เราคุยกันเสียงแผ่วเบามากแล้วเธอก็เอนตัวไปซบไหล่พี่บลูมแกล้งทำเหมือนว่านอนหลับแล้วจับมือเขาไว้ให้รู้สึกอุ่นใจขึ้นมา ลูกน้องสองคนแอบมองเงียบๆแต่ไม่พูดอะไรออกมาสักคำ ผ่านไปไม่กี่นาทีเขาขยับตัวให้เธอนอนตักแล้วถอดเสื้อตัวใหญ่มาคลุมตัวให้ แล้ววางมือให้เธอจับเล่นในระหว่างที่เรากลับบ้านกันอย่างปลอดภัย อยากเปิดตัวแล้วว่ามีผัว อยากซื้อตัวเขามาอยู่ด้วยทุกวัน แฮมและเคนแอบมองเงียบๆแล้วอมยิ้มเพราะดูเหมือนว่าจะได้คู่จิ้นแทนคู่กัดนะ แฮมเปิดเพลงรักสร้างบรรยากาศโรแมนติกให้ก่อนเพราะนานๆทีจะมีอะไรน่ารักให้เห็น ส่วนเคนขับรถช้าลงเพื่อยื้อเวลา ในระหว่างที่รถติดไฟแดงก็แอบมองผ่านกระจกเห็นแววตาอ่อนโยนของหัวหน้าที่มองคุณหนูอยู่ จากนั้นก็เผลอนิ้วลั่นพิมพ์ข้อความลงในกลุ่มทันทีแฮม : กัปตันแล่นเรือเองแล้ว!!เคน : หวานฉ่ำโจ : ??เกรย์ : โดนกินหัวอีกแล้วเหรอ?แฮม : คุณหนูนอนตักหัวหน้าแล้วจับมือเฟย : เชี้ย!! ไค : บอสเลิกจำศีลแล้วเหรอ?เกรย์ : คืออะไรวะ?เฟย : บอสไม่เคยสนใจผู้หญิงเลยไค : ไอ้เราก็นึกว่าตายด้านแล้วซะอีกแฮม : ลูบหัวแล้ว!!เคน : หัวหน้ายิ้มเว้ย! สงสัยชอบคุณหนูแล้วเฟย : มิน่าล่ะถึงโคตรตามใจขนาดนั้
หลังจากอาหารค่ำฟีนด์อาศัยจังหวะที่พ่อแม่ดูทีวีกันสองคนเพื่อผ่อนคลายความเครียดแอบเดินออกมาจากบ้านเงียบๆเพื่อไปโรงยิม เธอเดินไปมองหาก่อนจะถูกดึงเข้าไปกอดแน่น เขาจูบหน้าผากเธอซ้ำๆก่อนจะได้ยินเสียงคล้ายคนเดินมา เขาดึงเธอเข้าไปในโรงยิมที่มุมมืดมากและไม่มีกล้องวงจรปิดจับภาพพวกเราสองคน พี่บลูมน่าจะพึ่งอาบน้ำเสร็จเพราะตัวเขาหอมมากและกล้ามแน่นไปทั้งตัวเลยยังไม่ทันได้เริ่มต้นคุยกับเขาก็ก้มลงมาปิดปากให้อย่างดุเดือดจนหัวใจสั่นไหวไปหมดแล้ว เราจูบกันไม่หยุดเหมือนความหิวกระหายทั้งที่เราทำกันมาตลอดทั้งคืน รู้ตัวอีกทีเขาก็อุ้มเธอนั่งบนโต๊ะแล้ว “ห้องเป็นยังไงบ้าง?” “ก็ดีค่ะ แล้วพี่บลูมล่ะ?” “ก็อยู่ได้” “จะไปพรุ่งนี้จริงๆเหรอ?” “อืม พี่อยากจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด” “ฉันมีเรื่องสำคัญจะถาม” “ว่ามาสิ”“คือว่า…รู้จักลูกชายคนเล็กของคุณอธิปไหม?” “รู้จัก ทำไมเหรอ?” “ก็พ่ออยากให้ฉันคบกันเขาเพื่อธุรกิจ เราจะเอายังไงกันดี?” “เรื่องนี้พี่จัดการเอง” “แต่เขาเป็นลูกเจ้านายของพี่นะ!” “พี่จัดการได้น่า เชื่อมือพี่เถอะ แล้วรู้จักชื่อมันไหม เห็นรูปถ่ายมันรึยัง?”“ยังไม่รู้อะไรเลยสักอย่างค่ะ แต่เดือนหน้าท่านอธ
