Home / รักโบราณ / หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง / บทที่ 213 เถ้าแก่น้อยโณงเตี๊ยมชุนเฟิง

Share

บทที่ 213 เถ้าแก่น้อยโณงเตี๊ยมชุนเฟิง

Author: ฮวาฮวาน่งหยวี่
"แม่นาง เจ้าก็เอาไปเถอะ ก็แค่ตะกร้าใบหนึ่งเท่านั้น กลับบ้านไปข้าให้สามีข้าสานใบใหม่อีกใบก็พอ" ยายเฉินเร่งเร้าจนถูซินเยว่ต้านทานไม่ไหว

"ที่รัก เจ้าว่า..."

"ทำตามยายเฉินว่าเถอะ" เขาพยักหน้า

ยายเฉินจึงนำถั่วเหลืองเหล่านี้ไปชั่งดูว่ามีอยู่เท่าไร

"ทั้งหมดยี่สิบเอ็ดชั่ง ราคาสามอีแปะต่อชั่ง เจ้าให้ข้าหกสิบอีแปะก็พอ อีกหนึ่งชั่งที่เหลือแถมให้พวกเจ้า" ยายเฉินยังคิดเงินเป็นตัวเลขกลมๆ ให้กับพวกเขาอีกต่างหาก

ถูซินเยว่ได้ตะกร้าจากยายเฉินมาใบหนึ่งก็เกรงใจมากพอแล้ว แล้วจะให้เธอเอาเปรียบผู้อื่นอีกได้อย่างไร เธอให้ซูจื่อหังอุ้มตะกร้าที่ใส่ถั่วเหลืองอยู่ขึ้นมา และไม่พูดอะไรมาก ก้มหน้าหยิมเหรียญทองแดงกองหนึ่งจากกระเป๋าเงินให้ยายเฉิน พูดว่า "เงินอยู่ตรงนี้ ท่านนับดูก่อน ข้ายังมีของที่ต้องซื้อ ขอตัวก่อน" "อื้อ" ยายเฉินเชื่อใจพวกเขามาก และไม่กลัวว่าถูซินเยว่จะตั้งใจจ่ายเงินให้ไม่ครบ

ถูซินเยว่ดึงแขนซูจื่อหังเดินจากไป จนกระทั่งทั้งคู่เดินออกไปไกลแล้ว ยายเฉินถึงนับเหรียญทองแดงที่วางอยู่บนแผง

"หกสิบห้าอีแปะ? ไม่ใช่หกสิบอีแปะรึ?" ยายเฉินชะงัก จากนั้นก็เผยรอยยิ้มที่ยอมใจออกมา ก้มหน้าพิมพำว่า "เด็กสองคนนี้น
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 214 ทำเต้าหู้

    พระอาทิตย์กำลังตกดิน หลังจากที่เดินทางมาหลายชั่วยาม ถูซินเยว่กับซูจื่อหังก็มองเห็นประตูหมู่บ้านต้าเย่จากที่ไกลๆ เสียที"ในที่สุดก็ถึงแล้ว!" วันนี้เดินทางไปโน่นนี่ทั้งวัน จนถูซินเยว่รู้สึกว่าขาแข้งแทบจะหักอยู่แล้ว ตอนนี้เธอคิดถึงระบบการขนส่งของยุคปัจจุบันเป็นอย่างมากไม่ต้องถึงขั้นรถยนต์ ขอแค่จักรยานให้เธอสักคันหนึ่ง เธอก็สามารถปั่นกลับมาถึงภายในครึ่งชั่วโมง"ที่รัก ให้ข้าช่วยเจ้าถือหน่อยไหม" ถูซินเยว่หันไปมองซูจื่อหังตลอดทางเธอจำไม่ได้แล้วว่าตนเองถามซูจื่อหังไปแล้วกี่ครั้งว่าจะให้ตนเองช่วยถือของไหม แต่น่าเสียดายที่ซูจื่อหังดื้อรั้นมาก ปฏิเสธลูกเดียว พอถูซินเยว่จะแย่งเอาของมาถือ เขายังทำท่าเหมือนโดนหยามศํกดิ์ศรีอีกต่างหากถูซินเยว่ก็จนปัญญา แต่ก็เป็นห่วงแผลที่มือของซูจื่อหัง ในเมื่อทำอะไรไม่ได้ เธอจึงได้แต่คอยถามตลอดทาง เผื่อว่าบางทีซูจื่อหังอาจจะเหนื่อยแล้วก็ได้?เมื่อเห็นเขาอุ้มตะกร้าโดยที่ใช้ฝ่ามือข้างหนึ่งกับหลังมือข้างหนึ่ง ถูซินเยว่ก็รู้สึกเจ็บปวดใจ"ใกล้จะถึงบ้านอยู่แล้ว เจ้าก็อย่าห่วงนักเลย วันนี้เจ้าเดินทางมามาก กลับไปข้าต้มน้ำให้เจ้าแช่ขา"ซูจื่อหังพูดด้วยน้ำเสียงหนัก

