เกรย์ แฮม โจ เคน เฟย และไค เดินมาตั้งใจจะเยี่ยมบอสและบอกให้คุณหนูรู้ว่าคุณท่านมาถึงแล้ว แต่ว่าภาพที่เห็นมันชัดเจนเลยว่าไม่ควรจะเข้าไปขัดจังหวะใดๆทั้งสิ้น คุณหนูจับมือพี่บลูมจูบซ้ำๆไม่หยุดแล้วร้องไห้ออกมาตลอด บางครั้งก็ซบไปใบหน้าลงบนเตียงแล้วยกแขนกอดเอาไว้ เรื่องอาการบาดเจ็บหนักจนอาจจะไม่รอดรู้จากหมอแล้ว เรื่องที่บอสทำเพื่อช่วยชีวิตลูกน้องก็รู้แล้วเช่นกัน เป้าหมายหลักของพวกมันคือคุณหนูฟีนด์ แต่คนที่มันอยากฆ่าคือบอสคนเดียว “หรือว่าคุณหนูจะรักบอสจริงๆวะ?” เคนถามเสียงแผ่วเบาด้วยความสงสัย“นั่นดิ! เมื่อวานก็ไม่ได้คุยกันเลย วันนี้เกือบตายก็ยังไม่ได้คุยสักคำอีก” ไคบอกเพิ่ม“ไม่ตายเว้ย! นายน้อยของกูไม่มีทางตายหรอก!” โจรีบแย้งออกมาแล้วเม้มปากแน่นข่มน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา พวกเราทั้งสี่คนรู้ดีว่าหัวหน้าวางแผนมาเป็นอย่างดีและพยายามช่วยชีวิตขนาดไหน ตั้งแต่ทำงานเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายด้วยกันมาถึงสี่ปีผ่านเรื่องเลวร้ายนับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่บอสจะทิ้งลูกน้องให้ตายโดยไม่พยายามช่วย “นายน้อย…หมายความว่าไงวะโจ!?” ไคขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัยและตกใจมาก“ก็…เมื่อก่อนเรารู้ว่านายน้อยคือคนออกแบบทุก
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปอาการบาดเจ็บดีขึ้นมากกว่าเดิมเยอะแต่ก็ยังทำอะไรไม่สะดวกเท่าไร เรื่องของเมียไม่น่าเป็นห่วงมากแล้วมั่นใจว่าต่อจากนี้เธอจะรับมือไหว ไอ้นักการเมืองคนนั้นเครื่องบินตกขณะที่หลบหนีออกนอกประเทศจนเป็นข่าวดัง หลายคนคาดว่าถูกใครสักคนสั่งเก็บเพื่อไม่ให้มีการซัดทอด ส่วนไอ้เวรที่สู้กับเขามันชื่อไวท์ มันยังไม่ตายแต่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะเอาคืน มันน่าจะกำลังรักษาตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งเช่นเดียวกันกับเขา มันอยากวัดฝีมือกับเขาวันนั้นมันไม่ได้สนใจฟีนด์ด้วยซ้ำ“หมอบอกว่าพี่จะได้ออกวันไหน?” เขาหันไปถามเมียที่กำลังนั่งปอกเปลือกผลไม้อยู่ “ถ้าอาการดีกว่านี้ก็น่าจะออกอาทิตย์หน้ามั้ง” ผัวถามแบบนี้ครั้งที่เท่าไรแล้วนะ “พี่เบื่อ!” “ทนๆให้หายดีก่อน” “ที่นี่มันน่าเบื่อ! มองไปทางไหนก็น่าเบื่อไม่มีอะไรเจริญหูเจริญตาสักอย่าง แล้วคนอื่นล่ะ?” “เห็นว่าจะมาเยี่ยมวันนี้แหละอีกเดี๋ยวคงถึง” “ฟีนด์รู้ไหมเราอยู่ที่ไหน?” “ใจกลางเมืองเลย” “แบบนี้ขโมยรถสักคันหนีน่าจะง่าย” “พี่บลูม!!” “เรียกซะดังเลย!” “พี่ไม่เข็ดบ้างเลยรึไงห่ะ!?” “เข็ดอะไร?” “ก็ที่เป็นอยู่นี่ไง!” “ก็ยังไม่ตายสักหน่อย!” “ถ้าหากพี่หนีออกจ
หนึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็วจนแทบตั้งตัวไม่ทันในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้ การจากลาที่ไม่ใช่ตลอดไป แต่หนทางข้างหน้าเต็มไปด้วยอันตรายเกินกว่าจะคาดเดาได้ ความรับผิดชอบต่องานและชีวิตคนอยู่ในกำมือทำให้ไม่สามารถอยู่กับความสุขตรงนี้ได้นานเกินไปบลูมนอนจูบเมียหลังจากบอกรักกันอย่างหนักมาตลอด ตัวเราเปล่าเปลือยแนบชิดกัน แววตาคู่สวยที่มองเต็มไปด้วยความรักและซ่อนความกังวลเอาไว้ไม่มิด ทุกสัมผัสจากเธอคือสิ่งที่ดีที่เขาจะจดจำเอาไว้เป็นกำลังใจในช่วงเวลายากลำบาก เมื่อจบเรื่องนี้แล้วเขาจะกลับมาอยู่กับเธออีกยาวนาน หน้าที่กับความรักสวนทางกันถ้าดื่มดำนานเกินไปลูกน้องที่นั่นอาจจะตาย “พี่ต้องไปแล้ว” “ห้ามเป็นอะไรนะ” “พี่ไม่เป็นอะไรหรอก อีกไม่นานพี่จะกลับมานอนกอดเมียแบบนี้จนเมียเบื่อหน้าเลย” “ใครจะเบื่อได้เล่า!” “ไปอาบน้ำกันเถอะ”เราสองคนช่วยกันอาบน้ำแล้วจูบกันไม่หยุด มือเล็กบีบครีมอาบน้ำแล้วถูกจนเกิดฟองก่อนจะลูบไล้เรือนร่างที่กำยำเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อและรอยแผลเป็นเยอะมากขึ้นกว่าเดิมจากเหตุการณ์ที่พึ่งจะผ่านมา แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนเขาก็คือคนที่ดูดีมากสำหรับเธอเสมอ ใบหน้าหล่อเมื่อก่
“พี่มีเรื่องจะบอก”“อะไรเหรอ?” “พ่อลาออกจากประธานแล้วจะใช้ชีวิตเกษียณที่คฤหาสน์ส่วนตัว”“แบบนี้ก็แสดงว่า…พี่บลูมกลับไปทำงานเหรอ!?” “ตอนแรกพี่ขี้เกียจอยู่นะแต่คิดๆแล้วพี่คงจะใช้ชีวิตแบบนี้ตลอดไปไม่ได้ถ้าอยากมีฟีนด์อยู่ในชีวิต ไบรท์ก็ให้ข้อเสนอมาดีด้วยสิ โบว์ก็รบเร้าไม่หยุดเลยแล้วฟีนด์ก็อยากให้พี่อยู่ด้วยตลอดเวลาเลยไม่ใช่เหรอถึงอ้อนแทบทุกครั้งที่คุยกัน ถึงเรื่องนี้มันจะฝืนใจตัวเองหน่อยแต่หน้าที่ตรงนั้นมาเป็นของพี่มาตลอด ลูกน้องหลายคนยังรอพี่กลับไป”“พี่บลูม…” “แต่งงานกันพี่นะฟีนด์?” เขาก้มลงมองหน้าเมียที่ตาโตด้วยความตกใจแล้วลุกนั่งทันที “พี่ว่าไงนะ!?” อยู่ดีๆก็พูดออกมาแบบไร้ความโรแมนติกเลยนี่นะ เขาขยับเข้าไปจูบเมียแล้วดันตัวเธอให้ลงนอนไปก่อนจะผละออกมาสบตา เราจูบกันอย่างเร่าร้อนและเต็มไปด้วยความหิวกระหายที่ไม่รู้จักอิ่มเลย เพียงไม่กี่นาทีเสื้อผ้าร่วงลงไปกองที่พื้นพรมเหลือเพียงเรือนกายเปลือยเปล่าที่กอดรัดนัวเนียนกันบนโซฟาตัวใหญ่หน้าทีวีที่กำลังเปิดหนังอยู่ เขาผละใบหน้าออกมาอีกครั้งแล้วยิ้มกว้างพร้อมกับหยิบแหวนแต่งงานมาจากกางเกงที่อยู่ใกล้เพียงเอื้อมมือ“แต่งงานกับพี่นะที่รัก” “มาขออ
สามเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็วแต่ก็ช้ากว่าใจที่ร้อนกว่าอยู่ดี งานแต่งจัดขึ้นที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง แขกมาร่วมเป็นพยานรักอย่างล้นหลาม บรรยากาศอบอวลไปด้วยความสุขและความอบอุ่น รูปคู่บ่าวสาวที่ใช้ตกแต่งงานใครเห็นก็ล้วนยิ้มออกมาเพราะเจ้าบ่าวหน้าดุดันมาก ต่อให้ยิ้มก็หน้าดุเหมือนเดิม ในขณะเจ้าสาวสวยหวานเหมือนเจ้าหญิงแทบทุกรูปที่ใช้ ดอกไม้ส่วนใหญ่จะเป็นลิลลี่สีขาวสะอาดตาเป็นหลัก เสียงเปียโนและเสียงไวโอลินในบทเพลงรักเป็นตัวผสมชั้นดีให้งานแต่งครั้งนี้หวานชื่นมากขึ้น นี่คือการแต่งงานที่หลายคนคิดว่ากะทันหัน แต่ใครจะรู้เล่าว่าคบกันมาสี่ปีกว่าแล้ว บลูมคุยกับแขกในงานด้วยความเป็นกันเองมากแล้วมองเวลาด้วยความร้อนใจ ลูกน้องทั้งหมดคนรับบทเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวด้วยความเต็มใจมาก แถมพวกมันยังเป็นคนนำเสนอตัวเอง ใบหน้าดุดันมีรอยยิ้มกว้างให้กับทุกคนที่ร่วมยินดี แม้ว่าจะไม่ชอบหน้าบางคนมากเท่าไรก็ตามพ่อแม่ให้ของขวัญแต่งงานเกาะส่วนตัวที่มีวิวทิวทัศน์ดีงามมูลค่าราวๆเจ็ดร้อยล้าน พี่ชายบ่นนิดหน่อยที่ถูกแต่งงานตัดหน้าไปก่อนแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรมากและให้ของขวัญเป็นบริษัทที่เป็นเจ้าของอยู่ มูลค่าราวๆสี่ร้อยล้านโดยประมาณ พี่สาวใ
ปัง!! ปัง!! ปัง!!“ระวัง!!”“พาคุณหนูหนีไป!!”บอดี้การ์ดตัวใหญ่วิ่งด้วยความเร็วที่สุดเท่าที่ขายาวจะทำได้แล้วคว้าตัวผู้หญิงตัวเล็กแค่หน้าอกอุ้มวิ่งหนีออกไปทันที เสียงปืนดังไล่หลังตามมาติดๆจนกระทั่งมาถึงรถที่จอดรออยู่แล้ว เพียงไม่กี่นาทีรถคันหรูขับออกไปด้วยความเร็วมากและรถอีกคันตามมาติดๆอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน รถทั้งสองคันเหมือนกำลังขับแข่งกันบนท้องถนนแต่ความจริงไม่ใช่เลย นี่คือการตามล่าเพื่อเอาชีวิตผู้หญิงในรถที่เป็นลูกสาวคนเดียวของมาเฟียหน้าใหม่ครั้งนี้ให้เจ็บตัวไม่ได้หรอก เขามาดูแลเธอเองไม่ว่าใครก็ห้ามฆ่า “เอาปืนมา!”“อย่าครับคุณหนู”“ฉันยิงแม่นน่า!” “รถกันกระสุนทั้งคันแล้วคุณหนูจะเปิดหน้าต่างรับกระสุนทำไม!?”“นี่กล้าขึ้นเสียงใส่ฉันเหรอไอ้บ้า!!” “ขึ้นคร่อมยังทำมาแล้วนับประสาอะไรกับขึ้นเสียง!?”“กรี๊ด!! ไอ้บ้า!!”“โอ๊ย!! หุบปากได้แล้ว เสียงแหลมๆมันทำให้เสียสมาธิ!!” “ฉันเป็นเจ้านายนะ!!”“แต่พี่เป็นผัว!!”“ไอ้ผัวเฮงซวย!!”ด้านนอกรถมีคนหาทางจะยิงเข้ามาให้ได้ ส่วนด้านในก็เหมือนว่ามีสงครามขนาดย่อมเช่นกัน รถคันหรูที่มีรอยโดนยิงแทบทั้งคันขับด้วยความเร็วสูงหาทางสลัดรถที่ตามติดเหมือนเจ้ากร