เช้าวันต่อมาบลูมตื่นมาด้วยความเบื่อหน่ายและงัวเงียมาก เขากอดเมียแล้วจูบแผ่วเบาก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อเช็คงานด้วย แต่พอเห็นข้อความของคนที่เบื่อหน้าแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ เมื่อวานลูกน้องบอกว่าพี่โบว์ต้องการมาเจอ แต่เขาบอกปัดไปแล้วตั้งใจจะเบี้ยวนัดอาทิตย์หน้าด้วย เช้านี้เล่นส่งข้อความมาหาทั้งพี่ไบรท์ พี่โบว์ แล้วก็พ่อกับแม่ด้วย ไม่มั่นใจว่าไปเอาเบอร์ของเขามาจากลูกน้องคนไหน เขาแค่อ่านแต่ไม่ตอบอะไรใครสักคนที่พยายามจะดึงตัวกลับไปทำงานอีกครั้งให้ได้ในฐานะเดิมคือวางแผนเรื่องความปลอดภัยทั้งหมด เขาลาออกแล้วแต่ไม่มีใครยินยอม“พี่บลูมเช้าแล้วเหรอ?” “อืม พ่อแม่หนูออกไปทำงานกันหมดแล้ว ลูกน้องของพี่ออกไปโรงยิมกันหมด วันนี้ไม่มีใครมารบกวนหรอกเพราะหลายคนยุ่งวุ่นวายหลายอย่าง บ้านหลังนี้ยังไม่เป็นระบบดีเลย”“ทางสะดวกสินะ” “ให้พี่ไปส่งขึ้นชั้นบนไหม?” “อยู่ให้กอดทั้งวันก่อนไปได้ไหมล่ะ?”“พี่ต้องไปคุยเรื่องงานก่อน พี่ไม่อยากไปสาย” “ทำแต่งานอย่างเดียวเลย!”“พี่ประชุมเรื่องความปลอดภัยของฟีนด์นั่นแหละ อย่างอแงสิที่รัก”“ก่อนไปมาหาฉันก่อนนะ”“อืม” “พี่บลูมจะไม่ทำเรื่องเจ็บตัวใช่ไหม?” “พี่ตอบเรื่องน
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว บลูมกลับมาถึงบ้านเมียด้วยความเหนื่อยล้ามากและบาดเจ็บหนักมากพอสมควร เขาโดนแทงที่หน้าท้องและรักษาตัวแค่สองวันก็กลับมาเพราะกลัวเมียเป็นห่วงที่กลับมาช้ากว่ากำหนด ส่วนเกรย์กับโจไม่ได้เป็นอะไรหนักมาก แต่ก็นับว่าเป็นความเจ็บที่คุ้มกับหลักฐานที่หามาได้อย่างเร่งด่วน วิธีการนี้มันสกปรกแต่จะทำยังไงได้ในเมื่อเวลามีจำกัดวันพรุ่งนี้พี่สาวกับพี่ชายนัดเจอด้วยเหตุผลเดิมนั่นคือการลากตัวกลับไปทำงานเพื่อดูแลความปลอดภัยทุกอย่าง นานแล้วที่เราไม่ได้เจอกันและเขาเข้ามาสืบเรื่องนี้เองเลยตามหาตัวง่าย เดิมทีพ่อบอกว่าให้เวลาจัดการสามเดือนให้เรียบร้อย ถ้าอยากได้อะไรให้ติดต่อพ่อโดยตรงได้เลยและนั่งเป็นครั้งล่าสุดที่เราคุยกันประมาณสิบนาทีแค่นั้นเอง แต่เพราะว่าพ่อมาเดือนหน้าอย่างมีจุดประสงค์ชัดเจนว่าเพื่ออะไร เขาเลยคิดว่าต้องรีบทำงานให้จบเร็วๆแล้วรีบหนีดีกว่า ก็อกๆๆ…เกรย์และโจมองไปทางประตูไม่รู้ว่าใครมาหาทันทีที่ประคองบอสเข้าห้อง ตอนนี้เป็นเวลาตีสี่แล้วพวกเรามากันเงียบๆไม่ได้บอกใครก่อนเลยสักคนเพราะถูกห้ามเอาไว้ โจกำลังเตรียมของจะทำแผลที่มีเลือดซึมออกมาแล้วพยักหน้าให้เกรย์เป็นคนไปเปิด
“เจ็บมากไหม?”“ไม่เท่าไร” “รู้ไหมว่าเป็นห่วงมากขนาดไหน พี่ไม่ห่วงตัวเองก็ควรจะห่วงฉันบ้างสิ ถ้าพี่ต้องไปตายเพื่อจะช่วยฉันแล้วไม่คิดเหรอว่าจะเสียใจขนาดไหนที่เป็นสาเหตุให้พี่ตาย อย่าทำอะไรเสี่ยงเกินตัวได้ไหม?” “บุกรังมันทั้งทีจะไม่โดนอะไรก็เทพไปแล้ว” “ถ้าพี่ตายจริงๆขึ้นมาล่ะ!” “พี่อึดจะตายไปน่าฟีนด์” “ไม่ต้องทำงานจนกว่าจะหายนะ”“แต่พรุ่งนี้พี่มีนัด”“ห่ะ!?”