ถึงว่าไม่มีคนมาซื้อม้าที่นี่ เพราะมันมีราคาที่แพงมาก “ลดให้ข้าหน่อยได้หรือไม่ ดูม้าตัวนี้ก็ไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่นัก ถ้าพวกข้าไม่ซื้อมันก็คงไม่กินอาหารและป่วยตายก็ได้” เจาฉือเขาจำเป็นต้องขายม้าตัวนี้ออกไปให้เร็วที่สุดก่อนที่มันจะตายเพราะอาการตรอมใจก็ได้ เขามองไปทางด้านข้างของหญิงสาวที่มาซื้อม้า เป็นชายหนุ่มหน้าตาดุดัน เขาก็มีความรู้สึกกลัวขึ้นมา “ข้าขอไปถามเจ้านายของข้าก่อนได้หรือไม่” “ได้ ข้าจะรอเจ้าอยู่ตรงนี้” หลังจากที่เธอพูดจบ ลูกจ้างคนนั้นก็เดินไปทางหน้าร้านและพูดคุยอะไรบางอย่างกับคนที่นั่งเขียนบัญชีอยู่ที่โต๊ะด้านหน้าร้านค้า คนที่ก้มหน้าเขียนบัญชี เขาได้ฟังคำพูดของลูกน้องเขาพูดจนจบ เขาก็เงยหน้ามามองทางเธอที่กำลังมองเขาอยู่พอดี เธอเห็นแบบนั้นจึงหันไปมองทางอื่นแทน เธอรอไปอีกสักพักลูกจ้างคนนั้นก็เดินกลับมาหาเธอ“ข้าถามเจ้านายของข้าแล้ว ลดให้ท่านมากสุดสองตำลึงทอง ขายให้ท่านสามตำลึงทอง ท่านจะซื้อหรือไม่” เธอหันไปมองทางอี้เฉิงเพื่อให้เขาเป็นคนตัดสินใจ อี้เฉิงพยักหน้าให้เธอ บอกว่าตกลง เธอจึงทำการซื้อขายกับร้านค้าสัตว์แห่งนี้ทันที“ไม่ทราบว่าที่นี่มีเกวียนขายหรือไม่” “ร้าน
“แสดงว่าแต่ละประตูก็จะดูแลแตกต่างกันไป” เธอเดินดูไปทีละห้อง เธอสะดุดตาอยู่ห้องหนึ่งที่มีเด็กชายและเด็กผู้หญิงนั่งกอดกันอยู่ เด็กผู้หญิงนั่งซบหน้าอยู่กับอกของเด็กผู้ชายที่นั่งกอดเธออยู่ แต่สายตาของเด็กผู้ชายที่จ้องตาของเธอดูเป็นคนไม่ยอมใคร เป็นเด็กที่รู้จักปกป้องคนอื่นได้ดี เธอสนใจเด็กสองคนนี้เธอเลือกเอาไว้ในใจก่อน เธอเดินดูตามห้องถัดไปเรื่อยๆ อีกห้องเป็นชายร่างสูงใหญ่อายุประมาณสี่สิบ นั่งก้มหน้าไม่ได้สนใจสิ่งใด แต่เธอสังเกตขาของชายคนนั้นว่ามีผ้าพันไว้ที่ขา เหมือนขาของเขาจะได้รับบาดเจ็บชายคนนั้นเขารู้สึกถึงสายตาว่ามีคนจ้องมองเขาอยู่ เขาจึงเงยหน้าขึ้น เขาเห็นผู้หญิงคนหนึ่งมองมาทางเขาด้วยสายตาสนใจ เขาก็ไม่ได้สนใจอะไร ตัวเขาจะอยู่ที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น เขาเลิกสนใจชีวิตตัวเองมานานมากแล้ว และเขาก็ก้มหน้าลงเหมือนเดิม ทำเหมือนไม่รับรู้อะไร“เจ้าสนใจใครบ้างหรือยัง” เขาเห็นเธอมองคนที่อยู่ในห้องขังเหล่านั้น“ข้าสนใจอยู่สามคนเป็นเด็กชายหญิง และผู้ชายคนนั้น แต่ข้ายังอยากได้ผู้หญิงอีกสองคน ไม่รู้จะเจอคนถูกใจหรือไม่” “ยังมีอีกหลายห้องที่เจ้ายังไม่ได้ดู เจ้าลองเดินดูก่อนเถอะค่อยเลือกอีกครั้ง” “ก
