“ไว้ใจผมนะ เดี๋ยวจะไม่เจ็บแล้ว” เขาบอกอีกครั้ง น้ำเสียงอ่อนโยนและอดสงสารเธอไม่ได้ แต่สุดท้ายแล้วก็สู้อารมณ์ปรารถนาไม่ไหว เธอจึงพยักหน้าอีกครั้ง จากนั้นเขาจึงตัดสินใจกดแท่งร้อนผ่านทางสวาทเข้าไปอย่างเชื่องช้า เนื้อกายสาวบีบรัดรึงแน่น และฟิตจนแท่งร้อนไซส์อเมริกันถึงกับอึดอัดและเสียวซ่านเอามากๆ“ซี๊ด! อื้อ! เจ็บค่ะ” เธอซีดปากด้วยความเจ็บพลางขมวดคิ้ว“อีกนิดเดียวนะยอดรัก” เขาปลอบโยนเสียงพร่า ก่อนจะตัดสินใจกดสะโพกแรงๆ เพื่อนำพาแท่งร้อนให้จมหายเข้าไปในทางสวาท ขณะที่เธอถึงกับแอ่นลำตัวเกร็งพร้อมกับหายใจเพื่อให้ผ่อนคลาย และกัดริมฝีปากแน่น“อื้อ! อ๊ะ! เจอร์รี่” เพราะความเจ็บทำให้เธอทนไม่ไหว จนต้องเปล่งเสียงออกมาและกอดเขาไว้แน่น กระทั่งอาวุธร้ายจมดิ่งหายเข้าไปจนมิด เมื่อสุดทางทั้งคู่หยุดเคลื่อนไหวเพื่อจะได้หายใจ“ซี๊ด โอ้ว คนเก่ง คุณเพอร์เฟค อืม” สิ้นคำเขาก็ก้มลงจูบเธอ พร้อมกับเคลื่อนไหวขยับสะโพกแกร่งเข้าออกอย่างเชื่องช้า เพื่อให้ทางที่คับแน่นไหลลื่นขึ้น และจา
“ยอดรัก อ่า ผมอยากจะ...” เขาเอ่ยปากพลางเลียริมฝีปากตัวเองราวกับหิวกระหาย ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปแนบชิดกับบั้นท้ายงาม“ผมอยากดูดเลียน้ำหวานของคุณอีกรอบ” สิ้นเสียงพูดเขาก็ใช้นิ้วแหวกกลีบสาวออกจากกัน และเลียลงไปที่ร่องเสียวฉ่ำแฉะอีกครั้ง ปลายลิ้นร้อนสุดช่ำชองปาดเลียขึ้นลงจนเธอเสียวสะท้าน ครางออกมาอย่างสุดจะกลั้น พร้อมกับดุนดันปลายลิ้นตวัดขยี้เม็ดเสียว ก่อนจะสอดแหย่ปลายลิ้นแทรกเข้าไปในรูสวาทแล้วขยับเข้าออกดังแจ๊ะๆ จนเธอได้ยิน แต่ก็อื้ออึงพูดออกมาไม่ได้ มีเพียงเสียงครางดังออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า เขาช่างเร่าร้อนและทรมานเธอได้อย่างสุดยอด“จะ จะ เจอร์รี่ อูยยยย อ่า ที่รัก อ่า” เธอครางไม่เป็นศัพท์สลับกับเสียงหายใจหอบกระชั้น สะโพกสวยก็ขยับเคลื่อนไหว พลางแอ่นไปทางด้านหลังเพื่อให้เขาละเลงลิ้นได้อย่างถนัด“หวานมากยอดรัก อ่า ผมจะดูดกินให้หมดเลย” เขาเอ่ยพร่ำพลางโลมเลียร่องเสียวและดูดน้ำหวานที่หลั่งไหลออกมา ทำให้เธอเสียวซ่านจนจะทนไม่ไหวเป็นรอบที่สาม“เจอร์รี่ อืม อ่า