“นัดสำคัญมากพี่เลื่อนไม่ได้”“ทำไมพี่ดื้อแบบนี้เนี่ย!”“หนึ่งอาทิตย์นี้เป็นยังไงบ้าง?” “ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยนะพี่บลูม” “นอนเถอะ พี่มีนัดตอนเช้า” “เช้าบ้าอะไรเล่า! ตอนนี้มันจะตีห้าแล้วนะ พี่เลื่อนนัดไม่ได้เหรอ?” “ไม่ได้ ไปคุยให้จบๆแล้วจะได้พักที่บ้าน”“ที่บ้านอะไรห่ะ!”“เอ้า!”“สภาพนี้ต้องไปโรงพยาบาลเท่านั้น!!” “พี่ไม่ชอบโรงพยาบาล”“อย่ามาดื้อกับฉันนะ! ฉันเป็นเจ้านายลืมไปแล้วรึไง?”“แต่พี่เป็นผัวลืมไปแล้วเหรอ”“ยังไงตอนนี้พี่บลูมก็คือลูกน้อง ฉันสั่งให้ไปหาหมอพี่ก็ต้องไป พี่ห้ามขัดใจเด็ดขาด”“ฟีนด์!”“ถ้าไม่ไปหาหมอฉันจะเอาผัวใหม่ที่มันว่านอนสอนง่ายกว่านี้แล้ว”“เชิญ!” “พี่บลูม!!”“เชิญไปลงนรกทั้งสองคนเลย พี่จะสงเคราะห์ใ
บลูมขับรถมาถึงร้านอาหารที่ถูกสั่งปิดโดยพี่ชายและพี่สาว เขาลงจากรถแล้วเซเล็กน้อยจนลูกน้องจะเข้ามาช่วยประคองตัว แต่ว่ายกมือห้ามทัน นี่คือการเจอกันครั้งแรกในรอบสี่ปีที่เขาลาออกมาทำงานอื่นและมีหลายครั้งที่วนกลับเข้าไปช่วยโดยที่เราไม่ได้ติดต่อกันมาก เพียงแค่เดินเข้าไปในร้านพี่ชายลุกขึ้นมาหาแล้วดึงเข้าไปกอดแล้วลูบหลังเบาๆ พี่สาวเดินตามมากอดเช่นเดียวกัน“ตัวร้อนจังบลูม!” โบว์ผละออกมาแล้วยกมือแตะที่หน้าผากน้องชายคนสุดท้องที่ดื้อด้านและเอาแต่ใจตัวเองที่สุด เราไม่ได้เจอกันมาสี่ปีและน้องชายแทบจะตัดขาดจากทุกอย่างได้อยู่แล้ว“ได้ข่าวว่าบาดเจ็บนี่” ไบรท์ประคองน้องชายไปนั่งกินอาหารเช้าด้วยกัน วันนี้ไม่ได้ตั้งใจจะมาคุยเรื่องงานเพราะรู้อยู่แล้วว่าน้องชายเอาอยู่แน่นอน ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นถึงนักการเมืองใหญ่ที่มีแบ็คอัพค่อนข้างดีมาก แต่ความสัมพันธ์ที่มีผลประโยชน์ค้ำไว้อยู่จะขาดวันไหนก็ได้ “มีเรื่องอะไรถึงนัดมา?” “ไม่เจอกันสี่ปียังเย็นชาเหมือนเดิมเลยนะ แล้วที่หน้าไปโดนอะไรมาเนี่ยถึงเป็นรอยแผลขนาดนี้ห่ะ!” โบว์แตะนิ้วลงที่รอยแผลเป็นที่หางคิ้วลากยาวถึงกลางหน้าผาก แล้วที่ปากยังมีรอยนูนจางๆขึ้นมาอยู่ เมื่อ
ฟีนด์มองดูทุกอย่างและน้ำเสียงที่ใช้นั้นอ่อนโยนเกินกว่าจะเป็นลูกน้องทั่วไป ไหนจะคำพูดเป็นกันเองมาก เธอมองหน้าเขาที่บอกให้ลูกน้องจัดการอุ่นอาหารแล้วความจริงบางอย่างตอกอัดเข้าหน้าทันที ประวัติพี่บลูมเป็นความลับหมดและเขาไม่เคยพูดถึงครอบครัวให้ฟังเลยสักครั้ง โจเล่าให้ฟังว่าพวกคุณท่านพยายามติดต่อพี่บลูมตลอดเวลาหลายปี แต่ว่าพี่บลูมไม่สนใจและแทบไม่คุยด้วย “พี่บลูมเป็น…”“ค่อยคุยเรื่องนี้เวลาอื่น”“ทำไมถึงให้เขาเสี่ยงตายขนาดนี้ด้วยล่ะถ้าเขาเป็น…คนสำคัญ”“ก็มันดื้อไง คิดว่าใครจะบังคับมันได้บ้างล่ะ เธอเองก็ไม่น่าจะทำได้หรอก” ไอ้ผัวเฮงซวยหลอกกันมาได้ตั้งสี่ปี สองคนนี้เป็นพี่ของเขา