“ขอบคุณนายหญิงมากขอรับ” เขาจะรับใช้นายหญิงที่ใจดีกับเขาให้ดีที่สุด“พวกเจ้า เด็กน้อยทั้งสองยังกลัวข้าอยู่หรือไม่ เจ้าเรียกข้าว่าพี่สาวก็ได้ ไม่ต้องเรียกนายหญิงหรอก” เด็กหญิงมองไปที่เหมยฮวาแล้วก็ยิ้มตอบเธอกลับมา “พี่สาว พี่สาวสวยมาก” “ลี่อินจะพูดกับเจ้านายของพวกเราแบบนั้นไม่ได้” ลี่กังดุน้องสาวของเขาเบาๆ“ไม่เป็นอะไรหรอก ข้าก็อยากมีน้องสาวที่น่ารักแบบนี้สักคน และเจ้าก็อย่าดุน้องสาวของเจ้ามากนักลี่กัง” “ข้าแล้วแต่นายหญิง ข้าเหลือน้องสาวคนเดียวข้าไม่อยากให้น้องสาวของข้าทำตัวไม่ดีกับท่านขอรับ” “เจ้ายังเด็กอยู่ใช้ชีวิตที่เหลือให้มีความสุขเถอะ ถ้าพวกท่านทุกคนดีกับข้า ข้าก็จะดีกับพวกท่านกลับไปเหมือนกัน” ///หลังจากที่เธอตั้งชื่อให้พวกเขาแล้ว เธอก็พาทั้งห้าคนไปที่ร้านขายผ้าซิ่วอิง เพื่อเลือกซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่และของใช้จำเป็น เมื่อเธอมาถึงหน้าร้านก็เป็นเวลาที่เย็นมากแล้วเจ้าของร้านซิ่วอิงหันมาเห็นเหมยฮวาที่เดินเข้าร้านมาพอดี “น้องเหมยฮวาเจ้ามาหาพี่เสียเย็นเชียว ข้าได้ข่าวว่าร้านของเจ้าใกล้ที่จะเปิดขายเครื่องหอมแล้ว” “ใช่แล้วพี่ซิ่วอิงข้าเปิดร้านเมื่อไหร่ข้าจะเชิญพี่เป็นคนแรก วัน
“เจ้ารอบคอบมาก เรารีบไปกันเถอะ” เขาขับเกวียนม้ามาทางหมู่บ้านป่าเขียว เขาขับเกวียนไปทางบ้านของผู้ใหญ่บ้านหลีอันก่อนอี้เฉิงเดินลงจากเกวียนม้า เขาเคาะไปที่ประตูหน้าบ้านและเรียกชื่อผู้ใหญ่บ้านเสียงดัง“ใครเรียกข้ากัน ข้ามาแล้ว” หลีอันเดินออกมาเปิดประตูหน้าบ้าน“นายพรานอี้เฉิงเองหรือ ท่านมาหาข้ามีธุระอันใด นั่นเกวียนม้าของท่านใช่หรือไม่ ถ้าแบบนั้นข่าวลือที่ชาวบ้านเขาพูดกันก็เป็นเรื่องจริง” “ชาวบ้านเขาพูดกันเรื่องอะไรหรือ” เหมยฮวาถามผู้ใหญ่บ้านออกไป“เขาบอกว่าเจ้าซื้อบ้านใหญ่โต และสร้างกิจการขายของอยู่ในเมือง พวกเจ้าเป็นอย่างที่ชาวบ้านพูดกันหรือไม่” “พวกข้าไม่ได้ร่ำรวยอะไร ก็แค่เอาของที่เคยทำที่บ้านเดิมของข้ามาขาย บังเอิญว่าของนั้นขายได้ดี พวกข้าก็เลยพอมีเงินเก็บนิดหน่อย ไม่ได้ร่ำรวยอะไรหรอก” “แล้ววันนี้พวกเจ้ามาหาข้ามีเรื่องอันใดล่ะ หรือจะมาบอกหนทางรวยให้พวกชาวบ้านบ้าง” เหมยฮวาฟังคำเหน็บแนมของผู้ใหญ่บ้าน เธอก็รู้สึกโมโหนิดหน่อย แต่ก็อย่างว่าถ้าใครได้ดีกว่าคนอื่นก็อิจฉาพวกเธอเป็นเรื่องธรรมดา เธอจึงคิดรับซื้อของจากคนในหมู่บ้านเพื่อไม่ให้คนอื่นพูดว่าเธอและอี้เฉิงได้“ที่พวกข้ามา
