แชร์

บทที่ 16

ผู้แต่ง: เอเวอร์กรีน ฉิน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“เจ้าสาวอะไรเหรอ?” โดโรธี ถาม

คุณหนูเอ็มม่ายิ้มและพูดว่า “เธอไม่รู้เรื่องเลยจริง ๆ เหรอ? น่าทึ่งมาก! แล้วพบกันเร็ว ๆ นี้นะ ยังไงก็ขอแสดงความยินดีล่วงหน้าด้วยแล้วกัน!”

สายตาของโดโรธีและอเล็กซ์สบตากัน พวกเขารู้ว่าต้องมีอะไรบางอย่างที่ไม่ดีกำลังจะเกิดขึ้นแน่ ๆ

อเล็กซ์รู้สึกไม่ค่อยดีเมื่อเห็นสปาร์คอยู่ในห้องโถง

นี่ก็เกือบจะสี่ทุ่มแล้วและมีผู้คนจำนวนมากอยู่ในห้องจัดเลี้ยง

คุณท่านโจแอนน์กับแก้มที่มีสีเลือดฝาดในชุดสีขาวดั่งพระจันทร์ที่ยืนอยู่ใต้แสงไฟ

เธอยื้นแขนทั้งสองข้างของเธอออกและทุก ๆ คนในห้องโถงก็เงียบ

“วันนี้เป็นวันครบรอบสิบห้าปีของการก่อตั้งแอสเส็กซ์ ดิฉันขอขอบคุณหุ้นส่วนทางธุรกิจของพวกเราสำหรับการเข้าร่วมของคุณในค่ำคืนนี้”

แปะ...แปะ... แปะ… (ปรบมือ)

ฝูงชนต่างพากันปรบมือ

“ตามปกติแล้วกิจกรรมของเราในวันนี้คือรุ่นเล็กของตระกูลแอสเส็กซ์จะได้รับรางวัลตามผลงานของพวกเขา แต่ครั้งนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเพราะวันนี้เรามีผู้ชนะเพียงคนเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ...”

คุณท่านโจแอนน์ตั้งใจที่หยุดชั่วขณะ

จากนั้นแสงก็ส่องไปที่ โดโรธี

“โดโรธี! หลานสาวคนสวยของฉัน”

“โดโรธีได้เซ็นสัญญามูลค่าพันล้านดอลลาร์กับกลุ่มบริษัทเธาซันด์ ไมล์ จึงทำให้เธอเป็นผู้ชนะการแข่งขันสำหรับในปีนี้!”

“โดโรธีหลานทำได้ดี ย่าภูมิใจในตัวหลานมาก ตอนนี้ขึ้นมาบนเวทีเถอะ”

ในขณะนี้โดโรธีกลายเป็นศูนย์กลางของความสนใจ

ด้วยใบหน้าที่ผสมผสานระหว่างนางฟ้าและปีศาจ โดโรธีจึงดูเหมือนสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์และมีเสน่ห์ทางเพศ

โดโรธีหน้าแดง เธอจับมืออเล็กซ์แล้วเดินไปบนเวที

อเล็กซ์อยากจะปล่อยมือแต่เธอจับไว้แน่นมากและพูดว่า “คุณสมควรได้รับเครดิตทั้งหมดนี้ คุณควรมากับฉันนะคะ”

“ได้เลย!”

อเล็กซ์จับมือเธอ

เห็นแบบนี้ทำเอาผู้ชายหลาย ๆ คน หน้าเขียวด้วยความอิจฉา

สุดท้ายพวกเขาก็ขึ้นไปบนเวที

คุณท่านโจแอนน์มองอเล็กซ์อย่างงงงวย “ฉันเรียกแค่โดโรธีเท่านั้นไม่เกี่ยวกับขยะอย่างนาย ทำไมนายถึงมาอยู่ตรงนี้”

โดโรธีรีบพูดขึ้นว่า “คุณย่าคะ อเล็กซ์เป็นเหตุผลที่ทำให้เราได้เซ็นสัญญากับกลุ่มบริษัท เธาซันด์ ไมล์ เขาเป็นคนช่วยหนูค่ะ โครงการนี้ถ้าไม่มีเขา หนูก็ไม่สามารถดำเนินโครงการมูลค่าพันล้านดอลลาร์นี้ได้สำเร็จ”

คุณท่านโจแอนน์มองอเล็กซ์ด้วยสายตาเย็นชา “นายแน่ใจเหรอ?”

อเล็กซ์พยักหน้า “ใช่ครับคุณท่าน”

คุณท่านโจแอนน์หัวเราะ “อเล็กซ์นายมันคนไร้ค่า ทำไมนายถึงไร้ยางอายได้ขนาดนี้ที่จะมารับเครดิตเกี่ยวกับเรื่องสัญญาพันล้านดอลลาร์กับบริษัท เธาซันด์ ไมล์ เป็นของนายทำอย่างนั้นเหรอ? มันจะเป็นไปได้ยังไง?”

โดโรธีพูดอย่างกังวลใจ “คุณย่าคะ สิ่งที่เขาพูดมันคือเรื่องจริงค่ะ”

“ไร้สาระสิ้นดี”

คุณท่านโจแอนน์พูดประชดประชันว่า “โดโรธี หลานถูกหลอกโดยคนหลอกลวงคนนี้ หลานรู้ถึงความหมายเบื้องหลังสัญญาพันล้านดอลลาร์นี้ไหม? มันเป็นของขวัญสำหรับงานแต่งงานของหลาน จากนายน้อยสปาร์ค ผู้อำนวยการหนุ่มของ ร็อคกี้เฟลเลอร์ กรุ๊ป! เมื่อวานนี้ฉันได้เห็นและได้ยินกับตาและหูของฉันเอง ที่เซ็นสัญญาด้วยความช่วยเหลือของคุณท่านบิล ร็อคเฟลเลอร์ หัวหน้าครอบครัว ร็อคกี้เฟลเลอร์ แล้วอเล็กซ์แกกล้าดียังไง?”