พี่บลูมเป็นลูกท่านอธิปตอนนี้เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมผัวถึงกล้างัดกับลูกชายคนเล็กของท่านอธิป แต่ก็ยังมีเรื่องที่น่าสงสัยอยู่นั่นคือพี่บลูมเป็นลูกคนที่เท่าไร เป็นลูกนอกกฏหมายเหรอ เป็นลูกของเมียคนไหนแล้วท่านอธิปมีเมียกี่คนและลูกกี่คนที่ไม่เปิดเผย แล้วเขาทำงานอะไรบ้าง ทำไมเขาถึงมาทำงานเสี่ยงตายแทนที่จะอยู่สบายๆ เธอต้องหาจังหวะดีๆถามให้รู้เรื่องและต้องถามแบบส่วนตัวด้วย เผื่อวีนใส่จะได้ไม่มีคนมาขัด เผื่อด่าจะได้ด่าเต็มที่แบบ
สองอาทิตย์ผ่านไปอย่างเชื่องช้าบลูมรักษาตัวเกือบหายดีและกลับมาทำงานในหน้าที่บอดี้การ์ดได้ห้าวันแล้ว วันนี้คุณหนูออกมาเดินเล่นแก้เครียดที่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ มือใหญ่ถือถุงใส่ของที่ซื้อมาค่อนข้างเยอะมาก คุณหนูฟีนด์ถูกจับฝึกฝีมือทุกวันเพื่อความเก่งมากขึ้นกว่าที่ผ่านมาเรื่องที่วางแผนเอาคืนและตั้งใจทำให้มันปั่นป่วนนั่นเป็นไปได้ด้วยดี มันกลายเป็นข่าวดังจนเป็นกระแสในโลกโซเชียลทุกวัน ตอนนี้มันกำลังถูกตรวจสอบอย่างหนักจากหลายฝ่ายและหลักฐานที่อยู่ในมือก็พร้อมจะส่งให้ สิ่งที่รออยู่คือให้บริษัทตรวจสอบทุกอย่างเพื่อจะไม่ติดร่างแหไปด้วยมันตั้งใจให้พ่อตารับผิดแทนทุกอย่าง แต่ใครล่ะจะยอมได้ อาทิตย์หน้าพ่อของเขาจะมาที่นี่ซึ่งนั่นทำให้อยากจะหนีไปไกลๆ ไม่อยากเห็นหน้า ไม่อยากได้ยินเสียง แต่ติดปัญหาตรงที่เมียยังไม่ปลอดภัยเลยไม่สามารถหนีไปไหนได้ ลูกน้องทั้งหกคนยังไม่รู้ว่าแท้จริงเขาเป็นใครกันแน่ พวกมันแค่สงสัยในความสนิทกับลูกของคุณท่านเท่านั้นเอง แต่ด้วยอะไรหลายๆอย่างที่ผ่านมาหลายปีเลยทำให้คิดว่าแค่เป็นลูกน้องคนสำคัญไม่ใช่ลูกชายคนสุดท้อง ไม่มีพ่อแม่คนไหนส่งลูกมาเสี่ยงตายหรอก พ่อแม่เขาก็เหมือนกัน “พี่
สามเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็วแต่ก็ช้ากว่าใจที่ร้อนกว่าอยู่ดี งานแต่งจัดขึ้นที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง แขกมาร่วมเป็นพยานรักอย่างล้นหลาม บรรยากาศอบอวลไปด้วยความสุขและความอบอุ่น รูปคู่บ่าวสาวที่ใช้ตกแต่งงานใครเห็นก็ล้วนยิ้มออกมาเพราะเจ้าบ่าวหน้าดุดันมาก ต่อให้ยิ้มก็หน้าดุเหมือนเดิม ในขณะเจ้าสาวสวยหวานเหมือนเจ้าหญิงแทบทุกรูปที่ใช้ ดอกไม้ส่วนใหญ่จะเป็นลิลลี่สีขาวสะอาดตาเป็นหลัก เสียงเปียโนและเสียงไวโอลินในบทเพลงรักเป็นตัวผสมชั้นดีให้งานแต่งครั้งนี้หวานชื่นมากขึ้น นี่คือการแต่งงานที่หลายคนคิดว่ากะทันหัน แต่ใครจะรู้เล่าว่าคบกันมาสี่ปีกว่าแล้ว บลูมคุยกับแขกในงานด้วยความเป็นกันเองมากแล้วมองเวลาด้วยความร้อนใจ ลูกน้องทั้งหมดคนรับบทเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวด้วยความเต็มใจมาก