แชร์

บทที่ 126 ช่วยชีวิต

ผู้เขียน: ฮวาฮวาน่งหยวี่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2023-12-26 10:34:01
ตรงกลางกลุ่มคน หญิงชราคนหนึ่งกำลังชักกระตุก น้ำลายฟูมปาก หมดสติคอพับไป ดูจากการแต่งกายแล้วน่าเป็นคนคนรวย และหญิงสาวที่นั่งคุกเข่าอยู่ด้านข้างหญิงชรานั้นทำผมทรงมวยผมง่ามคู่ ดูท่าทางน่าจะเป็นสาวใช้ที่คอยดูแลหญิงชราคนนี้อยู่

เมื่อเห็นว่าหญิงชราหมดสติไป นางจึงพยายามร้องเรียกหญิงชราด้วยความตกใจอกสั่นขวัญแขวน เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ตอบสนองก็ยิ่งร้อนใจ

น้ำตานางเอ่อล้นเบ้าตา หญิงสาวเอามือข้างหนึ่งกุมมือหญิงชราไว้พลางเงยหน้าขอความช่วยเหลือจากคนจำนวนมากที่อยู่โดยรอบ นางเอ่ยถามว่า "มีใครใจดีช่วยข้าหน่อยได้ไหม ฮูหยินเฒ่าของข้าหมดสติไปแล้ว ใครก็ได้ช่วยพานางไปส่งโรงหมอหน่อยเถิด ข้าข้อร้องล่ะ"

เด็กสาวดูอายุราว ๆ ก็แค่สิบห้าสิบหก ดูท่าจะเป็นห่วงเอามาก ๆ

ดูนางร่างกายบอบบางเช่นนี้แล้วก็รู้ได้ทันทีว่าคงไม่เคยทำงานหนักมาก่อน แน่นอน ว่าจะให้มาเคลื่อนย้ายฮูหยินเฒ่าของนางด้วยตัวคนเดียวก็คงไม่ไหว

คนที่มามุงดูมีมากมายก็จริง แต่คนมีน้ำใจก็มีแค่ไม่กี่คน ดูหญิงชราท่าจะไม่ไหวแล้ว ต่างคนต่างก็กลัวว่าจะทำให้ตัวเองเดือดร้อนไปด้วย เดี๋ยวจะเป็นอัปมงคลต่อตัวเองซะเปล่า ๆ

ดังนั้น หลังจากที่เด็กสาวร้องขอความช่วยเหลือแ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 127 ซือเสื้อผ้าให้ท่านพี่

    "ไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก ก็แค่บังเอิญ เดี๋ยวพอฮูหยินเฒ่าของเจ้าฟื้น ต่อไปเจ้าต้องไส่ใจดูแลนางให้มากหน่อยนะ ข้าเกรงว่าโรคลมบ้าหมูอาจจะกำเริบขึ้นได้อีกในอนาคต" ถูซินเยว่ไม่ได้บอกชื่อของเธอกับอีกฝ่าย แต่หันหลังแทรกตัวออกมาจากฝูงชนแล้วจากไปพร้อมกับซูจื่อหังทันทีที่พูดจบซางเอ๋อร์มองตามหลังถูซินเยว่ไป แววความประหลาดใจปรากฏขึ้นในดวงตาของนางและในตอนนี้เอง ฮูหยินเฒ่าก็ค่อย ๆ ลืมตาขี้นมามองไปที่ซางเอ๋อร์ซึ่งมีคราบน้ำตาติดเต็มหน้าแล้วเอ่ยถามอย่างอ่อนแรงว่า "นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?"นางจำได้เพียงว่าตัวเองเดินมาถึงปากทางตลาดไม่ทันได้เข้าไปก็เป็นลมไปเสียก่อน"ฮูหยินเฒ่า" ซางเอ๋อร์เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ทั้งหมดแล้วจบลงด้วยความว่า "โชคดีที่แม่นางใจดีคนนั้นช่วยฮูหยินเฒ่าไว้ มิเช่นนั้นข้าน้อยก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี""แม่นางใจดีหรือ?" ฮูหยินเฒ่าชะงักไป นางคิดตามไม่ทันทางด้านนี้ ถูซินเยว่กับซูจื่อหังก็เดินเข้ามาในตลาดแล้ว เมื่อนึกขึ้นได้ว่าคราวก่อนที่มาตลาด ซูจื่อหังซื้อผ้าให้ตัวเองไปตัดเสื้อผ้าใหม่ คราวนี้ถูซินเยว่ก็อยากซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้ซูจื่อหังสักชุดเหมือนกันหลังจากซื้อเมล็ดพันธุ์เสร็จ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-26
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 128 มีเรื่องเกิดขึ้นอีกแล้ว

