“ไม่ใช่แขกมั้งคะคุณพ่อ ได้ยินมาว่าเป็นฝรั่ง” เกศรินทร์แทรกขึ้นน้ำเสียงเยาะหยันมาก แสงฉายจึงชะงักการทานอาหาร“ได้ยินเนี่ย จากไหนเหรอคะ ใครคาบ... มาบอก” แสงฉายตั้งใจเหน็บเพราะรู้ว่าคนฟ้องก็อยู่แถวนี้นี่แหละ“แสง ไม่ดีเลยนะลูก คือ พ่อได้ยินคนงานของลูกเขาพูดกันน่ะเรื่องแขกของลูกลูกพาเขาไปพักที่บ้านหรือ” อังกูรถามอย่างใจเย็นใช้น้ำเย็นเข้าลูบเพราะรู้จักนิสัยของบุตรสาวดีว่า เธอค่อนข้างจะปากร้ายถ้าหากโมโหขึ้นมา“ค่ะ หนูพาเขาไปพักที่บ้าน...” แสงฉายตอบพลางมองไปยังสองแม่ลูกที่เอียงหูฟังอย่างตั้งใจ“อุ้ยตาย! พาไปพักที่บ้านอย่างนั้นเหรอ” เกตุแก้วอุทานและถามน้ำเสียงเหยียดๆ“แบบนี้ชาวบ้านไม่เอาไปนินทากันหมดแล้วเหรอคะว่า นายหญิงเอาผู้ชายมานอนบ้าน” เกศรินทร์ว่า“ชาวบ้านยังไม่เอาไปนินทาหรอกค่ะ นอกเสียจากคนแถวนี้จะปากสว่าง” แสงฉายหันไปว่าและยิ้มให้เกศรินทร์“คุณแสง คุณว่าใคร” เกตุแก้วถามด้วยความไม่พอใจ“คุณพ่อไม่ได้รู้เรื่องนี้จากชาวบ้านมั้งคะ
“คุณแสง! ฉันไม่มีวันให้ยัยเกรซใฝ่ต่ำหรอกจะบอกให้” เกศรินทร์ที่นั่งฟังอยู่ได้แต่กัดฟันแน่นด้วยความเดือดดาล แต่เถียงอะไรไม่ได้“ฉันจะรอดูก็แล้วกันค่ะ”“แสง อย่าเพิ่งเถียงกันเลยได้ไหม” บิดาห้ามปรามขึ้น“แต่เมียของคุณพ่อน่ะ...” แสงฉายกำลังจะต่อว่าแต่...“ทำไม ฉันทำไม” เกตุแก้วสวนขึ้นทันที“ไม่ทำไมหรอกค่ะ ถ้าฝ่ายคุณไม่เริ่มอยากรู้อยากเห็น คงไม่ได้เถียงกัน”“ฉันไม่ได้อยากรู้อยากเห็นเรื่องต่ำๆ แบบนี้หรอกนะ” เกตุแก้วเริ่มของขึ้นแล้วสินะ“ยอมรับเลยค่ะว่ามันอยู่ต่ำกว่าสะดือ นั่นคือสิ่งที่พวกคุณอยากรู้ ถึงได้เรียกฉันมา อยากรู้ว่าผู้ชายของฉันเป็นใครมาจากไหน หล่อหรือเปล่า รวยไหม บอกให้ตรงนี้ก็ได้ค่ะ เขาก็แค่คนพเนจร อ่อ จะบอกอีกอย่างก็ได้ค่ะ เขาเชื่อเจอร์รี่เผื่ออยากเรียกชื่อ และไม่ต้อง ไปสอด... ส่อง นะคะ ว่างๆ เดี๋ยวจะพามาให้ชม เปิดตัวพร้อมกับแฟนของยัยเกรซก็ได้ ยัยเกรซมีแฟนหรือเปล่าเอามาอวดกันสักหน่อยดีไหม หืม” ดูเหมือนคำถามทิ้งท้ายของเธ