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 215 เต้าหู้เนื้อนิ้มเด้ง

    ถูซินเยว่รับคำแล้วพูดอย่างคลุมเครือว่า "ข้ากำลังจะทำน้ำปูนใส วันนี้ข้าจะทำอาหารรสเลิศอย่างหนึ่ง เชื่อว่าท่านแม่ทานแล้วต้องชอบแน่นอน"เต้าหู้รสชาติอร่อย และดีต่อผิวพรรณ ถูซินเยว่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้าฉีจึงไม่มีใครค้นพบหรือริเริ่มวิธีทำเต้าหู้ แต่ก็ไม่เป็นไร ในเมื่อยังไม่ถูกค้นพบ เธอก็ได้ผลประโยชน์นี้มาเองถูซินเยว่คิดอย่างดีอกดีใจในเมืองไม่มีขายน้ำปูนใส ดังนั้นถูซินเยว่จึงต้องซื้อปูนขาวกลับมาทำเองหลังจากที่ตักน้ำใส่ถังไม้เล็กน้อย ถูซินเยว่ก็กะดูปริมาณของปูนขาว จากนั้นก็เทน้ำลงไปในปูนขาวตามอัตราส่วน ซึ่งขั้นตอนการเทน้ำนั้นสำคัญมาก ถ้าน้ำมากเกินไป หินปูนเกิดปฏิกิริยามากเกินไปก็จะกลายเป็นหินปูนวันนี้เธอซื้อปูนขาวกลับมาจากตลาดสองชั่ง แต่ถูซินเยว่เอามาใช้แค่ครึ่งชั่ง เพราะถั่วเหลืงยี่สิบเอ็ดชั่งทำเต้าหู้ได้ไม่มากนัก ดังนั้นปูนขาวก็ต้องการปริมาณไม่มากหลังจากที่เทปูนขาวลงในหม้อเหล็กแล้ว ถูซินเยว่ก็ค่อยๆ เทน้ำใส่เข้าไป ผิวหน้าปูนขาวก็เริ่มเกิดเป็นฟองอากาศ เหมือนอย่างน้ำที่กำลังเดือด ในขณะที่ปูนขาวกับน้ำกำลังทำปฏิกิริยยากัน อุณหภูมิจะสูงขึ้น ตอนนั้นเองคนจะไม่สามารถใช้มือสัมผัสมันได้ มิเ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 216 น่าสงสงสาร

    ด้านในลานบ้าน ซูเฟิ่งอี๋ถือไม้กวาดไว้ในมือ และฟาดลงไปบนตัวเจิ้งหมานหม่านทีแล้วทีเล่า พร้อมด่าทอด้วยใบหน้าที่ดุร้ายว่า "นังแพศยา ข้าบอกให้เจ้าดูขาหมูอย่าให้มันไหม้ แล้วดูเจ้าสิ เจ้าทำอะไรอยู่? กล้าขโมยของกินเรอะ? ข้าจะตีนังแม่ไก่ที่ไข่ไม่เป็นอย่างเจ้าให้ตายไปเลย" ตอนกลางคืนในฤดูใบไม้ผลิ อากาศยังคงหนาวเหน็บเข้ากระดูก เสื้อผ้าของเจิ้งหมานหม่านนั้นถูกซูเฟิ่งอี๋ดึงหลุดไปแล้วตั้งแต่ที่ฉุดกระชากกัน เหลือเพียงเสื้อบางข้างใน นางนั่งขดตัวอยู่บนพื้น ตัวสั่นทด้วยความหนาวไม้กวาดที่ตีลงบนเนื้อหนังที่หนาวจนแข็ง แรกเริ่มยังเจ็บแสบดั่งผิวหนังฉีกขาด แต่ตอนหลังกลับกลายเป็นชินชา ไร้ความรู้สึกใดๆเจิ้งหมานหม่านร้องด้วยความเจ็บปวด พูดอ้อนวอนขอการยกโทษว่า "ท่านแม่ ข้าหิวมากจริงๆ ข้าไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้ว! ข้ากินไปแค่เนื้อมันที่พวกท่านต่างก็ไม่ชอบชิ้นเดียวเท่านั้น...ข้าไม่ได้ตั้งใจจะขโมยกินจริงๆ ท่านแม่อย่าตีข้าอีกเลย ท่านจะตีข้าตายอยู่แล้ว!""เนื้อมันชิ้นเดียว เจ้ายังกล้าเถียงอีกรึ?" ซูเฟิ่งอี๋แสยะยิ้ม ยิ่งฟาดไม้กวาดในมือแรงขึ้นไปอีก นางตีไปพร้อมด่าทอไปด้วยว่า "ใครว่าข้าไม่ชอบกินเนื้อมัน นังคนกินบนเร