“เจ้าเป็นเด็กในหมู่บ้านนี้แห่งนี้หรือ ข้าไม่คุ้นหน้าเจ้าเลย เจ้ามาหาข้ามีเรื่องจะถามข้าหรือ ไม่ต้องกลัวข้าไม่ใช่คนใจร้าย” เธอพยายามพูดกับเด็กตรงหน้าเธอด้วยเสียงที่ดูใจดี ดูท่าทางเด็กคนนี้จะไม่ค่อยได้ออกมาข้างนอกมากนัก เพราะเธอไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อน“ข้าถามท่านได้หรือไม่ ท่านบอกว่าจะรับซื้อดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมทุกชนิดใช่หรือไม่” “ใช่แล้ว ถ้าบ้านของเจ้ามีดอกไม้ที่ตากแห้งแล้วก็นำมาขายให้ข้าได้ เจ้ารู้จักเม็ดของดอกบัวหรือไม่” “ข้ารู้ ข้าเคยเก็บพวกมันไปกินบ่อยๆ แต่กินมากก็จะท้องอืดได้” “เจ้าชื่ออะไรและตอนนี้อยู่บ้านกับใคร ข้าไม่คุ้นหน้าเด็กแบบเจ้ามาก่อนเลย” “ข้าชื่อหลีชาง ข้าอยู่คนเดียวไม่มีพ่อแม่” “การที่เจ้าเข้าไปเก็บดอกบัวจะเป็นอันตรายมาก เจ้าว่ายน้ำเป็นหรือ” “ข้าว่ายน้ำเป็นข้าอายุสิบสองปีแล้ว ข้าอยู่คนเดียวมานานมาก” “ข้ารับซื้อรากของดอกบัวด้วย เจ้ารู้จักหรือไม่ ถ้าวันหนึ่งเจ้าไปเก็บเมล็ดบัวมาอีกเจ้าเก็บรากของดอกบัวมาให้ข้าดู ถ้าเจ้าเก็บรากบัวมาขายให้ข้า ข้าจะรับซื้อเจ้าจินละ2 กวน แต่การเก็บรากบัวจะอันตรายมาก ข้าว่าเจ้าเก็บดอกไม้เอามาขายให้ข้าเหมือนคนอื่นเถอะ” “รากบัวท่า
แก้มหอมสาวน้อยอายุสิบแปดปี เธอเป็นเด็กสาวกำพร้า ไม่มีพ่อแม่และญาติพี่น้องที่ไหน ก่อนที่พ่อและแม่ของเธอจะเสียชีวิต ท่านได้ทิ้งเงินไว้ให้เธอหนึ่งก้อนจากประกันชีวิตที่ท่านได้ทำไว้ให้เธอ และยังทิ้งบ้านหนึ่งหลังที่ไม่ใหญ่มาก แต่เธอก็ไม่ต้องเช่าบ้านให้เสียเงิน เธอได้ออกมาทำงานและส่งตัวเองเรียน จึงทำให้เธอมีจิตใจที่เข้มแข็งกว่าเด็กวัยเดียวกันมาก เธอเป็นเด็กสาวที่มีนิสัยร่าเริงและขี้เล่น เธอเป็นที่รักของเพื่อนๆ ในชั้นเรียน แต่ก็มีหลายคนที่ไม่ชอบเธอเช่นกัน ทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ หลังเลิกเรียนเธอจะต้องออกไปทำงานที่ร้านสะดวกซื้อจนถึงเที่ยงคืน และวันเสาร์อาทิตย์ เธอทำงานในร้านขายเครื่องหอม เธอไม่มีเวลาให้เที่ยวเล่นแบบเพื่อนในวัยเดียวกัน แต่เธอมีหน้าตาที่น่ารักจึงมักมีชายหนุ่มเข้ามาวนเวียนรอบๆ ตัวเธออยู่เสมอจึงมีเพื่อนหลายคนที่ไม่ชอบที่เธอหน้าตาดี และจะคอยหาเรื่องแกล้งเธอ แต่ก็ไม่ได้แกล้งแบบรุนแรงมากนัก เธอจึงไม่ได้เอาเรื่องไปฟ้องกับอาจารย์ เพราะเธอคิดว่าอีกไม่กี่เดือนเธอก็จะเรียนจบแล้ว เธอเองก็มีความฝันเหมือนกัน เธออยากเปิดร้านค้าเป็นของตัวเองสักหนึ่งร้าน เธอชอบน้ำหอมและเครื่องหอมที่เธอได้ทำงา
เธอตื่นมาในช่วงสายของอีกวันใต้ต้นเหมยฮวา เธอกะพริบตาเพื่อปรับภาพให้มองชัดขึ้น สิ่งที่เธอเห็นนั้นก็คือทุ่งดอกไม้ และเธอก็นอนอยู่ใต้ต้นไม้ เธอมองดูชุดที่ใส่ก็เป็นชุดวันที่เธอเรียนจบ ตอนนี้เธออยู่ที่ไหนกัน เธอจำได้ว่าตัวเองถูกรถชนหลังจากที่เธอถูกเพื่อนผลักล้มลงบนถนน ในขณะที่เธอกำลังมึนงง อยู่นั้นก็ได้มองเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่หน้าตาดูน่ากลัวมาก