แถมพวกมันยังเป็นคนนำเสนอตัวเอง ใบหน้าดุดันมีรอยยิ้มกว้างให้กับทุกคนที่ร่วมยินดี แม้ว่าจะไม่ชอบหน้าบางคนมากเท่าไรก็ตามพ่อแม่ให้ของขวัญแต่งงานเกาะส่วนตัวที่มีวิวทิวทัศน์ดีงามมูลค่าราวๆเจ็ดร้อยล้าน พี่ชายบ่นนิดหน่อยที่ถูกแต่งงานตัดหน้าไปก่อนแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรมากและให้ของขวัญเป็นบริษัทที่เป็นเจ้าของอยู่ มูลค่าราวๆสี่ร้อยล้านโดยประมาณ พี่สาวใ
“พี่มีเรื่องจะบอก”“อะไรเหรอ?” “พ่อลาออกจากประธานแล้วจะใช้ชีวิตเกษียณที่คฤหาสน์ส่วนตัว”“แบบนี้ก็แสดงว่า…พี่บลูมกลับไปทำงานเหรอ!?” “ตอนแรกพี่ขี้เกียจอยู่นะแต่คิดๆแล้วพี่คงจะใช้ชีวิตแบบนี้ตลอดไปไม่ได้ถ้าอยากมีฟีนด์อยู่ในชีวิต ไบรท์ก็ให้ข้อเสนอมาดีด้วยสิ โบว์ก็รบเร้าไม่หยุดเลยแล้วฟีนด์ก็อยากให้พี่อยู่ด้วยตลอดเวลาเลยไม่ใช่เหรอถึงอ้อนแทบทุกครั้งที่คุยกัน ถึงเรื่องนี้มันจะฝืนใจตัวเองหน่อยแต่หน้าที่ตรงนั้นมาเป็นของพี่มาตลอด ลูกน้องหลายคนยังรอพี่กลับไป”“พี่บลูม…” “แต่งงานกันพี่นะฟีนด์?” เขาก้มลงมองหน้าเมียที่ตาโตด้วยความตกใจแล้วลุกนั่งทันที “พี่ว่าไงนะ!?” อยู่ดีๆก็พูดออกมาแบบไร้ความโรแมนติกเลยนี่นะ เขาขยับเข้าไปจูบเมียแล้วดันตัวเธอให้ลงนอนไปก่อนจะผละออกมาสบตา เราจูบกันอย่างเร่าร้อนและเต็มไปด้วยความหิวกระหายที่ไม่รู้จักอิ่มเลย เพียงไม่กี่นาทีเสื้อผ้าร่วงลงไปกองที่พื้นพรมเหลือเพียงเรือนกายเปลือยเปล่าที่กอดรัดนัวเนียนกันบนโซฟาตัวใหญ่หน้าทีวีที่กำลังเปิดหนังอยู่ เขาผละใบหน้าออกมาอีกครั้งแล้วยิ้มกว้างพร้อมกับหยิบแหวนแต่งงานมาจากกางเกงที่อยู่ใกล้เพียงเอื้อมมือ“แต่งงานกับพี่นะที่รัก” “มาขออ
หนึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็วจนแทบตั้งตัวไม่ทันในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้ การจากลาที่ไม่ใช่ตลอดไป แต่หนทางข้างหน้าเต็มไปด้วยอันตรายเกินกว่าจะคาดเดาได้ ความรับผิดชอบต่องานและชีวิตคนอยู่ในกำมือทำให้ไม่สามารถอยู่กับความสุขตรงนี้ได้นานเกินไปบลูมนอนจูบเมียหลังจากบอกรักกันอย่างหนักมาตลอด ตัวเราเปล่าเปลือยแนบชิดกัน แววตาคู่สวยที่มองเต็มไปด้วยความรักและซ่อนความกังวลเอาไว้ไม่มิด ทุกสัมผัสจากเธอคือสิ่งที่ดีที่เขาจะจดจำเอาไว้เป็นกำลังใจในช่วงเวลายากลำบาก เมื่อจบเรื่องนี้แล้วเขาจะกลับมาอยู่กับเธออีกยาวนาน หน้าที่กับความรักสวนทางกันถ้าดื่มดำนานเกินไปลูกน้องที่นั่นอาจจะตาย “พี่ต้องไปแล้ว” “ห้ามเป็นอะไรนะ” “พี่ไม่เป็นอะไรหรอก อีกไม่นานพี่จะกลับมานอนกอดเมียแบบนี้จนเมียเบื่อหน้าเลย” “ใครจะเบื่อได้เล่า!” “ไปอาบน้ำกันเถอะ”เราสองคนช่วยกันอาบน้ำแล้วจูบกันไม่หยุด มือเล็กบีบครีมอาบน้ำแล้วถูกจนเกิดฟองก่อนจะลูบไล้เรือนร่างที่กำยำเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อและรอยแผลเป็นเยอะมากขึ้นกว่าเดิมจากเหตุการณ์ที่พึ่งจะผ่านมา แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนเขาก็คือคนที่ดูดีมากสำหรับเธอเสมอ ใบหน้าหล่อเมื่อก่
