้าหู้ออก และมองดูด้วยความทึ่ง"ท่านแม่ เป็นอย่างไรบ้าง? เต้าหู้ทำสำเร็จไหม?"ถูซินเยว่รีบเดินไป และถามอย่างสงสัยนางหยูพยักหน้า แล้วก็ส่ายหน้า พูดว่า "แปลกจัง เมื่อวานยังเป็นน้ำถั่วเหลืองอยู่เลย ทำไมวันนี้ถึงแข็งตัวเป็นก้อนแล้ว? วันนี้อากาศก็ไม่ได้หนาวเย็น หรือว่าน้ำถั่วเหลืองกลายเป็นน้ำแข็งแล้ว แต่ทำไมมันถึงได้นิ่มแบบนี้?"นางหยูสงสัยมากทว่าถูซินเยว่ที่เดิมทียังร้อนใจอยู่ แต่เมื่อได้ยินคำพูดของนางหยูแล้ว ก็มั่นใจขึ้นมา เธอเข้าใจในทันทีว่าทำเต้าหู้สำเร็จแล้ว นางหยูถึงพูดเช่นนี้มันช่างดีจริงๆ!เธอรีบเดินนำเข้าไปในครัว ก็เห็นว่าน้ำถั่วเหลืองในแม่พิมพ์แข็งตัว กลายเป็นเต้าหู้สีขาวเนียนแล้ว"ดีจังเลย ที่รัก เต้าหู้ทำสำเร็จแล้ว" ซูจื่อหังก็เดินเข้ามาด้วย เมื่อเห็นเต้าหู้ก้อนสีขาวๆ ก็อดยื่นมือไปหยิบมาชิมสักคำไม่ได้ รสสัมผัสนิ่มๆ ลื่นๆ ไม่มีกลิ่นของถั่วเหลือง แต่กลายเป็นรสชาติที่แปลกประห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-18
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 218 กลยุทธ์ลูกโซ่

    สำหรับหยวนเป่าแล้ว เมื่อเกิดเรื่องอะไร หากจะให้ทางการช่วยคลี่คลาย สู้จัดการด้วยตัวเองเสียยังจะดีกว่า คนของทางการต่อหน้าก็พูดดิบดีว่าทำทุกอย่างเพื่อประชาชน แต่เมื่อมีเรื่องต้องการความช่วยเหลือจากทางการ ก็ทำเฉยเมยใส่"ซินเยว่ เจ้า...แน่ใจหรือ?""แน่นอน" ถูซินเยว่พยักหน้า "จื่อหังร่ำเรียนอยู่ในอำเภอ ตอนที่พี่ไป อย่าลืมเรียกจื่อหังไปด้วย จำเอาไว้ว่า ต้องบอกกับจวนนายอำเภอว่า เต้าหู้ของพวกเราถูกปล้นไป""อื้อ" แม้ว่าหยวนเป่าจะไม่เข้าใจนักว่าถูซินเยว่ต้องการจะทำอะไรกันแน่ แต่ทุกครั้งตอนที่ถูซินเยว่พูดอย่างมีความมั่นใจเช่นนี้ ก็มักจะเกิดปาฏิหารย์ที่คาดไม่ถึงเสมอ ดังนั้นบ่อยครั้งที่หยวนเป่ามักเชื่อคำพูดของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าอย่างน่าประหลาด ซึ่งว่ากันตามตรงแล้วถูซินเยว่ยังอายุน้อยกว่าตนเองด้วยซ้ำหยวนเปล่าจอดรถลากไว้ที่ลานบ้าน หันกลับหลังไปตั้งใจจะเรียกเถี่ยต้านไปหาซูจื่อหังในอำเภอด้วยกัน ก่อนหน้านี้เขาพบกับโจรปล้นระหว่างทาง ทำให้ครั้งนี้หยวนเป่าไม่กล้าเข้าไปในอำเภอคนเดียว ถ้ามีคนไปด้วยก็อุ่นใจขึ้นมาหน่อย เพราะหากเกิดอะไรขึ้นกับเขา ถึงเวลาใครจะดูแลภรรยาของเขา?หลังจากที่หยวนเป่าไปแล้ว ถูซิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-18
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 219 ชนะ