แต่เวลาเดียวกันนั้น แสงฉายกับวสินก็นั่งรถกลับบ้านด้วยอารมณ์ที่เดือดดาล แต่พยายามสะกดกลั้นเอาไว้ ไม่ให้แสดงออกมาเท่าไหร่ พยายามเข้มแข็งกับการกับคำพูดของบิดา เกตุแก้วรวมถึงลูกเลี้ยง และแม้ว่าภายนอกจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่ภายในจิตใจนี่สิที่มันมีรอยปวดร้าว มันเจ็บปวดจนอยากจะร้องไห้ ยิ่งนานวันเธอก็ยิ่งเหมือนคนนอก ไม่เคยได้รับการปกป้อง ฉะนั้นความอ่อนแอต้องเก็บซ่อนมันเอาไว้ให้ลึกที่สุดน้ำตาตกในก็ช่างมัน“ถ้าอัดอั้นก็ระบายออกมาก็ได้นะครับ” วสินเอ่ยขึ้นเบาๆ ท่ามกลางความเงียบขณะที่กำลังขับรถ“แสงโอเคค่ะ แสงชินแล้ว” แสงฉายตอบเสียงเรียบ“นายยังไม่ชินหรอกครับผมรู้ ขอโทษที่ผมทำอะไรไม่ได้มากไปกว่ายืนฟัง” เขาได้แต่ยืนฟัง นั่นก็เพราะว่าแสงฉายเข้มแข็งและเอาตัวรอดจากคนพวกนั้นได้“เหมือนถูกเรียกไปรุมนะคะว่าไหม แต่แสงก็รู้ล่วงหน้าแล้วล่ะว่ามันต้องเป็นแบบนี้”“เหมือนสี่รุมหนึ่ง แต่นายของผมเก่งมากเลยรู้ไหม”“แสงไม่ได
เธอกำลังหวั่นไหวในความรู้สึกตัวเองต่างหาก และทุกอย่างจะเกิดขึ้นเพราะว่าเธอชอบเขา แต่เวลานี้ไม่ทันได้คิดหรือไตร่ตรองอะไรทั้งสิ้นเพราะอารมณ์กำลังเตลิดเกินจะมีสติ และยอมให้เขามอบจูบแสนหวาน อ่อนโยนให้ด้วยความเต็มใจเนิ่นนานกว่าจะถอนจูบออกเพื่อมองหน้ากันอีกครั้ง“ไว้ใจผมไหม” เจรัลด์กระซิบถามขณะที่เรียวปากยังคงชิดกัน เธอรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นที่รดรินลงมา เธอยังคงหายใจหอบแต่ไม่ได้เอ่ยอะไรนอกเสียจากเลียริมฝีปากเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าเท่านั้นแหละเขาก็ฉกจูบที่ปากนุ่มอีกครั้ง แต่คราวนี้รวดเร็ว เร่าร้อน หนักหน่วงจนหายใจแทบจะไม่ทัน เธอก็ตอบรับจูบได้เก่งและเร่าร้อนขึ้น พร้อมกับเสียงหายใจหอบพร่าดังสลับกัน เรียวปากขบเม้มพร้อมกับละเลียดเรียวลิ้นปาดเลียบนเรียวปากหวาน ก่อนจะสอดแหย่เข้าไปในโพรงปาก และตวัดควานหาความหวานจากลิ้นอุ่นที่ตอบไร้เดียงสาดูดดื่ม ขบเม้มกันเป็นบางจังหวะ สติหลุดลอยเหมือนปลดปล่อยไปกับความสุขจูบเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ และมาพร้อมกับเสียงหายใจหอบกระชั้นหนักหน่วง และจากมือหนาที่ประคองใบหน้าเธอเอาไว้ ขยับเคลื่อนลงมาลู