ทั้งอเล็กซ์และโดโรธีตะลึง

ในขณะที่แขกที่เหลือในห้องจัดเลี้ยงต่างพากันส่งเสียงหัวเราะ

จากนั้นนายน้อยสปาร์คก็เดินออกมาในชุดอาร์มานี่ที่ดูเท่ห์

เขายืนอยู่ตรงหน้าอเล็กซ์อย่างภูมิใจ

“ทำไมนายถึงไร้ยางอายขนาดนี้ อเล็กซ์? เมื่อสองวันก่อน นายให้สร้อยที่เรียกว่า รักแห่งเมืองปฏิหาริย์ แก่โดโรธี หลังจากนั้นนายก็กระจายข่าวลือเกี่ยวกับท่านแกสตัน เกตส์ ที่ได้รับการดูแล แย่มาก! ละตอนนี้นายยังจะได้รับเครดิตสำหรับสัญญานี้อีกงั้นเหรอ?

จากนั้นคุณนายแคลร์ก็ปรากฏตัว

ยังไม่ทันได้พูดอะไร เธอก็ตบหน้าอเล็กซ์อย่างแรงและจึงตะโกนว่า “แกมันช่างน่าขายหน้า! แกเป็นใครกันที่จะเอาสัญญามูลค่าพันล้านดอลลาร์ของโดโรธี แกมั่นใจมากพอด้วยคำโกหก! แกมันไร้ค่า! แกไม่สมควรที่จะมาเป็นลูกเขยของฉัน!”

อเล็กซ์ไม่คาดคิดว่า สปาร์คจะไร้ยางอายได้ถึงขนาดนี้

เขากล้าพูดเรื่องไร้สาระต่อหน้าแขกทุกคนได้อย่างไร

แต่สิ่งเดียวที่เขาสนใจคือโดโรธี ใบหน้าของโดโรธี ซีดลงและดวงตาของเธอก็ไร้วิญญาณ เขารีบพูดว่า “โดโรธี คุณอย่าไปเชื่อคำที่เขาพูดนะ เขาโกหกผมพิสูจน์ให้คุณเห็นได้ว่าสัญญาพันล้านดอลลาร์นั้นเป็นของผม”

“คนสารเลว!”

จากนั้นชายชราคนหนึ่งก็ลุกขึ้นมา

ท่านบิล ร็อคกี้เฟลเลอร์ เขาเป็นหัวหน้าครอบครัวร็อคกี้เฟลเลอร์

“คุณ... คุณปู่”

อเล็กซ์มองไปที่ คุณท่านบิล ร็อคกี้เฟลเลอร์ ด้วยความตกใจ เขาไม่คาดคิดว่า คุณท่านบิล ร็อคกี้เฟลเลอร์จะอยู่ที่นี่

“ไอ้คนสารเลว ฉันไม่ใช่ปู่ของแก!” คุณท่านบิล ชี้ไปที่อเล็กซ์และดุว่า “แกเป็นคนทำให้ร็อคกี้เฟลเลอร์ต้องขายหน้า สัญญาพันล้านนั้นชัดเจนว่าฉันมอบให้กับแอสเส็กซ์เป็นของขวัญแต่งงาน และมันไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับแก แกมันขยะ! แกมันไม่สมควรเป็นร็อคกี้เฟลเลอร์! ไสหัวไปซะ!

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 17

    คุณท่านบิล ร็อคกี้เฟลเลอร์ ทำให้อเล็กซ์รู้สึกอับอาย เขานึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสิบเดือนที่แล้วซึ่งวิลเลียมพ่อของเขาก็ต้องอับอายเช่นกัน เขาพูดว่า “คุณปู่ ทำไมคุณต้องโกหกด้วย? ผมไม่เข้าทั้งวิลเลียมและผมเป็นครอบครัวของคุณ แต่ทำไมเราถึงดูขวางหูขวางตาของท่านนัก?” “ทำไมงั้นเหรอ? ก็เพราะแกทั้งคู่เป็นคนสร้างแต่ความเสื่อมเสียให้กับผู้คนไงล่ะ!” พึมพำ อเล็กซ์รู้สึกใจสลายราวกับมีดแทงทะลุมันลงไป น้ำตาไหลอาบแก้ม “โดโรธี ได้โปรดเชื่อผม ผมไม่เคยโกหก” อเล็กซ์มองไปที่โดโรธีด้วยสายตาที่อ้างว้างและทำอะไรไม่ถูก แต่โดโรธีกลับตบหน้าเขาและพูดทั้งน้ำตาว่า “คุณทำให้ฉันรู้สึกผิดหวัง ฉันคิดว่าคุณจะเปลี่ยนแล้ว แต่คุณกลับดูน่ารังเกียจและไร้ยางอายมากกว่าเดิม คุณมันคนโกหกที่แย่มาก ฉันไม่ไหวกับคนอย่างคุณแล้ว” เธอถอดแหวนแต่งงานโยนใส่อเล็กซ์ แหวนโดนที่ใบหน้าของอเล็กซ์ แล้วกลิ้งลงไปกับพื้น ใบหน้าของอเล็กซ์เปลี่ยนเป็นสีซีด คำพูดของโดโรธีดังอยู่ในหูของเขา เธอเคยบอกอเล็กซ์ว่าจะไม่มีทางที่จะใส่แหวนวงนั้นกลับไปที่นิ้วของเธอ ถ้าหากในวันหนึ่งเธอถอดมันออกไปอีกครั้งการดูถูกเหยียดหยามและการดูถูกจาจากแขกเป็