พี่บลูมถูกเรียกตัวมาจากเมืองนอกกะทันหัน หน้าที่เขาคือดูแลความปลอดภัย “ยืนขึ้นหน่อยสิคุณหนู” “อะไรอีก”“ลองดูว่าถ้าซ่อนปืนแล้วจะเดินปรกติไหวไหม” “ฉันทำเองก็ได้” “อย่าดื้อน่า” “หาเรื่องลวมลามก็พูดมาเถอะฉันไม่ถือสาหรอก” บลูมส่ายหน้าเล็กน้อยแล้วคุกเข่าลงตรงหน้าคุณหนูตัวเล็กที่ปากจ้อได้ตลอดเวลา เรียวขาของเธอนุ่มมากและมีรอยช้ำจากการโดนทำร้ายเมื่อไม่กี่วันก่อน ปืนขนาดเล็กใส่ปลอกติดไว้ที่เรียวขาเล็กจากนั้นก็ให้ลองเดินอย่างเป็นธรรมชาติ เขาหยิบปืนมาเปลี่ยนใหม่ให้พอดีมากขึ้นกว่าเดิม จากนั้นก็ให้เดินดูอีกครั้ง แต่ว่าครั้งนี้เธอทำต่างจากครั้งแรกจนน่าขำไม่ไหวจริงๆนะ เดินเหมือนนางแบบที่หมุนฟูลเทิร์น“เป็นไง?” “อืม”“ตอบแค่นี้เหรอ!?” “จะให้ตอบว่าอะไรล่ะ?”“ก็…ฉันเหมาะกับปืนนี้ไง” “เหมาะก็ได้ พี่ใส่กระสุนไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ปืนกระบอกนี้ใช้ตอนจำเป็นนะ”“เป็นพ่อเหรอถึงสั่งดีจัง!”“ก็พ่อเธอไหมล่ะที่สั่งพี่มาแบบนี้” “พ่อนะพ่อไม่รู้ว่าใช้อะไรเลือกพี่มาดูแลฉัน ความจริงบอดี้การ์ดทีมอื่นก็มีคนพร้อมเหมือนกัน พี่ต่อรักษาตัวไม่นานเดี๋ยวก็หายแล้ว ฉันว่านะพ่อต้องเลือกพี่ตอนเมาแน่เลยถึงไม่ใช้สมองแบบนี้”
ฟีนด์ยิ้มกว้างก่อนจะเปิดตู้เย็นหยิบเบียร์ขึ้นมาดื่มแล้วเดินขึ้นไปที่ห้องนอนทันที เธอมีเรื่องจะถามเขาเยอะมากแต่ว่ามันไม่มีเวลาเลยนี่สิ อยู่ดีๆเขาก็โผล่ไปรับที่โรงพยาบาลเล่นเอาหัวใจแทบวายอยู่ตรงนั้นเพราะเราไม่ได้เจอกันมาหลายเดือนแล้ว แถมติดต่อเขาไม่ได้เลยอีกเป็นเดือน เธอไม่เคยบอกเรื่องที่เกิดขึ้นให้เขารู้แต่ว่าสุดท้ายเขาก็รู้อยู่ดี ทีแรกตั้งใจจะถามในตอนกินข้าว แต่ว่าเรายังไม่ทันได้คุยกันให้เข้าใจก็ถูกตามทำร้ายตลอดทั้งวันก็อกๆๆ“เข้ามาแล้วล็อกประตูด้วย” “มีอะไร?” “ใครเป็นคนตามพี่มากันแน่?” เธอลุกขึ้นยืนบนเตียงเพราะว่าจะได้ตัวสูงกว่าเขาสักที เธออยากมีความรู้สึกได้มองต่ำแบบนี้บ้างแต่ว่าส่วนสูงแค่หนึ่งร้อยหกสิบห้าเซ็นติเมตรไม่ค่อยเอื้ออำนวยสักเท่าไร สถานะของเราสองคนนับเป็นความลับมาตลอดเพื่อความปลอดภัย จนกระทั่งตอนนี้ที่เธออายุยี่สิบสี่ปีและเขาอายุยี่สิบเจ็ดปี เราคบกันมาได้สี่ปีแล้วยังไม่มีใครรู้เพราะยังไม่ถึงเวลาเปิดเผย“ซ่อนกิ๊กไว้เหรอผัวจะมาหาถึงห้ามดีจัง!”“กิ๊กบ้านพี่ดิ!” “ก็ดีที่ไม่มี พี่ยังไม่อยากฆ่าใครเพิ่มตอนนี้” เธอวางมือลงที่บ่าใหญ่พร้อมกับมองหน้าคนดุดันที่ไม่รู้ว่าไปเอารอยแผ
สามเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็วแต่ก็ช้ากว่าใจที่ร้อนกว่าอยู่ดี งานแต่งจัดขึ้นที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง แขกมาร่วมเป็นพยานรักอย่างล้นหลาม บรรยากาศอบอวลไปด้วยความสุขและความอบอุ่น รูปคู่บ่าวสาวที่ใช้ตกแต่งงานใครเห็นก็ล้วนยิ้มออกมาเพราะเจ้าบ่าวหน้าดุดันมาก ต่อให้ยิ้มก็หน้าดุเหมือนเดิม ในขณะเจ้าสาวสวยหวานเหมือนเจ้าหญิงแทบทุกรูปที่ใช้ ดอกไม้ส่วนใหญ่จะเป็นลิลลี่สีขาวสะอาดตาเป็นหลัก เสียงเปียโนและเสียงไวโอลินในบทเพลงรักเป็นตัวผสมชั้นดีให้งานแต่งครั้งนี้หวานชื่นมากขึ้น นี่คือการแต่งงานที่หลายคนคิดว่ากะทันหัน