เธอขยับตัวเข้าไปใกล้แล้วจูบริมฝีปากหยักแผ่วเบาก่อนจะผละออกมาสบตาอบอุ่น เขายิ้มกว้างก่อนจะกดหัวเธอให้ลงไปจูบอีกครั้งอย่างเร่าร้อนและดุเดือดไร้ความโรแมนติกใดๆทั้งสิ้น มือใหญ่สอดเข้ามาใต้เสื้อลูบผิวให้สะท้านไปกับสัมผัสหยาบกร้านจากมือเขา หน้าอกถูกบีบขย้ำแรงมากขึ้นเรื่อยๆก่อนจะผละใบหน้าออกมาสบตาที่เต็มไปด้วยความดุดันและมีเสน่ห์แพรวพราว
“ถึงเวลากินนมแล้ว” เขาบอกไม่ดังมากแต่ความหมายชัดเจนว่าต้องการอะไรจากเมียในตอนนี้ มือใหญ่ดันบ่าเล็กให้ก้มลงไปตามที่ต้องการ แถมครั้งนี้เมียก็ไม่ได้ขัดใจด้วย
“มันคาว!”
“กลืนๆไปเถอะน่า”
“พี่บลูม!”
“อยากเอาก็ต้องทำ แล้วพี่จะจัดหนักให้ทั้งวันทั้งคืนเอาให้สมอยากเลย”
“ทั้งวันทั้งคืนเลยเหรอ?”
“เอาให้ถึงใจจนขาถางเลย”
แววตากลมโตหรี่มองแก่นกายที่ชูชันขึ้นมาก่อนจะค่อยๆขยับตัวไปนั่งตรงหว่างขาใหญ่ มือเล็กจับแก่นกายร้อนได้ไม่รอบลำด้วยซ้ำ แก่นกายใหญ่สีไม่คล้ำมาก มีเส้นเลือดปูดนูนขึ้นมาเพิ่มความเซ็กซี่และดูดิบเถื่อนในเวลาเดียวกัน
เขาดีงามไปทุกสัดส่วน
ผัวหล่อกร้าวใจขนาดนี้ไม่รักไงไหวล่ะ
เธอค่อยๆก้มลงปาดลิ้นเลียส่วนหัวและเขาล้างมาดีมากถึงดูสะอาดสะอ้านและมีกลิ่นหอมมากขนาดนี้ เขาเตรียมตัวพร้อมสำหรับเธออยู่แล้วถึงท่าทางจะดูเหมือนไม่แคร์อะไรเท่าไรก็เถอะ ลิ้นอุ่นเลียที่ลำโคนที่มีไรขนหนาโอบล้อมอยู่ กลิ่นที่ติดผิวหอมฟุ้งมากอย่างไม่น่าเชื่อเลย
แก่นกายหอมอะไรขนาดนี้เนี่ย
หัวแดงๆแบบนี้น่าเลียแล้วอมให้เต็มปาก
“อ่า…กี่เดือนแล้ววะเนี่ย?”
“คิดถึงปากเมียที่สุดเลย…อื้ม…”
ลิ้นสีชมพูฉ่ำวาวไปด้วยน้ำลายลากเลียหัวจนมันฉ่ำวาว ลิ้นเล็กตวัดรอยบากที่หัวสีแดงช้ำก่อนจะอ้าปากกว้างขึ้นแล้วอมแก่นกายใหญ่เข้าไป ของเขามันใหญ่จนคับแน่นปากเหมือนทุกครั้งและเธออมได้ไม่ถึงครึ่งลำด้วยซ้ำ หัวเล็กผงกขึ้นลงด้วยจังหวะไม่เร็วมากพร้อมกับดูดไปด้วย
ผู้ชายลูบหัวแปลว่าผู้ชายเอ็นดูใช่ไหม
เขาน่าจะเอ็นดูเธอมาก
มือใหญ่ลูบหัวในขณะที่หรี่ตามองภาพแสนเซ็กซี่ยั่วยวนใจ ก่อนจะจับผมยาวมาถักเปียล้วกๆเพื่อจะได้ไม่บดบังมุมมองแสนเย้ายวนตรงนี้ มือเล็กกำแก่นกายขยับเป็นจังหวะ ริมฝีปากสีชมพูอ่อนฉ่ำวาวไปด้วยน้ำลายกำลังดูดเลียแก่นกายอยู่อย่างเอร็ดอร่อยถึงทำสีหน้าเคลิ้มหลงขนาดนี้ เธอผละออกมายิ้มให้ แล้วลากลิ้นอุ่นลงไปที่พวงไข่ เธอทั้งอมทั้งดูดและเลียไม่หยุดจนพอใจ จากนั้นถึงหันมาอมแก่นกายต่อ
“ซี๊ด…โคตรดีเลยฟีนด์”
“เมียพี่แม่งเก่งฉิบหาย”
“อื้ม…พี่อยากแล้วเหมือนกัน”
“เอ๊ะ!”