“เจอร์... เจอร์... เจอร์รี่ อืม” เธอได้แต่เอ่ยสั้นๆ เพราะยังเคอะเขินอยู่มาก“ที่รัก คุณคงไม่ว่า ถ้าผมจะ... จะเอามือออก แล้ว...” กระซิบบอกทำเอาเธอใจหาย และไม่ทันได้ทัดทานเขาก็ขยับมือออกจากกลีบสาว แล้วก้มลงจูบที่ปากบาง ก่อนจะถอนจูบแล้วเอ่ยอีกครั้ง“แล้วใช้ปากแทน” เขาบอกพลางยิ้มหวานแต่เธอตาโตด้วยความตกใจระคนตื่นเต้น หัวใจเต้นแรงตุบๆ ขณะที่เขาขยับตัวลงไปเรื่อยๆ กระทั่งใบหน้าอยู่ตรงกลางกายเธอพอดี เขารีบถอดเสื้อตัวเองออกเหลือไว้แต่กางเกง จากนั้นจึงจับขาทั้งสองข้างของเธอเอาไว้ แต่เธอก็รีบหุบเข้า ทว่าทำไม่ได้เพราะติดที่เขาแทรกตัวอยู่ เธอจึงเอามือปิดเล็กน้อยเพราะเขินอาย“เจอร์รี่ ฉัน... ฉันยังไม่... ยังไม่เคย” เธอบอกเสียงอึกอัก เขินอาย หวาดกลัว แต่ก็ต้องการ“หึๆ ผมรู้ที่รัก ผมไม่ทำให้คุณกลัวหรอกนะ แค่คุณทำตามความรู้สึก โอเค๊” เขาพูดเสียงหวานแผ่วเบาและปลอบโยนเธอไม่ให้หวาดหวั่น เธอได้แต่พยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นเขาจึงจับมือเธอออก แล้วจับขาทั้งส
“ไม่ที่รัก ไม่” เขาปฏิเสธเสียงนุ่มก่อนจะตัดสินใจละเลงลิ้นปาดเลียร่องเสียวร้อนแรง พลางดูดดึงเม็ดเสียวหนักๆ สลับกันไปมาอย่างช่ำชอง ทำเอากายสาวสะท้านเสียวซ่านครั้งแล้วครั้งเล่า พร้อมกับบิดเร้าไปมา เนื้อตัวสั่นเทิ้มไปหมด“อ๊ะ! โอ้ว! เจอร์รี่! อื้อ!” เธอครางลั่นห้องอีกครั้ง แต่ก็คงเก็บกดน้ำเสียงและความต้องการเอาไว้ไม่กล้าร้องขอมากไปกว่านี้ทั้งที่ต้องการเหลือเกิน ทำได้แต่เพียงยกสะโพกรับจังหวะอันร้อนแรงจากเขากระทั่งกำลังจะพุ่งทะยานไปสู่จุดหมาย นั่นก็ยิ่งทำให้เขาดูดดื่มกับน้ำฉ่ำหวานแรงขึ้นและเร็วขึ้น กระทั่งร่างบางกระตุกเกร็ง“อ๊ะ! อ๊ะ! อื้อ! ที่รัก โอ้ว” เธอผ่อนเสียงครางพลางกระตุกไปทั้งตัว และหดเกร็งเพื่อปลดปล่อยความสุขให้หลั่งไหลออกมา มือเรียวก็จิกที่นอนนุ่มเอาไว้แน่น และกัดริมฝีปากตัวเองเอาไว้เพื่อผ่อนอารมณ์ แต่ทว่าเขายังคงดูดเลียน้ำหวานอันเสียวซ่านที่ฉ่ำไหลออกมาอย่างหิวกระหาย เธอก็หายใจหอบพร่า เหนื่อยเพียงเพราะถึงจุดสุดยอด“ที่รักได้โปรด ฉัน ฉัน... พอแล้วค่ะ ขึ้นมาหาฉันเถอะ” คราวนี้เธ
“ไว้ใจผมนะ เดี๋ยวจะไม่เจ็บแล้ว” เขาบอกอีกครั้ง น้ำเสียงอ่อนโยนและอดสงสารเธอไม่ได้ แต่สุดท้ายแล้วก็สู้อารมณ์ปรารถนาไม่ไหว เธอจึงพยักหน้าอีกครั้ง จากนั้นเขาจึงตัดสินใจกดแท่งร้อนผ่านทางสวาทเข้าไปอย่างเชื่องช้า เนื้อกายสาวบีบรัดรึงแน่น และฟิตจนแท่งร้อนไซส์อเมริกันถึงกับอึดอัดและเสียวซ่านเอามากๆ“ซี๊ด! อื้อ! เจ็บค่ะ” เธอซีดปากด้วยความเจ็บพลางขมวดคิ้ว“อีกนิดเดียวนะยอดรัก” เขาปลอบโยนเสียงพร่า