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปอาการบาดเจ็บดีขึ้นมากกว่าเดิมเยอะแต่ก็ยังทำอะไรไม่สะดวกเท่าไร เรื่องของเมียไม่น่าเป็นห่วงมากแล้วมั่นใจว่าต่อจากนี้เธอจะรับมือไหว ไอ้นักการเมืองคนนั้นเครื่องบินตกขณะที่หลบหนีออกนอกประเทศจนเป็นข่าวดัง หลายคนคาดว่าถูกใครสักคนสั่งเก็บเพื่อไม่ให้มีการซัดทอด ส่วนไอ้เวรที่สู้กับเขามันชื่อไวท์ มันยังไม่ตายแต่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะเอาคืน มันน่าจะกำลังรักษาตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งเช่นเดียวกันกับเขา มันอยากวัดฝีมือกับเขาวันนั้นมันไม่ได้สนใจฟีนด์ด้วยซ้ำ“หมอบอกว่าพี่จะได้ออกวันไหน?” เขาหันไปถามเมียที่กำลังนั่งปอกเปลือกผลไม้อยู่ “ถ้าอาการดีกว่านี้ก็น่าจะออกอาทิตย์หน้ามั้ง” ผัวถามแบบนี้ครั้งที่เท่าไรแล้วนะ “พี่เบื่อ!” “ทนๆให้หายดีก่อน” “ที่นี่มันน่าเบื่อ! มองไปทางไหนก็น่าเบื่อไม่มีอะไรเจริญหูเจริญตาสักอย่าง แล้วคนอื่นล่ะ?” “เห็นว่าจะมาเยี่ยมวันนี้แหละอีกเดี๋ยวคงถึง” “ฟีนด์รู้ไหมเราอยู่ที่ไหน?” “ใจกลางเมืองเลย” “แบบนี้ขโมยรถสักคันหนีน่าจะง่าย” “พี่บลูม!!” “เรียกซะดังเลย!” “พี่ไม่เข็ดบ้างเลยรึไงห่ะ!?” “เข็ดอะไร?” “ก็ที่เป็นอยู่นี่ไง!” “ก็ยังไม่ตายสักหน่อย!” “ถ้าหากพี่หนีออกจ
เกรย์ แฮม โจ เคน เฟย และไค เดินมาตั้งใจจะเยี่ยมบอสและบอกให้คุณหนูรู้ว่าคุณท่านมาถึงแล้ว แต่ว่าภาพที่เห็นมันชัดเจนเลยว่าไม่ควรจะเข้าไปขัดจังหวะใดๆทั้งสิ้น คุณหนูจับมือพี่บลูมจูบซ้ำๆไม่หยุดแล้วร้องไห้ออกมาตลอด บางครั้งก็ซบไปใบหน้าลงบนเตียงแล้วยกแขนกอดเอาไว้ เรื่องอาการบาดเจ็บหนักจนอาจจะไม่รอดรู้จากหมอแล้ว เรื่องที่บอสทำเพื่อช่วยชีวิตลูกน้องก็รู้แล้วเช่นกัน เป้าหมายหลักของพวกมันคือคุณหนูฟีนด์ แต่คนที่มันอยากฆ่าคือบอสคนเดียว “หรือว่าคุณหนูจะรักบอสจริงๆวะ?” เคนถามเสียงแผ่วเบาด้วยความสงสัย“นั่นดิ! เมื่อวานก็ไม่ได้คุยกันเลย วันนี้เกือบตายก็ยังไม่ได้คุยสักคำอีก” ไคบอกเพิ่ม“ไม่ตายเว้ย! นายน้อยของกูไม่มีทางตายหรอก!” โจรีบแย้งออกมาแล้วเม้มปากแน่นข่มน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา พวกเราทั้งสี่คนรู้ดีว่าหัวหน้าวางแผนมาเป็นอย่างดีและพยายามช่วยชีวิตขนาดไหน ตั้งแต่ทำงานเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายด้วยกันมาถึงสี่ปีผ่านเรื่องเลวร้ายนับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่บอสจะทิ้งลูกน้องให้ตายโดยไม่พยายามช่วย “นายน้อย…หมายความว่าไงวะโจ!?” ไคขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัยและตกใจมาก“ก็…เมื่อก่อนเรารู้ว่านายน้อยคือคนออกแบบทุก