“คุณมีความสุขไหมที่รัก” เขาถามอีกครั้งเพราะอยากจะให้เธอตอบ เงียบเกินไปเขาใจคอไม่ดี“มีสิคะ” เธอตอบและยิ้มหวาน จากนั้นก็เบือนสายตามองไปทางอื่นเพราะความเขินอาย นึกถึงบทรักเร่าร้อนและเสียงครางของตัวเองแล้วอายเหลือเกิน ไม่รู้เตลิดไปขนาดนั้นได้ยังไง“ผมอยากทำให้คุณมีความสุขทั้งคืน” เขากระซิบข้างหูของเธอ แต่เธอกลับเปลี่ยนท่าเป็นนอนตะแคงหน้าออกไปทางหน้าต่าง เขาจึงต้องซ้อนมาทางด้านหลังเหมือนเดิมและกอดเธอเอาไว้“ผมทำได้ไหม” เขาพยายามจะให้เธอคลั่งตายคาอกเขาให้ได้สินะ“อื้อ! เจอร์รี่ เอ่อ เท่านี้ฉันก็... จะแย่อยู่แล้ว”“แล้ว ดีใช่หรือเปล่าครับ หืม”“ค่ะ” เธอตอบอย่างเอียงอาย“หันมาหาผมหน่อยสิยอดรัก” เขาเรียกเธอเสียงอ่อนเสียงหวานเลยเชียว เธอจึงต้องหันกลับมาในทันที จังหวะเดียวกันเขาก็ใช้มือเชยคางเธอขึ้นแล้วกระซิบชิดเรียวปาก“มันอาจจะเร็วไป
“เฮ้อ!” เจรัลด์ถอนหายใจเล็กน้อย“ผมมีความจริงจะบอกคุณ” พอเขาเอ่ยเช่นนี้เธอก็เอียงคอหันกลับมาหาเล็กน้อย“ความจริงหรอคะ ความทรงจำของคุณกำลังกลับมาหรือเปล่า” เธอถามด้วยความสงสัย“อืม ก็ใช่เลยล่ะ เฮ้อ! แต่ก่อนอื่นบอกผมก่อนว่าจะไม่โกรธผมนะ”“พูดแบบนี้น่าหวั่นใจจังเลย ก็ได้ค่ะ”“ผมเอ่อ ผมไม่ใช่คนเลวร้ายอย่างที่นึกคิดหรือน่าหวั่นไจ แต่ผมก็ไม่ได้ใช่คนดีเสียทีเดียว ผมเอ่อ... ชื่อของผมคือ... เจสัน คิงส์” การได้ยินชื่อจริงนามสกุลจริงของเขาทำให้เธออึ้งไปเลย“ที่ไม่บอกชื่อจริง เพราะไม่อยากให้เป็นอันตรายทั้งต่อตัวผม แต่ต่อตัวคนที่ช่วยเหลือผม ไม่อยากบอกความจริงเพราะกลัวคุณและคนสนิทถูกพ่วงด้วย” เหตุผลของเขาน่าฟัง จะโกรธก็ใช่เรื่อง“บอกความจริงทั้งหมดได้ไหมคะ” เธอขอร้องเสียงหวานและตอนนี้เขาก็ไม่อยากปิดบังแล้ว“ครับ ผมเพิ่งมาเมืองไทย มาดูงานเพราะว่
“อืม” เขาเริ่มรู้สึกร้อนรุ่มเสียวปลาบตามเนื้อตัว เลือดลมวิ่งพล่านไปทั่วร่างกายราวกับธาตุไฟเข้าแทรก ขณะเดียวกันเขาก็เอามือลูบไล้แผ่นหลังไล่ลงที่บั้นท้ายและบีบเคล้นพร้อมกับจับให้เคลื่อนไหวถูไถกับแท่งร้อน เธอก็ทำตามด้วยการขยับโยกบดเบียดขึ้นลง“ซี๊ด อ่า จับให้ผมหน่อยสิที่รัก” เขาครางและกระซิบบอก เธอจึงเอื้อมมือลงไปจับอย่างว่าง่าย พร้อมกับขยับรูดเข้าออก“ซี๊ด อืม ดีจ้ะ อ่า