ก่อนจะตัดสินใจกดสะโพกแรงๆ เพื่อนำพาแท่งร้อนให้จมหายเข้าไปในทางสวาท ขณะที่เธอถึงกับแอ่นลำตัวเกร็งพร้อมกับหายใจเพื่อให้ผ่อนคลาย และกัดริมฝีปากแน่น“อื้อ! อ๊ะ! เจอร์รี่” เพราะความเจ็บทำให้เธอทนไม่ไหว จนต้องเปล่งเสียงออกมาและกอดเขาไว้แน่น กระทั่งอาวุธร้ายจมดิ่งหายเข้าไปจนมิด เมื่อสุดทางทั้งคู่หยุดเคลื่อนไหวเพื่อจะได้หายใจ“ซี๊ด โอ้ว คนเก่ง คุณเพอร์เฟค อืม” สิ้นคำเขาก็ก้มลงจูบเธอ พร้อมกับเคลื่อนไหวขยับสะโพกแกร่งเข้าออกอย่างเชื่องช้า เพื่อให้ทางที่คับแน่นไหลลื่นขึ้น และจา
“ยอดรัก อ่า ผมอยากจะ...” เขาเอ่ยปากพลางเลียริมฝีปากตัวเองราวกับหิวกระหาย ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปแนบชิดกับบั้นท้ายงาม“ผมอยากดูดเลียน้ำหวานของคุณอีกรอบ” สิ้นเสียงพูดเขาก็ใช้นิ้วแหวกกลีบสาวออกจากกัน และเลียลงไปที่ร่องเสียวฉ่ำแฉะอีกครั้ง ปลายลิ้นร้อนสุดช่ำชองปาดเลียขึ้นลงจนเธอเสียวสะท้าน ครางออกมาอย่างสุดจะกลั้น พร้อมกับดุนดันปลายลิ้นตวัดขยี้เม็ดเสียว ก่อนจะสอดแหย่ปลายลิ้นแทรกเข้าไปในรูสวาทแล้วขยับเข้าออกดังแจ๊ะๆ จนเธอได้ยิน แต่ก็อื้ออึงพูดออกมาไม่ได้ มีเพียงเสียงครางดังออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า เขาช่างเร่าร้อนและทรมานเธอได้อย่างสุดยอด“จะ จะ เจอร์รี่ อูยยยย อ่า ที่รัก อ่า” เธอครางไม่เป็นศัพท์สลับกับเสียงหายใจหอบกระชั้น สะโพกสวยก็ขยับเคลื่อนไหว พลางแอ่นไปทางด้านหลังเพื่อให้เขาละเลงลิ้นได้อย่างถนัด“หวานมากยอดรัก อ่า ผมจะดูดกินให้หมดเลย” เขาเอ่ยพร่ำพลางโลมเลียร่องเสียวและดูดน้ำหวานที่หลั่งไหลออกมา ทำให้เธอเสียวซ่านจนจะทนไม่ไหวเป็นรอบที่สาม“เจอร์รี่ อืม อ่า
“ซี๊ด อ่า เยส อ่า” เขาหายใจหอบ พร้อมกับแนบกลางกายกับเนินเนื้อนุ่มเอาไว้โน้มตัวลงไปสวมกอดและจูบอย่างดูดดื่ม เนิ่นนานจนรู้สึกว่ามังกรตัวร้ายได้ปลดปล่อยพ่นพิษออกมาจนหมดแล้ว ร่างกายทั้งสองเบาหวิวสุขสม และเหนื่อยหอบอย่างประหลาด ทว่าเขายังคงจูบอ้อยอิ่งอยู่นานจนอิ่มเอม แล้วค่อยถอดแท่งร้อนออกช้าๆ ทว่าทั้งคู่ยังหอบอยู่ พูดออกมาไม่ได้ มีเพียงแววตาที่สื่อถึงกันเท่านั้น เขาจึงยิ้มบางๆ และแนบหน้าผากกับเธอเอาไว้“จะเบื่อไหมถ้าผมจะพูดว่า... ผมรักคุณ” เขากระซิบที่ปากอิ่มเบาๆ“ฉันไม่ได้ยินคำนี้มาเป็นเดือน