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 18

    “อะไรนะ? จริง ๆ แล้วท่านเล็กซ์พูดกับเขาในฐานะนายท่านอย่างนั้นเหรอ?” “อเล็กซ์ไม่ใช่คนที่ถูกขับไล่โดยตระกูลร็อคกี้เฟลเลอร์หรอกเหรอ? เขาจะเกี่ยวข้องกับท่านเล็กซ์ผู้ที่มีมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ได้อย่างไร?” “อเล็กซ์เป็นเจ้าของบริษัทเธาซันด์ ไมล์ งั้นเหรอ? ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงเขาอาจจะเป็นคนที่รวยที่สุดในแคลอฟอร์เนียหรือจะเรียกได้ว่า รวยที่สุดในอเมริกาเลยก็ว่าได้” “โอ้พระเจ้านั่น เป็นข่าวใหญ่มาก มันวิเศษมาก” ทุกคนพากันตื่นตะลึง พวกเขากระซิบกันขณะที่มองขึ้นไปบนเวที ทั้งครอบครัวแอสเส็กซ์ตกตะลึง ร่างกายของคุณท่านโจแอนน์กำลังสั่นสะท้าน ดวงตาของคุณนายแคลร์วิ่งขึ้นมาจากหัวของเธอด้วยความประหลาดใจ โดโรธีปิดปากของเธอ เธอรู้สึกงงงวย อเล็กซ์มองไปที่ท่านเล็กซ์อย่างรู้สึกว่างเปล่าและถามว่า “ท่านเล็กซ์ คุณมาที่นี่ทำไม?” ท่านเล็กซ์ตอบว่า “นายท่านอเล็กซ์ ผมได้ยินเกี่ยวกับงานเลี้ยงประจำปีของตะกูลแอสเส็กซ์ ผมเลยมาเพื่อแสดงความยินดีและขณะเดียวกันก็มามอบสัญญาพันล้านดอลลาร์ แต่ไม่คิดว่าจะได้เห็นสิ่งนี้” อเล็กซ์มองไปที่โดโรธีและยิ้มอย่างขมขื่น “ผมขอโทษสำหรับสิ่งที่คุณได้เห็น” เขารับสัญญาม

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 19

    ท่านแกสตัน คุกเข่าต่อหน้า คุณหนูโดโรธี ทันที “คุณหนูร็อคกี้เฟลเลอร์ ผมขอโทษ ผมขอให้คุณให้อภัย ผมตาบอดเพราะความโลภของผมและเอาเงินสิบห้าล้านดอลลาร์จาก สปาร์ค ไปทำการประมูลเพื่อจงใจให้เขาแสดงตัวราวกับว่าเขาเป็นฮีโร่ เขาต้องการแย่งคุณไปจากนายน้อยอเล็กซ์ ผมผิดไปแล้ว โปรดยกโทษให้ผมด้วย” ดวงตาของโดโรธีเต็มไปด้วยน้ำตาและเธอไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้ ขวับ! ท่านจอห์น คว้าสร้อยคอคุณนายแคลร์อย่างแรงแล้วโยนลงพื้นเพื่อทำลายมัน และพูดว่า “นี่เป็นการปลอมแปลงสร้อยคอ รักแห่งเมืองปฏิหาริย์ ของเรา ไม่เพียงแค่ผิดกฎหมาย แต่ยังเป็นการดูถูกบริษัทของเราอีกด้วย” ทุกคนตกใจกับการเปิดเผยทุกสิ่งที่ นายน้อยสปาร์ค พูดนั้นเป็นเรื่องโกหก คำกล่าวอ้างที่ไร้สาระทั้งหมดของอเล็กซ์เป็นเรื่องจริง แต่ทุกคนก็ยังสงสัยในตัวเขา ในขณะนั้นเอง อเล็กซ์รู้สึกท้อแท้ จิตใจของเขาเต็มไปด้วยภาพของโดโรธีพยักหน้ากับคำขอแต่งงานของสปาร์ค เขาปาดน้ำตาก่อนจะออกจากโรงแรมอย่างรวดเร็ว โดโรธีทุกข์ใจมากจนหายใจแทบไม่ออก คำสัญญาก่อนหน้านี้ของอเล็กซ์ดังขึ้นใจใจของเธอ “ผมเป็นหนี้คุณมากเกินไปในช่วงสิบเดือนที่ผ่านมา ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อต

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 20

    อเล็กซ์เหมือนถูกแช่แข็ง เธอน่าทึ่งมากและความงามของเธอไม่ได้ซีดเซียวเมื่อเทียบกับโดโรธี แต่ร่างกายของคุณหมอเชอริลนังดูยั่วยวนกว่า อเล็กซ์รู้สึกเหมือนกำลังฝัน เขาคิดกับตัวเองว่า ‘หรือว่าเธอจะรู้ว่าสร้อยคอนั้นเป็นของแท้และมีมูลค่าถึงสามสิบล้านดอลลาร์? บางทีเธออาจจะเงียบ ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ตอนนี้กำลังไล่ตามเราอย่างจริงจัง!’ ขณะที่อเล็กซ์กำลังครุ่นคิดเขาสงสัยว่าถ้าคุณหมอเชอริลเหงาสำหรับคืนนี้ เขาควรจะเห็นด้วยกับคำชวนของเธอดีไหม? ในขณะที่เขานึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้หัวใจของเขาอยู่ในความปวดร้าวและเขาก็ไม่สามารถเอาชนะมันได้ เขาจึงตัดสินใจที่จะยอมรับคำชวนของคุณหมอเชอริล คุณหมอเชอริลกล่าวว่า “คืนนี้ฉันมีงานเลี้ยงอาหารค่ำรวมตัวเพื่อนร่วมชั้นเรียนและมีผู้ชายคนหนึ่งตามตื๊อฉันมาระยะหนึ่งแล้ว ฉันคิดว่าเขาน่ารำคาญ ฉันอยากให้คุณแกล้งเป็นแฟนของฉันและทำให้เขาเลิกตอแยฉันสักที คุณยินดีที่จะช่วยฉันไหมคะ?” อเล็กซ์สะดุ้งเล็กน้อย แต่ตอบอย่างยิ้ม ๆ ว่า “ผมเข้าใจแล้วว่านี่เป็นเพียงแค่การกำจัดตัวก่อกวน ได้ครับผมจะช่วยคุณเอง” เขามองร่างการที่เย้ายวนของเธอและร็สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็โล่งใจ เขาค

