Share

EP.03 เจ้าสาวอวบ - กอดในฐานะสายเป็นเพื่อนกัน

“ขอโทษด้วยนะครับที่มาสาย โชคดีของผมที่คุณน้องหนูช่วยนำมา ไม่งั้นผมสายแย่เลย”

            เสียงทุ้มๆ ของผู้ชายที่ดังอยู่ด้านหลังทำให้นัชชาชะงัก ความร้อนราวจะแผ่ซ่านไปทั่วทั้งกาย แม้ขณะนี้เขาจะปล่อยมือออกจากรอบเอวหนาๆ ของหล่อนแล้วก็ตาม แต่ความอุ่นซ่านราวจะยังอยู่ คล้ายว่าเขาจะโอบกอดหล่อนไว้

            “คุณน้องหนูเชิญนั่งเลยครับ เดี๋ยวเราเริ่มประชุมได้เลย”

            “เอ่อ... ค่ะ ขอโทษทุกท่านด้วยนะคะ ที่ทำให้ต้องรอ”

            นัชชาตอบรับเขา ก่อนจะหันไปขอโทษขอโพยผู้เข้าร่วมประชุมคนอื่นๆ

            ไม่มีสีหน้าตำหนิจากใคร มีแต่สีหน้าจริงจังพร้อมสำหรับการประชุม เพราะคนที่เอ่ยอ้างว่าหล่อนพามานั้นเขาคือ ‘คุณก้องภพ’ รองประธานบริษัท หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ลูกชายของท่านประธาน เจ้าของที่นี่ไง

            หล่อนหย่อนกายอวบๆ ลงนั่งในเก้าอี้ว่างฝั่งซ้ายมือของเขา เพราะนี่คือการประชุมวางนโยบายของฝ่ายจัดซื้อประจำไตรมาสที่ 3 ซึ่งคนเตรียมข้อมูลพรีเซ้นท์คือหล่อน และเขาที่ส่งยิ้มน้อยๆ พร้อมผายมือมาด้านหน้า นั่นคือสัญญาณให้หล่อนเริ่มต้นได้เลย

            นัชชาโค้งศีรษะเพียงนิด ยิ้มแหยน้อยๆ ในเชิงขออภัย แต่เขากลับส่งยิ้มกว้างกลับมาให้

            เลือดลมราวจะสูบฉีดไปทั่วร่างสาววัย 25 ปี คำทำนายของหมอดูตาทิพย์ราวจะก้องอยู่ในหู

            ‘มีลาภเป็นสัตว์สองเท้า มีลาภเป็นสัตว์สองเท้า มีลาภเป็นสัตว์สองเท้า...’

            หรือจะเป็น... เขา

            ไม่น่า... นี่ลูกชายเจ้าของบริษัทเชียวนะ

            แต่... รอยยิ้มแบบนั้น นั่นเขาอ่อยหรือเปล่า

            ไม่น่า... เธออ้วน

            แต่... จะมีไหม ใครสักคนที่ชอบคนอ้วน

            ฉันก็แค่... อวบมากไปนิด

            ไม่อะ... เธออ้วน!!

            ดูตาเขาสิ... อ่อยชัดๆ

            นัชชากัดฟันกรอด พยายามสะกดจิตตัวเองให้จดจ่ออยู่กับเอกสารการประชุม และเมื่อเขาก้มหน้าลงมองเอกสารในมือ สติของหล่อนก็พร้อมสำหรับหน้าที่การงาน

.

.

            การประชุมดำเนินไปราว 2 ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้นลง รองประธานบริษัทมอบหมายงานให้แต่ละแผนกที่เกี่ยวข้องทำสรุปผลความน่าจะเป็นหากนำแผนงานนี้มาใช้ และขอนัดประชุมกันอีกครั้งในวันพรุ่งนี้เช้า เวลาเดิม

            “ทุกท่านเชิญตามสบายครับ แต่คุณน้องหนู อยู่ก่อน ผมมีเรื่องจะคุยด้วย”

            “คุยกับหนูเหรอคะ”

            “ใช่ครับ เชิญนั่ง”

            นัชชาใจเต้นตึกตัก คุณก้องภพมีอะไรจะคุยกับหล่อน หรือเขาจะตำหนิที่หล่อนมาสายจนเขาต้องช่วยเหลือ

