แต่แล้วอยู่ๆ เขาก็ตัดสินใจลุกขึ้นนั่ง แล้วพยายามยันกายลุกขึ้น ทว่าด้วยความที่ลุกเร็วเกินไป ความบอบช้ำของร่างกายยังคงมีอยู่ จึงทำให้เขาเจ็บและร้องออกมา
“โอ๊ะ! อื้อ! มายก็อต” เจรัลด์ร้องอุทานเสียงดังพอสมควร พลางขมวดคิ้วด้วยความเจ็บ ซีดปากและนั่งลงอีกครั้ง แสงฉายก็ลืมตาขึ้นมองด้วยความเป็นห่วง แล้วลุกขึ้นนั่งเช่นกัน“เจอร์รี่! เป็นอะไรไปคะ” แสงฉายถามด้วยความตกใจ ก่อนจะขยับแล้วลุกมาหาเขาในทันที ตามสัญชาติญาณด้วยความเป็นห่วง จากนั้นก็รีบเข้าไปประคองเขาด้วย“ลุกเร็วไปหน่อยครับ เลยเจ็บตรงที่มันช้ำในอยู่” เขาบอกแล้วขมวดคิ้วดังเดิม“แล้วจะลุกไปไหนคะ ทำไมไม่เรียกล่ะ” เธอบอกด้วยความเป็นห่วง“คือ เอ่อ ผมจะเข้าห้องน้ำน่ะ นึกว่าจะลุกเองได้ ไม่อยากเรียกคุณเกรงใจ” “ไม่ต้องเกรงใจนะคะ มาค่ะเดี๋ยวพาไป” ว่าแล้วเธอก็ประคองเขาให้ลุกช้าๆ ซึ่งเขาก็พยายามลุกตาม แล้วก็เดินเข้าห้องน้ำ จากนั้นเธอก็ยืนรออยู่หน้าประตูเพราะเข้าไปด้วยก็เกรงจะไม่งาม จึงรอจนกระทั่งเขาเข้าเสร็จ ได้ยินเสียงล้างมือล้างไม้“นี่ คะ คะ คุณ... เอ่อ” เธอไม่รู้จะเอ่ยอะไรดี เพราะหวาดหวั่นครั่นคร้ามในหัวใจ เนื้อตัวร้อนผ่าวไปหมด ขณะที่เขาค่อยๆ ยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนจะชิดอยู่แล้ว“เจอร์รี่” เธอได้แต่กระซิบเรียกเขา แต่ชั่ววินาทีเขาก็ประคองใบหน้าเธอแล้วกดจูบที่ปากอิ่มอีกครั้ง คราวนี้เขาจูบแนบแน่นแต่ไม่ได้ล่วงเกินแต่อย่างใด จากนั้นเขาก็ถอนจูบออก ก่อนจะเอาจมูกถูไถกับจมูกของเธอด้วยความเอ็นดู แม้ใจและกายจะรู้สึกว่าไม่อยากจะปล่อยเธอ แต่ก็ต้องปล่อย“กู๊ดไนท์นะซันชายน์” ประโยคส่งเข้านอนฟังแล้วรู้สึกปลอดภัยขึ้นมาทีเดียว เธอคิดและยิ้มพลางกัดริมฝีปากตนเองเอาไว้ด้วยความขัดเขิน“เอ่อ กู๊ดไนท์เสร็จก็ปล่อยสิคะ” เธอบอกพลางยิ้มบางๆ ขณะที่เขายังคงกดข้อมือเธอเอาไว้กับที่นอนอยู่“ถ้าไม่ปล่อยล่ะ” เขากระซิบถามเจ้าเล่ห์ และยิ้มมุมปากเล็กน้อย“วสินจะเข้ามาชาร์ทคุณภายในสามนาทีค่ะ”“หึๆ ให้ตายสิ คุณเป็นยาขนานเอกของผมเลยนะ หืม” พูดจบเขาก็เอาปลายนิ้วเขี่ยจมูกของเธอด้วยความเอ็นดู ก่อนจะขยับตัวลงจากเธอแล้วเอนหลังนอนดัง