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 21

    ในทันใดนั้นอเล็กซ์ก็รู้สึกถึงความสุขที่เกิดขึ้น ลึก ๆ ในใจของเขา เขาคิดว่าเมื่อพระเจ้าปิดประตูหนึ่งแต่ก็ยังเปิดอีกประตูหนึ่งให้ เชอริลต้องการที่จะออกไป แต่เธอขยับไม่ได้สักนิ้ว เธอรู้สึกเขินและหน้าแดง เมื่อพวกเขามาถึงชั้นหนึ่งก็เดินออกจากลิฟต์ คุณหมอเชอริลจ้องมองไปที่เขาและกระซิบว่า “อย่าคิดที่จะแต๊ะอั๋งฉันล่ะ” อเล็กซ์รู้สึกเสียใจและพูดว่า “เชอริล นั้นไม่ใช่ความผิดของผมนะ” เป็นเวลาห้าโมงครึ่งพวกเขาก็มาถึงที่ร้านอาหารอุระซาว่า มีลูกค้าไม่มากในร้านอาหาร แต่รถที่จอดอยู่ที่หน้าร้านอาหารล้วนเป็นรถหรูและระดับสูงซึ่งเป็นรถยนต์ที่มีมูลค่าหลายสิบล้าน “ร้านอาหารอุระซาว่าเป็นร้านอาหารที่แพงเป็นอับดับสองในการรับประทานอาหารในแคลิฟอร์เนีย” “ดูเหมือนว่าคุณจะมีเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่ร่ำรวยถึงได้นัดกันมารวมตัวกันที่นี่!” อเล็กซ์กล่าวด้วยรอยยิ้ม คุณหมอเชอริลหน้ามุ่ย “คนที่เชิญเรามาที่นี่ก็คือผู้ชายคนที่ฉันไม่ชอบมากที่สุดและคืนนี้คุณจะต้องจัดการเขาให้ได้!” “ได้เลย” อเล็กซ์ตอบ เขารู้ว่าผู้ชายที่เธอพูดถึงคือคนที่แอบชอบเธอ ในเวลานั้นเองก็มีคนจากด้านหลังตะโกนว่า “เชอริล!” อเล็กซ์เห็นชาย

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 22

    เชอริลกับดวงตาที่งดงามของเธอซบหัวไปที่ไหล่ของอเล็กซ์พร้อมกับรอยยิ้ม “อืมใช่ อเล็กซ์เป็นแฟนของฉัน เธอคิดว่าไง? ระหว่างเราสองคนเป็นยังไงเหรอ? คุณหมอเชอริลสวยมาก ผู้ชายหลายคนคงใฝ่ฝันที่จะมีภรรยาแบบเธอ ทุกการเคลื่อนไหวของเธอสะกดหัวใจของผู้ชายทุกคนในห้อง เบนจามินมองดูอเล็กซ์ด้วยควาดเกลียดชังราวกับว่าเขาสามารถฆ่าอเล็กซ์ได้ด้วยสายตาของเขา คนอื่น ๆ ในห้องต่างสับสนและมองไปที่เบนจามิน จากนั้นชายคนนั้นก็กระโดดออกมาแล้วพูดว่า “เธอล้อเล่นใช่ไหมเชอริล แม้แต่คนตาบอดยังสารมารถเห็นได้ว่าเบนจามินมีความรู้สึกจริงจังกับเธอ เธอจะเลือกใครก็ไม่รู้ แทนที่จะเลือกเบนจามินได้อย่างไร?” บางคนในห้องก็พยักหน้าเห็นด้วย “ใช่เขาพูดถูก เบนจามินเป็นผู้อำนวยการหนุ่มของโกลเด้น ไลท์ กรุ๊ป บริษัทเขามีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ใครแต่งงานกับเขาอยู่ได้แบบสุขสบายไปตลอดชีวิต แล้วชายคนนี้ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอ คือใครกัน การแต่งตัวก็ไม่ดี ถ้าเขาทำงานในไซต์ก่อสร้างเขาจะคู่ควรกับนางฟ้าอย่างเธอได้อย่างไร?” “ฉันยังดีกว่านายมาก ถ้าฉันยังไม่ควรได้รับโอกาสที่จะได้เป็นแฟนของเชอริล แล้วนายจะสมควรได้รับมันได้อย่างไร?” “เลิกล้อเล