ไม่มีคำตอบอะไรชัดเจนไปกว่านี้แล้ว เขาเปลี่ยนท่าด้วยความชำนาญ ใบหน้าหล่ออยู่แนบกับส่วนนั้นที่มันฉ่ำแฉะไปด้วยความต้องแล้วเหมือนกัน ส่วนเธอคุกเข่าก้มหน้าลงดูดแก่นกายด้วยความเสียวซ่านไม่ต่างกันเลย ลิ้นอุ่นตวัดเลียส่วนนั้นอย่างไม่ปราณีกันเลยสักนิดว่าจะเสียวจนแทบบ้าตายไหม เขาหยอกเย้าติ่งกระสันแล้วยังดูดมันจนขาสั่นไปเพราะความเสียวซ่านที่ทวีคูณมากขึ้น
พี่บลูมช่ำชองเรื่องพวกนี้มาก
ถ้าเขาจะเอาอะไรยังไงก็ต้องเอาให้ได้
สัมผัสเสียวซ่านต่างให้ต่างรับอย่างไม่มีใครยอมแพ้เลย ยิ่งเขาเลียให้เสียวจนตัวสั่น ลิ้นร้อนชำแรกเข้าช่องคับแน่นไม่หยุด ดูดติ่งกระสันจนสะท้าน เธอยิ่งดูดแก่นกายมากให้ อมให้ลึกขึ้นและขยับมือชักลำของเขาอย่างไม่ยอมแพ้เหมือนกัน
สัมผัสร้อนแรงเดือดพล่านเต็มไปด้วยความต้องการจนหน้ามืดตามัวไปด้วยความสุขเหมือนว่ากำลังก้าวเดินขึ้นสู่สวรรค์ เพียงไม่กี่อึดใจต่อจากนั้นตัวสั้นสะท้านไปหมด มวลความร้อนแผ่ซ่านไปทั่วทั้งเรือนกาย ช่องคับแน่นตอดรัดลิ้นร้อนแล้วขมิบถี่ยิบปลดปล่อยน้ำหวานออกมา ความเสียวซ่านรุนแรงพุ่งเข้ามาจนตัวเกร็ง ขาสั่นและเท้าจิกพื้นจนไม่มีแรง
นั่งทับหน้าแล้วยังดูดเลียไม่หยุดอีก
เขาตะกละเกินไปแล้ว
“อ๊า…พี่บลูม…ไม่ไหวแล้ว”
“อื้ม…อ่า…พี่บลูม…”
เธอทนไม่ไหวแล้วจริงๆในสิ่งที่เขาทำแบบนี้ แต่แทนที่เขาจะหยุดกลับจับเธอนอนบนเตียงแล้วจับขาให้อ้าออกกว้าง ก่อนจะพุ่งเข้ามาโลมเลียอีกครั้งแบบไม่สนใจเลยว่าเมียเสียวจะตายแล้ว ตัวบิดไปมาแล้วดิ้นเร้าไม่หยุด ไม่นานก็ตัวสั่นเกร็งกระตุกอีกครั้งและอีกครั้งซ้ำๆไม่หยุดจากมือและปากของเขาที่เล่นงานไม่ให้พักเลย สติไม่หลงเหลืออะไรทั้งนั้นแล้วเมื่อเจอคนตะกละตะกลามแบบนี้กลืนกินซ้ำๆ
เธอไม่เหลือแรงจะสู้แล้ว
น้ำที่มีไหลแทบหมดตัวแล้วมั้งเนี่ย
“พร้อมรึยังฟีนด์”
“ไม่มีแรงแล้ว”
“พี่ไม่ได้ให้ขึ้นซะหน่อย”
“พี่บลูม…”
“พี่จะแตกในนะ”
“อื้ม แต่พี่ต้องไปซื้อยา”
“ได้ดิ อยากแตกใส่เมียจนแทบบ้าแล้ว”
“แล้วทนทำไมเล่า!”
“ก็อยากเลียให้หนำใจก่อนไง พี่ไม่ได้เต็มที่ตั้งนานแล้วกว่าจะมีโอกาสดีๆสักครั้ง”
“ลาออกมาอยู่กับฉันสิ”
“แล้วจะคิดดู”
แก่นกายแข็งทื่อร้อนฉ่าไปด้วยความต้องการจนหยาดน้ำไหลเยิ้มออกมาแล้ว เขาก้มลงไปจูบเธอพร้อมกับดันแก่นกายเข้าช่องคับแน่นที่เบิกทางจนมันเฉอะแฉะไปด้วยหยาดน้ำไหลลื่น ช่องคับแน่นบีบรัดต้อนรับได้อย่างน่ารักเสียจริง เอวบางแอ่นขึ้นรับได้โคตรน่าเอ็นดูฉิบหาย
“อื้อ…ตอดดีจริงๆที่รัก”
“พี่บลูม…แน่นอะ!”
“ของพี่มันเล็กๆที่ไหนเล่า”
“ไหนว่าจะให้กินนมไง”
“มันคาวไม่ใช่เหรอที่รัก”
“อื้ม”
“แค่อมก็พอแล้ว…อ่า…แอ่นเอวรับแบบนี้แหละ…โคตรดี”
เอวสอบขยับในจังหวะเนิบนาบระหว่างคุยกับเมียด้วยน้ำเสียงกระเส่า แล้วจูบปิดปากดูดกลืนทุกเสียงครางไปพร้อมกับจับมือมือเล็กสอดประสานกดลงบนเตียง จังหวะรักรุนแรงมากขึ้นเมื่อเมียปรับตัวรับได้ไวมากขึ้น ตัวเธอเริ่มสั่นสะเทือนจากแรงกระแทกกระทั้นอย่างหนักหน่วง ริมฝีปากหยักผละจูบออกมาจากซุกไซ้ลำคอเล็กแสนหอมด้วยความลุ่มหลงอย่างหนักและไม่มีวันโงหัวขึ้น ก่อนจะเคลื่อนลงไปที่หน้าอกสวยเต็มไปด้วยรอยจูบ
ปัก!!
“อ๊า!! จุกนะ”
“นึกว่าชอบซะอีก”
“อ่า…พี่บลูม…อย่าเลียหัวนมแบบนั้นสิ”
“เสียวไม่ใช่เหรอ…อ่า…หัวนมถึงแข็งสู้ลิ้นพี่ขนาดนี้”
“เสียวจนแทบบ้า!”
“รักพี่ไหมฟีนด์?”
“รักที่สุด!”
“พี่แม่งโคตรรักเมียเลย…อ่า…ซี๊ด…”
เขาปล่อยมือเล็กออกให้เป็นอิสระแล้วขยับตัวคุกเข่ามองเมียคนสวย เรือนร่างของเธอเต็มไปด้วยเสน่ห์ชวนให้ลุ่มหลงจนไม่สามารถจะโงหัวขึ้นได้ไหวและไม่คิดจะพยายามหยุดความหลงนี้ด้วย หน้าอกสวยเต็มไปด้วยรอยจูบประปรายเต็มไปหมด จากนั้นจับเอวบางยกขึ้นรั้งเข้าตัวกระแทกกระทั้นแก่นกายเข้าช่องคับแน่นที่เปียกแฉะด้วยความรุนแรงมากขึ้นจนเธอดิ้นเร้าๆเหมือนกำลังจะตาย ร้องครางเสียงหลงออกมาปลุกความต้องการแสนดิบเถื่อนไม่หยุด มือเล็กควานไปทั่วเตียงก่อนจะขยุ้มที่นอนแน่นและเรียวขาเล็กตวัดรัดเอวสอบแน่น
พับๆๆๆ…
“อ่า…พี่รักฟีนด์มากนะ”
“พี่บลูม…อ๊า…ไม่ไหว…”
“ซี๊ด…อ่า…รักพี่ไหม?”
“รัก…อื้อ…รักพี่บลูมที่สุดเลย”
“เด็กดีต้องได้รางวัล”
ปัก!!
