เพล้ง! “เป็นบ้าอะไรหนูตุ่น หยุดเดี๋ยวนี้นะ! หยุด!” เสียงเขาตวาดลั่นแต่ไม่มีอะไรหยุดหล่อนได้ เริ่มจากแจกันใกล้มือ ที่ทับกระดาษ และนั่น... ชั้นวางสิ่งที่เขาภูมิใจ หล่อนเดินตรงไปท่ามกลางเสียงร้องห้ามของเขา แต่อย่าหวังว่าหล่อนจะหยุด เมื่อเขาทำร้ายจิตใจหล่อน เขาก็ต้องโดนเหมือนกัน “หนูตุ่นอย่า!” เพล้ง! ป้ายประกาศเกียรติคุณ โล่แสดงความสามารถทางด้านการแสดง ตุ๊กตานักแสดงนำฝ่ายชาย และอีกหลายสิ่งที่หล่อนคว้าได้และปาออกไป บางสิ่งเขารับได้ และบางสิ่งก็ตกแทบพื้น บางชิ้นเสียหาย จนลักษณ์ถลาไปกอบเก็บ แต่บางชิ้นเขาก็ได้แต่ร้องครางอย่างคนทำอะไรไม่ถูก ทว่าสะใจหล่อนนัก “อย่านะหนูตุ่น ชิ้นนั้น... ฉันขอร้อง อย่านะ ฉันขอร้อง...” เขายกมือห้าม อ้อนวอนเสียงอ่อน เมื่อป้ายคริสทัลสีชมพูใสแวววาวสลักชื่อนักแสดงนำฝ่ายชายยอดเยี่ยมปีล่าสุดอยู่ในมือหล่อน ซึ่งหล่อนไม่ใช่คนใจร้าย “พี่เลิฟ... จำเอาไว้นะ หนูไม่ใช่คนอ้วน! แต่ถึงพี่จะมองว่าหนูอ้วน หนูก็ไม่ได้ไปนั่งอ้วนอยู่บนหัวพี่! และถึงนมหนูจะใหญ่ หนูก็ภูมิใจว่ามันเป็
สายตาแม่นิดมองเครื่องแต่งกายของหล่อนมีแววกังวล ซึ่งหล่อนเข้าใจดีว่าแม่นิดห่วงหล่อนไม่ต่างจากแม่คนที่สอง แม่นิดคงไม่สบายใจหากหล่อนจะใส่เสื้อคลุมลงมาเดินชั้นล่าง แม้จะไม่มีผู้ชายคนไหนได้รับอนุญาตให้เข้ามาบริเวณบ้านในยามค่ำคืน แต่แม่นิดก็มักเตือนหล่อนเสมอเรื่องเครื่องแต่งกายและการวางตัว แต่ไม่ยักห้ามเวลาหล่อนไปป้วนเปี้ยนที่ตึกเล็ก นั่นเพราะแม่นิดก็เป็นหนึ่งในแฟนคลับเหนียวแน่นของพระเอกสุดหล่อน่ะสิ มรินดายิ้มแหยขยับเข้าไปเกาะแขน เอียงหน้าซบ “หนูตุ่นมองลงมาจากชั้นสองเห็นตึกเล็กไม่ได้เปิดไฟ หนูตุ่นเลยสงสัยน่ะค่ะ ไฟเสียเหรอคะ” “ไม่ได้เสียหรอกค่ะ แต่คุณเลิฟเธอว่าน่าจะมีหนูมากัดสายไฟ” “หนูกัดสายไฟเหรอคะ บ้านเรามีหนูด้วยเหรอคะแม่นิด” “ที่ตึกใหญ่เนี่ยไม่มีค่ะ เพราะแม่นิดไม่เคยเห็น สัญญาณไฟกล่องไล่หนูก็ทำงานดีค่ะ ที่ตึกเล็กแม่นิดก็ว่าแม่นิดไม่เคยเห็นเหมือนกันนะคะ แต่คุณเลิฟเธอว่ามี ตอนเธอกลับเข้ามาช่วงบ่ายเธอเห็นแมวมาวิ่งไล่จับหนูจนข้าวของตกลงมาเสียหายหมดเลยค่ะ พวกโล่รางวัลสำคัญๆ ทั้งนั้น เนี่ยเมื่อตอนเย็น คุณน้ำหวานก็มาขนของที่เสียหายออก