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 23

    ขณะที่เบนจามินเห็นคุณหมอเชอริลและอเล็กซ์กำลังเพลิดเพลินกับอาหารค่ำเขาก็มองไปที่อเล็กซ์ด้วยสายตาที่ดุร้าย เหตุผลหลักที่เบนจามินตั้งใจจะจัดงานรวมตัวกันครั้งนี้ก็คือต้องการตามตื๊อเชอริล เขาทนไม่ได้ที่จะเห็นคุณหมอเชอริลและอเล็กซ์มีความสุขกับช่วงเวลาอันแสนหวานของพวกเขาในมื้อค่ำ พวกขี้ประจบสอพอของเบนจามินสังเกตเห็นความโกรธแค้นของเขา จากนั้นพวกเขาก็หันไปมองที่คุณหมอเชอริลและอเล็กซ์ บริทนีย์กล่าวว่า “เฮ้ นายชื่ออเล็กซ์ใช่ไหม นายไม่เคยชิมอาหารอร่อยแบบนี้มาก่อน นายมักกินอาหารกลางวันที่ไซต์ก่อสร้างล่ะสิ? นายทำงานอะไรเหรอ? หลังจากที่อเล็กซ์กลืนเนื้อเสร็จเขาก็ตอบว่า “ผมไม่ได้ทำงานก่อสร้าง ผมว่างงานอยู่” ทุกคนหัวเราะ เบนจามินมองไปที่คุณหมอเชอริลด้วยความคิดลึก ๆ ในใจ เนื่องจากเบนจามินตามคุณหมอเชอริลมาหลายปีแล้ว เขาจึงรู้ว่าคุณหมอเชอริลเป็นคนมีจิตใจโอบอ้อมอารี เธอมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในการเลือกคู่ครองที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง คุณหมอเชอริลจะไม่เลือกคนที่ต่ำต่อยทางสังคมอย่างเช่นอเล็กซ์มาเป็นคู่ชีวิตของเธอแน่ เบนจามินคิดว่าบางทีคุณหมอเชอริลกับอเล็กซ์กำลังพยายามทดสอบความอดทนของเขา ดังนั้นเข

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 24

    “บริทนีย์ เกิดอะไรขึ้น?” เบนจามินขมวดคิ้วขณะที่เขายืนขึ้นและถาม บริทนีย์พยายามปกปิดเสื้อผ้าที่ขาดจนเห็นผิวหนังของเธอ เธอชี้ไปที่ชายวัยกลางคนที่เดินเข้ามาและตะโกนว่า “ไอ้นั่นมันลวนลามฉัน” ชายคนนั้นตะโกนอย่างโกรธเกรี๊ยว “ยัยสารเลว ใครลวนลามเธอ เร็วเข้า เอาของฉัน...” ก่อนที่เขาจะพูดจบ ดีแลน มิเนตต์ ผู้ประจบของเบนจามิน ก็กระโดดเตะชายวัยกลางคนเข้าที่อก ชายคนนั้นล้มลงกับพื้น “ให้ตายสิ! ใครปล่อยไอ้บ้านี่มา ทำไมแกกล้าขืนใจบริทนีย์ ทำไมแกไม่ไปทำกับน้องสาวตัวเอง” ผู้ชายคนอื่น ๆ ก็ก้าวไปข้างหน้าเช่นกัน พวกเขาพากันรุมชกต่อยและเตะชายคนนั้น จากนั้นพวกเขาก็ไล่ชายคนนั้นออกจากห้องอาหาร ดีแลนหัวเราะและพูดว่า “แกมันไอ้ลูกนังสารเลว ให้ฉันสอนบทเรียนให้แก แกจะได้ไม่กล้าทำอีก!” “สุดยอดไปเลยดีแลน” ผู้คนต่างโห่ร้อง อเล็กซ์ส่ายหัว คนอื่นอาจจะไม่ได้สังเกตเห็น แต่เขาสังเกตเห็นว่าชายวัยกลางคนไม่ใช่คนธรรมดา ๆ เขาใส่เสื้อเชิ้ตสั่งทำด้วยมือจากอิตาลีที่มีกระดุมข้อมือดอกพลัมสีเข้มขนาดเล็ก พ่อของเขาเคยมีอยู่หนึ่งตัว เขารู้ว่ามันมีมูลค่าสามล้านดอลลาร์ สำหรับคนที่สามารถซื้อเสื้อตัวนี้ได้ก็คงจะไม่ใช

บทล่าสุด

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 200

    “คุณคิดว่าผมอยากรอจริง ๆ เหรอ? ค่าผ่าตัดอย่างน้อยก็ต้องหมดเกือบครึ่งล้าน อีกทั้ง ความเสี่ยงต่อการผ่าตัดก็สูงไม่น้อยเลยด้วย โอกาสรอดคือห้าสิบห้าต่อห้าสิบ ผมอาจจะตายระหว่างผ่าตัดก็ได้ ใครจะไปรู้ล่ะ? อีกอย่าง คุณเองก็รู้ว่าสภาพครอบครัวของผมเป็นยังไง ถ้ามีเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้นกับผม ทั้งแม่แล้วก็น้องสาวผมจะอยู่กันยังไง? แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความแล้ว ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ ผมมีพัสดุอีกเยอะต้องส่งตอนเที่ยงด้วย” เจ้าของร้านพลันถอนหายใจ พร้อมกับดวงตาเต็มซึ่งไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นโศกนาฏกรรมอีกเรื่องหนึ่ง “เดี๋ยวก่อน!” อเล็กซ์พูดขึ้น "นายเชื่อใจฉันไหมล่ะ?" ชายหนุ่มพลันนิ่งไปเกือบสามวินาที ทันใดนั้น เขาก็พลันเผยยิ้มและพยักหน้า "ฉันเชื่อ ในฐานะเพื่อนของคุณโยเวล คุณคงไม่มีเวลาว่างมาหลอกลวงคนต่ำต้อยอย่างผมหรอก” อเล็กซ์ยืนขึ้น “งั้นก็เชื่อใจฉัน แล้วฉันจะช่วยนายเอง” อเล็กซ์เดินเข้าไปและกางนิ้ว พร้อมกับวางนิ้วหนึ่งไว้เหนือขมับของชายหนุ่ม ตรงนั้นคือตำแหน่งของเนื้องอกซึ่งอยู่ใต้กะโหลกศีรษะของลุค ทันใดนั้น นิ้วของอเล็กซ์ก็ส่องประกายราวกับสีของหยก รา