มือคุณยอดเยี่ยม” เขาครางด้วยความพอใจเพราะความเสียวซ่านจากมือน้อยๆ ที่แสนจะไร้เดียงสาแต่เก่งกาจขึ้นเพราะถูกสอน“ทำแบบนี้นะ” เขากระซิบสอนอีกครั้งพร้อมกับมือเธอนำทาง ด้วยการจับแท่งร้อนถูไถกับกลีบสาวที่เริ่มฉ่ำแฉะขึ้นลงเอาใจ และนั่นทำให้เธอเสียวซ่านจนต้องซีดปากและจูบที่ปากร้อนของเขาอีกครั้ง สะโพกกลมกลึงขยับขึ้นลงเพื่อถูไถบดเบียดกลีบสาวกับแท่งร้อนอยู่นานกระทั่งจนอยากกดมันจมหายเข้าไปในรูสวาท“ซี๊ดดดด ที่รัก ผมอยาก... อืม” เขากำลังจะทนไม่ไหวเสียวซ่านเช่นนี้มาตลอดทั้งคืน มีควา
“คุณต้องการผมมากไหม”“ค่ะ ฉันต้องการคุณ เข้ามาหาฉันได้แล้วที่รัก” สิ้นคำของเธอ เขาก็ยิ้มด้วยความพอใจ ก่อนจะก้มลงจูบที่ปากร้อน แล้วเอามือจับแท่งร้อนขยับรูดกระตุ้นให้มันขยายใหญ่เต็มที่ ก่อนจะจดจ่อที่ทางสวาท“ผมจะเข้าไปแล้วนะที่รัก คุณเตรียมครางลั่นห้องได้เลย” เขากระซิบเสียงพร่าอารมณ์เริ่มควบคุมไม่อยู่ และไม่อยากจะรออะไรอีกแล้ว เมื่อพูดจบเขาก็จับแท่งร้อนกดสอดแทรกผ่านรูสวาทเข้าไปอย่างรวดเร็ว มันยังคงคับแน่นอยู่แต่ผ่านได้ง่ายขึ้นเพราะมันลื่นไหล ทำให้แท่งร้อนทะลวงลึกเข้าไปจนสุดทางรัก“ซี๊ดดดด อืม” เธอครางออกมาด้วยความเสียวซ่าน พลางขมวดคิ้วก่อนจะกอดเอวเขาไว้แน่นเลยทีเดียว“ยังเจ็บอยู่ไหม หืม” เขาก้มกระซิบถามเสียงพร่า พลางประคองใบหน้าเธอเอาไว้แล้วกดจูบที่ปากแห้งผาก“เจ็บนิดหน่อยค่ะ แต่... อื้อ! ดีขึ้นมากแล้ว” เธอบอกเสียงแหบพร่า ขณะที่เขาเริ่มขยับสะโพกอย่างเชื่องช้า“ดีมากเลยใช่ไหม”
จนกระทั่ง เวลาผ่านไปนานนับชั่วโมง แสงฉายจึงได้ลงมาพร้อมกับเจรัลด์ ซึ่งมีชื่อจริงๆ ว่าเจสัน แต่เธอยังไม่ชินปาก“เอ่อ ฉันเรียกคุณว่าเจอร์รี่เหมือนเดิมได้ไหมคะ” แสงฉายเอ่ยขึ้นขณะที่กำลังเดินเล่นที่หน้าบ้าน“คุณควรเรียกผมว่าที่รักด้วยซ้ำนะครับ” เจรัลด์เอ่ยยิ้มๆ“วันนี้อู้มากเลยค่ะ” แสงฉายเบี่ยงเบนประเด็นทันที พลางก้มหน้าลงนิดหน่อย“งั้นรอให้วสินมาแล้วก็ฝากงานก็ยังได้นะครับ ระดับเจ้านายไม่ต้องไปทำอะไรแล้วล่ะ วันนี้พักสักวันนะ” เจรัลด์บอกด้วยเสียงอ่อนโยน แต่พูดไม่ทันขาดคำ วสินก็เดินตรงมาหาพร้อมกับลูกน้องอีกสองคนทันที ท่าทางของเขาร้อนใจอย่างประหลาด“นายหญิง อรุณสวัสดิ์ครับ” วสินมาถึงก็เอ่ยทักทายเสียงนุ่ม ขัดจากสีหน้าตอนเดินมาโดยสิ้นเชิง“อรุณสวัสดิ์ค่ะ วันนี้มาสายหรือเปล่าคะ” แสงฉายตอบกลับและแซว“ผมมาแล้วรอบหนึ่งครับ” วสินยิ้มพลางหรี่ตามองเจ้านายคนงาม“อ้