มีหนวดเคราเต็มไปทั่วใบหน้ากำลังมองมาที่เธอ เธอจะต้องทำยังไงในตอนนี้ ในหัวของเธอสับสนไปหมดแล้วอี้เฉิงมองไปทางหญิงสาวที่ใส่ชุดไม่เหมือนกับคนอื่น ชุดแบบนี้เขาเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก เพราะที่แห่งนี้ผู้หญิงจะไม่แต่งตัวที่เปิดให้เห็นมากนัก เขามองจากด้านล่างขึ้นมาด้านบน และมาหยุดมองใบหน้าที่มีหน้าตาน่ารัก เธอเป็นผู้หญิงที่สวยน่ารักมาก เธออาจจะหนีออกมาจากหอนางโลมหรือเปล่า?แก้มหอมมองตามสายตาของชายที่อยู่ตรงหน้าเธอ เขามองอะไร เธอนั่งลงเพื่อปิดบังขาของเธอ เพราะชุดที่เธอใส่อยู่นั้น เป็นชุดกระโปรงนักเรียนในวันที่เธอเรียนจบ “นายมองอะไรไม่ทราบ” เธอตกใจตัวเองเพราะคำพูดที่เธอได้พูดออกไปเป็นภาษาจีนเธอไม่เคยเรียนภาษาจีนมาก่อนเลยด้วยซ้ำทำไมเธอถึงพูดมันได้“ก็ไ
“ฉันบอกนายตามตรง ฉันสูญเสียความทรงจำ ฉันไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครมาจากที่ไหนเลยด้วยซ้ำ แล้วนายจะทิ้งฉันไว้ในที่ ที่ฉันไม่รู้จัก ฉันขออยู่กับนายจนกว่าฉันจะรู้ว่าที่นี่คือที่ไหน และฉันเอาตัวรอดได้ ฉันก็จะไปจากนายทันทีเลย ฉันสัญญาฉันจะไม่ทำอันตรายนายอย่างแน่นอน” “ข้านี่นะ จะกลัวเจ้าทำร้าย เจ้ามาอยู่กับข้า เจ้าไม่กลัวข้าหรือไง ใครๆ เขาก็กลัวข้ากันทั้งนั้น แต่ถ้าเจ้าจะอยู่กับข้าก็ต้องเปลี่ยนแปลงคำพูดที่เจ้าใช้พูด และชุดที่เจ้าใส่มันแปลกเกินไป เจ้ามีชุดอื่นเปลี่ยนอีกหรือไม่” “ข้าไม่มีอะไรติดตัวมาเลย ข้าจะหาชุดมาจากไหน เงินข้าก็ไม่มีสักหยวน เราอยู่ด้วยกันแค่เป็นเพื่อนกันเท่านั้น นายห้ามคิดไม่ดีกับฉันเด็ดขาด แต่ฉันสามารถช่วยนายทำงานบ้านและทำกับข้าวให้นายกินได้ นายคิดว่าดีหรือเปล่า หรือนายมีภรรยาอยู่ที่บ้านแล้ว” “ข้าเป็นชายโสด ข้าไม่รู้ว่าจะเผลอล่วงเกินเจ้าหรือไม่ ก็เจ้าทั้งขาวและน่ารักแบบนี้” เขาแกล้งมองไปที่หญิงสาวด้วยสายตาหื่นกระหาย“นายไม่ทำฉันหรอก ใช่ไหม” เธอทำใจกล้าถามออกไป“ไม่รู้สิ ต้องดูก่อนว่าเจ้าทำตัวดีแค่ไหน ข้าอาจจะสงสารเจ้าบ้างก็ได้” “แสดงว่านายให้ฉันอยู่ด้วยได้ใช่ไหม” ผู้
“เจ้าเป็นเด็กในหมู่บ้านนี้แห่งนี้หรือ ข้าไม่คุ้นหน้าเจ้าเลย เจ้ามาหาข้ามีเรื่องจะถามข้าหรือ ไม่ต้องกลัวข้าไม่ใช่คนใจร้าย” เธอพยายามพูดกับเด็กตรงหน้าเธอด้วยเสียงที่ดูใจดี ดูท่าทางเด็กคนนี้จะไม่ค่อยได้ออกมาข้างนอกมากนัก เพราะเธอไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อน“ข้าถามท่านได้หรือไม่ ท่านบอกว่าจะรับซื้อดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมทุกชนิดใช่หรือไม่” “ใช่แล้ว ถ้าบ้านของเจ้ามีดอกไม้ที่ตากแห้งแล้วก็นำมาขายให้ข้าได้ เจ้ารู้จักเม็ดของดอกบัวหรือไม่” “ข้ารู้ ข้าเคยเก็บพวกมันไปกินบ่อยๆ แต่กินมากก็จะท้องอืดได้” “เจ้าชื่ออะไรและตอนนี้อยู่บ้านกับใคร ข้าไม่คุ้นหน้าเด็กแบบเจ้ามาก่อนเลย” “ข้าชื่อหลีชาง ข้าอยู่คนเดียวไม่มีพ่อแม่” “การที่เจ้าเข้าไปเก็บดอกบัวจะเป็นอันตรายมาก เจ้าว่ายน้ำเป็นหรือ” “ข้าว่ายน้ำเป็นข้าอายุสิบสองปีแล้ว ข้าอยู่คนเดียวมานานมาก” “ข้ารับซื้อรากของดอกบัวด้วย เจ้ารู้จักหรือไม่ ถ้าวันหนึ่งเจ้าไปเก็บเมล็ดบัวมาอีกเจ้าเก็บรากของดอกบัวมาให้ข้าดู ถ้าเจ้าเก็บรากบัวมาขายให้ข้า ข้าจะรับซื้อเจ้าจินละ2 กวน แต่การเก็บรากบัวจะอันตรายมาก ข้าว่าเจ้าเก็บดอกไม้เอามาขายให้ข้าเหมือนคนอื่นเถอะ” “รากบัวท่า
“เจ้ารอบคอบมาก เรารีบไปกันเถอะ” เขาขับเกวียนม้ามาทางหมู่บ้านป่าเขียว เขาขับเกวียนไปทางบ้านของผู้ใหญ่บ้านหลีอันก่อนอี้เฉิงเดินลงจากเกวียนม้า เขาเคาะไปที่ประตูหน้าบ้านและเรียกชื่อผู้ใหญ่บ้านเสียงดัง“ใครเรียกข้ากัน ข้ามาแล้ว” หลีอันเดินออกมาเปิดประตูหน้าบ้าน“นายพรานอี้เฉิงเองหรือ ท่านมาหาข้ามีธุระอันใด นั่นเกวียนม้าของท่านใช่หรือไม่ ถ้าแบบนั้นข่าวลือที่ชาวบ้านเขาพูดกันก็เป็นเรื่องจริง” “ชาวบ้านเขาพูดกันเรื่องอะไรหรือ” เหมยฮวาถามผู้ใหญ่บ้านออกไป“เขาบอกว่าเจ้าซื้อบ้านใหญ่โต และสร้างกิจการขายของอยู่ในเมือง พวกเจ้าเป็นอย่างที่ชาวบ้านพูดกันหรือไม่” “พวกข้าไม่ได้ร่ำรวยอะไร ก็แค่เอาของที่เคยทำที่บ้านเดิมของข้ามาขาย บังเอิญว่าของนั้นขายได้ดี พวกข้าก็เลยพอมีเงินเก็บนิดหน่อย ไม่ได้ร่ำรวยอะไรหรอก” “แล้ววันนี้พวกเจ้ามาหาข้ามีเรื่องอันใดล่ะ หรือจะมาบอกหนทางรวยให้พวกชาวบ้านบ้าง” เหมยฮวาฟังคำเหน็บแนมของผู้ใหญ่บ้าน เธอก็รู้สึกโมโหนิดหน่อย แต่ก็อย่างว่าถ้าใครได้ดีกว่าคนอื่นก็อิจฉาพวกเธอเป็นเรื่องธรรมดา เธอจึงคิดรับซื้อของจากคนในหมู่บ้านเพื่อไม่ให้คนอื่นพูดว่าเธอและอี้เฉิงได้“ที่พวกข้ามา
“ขอบคุณนายหญิงมากขอรับ” เขาจะรับใช้นายหญิงที่ใจดีกับเขาให้ดีที่สุด“พวกเจ้า เด็กน้อยทั้งสองยังกลัวข้าอยู่หรือไม่ เจ้าเรียกข้าว่าพี่สาวก็ได้ ไม่ต้องเรียกนายหญิงหรอก” เด็กหญิงมองไปที่เหมยฮวาแล้วก็ยิ้มตอบเธอกลับมา “พี่สาว พี่สาวสวยมาก” “ลี่อินจะพูดกับเจ้านายของพวกเราแบบนั้นไม่ได้” ลี่กังดุน้องสาวของเขาเบาๆ“ไม่เป็นอะไรหรอก ข้าก็อยากมีน้องสาวที่น่ารักแบบนี้สักคน และเจ้าก็อย่าดุน้องสาวของเจ้ามากนักลี่กัง” “ข้าแล้วแต่นายหญิง ข้าเหลือน้องสาวคนเดียวข้าไม่อยากให้น้องสาวของข้าทำตัวไม่ดีกับท่านขอรับ” “เจ้ายังเด็กอยู่ใช้ชีวิตที่เหลือให้มีความสุขเถอะ ถ้าพวกท่านทุกคนดีกับข้า