    "คนของโรงเตี๊ยมชุนเฟิงจะไร้ยางอายเกินไปแล้ว ตอนไปหาพวกมัน ไม่เพียงแต่ไม่ยอมรับ ยังมากล่าวหากันอีกว่ามีแต่เราที่ทำเต้าหู้ได้ พวกมันทำไม่ได้หรือยังไง พูดมาได้ว่าอีกว่าพวกมันทำเต้าหู้เอง"หยวนเปล่าเป็นคนตรงไปตรงมา เมื่อคิดถึงสิ่งที่ได้รับจากโรงเตี๊ยมชุนเฟิง ก็เดือดดาลขึ้นมาถูซินเยว่กลับยิ้งบางๆ ที่มุมปาก พูดว่า "ไม่ต้องกลัว เรื่องจะไม่เป็นไปอย่างที่โรงเตี๊ยมชุนเฟิงคาดหวังไว้หรอก"หยวนเป่าชะงัก จากนั้นก็ถามว่า "เจ้ามีแผนรับมือแล้วหรือ?""พี่แค่คอยดูก็พอ" ถูซินเยว่เลิกคิ้ว ในดวงตาแฝงแววเจ้าเล่ห์อย่างสุนัขจิ้งจอกเอาไว้ เพราะถูซินเยว่ไม่เคยเสียเปรียบให้ใครมาก่อนทั้งนั้น โรงเตี๊ยมชุนเฟิงคิดจะสั่งสอนเธอลับหลัง ช่างไร้เดียงสาเสียจริงเธอจะขอดูหน่อยว่า ต่อไปโรงเตี๊ยมชุนเฟิงจะรับมือกับการตอบโต้ของเธออย่างไรวันที่เต้าหู้ของโรงเตี๊ยมชุนเฟิงถูกนำเสนอ วันนั้นขายดีเป็นอย่างมากเพราะโรงเตี๊ยมเทียนเซียงใช้กลยุทธ์กระตุ้นความอยากด้วยข้อจำกัด (ปริมาณ เวลา ราคาพิเศษ) ดังนั้นคนที่ไม่ได้กินเต้าหู้ของโรงเตี๊ยมเทียนเซียง จึงพากันไปกินเต้าหู้ที่โรงเตี๊ยมชุนเฟิงในชั่วขณะหนึ่งธุรกิจของโรงเตี๊ยมชุนเฟิงเรี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-18

บทล่าสุด

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 381 ช่างคล้ายคลึงนัก

    ทั้งคู่เดินถึงหน้าประตู ปะเหมาะเวลานี้ จวนแม่ทัพหลิ่วก็มีคนเดินออกมาเช่นกัน"คนนี้ก็คือใต้เท้าซูที่เจ้าชอบอย่างงั้นหรือ" ฮูหยินหลิ่วเหลียวมองบุตรีซึ่งอยู่ข้างกาย สื่อเป็นนัยให้อีกฝ่ายอย่าได้วู่วามทุกวันนี้คราใดที่หลิ่วโหรวโหรวเห็นถูซินเยว่กับซูจื่อหังเดินมาด้วยกัน ด้วยท่าทีรักใคร่ปรองดอง นางจะรู้สึกเดือดดาลในใจ ราวกับภูเขาไฟที่ใกล้ระเบิดกระนั้นนางทำเสียงฮึดฮัด "ถูซินเยว่มีวันนี้ได้ ก็เพราะอาศัยบารมีซูจื่อหัง แต่คอยดูไปเถิด หญิงบ้านนอกเช่นนาง ใหม่ ๆ ยังพอทำให้ซูจื่อหังพอใจได้บ้าง แต่พอนานวันเข้า ได้เห็นสาวงามในเมืองหลวงมากมาย ความรักของพวกเขายังมั่นคงเหมือนแต่ก่อนได้อีก ก็แสดงว่าผิดมนุษย์แล้ว"ฮูหยินหลิ่วแสดงท่าทีนิ่งเฉยแต่บุตรีพูดก็มีเหตุผล ผู้ชายในโลกนี้น้อยนักที่จะไม่คิดได้ใหม่ลืมเก่า ยกตัวอย่างเช่นสามีของนาง ในอดีตก็เคยให้คำมั่นสัญญา ว่าแม้เป็นหรือตายก็จะขอรักอดีตคนรักเพียงผู้เดียว แต่พอบ้านเขาประสบภาวะเดือดร้อน สุดท้ายก็มาเลือกแต่งงานกับตน จนบัดนี้ลืมหน้านังคนแพศยานั่นไปถึงไหนต่อไหนแล้วแสดงว่าความจริงใจของผู้ชายคือสิ่งที่ไร้ประโยชน์ปกติเสแสร้งทำเป็นรักมั่นจริงใจ แต่พอเอ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 380 ลูกสาวจอมโง่เขลา