แต่ถึงกระนั้นก็เถอะ แม้เจรัลด์จะถูกให้เก็บเนื้อเก็บตัวมากแค่ไหน แต่เขาก็คือฝรั่งหนึ่งเดียวในหมู่บ้านของแสงฉาย แถมยังเข้ามาอยู่ในบ้านเธออีก เรื่องถึงบิดาแล้ว ชาวบ้านก็ต้องรู้เป็นเรื่องธรรมดา ตอนนี้สิ่งที่ห่วงคือคนกลุ่มนั้นอาจจะเข้ามาสืบสาวราวเรื่องจากคนในหมู่บ้านอีกครั้งก็ได้ ไม่ใช่แค่คนที่มาปองร้ายเจรัลด์เท่านั้นที่น่ากลัว แต่ญาติๆ ของแสงฉายก็ไม่เบา“จากที่สอบถามคนที่ร้าน ถ้าไม่ผิดตัวมันบอกว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นเจ้าของสวน” ชายแปลกหน้าคนหนึ่งเอ่ยขึ้น“แต่จากจุดที่เรายืนอยู่นี่คือเขตระหว่างฟาร์มวัวนมกับสวนองุ่นนะโว้ย จะเอายังไงดี เหมือนเป็นเจ้าของเดียวกัน” ชายแปลกหน้าอีกคนให้ความเห็น“เราลองเดินสอดส่อง ทำทีเป็นถ่ายรูป เจอใครเราก็ลองถามดูว่าบ้านเจ้าของสวนองุ่นอยู่ที่ไหน” ฝรั่งคนหนึ่งให้ความเห็นพร้อมกับยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูป ซึ่งสถานที่แห่งนี้ก็สามารถเดินเล่นท่องเที่ยวได้ เพราะเป็นฟาร์มวัวและสวนองุ่น ที่คั่นกลางด้วยรั้วสีขาว แต่ไม่ใช้ประตูเท่านั้นเอง เดินไปอีกไม่กี่เมตรก็เป็นซุ้มประตู้โค้งค
“ซี๊ด อ่า เยส อ่า” เขาหายใจหอบ พร้อมกับแนบกลางกายกับเนินเนื้อนุ่มเอาไว้โน้มตัวลงไปสวมกอดและจูบอย่างดูดดื่ม เนิ่นนานจนรู้สึกว่ามังกรตัวร้ายได้ปลดปล่อยพ่นพิษออกมาจนหมดแล้ว ร่างกายทั้งสองเบาหวิวสุขสม และเหนื่อยหอบอย่างประหลาด ทว่าเขายังคงจูบอ้อยอิ่งอยู่นานจนอิ่มเอม แล้วค่อยถอดแท่งร้อนออกช้าๆ ทว่าทั้งคู่ยังหอบอยู่ พูดออกมาไม่ได้ มีเพียงแววตาที่สื่อถึงกันเท่านั้น เขาจึงยิ้มบางๆ และแนบหน้าผากกับเธอเอาไว้“จะเบื่อไหมถ้าผมจะพูดว่า... ผมรักคุณ” เขากระซิบที่ปากอิ่มเบาๆ“ฉันไม่ได้ยินคำนี้มาเป็นเดือน จะเบื่อได้ยังไงคะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเดียวกัน“ผมคิดถึงแทบขาดใจ ไม่เป็นอันทำงานเลย” พูดจบเขาก็ประคองใบหน้าเธอเอาไว้อย่างอ่อนโยน“ฉันก็รักและคิดถึงคุณมากค่ะ”“เสร็จแล้ว หายคิดถึงหรือยัง” เขาถามเสียงเจ้าเล่ห์เชียว“แล้วคุณล่ะคะ”“หึๆ ยังเลย กินได้อีก กินได้เรื่อยๆ ผมมีความสุขมากนะรู้ไหม