    "ช่วงปีใหม่มานี้เจ้าผอมลงมากเลย กินเนื้อเยอะ ๆ หน่อย" พอเห็นถูซินเยว่คีบเนื้อคืนมาให้ตัวเอง ซูจื่อหังก็คีบกลับไปให้อีกฝ่ายอีกหนสายตาของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความรักใคร่ ในขณะที่พูดเขาก็ลูบหัวของถูซินเยว่ไปด้วยบะหมี่ชามนี้ราคาแค่แปดอีแปะ เดิมทีในชามบะหมี่ก็มีเนื้อไม่มากนัก ตอนนี้ซูจื่อหังเอามาให้ตัวเองหมดแล้ว ตอนนี้ชามบะหมี่ของอีกฝ่ายดูไม่เหมือนบะหมี่เนื้ออีกแล้ว แต่เหมือนบะหมี่มังเจเสียมากกว่าซูจื่อหังเองก็เรียนหนักในสำนักบัณฑิตเหมือนกัน ปกติก็ไม่ค่อยได้กินเนื้อสักเท่าไหร่ ผู้ชายคนนี้มักคิดแต่จะเอาของดี ๆ ให้เธออยู่เสมอ แต่เขากลับไม่เหลืออะไรไว้ให้ตัวเองเลยถูซินเยว่กำลังจะคีบเนื้อกลับไปอีกหน แต่หลี่เม่าที่อยู่ข้าง ๆ ทนดูต่อไปไม่ไหวแล้วเขาเงยหน้าขึ้นแล้วพูดว่า "พวกท่านสองผัวเมียหยุดให้กันไปให้กันมาได้แล้ว บะหมี่น้ำจะเย็นหมดอยู่แล้ว อาซ้อ ในเมื่อท่านพี่ซูเอาให้เนื้อท่าน ท่านก็กินเถอะ""นั่นสิ รีบกินซะเถอะ บะหมี่ผัดถ้าเย็นแล้วจะไม่อร่อยนะ" ซูจื่อหังพยักหน้าพลางพูดถูซินเยว่ไม่มีทางเลือกจึงต้องเก็บเนื้อซอยไว้ แต่ในใจของเธอกลับกำลังคิดว่าเดี๋ยวตอนเย็นกลับบ้านไปเธอจะต้องทำอาหารอร่อย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-26
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 129 เสื้อบังทรงถูกขโมยไปแล้ว

    "อาสามของเจ้า เขาขโมยเสื้อบังทรงของแม่ไป แถมยังขู่แม่ว่า..." ผ่านไปพักใหญ่นางหยูถึงสะอึกสะอื้นพูดออกมาได้ประโยคหนึ่งถูซินเยว่ตะลึงไป หน้าตานางตอนนี้ราวกับคนโดนฟ้าผ่า"อาสามงั้นหรือ?"ถ้าเธอจำไม่ผิดล่ะก็ คงเป็นคนที่ชื่อซูฟาเสียงนั่นแน่ก่อนหน้านี้ เจ้าของร่างต้องไปกระโดดบ่อน้ำฆ่าตัวตายก็เพราะทนไม่ไหวที่โดนซูฟาเสียงกับซูเฟิ่งอี๋รังแก แต่ว่าไม่ได้เจอซูฟาเสียงตั้งนานเธอเกือบจะลืมเรื่องนี้ไปแล้วในความทรงจำ ซูฟาเสียงไม่มีอะไรสักอย่าง เหมือนจะเป็นคนไม่ได้เรื่องแถมยังจนแล้วก็ยังโสดอยู่ความคิดนี้วนผ่านไปในสมองแล้วถูซินเยว่ก็เข้าใจได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นดูท่าว่าซูฟาเสียงจะทนความเหงาไม่ไหว จึงมาเล็งที่พี่สะใภ้ของตัวเองคนบ้านนี้ไม่มีคนดีมีคุณธรรมเลยสักคนจริง ๆ เลยสินะ"ซินเยว่ วันนี้ซูฟาเสียงมาขู่แม่อีกแล้ว เขาบอกว่าถ้าคืนนี้แม่ไม่ไปกับเขา เขาจะเอาเรื่องนี้ไปพูด" เมื่อมาถึงตรงนี้สีหน้าของนางหยูก็ร้อนใจมาก นางพูดอย่างจนหนทางว่า "ถ้ามีใครรู้เรื่องนี้เข้าจริง ๆ ล่ะก็ แม่คงไม่มีหน้าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกแล้ว"ถึงตอนนั้นถึงแม้ว่านางจะไม่ได้ทำอะไรเลย แต่พวกคนขึ้นินทาในหมู่บ้านคงไม่สนหรอก ถ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-26
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 130 รักเมียเป็นอันดับหนึ่ง