    หากซูจื่อหังไม่รังเกียจถูซินเยว่แล้วล่ะก็ งั้นต่อให้หลิ่วโหรวโหรววทุ่มเทแรงกายแรงใจมากแค่ไหนก็ตาม เกรงว่าก็คงไม่สามารถเข้าไปในจวนสกุลซูได้ดั่งใจปรารถนาหรอกแต่น่าขําที่ลูกสาวคนนี้ของนางกลับไม่รู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้เลย รู้แต่ไปเหยียดหยามถูซินเยว่อย่างโง่เขลาเท่านั้นนี่ถ้าทําให้ถูซินเยว่อับอายต่อหน้าทุกคนก็ว่าไปอย่าง แต่นี่กลับยังโดนถูซินเย่วตอบโต้กลับมาจนขายหน้า นี่ไม่ใช่เป็นการตบหน้าตัวเองหรือไง?เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินหลิ่วก็ไม่อยากเห็นหน้าลูกสาวคนนี้แม้แต่นิดนางขมวดคิ้ว จู่ ๆ ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า "ใช่แล้ว เรื่องนี้ข้ายังไม่ได้บอกพ่อเจ้า ถ้าพ่อเจ้ารู้ ดูสิว่าเขาจะสั่งสอนเจ้ายังไง เจ้าระวังตัวหน่อย"ภายใต้การเกลี้ยกล่อมและคําเตือนของฮูหยินหลิ่ว ในที่สุดหลิ่วโหรวโหรวก็หลับตาลง นางนั่งอยู่บนที่นั่งของตัวเองอย่างเซ็ง ๆ ทั้งหน้ามีแค่อารมณ์เดียวนั่นก็คือ นางไม่มีความสุขฮูหยินหลิ่วถอนหายใจอย่างจนใจ แล้วเงยหน้ามองฝั่งตรงข้าม ตําแหน่งของนาง มีเพิงดอกไม้อยู่ตรงกลางบดบังร่างของถูซินเยว่พอดี ดังนั้นนางจึงเห็นเพียงโครงร่างผ่านเถาวัลย์อย่างคลุมเครือเท่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 379 จางเยียนหรัน

    วันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงเชิญตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ก่อนมาซูจื่อหังเคยพูดกับนางว่า เขากับตระกูลจางเข้ากันได้ดีในราชสํานัก ดังนั้นวันนี้ ถูซินเยว่ก็ไม่อยากสร้างปัญหาอะไรให้กับตระกูลจาง เพื่อไม่ให้คนอื่นรู้สึกว่าพวกเขาไม่มีมารยาทเห็นเหล่าฮูหยินกับหลิ่วโหรวโหรวเพิ่งเยาะเย้ยเธอเมื่อครู่ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ถูซินเยว่ก็สบายใจไม่น้อย ก้มหน้าก้มตากินอาหารด้วยตัวเองไม่สนใจใครทั้งนั้นในขณะที่เธอกําลังกินอย่างมีความสุข จู่ ๆ ก็มีคนผลักแขนของเธอเบา ๆถูซินเยว่นิ่งงันไปพักหนึ่ง หันหน้ากลับไปอย่างสงสัยใคร่รู้ เห็นหญิงสาวในชุดสีเหลืองคนหนึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ ตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ กําลังใช้ดวงตากลมโตจ้องมองเธออย่างอยากรู้อยากเห็นดวงตาของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและไร้เดียงสา แต่กลับไม่มีเจตนาร้ายเลยแม้แต่น้อยถูซินเยว่เคยเห็นคนมามากมาย เรื่องเหล่านี้เธอยังพอสามารถมองออกได้ตั้งแต่แรกเห็นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีเจตนาร้าย ท่าทีของเธอก็อ่อนโยนลงมาก"ไม่ทราบว่าแม่นางมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?"ถ้าเธอจําไม่ผิด คนที่นั่งข้างเธอเมื่อกี้น่าจะเป็นผู้หญิงที่เยาะเย้ยเธ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 378 หน้าแตก