“อืม ค่ะ” เธอตอบสั้นๆ เขาก็ใช้มือข้างเดิมแหวกกลีบสาวออกจากกัน พร้อมกับใช้ปลายนิ้วกรีดกรายไปตามร่องเสียวที่เริ่มฉ่ำไปด้วยน้ำหวาน เขาบดเบียดฝ่ามือและปลายนิ้วกับร่องเสียวขึ้นลงจนไหมสีดำเปียกลู่“ซี๊ด อ่า เจอร์รี่ อืม เสียวค่ะที่รัก” เธอครางออกมาและพูดด้วยความที่ทนไม่ไหวอีกต่อไป เสียวซ่านทุกอณูรูขุมขน“เสียวตรงไหนจ้ะ เสียวเพราะปากผมหรือมือ”“อืม ทั้งสองเลยค่ะ อ่า มือคุณร้อนจังเลยค่ะ” เธอกระซิบบอกเสียงหวาน“ผมร้อนทั้งตัว อยากเข้าไปร้อนในตัวคุณด้วย แต่เดี๋ยวก่อน” เขาเองก็มีความต้องการไม่แพ้เธอ เพียงแต่เขาอยากจะดื่มด่ำกับความหวานและบำเรอเธอให้ถึงที่สุด“ซี๊ดดดด อ่า เข้ามาสิคะ” เธอเรียกร้องเสียงแหบพร่าแผ่วเบา พลางกระดกยกสะโพกขึ้นรับจังหวะที่ปลายนิ้วกรีดกรายร่องเสียวหนักหน่วง“อ่า อืม ที่รัก อ่า อย่าทรมานกันสิคะ อ๊ะ! ฉันเสียวจะแย่อยู่แล้ว” เธอครางเสียงหวานแผ่วเบา“ดีจ้ะผมอยากให้คุณรู
ทว่าช่วงเวลาเดียวกันนั้น แสงฉายยังคงเดินเล่นอยู่ในสวนหน้าบ้าน อย่างเพลิดเพลิน จากนั้นก็กวาดตามองออกไปยังไร่องุ่นที่กว้างสุดลูกหูลูกตา แม้ว่าเวลานี้พระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว แต่ก็สามารถมองเห็นได้ชัดเจน เธอสูดอากาศเย็นสดชื่นเข้าปอดเพื่อความผ่อนคลาย หลับตาพริ้ม แต่แล้วอยู่ๆ ก็นึกถึงเจรัลด์ขึ้นมาอีกครั้งใช่เธอคิดถึงเขา และกลัวว่าเขาจะไม่กลับมาอีกแล้ว กลัวมันจะเป็นเพียงความวาบหวามที่เกิดขึ้นมาในขณะนั้นเท่านั้นเอง เขาคงจะไม่จริงจังหรอก อีกอย่างฝรั่งก็ไม่ได้แคร์เรื่องเซ็กส์อยู่แล้ว เธอคิด แต่เธอรักเขาไปแล้วจะห้ามใจไม่ให้คิดถึงอย่างไรได้“ฉันจะรอคุณนะเจอร์รี่ นานแค่ไหนก็จะรอ” มันเป็นการรอคอยโดยไร้ซึ่งความหวังเหลือเกิน เธอคิดแล้วก็ถอนหายใจจากนั้นจึงตัดสินใจเดินกลับเข้าบ้าน ซึ่งเวลานี้บนโต๊ะอาหารถูกจัดเตรียมเอาไว้แล้วด้วยฝีมือแม่บ้านพร้อมกับครอบฝาชีเอาไว้เป็นอย่างดี เธอเห็นแล้วจึงเดินผ่านเลยขึ้นไปยังห้องนอนเพื่อจะได้อาบน้ำชำระคราบเหงื่อไหลเสียก่อนแต่ในทุกๆ วันที่แสงฉายกลับขึ้นห้อง ก็ยังคงรู้สึกถึงความหวามไหว ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วทั้งห้อง มันมีร่องร