ข้าก็จะดีกับพวกท่านกลับไปเหมือนกัน” ///หลังจากที่เธอตั้งชื่อให้พวกเขาแล้ว เธอก็พาทั้งห้าคนไปที่ร้านขายผ้าซิ่วอิง เพื่อเลือกซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่และของใช้จำเป็น เมื่อเธอมาถึงหน้าร้านก็เป็นเวลาที่เย็นมากแล้วเจ้าของร้านซิ่วอิงหันมาเห็นเหมยฮวาที่เดินเข้าร้านมาพอดี “น้องเหมยฮวาเจ้ามาหาพี่เสียเย็นเชียว ข้าได้ข่าวว่าร้านของเจ้าใกล้ที่จะเปิดขายเครื่องหอมแล้ว” “ใช่แล้วพี่ซิ่วอิงข้าเปิดร้านเมื่อไหร่ข้าจะเชิญพี่เป็นคนแรก วัน
“แสดงว่าแต่ละประตูก็จะดูแลแตกต่างกันไป” เธอเดินดูไปทีละห้อง เธอสะดุดตาอยู่ห้องหนึ่งที่มีเด็กชายและเด็กผู้หญิงนั่งกอดกันอยู่ เด็กผู้หญิงนั่งซบหน้าอยู่กับอกของเด็กผู้ชายที่นั่งกอดเธออยู่ แต่สายตาของเด็กผู้ชายที่จ้องตาของเธอดูเป็นคนไม่ยอมใคร เป็นเด็กที่รู้จักปกป้องคนอื่นได้ดี เธอสนใจเด็กสองคนนี้เธอเลือกเอาไว้ในใจก่อน เธอเดินดูตามห้องถัดไปเรื่อยๆ อีกห้องเป็นชายร่างสูงใหญ่อายุประมาณสี่สิบ นั่งก้มหน้าไม่ได้สนใจสิ่งใด แต่เธอสังเกตขาของชายคนนั้นว่ามีผ้าพันไว้ที่ขา เหมือนขาของเขาจะได้รับบาดเจ็บชายคนนั้นเขารู้สึกถึงสายตาว่ามีคนจ้องมองเขาอยู่ เขาจึงเงยหน้าขึ้น เขาเห็นผู้หญิงคนหนึ่งมองมาทางเขาด้วยสายตาสนใจ เขาก็ไม่ได้สนใจอะไร ตัวเขาจะอยู่ที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น เขาเลิกสนใจชีวิตตัวเองมานานมากแล้ว และเขาก็ก้มหน้าลงเหมือนเดิม ทำเหมือนไม่รับรู้อะไร“เจ้าสนใจใครบ้างหรือยัง” เขาเห็นเธอมองคนที่อยู่ในห้องขังเหล่านั้น“ข้าสนใจอยู่สามคนเป็นเด็กชายหญิง และผู้ชายคนนั้น แต่ข้ายังอยากได้ผู้หญิงอีกสองคน ไม่รู้จะเจอคนถูกใจหรือไม่” “ยังมีอีกหลายห้องที่เจ้ายังไม่ได้ดู เจ้าลองเดินดูก่อนเถอะค่อยเลือกอีกครั้ง” “ก
ถึงว่าไม่มีคนมาซื้อม้าที่นี่ เพราะมันมีราคาที่แพงมาก “ลดให้ข้าหน่อยได้หรือไม่ ดูม้าตัวนี้ก็ไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่นัก ถ้าพวกข้าไม่ซื้อมันก็คงไม่กินอาหารและป่วยตายก็ได้” เจาฉือเขาจำเป็นต้องขายม้าตัวนี้ออกไปให้เร็วที่สุดก่อนที่มันจะตายเพราะอาการตรอมใจก็ได้ เขามองไปทางด้านข้างของหญิงสาวที่มาซื้อม้า เป็นชายหนุ่มหน้าตาดุดัน เขาก็มีความรู้สึกกลัวขึ้นมา “ข้าขอไปถามเจ้านายของข้าก่อนได้หรือไม่” “ได้ ข้าจะรอเจ้าอยู่ตรงนี้” หลังจากที่เธอพูดจบ ลูกจ้างคนนั้นก็เดินไปทางหน้าร้านและพูดคุยอะไรบางอย่างกับคนที่นั่งเขียนบัญชีอยู่ที่โต๊ะด้านหน้าร้านค้า คนที่ก้มหน้าเขียนบัญชี เขาได้ฟังคำพูดของลูกน้องเขาพูดจนจบ เขาก็เงยหน้ามามองทางเธอที่กำลังมองเขาอยู่พอดี เธอเห็นแบบนั้นจึงหันไปมองทางอื่นแทน เธอรอไปอีกสักพักลูกจ้างคนนั้นก็เดินกลับมาหาเธอ“ข้าถามเจ้านายของข้าแล้ว ลดให้ท่านมากสุดสองตำลึงทอง ขายให้ท่านสามตำลึงทอง ท่านจะซื้อหรือไม่” เธอหันไปมองทางอี้เฉิงเพื่อให้เขาเป็นคนตัดสินใจ อี้เฉิงพยักหน้าให้เธอ บอกว่าตกลง เธอจึงทำการซื้อขายกับร้านค้าสัตว์แห่งนี้ทันที“ไม่ทราบว่าที่นี่มีเกวียนขายหรือไม่” “ร้าน