    "อ่อ น่าสามก็ร้อนใจเป็นเหมือนกันนี่" เจิ้งหมานหม่านถอยหลังไปสองก้าว จงใจบีบจมูกพูดว่า "ข้าเห็นว่าบนเสื้อบังทรงมีคราบสกปรกของน้าสามติดอยู่ไม่น้อยนะ""เจ้า!" ซูฟาเสียงถูกยั่วโมโหจนหน้าแดงถึงหูว่ากันว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า เจิ้งหมานหม่านผู้นี้ช่างไร้ยางอายและอันตพาลเสียยิ่งกว่าซูฟาเสียงเสียอีก"เจ้ารีบคืนมันมาให้ข้าเดี๋ยวนี้เลย ไม่งั้นข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่!" พอเห็นเจิ้งหมานหม่านทำหน้าตาไม่แยแส ซูฟาเสียงก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เขาพูดด้วยความโกรธว่า "ถ้าเจ้าไม่คืนให้ข้า ข้าจะข่มขืนเจ้า แล้วดูซิว่าเจ้าจะมีหน้าอยู่ในบ้านตระกูลซูของเราต่อไปได้ยังไง"พอเขาพูดแบบนี้ เจิ้งหมานหม่านก็ตกใจเบิกตากว้าง มองอีกฝ่ายอย่างไม่อยากจะเชื่อ"น้าสาม นี่จะหน้าไม่อายเกินไปหรือเปล่า?"อะไรแบบนี้ก็กล้าพูดมาได้"ที่ข้าหน้าไม่อายก็เพราะเจ้าบีบบังคับข้าเอง หมาจนตรอกยังกระโดดกำแพงได้เลย" ซูฟาเสียงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ พอเห็นเจิ้งหมานหม่านเผลอก็รีบแย่งชิงเอาเสื้อบังทรงมาจากมือของอีกฝ่าย"เฮ้ย ท่านนี่มัน!""ข้าขอเตือนไว้ก่อนนะว่าอย่ามาทำให้ข้าโกรธ ไม่อย่างนั้น..." หลังจากได้เสื้อบังทรงกลับมาซูฟาเสียงไม่กลัวเจิ้งหมานหม่านอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-26
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 131 ชุลมุนวุ่นวาย

    แม้ว่าเรื่องนี้ได้ตกลงไว้แต่เมื่อเช้าแล้ว แต่สุดท้ายก็ยังต้องไปด้วยตนเอง ทำให้นางหยูรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อยนางกัดริมฝีปากล่างของตนเอง และกล่าวอย่างจนปัญญาว่า "ซินเยว่ ถึงเวลาถ้าอาสามของเจ้าไม่มาละก้อ งั้นเรา...""อาสามไม่ลืมแน่นอน" ถูซินเยว่ส่ายหน้า ใช้สายตาปลอบโยนนางหยูและกล่าวว่า "แต่ว่า ท่านต้องจำไว้อย่างหนึ่ง อย่าให้พวกอาสามรู้ว่าข้าก็อยู่บ้านด้วย มิฉะนั้น อาสามอาจไม่ยอมมาจริง ๆ"พูดจบ ถูซินเยว่ก็หยิบตะกร้าผักที่เตรียมไว้แล้วและกล่าวว่า "ท่านเอาตะกร้าผักไปด้วย และบอกท่านย่า""ก็ได้" ถ้านางเอาแต่หลบเลี่ยง ก็ไม่อาจแก้ปัญหาอะไรได้ตอนนี้ซินเยว่อยู่บ้านยอมมาช่วยนาง หากซินเยว่ไปแล้วจริง ๆ ต่อไปคงไม่มีใครช่วยนางได้อีก เมื่อคิดได้ดังนี้ แววตานางหยูก็เกิดความแน่วแน่ รีบถือตะกร้าผักแล้วเดินออกไปจนมาถึงนอกบ้านตระกูลซู ประตูไม่ได้ปิด นางหยูเคาะประตูแล้วจึงเดินเข้าไปแม่เฒ่าตระกูลซูกำลังสานที่โกยขยะอยู่กลางลานบ้าน เมื่อเห็นนางหยูเดินมา จึงรีบโยนแถบไม้ไผ่ใส่ทันทีแถบไม้ไผ่โดนหน้าของนางหยูเข้า แม่เฒ่าตระกูลซูขมวดคิ้วและกล่าว่า "เจ้ามานี่ทำไม? นังคนอกตัญญู ปีใหม่ทั้งทีไม่เคยมาเยี่ยมเยือน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-26
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 132 ขอตบหน้าทีเถอะ