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 199

    ในระหว่างนั้น ชายหนุ่มที่สำลักบะหมี่ก่อนหน้าก็หันกลับลงไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง "คุณหนูโยเวล... นักร้องสาวแห่งแคลิฟอร์เนีย? จริงเหรอ?” ทันใดนั้นเอง ใครสักคนก็แอบหยิบโทรศัพท์ออกมาและค้นหาชื่อของนักร้องสาวแห่งแคลิฟอร์เนีย ทว่า ทั้งรูปภาพและผลลัพธ์มากมายต่างก็ปรากฏขึ้นมา อันที่จริง มิเชลล์มักจะทำตัวเป็นเป้าสายตาของสาธารณะชน และไม่ได้พวกใจพวกปาปารัสซี่เท่าไหร่นัก อีกทั้ง คนในตระกูลโนเวลเองก็ไม่ได้สนใจในตัวมิเชลล์ด้วยเช่นกัน เธออยากจะเป็นอะไรก็เป็นไป ด้วยเหตุนั้น มันจึงเป็นเรื่องง่ายไม่น้อยเลยที่จะมองหาคนอย่างเธอ ไม่นานนัก ใครสักคนก็ตะโกนขึ้นมา... "มันเป็นความจริง! ทั้งหมดคือเรื่องจริง! เธอคนนี้คือคุณหนูโยเวลตัวจริงเสียงจริง คุณมิเชลล์ โยเวลยังไงล่ะ!” “ใช่แล้ว! ยังไงก็เถอะ คุณหนูโยเวลอุตส่าห์มากินสตูว์ถึงที่ร้านทั้งที ฉัน... ฉันชักอยากจะขอเธอถ่ายรูปหน่อยแล้วสิ” “นายตาบอดหรือยังไงกัน? ดูเธอสิ เธอกำลังโกรธอยู่นะ ทำไมถึงอยากเข้าไปขอเธอถ่ายรูปตอนนี้กันล่ะ?” หลังจากที่ชายคนนั้นตบตัวเองไปมากกว่าสิบครั้ง แจ็คก็พูดขึ้น "รู้จักผมด้วยงั้นเหรอ?" ชายคนนั้นพยักหน้า แจ็คถามขึ้นอีก

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 198

    อันที่จริง อเล็กซ์ต้องการที่จะรักษาแจ็คก็เพราะเขาช่วยตนในเรื่องเอกสาร ทันใดนั้น อเล็กซ์เผยยิ้มและกล่าวคำพูดออกมา “คุณเทรนต์ครับ การช่วยชีวิตใครสักคนอาจต้องใช้โชคชะตา แต่ถ้ามีกำลังสงสัยอะไรอยู่ ก็ไม่เป็นไรครับ คุณสามารถไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลได้ตลอดเวลาเลย แต่ยังไงเสีย คุณคงต้องรีบหน่อยแล้วแหละ เพราะนิ่วในไตของคุณตอนนี้อยู่ในตำแหน่งที่แย่มาก คุณอาจะติดเชื้อได้เลยล่ะ" ทว่า ทุกคนก็พลันหัวเราะออกมาอีกครั้ง 'นายไม่ได้ใช้เครื่องอัลตราซาวนด์หรือเครื่องเอ็กซ์เรย์เลยด้วยซ้ำ อีกทั้ง ชีพจรก็ไม่ได้ตรวจ นายจะรู้ได้ยังไงกันว่านิ่วในไตนั้นอยู่ในตำแหน่งดีหรือร้าย? นายมีดวงตาเอ็กซ์เรย์หรือยังไงกัน?' สำหรับคราวนี้ มิเชลล์เองก็พลันเบิกตากว้างเช่นกัน เธอเอาแขนพาดหน้าอกด้วยความสงสัย “อเล็กซ์ นายมีดวงตาเอ็กซ์เรย์ด้วยงั้นเหรอ?” อเล็กซ์ไม่สนใจเธอเลย ทว่า ไม่นานนัก แจ็คก็พูดขึ้น "คุณร็อคกี้เฟลเลอร์ครับ ผมเชื่อใจคุณ” ยังไงเสีย อเล็กซ์เองก็ไม่ได้จะใช้มีดผ่าตัดอยู่แล้ว ดังนั้น แจ็คจึงรู้สึกว่ามันก็คุ้มที่จะลอง อเล็กซ์ไม่พูดอะไรต่อ ไม่นานนัก เขาก็วางมือเอาไว้บนแผล พร้อมกับสอดพลังฉีเข้าไปในร่างกายของ

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 197

    ผู้หญิงที่พูดขึ้นนั้นนั่งอยู่ข้างหลังอเล็กซ์ ดูเหมือนว่าเธอจะอายุราวสามสิบปีแล้ว ผู้หญิงคนนั้นได้ยินการสนทนาของพวกเขาตั้งแต่เข้ามานั่งใกล้ ๆ แล้ว ผู้หญิงคนนั้นนั่งฟังพวกเขาตั้งแต่ตอนที่มิเชลล์บอกว่าเธอจะจับพริสซิลล่ามาอยู่บนเตียงของอเล็กซ์ ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกดูถูกเหยียดหยามทั้งสองอย่างถึงที่สุด อันที่จริง เธออยากจะเรียกตำรวจมาจับพวกเขาด้วยซ้ำ แต่ทว่า เธอก็รู้สึกโล่งใจที่อเล็กซ์ปฏิเสธข้อเสนอไป ต่อมา เธอก็ได้ยินทั้งสองพูดถึงบริษัทเธาซันด์ลีฟ เธอได้ยินมิเชลล์พูดว่าตัวเองนั้นสามารถขอใบอนุญาตได้เลยเพียงแค่เอ่ยวาจา และทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็แทบจะพ่นสตูว์เนื้อรสเผ็ดออกมาทางปาก อันที่จริง เธอเองก็เพิ่งรู้เรื่องเกี่ยวกับบริษัทเธาซันด์ลีฟ สามีของเธอขายวัสดุก่อสร้างอยู่ที่นั่น แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงตัวแทนจำหน่ายรายย่อยที่ทำงานภายใต้แฟรนไชส์ของรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่เธอก็รู้ดีว่าเจ้าของบริษัทเธาซันด์ลีฟก็คือตระกูลโยเวล ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในรัฐแคลิฟอร์เนีย อีกทั้ง บริษัทยังได้รับการโฆษณาเป็นอย่างดีอีกด้วย ทว่า สามีของเธอก็ได้แจกจ่ายวัสดุก่อสร้างอยู่ตั้งหลายร