    ถูซินเยว่ชะงัก และรู้สึกตลก เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายก็รู้สึกประหลาดใจ ตอนที่ออกจากมาตอนเช้า เธอได้สวมใส่เครื่องประดับมาหลายชิ้นจริงๆแต่ระหว่างทาง ถูซินเยว่รู้สึกว่าต่างหูระเกะระกะเกินไป จึงแอบถอดมันออกและวางไว้บนรถม้าคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าในงานเลี้ยงจะมีคนไม่กินไม่ดื่ม แต่หันมาจับจ้องที่เครื่องหัวของตนเองแทนถูซินเยว่ยื่นมือไปจับที่ผมของตนเองอัตโนมัติ จากนั้นก็พูดเสียงราบเรียบว่า "ในเมื่อวันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพ แขกสำคัญจึงเป็นตระกูลจาง แล้วเหตุใดข้าจักต้องแต่งตัวให้ดูดีขนาดนั้น""จนก็ยอมรับว่าจนเถอะ จะหาเหตุผลอะไรมาอ้างมากมายไปทำไม ในที่นี้ใครไม่รู้บ้างว่าพวกเจ้ามาจากบ้านนอก ข้าเองก็แค่รู้สึกเสียดายแทนใตเท้าซูเท่านั้น ทั้งที่มีมีอนาคตอันดี หากแต่งงานกับบุตรสาวขุนนางสักคน ก็คงยิ่งช่วยส่งเสริมให้เจริญก้าวหน้า แต่กลับเลือกจะเฝ้าอยู่แค่หญิงชาวบ้านเฉกเช่นเจ้า..."ประโยคหลังแม้ว่าจะไม่ได้พูดต่อจนจบ แต่ก็สามารถเข้าใจได้ถึงแม้บนใบหน้าของถูซินเยว่จะแสดงสีหน้าใดๆ แต่สาวรับใช้ที่อยู่ข้างๆ สีหน้าย่ำแย่มากแล้วนางอาศัยอยู่ที่ตระกูลซูมานาน ก็พอจะรู้ว่าถูซินเยว่ไม่ได้ไม่มีเงิน และเงินส่วนใ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 377 ดูถูก

    ตั้งแต่ตอนที่อยู่ในหมู่บ้านต้าเย่ เพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หรือเพราะผลประโยชน์อันน้อยนิด แม้เป็นครอบครัวเดียวกัน ก็ยังสามารถโกรธแค้นกันจนตัดญาติขาดมิตรไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นใด แค่ในตระกูลถู เพียงเพื่อสินสอดของตระกูลเหลียง ถูชิวหลานก็ดันทุรังจะสับเปลี่ยนตัวเธอกับลูกสาว ภายหลังยังไม่ยอมรับด้วย แถมยังผลักไสความผิดทุกอย่างไปที่เจ้าของร่างหากเธอไม่ได้ข้ามิติมาอยู่ในร่างของเจ้าของร่างซื่อบื้อคนนั้น นางจะใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลซูอย่างไร เกรงว่าคงเหลือแต่เสี้ยววิญญาณแล้วอย่างด้านซูเฟิ่งอี๋ในตระกูลซู ตอนนั้นพวกเขาเองก็หวงแหนเงินเล็กๆ น้อยๆ เห็นชีวิตนางหยูกำลังตกอยู่ในอันตรายก็ยังไม่ยอมรักษาให้นางเรื่องราวของญาติสนิทมิตรสหายที่ทำร้ายคนใกล้ตัวเพียงเพื่อผลประโยชน์และเงินทองมีมากมายเกินกว่าจะพูด ขนาดบ้านเธอยังเป็นเช่นนี้ แล้วต้าฉีที่มีบ้านสกุลมากมายขนาดนี้ล่ะชาวบ้านธรรมดาทั่วไป อาจทำไปเพื่อเงินทอง แต่องค์ชายสามกับองค์ชายใหญ่ กลับทำเพื่อแก่งแย่งแผ่นดิน ขนาดที่เป็นการต่อสู้เพื่อความเป็นความตาย และไม่มีใครยอมอ่อนข้อให้ใคร ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้"ชีวิตคนเรามีหลายเรื่องที่มักไม่เป็นดังที่หวัง ข