    หลังจากเข้าห้องแล้ว ซูฟาเสียงก็แทบอดใจไม่ไหวที่จะโผเข้าหานางหยูทันทีนางหยูรีบหลบเลี่ยงไปข้าง ๆ กัดฟันถามว่า "แล้วเสื้อบังทรงล่ะ คืนมาให้ข้าก่อน!"ผู้หญิงคนนี้ มาถึงขนาดนี้แล้วยังจะห่วงเสื้อบังทรงอีก ซูฟาเสียงอดไม่ได้ที่จะแสดงความหงุดหงิด แต่ตอนนี้เขาอยู่กับนางหยูเพียงสองคน ถึงเอาเสื้อออกมาก็คงไม่เป็นไร อย่างมากเดี๋ยวพอเสร็จกิจแล้ว ตนเปลี่ยนเสื้อบังทรงอีกตัวแล้วนำกลับไปก็ได้สรุปก็คือ นางหยูต้องการหลักฐานที่อยู่ในมือเขาทั้งหมดคงเป็นไปไม่ได้ซูฟาเสียงยังหวังจะได้นางมาเชยชมอีกหลายรอบอยู่เมื่อนึกถึงตรงนี้ ซูฟาเสียงจึงได้ดึงเสื้อบังทรงสีแดงออกจากอกเสื้อ พร้อมกับกวัดแกว่งในมือ ยักคิ้วและกล่าวว่า "เสื้อบังทรงอยู่นี่แล้ว เจ้าก็ควรทำตามคำพูดบ้าง รีบถอดเสื้อออกเร็ว ๆ แล้วมาปรนนิบัติข้าดี ๆ"นางหยูเห็นเสื้อบังทรงของตัวเองก็ตาโตขึ้น พร้อมหันไปมองตู้เสื้อผ้า เพราะถูซินเยว่ซ่อนตัวอยู่ในนั้น และพวกนางได้ตกลงกันไว้ รอให้ซูฟาเสียงเอาเสื้อบังทรงออกมา ถูซินเยว่จะออกมาจากตู้เสื้อผ้า แย่งเอาเสื้อบังทรงไป จากนั้นค่อยเล่นงานซูฟาเสียงและต่อไปนี้ นางก็ไม่ต้องอยู่ใต้อำนาจของซูฟาเสียงอีกถูซินเยว่ซึ่งแอบอยุ่ใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-26
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่133 จื่อหังระเบิดโทสะ

    ไม่เพียงตบนางแต่ยังตีจนนางเลือดออกมุมปากเลยด้วยเจิ้งหมานหม่านแทบจะโมโหจนอาละวาด นางแทบอยากวิ่งไปหน้าถูซินเยว่ เด็ดศีรษะของถูซินเยว่ออกมาและกระแทกลงพื้นพร้อมย่ำเหยียบแรงๆ ด้วยสองฝ่าเท้าเพียงแต่เจิ้งหมานหม่านเพิ่งเงยหน้าขึ้นก็สบตาเข้ากับแววตาคล้ายยิ้มแต่ไม่ยิ้มของถูซินเยว่หญิงสาวมองนางอย่างเย็นชา ในแววตาแฝงความเย็นยะเยือกเอาไว้ขณะถามเสียงเรียบว่า "เจ้าคิดจะทำอะไร จะเอาคืน?"ไม่รู้เพราะอะไร พอเห็นแววตาเช่นนี้ของถูซินเยว่แล้ว เจิ้งหมานหม่านกลับขี้ขลาดไม่กล้าเสียแล้วผ่านไปสักพัก นางถึงค่อยเค้นประโยคหนึ่งออกมาจากไรฟัน "เจ้า เจ้าถือดีอะไรมาตบข้า?""แม่ข้าคือผู้อาวุโสของเจ้า เจ้ากล้าไม่เคารพผู้อาวุโส ข้าแค่สอนเจ้าว่าควรประพฤติเช่นไรผิดตรงไหน?" ถูซินเยว่มองนางอย่างเย็นชาผาดหนึ่ง ก่อนจะเดินไปหน้าแม่เฒ่าตระกูลซู พูดว่า "ยังมีท่านอีกคน ทางที่ดีท่านถามก่อนดีกว่าว่าใครทำเรื่องที่หน้าอายออกไปกันแน่ ถ้าท่านโวยวายไปถึงหัวหน้าหมู่บ้านจริง ก็ได้ ท่านดูสิว่าหัวหน้าหมู่บ้านจะเชื่อท่านหรือว่าเชื่อข้า"ประโยคนี้ของถูซินเยว่กล่าวได้หามิได้ไม่เป็นการโอ้อวดแต่อย่างใดเพียงแต่ประโยคนี้ของนางก็เป็นการ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-26
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่134 คุกเข่าขอโทษ

    มุมปากถูซินเยว่กระตุก เจิ้งหมานหม่านผู้นี้ถูกตนตบฉาดหนึ่งยังไม่พอ ตอนนี้ยังกล้ามายั่วยวนท่านพี่ของตนอีกหรือ?"จื่อหัง" นางหยูเดินไปหน้าซูจื่อหัง พอเห็นบุตรชายตนหน้าดำคร่ำเครียด สีหน้าย่ำแย่จนเหมือนจะบีบเค้นให้น้ำหยดลงมาได้ นางก็รู้แล้วว่าเรื่องที่ตนไม่อยากให้ซูจื่อหังทราบมาโดยตลอด อีกฝ่ายยังคงทราบอยู่ดี"ซินเยว่ เจ้าพยุงแม่ไว้" น้ำเสียงของซูจื่อหังอ่อนลงขณะเหลือบมองถูซินเยว่แวบหนึ่งเขารู้ว่านางหยูคิดยังไง วันนี้ตั้งใจไล่ตนไปก็แค่เพราะไม่อยากให้ตนเป็นกังวลก็เท่านั้น เพียงแต่พอเขารู้เรื่องนี้ รู้ว่าแม่ของตนถูกอาสามรังแกเช่นนี้และยังถูกคนตระกูลซูหยามเกียรติเช่นนี้อีก หากเขายังนิ่งเฉยอยู่ยังจะมีสิทธิ์อันใดเป็นลูกของนางหยูกัน?ผู้เป็นแม่อ่อนแอ ตนได้รับความอดสูยังไม่กล้าทวงความยุติธรรมเขาที่เป็นบุตรชาย หากยังไม่ปกป้องมารดาตนอีก แล้วความถูกต้องจะอยู่ที่ใด?เรื่องวันนี้ไม่ว่ายังไงซูฟาเสียงก็ต้องให้คำอธิบายกับเขา กับแม่เขาและกับบิดาที่ตายไปของเขา"ท่านพี่ ท่านระวังหน่อยนะ"ท่าที่สามีของตนถือมีดหั่นฟืนยืนอยู่หน้าประตู อย่าให้พูดเลยว่าหล่อเหลาเพียงใด ทว่าถูซินเยว่ยังคงเป็นกังวลว่าซูจื่อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-26