“ใช่ค่ะ เดี๋ยวเขาก็มา” เธอตอบเสียงเรียบขึ้น“รู้น่าว่าคิดถึง”“ก็ต้องคิดถึงสิคะ เป็นเรื่องธรรมดา”“ปกติผู้หญิงจะปากแข็ง แต่นี่ไม่”“จะปากแข็งไปทำไมคะ คิดถึงก็บอกคิดถึงสิ”“แล้วมีความคิดสักวูบไหมที่คิดว่าเขาจะไม่กลับมา”“มีค่ะ แอบคิดว่าคนแปลกหน้าที่เพิ่งเจอกันได้ไม่นาน จะรักษาสัญญาไปทำไม เราอาจจะเป็นทางผ่านก็เป็นได้ แต่คิดอีกที ช่วงเวลาที่ไม่นานมันก็ทำให้เราเห็นทุกอย่างที่เขาอยากให้เห็น เช่นตัวจริงของเขา แสงเชื่อว่าเขาจริงใจพอ แสงเชื่อและจะรอ เดี๋ยวเขาก็คงจะมาเยี่ยมเรา ตอนนี้แสงก็ทำงานเพลินๆ จะได้ไม่ต้องคิดถึงเขามากไง”“ก็ดีแล้วครับ นายหญิงของผมเข้มแข็งเสมอ”“อยากจะเข้มแข็งให้ได้ตลอดนะคะ แต่บางทีก็อาจจะไม่ไหว”“หึๆ ต้องไหวสิครับ เดี๋ยวเขาก็มา เชื่อสิ”“ค่ะ เชื่อก็เชื่อ” “ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอไปทำงานต่อก่อนนะครับ”“เอ่อ อย่าล
ช่วงเวลาเดียวกันนี้ จอร์นนี่ซึ่งถือว่าเป็นหัวหน้าบอร์ดี้การ์ด ก็กำลังให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ทั้งหมด ว่าเจรัลด์เป็นใครมาจากไหน และคนที่มาป้องร้ายคือใคร รวมถึงวสินก็ได้ให้ข้อมูลหลังจากที่เจรัลด์มาพักรักษาตัวกับแสงฉาย ทำให้ตำรวจได้รู้ความจริงทั้งหมดและเป็นประโยชน์ต่อการจับกุมมากทว่าไม่นานนัก แสงฉายกับเจรัลด์พร้อมด้วยผู้ติดตามก็มาสมทบที่โรงพัก ส่วนผู้ร้ายทั้งหมดอยู่ที่โรงพยาบาล มีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา ส่วนผู้เสียชีวิตหนึ่งรายถูกเก็บร่างเอาไว้ในห้องดับจิต ขณะเดียวกันผู้ต้องหาที่ได้รับบาดเจ็บก็ยอมรับสารภาพทั้งหมด จึงได้รู้ว่าผู้สมรู้ร่วมคิดเป็นทั้งฝรั่งและคนไทยด้วยความที่แสงฉายกับอังกูรค่อนข้างมีชื่อเสียง มีอิทธิพลอยู่ไม่น้อย ทำให้ได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ตำรวจนายใหญ่ได้รายชื่อผู้อยู่เบื้องหลังแล้ว จึงรีบสั่งการเพื่อสกัดตัวผู้มีส่วนเกี่ยวกับการวางแผนฆ่าเจรัลด์ เรียกได้ว่าตามจับให้ได้ก่อนที่ผู้ต้องหาจะหลบหนีออกนอกประเทศต่อมาเรื่องราวทั้งหมดกลายเป็นข่าวใหญ่ จากที่ทุกคนไม่รู้ว่าเจรัลด์เป็นใครก็ได้รู้ว่าเขาใช่คนธรรมดา ส่วนคนร้ายซึ่งเป็นเพื่อนร่วมธ