“พี่บลูม!!”“เร็วๆสิโจ!!” ในวินาทีนั้นที่เราสบตากันเขายิ้มกว้างให้ก่อนจะถูกยิงแล้วล้มตัวลง แต่ก็ไหวตัวหลบอีกฝั่งทันก่อนจะถูกกระสุนอีกนัดปลิดชีพเอาได้ถ้าช้าสักวินาที เลือดของเขาไหลทะลักออกมาแต่ยังแข็งใจฝืนลุกขึ้นเพื่อจะปกป้องเธอให้ได้ ตัวเขาโชกไปด้วยเลือดและบาดแผล เขายิงคนที่มันวิ่งมาทางเธอแม่นเหมือนจับวางพร้อมกับหลบอีกคนที่พุ่งเป้าจะเอาชีวิตเขาอย่างเดียว เธอมองไปทางโจอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงรถดังขึ้นและแล่นมาทางนี้ด้วยความเร็วมาก เอี๊ยด!!“ขึ้นรถเร็ว!!”“ไปเอาพี่บลูมมาเดี๋ยวนี้!!”“เกาะแน่นๆนะคุณหนู”“ชิ่งเต็มที่เลยโจ” ทางด้านบลูมยืนแสยะยิ้มจ้องมองไอ้เวรที่อึดได้ใจขนาดโดนยิง โดนกระทืบจมตีนจนกระอักเลือดออกมายังลุกขึ้นไหว ถูกเขาจับทุ่มลงพื้นถนนก็ยังรอด สภาพมันโซซัดโซเซใกล้จะตายเต็มทนแล้วแหละ ตัวเขาถูกรุมนั่นเลยไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะบาดเจ็บหนักและเสียสมาธิจากการหันไปมองเมีย พวกลูกน้องมันพุ่งเป้าไปหา เขาหยิบปืนมายิงคุ้มกันให้กับเมียกับลูกน้องและพลาดโดนยิง “กูไม่มีทางให้ครั้งนี้มึงหนีไปหรอก!!” “งั้นมึงก็ผ่านไอ้นี่ไปให้ได้สิ!”“ไอ้เหี้ยเอ้ย!!” บลูมหัวเราะออกมาเมื่อเห็นสีหน้าตกใจของมัน
แฮมนั่งรถไปกับเฟยพร้อมกับนักฆ่าฝีมือยอดเยี่ยมที่มีค่าตัวสูงจากเดอะมิราเคิล เคนนั่งรถไปกับไคพร้อมกับนักฆ่าสาวเช่นกัน ส่วนโจนั่งรถมาพร้อมกับบลูมและด้านหลังคือคุณหนู เกรย์จะเป็นคนติดต่อหาทางช่วยเหลือทุกคนเมื่อเกิดเรื่องขึ้นและอัพเดทสถานการณ์ต่างๆด้วย งานนี้ไม่ว่าจะไปทางไหนล้วนเจอแต่นักฆ่าที่จ้างมาเพื่อเอาคืนและชิงตัวคุณหนูฟีนด์ไปเพราะต้องการเค้นคอเอาทุกหลักฐานที่ยังเหลืออยู่ไปทำลายทิ้งให้สิ้นซาก แต่ละคนฝีมือดีเยี่ยมทั้งนั้นยิ่งไว้ใจไม่ได้เลยทุกอย่างถูกวางแผนมาเป็นอย่างดี แต่อีกฝ่ายก็วางแผนมาเป็นอย่างดีเช่นกัน หลังจากเตรียมทางหนีให้ท่านที่เป็นเหมือนพ่อแล้วถึงได้มาที่นี่เพื่อเอาคืน ไวท์คือมือขวาที่จัดการงานด้านมืดให้แทบทั้งหมด กุมความลับหลายอย่างเอาไว้และเคยปะทะฝีมือกับหัวหน้าบอดี้การ์ดร่างใหญ่นั้นมาก่อนจนอาการสาหัส ในตอนนี้ก็ยังไม่หายดี แต่จิตใจมันร้อนลุ่มอยากปะทะอีกครั้งต่อให้ตายก็ยอมขอเพียงแค่ได้สัมผัสถึงฝีมือชั้นยอดที่หาได้ยากอีกสักครั้งก่อนจะมีใครต้องตายไป โลกนี้มีคนฝีมือระดับนี้อยู่ไม่มากนั่นทำให้เจอได้ยากเขามองผ่านกล้องส่องทางไกลแล้วยิ้มกว้างออกมาเมื่อเห็นรถซีดานขับออกไปคนละเส