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 376 อิจฉา

    "วันนี้เป็นงานเลี้ยงของตระกูลจาง ข้าก็นึกว่าเจ้าจะพูดคุยเรื่องอะไรกับข้า คาดไม่ถึงว่าจะใช้เรื่องนี้มาข่มขู่ข้าในที่ๆ ไม่มีคนเช่นนี้?"ชายผู้นั้นหัวคิ้วกระตุก รีบก้มศรีษะลงแล้วพูดว่า "กระหม่อมมิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่กระหม่อมทราบว่าองค์ชายสามเป็นคนเฉลียวฉลาด แต่ไหนแต่ไรมา การที่บุตรสายตรงรับสืบราชบัลลลังก์ต่อก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล แล้วไฉนองค์ชายสามจึงมิตั้งใจเป็นข้าราชบริพานบริสุทธิ์ คอยค้ำจุนเสด็จพี่ของพระองค์เล่าพ่ะย่ะค่ะ?"ฉีหวานหัวดราะเสียงดัง น้ำเสียงเย็นเยือกลงฉับพลัน เขาสะบัดแขนเสื้อ พร้อมสีหน้าเย็นชา "แม่ทัพหลิ่วพูดเช่นนี้ ช่างไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ตอนที่ข้าพบกับมือสังหารไล่เอาชีวิตตอนที่รีบเดินทางกลับมาจากเป่ยเจียงอันไกล แม้วันนี้ข้าไม่พูด เชื่อว่าท่านแม่ทัพเองก็คงทราบดีว่าเป็นฝีมือของใคร?"ถูซินเยว่ที่นั่งอยู่ในศาลาชะงักงัน ที่แท้คนที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับฉีหวานก็คือแม่ทัพหลิ่วนี่เอง หากนางจำไม่ผิดละก็ ก่อนหน้านี้ที่หน้าประตูตระกูลจาง ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวก็คือแม่ทัพหลิ่วผู้นี้สินะ?เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ถูซินเยว่ก็รู้สึกเซ็งขึ้นมา ถ้ารู้แต่แรกว่าพวกเขาจะคุยกันเรื่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 375 แอบฟัง

    หลิ่วโหรวโหรวก็มองเห็นพวกเขาเช่นกัน และเมื่อนึกถึงความสนิทสนมของถูซินเยว่และซููจื่อหังวันนั้นในจวนซู นางก็กำหมัดแน่นแม่ทัพหลิ่ว หลิ่วถิง เมื่อเห็นว่าบุตรสาวของตนเองอยู่ๆ ก็หน้าตาไม่สดใส ทั้งที่เมื่อสักครู่ยังดีอกดีใจ ก็ขมวดคิ้วถามว่า "เป็นอะไรไป? มีคนรู้จักรึ?""เจ้าค่ะ..." หลิ่วโหรวโหรวกำลังจะอ้าปากพูด ฮูหยินหลิ่วที่อยู่ข้างๆ ก็ผลักนาง และส่งสายตาให้กับอีกฝ่ายหลิ่วโหรวโหรวจึงได้แต่หุบปากเงียบอย่างไม่พอใจนักฮูหยินหลิ่วเดินไปข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวอย่างเงียบๆ กระตุกแขนเสื้อของบุตรสาวและพูดเตือนเสียงเบาว่า "เจ้าอย่าได้พูดถึงเรื่องของตระกูลซูอีก หากเจ้าพูดถึงอีกข้าจะไม่ยกโทษให้เจ้า! เมื่อกี้เจ้าไม่เห็นฮูหยินตระกูลซูหรือย่างไร? นางท้องโตขนาดนั้นแล้ว! เจ้าคิดจะไปเป็นภรรยาน้อยของคนอื่นหรือ? พูดออกไปรังแต่จะกลายเป็นเรื่องตลก!"หลิ่วโหรวโหรวสีหน้าย่ำแย่ทันทีแม้ว่าซูจื่อหังมีภรรยาหลวงอยู่แล้ว แต่ในใจนางนั่นก็เป็นเพียงหญิงบ้านนอกที่เทียบกับตนเองไม่ได้เลยด้วยซ้ำ นางซึ่งเป็นบุตรีสายตรงของจวนแม่ทัพ จะตกเป็นรองอยู่เป็นภรรยาน้อยของซูจื่อหังหรืออย่างไร?ลำพังแค่คิด นางก็ไม่ต้องการหลิ่วโหรวโหร