“ค่ะ งั้นแยกย้าย ฝากบ้านด้วยนะคะ” แสงฉายบอกอีกครั้ง จากนั้นทุกคนจึงได้พากันกลับ และจัดเวรยามเพื่อเฝ้าบ้านขณะที่แสงฉายเป็นคนขับรถพาเจรัลด์และบอร์ดี้การ์ดไปโรงพัก เพื่อจะได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมโดยมีวสินกับจอร์นนี่คอยให้ปากคำอยู่ก่อนแล้วขณะเดียวกัน ที่บ้านของพ่อเลี้ยงอังกูร ทุกคนกลับมาถึงบ้านเรียบร้อย ต่างคนต่างนั่งหน้าชาและหน้าแตก เพราะความขี้อิจฉา ใส่ความพี่สาวของเกศรินทร์แท้ๆ ที่ที่ทำให้เกิดเรื่องแย่ๆ มาถึงตอนนี้เธอก็ได้แต่นั่งก้มหน้ารับกรรมเล็กๆ ไป เวลานี้ทุกคนมองเธอราวกับตัวประหลาด เพราะที่เรื่องมีอะไรกับวสินก็เพิ่งจะเกิดขึ้นหมาดๆ และยังแก้ไขไม่ได้ ไหนจะเรื่องใส่ไฟพี่สาวอีก“ฝรั่งขี้นก ต๊อกต๋อย ไม่มีหัวนอนปลายเท้า หึๆ นี่แหละน้า ตีค่า ตีราคาคนจากภายนอก คนที่เราไม่รู้จักเลย แต่กลับเอามาใส่สีตีไข่ได้เป็นเรื่องเป็นราว ไหนจะหาว่าเขาเป็นโจรหลบหนีอีก” อังกูรพูดลอยๆ ไม่ได้มองหน้าใคร แต่ทุกคนรู้ตัวดี“ก็ยัยเกรซนั่นแหละ หูเบา ไม่ดูตาม้าตาเรื
“แล้วพ่อได้ยินเสียงปืน ลูกไม่ได้เจ็บอะไรตรงไหนใช่ไหม” อังกูรถามด้วยความเป็นห่วง“ไม่ค่ะ” เธอตอบสั้นๆ ห้วนๆ“ก็ดีแล้ว เอ่อ คุณตำรวจ ผมไม่รู้ว่าคนพวกนี้เป็นใครนะ แต่จับไปก่อนนะ”“ฉันจะส่งตัวแทน ให้วสินกับคนของเจอร์รี่ไปก่อน” แสงฉายบอกและหันไปมาพูดกับวสิน“งั้นจอร์นไปกับวสิน ให้ปากคำทั้งหมดที่เป็นประโยชน์ และบีบเอาความจริงออกมาให้ได้ว่าใครอยู่เบื้องหลังบ้าง สาวไปให้หมด” เจรัลด์หันไปสั่งลูกน้องเช่นกัน“ได้ครับเจ้านาย” จอร์นนี่รับคำ“ถ้างั้น พวกเราเรียกเจ้าหน้าที่เจ้ามาเก็บศพให้เรียบร้อย อะไรที่เป็นหลักฐานเอาไปให้หมดนะ แล้วก็ตามผมไปโรงพักด้วย” นายตำรวจหนุ่มสั่งการพร้อมกับโทรเรียกมูลนิธิมาเก็บศพจากนั้นก็นำตัวผู้ร้ายที่ได้รับบาดเจ็บไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล อีกทั้งให้วสินและจอร์นนี่ตามไปให้ข้อมูลที่แท้จริง ส่วนที่เหลือก็อยู่กับแสงฉาย เพื่อจะได้เคลียร์กับทางบิดา ที่แจ้งความโดยไม่รู้เร