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 217 เต้าหู้ถูกปล้น

    แม้รู้ว่าเต้าหู้ทำอย่างไร แต่ที่จริงถูซินเยว่เองก็ไม่ได้มีความมั่นใจ เพราะเธอเพิ่งทำเต้าหู้เป็นครั้งแรก! ถ้าทำพลาด ก็คงไม่ดีแน่ตอนที่ทั้งคู่เดินไปถึงที่ครัว นางหยูก็อยู่ข้างในกำลังยกแผ่นไม้ที่วางทับเต้าหู้ออก และมองดูด้วยความทึ่ง"ท่านแม่ เป็นอย่างไรบ้าง? เต้าหู้ทำสำเร็จไหม?"ถูซินเยว่รีบเดินไป และถามอย่างสงสัยนางหยูพยักหน้า แล้วก็ส่ายหน้า พูดว่า "แปลกจัง เมื่อวานยังเป็นน้ำถั่วเหลืองอยู่เลย ทำไมวันนี้ถึงแข็งตัวเป็นก้อนแล้ว? วันนี้อากาศก็ไม่ได้หนาวเย็น หรือว่าน้ำถั่วเหลืองกลายเป็นน้ำแข็งแล้ว แต่ทำไมมันถึงได้นิ่มแบบนี้?"นางหยูสงสัยมากทว่าถูซินเยว่ที่เดิมทียังร้อนใจอยู่ แต่เมื่อได้ยินคำพูดของนางหยูแล้ว ก็มั่นใจขึ้นมา เธอเข้าใจในทันทีว่าทำเต้าหู้สำเร็จแล้ว นางหยูถึงพูดเช่นนี้มันช่างดีจริงๆ!เธอรีบเดินนำเข้าไปในครัว ก็เห็นว่าน้ำถั่วเหลืองในแม่พิมพ์แข็งตัว กลายเป็นเต้าหู้สีขาวเนียนแล้ว"ดีจังเลย ที่รัก เต้าหู้ทำสำเร็จแล้ว" ซูจื่อหังก็เดินเข้ามาด้วย เมื่อเห็นเต้าหู้ก้อนสีขาวๆ ก็อดยื่นมือไปหยิบมาชิมสักคำไม่ได้ รสสัมผัสนิ่มๆ ลื่นๆ ไม่มีกลิ่นของถั่วเหลือง แต่กลายเป็นรสชาติที่แปลกประห

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 218 กลยุทธ์ลูกโซ่

    สำหรับหยวนเป่าแล้ว เมื่อเกิดเรื่องอะไร หากจะให้ทางการช่วยคลี่คลาย สู้จัดการด้วยตัวเองเสียยังจะดีกว่า คนของทางการต่อหน้าก็พูดดิบดีว่าทำทุกอย่างเพื่อประชาชน แต่เมื่อมีเรื่องต้องการความช่วยเหลือจากทางการ ก็ทำเฉยเมยใส่"ซินเยว่ เจ้า...แน่ใจหรือ?""แน่นอน" ถูซินเยว่พยักหน้า "จื่อหังร่ำเรียนอยู่ในอำเภอ ตอนที่พี่ไป อย่าลืมเรียกจื่อหังไปด้วย จำเอาไว้ว่า ต้องบอกกับจวนนายอำเภอว่า เต้าหู้ของพวกเราถูกปล้นไป""อื้อ" แม้ว่าหยวนเป่าจะไม่เข้าใจนักว่าถูซินเยว่ต้องการจะทำอะไรกันแน่ แต่ทุกครั้งตอนที่ถูซินเยว่พูดอย่างมีความมั่นใจเช่นนี้ ก็มักจะเกิดปาฏิหารย์ที่คาดไม่ถึงเสมอ ดังนั้นบ่อยครั้งที่หยวนเป่ามักเชื่อคำพูดของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าอย่างน่าประหลาด ซึ่งว่ากันตามตรงแล้วถูซินเยว่ยังอายุน้อยกว่าตนเองด้วยซ้ำหยวนเปล่าจอดรถลากไว้ที่ลานบ้าน หันกลับหลังไปตั้งใจจะเรียกเถี่ยต้านไปหาซูจื่อหังในอำเภอด้วยกัน ก่อนหน้านี้เขาพบกับโจรปล้นระหว่างทาง ทำให้ครั้งนี้หยวนเป่าไม่กล้าเข้าไปในอำเภอคนเดียว ถ้ามีคนไปด้วยก็อุ่นใจขึ้นมาหน่อย เพราะหากเกิดอะไรขึ้นกับเขา ถึงเวลาใครจะดูแลภรรยาของเขา?หลังจากที่หยวนเป่าไปแล้ว ถูซิ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 219 ชนะ