แต่ใครจะรู้เล่าว่าคบกันมาสี่ปีกว่าแล้ว บลูมคุยกับแขกในงานด้วยความเป็นกันเองมากแล้วมองเวลาด้วยความร้อนใจ ลูกน้องทั้งหมดคนรับบทเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวด้วยความเต็มใจมาก แถมพวกมันยังเป็นคนนำเสนอตัวเอง ใบหน้าดุดันมีรอยยิ้มกว้างให้กับทุกคนที่ร่วมยินดี แม้ว่าจะไม่ชอบหน้าบางคนมากเท่าไรก็ตามพ่อแม่ให้ของขวัญแต่งงานเกาะส่วนตัวที่มีวิวทิวทัศน์ดีงามมูลค่าราวๆเจ็ดร้อยล้าน พี่ชายบ่นนิดหน่อยที่ถูกแต่งงานตัดหน้าไปก่อนแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรมากและให้ของขวัญเป็นบริษัทที่เป็นเจ้าของอยู่ มูลค่าราวๆสี่ร้อยล้านโดยประมาณ พี่สาวใ
“พี่มีเรื่องจะบอก”“อะไรเหรอ?” “พ่อลาออกจากประธานแล้วจะใช้ชีวิตเกษียณที่คฤหาสน์ส่วนตัว”“แบบนี้ก็แสดงว่า…พี่บลูมกลับไปทำงานเหรอ!?” “ตอนแรกพี่ขี้เกียจอยู่นะแต่คิดๆแล้วพี่คงจะใช้ชีวิตแบบนี้ตลอดไปไม่ได้ถ้าอยากมีฟีนด์อยู่ในชีวิต ไบรท์ก็ให้ข้อเสนอมาดีด้วยสิ โบว์ก็รบเร้าไม่หยุดเลยแล้วฟีนด์ก็อยากให้พี่อยู่ด้วยตลอดเวลาเลยไม่ใช่เหรอถึงอ้อนแทบทุกครั้งที่คุยกัน ถึงเรื่องนี้มันจะฝืนใจตัวเองหน่อยแต่หน้าที่ตรงนั้นมาเป็นของพี่มาตลอด ลูกน้องหลายคนยังรอพี่กลับไป”“พี่บลูม…” “แต่งงานกันพี่นะฟีนด์?” เขาก้มลงมองหน้าเมียที่ตาโตด้วยความตกใจแล้วลุกนั่งทันที “พี่ว่าไงนะ!?” อยู่ดีๆก็พูดออกมาแบบไร้ความโรแมนติกเลยนี่นะ เขาขยับเข้าไปจูบเมียแล้วดันตัวเธอให้ลงนอนไปก่อนจะผละออกมาสบตา เราจูบกันอย่างเร่าร้อนและเต็มไปด้วยความหิวกระหายที่ไม่รู้จักอิ่มเลย เพียงไม่กี่นาทีเสื้อผ้าร่วงลงไปกองที่พื้นพรมเหลือเพียงเรือนกายเปลือยเปล่าที่กอดรัดนัวเนียนกันบนโซฟาตัวใหญ่หน้าทีวีที่กำลังเปิดหนังอยู่ เขาผละใบหน้าออกมาอีกครั้งแล้วยิ้มกว้างพร้อมกับหยิบแหวนแต่งงานมาจากกางเกงที่อยู่ใกล้เพียงเอื้อมมือ“แต่งงานกับพี่นะที่รัก” “มาขออ
หนึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็วจนแทบตั้งตัวไม่ทันในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้ การจากลาที่ไม่ใช่ตลอดไป แต่หนทางข้างหน้าเต็มไปด้วยอันตรายเกินกว่าจะคาดเดาได้ ความรับผิดชอบต่องานและชีวิตคนอยู่ในกำมือทำให้ไม่สามารถอยู่กับความสุขตรงนี้ได้นานเกินไปบลูมนอนจูบเมียหลังจากบอกรักกันอย่างหนักมาตลอด ตัวเราเปล่าเปลือยแนบชิดกัน แววตาคู่สวยที่มองเต็มไปด้วยความรักและซ่อนความกังวลเอาไว้ไม่มิด ทุกสัมผัสจากเธอคือสิ่งที่ดีที่เขาจะจดจำเอาไว้เป็นกำลังใจในช่วงเวลายากลำบาก เมื่อจบเรื่องนี้แล้วเขาจะกลับมาอยู่กับเธออีกยาวนาน หน้าที่กับความรักสวนทางกันถ้าดื่มดำนานเกินไปลูกน้องที่นั่นอาจจะตาย “พี่ต้องไปแล้ว” “ห้ามเป็นอะไรนะ” “พี่ไม่เป็นอะไรหรอก