เธอสะดุ้งเฮือกจนตาเหลือกลอยอ้าปากค้างไปด้วยความจุกจนขยับตัวไม่ไหว ตัวยังสั่นสะเทือนไม่หยุดเมื่อเขาจับเรียวขายกขึ้นอ้าออกกว้างแล้วตอกอัดแก่นกายเข้ามาอย่างรุนแรงเหมือนจะฆ่ากันให้ตาย แววตาสวยพยายามจะลืมตามองภาพแสนเซ็กซี่ยั่วยวนใจด้วยความยากเย็น เพียงไม่นานร่างกายคล้ายว่าระเบิดความสุขออกมาอย่างรุนแรงจนตัวบิดเกร็งสั่นกระตุกและกรีดร้องด้วยความเสียวซ่านจนไม่เหลือสติพอจะคิดอะไรออกได้ ความสุขซัดเข้าหาอย่างรุนแรงเกินกว่าจะรับมือได้ไหม
นี่คือความสุขที่เจ็บและจุกมาก
แต่เชิญให้รางวัลทั้งวันทั้งคืนได้เลย
เธอรับไหว
เวลาล่วงเลยไปถึงตอนค่ำ เราสองคนออกมานั่งดินเนอร์กันที่ร้านอาหารไม่ไกลมากเท่าไร แล้วเดี๋ยวจะกลับไปค้างที่บาร์ในคืนนี้เพื่อความปลอดภัย พี่บลูมให้รางวัลเธอจนแทบไม่มีแรงจะเดินด้วยซ้ำ เขาทำไม่หยุดอย่างที่พูดจริงๆ ส่วนเธอไม่เคยจะขัดเรื่องนี้ได้เลยสักครั้ง แค่เป็นเขาคนเดียวเท่านั้นที่ปลุกความต้องการครอบครองเป็นเจ้าของขึ้นมา พอผสมกับความคิดถึงตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ห่างกันยิ่งทำให้อารมณ์เดือดพล่านได้ง่ายมากขึ้นเขาคือคนเดียวที่เธออยากอยู่ด้วยที่สุด“ส่งไฟล์งานมาด้วยนะฟีนด์”“อืม” “คิดถึงตอนเราอยู่ด้วยกันสองคนนะ”“นี่ถ้าไม่มีเรื่องเฮงซวยเกิดขึ้นฉันจะแวะไปหาพี่อีกแน่นอน อยู่ดีๆพี่ก็หายไปเล่นเอาฉันหวั่นใจคิดว่าจะโดนผัวทิ้งซะอีก พื้นที่สีแดงมันทุรกันดารมากจนไม่มีสัญญาณโทรศัพท์เลยเหรอ?” “ก็พอประมาณเลยแหละ แต่ฟีนด์ก็เห็นไม่ใช่เหรอว่าพี่มีรอยแผลเป็นเยอะขนาดไหน ถ้าเป็นตอนโดนยิงพี่ไม่มีสติด้วยซ้ำ แถมยังต้องอยู่แบบหลบๆซ่อนๆอีกเกือบอาทิตย์กว่าจะหลบออกมาได้” “งานโหดกว่าบอดี้การ์ดอีกเหรอ?” “โหดกว่าหลายสิบเท่าเลยแหละ จะว่าคล้ายทหารรับจ้างก็ได้นะ แล้วพื้นที่ตรงนั้นมันอยู่ใกล้เขตสงคราม ผู้ก่อการรัายก็เย
เที่ยงวันต่อมาเราสองคนกลับมาที่บ้านพักด้วยท่าทางปรกติมากทั้งที่ความจริงแทบไม่มีแรงอยู่แล้ว ฟีนด์ลงจากรถด้วยอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไรเพราะอยากจะอยู่เที่ยวต่ออีกสักนิด แต่ว่าพี่บลูมมีงานเข้ามาด่วน เขาบอกว่าจะหายตัวไปสักสองสามวันเพื่อสืบเรื่องสำคัญแล้วจะรีบกลับมาหาอย่างปลอดภัยให้ได้ หรืออย่างน้อยที่สุดก็จะพยายามไม่เจ็บตัวมากเกินไป เธอเข้าใจทุกอย่างที่เขาบอกนะว่ามันเป็นเรื่องงาน แต่ก็อดจะหงุดหงิดไม่ได้เลยจริงๆที่ไม่สามารถทำอะไรตามใจตัวเองได้ เขากลับมาเล่นละครอีกครั้งแล้ว อยากกอดแต่ทำไม่ได้ “ตอนเย็นเราจะกลับบ้านพักอีกหลังกันนะครับคุณหนู”“รู้แล้วน่า! พ่อบอกเรื่องนี้ฉันก่อนใครอีก!” “งั้นพวกพี่จะเก็บของรอนะ”“เชิญ!” แฮมกับเกรย์แอบฟังเงียบๆด้วยความสงสัยอีกครั้งว่าคุณหนูฟีนด์ไปกินรังแตนที่ไหนมาอีกถึงหงุดหงิดมากขนาดนี้ เมื่อวานหายออกไปทั้งวันแล้วถูกตามทำร้ายจนพี่บลูมบาดเจ็บ ถึงจะไม่หนักมากแต่ก็น่าเป็นห่วงอยู่ดีเพราะได้อ่านข้อความเรื่องแผนงานคร่าวๆเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนวันนี้คุณหนูกลับมาถึงก็ทำหน้าบึ้งตึงแล้วมองแรงใส่หัวหน้าตลอดเวลาเลย เขาสองคนมองไปทางอีกสี่คนที่กำลังกินอาหารกลางวันอยู่ พวกมั
เราคุยกันเสียงแผ่วเบามากแล้วเธอก็เอนตัวไปซบไหล่พี่บลูมแกล้งทำเหมือนว่านอนหลับแล้วจับมือเขาไว้ให้รู้สึกอุ่นใจขึ้นมา ลูกน้องสองคนแอบมองเงียบๆแต่ไม่พูดอะไรออกมาสักคำ ผ่านไปไม่กี่นาทีเขาขยับตัวให้เธอนอนตักแล้วถอดเสื้อตัวใหญ่มาคลุมตัวให้ แล้ววางมือให้เธอจับเล่นในระหว่างที่เรากลับบ้านกันอย่างปลอดภัย อยากเปิดตัวแล้วว่ามีผัว อยากซื้อตัวเขามาอยู่ด้วยทุกวัน แฮมและเคนแอบมองเงียบๆแล้วอมยิ้มเพราะดูเหมือนว่าจะได้คู่จิ้นแทนคู่กัดนะ แฮมเปิดเพลงรักสร้างบรรยากาศโรแมนติกให้ก่อนเพราะนานๆทีจะมีอะไรน่ารักให้เห็น ส่วนเคนขับรถช้าลงเพื่อยื้อเวลา ในระหว่างที่รถติดไฟแดงก็แอบมองผ่านกระจกเห็นแววตาอ่อนโยนของหัวหน้าที่มองคุณหนูอยู่ จากนั้นก็เผลอนิ้วลั่นพิมพ์ข้อความลงในกลุ่มทันทีแฮม : กัปตันแล่นเรือเองแล้ว!!