มรินดายืนหันข้าง บิดซ้ายบิดขวา มองตัวเอง ทั้งหมดนั้น มองมุมไหนหล่อนก็มั่นใจว่า ‘สวย’ แต่... เขาบอกว่าหล่อนอ้วน แถมเขายังเรียกหล่อนว่า ‘หมูตุ๋น’ “ไม่เห็นจะอ้วนสักนิด เนื้อ นม ไข่ ซะขนาดนี้ เรียกว่าอึ๋มต่างหาก คนบ้า! รสนิยมป่วย” หล่อนไม่เข้าใจเลยว่าทำไมผู้ชายส่วนใหญ่ถึงได้ชอบผู้หญิงผอมๆ แกร๋นๆ แต่กลับชอบผู้หญิงนมใหญ่ ในเมื่อถ้าผอมทุกอย่างในร่างกายก็จะต้องหดลงตามด้วยไม่ใช่เหรอ เพราะอย่างนี้คนผอมๆ ถึงไม่มีนม เดือดร้อนต้องไปเสริมหน้าอกกันอีก ส่วนหล่อนน่ะ “ของแท้แม่ให้มาล้วนๆ” สองมือกอบกุมเต้าอวบขนาดใหญ่ขาวอมชมพูจนคล้ายซาลาเปาลูกโตให้ชิดกัน เขาไม่ชอบเหรอ ไม่สิ... หล่อนว่าเขาชอบ เพราะเขาพูดว่า ‘อืม... ใหญ่...’ เขาชอบที่นมหล่อนใหญ่ เขาดูด เขา... เลีย จนหล่อนเสียวซ่านไปทั้งร่าง แล้วทำไมถึงบอกว่าหล่อนอ้วน “ผู้หญิงผอมๆ มีอะไรดี กอดตรงไหนก็มีแต่กระดูกไม่ใช่เหรอ” มรินดาหน้างอใส่กระจก พานคิดว่าคืนนี้เขาคงไปนอนกอดแม่สาวร่างแบบบางตัวเล็กจิ๋วคนนั้น คุณน้ำหวานที่แสนดี พูดเพราะและมีไมตรีกับหล่อนเสมอ ซึ่งคุณน้
แกร๊ก... เสียงสลักที่ถูกสะเดาะออกทำให้ลักษณ์ยิ้มกว้าง ในความสลัวดวงตาคมเข้มกลับแพรวพราว ประตูห้องถูกเปิดอย่างเบามือก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะค่อยๆ แทรกร่างเข้าไป จุดหมายคือเตียงนอนด้านในสุดของห้องที่ถูกจัดเตรียมข้าวของอำนวยความสะดวกอย่างพร้อมสรรพ ห้องนอนที่ไม่ต่างจากห้องชุดในคอนโดมิเนียมสุดหรู เพราะนอกจากห้องนอนแล้วยังมีห้องแต่งตัว ห้องรับแขก ห้องทำงาน และห้องน้ำ ขาดแค่ห้องครัวเท่านั้น ดวงตาคมเข้มกวาดมองข้าวของต่างๆ ที่เจ้าหญิงอวบอัดใช้สอย แม้ในแสงสลัวมีเพียงไฟตามจากนอกระเบียง แต่เขาก็ยังเห็นเครื่องเรือนสีขาวกับวอลล์เปเปอร์สีชมพูลายดอกไม้ รวมทั้งชุดนอนของหล่อนที่เขาแน่ใจว่าเป็นสีอ่อน ไม่ชมพูก็ขาว ลักษณ์ก้าวเข้าใกล้คนที่นอนหลับใหลไม่ต่างจากเจ้าหญิงนิทรา เพราะห้องนอนแห่งนี้คืออาณาจักรของหล่อน “เหมาะกับเธอจริงๆ นะหนูตุ่น ขาว ชมพู” เสียงทุ้มเอ่ยเบาพานนึกถึงยอดอกสีชมพูสดที่เขาละเลงลิ้นจนหล่อนดิ้นพล่านตัดกับผิวขาวผ่องนวลเนียนและหอมกรุ่น แค่คิดก็ทำให้ทุกอย่างตื่น นิ้วมือเคลื่อนขึ้นปลดรังดุมเสื้อเชิ้ตเม็ดที่เหลือ ถอดเสื้อออกจาก