อีกไม่นานพี่จะกลับมานอนกอดเมียแบบนี้จนเมียเบื่อหน้าเลย” “ใครจะเบื่อได้เล่า!” “ไปอาบน้ำกันเถอะ”เราสองคนช่วยกันอาบน้ำแล้วจูบกันไม่หยุด มือเล็กบีบครีมอาบน้ำแล้วถูกจนเกิดฟองก่อนจะลูบไล้เรือนร่างที่กำยำเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อและรอยแผลเป็นเยอะมากขึ้นกว่าเดิมจากเหตุการณ์ที่พึ่งจะผ่านมา แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนเขาก็คือคนที่ดูดีมากสำหรับเธอเสมอ ใบหน้าหล่อเมื่อก่
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปอาการบาดเจ็บดีขึ้นมากกว่าเดิมเยอะแต่ก็ยังทำอะไรไม่สะดวกเท่าไร เรื่องของเมียไม่น่าเป็นห่วงมากแล้วมั่นใจว่าต่อจากนี้เธอจะรับมือไหว ไอ้นักการเมืองคนนั้นเครื่องบินตกขณะที่หลบหนีออกนอกประเทศจนเป็นข่าวดัง หลายคนคาดว่าถูกใครสักคนสั่งเก็บเพื่อไม่ให้มีการซัดทอด ส่วนไอ้เวรที่สู้กับเขามันชื่อไวท์ มันยังไม่ตายแต่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะเอาคืน มันน่าจะกำลังรักษาตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งเช่นเดียวกันกับเขา มันอยากวัดฝีมือกับเขาวันนั้นมันไม่ได้สนใจฟีนด์ด้วยซ้ำ“หมอบอกว่าพี่จะได้ออกวันไหน?” เขาหันไปถามเมียที่กำลังนั่งปอกเปลือกผลไม้อยู่ “ถ้าอาการดีกว่านี้ก็น่าจะออกอาทิตย์หน้ามั้ง” ผัวถามแบบนี้ครั้งที่เท่าไรแล้วนะ “พี่เบื่อ!” “ทนๆให้หายดีก่อน” “ที่นี่มันน่าเบื่อ! มองไปทางไหนก็น่าเบื่อไม่มีอะไรเจริญหูเจริญตาสักอย่าง แล้วคนอื่นล่ะ?” “เห็นว่าจะมาเยี่ยมวันนี้แหละอีกเดี๋ยวคงถึง” “ฟีนด์รู้ไหมเราอยู่ที่ไหน?” “ใจกลางเมืองเลย” “แบบนี้ขโมยรถสักคันหนีน่าจะง่าย” “พี่บลูม!!” “เรียกซะดังเลย!” “พี่ไม่เข็ดบ้างเลยรึไงห่ะ!?” “เข็ดอะไร?” “ก็ที่เป็นอยู่นี่ไง!” “ก็ยังไม่ตายสักหน่อย!” “ถ้าหากพี่หนีออกจ
เกรย์ แฮม โจ เคน เฟย และไค เดินมาตั้งใจจะเยี่ยมบอสและบอกให้คุณหนูรู้ว่าคุณท่านมาถึงแล้ว แต่ว่าภาพที่เห็นมันชัดเจนเลยว่าไม่ควรจะเข้าไปขัดจังหวะใดๆทั้งสิ้น คุณหนูจับมือพี่บลูมจูบซ้ำๆไม่หยุดแล้วร้องไห้ออกมาตลอด บางครั้งก็ซบไปใบหน้าลงบนเตียงแล้วยกแขนกอดเอาไว้ เรื่องอาการบาดเจ็บหนักจนอาจจะไม่รอดรู้จากหมอแล้ว เรื่องที่บอสทำเพื่อช่วยชีวิตลูกน้องก็รู้แล้วเช่นกัน เป้าหมายหลักของพวกมันคือคุณหนูฟีนด์ แต่คนที่มันอยากฆ่าคือบอสคนเดียว “หรือว่าคุณหนูจะรักบอสจริงๆวะ?” เคนถามเสียงแผ่วเบาด้วยความสงสัย“นั่นดิ! เมื่อวานก็ไม่ได้คุยกันเลย วันนี้เกือบตายก็ยังไม่ได้คุยสักคำอีก” ไคบอกเพิ่ม“ไม่ตายเว้ย! นายน้อยของกูไม่มีทางตายหรอก!” โจรีบแย้งออกมาแล้วเม้มปากแน่นข่มน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา พวกเราทั้งสี่คนรู้ดีว่าหัวหน้าวางแผนมาเป็นอย่างดีและพยายามช่วยชีวิตขนาดไหน ตั้งแต่ทำงานเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายด้วยกันมาถึงสี่ปีผ่านเรื่องเลวร้ายนับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่บอสจะทิ้งลูกน้องให้ตายโดยไม่พยายามช่วย “นายน้อย…หมายความว่าไงวะโจ!?” ไคขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัยและตกใจมาก“ก็…เมื่อก่อนเรารู้ว่านายน้อยคือคนออกแบบทุก