บทล่าสุด

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 381 ช่างคล้ายคลึงนัก

    ทั้งคู่เดินถึงหน้าประตู ปะเหมาะเวลานี้ จวนแม่ทัพหลิ่วก็มีคนเดินออกมาเช่นกัน"คนนี้ก็คือใต้เท้าซูที่เจ้าชอบอย่างงั้นหรือ" ฮูหยินหลิ่วเหลียวมองบุตรีซึ่งอยู่ข้างกาย สื่อเป็นนัยให้อีกฝ่ายอย่าได้วู่วามทุกวันนี้คราใดที่หลิ่วโหรวโหรวเห็นถูซินเยว่กับซูจื่อหังเดินมาด้วยกัน ด้วยท่าทีรักใคร่ปรองดอง นางจะรู้สึกเดือดดาลในใจ ราวกับภูเขาไฟที่ใกล้ระเบิดกระนั้นนางทำเสียงฮึดฮัด "ถูซินเยว่มีวันนี้ได้ ก็เพราะอาศัยบารมีซูจื่อหัง แต่คอยดูไปเถิด หญิงบ้านนอกเช่นนาง ใหม่ ๆ ยังพอทำให้ซูจื่อหังพอใจได้บ้าง แต่พอนานวันเข้า ได้เห็นสาวงามในเมืองหลวงมากมาย ความรักของพวกเขายังมั่นคงเหมือนแต่ก่อนได้อีก ก็แสดงว่าผิดมนุษย์แล้ว"ฮูหยินหลิ่วแสดงท่าทีนิ่งเฉยแต่บุตรีพูดก็มีเหตุผล ผู้ชายในโลกนี้น้อยนักที่จะไม่คิดได้ใหม่ลืมเก่า ยกตัวอย่างเช่นสามีของนาง ในอดีตก็เคยให้คำมั่นสัญญา ว่าแม้เป็นหรือตายก็จะขอรักอดีตคนรักเพียงผู้เดียว แต่พอบ้านเขาประสบภาวะเดือดร้อน สุดท้ายก็มาเลือกแต่งงานกับตน จนบัดนี้ลืมหน้านังคนแพศยานั่นไปถึงไหนต่อไหนแล้วแสดงว่าความจริงใจของผู้ชายคือสิ่งที่ไร้ประโยชน์ปกติเสแสร้งทำเป็นรักมั่นจริงใจ แต่พอเอ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 380 ลูกสาวจอมโง่เขลา

    หากซูจื่อหังไม่รังเกียจถูซินเยว่แล้วล่ะก็ งั้นต่อให้หลิ่วโหรวโหรววทุ่มเทแรงกายแรงใจมากแค่ไหนก็ตาม เกรงว่าก็คงไม่สามารถเข้าไปในจวนสกุลซูได้ดั่งใจปรารถนาหรอกแต่น่าขําที่ลูกสาวคนนี้ของนางกลับไม่รู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้เลย รู้แต่ไปเหยียดหยามถูซินเยว่อย่างโง่เขลาเท่านั้นนี่ถ้าทําให้ถูซินเยว่อับอายต่อหน้าทุกคนก็ว่าไปอย่าง แต่นี่กลับยังโดนถูซินเย่วตอบโต้กลับมาจนขายหน้า นี่ไม่ใช่เป็นการตบหน้าตัวเองหรือไง?เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินหลิ่วก็ไม่อยากเห็นหน้าลูกสาวคนนี้แม้แต่นิดนางขมวดคิ้ว จู่ ๆ ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า "ใช่แล้ว เรื่องนี้ข้ายังไม่ได้บอกพ่อเจ้า ถ้าพ่อเจ้ารู้ ดูสิว่าเขาจะสั่งสอนเจ้ายังไง เจ้าระวังตัวหน่อย"ภายใต้การเกลี้ยกล่อมและคําเตือนของฮูหยินหลิ่ว ในที่สุดหลิ่วโหรวโหรวก็หลับตาลง นางนั่งอยู่บนที่นั่งของตัวเองอย่างเซ็ง ๆ ทั้งหน้ามีแค่อารมณ์เดียวนั่นก็คือ นางไม่มีความสุขฮูหยินหลิ่วถอนหายใจอย่างจนใจ แล้วเงยหน้ามองฝั่งตรงข้าม ตําแหน่งของนาง มีเพิงดอกไม้อยู่ตรงกลางบดบังร่างของถูซินเยว่พอดี ดังนั้นนางจึงเห็นเพียงโครงร่างผ่านเถาวัลย์อย่างคลุมเครือเท่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 379 จางเยียนหรัน

    วันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงเชิญตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ก่อนมาซูจื่อหังเคยพูดกับนางว่า เขากับตระกูลจางเข้ากันได้ดีในราชสํานัก ดังนั้นวันนี้ ถูซินเยว่ก็ไม่อยากสร้างปัญหาอะไรให้กับตระกูลจาง เพื่อไม่ให้คนอื่นรู้สึกว่าพวกเขาไม่มีมารยาทเห็นเหล่าฮูหยินกับหลิ่วโหรวโหรวเพิ่งเยาะเย้ยเธอเมื่อครู่ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ถูซินเยว่ก็สบายใจไม่น้อย ก้มหน้าก้มตากินอาหารด้วยตัวเองไม่สนใจใครทั้งนั้นในขณะที่เธอกําลังกินอย่างมีความสุข จู่ ๆ ก็มีคนผลักแขนของเธอเบา ๆถูซินเยว่นิ่งงันไปพักหนึ่ง หันหน้ากลับไปอย่างสงสัยใคร่รู้ เห็นหญิงสาวในชุดสีเหลืองคนหนึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ ตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ กําลังใช้ดวงตากลมโตจ้องมองเธออย่างอยากรู้อยากเห็นดวงตาของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและไร้เดียงสา แต่กลับไม่มีเจตนาร้ายเลยแม้แต่น้อยถูซินเยว่เคยเห็นคนมามากมาย เรื่องเหล่านี้เธอยังพอสามารถมองออกได้ตั้งแต่แรกเห็นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีเจตนาร้าย ท่าทีของเธอก็อ่อนโยนลงมาก"ไม่ทราบว่าแม่นางมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?"ถ้าเธอจําไม่ผิด คนที่นั่งข้างเธอเมื่อกี้น่าจะเป็นผู้หญิงที่เยาะเย้ยเธ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 378 หน้าแตก

    ถูซินเยว่ชะงัก และรู้สึกตลก เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายก็รู้สึกประหลาดใจ ตอนที่ออกจากมาตอนเช้า เธอได้สวมใส่เครื่องประดับมาหลายชิ้นจริงๆแต่ระหว่างทาง ถูซินเยว่รู้สึกว่าต่างหูระเกะระกะเกินไป จึงแอบถอดมันออกและวางไว้บนรถม้าคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าในงานเลี้ยงจะมีคนไม่กินไม่ดื่ม แต่หันมาจับจ้องที่เครื่องหัวของตนเองแทนถูซินเยว่ยื่นมือไปจับที่ผมของตนเองอัตโนมัติ จากนั้นก็พูดเสียงราบเรียบว่า "ในเมื่อวันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพ แขกสำคัญจึงเป็นตระกูลจาง แล้วเหตุใดข้าจักต้องแต่งตัวให้ดูดีขนาดนั้น""จนก็ยอมรับว่าจนเถอะ จะหาเหตุผลอะไรมาอ้างมากมายไปทำไม ในที่นี้ใครไม่รู้บ้างว่าพวกเจ้ามาจากบ้านนอก ข้าเองก็แค่รู้สึกเสียดายแทนใตเท้าซูเท่านั้น ทั้งที่มีมีอนาคตอันดี หากแต่งงานกับบุตรสาวขุนนางสักคน ก็คงยิ่งช่วยส่งเสริมให้เจริญก้าวหน้า แต่กลับเลือกจะเฝ้าอยู่แค่หญิงชาวบ้านเฉกเช่นเจ้า..."ประโยคหลังแม้ว่าจะไม่ได้พูดต่อจนจบ แต่ก็สามารถเข้าใจได้ถึงแม้บนใบหน้าของถูซินเยว่จะแสดงสีหน้าใดๆ แต่สาวรับใช้ที่อยู่ข้างๆ สีหน้าย่ำแย่มากแล้วนางอาศัยอยู่ที่ตระกูลซูมานาน ก็พอจะรู้ว่าถูซินเยว่ไม่ได้ไม่มีเงิน และเงินส่วนใ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 377 ดูถูก