    "คนของโรงเตี๊ยมชุนเฟิงจะไร้ยางอายเกินไปแล้ว ตอนไปหาพวกมัน ไม่เพียงแต่ไม่ยอมรับ ยังมากล่าวหากันอีกว่ามีแต่เราที่ทำเต้าหู้ได้ พวกมันทำไม่ได้หรือยังไง พูดมาได้ว่าอีกว่าพวกมันทำเต้าหู้เอง"หยวนเปล่าเป็นคนตรงไปตรงมา เมื่อคิดถึงสิ่งที่ได้รับจากโรงเตี๊ยมชุนเฟิง ก็เดือดดาลขึ้นมาถูซินเยว่กลับยิ้งบางๆ ที่มุมปาก พูดว่า "ไม่ต้องกลัว เรื่องจะไม่เป็นไปอย่างที่โรงเตี๊ยมชุนเฟิงคาดหวังไว้หรอก"หยวนเป่าชะงัก จากนั้นก็ถามว่า "เจ้ามีแผนรับมือแล้วหรือ?""พี่แค่คอยดูก็พอ" ถูซินเยว่เลิกคิ้ว ในดวงตาแฝงแววเจ้าเล่ห์อย่างสุนัขจิ้งจอกเอาไว้ เพราะถูซินเยว่ไม่เคยเสียเปรียบให้ใครมาก่อนทั้งนั้น โรงเตี๊ยมชุนเฟิงคิดจะสั่งสอนเธอลับหลัง ช่างไร้เดียงสาเสียจริงเธอจะขอดูหน่อยว่า ต่อไปโรงเตี๊ยมชุนเฟิงจะรับมือกับการตอบโต้ของเธออย่างไรวันที่เต้าหู้ของโรงเตี๊ยมชุนเฟิงถูกนำเสนอ วันนั้นขายดีเป็นอย่างมากเพราะโรงเตี๊ยมเทียนเซียงใช้กลยุทธ์กระตุ้นความอยากด้วยข้อจำกัด (ปริมาณ เวลา ราคาพิเศษ) ดังนั้นคนที่ไม่ได้กินเต้าหู้ของโรงเตี๊ยมเทียนเซียง จึงพากันไปกินเต้าหู้ที่โรงเตี๊ยมชุนเฟิงในชั่วขณะหนึ่งธุรกิจของโรงเตี๊ยมชุนเฟิงเรี

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 220 ซื้อชาดทาปาก

    ถ้าเป็นเมื่อก่อน ถูซินเยว่คงจะรู้สึกเขินอาย แต่ครั้งนี้ถูซินเยว่เงยหน้าขึ้น ใบหน้าไม่มีร่องรอยของความเขินอาย แต่มองชายหนุ่มตรงหน้าพร้อมรอยยิ้ม พูดว่า "ที่รักก็คิดว่าข้าสุดยอดมากเลยใช่ม้า?"เรื่องนี้แรกเริ่มเธอหารือกับลุงเฉียน เดิมทีไม่ได้บอกกับซูจื่อหัง แต่ไม่ได้คิดจะบอกซูจื่อหหังด้วย เพียงแต่ตอนหลังพัวพันกับเรื่องแจ้งความ ซึ่งหยวนเป่าไม่ถนัดในเรื่องเหล่านี้ ถูซินเยว่จึงบอกเรื่องนี้กับซูจื่อหังหญิงสาวน่ารักอ้อนแอ้น สีหน้าท่าทางราวกับจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ ซูจื่อหังเลิกคิ้ว และจงใจพูดว่า "ก็จริงที่ที่รักเก่ง แต่เรื่องนี้ก็มีผลงานของข้าอยู่ด้วย เจ้าคิดจะให้รางวัลข้าอย่างไร?"น้อยครั้งนักที่ซูจื่อหังจะหน้าด้านขนาดนี้ เขาพูดขอสิ่งของกับเธอตรงๆ แถมยังเป็นรางวัลด้วยถูซินเยว่ครุ่นคิดอย่างจริงจังอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าเสื้อผ้าที่ซูจื่อหังสวมใส่อยุ่เริ่มเก่าแล้ว ที่แขนเสื้อก็มีรอยปะซ่อม ก็ยื่มมือไปคล้องแขนของชายหนุ่ม เลิกคิ้วขึ้นแล้วว่า "ที่รัก เราไปที่ตลาดกัน ข้าซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้เจ้าดีไหม?"ตอนที่ซูจื่อหังร่ำเรียนอยู่ที่สำนักบัณฑิต มักจะตั้งโต๊ะขายภาพอักษรอยู่ข้างนอกเสมอ แต่เงินที่ได้มา

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 221 หญิงใจหยาบ

    "ซื้อของให้เจ้าเสร็จแล้วค่อยไปกัน" ซูจื่อหังปฏิเสธอย่างจริงจังถูซินเยว่จนปัญญาแล้ว เธอกัดริมฝีปากแล้วถามว่า "ก็ตกลงกันแล้วว่าจะซื้อของให้ท่านไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงกลายเป็นท่านซื้อของให้ข้าแทนไปได้ล่ะ? ของของข้ามีเยอะมากแล้ว อย่าได้สิ้นเปลืองไปเลย"ชาดทาปากนี้ เป็นสิ่งของที่คุณหนูตระกูลชนชั้นสูงถึงใช้กันนี่นา เธอที่ต้องทำไร่ทำนาทุกวี่วัน วัน ๆ หนึ่งกินแต่อาหารหยาบ ใช้ของพวกนี้ก็มีแต่จะเสียเปล่าไม่ใช่หรือ?แต่ซูจื่อหังไม่คิดเช่นนั้น เขามักอยากจะให้ของที่ดีที่สุดกับถูซินเยว่ไม่ว่าถูซินเยว่จะพูดยังไง ซูจื่อหังก็ตัดสินใจแน่วแน่ที่จะซื้อของให้เธอ เมื่อเห็นเถ้าแก่เนี้ยเอาชาดทาปากออกมาแล้ว ถูซินเยว่ก็ไม่มีทางเลือก ทำได้เพียงปล่อยมือที่จับชายเสื้อของซูจื่อหังออกชั่วคราว"รัญจวนแรกแย้มนี้ขายดีมากเลยนะ เหลือเพียงกล่องเดียวแล้วเท่านั้น ฮูหยินหน้าตาสะสวยเพียงนี้ ถ้าได้ทาชาดทาปากนี้จะต้องงามมากยิ่งขึ้นแน่นอนเลย คุณชายท่านก็มอบชาดทาปากนี้ให้ฮูหยินเถอะ"เถ้าแก่เนี้ยพอสบโอกาสปุ๊ปก็รีบยกยอเชยชมถูซินเยว่ และก็ต้องบอกว่า หลังจากที่ถูซินเยว่ได้ยินแล้ว เธอก็รู้สึกเบ่งบานไม่น้อยทีเดียว และพลอยรู้สึกสบาย