เคน : หวานฉ่ำโจ : ??เกรย์ : โดนกินหัวอีกแล้วเหรอ?แฮม : คุณหนูนอนตักหัวหน้าแล้วจับมือเฟย : เชี้ย!! ไค : บอสเลิกจำศีลแล้วเหรอ?เกรย์ : คืออะไรวะ?เฟย : บอสไม่เคยสนใจผู้หญิงเลยไค : ไอ้เราก็นึกว่าตายด้านแล้วซะอีกแฮม : ลูบหัวแล้ว!!เคน : หัวหน้ายิ้มเว้ย! สงสัยชอบคุณหนูแล้วเฟย : มิน่าล่ะถึงโคตรตามใจขนาดนั้
หลังจากอาหารค่ำฟีนด์อาศัยจังหวะที่พ่อแม่ดูทีวีกันสองคนเพื่อผ่อนคลายความเครียดแอบเดินออกมาจากบ้านเงียบๆเพื่อไปโรงยิม เธอเดินไปมองหาก่อนจะถูกดึงเข้าไปกอดแน่น เขาจูบหน้าผากเธอซ้ำๆก่อนจะได้ยินเสียงคล้ายคนเดินมา เขาดึงเธอเข้าไปในโรงยิมที่มุมมืดมากและไม่มีกล้องวงจรปิดจับภาพพวกเราสองคน พี่บลูมน่าจะพึ่งอาบน้ำเสร็จเพราะตัวเขาหอมมากและกล้ามแน่นไปทั้งตัวเลยยังไม่ทันได้เริ่มต้นคุยกับเขาก็ก้มลงมาปิดปากให้อย่างดุเดือดจนหัวใจสั่นไหวไปหมดแล้ว เราจูบกันไม่หยุดเหมือนความหิวกระหายทั้งที่เราทำกันมาตลอดทั้งคืน รู้ตัวอีกทีเขาก็อุ้มเธอนั่งบนโต๊ะแล้ว “ห้องเป็นยังไงบ้าง?” “ก็ดีค่ะ แล้วพี่บลูมล่ะ?” “ก็อยู่ได้” “จะไปพรุ่งนี้จริงๆเหรอ?” “อืม พี่อยากจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด” “ฉันมีเรื่องสำคัญจะถาม” “ว่ามาสิ”“คือว่า…รู้จักลูกชายคนเล็กของคุณอธิปไหม?” “รู้จัก ทำไมเหรอ?” “ก็พ่ออยากให้ฉันคบกันเขาเพื่อธุรกิจ เราจะเอายังไงกันดี?” “เรื่องนี้พี่จัดการเอง” “แต่เขาเป็นลูกเจ้านายของพี่นะ!” “พี่จัดการได้น่า เชื่อมือพี่เถอะ แล้วรู้จักชื่อมันไหม เห็นรูปถ่ายมันรึยัง?”“ยังไม่รู้อะไรเลยสักอย่างค่ะ แต่เดือนหน้าท่านอธ
เช้าวันต่อมาบลูมตื่นมาด้วยความเบื่อหน่ายและงัวเงียมาก เขากอดเมียแล้วจูบแผ่วเบาก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อเช็คงานด้วย แต่พอเห็นข้อความของคนที่เบื่อหน้าแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ เมื่อวานลูกน้องบอกว่าพี่โบว์ต้องการมาเจอ แต่เขาบอกปัดไปแล้วตั้งใจจะเบี้ยวนัดอาทิตย์หน้าด้วย เช้านี้เล่นส่งข้อความมาหาทั้งพี่ไบรท์ พี่โบว์ แล้วก็พ่อกับแม่ด้วย ไม่มั่นใจว่าไปเอาเบอร์ของเขามาจากลูกน้องคนไหน เขาแค่อ่านแต่ไม่ตอบอะไรใครสักคนที่พยายามจะดึงตัวกลับไปทำงานอีกครั้งให้ได้ในฐานะเดิมคือวางแผนเรื่องความปลอดภัยทั้งหมด เขาลาออกแล้วแต่ไม่มีใครยินยอม“พี่บลูมเช้าแล้วเหรอ?” “อืม พ่อแม่หนูออกไปทำงานกันหมดแล้ว ลูกน้องของพี่ออกไปโรงยิมกันหมด วันนี้ไม่มีใครมารบกวนหรอกเพราะหลายคนยุ่งวุ่นวายหลายอย่าง บ้านหลังนี้ยังไม่เป็นระบบดีเลย”“ทางสะดวกสินะ” “ให้พี่ไปส่งขึ้นชั้นบนไหม?” “อยู่ให้กอดทั้งวันก่อนไปได้ไหมล่ะ?”“พี่ต้องไปคุยเรื่องงานก่อน พี่ไม่อยากไปสาย” “ทำแต่งานอย่างเดียวเลย!”“พี่ประชุมเรื่องความปลอดภัยของฟีนด์นั่นแหละ อย่างอแงสิที่รัก”“ก่อนไปมาหาฉันก่อนนะ”“อืม” “พี่บลูมจะไม่ทำเรื่องเจ็บตัวใช่ไหม?” “พี่ตอบเรื่องน
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว บลูมกลับมาถึงบ้านเมียด้วยความเหนื่อยล้ามากและบาดเจ็บหนักมากพอสมควร เขาโดนแทงที่หน้าท้องและรักษาตัวแค่สองวันก็กลับมาเพราะกลัวเมียเป็นห่วงที่กลับมาช้ากว่ากำหนด ส่วนเกรย์กับโจไม่ได้เป็นอะไรหนักมาก แต่ก็นับว่าเป็นความเจ็บที่คุ้มกับหลักฐานที่หามาได้อย่างเร่งด่วน วิธีการนี้มันสกปรกแต่จะทำยังไงได้ในเมื่อเวลามีจำกัดวันพรุ่งนี้พี่สาวกับพี่ชายนัดเจอด้วยเหตุผลเดิมนั่นคือการลากตัวกลับไปทำงานเพื่อดูแลความปลอดภัยทุกอย่าง