จะเบื่อได้ยังไงคะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเดียวกัน“ผมคิดถึงแทบขาดใจ ไม่เป็นอันทำงานเลย” พูดจบเขาก็ประคองใบหน้าเธอเอาไว้อย่างอ่อนโยน“ฉันก็รักและคิดถึงคุณมากค่ะ”“เสร็จแล้ว หายคิดถึงหรือยัง” เขาถามเสียงเจ้าเล่ห์เชียว“แล้วคุณล่ะคะ”“หึๆ ยังเลย กินได้อีก กินได้เรื่อยๆ ผมมีความสุขมากนะรู้ไหม
“อืม ค่ะ” เธอตอบสั้นๆ เขาก็ใช้มือข้างเดิมแหวกกลีบสาวออกจากกัน พร้อมกับใช้ปลายนิ้วกรีดกรายไปตามร่องเสียวที่เริ่มฉ่ำไปด้วยน้ำหวาน เขาบดเบียดฝ่ามือและปลายนิ้วกับร่องเสียวขึ้นลงจนไหมสีดำเปียกลู่“ซี๊ด อ่า เจอร์รี่ อืม เสียวค่ะที่รัก” เธอครางออกมาและพูดด้วยความที่ทนไม่ไหวอีกต่อไป เสียวซ่านทุกอณูรูขุมขน“เสียวตรงไหนจ้ะ เสียวเพราะปากผมหรือมือ”“อืม ทั้งสองเลยค่ะ อ่า มือคุณร้อนจังเลยค่ะ” เธอกระซิบบอกเสียงหวาน“ผมร้อนทั้งตัว อยากเข้าไปร้อนในตัวคุณด้วย แต่เดี๋ยวก่อน” เขาเองก็มีความต้องการไม่แพ้เธอ เพียงแต่เขาอยากจะดื่มด่ำกับความหวานและบำเรอเธอให้ถึงที่สุด“ซี๊ดดดด อ่า เข้ามาสิคะ” เธอเรียกร้องเสียงแหบพร่าแผ่วเบา พลางกระดกยกสะโพกขึ้นรับจังหวะที่ปลายนิ้วกรีดกรายร่องเสียวหนักหน่วง“อ่า อืม ที่รัก อ่า อย่าทรมานกันสิคะ อ๊ะ! ฉันเสียวจะแย่อยู่แล้ว” เธอครางเสียงหวานแผ่วเบา“ดีจ้ะผมอยากให้คุณรู
ทว่าช่วงเวลาเดียวกันนั้น แสงฉายยังคงเดินเล่นอยู่ในสวนหน้าบ้าน อย่างเพลิดเพลิน จากนั้นก็กวาดตามองออกไปยังไร่องุ่นที่กว้างสุดลูกหูลูกตา แม้ว่าเวลานี้พระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว แต่ก็สามารถมองเห็นได้ชัดเจน เธอสูดอากาศเย็นสดชื่นเข้าปอดเพื่อความผ่อนคลาย หลับตาพริ้ม แต่แล้วอยู่ๆ ก็นึกถึงเจรัลด์ขึ้นมาอีกครั้งใช่เธอคิดถึงเขา และกลัวว่าเขาจะไม่กลับมาอีกแล้ว กลัวมันจะเป็นเพียงความวาบหวามที่เกิดขึ้นมาในขณะนั้นเท่านั้นเอง เขาคงจะไม่จริงจังหรอก อีกอย่างฝรั่งก็ไม่ได้แคร์เรื่องเซ็กส์อยู่แล้ว เธอคิด แต่เธอรักเขาไปแล้วจะห้ามใจไม่ให้คิดถึงอย่างไรได้“ฉันจะรอคุณนะเจอร์รี่ นานแค่ไหนก็จะรอ” มันเป็นการรอคอยโดยไร้ซึ่งความหวังเหลือเกิน เธอคิดแล้วก็ถอนหายใจจากนั้นจึงตัดสินใจเดินกลับเข้าบ้าน ซึ่งเวลานี้บนโต๊ะอาหารถูกจัดเตรียมเอาไว้แล้วด้วยฝีมือแม่บ้านพร้อมกับครอบฝาชีเอาไว้เป็นอย่างดี เธอเห็นแล้วจึงเดินผ่านเลยขึ้นไปยังห้องนอนเพื่อจะได้อาบน้ำชำระคราบเหงื่อไหลเสียก่อนแต่ในทุกๆ วันที่แสงฉายกลับขึ้นห้อง ก็ยังคงรู้สึกถึงความหวามไหว ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วทั้งห้อง มันมีร่องร