            ดวงตากลมโตมองบรรดาผู้ร่วมประชุมที่ต่างทยอยกันเดินออกไป หัวใจหล่อนเต้นตึกตักเสียยิ่งกว่าเดิม แค่คิดว่าได้อยู่กับเขาตามลำพัง หัวใจหล่อนก็แทบจะกระเด็นออกมานอกอก แต่พอนึกว่าเขาอาจจะตำหนิ นั่นยิ่งเต้นแรงขึ้นอีกเท่าตัว นี่ถ้าเขาเปิดปากด่า หล่อนคงหัวใจวายตาย

            “เอ่อ... คุณก้องภพ มีอะไรจะคุยกับหนูหรือคะ”

            หล่อนเปิดปากถามทันทีที่ผู้ร่วมประชุมคนสุดท้ายเดินออกไป เพราะแค่คิดว่าเขาจะต่อว่า หล่อนก็จะทนไม่ไหวอยู่แล้ว ดังนั้นให้เขาด่าๆ ไปเถอะ หล่อนจะได้รีบหลบไปเลียแผลใจ ที่ริอ่านมโนว่าเขาเป็นสัตว์ 2 เท้าของหล่อน

            “คุณน้องหนูเป็นคนเตรียมเอกสารการประชุมเองทั้งหมดหรือคะ”

            “คะ? อ้อ... ค่ะ” หล่อนเอ๋อเล็กน้อยที่เขาใช้คำลงท้ายว่า ‘คะ’ กับหล่อน แต่เมื่อนึกได้ว่าพี่ติ๊กเจษฯ ก็พูดแบบนี้กับบรรดาแฟนคลับเหมือนกัน หากคุณก้องภพจะใช้คำนี้กับหล่อนที่เป็น ‘แฟนเขา’ จะเป็นอะไรไปล่ะ คิดแล้วก็มโนไปดาวอังคาร จนยิ้มเรี่ยราด ดวงตาเยิ้มฝัน

            “คุณน้องหนูครับ คุณน้องหนู...”

            “คะ คุณก้องภพว่ายังไงนะคะ”

            “ผมว่า เอกสารการประชุมละเอียดมาก คุณน้องหนูเตรียมมาได้อย่างครบถ้วน หายากนะครับ พนักงานที่จะใส่ใจงานดีขนาดนี้”

            นัชชายิ้มที่เขาชมซึ่งๆ หน้า แต่คำชมดูแปลกพิกลแบบนี้ เขามีแผนร้ายอะไรหรือเปล่า หรือเขาจะลองใจว่าหล่อนเป็นพวกบ้ายอไหม หรือนี่เป็นคำชมก่อนคำตำหนิชุดใหญ่จะมาเยือน

            “แต่วันนี้หนูมาสาย หนูต้องขอโทษคุณก้องภพด้วยนะคะ ถ้าคุณก้องภพไม่ช่วยออกหน้ารับแทน หนูคงดูไม่ดีในสายตาคนอื่นแน่” ชิงขอโทษไว้ก่อน อย่างน้อยหากเขาจะตำหนิจะได้ดูซอฟลง

            “ผมไม่ได้ช่วยคุณน้องหนูนะครับ ผมช่วยตัวเองต่างหาก เพราะถ้าผมไม่เจอคุณน้องหนูที่หน้าห้อง ผมคงดูไม่ดีที่มาสายคนเดียว ก็เลยต้อง ‘กอด’ คุณน้องหนูไว้ในฐานะคนสายเป็นเพื่อนกัน”

            นัชชาหุบยิ้มไม่ได้เลยเพราะเขาจงใจเน้นคำว่า ‘กอด’ ใช่ไหม

            อูย... หล่อนร้อนไปทั้งร่างจนจะไหม้อยู่แล้ว แต่เมื่อรู้ตัวว่าอยู่ต่อหน้าผู้บริหาร นัชชาจึงต้องเก๊กสีหน้าให้เป็นปกติ

            ดวงตากลมโตช้อนขึ้นมองเขา รอฟังว่าเขาจะพูดอะไรกับหล่อน แต่เขากลับเงียบ ไม่พูดอะไรออกมาอีก ดวงตาคมเข้มจ้องมองหล่อนและมียิ้มน้อยๆ บนใบหน้า ราวพบเจอของถูกใจ

            ‘ถูกใจใคร... เรา... ไม่น่า...’

            แค่คิดก็อดไม่ได้ที่จะก้มมองฝ่ามืออวบอูมของตัวเองที่วางอยู่บนตักกว้างใหญ่จากต้นขาตันเป็นท่อนซุง ความร้อนผ่าวที่กระจายไปทั้งร่างราวจะสลายไปจากความจริงที่เห็น

            ‘อ้วนขนาดนี้ สัตว์กี่เท้าก็ไม่มองหล่อนหรอกย่ะ! ยายอ้วน!!’

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status