นานแล้วที่เราไม่ได้เจอกันและเขาเข้ามาสืบเรื่องนี้เองเลยตามหาตัวง่าย เดิมทีพ่อบอกว่าให้เวลาจัดการสามเดือนให้เรียบร้อย ถ้าอยากได้อะไรให้ติดต่อพ่อโดยตรงได้เลยและนั่งเป็นครั้งล่าสุดที่เราคุยกันประมาณสิบนาทีแค่นั้นเอง แต่เพราะว่าพ่อมาเดือนหน้าอย่างมีจุดประสงค์ชัดเจนว่าเพื่ออะไร เขาเลยคิดว่าต้องรีบทำงานให้จบเร็วๆแล้วรีบหนีดีกว่า ก็อกๆๆ…เกรย์และโจมองไปทางประตูไม่รู้ว่าใครมาหาทันทีที่ประคองบอสเข้าห้อง ตอนนี้เป็นเวลาตีสี่แล้วพวกเรามากันเงียบๆไม่ได้บอกใครก่อนเลยสักคนเพราะถูกห้ามเอาไว้ โจกำลังเตรียมของจะทำแผลที่มีเลือดซึมออกมาแล้วพยักหน้าให้เกรย์เป็นคนไปเปิด
“เจ็บมากไหม?”“ไม่เท่าไร” “รู้ไหมว่าเป็นห่วงมากขนาดไหน พี่ไม่ห่วงตัวเองก็ควรจะห่วงฉันบ้างสิ ถ้าพี่ต้องไปตายเพื่อจะช่วยฉันแล้วไม่คิดเหรอว่าจะเสียใจขนาดไหนที่เป็นสาเหตุให้พี่ตาย อย่าทำอะไรเสี่ยงเกินตัวได้ไหม?” “บุกรังมันทั้งทีจะไม่โดนอะไรก็เทพไปแล้ว” “ถ้าพี่ตายจริงๆขึ้นมาล่ะ!” “พี่อึดจะตายไปน่าฟีนด์” “ไม่ต้องทำงานจนกว่าจะหายนะ”“แต่พรุ่งนี้พี่มีนัด”“ห่ะ!?”“นัดสำคัญมากพี่เลื่อนไม่ได้”“ทำไมพี่ดื้อแบบนี้เนี่ย!”“หนึ่งอาทิตย์นี้เป็นยังไงบ้าง?” “ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยนะพี่บลูม” “นอนเถอะ พี่มีนัดตอนเช้า” “เช้าบ้าอะไรเล่า! ตอนนี้มันจะตีห้าแล้วนะ พี่เลื่อนนัดไม่ได้เหรอ?” “ไม่ได้ ไปคุยให้จบๆแล้วจะได้พักที่บ้าน”“ที่บ้านอะไรห่ะ!”“เอ้า!”“สภาพนี้ต้องไปโรงพยาบาลเท่านั้น!!” “พี่ไม่ชอบโรงพยาบาล”“อย่ามาดื้อกับฉันนะ! ฉันเป็นเจ้านายลืมไปแล้วรึไง?”“แต่พี่เป็นผัวลืมไปแล้วเหรอ”“ยังไงตอนนี้พี่บลูมก็คือลูกน้อง ฉันสั่งให้ไปหาหมอพี่ก็ต้องไป พี่ห้ามขัดใจเด็ดขาด”“ฟีนด์!”“ถ้าไม่ไปหาหมอฉันจะเอาผัวใหม่ที่มันว่านอนสอนง่ายกว่านี้แล้ว”“เชิญ!” “พี่บลูม!!”“เชิญไปลงนรกทั้งสองคนเลย พี่จะสงเคราะห์ใ
บลูมขับรถมาถึงร้านอาหารที่ถูกสั่งปิดโดยพี่ชายและพี่สาว เขาลงจากรถแล้วเซเล็กน้อยจนลูกน้องจะเข้ามาช่วยประคองตัว แต่ว่ายกมือห้ามทัน นี่คือการเจอกันครั้งแรกในรอบสี่ปีที่เขาลาออกมาทำงานอื่นและมีหลายครั้งที่วนกลับเข้าไปช่วยโดยที่เราไม่ได้ติดต่อกันมาก เพียงแค่เดินเข้าไปในร้านพี่ชายลุกขึ้นมาหาแล้วดึงเข้าไปกอดแล้วลูบหลังเบาๆ พี่สาวเดินตามมากอดเช่นเดียวกัน“ตัวร้อนจังบลูม!” โบว์ผละออกมาแล้วยกมือแตะที่หน้าผากน้องชายคนสุดท้องที่ดื้อด้านและเอาแต่ใจตัวเองที่สุด เราไม่ได้เจอกันมาสี่ปีและน้องชายแทบจะตัดขาดจากทุกอย่างได้อยู่แล้ว“ได้ข่าวว่าบาดเจ็บนี่” ไบรท์ประคองน้องชายไปนั่งกินอาหารเช้าด้วยกัน วันนี้ไม่ได้ตั้งใจจะมาคุยเรื่องงานเพราะรู้อยู่แล้วว่าน้องชายเอาอยู่แน่นอน ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นถึงนักการเมืองใหญ่ที่มีแบ็คอัพค่อนข้างดีมาก แต่ความสัมพันธ์ที่มีผลประโยชน์ค้ำไว้อยู่จะขาดวันไหนก็ได้ “มีเรื่องอะไรถึงนัดมา?” “ไม่เจอกันสี่ปียังเย็นชาเหมือนเดิมเลยนะ แล้วที่หน้าไปโดนอะไรมาเนี่ยถึงเป็นรอยแผลขนาดนี้ห่ะ!” โบว์แตะนิ้วลงที่รอยแผลเป็นที่หางคิ้วลากยาวถึงกลางหน้าผาก แล้วที่ปากยังมีรอยนูนจางๆขึ้นมาอยู่ เมื่อ
สามเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็วแต่ก็ช้ากว่าใจที่ร้อนกว่าอยู่ดี งานแต่งจัดขึ้นที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง แขกมาร่วมเป็นพยานรักอย่างล้นหลาม บรรยากาศอบอวลไปด้วยความสุขและความอบอุ่น รูปคู่บ่าวสาวที่ใช้ตกแต่งงานใครเห็นก็ล้วนยิ้มออกมาเพราะเจ้าบ่าวหน้าดุดันมาก ต่อให้ยิ้มก็หน้าดุเหมือนเดิม ในขณะเจ้าสาวสวยหวานเหมือนเจ้าหญิงแทบทุกรูปที่ใช้ ดอกไม้ส่วนใหญ่จะเป็นลิลลี่สีขาวสะอาดตาเป็นหลัก