“ใช่ค่ะ เดี๋ยวเขาก็มา” เธอตอบเสียงเรียบขึ้น“รู้น่าว่าคิดถึง”“ก็ต้องคิดถึงสิคะ เป็นเรื่องธรรมดา”“ปกติผู้หญิงจะปากแข็ง แต่นี่ไม่”“จะปากแข็งไปทำไมคะ คิดถึงก็บอกคิดถึงสิ”“แล้วมีความคิดสักวูบไหมที่คิดว่าเขาจะไม่กลับมา”“มีค่ะ แอบคิดว่าคนแปลกหน้าที่เพิ่งเจอกันได้ไม่นาน จะรักษาสัญญาไปทำไม เราอาจจะเป็นทางผ่านก็เป็นได้ แต่คิดอีกที ช่วงเวลาที่ไม่นานมันก็ทำให้เราเห็นทุกอย่างที่เขาอยากให้เห็น เช่นตัวจริงของเขา แสงเชื่อว่าเขาจริงใจพอ แสงเชื่อและจะรอ เดี๋ยวเขาก็คงจะมาเยี่ยมเรา ตอนนี้แสงก็ทำงานเพลินๆ จะได้ไม่ต้องคิดถึงเขามากไง”“ก็ดีแล้วครับ นายหญิงของผมเข้มแข็งเสมอ”“อยากจะเข้มแข็งให้ได้ตลอดนะคะ แต่บางทีก็อาจจะไม่ไหว”“หึๆ ต้องไหวสิครับ เดี๋ยวเขาก็มา เชื่อสิ”“ค่ะ เชื่อก็เชื่อ” “ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอไปทำงานต่อก่อนนะครับ”“เอ่อ อย่าล
ช่วงเวลาเดียวกันนี้ จอร์นนี่ซึ่งถือว่าเป็นหัวหน้าบอร์ดี้การ์ด ก็กำลังให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ทั้งหมด ว่าเจรัลด์เป็นใครมาจากไหน และคนที่มาป้องร้ายคือใคร รวมถึงวสินก็ได้ให้ข้อมูลหลังจากที่เจรัลด์มาพักรักษาตัวกับแสงฉาย ทำให้ตำรวจได้รู้ความจริงทั้งหมดและเป็นประโยชน์ต่อการจับกุมมากทว่าไม่นานนัก แสงฉายกับเจรัลด์พร้อมด้วยผู้ติดตามก็มาสมทบที่โรงพัก ส่วนผู้ร้ายทั้งหมดอยู่ที่โรงพยาบาล มีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา ส่วนผู้เสียชีวิตหนึ่งรายถูกเก็บร่างเอาไว้ในห้องดับจิต ขณะเดียวกันผู้ต้องหาที่ได้รับบาดเจ็บก็ยอมรับสารภาพทั้งหมด จึงได้รู้ว่าผู้สมรู้ร่วมคิดเป็นทั้งฝรั่งและคนไทยด้วยความที่แสงฉายกับอังกูรค่อนข้างมีชื่อเสียง มีอิทธิพลอยู่ไม่น้อย ทำให้ได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ตำรวจนายใหญ่ได้รายชื่อผู้อยู่เบื้องหลังแล้ว จึงรีบสั่งการเพื่อสกัดตัวผู้มีส่วนเกี่ยวกับการวางแผนฆ่าเจรัลด์ เรียกได้ว่าตามจับให้ได้ก่อนที่ผู้ต้องหาจะหลบหนีออกนอกประเทศต่อมาเรื่องราวทั้งหมดกลายเป็นข่าวใหญ่ จากที่ทุกคนไม่รู้ว่าเจรัลด์เป็นใครก็ได้รู้ว่าเขาใช่คนธรรมดา ส่วนคนร้ายซึ่งเป็นเพื่อนร่วมธ