“พี่บลูม!!”“เร็วๆสิโจ!!” ในวินาทีนั้นที่เราสบตากันเขายิ้มกว้างให้ก่อนจะถูกยิงแล้วล้มตัวลง แต่ก็ไหวตัวหลบอีกฝั่งทันก่อนจะถูกกระสุนอีกนัดปลิดชีพเอาได้ถ้าช้าสักวินาที เลือดของเขาไหลทะลักออกมาแต่ยังแข็งใจฝืนลุกขึ้นเพื่อจะปกป้องเธอให้ได้ ตัวเขาโชกไปด้วยเลือดและบาดแผล เขายิงคนที่มันวิ่งมาทางเธอแม่นเหมือนจับวางพร้อมกับหลบอีกคนที่พุ่งเป้าจะเอาชีวิตเขาอย่างเดียว เธอมองไปทางโจอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงรถดังขึ้นและแล่นมาทางนี้ด้วยความเร็วมาก เอี๊ยด!!“ขึ้นรถเร็ว!!”“ไปเอาพี่บลูมมาเดี๋ยวนี้!!”“เกาะแน่นๆนะคุณหนู”“ชิ่งเต็มที่เลยโจ” ทางด้านบลูมยืนแสยะยิ้มจ้องมองไอ้เวรที่อึดได้ใจขนาดโดนยิง โดนกระทืบจมตีนจนกระอักเลือดออกมายังลุกขึ้นไหว ถูกเขาจับทุ่มลงพื้นถนนก็ยังรอด สภาพมันโซซัดโซเซใกล้จะตายเต็มทนแล้วแหละ ตัวเขาถูกรุมนั่นเลยไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะบาดเจ็บหนักและเสียสมาธิจากการหันไปมองเมีย พวกลูกน้องมันพุ่งเป้าไปหา เขาหยิบปืนมายิงคุ้มกันให้กับเมียกับลูกน้องและพลาดโดนยิง “กูไม่มีทางให้ครั้งนี้มึงหนีไปหรอก!!” “งั้นมึงก็ผ่านไอ้นี่ไปให้ได้สิ!”“ไอ้เหี้ยเอ้ย!!” บลูมหัวเราะออกมาเมื่อเห็นสีหน้าตกใจของมัน
แฮมนั่งรถไปกับเฟยพร้อมกับนักฆ่าฝีมือยอดเยี่ยมที่มีค่าตัวสูงจากเดอะมิราเคิล เคนนั่งรถไปกับไคพร้อมกับนักฆ่าสาวเช่นกัน ส่วนโจนั่งรถมาพร้อมกับบลูมและด้านหลังคือคุณหนู เกรย์จะเป็นคนติดต่อหาทางช่วยเหลือทุกคนเมื่อเกิดเรื่องขึ้นและอัพเดทสถานการณ์ต่างๆด้วย งานนี้ไม่ว่าจะไปทางไหนล้วนเจอแต่นักฆ่าที่จ้างมาเพื่อเอาคืนและชิงตัวคุณหนูฟีนด์ไปเพราะต้องการเค้นคอเอาทุกหลักฐานที่ยังเหลืออยู่ไปทำลายทิ้งให้สิ้นซาก แต่ละคนฝีมือดีเยี่ยมทั้งนั้นยิ่งไว้ใจไม่ได้เลยทุกอย่างถูกวางแผนมาเป็นอย่างดี แต่อีกฝ่ายก็วางแผนมาเป็นอย่างดีเช่นกัน หลังจากเตรียมทางหนีให้ท่านที่เป็นเหมือนพ่อแล้วถึงได้มาที่นี่เพื่อเอาคืน ไวท์คือมือขวาที่จัดการงานด้านมืดให้แทบทั้งหมด กุมความลับหลายอย่างเอาไว้และเคยปะทะฝีมือกับหัวหน้าบอดี้การ์ดร่างใหญ่นั้นมาก่อนจนอาการสาหัส ในตอนนี้ก็ยังไม่หายดี แต่จิตใจมันร้อนลุ่มอยากปะทะอีกครั้งต่อให้ตายก็ยอมขอเพียงแค่ได้สัมผัสถึงฝีมือชั้นยอดที่หาได้ยากอีกสักครั้งก่อนจะมีใครต้องตายไป โลกนี้มีคนฝีมือระดับนี้อยู่ไม่มากนั่นทำให้เจอได้ยากเขามองผ่านกล้องส่องทางไกลแล้วยิ้มกว้างออกมาเมื่อเห็นรถซีดานขับออกไปคนละเส