ลักษณ์ซุกไซ้จมูกไปที่ซอกคอ ไหล่เนียน ก่อนจะเคลื่อนมาที่เนินอกอวบอิ่ม ยิ่งหอมก็ยิ่งซาบซ่านก่อเกิดไฟดวงน้อยในใจเขาให้ใหญ่ขึ้น จากอบอุ่นในคราแรกมาถึงตอนนี้ยิ่งร้อน ฝ่ามือกอบกุมเต้าอวบอัดขนาดใหญ่บีบเคล้นบางเบาอ่อนโยน จมูกก็จดลงไปหอมทั่วเต้า ก่อนจะเคลื่อนริมฝีปากมาที่ยอดอกข้างซ้าย อ้าอมเอายอดสีชมพูสดเข้าไป ดูดดุนเบาๆ สลับกับแลบลิ้นออกมาเลียไล้ เลียเร็วบ้างช้าบ้างสลับกันจนเจ้าของอกอวบแอ่นกายขึ้นสูง ส่งเสียงครางในลำคองึมงำ และเมื่อเขาย้ายมาอ้าอมยอดอกข้างขวา มรินดาก็ผวาราวไม่อยากให้เขาลาจาก “พี่เลิฟ... ซี้ด...” น้ำเสียงงึมงำไม่รู้ตัว แต่หล่อนดันเรียกชื่อเขาถูก อย่างนี้ต้องให้รางวัลเพิ่มขึ้น ลักษณ์เคลื่อนปากและจมูกลงมาตามเนื้อแน่น พร้อมกับแลบลิ้นเลียชิมความหวาน นั่นยิ่งเพิ่มเสียงกระเส่าของมรินดาเพิ่มขึ้น หล่อนร้อง หล่อนครวญคราง และหล่อนก็... แอ่นขึ้น ใช่... หล่อนกำลังให้ความร่วมมือ จมูก ปาก และปลายลิ้นยังคงซุกไซ้ชอนชิม ทว่าฝ่ามือกลับเคลื่อนกระชับที่ขอบยางยืด แค่เขารั้งลง หล่อนก็กระดกก้นขึ้น ทุกสิ่งถูกถอดออกอย่า
“ซี้ด… พี่เลิฟ… พี่เลิฟขา... ซี้ด... อื้อ… เสียว... หนูเสียว... พี่เลิฟ... ซี้ด…” หล่อนกดศีรษะเขากับความชุ่มฉ่ำ หวังให้ปลายลิ้นร้อนที่ฉกอยู่ในความชุ่มฉ่ำล้วงลึกเข้าไปมากยิ่งกว่ามาก และหล่อนก็ได้ดังหวัง เขาล้วงลิ้นเข้าลึกพร้อมกับขยี้ติ่งแห่งความเสียวจนหล่อนกรีดร้องครวญครางไม่หยุด สิ่งที่ก่อเกิดอยู่ในตัวเองเป็นความอัดอั้น อึดอัด จนหล่อนได้แต่ดิ้นพล่าน“อ้า... ซี้ด... พี่เลิฟ... อื้อ... พี่เลิฟขา... ซี้ด... หนูเสียว... หนูเสียว... อ๊ายยยย... หนูเสียว...” ปากก็ร่ำร้องว่าเสียวมากมาย ร่ำร้องว่าหล่อนใกล้จะทนไม่ไหว ร่ำร้องว่าหล่อนทรมานมากมายที่สุด ช่วงล่างก็ส่ายร่อนรับปากรับลิ้นเขาเร็วรี่ มันเป็นความสุขที่มาพร้อมกับความทรมานจนหล่อนพยายามดิ้นรนหลีกหนี แต่สุดท้ายก็เป็นหล่อนที่แอ่นใส่ปากเขาอย่างบ้าคลั่ง ท่ามกลางแสงสลัวของค่ำคืนที่มีเพียงแสงไฟตามจากนอกระเบียงส่องผ่านเข้ามาให้ห้อง ดวงตากลมโตของมรินดาเบิกกว้าง ริมฝีปากหล่อนอ้าค้างเปล่งเสียงครวญครางไม่มีที่สิ้นสุด และสิ่งที่หล่อนเห็นไม่ใช่ความสลัวแต่เป็นแสงสว่างมากมายที่กระจายเข้าหา ทุกอย่างดูขาวโพลนจนหล่อนต้องหลั
“ก็พี่อะไร...” “พี่เลิฟ... ออกไปจากห้องหนูเถอะนะ อย่าทำแบบนี้กับหนูเลย” หล่อนก้มหน้ามองแค่เพียงแผงอกที่มีขนรำไรของเขา แต่ต้องพูดต่อให้จบ อายก็จริง แต่จะไม่ยอมให้อะไรค้างคา “ถ้าพี่จะเอาคืนหนูด้วยวิธีนี้ ก็ถือว่าพี่ใจร้ายมาก ของพวกนั้น... ก็เป็นเพียงวัตถุนะ พี่ซ่อมได้ ชิ้นไหนซ่อมไม่ได้พี่ก็อาจไปขอใหม่ หรือไม่ก็ให้หนูชดใช้เป็นเงินก็ได้ แต่... แต่ถ้าพี่ทำหนู หนูเป็นคนนะ หนู... หนูเรียกคืนไม่ได้ ถ้าพี่ไม่เห็นแก่หนู พี่เห็นแก่พ่อแม่หนูก็ได้ พ่อแม่หนูก็ดีกับพี่ ถ้าท่านรู้ว่าพี่... ว่าพี่ทำแบบนี้กับหนู ท่านคงเสียใจ” หล่อนพูดยาว ปากสั่นเพราะกลั้นสะอื้น แต่หล่อนจะไม่ยอมมีน้ำตา ดวงตากลมโตช้อนขึ้นมองเขา อยากรู้ว่าลักษณ์จะตอบยังไง เขาจะเปลี่ยนใจหรือไปต่อ เพราะหากเขาเลือกอย่างหลัง หล่อนคงต้านทานไม่อยู่ เพราะเท่าที่เป็นอยู่ตอนนี้หล่อนก็แทบจะรั้งอารมณ์ตัวเองไม่ไหวแล้ว“อย่าใจร้ายกับหนูเลยนะ พี่เลิฟ...” “ใครว่าพี่ใจร้ายล่ะ พี่ทำให้หนูตุ่นมีความสุขต่างหาก เมื่อกี้ไม่สุขเหรอ” มรินดากัดปากตัวเองจนเจ็บ เขาใจร้ายจริงๆ “พี่ย
มรินดากดศีรษะเขาพร้อมกับส่ายร่อนสะโพกใส่ปากไม่หยุด เขาเร่งลิ้นตวัดรัวเร็วตามใจ เพราะรู้ว่าไม่นานหล่อนจะถึงสวรรค์ ซึ่งเป็นจริง “พี่เลิฟ! หนูเสียว… หนูเสียว… เสียว! เสียว! โอว... พี่เลิฟ! กรี๊ดดดดด...” มรินดากรีดร้องสุดเสียง ร่างอวบอิ่มสั่นกระตุกอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ ก่อนเสียงครวญครางจะกระเส่าแว่วหวาน แม้จะฟังไม่รู้ความ แต่ก็รู้ว่าหล่อนเสร็จ!! อีกครั้ง และครั้งนี้ที่หล่อนพรักพร้อม ลักษณ์เคลื่อนร่างขึ้นหาหล่อน ฝ่ามือประคองใบหน้าที่หอบหายใจกระเส่าให้มองเขา เพราะขั้นตอนต่อจากนี้คือสูตรสำเร็จ และคนอย่างเขาไม่เคยต้องล่อลวงใคร แม้ที่ทำไปทั้งหมดจะไม่ต่างจากการล่อลวงก็ตาม แต่นั่นเป็นเพราะรู้ว่ามรินดาชอบเขา แต่ตอนนี้เขาจะกำลังจะก้าวข้ามความชอบไปเป็นครอบครองเป็นเจ้าของ เขาอยากได้ยินจากปากว่าหล่อนยินยอมพร้อมใจให้เขาเข้าไป “หนูตุ่น...” หล่อนปรือตามองเขา ยังคงหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน “พี่จะทำแบบที่ผู้ชายผู้หญิงเขาทำกันแล้วนะ” ดวงตากลมโตเบิกกว้างมองเขาในทันที ก่อนจะหลุบสายตามองไปทางอื่น แม้กิริยาคือยินยอม แต่เขาอยากได้ยินจากปาก
เสียงพูดในคลิปถูกแทนที่ด้วยบทเพลงแห่งความรัก จากนั้นก็เป็นภาพถ่ายแรกที่คริตแอบถ่ายสมิดา ภาพหล่อนเคี้ยวขนมเต็มปาก ภาพหล่อนหาว ภาพหล่อนทำหน้ามุ่ยเพราะร้อน ภาพหล่อนกอดน้องหมีตัวโต จนมาถึงภาพในธีมวาเลนไทน์ ซึ่งความหมายของภาพก็มีเพียงเจ้าบ่าวเจ้าสาวเท่านั้นที่รู้ เพราะเป็นวันแรกที่ความรักเบ่งบาน เสียงปรบมือดังกึกก้องเมื่อคริตจูงมือเจ้าสาวขึ้นไปบนเวที