เอาไว้ตอนที่เธอมีเวลาว่าง และข้อสัญญาอื่นๆ เธอให้อี้เฉิงอ่านให้เธอฟังอีกครั้ง เธอคิดว่าต้องฝึกเรียนภาษาจีนเอาไว้บ้างแล้วตอนนี้ร้านของช่างจางเหว่ยมีคนมาจ้างงานและซื้อโถส้วมแบบใหม่เป็นจำนวนมาก ยิ่งขายได้มากเท่าไหร่ เธอก็จะได้มีเงินมากขึ้นเท่านั้น เธอคิดว่าหลังจากที่เธอเปิดร้านอย่างเป็นทางการเสร็จแล้ว เธอก็จะวาดสิ่งของชิ้นใหม่ให้ร้านสรรค์สร้างได้ทำขึ้นมา แต่ต้องหลังจากที่เธอจัดการเรื่องร้านเครื่องหอมของเธอเสร็จแล้วเสียก่อน“ตอนนี้บ้านและร้านของเจ้าก็เสร็จแล้ว เจ้าคิดชื่อร้านได้หรือยัง” อี้เฉิงถามเหมยฮวาออกไป เขาไม่รู้ว่าเธอมีชื่อร้านไว้บ้างแล้วหรือไม่“ข้าคิดชื่อร้านไว้แล้ว ท่านไม่ต้องห่วง ร้านแห่งนี้ข้าจะขายเครื่องหอมของใช้ประจำวันที่มีกลิ่นหอม และก็ยังมีน้ำหอมหลากหลายกลิ่นอีกด้วย ร้านค้าแห่งนี้ข้าจะตั้งชื่อว่า ร้านเครื่องหอมเหมยฮวา ท่านว่าเพราะหรือไม่” “เป็นชื่อที่เหมาะกับเจ้าดี ชื่อของเจ้าก็เป็นชื่อของดอกไม้อยู่แล้ว แถมของที่เจ้าทำก็มีกลิ่นที่หอม ชื่อนี้ถือว่าดี เจ้าทำของมากมายเช่นนี้ เจ้าจะเอาดอกไม้มาจากไหนมาทำกัน” “ข้าจะรับซื้อดอกไม้จากคนในหมู่บ้าน แต่ข้าต้องเอาเรื่องนี้ไปปร
“ถ้าเจ้าได้คุยกับหนิงอันเจ้าคงจะรู้แล้วว่าตัวข้าจำไม่ได้ เจ้ามาหาข้ามีธุระอันใด ข้าเคยบอกเจ้าไปแล้ว ว่าข้าจะติดต่อกลับไปเองเมื่อความจำของข้ากลับมาแล้ว” “ส่วนหนึ่งข้าแค่อยากมาเจอนายท่าน และอีกเรื่องที่พวกข้าต้องรีบมาหานายท่านก็เพราะว่าข้าจะมาเตือนนายท่าน ตอนนี้ฝ่ายศัตรูของเราเริ่มจะมีการเคลื่อนไหวมาทางเมืองสงบสุขแห่งนี้แล้ว พวกนั้นส่งคนแฝงตัวเข้ามาในเมืองแห่งนี้ถ้าพวกนั้นพบเจอกับนายท่าน พวกนั้นอาจจะทำร้ายนายท่านได้ และภรรยาของนายท่านอาจจะตกอยู่ในอันตราย” “แล้วข้าต้องทำอย่างไร พวกเจ้าคงจะไม่ได้มาเตือนข้าเฉยๆ หรอกใช่หรือไม่” “พวกข้าคุยกันแล้วว่า พวกข้าจะคอยปกป้องคุ้มครองนายท่านและภรรยา ในช่วงที่นายท่านความจำยังไม่กลับมา แต่ข้าอยากให้นายท่านกลับไปที่สำนักของนายท่าน เพื่อตบตาคนที่คิดร้ายต่อนายท่าน“ข้าจะเชื่อพวกเจ้าได้มากแค่ไหน ข้าความจำเสื่อมข้าจำไม่ได้ว่าพวกเจ้าคิดจะทำร้ายข้าหรือมาหลอกข้าหรือไม่” “สิ่งนี้เป็นสิ่งยืนยันว่าพวกข้าภักดีต่อนายท่าน” หนิงอันและหนิงหลง เปิดหน้าอกที่สักลายมังกรสีดำที่มีชื่อตรงมังกรตรงนั้นว่า อี้เฉิง “ถ้าเป็นสิ่งนี้ท่านพอจะเชื่อพวกข้าได้หรือไม่” อี้เฉ