Latest chapter

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 381 ช่างคล้ายคลึงนัก

    ทั้งคู่เดินถึงหน้าประตู ปะเหมาะเวลานี้ จวนแม่ทัพหลิ่วก็มีคนเดินออกมาเช่นกัน"คนนี้ก็คือใต้เท้าซูที่เจ้าชอบอย่างงั้นหรือ" ฮูหยินหลิ่วเหลียวมองบุตรีซึ่งอยู่ข้างกาย สื่อเป็นนัยให้อีกฝ่ายอย่าได้วู่วามทุกวันนี้คราใดที่หลิ่วโหรวโหรวเห็นถูซินเยว่กับซูจื่อหังเดินมาด้วยกัน ด้วยท่าทีรักใคร่ปรองดอง นางจะรู้สึกเดือดดาลในใจ ราวกับภูเขาไฟที่ใกล้ระเบิดกระนั้นนางทำเสียงฮึดฮัด "ถูซินเยว่มีวันนี้ได้ ก็เพราะอาศัยบารมีซูจื่อหัง แต่คอยดูไปเถิด หญิงบ้านนอกเช่นนาง ใหม่ ๆ ยังพอทำให้ซูจื่อหังพอใจได้บ้าง แต่พอนานวันเข้า ได้เห็นสาวงามในเมืองหลวงมากมาย ความรักของพวกเขายังมั่นคงเหมือนแต่ก่อนได้อีก ก็แสดงว่าผิดมนุษย์แล้ว"ฮูหยินหลิ่วแสดงท่าทีนิ่งเฉยแต่บุตรีพูดก็มีเหตุผล ผู้ชายในโลกนี้น้อยนักที่จะไม่คิดได้ใหม่ลืมเก่า ยกตัวอย่างเช่นสามีของนาง ในอดีตก็เคยให้คำมั่นสัญญา ว่าแม้เป็นหรือตายก็จะขอรักอดีตคนรักเพียงผู้เดียว แต่พอบ้านเขาประสบภาวะเดือดร้อน สุดท้ายก็มาเลือกแต่งงานกับตน จนบัดนี้ลืมหน้านังคนแพศยานั่นไปถึงไหนต่อไหนแล้วแสดงว่าความจริงใจของผู้ชายคือสิ่งที่ไร้ประโยชน์ปกติเสแสร้งทำเป็นรักมั่นจริงใจ แต่พอเอ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 380 ลูกสาวจอมโง่เขลา

    หากซูจื่อหังไม่รังเกียจถูซินเยว่แล้วล่ะก็ งั้นต่อให้หลิ่วโหรวโหรววทุ่มเทแรงกายแรงใจมากแค่ไหนก็ตาม เกรงว่าก็คงไม่สามารถเข้าไปในจวนสกุลซูได้ดั่งใจปรารถนาหรอกแต่น่าขําที่ลูกสาวคนนี้ของนางกลับไม่รู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้เลย รู้แต่ไปเหยียดหยามถูซินเยว่อย่างโง่เขลาเท่านั้นนี่ถ้าทําให้ถูซินเยว่อับอายต่อหน้าทุกคนก็ว่าไปอย่าง แต่นี่กลับยังโดนถูซินเย่วตอบโต้กลับมาจนขายหน้า นี่ไม่ใช่เป็นการตบหน้าตัวเองหรือไง?เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินหลิ่วก็ไม่อยากเห็นหน้าลูกสาวคนนี้แม้แต่นิดนางขมวดคิ้ว จู่ ๆ ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า "ใช่แล้ว เรื่องนี้ข้ายังไม่ได้บอกพ่อเจ้า ถ้าพ่อเจ้ารู้ ดูสิว่าเขาจะสั่งสอนเจ้ายังไง เจ้าระวังตัวหน่อย"ภายใต้การเกลี้ยกล่อมและคําเตือนของฮูหยินหลิ่ว ในที่สุดหลิ่วโหรวโหรวก็หลับตาลง นางนั่งอยู่บนที่นั่งของตัวเองอย่างเซ็ง ๆ ทั้งหน้ามีแค่อารมณ์เดียวนั่นก็คือ นางไม่มีความสุขฮูหยินหลิ่วถอนหายใจอย่างจนใจ แล้วเงยหน้ามองฝั่งตรงข้าม ตําแหน่งของนาง มีเพิงดอกไม้อยู่ตรงกลางบดบังร่างของถูซินเยว่พอดี ดังนั้นนางจึงเห็นเพียงโครงร่างผ่านเถาวัลย์อย่างคลุมเครือเท่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 379 จางเยียนหรัน

    วันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงเชิญตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ก่อนมาซูจื่อหังเคยพูดกับนางว่า เขากับตระกูลจางเข้ากันได้ดีในราชสํานัก ดังนั้นวันนี้ ถูซินเยว่ก็ไม่อยากสร้างปัญหาอะไรให้กับตระกูลจาง เพื่อไม่ให้คนอื่นรู้สึกว่าพวกเขาไม่มีมารยาทเห็นเหล่าฮูหยินกับหลิ่วโหรวโหรวเพิ่งเยาะเย้ยเธอเมื่อครู่ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ถูซินเยว่ก็สบายใจไม่น้อย ก้มหน้าก้มตากินอาหารด้วยตัวเองไม่สนใจใครทั้งนั้นในขณะที่เธอกําลังกินอย่างมีความสุข จู่ ๆ ก็มีคนผลักแขนของเธอเบา ๆถูซินเยว่นิ่งงันไปพักหนึ่ง หันหน้ากลับไปอย่างสงสัยใคร่รู้ เห็นหญิงสาวในชุดสีเหลืองคนหนึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ ตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ กําลังใช้ดวงตากลมโตจ้องมองเธออย่างอยากรู้อยากเห็นดวงตาของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและไร้เดียงสา แต่กลับไม่มีเจตนาร้ายเลยแม้แต่น้อยถูซินเยว่เคยเห็นคนมามากมาย เรื่องเหล่านี้เธอยังพอสามารถมองออกได้ตั้งแต่แรกเห็นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีเจตนาร้าย ท่าทีของเธอก็อ่อนโยนลงมาก"ไม่ทราบว่าแม่นางมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?"ถ้าเธอจําไม่ผิด คนที่นั่งข้างเธอเมื่อกี้น่าจะเป็นผู้หญิงที่เยาะเย้ยเธ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 378 หน้าแตก

    ถูซินเยว่ชะงัก และรู้สึกตลก เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายก็รู้สึกประหลาดใจ ตอนที่ออกจากมาตอนเช้า เธอได้สวมใส่เครื่องประดับมาหลายชิ้นจริงๆแต่ระหว่างทาง ถูซินเยว่รู้สึกว่าต่างหูระเกะระกะเกินไป จึงแอบถอดมันออกและวางไว้บนรถม้าคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าในงานเลี้ยงจะมีคนไม่กินไม่ดื่ม แต่หันมาจับจ้องที่เครื่องหัวของตนเองแทนถูซินเยว่ยื่นมือไปจับที่ผมของตนเองอัตโนมัติ จากนั้นก็พูดเสียงราบเรียบว่า "ในเมื่อวันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพ แขกสำคัญจึงเป็นตระกูลจาง แล้วเหตุใดข้าจักต้องแต่งตัวให้ดูดีขนาดนั้น""จนก็ยอมรับว่าจนเถอะ จะหาเหตุผลอะไรมาอ้างมากมายไปทำไม ในที่นี้ใครไม่รู้บ้างว่าพวกเจ้ามาจากบ้านนอก ข้าเองก็แค่รู้สึกเสียดายแทนใตเท้าซูเท่านั้น ทั้งที่มีมีอนาคตอันดี หากแต่งงานกับบุตรสาวขุนนางสักคน ก็คงยิ่งช่วยส่งเสริมให้เจริญก้าวหน้า แต่กลับเลือกจะเฝ้าอยู่แค่หญิงชาวบ้านเฉกเช่นเจ้า..."ประโยคหลังแม้ว่าจะไม่ได้พูดต่อจนจบ แต่ก็สามารถเข้าใจได้ถึงแม้บนใบหน้าของถูซินเยว่จะแสดงสีหน้าใดๆ แต่สาวรับใช้ที่อยู่ข้างๆ สีหน้าย่ำแย่มากแล้วนางอาศัยอยู่ที่ตระกูลซูมานาน ก็พอจะรู้ว่าถูซินเยว่ไม่ได้ไม่มีเงิน และเงินส่วนใ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 377 ดูถูก