เกศรินทร์ค่อยๆ ย่อง และมองก่อนว่าวสินอยู่หรือไม่ เมื่อเห็นว่าทางโล่งไม่มีใครอยู่เธอก็รีบเดินไปที่บ้านของแสงฉายทันที พอเดินมาถึงหน้าบ้าน ก็เห็นในทันทีว่าแสงฉายอยู่กับใครเพราะบ้านเป็นกระจก มีระเบียงยืนออกมาเล็กน้อย ผ้าม่านเปิดโล่งสบาย และเห็นว่ากำลังนั่งทานข้าวกันอยู่อย่างมีความสุขเสียเหลือเกิน“อะแฮ่ม!” เกศรินทร์กระแอม ซึ่งคิดว่าแสงฉายไม่ได้ยินหรอก ทว่าคนที่นั่งหันหน้าออกมาทางหน้าบ้านคือเจรัลด์“มีคนมาหาคุณแหนะ คนรู้จักหรือเปล่าครับ” เจรัลด์บอก แสงฉายจึงหันไปมอง พอเห็นว่าเป็นน้องต่างแม่ต่างพ่อยืนอยู่ที่บันได เธอก็หันกลับมาทานต่อ“อ้าว ไม่ออกไปทักทายเหรอครับ” เจรัลด์ถามด้วยความสงสัย“เดี๋ยวก็เข้ามาเองนั่นแหละค่ะ คุณทานเถอะ” แสงฉายบอกปัดอย่างไม่แยแส แล้วก็เป็นจริงดังนั้น เพราะเกศรินทร์ยืนรอไม่ไหว จึงเดินขึ้นบ้านมาหา พร้อมกับเปิดประตูเข้ามาโดยไม่ได้เคาะ“พี่แสง” เกศรินทร์เรียกพี่สาวเสียงห้วน พร้อมกับช้อนสายตามองไปที่เบื้องหน้าแต่แล้วก็ต้องตะลึง อ้าปากค้างกับฝรั่งรูปหล่อตาสีฟ้า ผมสีบลอน
“อื้อ! อื้อ!” เกศรินทร์ได้แต่ร้องอยู่ในลำคอ ขณะที่ถูกเขาลากเข้าบ้าน พร้อมกับปิดประตูตีแมวและลงกลอนเอาไว้เรียบร้อย“อื้อ!” เธอยังคงร้องและดีดดิ้นให้หลุดจากพันธนาการแข็งแกร่ง และพอเข้ามาถึงในบ้านเขาก็เหวี่ยงเธอลงไปบนโซฟาแรงๆ“โอ๊ย!” เธอร้องอุทานด้วยความเจ็บ แต่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวเขาก็ผลักเธอลงไปนอนและทาบทับเอาไว้ทั้งตัว พร้อมกับจับมือเธอทั้งสองข้างกดเอาไว้เหนือศีรษะ“ปล่อยนะ! ปล่อย! ไม่งั้นฉันจะ อื้อ!” เธอสั่งและขู่เขาอีกครั้ง ทว่ายังไม่ทันจบคำ เรียวปากร้ายๆ ก็ถูกเขาฉกจูบอย่างรวดเร็ว ร้อนแรง“อื้อ! อื้อ!” เธอร้องอื้ออึงอยู่ในลำคอพลางส่ายหน้าไปมา เพื่อจะให้หลุดจากจูบร้าย แต่สู้เขาไม่ได้หรอก ยิ่งเธอดิ้นเท่าไหร่เขาก็ยิ่งจูบแรงและหนักหน่วงขึ้น เรียวปากขบเม้มแรงๆ ก่อนจะใช้ฟันกัดเบาๆ เพื่อให้เธอเปิดปาก ร่างบางก็ดีดดิ้นแอ่นโค้งขึ้นลงเหมือนจะให้หลุดจากคนตัวโต แต่เขากลับกดทับหนักขึ้นไปอีก“อื้อ” เธอครางทัดทานอีกครั้ง กระทั่งสุดท้ายเขาก็สอดแหย่เรียวลิ้นเข้าไปในโพรงปาก ปลายลิ้