สายตาเจ้าบ่าวที่มองเจ้าสาว ทำให้สาวพลัสไซส์ทุกคนมีความหวัง แค่หล่อนสวยในแบบฉบับของตัวเอง สวยด้วยทัศนคติการใช้ชีวิต แค่นั้นผู้ชายดีๆ ก็ตกถึงท้อง.. ในห้องหอ... “ที่รัก... อื้อ... น้องไม่ไหวแล้วนะคะ โอว... ซี้ด... พี่จ๋า... ไม่ไหวแล้ว... น้องไม่ไหวแล้ว...” สมิดาแอ่นร่างขึ้นสูงเปล่งเสียงครวญครางไม่ขาดปาก สะโพกใหญ่ก็ส่ายร่อนไม่หยุด เพราะลิ้นร้อนชอนลึกจนหล่อนทนอยู่เฉยไม่ไหว ต้องส่ายร่อนสะโพกให้เคลื่อนไหวอยู่ตลอด ทว่ายิ่งส่ายร่อนมากเท่าไร ก็คล้ายกับว่าลิ้นร้อนจะสอดใส่และชอนเข้าลึกมากยิ่งขึ้น “โอว... ที่รักขา... โอว... ซี้ด... เสียว... โอว... น้องเสียว ซี้ด... เสียว...” ความเสีย
ดวงตากลมโตมีแววหวาดหวั่นมองเจ้าของร้านซึ่งเป็นสาวเจ้าเนื้อไม่ต่างจากหล่อน “บอกว่าประมาณสิบโมงน่ะค่ะ” หล่อนตอบอ้อมแอ้มเพราะนี่ก็ 10 โมงแล้วแต่ยังไม่เห็นวี่แวว “แล้วเราจะรู้ได้ยังไงคะ ว่าคนไหนอะพี่ติ๊นา” ทุกสายตามองตรงมายังหล่อน ก็ใช่น่ะสิ เพราะไม่เคยมีใครเห็นหน้าตาของคริสติน่ามาก่อน ภาพแทนตัวในสื่อออนไลน์ที่คริสติน่าใช้จะเป็นภาพสาวอ้วนแต่งตัวเปรี้ยว และทุกคนก็เคารพในความเป็นส่วนตัวของกันและกัน จึงไม่เคยมีใครถามถึงหน้าตาที่แท้จริง แม้แต่เพศก็ไม่มีใครรู้ ทั้งเวลาที่คริสติน่าโทร.หาหล่อน ก็ไม่เคยเปิดกล้อง รู้แต่ว่าเสียงที่ได้ยินเป็นผู้หญิงค่อนข้างมีอายุเท่านั้น“พี่ติ๊นาบอกว่าจะใส่ชุดสีแดงค่ะ บอกว่าแดงแรงฤทธิ์ เห็นปุ๊บ พวกเราจะรู้ทันทีว่าเป็นพี่เขา” “หือ... แต่นี่ไม่เห็นมีใครแต่งแดงสักคนเลยนะ” สมิดามองออกไปด้านนอกอีกครั้ง ไม่มีวี่แววเลยว่าจะมีใครแต่งแดงเดินเข้ามา “น้องสะดิ้งลองโทร.หาสิ” “โทร.หลายรอบแล้วค่ะพี่ ปิดเครื่อง” “ฮะ! ตายล่ะ แล้วถ้าพี่ติ๊นาไม่มา เราจะทำไงล่ะ โน่น! นักข่าวรอกั
ร่างเปลือยลุกขึ้นจากเตียง ตรงไปหยิบกางเกงขาสั้นที่ถอดกองอยู่ ล้วงเอาโทรศัพท์ออกมา เขาต้องสั่งเตรียมงานของวันพรุ่งนี้ ‘ธีมวาเลนไทน์ พร้อมถ่าย 6 โมงเย็น’ นั่นคือข้อความที่ส่งออกไป ก่อนที่ร่างเปลือยจะเคลื่อนเข้าหาเตียงนอน แทรกร่างเข้าใต้ผ้าห่มนวมผืนเดียวกันกับหล่อน แต่ไม่มีสิ่งใดจะอุ่นเท่ากายเนื้อที่เขากอดอยู่นี้ กอดตระกองร่างอวบอิ่มที่นอนตะแคงข้างเผยให้เห็นแผ่นหลังขาวนวลเนียนและหัวไหล่น่าจูบน่าหอม แต่เขากลับ... “อื้อ... พี่คริต...” “ขอโทษจ้ะ นอนต่อนะ” คริตกอดกระชับเอวเจ้าเนื้อแนบเข้าหาลำตัวของเขา พลางมองรอยฟันจางๆ ที่หัวไหล่ของสมิดา ก่อนจะจูบทับลงไปอีกครั้ง..