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 196

    อันที่จริง เบียทริซเองก็กลัวว่าตัวเองจะไม่สามารถเอาชีวิตรอดในมหาวิทยาลัยได้หากจะต้องเปิดโปงพวกเขาทั้งสอง ทันทีที่ทั้งคู่มาถึงลานจอดรถ อเล็กซ์ก็ตระหนักได้ว่ามิเชลล์นั้นซื้อรถสปอร์ตสุดหรูแอสตันมาร์ตินสีแดงให้กับตน โครงสร้างสุดเท่ของรถสปอร์ตคนนี้ค่อนข้างทันสมัย ​​แต่มันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ขับผ่านถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่ออย่างแน่นอน “โทษทีนะ พอดีฉันหารุ่น M8 ที่นายต้องการไม่ได้เลยน่ะ ตอนนี้ไม่มีรุ่นนั้นเหลืออยู่ในแคลิฟอร์เนียเลยด้วย ยังไงก็เถอะ นายก็ใช้คันนี้พลาง ๆ ไปก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวถ้าของเข้าแล้ว ฉันจะไปซื้อรุ่น M8 มาคืนให้” 'ดูเธอสิ ช่างมีน้ำใจเหลือเกิน' เธอสามารถซื้อรถหรูราคาหลายแสนได้ราวกับว่าซื้อลูกโป่ง “ก็ได้!” อเล็กซ์ไม่เรื่องมากกับเรื่องรถยนต์อยู่แล้ว ทั้งสองเดินทางไปยังร้านอาหารสตูว์รสจัดจ้าน มิเชลล์นึกประหลาดใจ “นายอยากทำกับฉันแบบนี้จริง ๆ เหรอ?” อเล็กซ์ตอบกลับ “ตอนแรกฉันจะรักษาพริสซิลล่า แต่เธอดันกลับบ้านไปก่อน ยังไงเสีย ตอนนี้เรามาสั่งอะไรง่ายๆ กินกันดีกว่า” “นี่นายกำลังพยายามตามจีบพริสซิลล่าอยู่หรือเปล่าเนี่ย? อันที่จริง ฉันช่วยนายได้นะรู้ไหม? ฉันทำให้เธ

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 195

    “ดาวมหาลัยชนชั้นกลาง... เบียทริซ แอสเส็กซ์งั้นเหรอ?” “เธอคือ...” ทั้งแอนนาลิสและพริสซิลล่าต่างก็จ้องไปที่เบียทริซอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง หลังจากนั้น พวกเขาก็หันไปหาอเล็กซ์ จากท่าทีของทั้งสอง พวกเขาต่างก็รับรู้มาว่าอเล็กซ์เป็นแฟนของมิเชลล์ ไม่อย่างนั้น ทั้งสองจะรู้จักและจูบกันได้ยังไงล่ะ? ในตอนนี้ พวกเขาต่างก็คิดว่ามิเชลล์คงจะต้องตะคอกและทุบตีอเล็กซ์อย่างแน่นอน แม้แต่เบียทริซเองก็คิดเช่นนั้น เบียทริซเรียกอเล็กซ์ว่าพี่เขยก็เพื่อเปิดเผยตัวตนของเขาเอง อีกทั้ง เบียทริซเองก็ต้องการบอกกล่าวให้มิเชลล์รับรู้ว่าว่าอเล็กซ์เป็นชายที่แต่งงานแล้ว และแน่นอน เบียทริซในตอนนี้กำลังเล่นกับความรู้สึกของมิเชลล์อยู่ จากที่เบียทริซรู้เรื่องราวของมิเชลล์มา มิเชลล์จะต้องโมโหและทำร้ายอเล็กซ์อย่างแน่นอน แต่ทว่า กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย มิเชลล์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ไม่นานนัก เธอก็กล่าวคำพูดขึ้น “เบียทริซ แอสเซ็กซ์ เธอเป็นน้องสะใภ้ของอเล็กซ์หรือยังไงกัน? เธอน่าจะบอกให้เร็วกว่านี้นะ! ยังไงก็เถอะ ถ้ามีใครเข้ามายุ่งวุ่นวายกับเธอ ก็เอ่ยชื่อของฉันออกไปได้เลย แล้วฉันจะมาปกป้องเธอเอง!” "อะไรก