“ค่ะ งั้นแยกย้าย ฝากบ้านด้วยนะคะ” แสงฉายบอกอีกครั้ง จากนั้นทุกคนจึงได้พากันกลับ และจัดเวรยามเพื่อเฝ้าบ้านขณะที่แสงฉายเป็นคนขับรถพาเจรัลด์และบอร์ดี้การ์ดไปโรงพัก เพื่อจะได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมโดยมีวสินกับจอร์นนี่คอยให้ปากคำอยู่ก่อนแล้วขณะเดียวกัน ที่บ้านของพ่อเลี้ยงอังกูร ทุกคนกลับมาถึงบ้านเรียบร้อย ต่างคนต่างนั่งหน้าชาและหน้าแตก เพราะความขี้อิจฉา ใส่ความพี่สาวของเกศรินทร์แท้ๆ ที่ที่ทำให้เกิดเรื่องแย่ๆ มาถึงตอนนี้เธอก็ได้แต่นั่งก้มหน้ารับกรรมเล็กๆ ไป เวลานี้ทุกคนมองเธอราวกับตัวประหลาด เพราะที่เรื่องมีอะไรกับวสินก็เพิ่งจะเกิดขึ้นหมาดๆ และยังแก้ไขไม่ได้ ไหนจะเรื่องใส่ไฟพี่สาวอีก“ฝรั่งขี้นก ต๊อกต๋อย ไม่มีหัวนอนปลายเท้า หึๆ นี่แหละน้า ตีค่า ตีราคาคนจากภายนอก คนที่เราไม่รู้จักเลย แต่กลับเอามาใส่สีตีไข่ได้เป็นเรื่องเป็นราว ไหนจะหาว่าเขาเป็นโจรหลบหนีอีก” อังกูรพูดลอยๆ ไม่ได้มองหน้าใคร แต่ทุกคนรู้ตัวดี“ก็ยัยเกรซนั่นแหละ หูเบา ไม่ดูตาม้าตาเรื
“แล้วพ่อได้ยินเสียงปืน ลูกไม่ได้เจ็บอะไรตรงไหนใช่ไหม” อังกูรถามด้วยความเป็นห่วง“ไม่ค่ะ” เธอตอบสั้นๆ ห้วนๆ“ก็ดีแล้ว เอ่อ คุณตำรวจ ผมไม่รู้ว่าคนพวกนี้เป็นใครนะ แต่จับไปก่อนนะ”“ฉันจะส่งตัวแทน ให้วสินกับคนของเจอร์รี่ไปก่อน” แสงฉายบอกและหันไปมาพูดกับวสิน“งั้นจอร์นไปกับวสิน ให้ปากคำทั้งหมดที่เป็นประโยชน์ และบีบเอาความจริงออกมาให้ได้ว่าใครอยู่เบื้องหลังบ้าง สาวไปให้หมด” เจรัลด์หันไปสั่งลูกน้องเช่นกัน“ได้ครับเจ้านาย” จอร์นนี่รับคำ“ถ้างั้น พวกเราเรียกเจ้าหน้าที่เจ้ามาเก็บศพให้เรียบร้อย อะไรที่เป็นหลักฐานเอาไปให้หมดนะ แล้วก็ตามผมไปโรงพักด้วย” นายตำรวจหนุ่มสั่งการพร้อมกับโทรเรียกมูลนิธิมาเก็บศพจากนั้นก็นำตัวผู้ร้ายที่ได้รับบาดเจ็บไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล อีกทั้งให้วสินและจอร์นนี่ตามไปให้ข้อมูลที่แท้จริง ส่วนที่เหลือก็อยู่กับแสงฉาย เพื่อจะได้เคลียร์กับทางบิดา ที่แจ้งความโดยไม่รู้เร