“เอาล่ะ ระหว่างรอตำรวจ พวกนั้นบอกได้ไหมว่าคนที่เหลือเป็นยังไงบ้าง แล้วหาฉันเจอได้ยังไง” เจรัลด์หันมาถามลูกน้องของตัวเอง“ตั้งแต่วันนั้น เราไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้านาย ได้ยินแต่เสียงปืน แต่พอ เควินเห็นหน้าเรา มันก็บอกว่ามันฆ่านายแล้ว พวกเราตกใจมากครับและกำลังจะถูกเก็บไปด้วย ก็เลยชิงหลบหนีก่อนอย่างน้อยเอาตัวเองให้รอด เพื่อจะได้มาเก็บศพเจ้านายกลับบ้านทีหลัง” จอร์นนี่เริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง“แล้วอะไรทำให้พวกนายคิดว่าฉันรอดและออกตามหาฉันล่ะ”“พอพวกเราหนีไปได้ ก็เลยไปวางแผนกันว่าจะเอายังไง ลงความเห็นว่าจะตามหาร่างของเจ้านาย จะอยู่หรือตายเราต้องได้เห็นแล้วจะพากลับบ้าน การเริ่มต้นหาคือนายตกจากน้ำตก ฉะนั้นน้ำตกมันไหล่ผ่านตรงนี้ นี่คือสุดปลายทางแล้ว เราเลยลองหาเรื่อยๆ ครับแต่ไม่เจอ คาดว่าร่างของเจ้านายต้องมาเกยอยู่แถวนี้ แต่ก็ไม่เห็น” คำบอกเล่าของจอร์นนี่ทำให้เจรัลด์ถอนหายใจด้วยความเครียด หากแสงฉายไม่มาเจอเขาอาจจะตายไปแล้วก็ได้เพราะตัวอยู่ในน้ำนี่นะ“แล้วตาม
“เสียใจด้วยเจสัน ค่าหัวคุณแพงจนผมใจอ่อนให้คุณไม่ได้” ชายคนเดิมบอกพร้อมกับเอาปืนจ่อมาที่เจรัลด์แต่ไม่ใกล้นัก ขณะที่ลูกน้องภายในบ้านพยายามคิดหาแผนการที่จะยิงทั้งสี่คนโดยที่เจ้านายไม่เป็นอะไร และคิดว่าทำอย่างไรให้ปืนเข้าไปอยู่ในมือของเจรัลด์อีกครั้ง“เฮ้! พวกเรา” เสียงตะโกนของวสินดังขึ้นจากที่ซ่อน เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ ทำให้ชายคนดังกล่าวหันไปมองโดยอัตโนมัติ และวินาทีเดียวกันนั้นจอร์นนี่ก็โยนปืนในมือส่งให้เจ้านายทันที ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากไม่ถึงห้าวินาทีปัง! ปัง! ปัง! เจรัลด์ยิงรัวสามนัดจนชายเบื้องหน้าก็กระตุกเฮือก ยืนนิ่ง แล้วร่วงทรุดลงไปกับพื้น พร้อมกับปืนในมือก็ร่วง อีกคนที่เห็นจึงกราดยิ่งทันที เจรัลด์ก็กลิ้งหลบ แต่... คราวนี้วสินกับลูกน้องก็จ่อยิ่งไปที่คนกลุ่มนั้น ลูกน้องของเจรัลดก์วิ่งออกมาบังกระสุนให้เจ้านายเอาไว้ พร้อมกันสาดกระสุนใส่กันอย่างเมามันปัง! ปัง! ปัง! เสียงปืนสะเทือนเลือนลั่นท่ามกลางความมืด ทุกคนกรูกันเข้ามาปกป้องเจรัลด์เอาไว้ แต่จอร์นนี่เป็นคนให้สัญญาณมือว่าพอก่อน จากนั