บลูมมองตามเมียที่เดินไปด้วยความงงมากว่าเกิดอะไรขึ้น เธอมองแหวนที่นิ้วแล้วทำหน้าเศร้าเหมือนเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น วันนี้เขายังไม่ได้ดุหรือบ่นอะไรสักคำเลยนะ หรือว่าเธอเหนื่อยกับการฝึกฝนจนไม่อยากจะมองหน้าคนออกแบบอย่างเขา ในเวลานี้ถ้าจะตามไปที่ห้องคงดูไม่ดีแน่นอน อยู่ดีๆก็โดนเมียเคืองเฮ้อ…แล้วจะง้อเมียยังไงดีวะตอนค่ำเราออกมากินอาหารข้างนอก แล้วต่อที่บาร์เพื่อคลายเครียดก่อนจะถึงวันพรุ่งนี้ที่ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง บลูมมองเมียที่มองแหวนแล้วทำหน้าเศร้ามาก เขาชวนคุยเธอก็คุยแต่ไม่เหมือนเดิม เธอถอนหายใจใส่ จ้องหน้าด้วยความไม่พอใจบ่อยครั้ง เขาหยอกก็ไม่สน เขากวนประสาทก็ไม่หัวร้อน สุดท้ายเขานั่งดื่มแล้วมองเมียที่ทำหน้าเศร้าทั้งที่ตอนนี้ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่รู้เลยว่าเมียโกรธเรื่องอะไรกันอยู่เธอไม่ยอมคุยกับเขาดีๆถ้าหากว่าเธอกังวลเรื่องวันพรุ่งนี้มันไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกเพราะเราทุกคนรู้ว่ามันจะมีการปะทะแน่นอน ไม่มีใครรู้ว่ามันจะมามุกไหน แล้วมีคนขายข่าวให้มันรึเปล่าว่าการประชุมครั้งนี้จัดที่นอกเมือง เมียเครียดไปก่อนแทนที่จะผ่อนคลาย ยังไงเขาก็ไม่มีทางยอมให้ใครมาทำร้ายเมียได้ง่ายๆเด็ดขาด ถ้ามัน
เช้าวันต่อมาฟีนด์นอนอมยิ้มบนเตียงนุ่มเพราะผัวยังอยู่ด้วย ตั้งแต่เขากลับมาจากโรงพยาบาลเราแทบจะไม่ได้นอนกอดกันเพราะเขาต้องเคลียร์งานเยอะมาก เธอเองก็ต้องเคลียร์งานเยอะมากเช่นกัน เวลาของเราในช่วงนี้ค่อนข้างหนักหน่วงจนบางครั้งอยากจะงอแงแล้วทิ้งงานไปดื้อๆ แต่พอเห็นพี่บลูมที่รักษาตัวยังไม่หายดีแต่กลับมาทำงานชนิดที่ลืมวันลืมคืน เขาวางแผนสารพัดอย่างเพื่อดูแลเธอและพ่อแม่ไม่ให้ใครมาทำร้ายได้ง่ายๆทั้งที่ตัวเองบาดเจ็บขนาดนั้น เห็นแบบนั้นแล้วงี่เง่างอแงไม่ลงจริงๆ เขาบอกว่าทำทุกอย่างเพื่อเธอปลอดภัย เธอจะสร้างปัญหาไม่ได้เขาหลับสนิทและกอดเธอไม่ปล่อยเลย เขาไม่เปลี่ยนไปจากวันคืนที่เราอยู่ด้วยกันสักเท่าไร วันนี้รู้สึกดีกว่าเมื่อวานมากหลายเท่า เธอขยับตัวเบาๆเพราะกลัวว่าเขาจะตื่นนอน ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดกล้องแอบถ่ายรูปคนบ้างานเก็บเอาไว้ดูแก้คิดถึงในช่วงเวลาที่เราไกลกันเขามาช่วยเธอก่อนจะกลับไปเคลียร์งานเขามีความรับผิดชอบเสมอพี่บลูมดีไปทุกมุมมองเลยทั้งที่ยังหลับอยู่ ผิวกายของเขาไม่ได้มีสีผิวที่สม่ำเสมอกันซึ่งมันก็ไม่แปลกหรอก เขาเล่นลุยทุกอย่างแบบท้าแดดท้าลมและไม่สนใจสภาพอากาศขนาดนั้น ตามตัวมีรอย