“เอาล่ะ ระหว่างรอตำรวจ พวกนั้นบอกได้ไหมว่าคนที่เหลือเป็นยังไงบ้าง แล้วหาฉันเจอได้ยังไง” เจรัลด์หันมาถามลูกน้องของตัวเอง“ตั้งแต่วันนั้น เราไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้านาย ได้ยินแต่เสียงปืน แต่พอ เควินเห็นหน้าเรา มันก็บอกว่ามันฆ่านายแล้ว พวกเราตกใจมากครับและกำลังจะถูกเก็บไปด้วย ก็เลยชิงหลบหนีก่อนอย่างน้อยเอาตัวเองให้รอด เพื่อจะได้มาเก็บศพเจ้านายกลับบ้านทีหลัง” จอร์นนี่เริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง“แล้วอะไรทำให้พวกนายคิดว่าฉันรอดและออกตามหาฉันล่ะ”“พอพวกเราหนีไปได้ ก็เลยไปวางแผนกันว่าจะเอายังไง ลงความเห็นว่าจะตามหาร่างของเจ้านาย จะอยู่หรือตายเราต้องได้เห็นแล้วจะพากลับบ้าน การเริ่มต้นหาคือนายตกจากน้ำตก ฉะนั้นน้ำตกมันไหล่ผ่านตรงนี้ นี่คือสุดปลายทางแล้ว เราเลยลองหาเรื่อยๆ ครับแต่ไม่เจอ คาดว่าร่างของเจ้านายต้องมาเกยอยู่แถวนี้ แต่ก็ไม่เห็น” คำบอกเล่าของจอร์นนี่ทำให้เจรัลด์ถอนหายใจด้วยความเครียด หากแสงฉายไม่มาเจอเขาอาจจะตายไปแล้วก็ได้เพราะตัวอยู่ในน้ำนี่นะ“แล้วตาม
“เสียใจด้วยเจสัน ค่าหัวคุณแพงจนผมใจอ่อนให้คุณไม่ได้” ชายคนเดิมบอกพร้อมกับเอาปืนจ่อมาที่เจรัลด์แต่ไม่ใกล้นัก ขณะที่ลูกน้องภายในบ้านพยายามคิดหาแผนการที่จะยิงทั้งสี่คนโดยที่เจ้านายไม่เป็นอะไร และคิดว่าทำอย่างไรให้ปืนเข้าไปอยู่ในมือของเจรัลด์อีกครั้ง“เฮ้! พวกเรา” เสียงตะโกนของวสินดังขึ้นจากที่ซ่อน เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ ทำให้ชายคนดังกล่าวหันไปมองโดยอัตโนมัติ และวินาทีเดียวกันนั้นจอร์นนี่ก็โยนปืนในมือส่งให้เจ้านายทันที ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากไม่ถึงห้าวินาทีปัง! ปัง! ปัง! เจรัลด์ยิงรัวสามนัดจนชายเบื้องหน้าก็กระตุกเฮือก ยืนนิ่ง แล้วร่วงทรุดลงไปกับพื้น พร้อมกับปืนในมือก็ร่วง อีกคนที่เห็นจึงกราดยิ่งทันที เจรัลด์ก็กลิ้งหลบ แต่... คราวนี้วสินกับลูกน้องก็จ่อยิ่งไปที่คนกลุ่มนั้น ลูกน้องของเจรัลดก์วิ่งออกมาบังกระสุนให้เจ้านายเอาไว้ พร้อมกันสาดกระสุนใส่กันอย่างเมามันปัง! ปัง! ปัง! เสียงปืนสะเทือนเลือนลั่นท่ามกลางความมืด ทุกคนกรูกันเข้ามาปกป้องเจรัลด์เอาไว้ แต่จอร์นนี่เป็นคนให้สัญญาณมือว่าพอก่อน จากนั