    ตั้งแต่ตอนที่อยู่ในหมู่บ้านต้าเย่ เพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หรือเพราะผลประโยชน์อันน้อยนิด แม้เป็นครอบครัวเดียวกัน ก็ยังสามารถโกรธแค้นกันจนตัดญาติขาดมิตรไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นใด แค่ในตระกูลถู เพียงเพื่อสินสอดของตระกูลเหลียง ถูชิวหลานก็ดันทุรังจะสับเปลี่ยนตัวเธอกับลูกสาว ภายหลังยังไม่ยอมรับด้วย แถมยังผลักไสความผิดทุกอย่างไปที่เจ้าของร่างหากเธอไม่ได้ข้ามิติมาอยู่ในร่างของเจ้าของร่างซื่อบื้อคนนั้น นางจะใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลซูอย่างไร เกรงว่าคงเหลือแต่เสี้ยววิญญาณแล้วอย่างด้านซูเฟิ่งอี๋ในตระกูลซู ตอนนั้นพวกเขาเองก็หวงแหนเงินเล็กๆ น้อยๆ เห็นชีวิตนางหยูกำลังตกอยู่ในอันตรายก็ยังไม่ยอมรักษาให้นางเรื่องราวของญาติสนิทมิตรสหายที่ทำร้ายคนใกล้ตัวเพียงเพื่อผลประโยชน์และเงินทองมีมากมายเกินกว่าจะพูด ขนาดบ้านเธอยังเป็นเช่นนี้ แล้วต้าฉีที่มีบ้านสกุลมากมายขนาดนี้ล่ะชาวบ้านธรรมดาทั่วไป อาจทำไปเพื่อเงินทอง แต่องค์ชายสามกับองค์ชายใหญ่ กลับทำเพื่อแก่งแย่งแผ่นดิน ขนาดที่เป็นการต่อสู้เพื่อความเป็นความตาย และไม่มีใครยอมอ่อนข้อให้ใคร ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้"ชีวิตคนเรามีหลายเรื่องที่มักไม่เป็นดังที่หวัง ข

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 376 อิจฉา

    "วันนี้เป็นงานเลี้ยงของตระกูลจาง ข้าก็นึกว่าเจ้าจะพูดคุยเรื่องอะไรกับข้า คาดไม่ถึงว่าจะใช้เรื่องนี้มาข่มขู่ข้าในที่ๆ ไม่มีคนเช่นนี้?"ชายผู้นั้นหัวคิ้วกระตุก รีบก้มศรีษะลงแล้วพูดว่า "กระหม่อมมิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่กระหม่อมทราบว่าองค์ชายสามเป็นคนเฉลียวฉลาด แต่ไหนแต่ไรมา การที่บุตรสายตรงรับสืบราชบัลลลังก์ต่อก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล แล้วไฉนองค์ชายสามจึงมิตั้งใจเป็นข้าราชบริพานบริสุทธิ์ คอยค้ำจุนเสด็จพี่ของพระองค์เล่าพ่ะย่ะค่ะ?"ฉีหวานหัวดราะเสียงดัง น้ำเสียงเย็นเยือกลงฉับพลัน เขาสะบัดแขนเสื้อ พร้อมสีหน้าเย็นชา "แม่ทัพหลิ่วพูดเช่นนี้ ช่างไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ตอนที่ข้าพบกับมือสังหารไล่เอาชีวิตตอนที่รีบเดินทางกลับมาจากเป่ยเจียงอันไกล แม้วันนี้ข้าไม่พูด เชื่อว่าท่านแม่ทัพเองก็คงทราบดีว่าเป็นฝีมือของใคร?"ถูซินเยว่ที่นั่งอยู่ในศาลาชะงักงัน ที่แท้คนที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับฉีหวานก็คือแม่ทัพหลิ่วนี่เอง หากนางจำไม่ผิดละก็ ก่อนหน้านี้ที่หน้าประตูตระกูลจาง ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวก็คือแม่ทัพหลิ่วผู้นี้สินะ?เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ถูซินเยว่ก็รู้สึกเซ็งขึ้นมา ถ้ารู้แต่แรกว่าพวกเขาจะคุยกันเรื่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 375 แอบฟัง

    หลิ่วโหรวโหรวก็มองเห็นพวกเขาเช่นกัน และเมื่อนึกถึงความสนิทสนมของถูซินเยว่และซููจื่อหังวันนั้นในจวนซู นางก็กำหมัดแน่นแม่ทัพหลิ่ว หลิ่วถิง เมื่อเห็นว่าบุตรสาวของตนเองอยู่ๆ ก็หน้าตาไม่สดใส ทั้งที่เมื่อสักครู่ยังดีอกดีใจ ก็ขมวดคิ้วถามว่า "เป็นอะไรไป? มีคนรู้จักรึ?""เจ้าค่ะ..." หลิ่วโหรวโหรวกำลังจะอ้าปากพูด ฮูหยินหลิ่วที่อยู่ข้างๆ ก็ผลักนาง และส่งสายตาให้กับอีกฝ่ายหลิ่วโหรวโหรวจึงได้แต่หุบปากเงียบอย่างไม่พอใจนักฮูหยินหลิ่วเดินไปข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวอย่างเงียบๆ กระตุกแขนเสื้อของบุตรสาวและพูดเตือนเสียงเบาว่า "เจ้าอย่าได้พูดถึงเรื่องของตระกูลซูอีก หากเจ้าพูดถึงอีกข้าจะไม่ยกโทษให้เจ้า! เมื่อกี้เจ้าไม่เห็นฮูหยินตระกูลซูหรือย่างไร? นางท้องโตขนาดนั้นแล้ว! เจ้าคิดจะไปเป็นภรรยาน้อยของคนอื่นหรือ? พูดออกไปรังแต่จะกลายเป็นเรื่องตลก!"หลิ่วโหรวโหรวสีหน้าย่ำแย่ทันทีแม้ว่าซูจื่อหังมีภรรยาหลวงอยู่แล้ว แต่ในใจนางนั่นก็เป็นเพียงหญิงบ้านนอกที่เทียบกับตนเองไม่ได้เลยด้วยซ้ำ นางซึ่งเป็นบุตรีสายตรงของจวนแม่ทัพ จะตกเป็นรองอยู่เป็นภรรยาน้อยของซูจื่อหังหรืออย่างไร?ลำพังแค่คิด นางก็ไม่ต้องการหลิ่วโหรวโหร