“อย่า อูยยยย อืม นายสิน อย่า” เธอเอ่ยคำเดิมพร้อมกับเสียงครางอย่างสุดจะกลั้น ขณะที่เขาบดเบียดปลายนิ้วกับติ่งเสียว และเคล้นคลึงอย่างหนักหน่วงกระทั่งเธอเสียวสะท้านเกินจะเก็บอารมณ์ พร้อมกับน้ำเสียวซึมไหลออกมาทำให้เขารู้ว่าเธอพร้อมมาก“อ่า เสียวมากใช่ไหม” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่พอใจเหลือเกิน“ไม่ อย่า อื้อ!” เธอพยายามปฏิเสธร่างกายของตัวเองที่กำลังหลั่งไหลความปรารถนาออกมาให้เขาสัมผัส น้ำหวานเหนียวๆ ซึมเปรอะออกมาจนถึงกลีบสาว ฉ่ำแฉะจนเขาเอามือลูบไล้“อ่า เปียกหมดแล้ว” เขากระซิบบอก ก่อนจะขยับใบหน้าลงซุกไซ้ลงมาที่เนินอกพลางใช้ปากงับ แล้วใช้มืออีกข้างถลกเสื้อเธอขึ้นไปกองไว้บนเนินอก พร้อมกับเสื้อชั้นในเสียเลย เขาทำด้วยความรวดเร็วจนเธอตั้งตัวไม่ทัน จากนั้นเขาก็อ้าปากดูดดึงเม็ดถันและโลมเลียดูดกลืนอย่างหิวกระหาย ขณะที่ร่องเสียวถูกเขาสัมผัส บดบี้ปลายนิ้วกับติ่งเสียวหนักหน่วง ทำให้เธอเสียวซ่านครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ต้องกดกลั้นน้ำเสียงเอาไว้“ซี๊ด อ่า อืม นาย นายสิน อย่า อูยยยย” เธอทั้งห้ามทั้งเสียวจนแทบจะทนไม่ไหว ขนบนตัวลุก
“แต่... แต่ฉันจะตาย พี่สิน อูยยยย เสียวจนจะแตกอยู่แล้ว มะ มะไม่ไหวแล้ว”“เข้ามา เข้ามาหาฉันพี่สิน อ๊ะ! อ๊ะ! ซี๊ด เอาฉันสักทีเถอะพี่สิน” เธอร้องครวญครางและบอกอีกครั้ง ทว่าเขาก็ยังไม่หยุด“อ่า ร่านร้อนเหลือเกิน เสียวมากสินะ” เขาเอ่ยเสียงทุ้มต่ำ“อื้อ! ค่ะ สะ สะ เสียวมาก พี่สิน ขึ้นมาหาฉันเถอะ” เธอเรียกร้องด้วยความเสียวซ่านทรมาน ขณะที่เขายังดูดเลียร่องเสียวไม่หยุดหย่อน“อ๊ะ! อ๊ะ! ไม่ไหวแล้ว” เธอกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ เขาจึงอาศัยจังหวะนี้ถอดกางเกงรูดลงไปไว้ที่ใต้สะโพกอย่างรวดเร็ว แท่งร้อนดีดผึ่งออกมาตระหง่านดิ้นไปมา เขาเอามือกอบกุมแล้วขยับรูดกระตุ้นให้มันขยายใหญ่เต็มกำลัง