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 374 งานเลี้ยงตระกูลจาง

    ขณะที่ถูซินเยว่กำลังยุ่งอยู่กับการเปิดร้านขายเครื่องประดับ และนางหยูกำลังกังวลเรื่องลูกค้าอยู่นั้น เทียบเชิญฉบับหนึ่งก็ได้ส่งมาถึงที่บ้าน"เป็นงานฉลองวันเกิดของมารดาเฒ่าตระกูลจางจากเสนาบีดีกระทรวงการคลัง"ถูซินเยว่ถือเทียบเชิญไว้ในมือและยิ้มอย่างประหลาดใจ "ในเมืองหลวงแห่งนี้ข้านั้นไม่ได้รู้จักใครเลยสักคนหนึ่ง แต่นึกไม่ถึงว่าตระกูลจางจะส่งเทียบเชิญมาให้ข้า"สามีของตนเองก็เป็นข้าราชการขั้นเจ็ดเล็กๆ คนหนึ่ง แม้ว่าตระกูลจากจะไม่ใช่ข้าราชการชั้นสูง แต่ก็เป็นข้าราชการขั้นห้า และบรรพบุรุษก็ล้วนเป็นข้าราชการทั้งนั้น ซึ่งก็นับว่าเป็นตระกูลที่มีคุณธรรมสูงส่งการที่ส่งเทียบเชิญมาให้พวกเขาในงานเลี้ยงวันเกิดเช่นนี้ ก็เรียกได้ว่าไม่ได้ดูถูกพวกเขาเพียงแต่ คนในยุคโบราณส่วนมากจะดูแคลนคนทำธุรกิจ หากตนเองไปร่วมงานละก็ จะทำให้พวกเขารู้ว่าภรรยาของซูจื่อหังเป็นหญิงทำมาค้าขาย ก็ยากที่จะไม่ดูแคลนเดิมทีถูซินเยว่ไม่อยากไป แต่คาดไม่ถึงว่าซูจื่อหังจะหันมากุมมือเธอไว้ ยิ้มแล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจนักว่า "บุตรชายของใต้เท้าจางสนิทกับข้า ภรรยาของข้าเป็นหญิงสาวที่มีเสน่ห์มากที่สุดในใต้หล้า ไม่ว่าทำอะไรก็ดีทั้งนั้น แล

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 373 ฮ่องเต้หมดสติ

    สำหรับถูซินเยว่แล้ว จะเป็นลูกผู้ชายหรือผู้หญิงก็ไม่เป็นไร สิ่งสำคัญคือ การที่ลูกน้อยสามารถคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัยเพราะในยุคโบราณการที่ผู้หญิงคลอดลูกนั้นเปรียบเสมือนการเดินไปขอบประตูนรก ดังนั้นการที่สามารถให้กำเนิดลูกได้อย่างปลอดภัยถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย เธอจึงไม่คาดหวังอย่างอื่นอีกแต่ว่าช่วงนี้เธอมักจะถูกนางหยูล้างสมองอยู่บ่อยๆ จนถูซินเยว่เองก็คิดว่าท้องนี้อาจจะเป็นลูกผู้ชายก็ได้เป็นผู้ชายก็ดี เพราะความคิดปิดกั้นในยุคโบราณนั้นสร้างความลำบากให้กับหญิงสาวอย่างมาก หากเป็นเด็กผู้ชาย ก็สามารถลดความลำบากหลายๆ อย่างให้เธอได้ไม่น้อยเดิมทีถูซินเยว่อยากจะถามฉงเป่าว่าในท้องตนเองนั้นเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิงกันแน่ ซึ่งตามปกติแล้วขอเพียงเอาของกินมาล่อนิดล่อหน่อย ฉงเป่าก็ยอมพูดทุกอย่าง มีเพียงแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่ไม้ว่าถูซินเยว่ถามอย่างไร อีกฝ่ายก็ไม่ยอมบอก"อย่างไรเสียลูกก็อยู่ในท้องของข้า เจ้าจะบอกหน่อยมิได้หรือว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง? ถึงเจ้าพูดมา ด้วยเงื่อนไขการรักษาแบบนี้ข้าก็ทำอะไรเจ้าไม่ได้มิใช่หรือไง?"อีกอย่าง ถูซินเยว่เองก็ไม่มีความคิดการให้ความสำคัญชายมากกว่าหญิงด

DMCA.com Protection Status