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 374 งานเลี้ยงตระกูลจาง

    ขณะที่ถูซินเยว่กำลังยุ่งอยู่กับการเปิดร้านขายเครื่องประดับ และนางหยูกำลังกังวลเรื่องลูกค้าอยู่นั้น เทียบเชิญฉบับหนึ่งก็ได้ส่งมาถึงที่บ้าน"เป็นงานฉลองวันเกิดของมารดาเฒ่าตระกูลจางจากเสนาบีดีกระทรวงการคลัง"ถูซินเยว่ถือเทียบเชิญไว้ในมือและยิ้มอย่างประหลาดใจ "ในเมืองหลวงแห่งนี้ข้านั้นไม่ได้รู้จักใครเลยสักคนหนึ่ง แต่นึกไม่ถึงว่าตระกูลจางจะส่งเทียบเชิญมาให้ข้า"สามีของตนเองก็เป็นข้าราชการขั้นเจ็ดเล็กๆ คนหนึ่ง แม้ว่าตระกูลจากจะไม่ใช่ข้าราชการชั้นสูง แต่ก็เป็นข้าราชการขั้นห้า และบรรพบุรุษก็ล้วนเป็นข้าราชการทั้งนั้น ซึ่งก็นับว่าเป็นตระกูลที่มีคุณธรรมสูงส่งการที่ส่งเทียบเชิญมาให้พวกเขาในงานเลี้ยงวันเกิดเช่นนี้ ก็เรียกได้ว่าไม่ได้ดูถูกพวกเขาเพียงแต่ คนในยุคโบราณส่วนมากจะดูแคลนคนทำธุรกิจ หากตนเองไปร่วมงานละก็ จะทำให้พวกเขารู้ว่าภรรยาของซูจื่อหังเป็นหญิงทำมาค้าขาย ก็ยากที่จะไม่ดูแคลนเดิมทีถูซินเยว่ไม่อยากไป แต่คาดไม่ถึงว่าซูจื่อหังจะหันมากุมมือเธอไว้ ยิ้มแล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจนักว่า "บุตรชายของใต้เท้าจางสนิทกับข้า ภรรยาของข้าเป็นหญิงสาวที่มีเสน่ห์มากที่สุดในใต้หล้า ไม่ว่าทำอะไรก็ดีทั้งนั้น แล

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 373 ฮ่องเต้หมดสติ

    สำหรับถูซินเยว่แล้ว จะเป็นลูกผู้ชายหรือผู้หญิงก็ไม่เป็นไร สิ่งสำคัญคือ การที่ลูกน้อยสามารถคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัยเพราะในยุคโบราณการที่ผู้หญิงคลอดลูกนั้นเปรียบเสมือนการเดินไปขอบประตูนรก ดังนั้นการที่สามารถให้กำเนิดลูกได้อย่างปลอดภัยถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย เธอจึงไม่คาดหวังอย่างอื่นอีกแต่ว่าช่วงนี้เธอมักจะถูกนางหยูล้างสมองอยู่บ่อยๆ จนถูซินเยว่เองก็คิดว่าท้องนี้อาจจะเป็นลูกผู้ชายก็ได้เป็นผู้ชายก็ดี เพราะความคิดปิดกั้นในยุคโบราณนั้นสร้างความลำบากให้กับหญิงสาวอย่างมาก หากเป็นเด็กผู้ชาย ก็สามารถลดความลำบากหลายๆ อย่างให้เธอได้ไม่น้อยเดิมทีถูซินเยว่อยากจะถามฉงเป่าว่าในท้องตนเองนั้นเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิงกันแน่ ซึ่งตามปกติแล้วขอเพียงเอาของกินมาล่อนิดล่อหน่อย ฉงเป่าก็ยอมพูดทุกอย่าง มีเพียงแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่ไม้ว่าถูซินเยว่ถามอย่างไร อีกฝ่ายก็ไม่ยอมบอก"อย่างไรเสียลูกก็อยู่ในท้องของข้า เจ้าจะบอกหน่อยมิได้หรือว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง? ถึงเจ้าพูดมา ด้วยเงื่อนไขการรักษาแบบนี้ข้าก็ทำอะไรเจ้าไม่ได้มิใช่หรือไง?"อีกอย่าง ถูซินเยว่เองก็ไม่มีความคิดการให้ความสำคัญชายมากกว่าหญิงด

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status