    ตั้งแต่ตอนที่อยู่ในหมู่บ้านต้าเย่ เพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หรือเพราะผลประโยชน์อันน้อยนิด แม้เป็นครอบครัวเดียวกัน ก็ยังสามารถโกรธแค้นกันจนตัดญาติขาดมิตรไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นใด แค่ในตระกูลถู เพียงเพื่อสินสอดของตระกูลเหลียง ถูชิวหลานก็ดันทุรังจะสับเปลี่ยนตัวเธอกับลูกสาว ภายหลังยังไม่ยอมรับด้วย แถมยังผลักไสความผิดทุกอย่างไปที่เจ้าของร่างหากเธอไม่ได้ข้ามิติมาอยู่ในร่างของเจ้าของร่างซื่อบื้อคนนั้น นางจะใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลซูอย่างไร เกรงว่าคงเหลือแต่เสี้ยววิญญาณแล้วอย่างด้านซูเฟิ่งอี๋ในตระกูลซู ตอนนั้นพวกเขาเองก็หวงแหนเงินเล็กๆ น้อยๆ เห็นชีวิตนางหยูกำลังตกอยู่ในอันตรายก็ยังไม่ยอมรักษาให้นางเรื่องราวของญาติสนิทมิตรสหายที่ทำร้ายคนใกล้ตัวเพียงเพื่อผลประโยชน์และเงินทองมีมากมายเกินกว่าจะพูด ขนาดบ้านเธอยังเป็นเช่นนี้ แล้วต้าฉีที่มีบ้านสกุลมากมายขนาดนี้ล่ะชาวบ้านธรรมดาทั่วไป อาจทำไปเพื่อเงินทอง แต่องค์ชายสามกับองค์ชายใหญ่ กลับทำเพื่อแก่งแย่งแผ่นดิน ขนาดที่เป็นการต่อสู้เพื่อความเป็นความตาย และไม่มีใครยอมอ่อนข้อให้ใคร ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้"ชีวิตคนเรามีหลายเรื่องที่มักไม่เป็นดังที่หวัง ข

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 376 อิจฉา

    "วันนี้เป็นงานเลี้ยงของตระกูลจาง ข้าก็นึกว่าเจ้าจะพูดคุยเรื่องอะไรกับข้า คาดไม่ถึงว่าจะใช้เรื่องนี้มาข่มขู่ข้าในที่ๆ ไม่มีคนเช่นนี้?"ชายผู้นั้นหัวคิ้วกระตุก รีบก้มศรีษะลงแล้วพูดว่า "กระหม่อมมิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่กระหม่อมทราบว่าองค์ชายสามเป็นคนเฉลียวฉลาด แต่ไหนแต่ไรมา การที่บุตรสายตรงรับสืบราชบัลลลังก์ต่อก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล แล้วไฉนองค์ชายสามจึงมิตั้งใจเป็นข้าราชบริพานบริสุทธิ์ คอยค้ำจุนเสด็จพี่ของพระองค์เล่าพ่ะย่ะค่ะ?"ฉีหวานหัวดราะเสียงดัง น้ำเสียงเย็นเยือกลงฉับพลัน เขาสะบัดแขนเสื้อ พร้อมสีหน้าเย็นชา "แม่ทัพหลิ่วพูดเช่นนี้ ช่างไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ตอนที่ข้าพบกับมือสังหารไล่เอาชีวิตตอนที่รีบเดินทางกลับมาจากเป่ยเจียงอันไกล แม้วันนี้ข้าไม่พูด เชื่อว่าท่านแม่ทัพเองก็คงทราบดีว่าเป็นฝีมือของใคร?"ถูซินเยว่ที่นั่งอยู่ในศาลาชะงักงัน ที่แท้คนที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับฉีหวานก็คือแม่ทัพหลิ่วนี่เอง หากนางจำไม่ผิดละก็ ก่อนหน้านี้ที่หน้าประตูตระกูลจาง ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวก็คือแม่ทัพหลิ่วผู้นี้สินะ?เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ถูซินเยว่ก็รู้สึกเซ็งขึ้นมา ถ้ารู้แต่แรกว่าพวกเขาจะคุยกันเรื่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 375 แอบฟัง

    หลิ่วโหรวโหรวก็มองเห็นพวกเขาเช่นกัน และเมื่อนึกถึงความสนิทสนมของถูซินเยว่และซููจื่อหังวันนั้นในจวนซู นางก็กำหมัดแน่นแม่ทัพหลิ่ว หลิ่วถิง เมื่อเห็นว่าบุตรสาวของตนเองอยู่ๆ ก็หน้าตาไม่สดใส ทั้งที่เมื่อสักครู่ยังดีอกดีใจ ก็ขมวดคิ้วถามว่า "เป็นอะไรไป? มีคนรู้จักรึ?""เจ้าค่ะ..." หลิ่วโหรวโหรวกำลังจะอ้าปากพูด ฮูหยินหลิ่วที่อยู่ข้างๆ ก็ผลักนาง และส่งสายตาให้กับอีกฝ่ายหลิ่วโหรวโหรวจึงได้แต่หุบปากเงียบอย่างไม่พอใจนักฮูหยินหลิ่วเดินไปข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวอย่างเงียบๆ กระตุกแขนเสื้อของบุตรสาวและพูดเตือนเสียงเบาว่า "เจ้าอย่าได้พูดถึงเรื่องของตระกูลซูอีก หากเจ้าพูดถึงอีกข้าจะไม่ยกโทษให้เจ้า! เมื่อกี้เจ้าไม่เห็นฮูหยินตระกูลซูหรือย่างไร? นางท้องโตขนาดนั้นแล้ว! เจ้าคิดจะไปเป็นภรรยาน้อยของคนอื่นหรือ? พูดออกไปรังแต่จะกลายเป็นเรื่องตลก!"หลิ่วโหรวโหรวสีหน้าย่ำแย่ทันทีแม้ว่าซูจื่อหังมีภรรยาหลวงอยู่แล้ว แต่ในใจนางนั่นก็เป็นเพียงหญิงบ้านนอกที่เทียบกับตนเองไม่ได้เลยด้วยซ้ำ นางซึ่งเป็นบุตรีสายตรงของจวนแม่ทัพ จะตกเป็นรองอยู่เป็นภรรยาน้อยของซูจื่อหังหรืออย่างไร?ลำพังแค่คิด นางก็ไม่ต้องการหลิ่วโหรวโหร