ผ่านมาอีก 1 เดือน ข่าวคาวๆ เรื่องนางแบบพลัสไซส์แอบกินตับกับช่างภาพที่กระจายอยู่บนหน้าสื่อก็ไม่มีทีท่าว่าจะคลายลง ทุกสื่อเพ่งเป้าไปที่หล่อนกับคริต มีหลายรายการติดต่อขอสัมภาษณ์ แต่สมิดาไม่ได้รับปาก หล่อนบอกแต่เพียงว่าคิวไม่ว่าง ส่วนหากมีใครมาคอมเม้นท์ในสื่อออนไลน์ของหล่อน หล่อนก็จะตอบทีเล่นทีจริงว่า ‘ไม่บอก ปล่อยให้งง’ พร้อมทั้งติดแฮชแท็กเก๋ๆ ว่า #ไม่ผอมแต่อร่อ
“พี่คริต!” “ไหวไหม” “อื้อ... ไหว...” หล่อนตอบพลางจิกเล็บที่ท่อนแขนของเขา เพราะความเจ็บปวดจากตรงนั้นกำลังกระจายวาบไปสู่ส่วนต่างๆ ของร่างกาย เจ็บมากแต่รู้ว่าไม่ควรร้อง เจ็บทุกคราที่เขาขยับเขยื้อนไม่มีสิ่งใดจะลดทอนลงได้ เพราะเขายังคงเดินหน้า เชื่องช้าแต่ปวดร้าว “อื้อ... พี่คริต...” “จ๋า... สะดิ้งแน่นเหลือเกิน โอว... แน่นที่สุด โอว...” หล่อนยิ้มแห้งเมื่อได้ยินเสียงครวญครางนั้น หล่อนเจ็บ แต่กลับได้ยินเสียงแห่งความสุข “โอว... สะดิ้งจ๋า... พี่จะไปช้าๆ อืม... โอว... ซี้ด... แน่นมาก โอว...” เขาจูบซับหยาดน้ำตาของหล่อน ก่อนจะเคลื่อนมาที่ปาก จูบอ่อนหวานและดุดันหนักแน่นตามอารมณ์ จากนั้นก็แทรกเรียวลิ้นชอนไชจนสมิดาเคลิ้ม ราวจะหลงลืมความเจ็บได้ชั่วครู่ แต่เมื่อท่อนแข็งขยับสอดใส่เพิ่มเข้ามาอีก หล่อนก็ได้ต้องอดกลั้นไว้ ใบหน้าที่นิ่วลงอย่างเจ็บปวดของสมิดาทำให้เขารู้ว่าต้องปลุกเร้าหล่อนให้มากกว่านี้ ปลายลิ้นจึงลากลงมาที่เต้าอวบใหญ่ เลียไล้ บีบเคล้น และดูดดื่มปลายยอดอย่างหนักหน่วง สลับกั
คริตละปากจากความหวานฉ่ำที่อร่อยลิ้นสุดๆ เคลื่อนใบหน้าขึ้นไปหาคนที่ยังครวญครางกระเส่าจากความเสียวที่ได้รับสองครั้งติดๆ เขาอยากปลอบโยนอยากพูดให้หล่อนผ่อนคลาย ทว่าริมฝีปากที่เผยอค้างและยังมีเสียงครางเล็ดลอดกลับทำให้เขาเปลี่ยนใจ ลิ้นร้อนชอนลึกสู่อุ้งปากหวาน ตวัดพลิ้วให้หล่อนรับรู้รสชาติความหอมหวานของตัวเอง รัดรึงดึงรั้งลิ้นน้อยๆ ให้ตามติด พัวพันดุนดูดจนหล่อนครางฮือ จากนั้นหล่อนก็คล้องต้นแขนรอบลำคอเขาและเป็นฝ่ายแทรกลิ้นเข้ามาต่อสู้ “อื้อ... พี่คริต...” “จ๋า... หวาน... อืม...” “พี่คริต... อื้อ... ซี้ด... อื้อ...” คริตเคลื่อนใบหน้าคลอเคลียอยู่ที่อกอวบ โอบกระชับให้ปลายยอดทั้งสองดันชิด ก่อนจะละเลงลิ้นพลิ้วส่ายสะบัดจนสมิดาดิ้นพล่าน จากนั้นก็ลากลิ้นลงมาตามหน้าท้อง กัดเบาๆ ไปทุกส่วน ดูดเลีย เม้ม และลากลิ้นสู่ความหอมหวานอีกครั้ง “อื้อ... พี่คริต...” หล่อนร่ำร้องเพราะเขาไม่ได้ซุกหน้าลงไป แต่กลับเคลื่อนขึ้นมาหา และส่งนิ้วไปละเลง “ซี้ด... พี่คริต...” สมิดาปรือตาขึ้นมองเขา จนเขาอ