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 194

    สตีเวนเผยยิ้มเจ้าเล่ห์พร้อมกับคำรามออกมา เขาปลุกพละกำลังภายในที่น่ากลัวและชั่วร้ายออกมาอย่างฉับพลัน พร้อมกับแสงสีแดงที่กะพริบระยิบระยับในดวงตา ระหว่างที่มิเชลล์กำลังจะฟาดฝ่ามือลงไปที่สตีเวน เขาก็พลันตอบโต้การโจมตีด้วยฝ่ามือของตัวเองเช่นกัน ตู้ม! เสียงระเบิดดังก้องกังวานไปทั่วห้องโถง สตีเวนเองก็ได้เก็บซ่อนพลังพิเศษไว้ที่ในฝ่ามือของตัวเอง พลังนั้นพุ่งทะลุผ่านฝ่ามือของมิเชลล์ไป มันเป็นทักษะอันทรงพลังในฐานะจ้าวแห่งเงามรณะเลยก็ว่าได้ หรือเรียกอีกอย่างว่าทักษะแห่งการล่อลวง เพราะเหตุนั้น สตีเวนจึงไม่สนใจการโจมตีมิเชลล์มากนัก เพราะเขารู้ว่าท้ายที่สุดแล้วตนจะต้องชนะอย่างแน่นอน ในตอนนั้นเอง เขาพลันดีดนิ้วและกล่าวคำพูดขึ้นมา “หยุด!” ทว่า ทักษะแห่งชัยชนะทั้งหมดของสตีเวนกลับไม่มีผลอะไรเลยในวันนี้ มิเชลล์พุ่งเข้าใส่สตีเวนด้วยการเคลื่อนไหวที่รุนแรงและเฉียบแหลม เธอยกขาขึ้นแล้วกระแทกไปยังศีรษะของสตีเวนอย่างแรง "อะไรกัน?" อึก! สตีเวนล้มลงไปนอนกับพื้น เขาพลันกลอกตาไปมาและรู้สึกเหมือนจะเป็นลม ทันทีที่สติเริ่มจางหาย ความคิดสุดท้ายของสตีเวนก็พลันปรากฏขึ้นมาในหัว “มันจะเป็นไปได้ยังไง

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 193

    ตุ๊บ! ท่ามกลางเสียงอึกทึกครึกโครมของฝูงชน มิเชลล์ก็กระโดดข้ามราวขึ้นไปบนเวทีประลอง ระหว่างที่มิเชลล์ขึ้นไปยืนบนเวทีประลอง หน้าอกขนาดมหึมาของเธอก็พลันกระเพื่อมขึ้นลงไม่หยุด ทุกคนต่างตกตะลึงและเบิกตากว้าง โดยเฉพาะเหล่านักเรียนชาย พวกเขาต่างก็ยิ่งอิจฉาอเล็กซ์มากกว่าเดิมทันทีที่เห็นเช่นนั้น มิเชลล์รีบคว้าตัวพริสซิลล่าและลากเธอมาหลบอยู่ด้านหลัง มิเชลล์จ้องไปยังชายวัยกลางคนจอมหยิ่งผยองและกล่าวคำพูดขึ้น “ฉันจะเป็นคู่ต่อสู้ของนายเอง!” พริสซิลล่าในตอนนี้ไม่กล้าที่จะอยู่บนเวทีอีกต่อไปแล้ว ด้วยเหตุนั้น เธอจึงรีบวิ่งออกไปจากลานประลอง พร้อมกับกุมมือตัวเองด้วยความหวาดกลัว อเล็กซ์ตบไหล่ของพริสซิลล่าและเผยยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น “เธอทำดีมาก ฉันบอกแล้วว่าเธอต้องชนะ” “ฉัน... ฉันชนะการประลองจริง ๆ เหรอ?” “...” หลายต่อหลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เริ่มจ้องมองไปที่พริสซิลล่าและกลอกตา แอนนาลิสเองก็ขมวดคิ้วและจ้องไปยังพริสซิลล่าเช่นกัน เธอไม่เข้าใจความสามารถที่ระเบิดออกมาอย่างกะทันหันของพริสซิลล่าเลยแม้แต่น้อย หลังจากนั้น เธอก็คิดเองเออเองว่าเทรเวอร์น่าจะใช้พลังของตัวเองมากเกินไป แอนนาลิสคิดหาวิธีอื่

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 192

    “พูดบ้าอะไรของเธอกัน?!” ระหว่างกำลังคิดว่านี่คงเป็นแผนของชมรมซาตานที่ต้องการส่งใครสักคนขึ้นมาบนเวทีประลอง เทรเวอร์ก็รู้สึกโกรธไม่น้อย ทันใดนั้น เทรเวอร์ก็พุ่งเข้าไปหาพริสซิลล่าและฟาดฝ่ามือใส่เธอ เทรเวอร์ต้องการสยบพริสซิลล่าด้วยฝ่ามือ นั่นก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงพละกำลังและความยิ่งใหญ่ในฐานะประธานชมรมมังกรหยก "อ๊าย!" พริสซิลล่าพลันกรีดร้องและยกมือขึ้นมาตั้งการ์ดโดยสัญชาตญาณ ทันใดนั้น กระแสพลังฉีพลันพุ่งออกมาจากร่างกายของเธอ ตุบ! เทรเวอร์พลันฟาดลงไปยังข้อมือพริสซิลล่า ทว่า เขากลับสัมผัสได้ถึงกระแสพลังจำนวนมหาศาลพุ่งตรงเข้ามา ฟิ้ว! ทันใดนั้น ร่างกายของเทรเวอร์ก็ลอยละล่องขึ้นไปกลางอากาศเหนือเวทีประลองและล้มลงกระแทกกับพื้นอย่างแรง พร้อมกับผมที่ตั้งชูอยู่เหนือศีรษะ ร่างกายของเทรเวอร์สั่นเทา เขาอ้าปากค้างราวกับมีหมอกพิษทมิฬลอยออกมาจากปาก ทุกคนในห้องโถงต่างก็เงียบไปด้วยความตกใจ พวกเขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยด้วยซ้ำ มิเชลล์เองก็เบิกตากว้างเช่นกัน เธอจ้องมองดูสถานการณ์ตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา ดวงตาของแอนนาลิสพลันเบิกกว้าง เธออ้าปากค้างทันใด เธอแทบจะไม่อยากเชื่อเหตุการณ์ท

DMCA.com Protection Status