เสียงเปียโนและเสียงไวโอลินในบทเพลงรักเป็นตัวผสมชั้นดีให้งานแต่งครั้งนี้หวานชื่นมากขึ้น นี่คือการแต่งงานที่หลายคนคิดว่ากะทันหัน แต่ใครจะรู้เล่าว่าคบกันมาสี่ปีกว่าแล้ว บลูมคุยกับแขกในงานด้วยความเป็นกันเองมากแล้วมองเวลาด้วยความร้อนใจ ลูกน้องทั้งหมดคนรับบทเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวด้วยความเต็มใจมาก แถมพวกมันยังเป็นคนนำเสนอตัวเอง ใบหน้าดุดันมีรอยยิ้มกว้างให้กับทุกคนที่ร่วมยินดี แม้ว่าจะไม่ชอบหน้าบางคนมากเท่าไรก็ตามพ่อแม่ให้ของขวัญแต่งงานเกาะส่วนตัวที่มีวิวทิวทัศน์ดีงามมูลค่าราวๆเจ็ดร้อยล้าน พี่ชายบ่นนิดหน่อยที่ถูกแต่งงานตัดหน้าไปก่อนแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรมากและให้ของขวัญเป็นบริษัทที่เป็นเจ้าของอยู่ มูลค่าราวๆสี่ร้อยล้านโดยประมาณ พี่สาวใ
“พี่มีเรื่องจะบอก”“อะไรเหรอ?” “พ่อลาออกจากประธานแล้วจะใช้ชีวิตเกษียณที่คฤหาสน์ส่วนตัว”“แบบนี้ก็แสดงว่า…พี่บลูมกลับไปทำงานเหรอ!?” “ตอนแรกพี่ขี้เกียจอยู่นะแต่คิดๆแล้วพี่คงจะใช้ชีวิตแบบนี้ตลอดไปไม่ได้ถ้าอยากมีฟีนด์อยู่ในชีวิต ไบรท์ก็ให้ข้อเสนอมาดีด้วยสิ โบว์ก็รบเร้าไม่หยุดเลยแล้วฟีนด์ก็อยากให้พี่อยู่ด้วยตลอดเวลาเลยไม่ใช่เหรอถึงอ้อนแทบทุกครั้งที่คุยกัน ถึงเรื่องนี้มันจะฝืนใจตัวเองหน่อยแต่หน้าที่ตรงนั้นมาเป็นของพี่มาตลอด ลูกน้องหลายคนยังรอพี่กลับไป”“พี่บลูม…” “แต่งงานกันพี่นะฟีนด์?” เขาก้มลงมองหน้าเมียที่ตาโตด้วยความตกใจแล้วลุกนั่งทันที “พี่ว่าไงนะ!?” อยู่ดีๆก็พูดออกมาแบบไร้ความโรแมนติกเลยนี่นะ เขาขยับเข้าไปจูบเมียแล้วดันตัวเธอให้ลงนอนไปก่อนจะผละออกมาสบตา เราจูบกันอย่างเร่าร้อนและเต็มไปด้วยความหิวกระหายที่ไม่รู้จักอิ่มเลย เพียงไม่กี่นาทีเสื้อผ้าร่วงลงไปกองที่พื้นพรมเหลือเพียงเรือนกายเปลือยเปล่าที่กอดรัดนัวเนียนกันบนโซฟาตัวใหญ่หน้าทีวีที่กำลังเปิดหนังอยู่ เขาผละใบหน้าออกมาอีกครั้งแล้วยิ้มกว้างพร้อมกับหยิบแหวนแต่งงานมาจากกางเกงที่อยู่ใกล้เพียงเอื้อมมือ“แต่งงานกับพี่นะที่รัก” “มาขออ
หนึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็วจนแทบตั้งตัวไม่ทันในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้ การจากลาที่ไม่ใช่ตลอดไป แต่หนทางข้างหน้าเต็มไปด้วยอันตรายเกินกว่าจะคาดเดาได้ ความรับผิดชอบต่องานและชีวิตคนอยู่ในกำมือทำให้ไม่สามารถอยู่กับความสุขตรงนี้ได้นานเกินไปบลูมนอนจูบเมียหลังจากบอกรักกันอย่างหนักมาตลอด ตัวเราเปล่าเปลือยแนบชิดกัน แววตาคู่สวยที่มองเต็มไปด้วยความรักและซ่อนความกังวลเอาไว้ไม่มิด ทุกสัมผัสจากเธอคือสิ่งที่ดีที่เขาจะจดจำเอาไว้เป็นกำลังใจในช่วงเวลายากลำบาก เมื่อจบเรื่องนี้แล้วเขาจะกลับมาอยู่กับเธออีกยาวนาน หน้าที่กับความรักสวนทางกันถ้าดื่มดำนานเกินไปลูกน้องที่นั่นอาจจะตาย “พี่ต้องไปแล้ว” “ห้ามเป็นอะไรนะ” “พี่ไม่เป็นอะไรหรอก อีกไม่นานพี่จะกลับมานอนกอดเมียแบบนี้จนเมียเบื่อหน้าเลย” “ใครจะเบื่อได้เล่า!” “ไปอาบน้ำกันเถอะ”เราสองคนช่วยกันอาบน้ำแล้วจูบกันไม่หยุด มือเล็กบีบครีมอาบน้ำแล้วถูกจนเกิดฟองก่อนจะลูบไล้เรือนร่างที่กำยำเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อและรอยแผลเป็นเยอะมากขึ้นกว่าเดิมจากเหตุการณ์ที่พึ่งจะผ่านมา แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนเขาก็คือคนที่ดูดีมากสำหรับเธอเสมอ ใบหน้าหล่อเมื่อก่