สมิดาอมยิ้ม หล่อนมองเขาผ่านม่านน้ำตา เขาไม่รู้ว่าหล่อนจะเชื่อคำบอกรักของเขาไหม แต่เขาจะพิสูจน์ “พี่คริต... อื้อ... พี่คริตขา... อื้อ...” สมิดาสะบัดเรือนผมไปมาจนยุ่งเหยิง หล่อนควบคุมตัวเองไม่ได้เพราะความซ่านเสียวพวยพุ่งไปทั่วร่างทำให้หล่อนขาดสติ เรือนร่างคล้ายจะทำตามทุกอย่างที่ คริตชี้นำ แค่เขาช้อนฝ่ามือเข้าใต้แผ่นหลัง เต้าอวบใหญ่ของหล่อนก็แอ่นขึ้นจนชิดติดขอบปาก หล่อนอยากให้เขากลืนกิน กัด ดูด หรือทำอะไรก็ได้ให้หล่อนผ่อนคลายจากความเสียวนี้ ทั้งที่อีกใจก็ร้องบอกว่าหล่อนอยากเสียวให้มากกว่านี้ หล่อนอยากไปให้สุด อยากให้เขาทำตามที่ต้องการ ไม่ต้องอ่อนโยนกับหล่อน “อื้อ... พี่คริต... ซี้ด... พี่คริตขา...” หล่อนดีดดิ้นตามความซ่านเสียวที่ไล้วนอยู่รอบปลายยอดสีสด เพราะเขายังคงดูดดื่มไล้เลียราวกับเม็ดเชอร์รี่ของหล่อนเอร็ดอร่อยเหลือเกิน ทว่าหล่อนกลับอยากให้เขาขยับเคลื่อนปลายลิ้นไปที่ดอกไม้สดสวย ที่จุดนั้นมีความน่าละอาย มีน้ำหวานชุ่มฉ่ำล้นทะลักจนหยาดเยิ้มออกมา และก็ทำให้หล่อนคันยิบและเจ็บจี๊ดจนต้องบดเบียดต้นขาเข้าหากัน “ซี้ด... พี่คริตขา...”
คนที่นั่งตัวแข็งตั้งแต่หล่อนแนบอกอวบกับแผ่นหลังกว้าง ราวจะแข็งมากขึ้นเมื่อหล่อนพูดจบ เขาหันขวับมองหล่อนอย่างเร็ว ฝ่ามือทาบที่หัวไหล่บีบแรง ดวงตาของเขาร้อนรน สมใจหล่อน “ให้ใคร พี่ถามว่าให้ใคร!” “ไม่ให้ใครค่ะ ให้พี่คริตคนเดียว” หล่อนยิ้มให้เขาทั้งน้ำตา หัวใจเต็มตื้นอย่างบอกไม่ถูก ยอมรับว่าใจง่าย เพราะหล่อนตกหลุมรักเขาอย่างง่ายดายเหลือเกิน ตั้งแต่เมื่อไรกันที่หล่อนเฝ้าแต่แอบมองเขาตามหน้านิตยสาร มองอย่างชื่นชมดารานายแบบหรือหนุ่มไฮโซสักคน และก็แอบฝันว่าสักวันจะได้ร่วมงานกับเขา และครั้งนี้เมื่อมีโอกาสได้ใกล้ชิด หล่อนก็ไม่รีรอที่จะอ่อยเต็มที่ ทั้งที่รักษาเนื้อรักษาตัวมาเป็นอย่างดี มีแฟนก็มากสุดแค่จูบ ไม่เคยมีใครก้าวข้ามเส้นที่ขีดไว้ เพราะหล่อนไม่เคยให้โอกาส แต่กับเขาหล่อนเปิดโอกาสเต็มที่ เพราะความรู้สึกของหัวใจไม่โกหก หล่อนรักเขา... รักตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ “นะคะพี่คริต ช่วยกินสะดิ้งที สะดิ้งอยากให้พี่คริตกิน” “สะดิ้งจะต้องเสียใจ” “พร้อมค่ะ เพราะถ้าพี่คริตไม่กิน สะดิ้งก็...” “จะกินให้เกลี้ยงเลย”