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 374 งานเลี้ยงตระกูลจาง

    ขณะที่ถูซินเยว่กำลังยุ่งอยู่กับการเปิดร้านขายเครื่องประดับ และนางหยูกำลังกังวลเรื่องลูกค้าอยู่นั้น เทียบเชิญฉบับหนึ่งก็ได้ส่งมาถึงที่บ้าน"เป็นงานฉลองวันเกิดของมารดาเฒ่าตระกูลจางจากเสนาบีดีกระทรวงการคลัง"ถูซินเยว่ถือเทียบเชิญไว้ในมือและยิ้มอย่างประหลาดใจ "ในเมืองหลวงแห่งนี้ข้านั้นไม่ได้รู้จักใครเลยสักคนหนึ่ง แต่นึกไม่ถึงว่าตระกูลจางจะส่งเทียบเชิญมาให้ข้า"สามีของตนเองก็เป็นข้าราชการขั้นเจ็ดเล็กๆ คนหนึ่ง แม้ว่าตระกูลจากจะไม่ใช่ข้าราชการชั้นสูง แต่ก็เป็นข้าราชการขั้นห้า และบรรพบุรุษก็ล้วนเป็นข้าราชการทั้งนั้น ซึ่งก็นับว่าเป็นตระกูลที่มีคุณธรรมสูงส่งการที่ส่งเทียบเชิญมาให้พวกเขาในงานเลี้ยงวันเกิดเช่นนี้ ก็เรียกได้ว่าไม่ได้ดูถูกพวกเขาเพียงแต่ คนในยุคโบราณส่วนมากจะดูแคลนคนทำธุรกิจ หากตนเองไปร่วมงานละก็ จะทำให้พวกเขารู้ว่าภรรยาของซูจื่อหังเป็นหญิงทำมาค้าขาย ก็ยากที่จะไม่ดูแคลนเดิมทีถูซินเยว่ไม่อยากไป แต่คาดไม่ถึงว่าซูจื่อหังจะหันมากุมมือเธอไว้ ยิ้มแล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจนักว่า "บุตรชายของใต้เท้าจางสนิทกับข้า ภรรยาของข้าเป็นหญิงสาวที่มีเสน่ห์มากที่สุดในใต้หล้า ไม่ว่าทำอะไรก็ดีทั้งนั้น แล

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 373 ฮ่องเต้หมดสติ

    สำหรับถูซินเยว่แล้ว จะเป็นลูกผู้ชายหรือผู้หญิงก็ไม่เป็นไร สิ่งสำคัญคือ การที่ลูกน้อยสามารถคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัยเพราะในยุคโบราณการที่ผู้หญิงคลอดลูกนั้นเปรียบเสมือนการเดินไปขอบประตูนรก ดังนั้นการที่สามารถให้กำเนิดลูกได้อย่างปลอดภัยถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย เธอจึงไม่คาดหวังอย่างอื่นอีกแต่ว่าช่วงนี้เธอมักจะถูกนางหยูล้างสมองอยู่บ่อยๆ จนถูซินเยว่เองก็คิดว่าท้องนี้อาจจะเป็นลูกผู้ชายก็ได้เป็นผู้ชายก็ดี เพราะความคิดปิดกั้นในยุคโบราณนั้นสร้างความลำบากให้กับหญิงสาวอย่างมาก หากเป็นเด็กผู้ชาย ก็สามารถลดความลำบากหลายๆ อย่างให้เธอได้ไม่น้อยเดิมทีถูซินเยว่อยากจะถามฉงเป่าว่าในท้องตนเองนั้นเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิงกันแน่ ซึ่งตามปกติแล้วขอเพียงเอาของกินมาล่อนิดล่อหน่อย ฉงเป่าก็ยอมพูดทุกอย่าง มีเพียงแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่ไม้ว่าถูซินเยว่ถามอย่างไร อีกฝ่ายก็ไม่ยอมบอก"อย่างไรเสียลูกก็อยู่ในท้องของข้า เจ้าจะบอกหน่อยมิได้หรือว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง? ถึงเจ้าพูดมา ด้วยเงื่อนไขการรักษาแบบนี้ข้าก็ทำอะไรเจ้าไม่ได้มิใช่หรือไง?"อีกอย่าง ถูซินเยว่เองก็ไม่มีความคิดการให้ความสำคัญชายมากกว่าหญิงด

DMCA.com Protection Status