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปอาการบาดเจ็บดีขึ้นมากกว่าเดิมเยอะแต่ก็ยังทำอะไรไม่สะดวกเท่าไร เรื่องของเมียไม่น่าเป็นห่วงมากแล้วมั่นใจว่าต่อจากนี้เธอจะรับมือไหว ไอ้นักการเมืองคนนั้นเครื่องบินตกขณะที่หลบหนีออกนอกประเทศจนเป็นข่าวดัง หลายคนคาดว่าถูกใครสักคนสั่งเก็บเพื่อไม่ให้มีการซัดทอด ส่วนไอ้เวรที่สู้กับเขามันชื่อไวท์ มันยังไม่ตายแต่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะเอาคืน มันน่าจะกำลังรักษาตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งเช่นเดียวกันกับเขา มันอยากวัดฝีมือกับเขาวันนั้นมันไม่ได้สนใจฟีนด์ด้วยซ้ำ“หมอบอกว่าพี่จะได้ออกวันไหน?” เขาหันไปถามเมียที่กำลังนั่งปอกเปลือกผลไม้อยู่ “ถ้าอาการดีกว่านี้ก็น่าจะออกอาทิตย์หน้ามั้ง” ผัวถามแบบนี้ครั้งที่เท่าไรแล้วนะ “พี่เบื่อ!” “ทนๆให้หายดีก่อน” “ที่นี่มันน่าเบื่อ! มองไปทางไหนก็น่าเบื่อไม่มีอะไรเจริญหูเจริญตาสักอย่าง แล้วคนอื่นล่ะ?” “เห็นว่าจะมาเยี่ยมวันนี้แหละอีกเดี๋ยวคงถึง” “ฟีนด์รู้ไหมเราอยู่ที่ไหน?” “ใจกลางเมืองเลย” “แบบนี้ขโมยรถสักคันหนีน่าจะง่าย” “พี่บลูม!!” “เรียกซะดังเลย!” “พี่ไม่เข็ดบ้างเลยรึไงห่ะ!?” “เข็ดอะไร?” “ก็ที่เป็นอยู่นี่ไง!” “ก็ยังไม่ตายสักหน่อย!” “ถ้าหากพี่หนีออกจ
เกรย์ แฮม โจ เคน เฟย และไค เดินมาตั้งใจจะเยี่ยมบอสและบอกให้คุณหนูรู้ว่าคุณท่านมาถึงแล้ว แต่ว่าภาพที่เห็นมันชัดเจนเลยว่าไม่ควรจะเข้าไปขัดจังหวะใดๆทั้งสิ้น คุณหนูจับมือพี่บลูมจูบซ้ำๆไม่หยุดแล้วร้องไห้ออกมาตลอด บางครั้งก็ซบไปใบหน้าลงบนเตียงแล้วยกแขนกอดเอาไว้ เรื่องอาการบาดเจ็บหนักจนอาจจะไม่รอดรู้จากหมอแล้ว เรื่องที่บอสทำเพื่อช่วยชีวิตลูกน้องก็รู้แล้วเช่นกัน เป้าหมายหลักของพวกมันคือคุณหนูฟีนด์ แต่คนที่มันอยากฆ่าคือบอสคนเดียว “หรือว่าคุณหนูจะรักบอสจริงๆวะ?” เคนถามเสียงแผ่วเบาด้วยความสงสัย“นั่นดิ! เมื่อวานก็ไม่ได้คุยกันเลย วันนี้เกือบตายก็ยังไม่ได้คุยสักคำอีก” ไคบอกเพิ่ม“ไม่ตายเว้ย! นายน้อยของกูไม่มีทางตายหรอก!” โจรีบแย้งออกมาแล้วเม้มปากแน่นข่มน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา พวกเราทั้งสี่คนรู้ดีว่าหัวหน้าวางแผนมาเป็นอย่างดีและพยายามช่วยชีวิตขนาดไหน ตั้งแต่ทำงานเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายด้วยกันมาถึงสี่ปีผ่านเรื่องเลวร้ายนับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่บอสจะทิ้งลูกน้องให้ตายโดยไม่พยายามช่วย “นายน้อย…หมายความว่าไงวะโจ!?” ไคขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัยและตกใจมาก“ก็…เมื่อก่อนเรารู้ว่านายน้อยคือคนออกแบบทุก
“พี่บลูม!!”“เร็วๆสิโจ!!” ในวินาทีนั้นที่เราสบตากันเขายิ้มกว้างให้ก่อนจะถูกยิงแล้วล้มตัวลง แต่ก็ไหวตัวหลบอีกฝั่งทันก่อนจะถูกกระสุนอีกนัดปลิดชีพเอาได้ถ้าช้าสักวินาที เลือดของเขาไหลทะลักออกมาแต่ยังแข็งใจฝืนลุกขึ้นเพื่อจะปกป้องเธอให้ได้ ตัวเขาโชกไปด้วยเลือดและบาดแผล เขายิงคนที่มันวิ่งมาทางเธอแม่นเหมือนจับวางพร้อมกับหลบอีกคนที่พุ่งเป้าจะเอาชีวิตเขาอย่างเดียว เธอมองไปทางโจอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงรถดังขึ้นและแล่นมาทางนี้ด้วยความเร็วมาก เอี๊ยด!!“ขึ้นรถเร็ว!!”“ไปเอาพี่บลูมมาเดี๋ยวนี้!!”“เกาะแน่นๆนะคุณหนู”“ชิ่งเต็มที่เลยโจ” ทางด้านบลูมยืนแสยะยิ้มจ้องมองไอ้เวรที่อึดได้ใจขนาดโดนยิง โดนกระทืบจมตีนจนกระอักเลือดออกมายังลุกขึ้นไหว ถูกเขาจับทุ่มลงพื้นถนนก็ยังรอด สภาพมันโซซัดโซเซใกล้จะตายเต็มทนแล้วแหละ ตัวเขาถูกรุมนั่นเลยไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะบาดเจ็บหนักและเสียสมาธิจากการหันไปมองเมีย พวกลูกน้องมันพุ่งเป้าไปหา เขาหยิบปืนมายิงคุ้มกันให้กับเมียกับลูกน้องและพลาดโดนยิง “กูไม่มีทางให้ครั้งนี้มึงหนีไปหรอก!!” “งั้นมึงก็ผ่านไอ้นี่ไปให้ได้สิ!”“ไอ้เหี้ยเอ้ย!!” บลูมหัวเราะออกมาเมื่อเห็นสีหน้าตกใจของมัน