เธอหันมาจัดการกับแม่แพะที่เพิ่งได้มา อี้เฉิงมัดเชือกไว้ที่คอของมัน เธอเดินเข้าไปใกล้แพะตัวนั้น และใช้ผ้าที่เปียกน้ำ เธอเช็ดไปตรงเต้านมของแพะ และเริ่มทำการคั้นน้ำนมแพะใส่ถังที่เธอเตรียมมา เธอคั้นน้ำนมแค่พอให้ลูกแมวกินเท่านั้น พรุ่งนี้เธอค่อยมาคั้นน้ำนมแพะตัวนี้เพิ่ม นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เธอได้ลองคั้นน้ำนมของเพะออกมา เธอก็รู้สึกแปลกใหม่อยู่บ้างเหมือนกันเธอเอานมที่ได้ เข้าไปในครัวใช้หม้อต้มน้ำนมของแพะอีกครั้ง เธอคิดว่าต้องต้มถึงจะปลอดภัย เธอต้มจนน้ำนมเดือดก็เป็นเวลาที่อี้เฉิงอาบน้ำเสร็จพอดี“ท่านอาบน้ำเสร็จแล้วหรือ ทำไมผมท่านถึงเปียกแบบนี้ ท่านรอข้าสักครู่ข้าจะเข้าไปเอาผ้ามาเช็ดผมให้ท่าน” เหมยฮวายกเตาที่ต้มน้ำนมแพะออกพักไว้ให้เย็น เธอเดินเข้าไปในบ้านและเอาผ้าเช็ดผมที่เธอซื้อมาจากร้านค้ามาเช็ดผมให้อี้เฉิง“นี่ผ้าเช็ดผม ท่านเช็ดผมให้แห้งเราจะได้กินข้าวกัน” เธอยื่นผ้าไปตั้งนานแล้ว อี้เฉิงก็ไม่รับผ้าไปจากเธอเสียที“เจ้าเช็ดผมให้ข้าหน่อยได้ไหม วันนี้ข้าเหนื่อยมากเลย” เขาไม่คิดว่าจะมีวันที่เขาต้องใช้เสียงแบบนี้เพื่ออ้อนใครสักคนเธอยิ้มกับความขี้อ้อนที่เพิ่มมากขึ้นของอี้เฉิง “ข้าเช็ดผมให้ท
เขาไม่คิดว่าวันนี้จะโชคดีแบบนี้ เขาเจอรังของแมวป่าที่มีลูกน้อยของแมวป่าคลานไปมาอยู่สี่ตัว แต่ละตัวสีไม่เหมือนกัน แต่เขาเลือกตัวที่สวยที่สุดเป็นตัวสีขาวทั้งตัว ดูน่ารักเป็นอย่างมาก ถ้าเขาเอาไปฝากนาง นางจะต้องชอบมากแน่ ตอนนี้แม่ของลูกแมวพวกนี้ไม่อยู่ที่รัง เขาจึงรีบเดินออกมา เพราะเขาคิดว่าอีกไม่นานแม่แมวป่าก็คงกลับรังมาแน่ เขาอุ้มลูกแมวที่ร้องไม่หยุด วิ่งกลับไปที่บ้านต้นไม้ของเขา เพื่อแบกกวางตัวใหญ่ลงจากเขา กวางตัวใหญ่ แต่เขาก็ยังพอแบกมันลงไปได้ เขาไม่อยากอยู่บนเขานานนัก เดี๋ยวแม่แมวป่าจะตามเขามาทัน เขาลงเขากลับมาที่บ้านทันทีกว่าอี้เฉิงจะลงจากเขาได้ก็เป็นเวลาเย็นมากแล้ว เขาคิดถึงเหมยฮวา ถ้านางเห็นแมวที่เขาเอามานางจะดีใจมากแค่ไหน เจ้าแมวน้อยตัวนี้ก็ร้องไม่หยุดไม่รู้ว่ามันต้องกินอะไร เขาต้องเอาไปให้นางดูว่าพอมีอะไรให้แมวน้อยกินได้บ้างเพราะตัวเขาก็ไม่เคยเลี้ยงแมวมาก่อนจึงไม่รู้วิธีดูแลมัน เขาเดินมาถึงหน้าบ้านของตัวเอง เขาเคาะไปที่ประตูบ้านเสียงดัง “ข้ากลับมาแล้ว” เขาร้องเรียกอยู่สักพัก ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของอีกฟากของบ้านที่วิ่งออกมาเปิดประตูให้เขา“ทำไมท่านกลับมาเร็วจัง ท่านล่ากวางมาห