บลูมมองตามเมียที่เดินไปด้วยความงงมากว่าเกิดอะไรขึ้น เธอมองแหวนที่นิ้วแล้วทำหน้าเศร้าเหมือนเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น วันนี้เขายังไม่ได้ดุหรือบ่นอะไรสักคำเลยนะ หรือว่าเธอเหนื่อยกับการฝึกฝนจนไม่อยากจะมองหน้าคนออกแบบอย่างเขา ในเวลานี้ถ้าจะตามไปที่ห้องคงดูไม่ดีแน่นอน อยู่ดีๆก็โดนเมียเคืองเฮ้อ…แล้วจะง้อเมียยังไงดีวะตอนค่ำเราออกมากินอาหารข้างนอก แล้วต่อที่บาร์เพื่อคลายเครียดก่อนจะถึงวันพรุ่งนี้ที่ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง บลูมมองเมียที่มองแหวนแล้วทำหน้าเศร้ามาก เขาชวนคุยเธอก็คุยแต่ไม่เหมือนเดิม เธอถอนหายใจใส่ จ้องหน้าด้วยความไม่พอใจบ่อยครั้ง เขาหยอกก็ไม่สน เขากวนประสาทก็ไม่หัวร้อน สุดท้ายเขานั่งดื่มแล้วมองเมียที่ทำหน้าเศร้าทั้งที่ตอนนี้ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่รู้เลยว่าเมียโกรธเรื่องอะไรกันอยู่เธอไม่ยอมคุยกับเขาดีๆถ้าหากว่าเธอกังวลเรื่องวันพรุ่งนี้มันไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกเพราะเราทุกคนรู้ว่ามันจะมีการปะทะแน่นอน ไม่มีใครรู้ว่ามันจะมามุกไหน แล้วมีคนขายข่าวให้มันรึเปล่าว่าการประชุมครั้งนี้จัดที่นอกเมือง เมียเครียดไปก่อนแทนที่จะผ่อนคลาย ยังไงเขาก็ไม่มีทางยอมให้ใครมาทำร้ายเมียได้ง่ายๆเด็ดขาด ถ้ามัน
เช้าวันต่อมาฟีนด์นอนอมยิ้มบนเตียงนุ่มเพราะผัวยังอยู่ด้วย ตั้งแต่เขากลับมาจากโรงพยาบาลเราแทบจะไม่ได้นอนกอดกันเพราะเขาต้องเคลียร์งานเยอะมาก เธอเองก็ต้องเคลียร์งานเยอะมากเช่นกัน เวลาของเราในช่วงนี้ค่อนข้างหนักหน่วงจนบางครั้งอยากจะงอแงแล้วทิ้งงานไปดื้อๆ แต่พอเห็นพี่บลูมที่รักษาตัวยังไม่หายดีแต่กลับมาทำงานชนิดที่ลืมวันลืมคืน เขาวางแผนสารพัดอย่างเพื่อดูแลเธอและพ่อแม่ไม่ให้ใครมาทำร้ายได้ง่ายๆทั้งที่ตัวเองบาดเจ็บขนาดนั้น เห็นแบบนั้นแล้วงี่เง่างอแงไม่ลงจริงๆ เขาบอกว่าทำทุกอย่างเพื่อเธอปลอดภัย เธอจะสร้างปัญหาไม่ได้เขาหลับสนิทและกอดเธอไม่ปล่อยเลย เขาไม่เปลี่ยนไปจากวันคืนที่เราอยู่ด้วยกันสักเท่าไร วันนี้รู้สึกดีกว่าเมื่อวานมากหลายเท่า เธอขยับตัวเบาๆเพราะกลัวว่าเขาจะตื่นนอน ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดกล้องแอบถ่ายรูปคนบ้างานเก็บเอาไว้ดูแก้คิดถึงในช่วงเวลาที่เราไกลกันเขามาช่วยเธอก่อนจะกลับไปเคลียร์งานเขามีความรับผิดชอบเสมอพี่บลูมดีไปทุกมุมมองเลยทั้งที่ยังหลับอยู่ ผิวกายของเขาไม่ได้มีสีผิวที่สม่ำเสมอกันซึ่งมันก็ไม่แปลกหรอก เขาเล่นลุยทุกอย่างแบบท้าแดดท้าลมและไม่สนใจสภาพอากาศขนาดนั้น ตามตัวมีรอย