แฮมนั่งรถไปกับเฟยพร้อมกับนักฆ่าฝีมือยอดเยี่ยมที่มีค่าตัวสูงจากเดอะมิราเคิล เคนนั่งรถไปกับไคพร้อมกับนักฆ่าสาวเช่นกัน ส่วนโจนั่งรถมาพร้อมกับบลูมและด้านหลังคือคุณหนู เกรย์จะเป็นคนติดต่อหาทางช่วยเหลือทุกคนเมื่อเกิดเรื่องขึ้นและอัพเดทสถานการณ์ต่างๆด้วย งานนี้ไม่ว่าจะไปทางไหนล้วนเจอแต่นักฆ่าที่จ้างมาเพื่อเอาคืนและชิงตัวคุณหนูฟีนด์ไปเพราะต้องการเค้นคอเอาทุกหลักฐานที่ยังเหลืออยู่ไปทำลายทิ้งให้สิ้นซาก แต่ละคนฝีมือดีเยี่ยมทั้งนั้นยิ่งไว้ใจไม่ได้เลยทุกอย่างถูกวางแผนมาเป็นอย่างดี แต่อีกฝ่ายก็วางแผนมาเป็นอย่างดีเช่นกัน หลังจากเตรียมทางหนีให้ท่านที่เป็นเหมือนพ่อแล้วถึงได้มาที่นี่เพื่อเอาคืน ไวท์คือมือขวาที่จัดการงานด้านมืดให้แทบทั้งหมด กุมความลับหลายอย่างเอาไว้และเคยปะทะฝีมือกับหัวหน้าบอดี้การ์ดร่างใหญ่นั้นมาก่อนจนอาการสาหัส ในตอนนี้ก็ยังไม่หายดี แต่จิตใจมันร้อนลุ่มอยากปะทะอีกครั้งต่อให้ตายก็ยอมขอเพียงแค่ได้สัมผัสถึงฝีมือชั้นยอดที่หาได้ยากอีกสักครั้งก่อนจะมีใครต้องตายไป โลกนี้มีคนฝีมือระดับนี้อยู่ไม่มากนั่นทำให้เจอได้ยากเขามองผ่านกล้องส่องทางไกลแล้วยิ้มกว้างออกมาเมื่อเห็นรถซีดานขับออกไปคนละเส
บลูมมองตามเมียที่เดินไปด้วยความงงมากว่าเกิดอะไรขึ้น เธอมองแหวนที่นิ้วแล้วทำหน้าเศร้าเหมือนเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น วันนี้เขายังไม่ได้ดุหรือบ่นอะไรสักคำเลยนะ หรือว่าเธอเหนื่อยกับการฝึกฝนจนไม่อยากจะมองหน้าคนออกแบบอย่างเขา ในเวลานี้ถ้าจะตามไปที่ห้องคงดูไม่ดีแน่นอน อยู่ดีๆก็โดนเมียเคืองเฮ้อ…แล้วจะง้อเมียยังไงดีวะตอนค่ำเราออกมากินอาหารข้างนอก แล้วต่อที่บาร์เพื่อคลายเครียดก่อนจะถึงวันพรุ่งนี้ที่ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง บลูมมองเมียที่มองแหวนแล้วทำหน้าเศร้ามาก เขาชวนคุยเธอก็คุยแต่ไม่เหมือนเดิม เธอถอนหายใจใส่ จ้องหน้าด้วยความไม่พอใจบ่อยครั้ง เขาหยอกก็ไม่สน เขากวนประสาทก็ไม่หัวร้อน สุดท้ายเขานั่งดื่มแล้วมองเมียที่ทำหน้าเศร้าทั้งที่ตอนนี้ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่รู้เลยว่าเมียโกรธเรื่องอะไรกันอยู่เธอไม่ยอมคุยกับเขาดีๆถ้าหากว่าเธอกังวลเรื่องวันพรุ่งนี้มันไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกเพราะเราทุกคนรู้ว่ามันจะมีการปะทะแน่นอน ไม่มีใครรู้ว่ามันจะมามุกไหน แล้วมีคนขายข่าวให้มันรึเปล่าว่าการประชุมครั้งนี้จัดที่นอกเมือง เมียเครียดไปก่อนแทนที่จะผ่อนคลาย ยังไงเขาก็ไม่มีทางยอมให้ใครมาทำร้ายเมียได้ง่ายๆเด็ดขาด ถ้ามัน
เช้าวันต่อมาฟีนด์นอนอมยิ้มบนเตียงนุ่มเพราะผัวยังอยู่ด้วย ตั้งแต่เขากลับมาจากโรงพยาบาลเราแทบจะไม่ได้นอนกอดกันเพราะเขาต้องเคลียร์งานเยอะมาก เธอเองก็ต้องเคลียร์งานเยอะมากเช่นกัน เวลาของเราในช่วงนี้ค่อนข้างหนักหน่วงจนบางครั้งอยากจะงอแงแล้วทิ้งงานไปดื้อๆ แต่พอเห็นพี่บลูมที่รักษาตัวยังไม่หายดีแต่กลับมาทำงานชนิดที่ลืมวันลืมคืน เขาวางแผนสารพัดอย่างเพื่อดูแลเธอและพ่อแม่ไม่ให้ใครมาทำร้ายได้ง่ายๆทั้งที่ตัวเองบาดเจ็บขนาดนั้น เห็นแบบนั้นแล้วงี่เง่างอแงไม่ลงจริงๆ เขาบอกว่าทำทุกอย่างเพื่อเธอปลอดภัย เธอจะสร้างปัญหาไม่ได้เขาหลับสนิทและกอดเธอไม่ปล่อยเลย เขาไม่เปลี่ยนไปจากวันคืนที่เราอยู่ด้วยกันสักเท่าไร วันนี้รู้สึกดีกว่าเมื่อวานมากหลายเท่า เธอขยับตัวเบาๆเพราะกลัวว่าเขาจะตื่นนอน ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดกล้องแอบถ่ายรูปคนบ้างานเก็บเอาไว้ดูแก้คิดถึงในช่วงเวลาที่เราไกลกันเขามาช่วยเธอก่อนจะกลับไปเคลียร์งานเขามีความรับผิดชอบเสมอพี่บลูมดีไปทุกมุมมองเลยทั้งที่ยังหลับอยู่ ผิวกายของเขาไม่ได้มีสีผิวที่สม่ำเสมอกันซึ่งมันก็ไม่แปลกหรอก เขาเล่นลุยทุกอย่างแบบท้าแดดท้าลมและไม่สนใจสภาพอากาศขนาดนั้น ตามตัวมีรอย