ฝ่ามือของเขาก็โอบกระชับเต้าอวบใหญ่ เคล้นคลึงเบาๆ ทว่าเร้าอารมณ์จนหล่อนต้องแอ่นอกเข้าหา เพราะเขาเนิบนาบจนหล่อนอยากให้เขาทำให้รุนแรงกว่านี้ และอาการดิ้นพล่านของหล่อนก็ได้รับการตอบสนอง เมื่อบราเซียถูกถอดออกจากร่าง “ใหญ่มาก สวยมากด้วย” สมิดายกมือขึ้นป้องปิดอกของตัวเองเอาไว้ หล่อนอยากให้เขามอง อยากให้เขาเห็นความใหญ่โต แต่หล่อนก็อาย “ขอพี่กินได้ไหมครับ” อา... หล่อนจะบอกว่าไม่ได้เหรอ ในเมื่อเขารั้งฝ่ามือของหล่อนออกจากนั้นใบหน้าหล่อเหลาก็ฝังเข้ามาตรงกลางร่อง “อา... พี่คริต... อื้อ...” สมิดาครางกระเส่า เสียวจนต้องห่อไหล่ก่อนจะสะท้านเด้งขึ้นอัดส่งอกอวบใส่หน้าเขา เมื่อไรเคราสากลากไล้ไปตามเนื้อบอบบาง หล่อนส่ายสะบัดใบหน้าไม่เข้าใจความรู้สึกนี้ เพราะหล่อนเจ็บจากตอหนวดทิ่มตำ แต่หล่อนก็เสียวจนสั่นไปทั้งร่าง โดยเฉพาะ ‘ตรงนั้น’ ของหล่อนกำลังมีปฏิกิริยาตอบสนอง แค่เขาจับ จูบ ดูด เลีย หน้าอก หล่อนยังเสียวได้มากมายขนาดนี้ แล้วถ้าเขาไปต่อช่วงล่างล่ะ จะเสียวจะสั่นและจะเจ็บได้มากแค่ไหนกัน “ซี้ด... อื้อ...”
คริตประคองร่างอวบอัดให้หันหน้ามองเขา รู้ว่าหล่อนอาย แต่เขาไม่อยากรออะไรอีกแล้ว 3 ปีที่รอคอยเพราะแสดงออกไม่ได้ นั่นถือว่ามากเกินไปแล้ว และตอนนี้อีกแค่ชั่ววินาทีก็รอไม่ได้ เพราะค่ำคืนที่เขาตั้งใจสร้างให้ทุกอย่างเป็นใจไม่ได้หาง่ายๆ เริ่มตั้งแต่นัดหล่อนมาถ่ายแบบที่นี่... บ้านพักของครอบครัวเขาเอง ขอให้เพื่อนช่างภาพคนอื่นเรียกคิวน้องเมย์ในวันนี้ และทีมงานของเขาที่ดริ๊งก์กันอยู่ด้านบนนั้นด้วย ทุกอย่างเป็นใจ เหลือเพียงแต่หล่อน เขาหวังนิดๆ ว่าคืนนี้จะได้ แต่หวังมากๆ ว่าต้องได้แน่นอน ได้ทั้งตัว ทั้งหัวใจ “เป็นแฟนกันไหม” “คะ?” คริตไร้นิ้วมือขึ้นเกลี่ยข้างแก้มก่อนจะลากลงมาตามเส้นรอบปากของหล่อนอย่างช้าๆ และนุ่มนวล จากริมฝีปากบนลงมาที่ริมฝีปากล่าง หยุดที่กึ่งกลางริมฝีปาก และตอนนี้ใบหน้าเหวอๆ นั้นก็น่าจูบชะมัดและเขาก็ทนไม่ได้ ท่อนแขนเกี่ยวกระชากร่างอวบอัดเข้าใกล้ ฉกความร้อนรุ่มลงหาความหอมหวานทันที บดเบียดริมฝีปากเข้าหา จูบซับ ดูดดุน แนบแน่น แน่นอนว่าหล่อนจูบตอบ สมิดาไม่ได้ไร้เดียงสา เมื่อหล่อนคล้องแขนรอบลำคอของเขา และแหงนหน้ารับจูบดูดดื่ม ล