แท่งร้อนใหญ่เท่าแขนของเธอเห็นจะได้“ผมจะทำให้คุณหนูหลาบจำ” เขาบอกพลางกัดฟันแน่น ก่อนจะขยับเรียวปากออกจากร่องเสียว แล้วขยับตัวขึ้นไปทาบทับเธออีกครั้ง ก่อนจะก้มลงประกบจูบดูดดื่มที่ปากอิ่ม จากนั้นก็จดจ่อแท่งร้อนบดเบียดกลีบสาวฉ่ำแฉะขึ้นลงไปมา ทำเอาเธอเสียวสะท้านจ
“โอ้พี่สิน พี่สิน อ๊ะ เร็วอีก เร็วๆ ฉันเสียว ไม่ไหวแล้ว” เธอบอกคล้ายกับเป็นสัญญาณว่าจะถึงจุดหมาย เขาก็ไม่รีรออ้อยอิ่ง ยิ่งเพิ่มระดับความร้อนแรงและหนักหน่วงขึ้น พร้อมกับเสียงร้องครวญครางสลับกัน“โอ้ว มัน มันมาก อร่อยมาก คุณหนูเกรซ ซี๊ดดดด อ่า”“เร็วอีกพี่สิน เร่งอีก อูยยยย ไม่ไหวแล้วค่ะ” เธอร้องครางอีกครั้งพร้อมกับขยับสะโพกร่อนส่ายรับจังหวะกระแทกกระทั้นร้อนแรง กระทั่งสุดท้ายเธอกำลังจะคว้าจุดหมายเอาไว้“ซี๊ดดดดด อ่า จะแตกแล้ว โอ้ว เสียว อ่า” เขากดเสียงต่ำและครางออกมาและระรัวเร่งสะโพกแกร่งทะยานเข้าออกทางสวาทเร็วๆ กระทั่งเสียวซ่านสุขสม“อ๊ะ! อ๊ะ! พี่ พี่สิน ฉัน ฉัน... อ่า เร่งอีก อูยยยย ใช่ ใช่ค่ะ แบบนี้... อื้อ อื้อ” เธอกรีดร้องครวญคราง พลางแอ่นสะโพกยกรับและกระตุกเกร็งด้วยความเสียวซ่าน ปลดปล่อยน้ำฉ่ำหวานทะลักไหลออกมา ผสมกับลาวาอันร้อนระอุจนเป็นอันเดียวกัน แท่งร้อนดีดดิ้นดุนดันอยู่ภายใน และสัมผัสได้ถึงเม็ดเสียวที่ตอดตุบๆ และตามด้วยเสียงหายใจหอบพร่า เขา
แต่ช่วงเวลาเดียวกันนั้น หลังจากที่เกศรินทร์ไปแล้ว วสินก็ยังไม่ได้ไปหาเจ้านายสาวเสียทีเดียว เพราะเขากำลังปรับอารมณ์อยู่เนื่องจากคนเพิ่งเสร็จภารกิจรัก อารมณ์ก็ยังคุกรุ่น เลือดลมยังคงพุ่งพล่านพร้อมกับความเดือดดาล โกรธเกรี้ยวยังคงมีอยู่ ผ่านไปสักครึ่งชั่วโมงเขาจึงได้ออกไปหาแสงฉายที่บ้าน ซึ่งเธอกำลังหาหยูกยามาให้เจรัลด์ทาน คาดว่าน่าจะพากันจัดการมื้อเช้าเรียบร้อย“อรุณสวัสดิ์ครับนาย ลงมาข้างล่างนี่ดีขึ้นแล้วเหรอครับ” วสินถามแสงฉายเสียงเรียบ“ดีขึ้นแล้วค่ะ บอกว่าอยากจะลองไปดูสวนองุ่นของเราน่ะ” แสงฉายตอบพลางมองหน้าเจรัลด์และยิ้มบางๆ“เดินไหวแล้วเหรอครับ” วสินหันมาถามชายหนุ่มบ้าง“ไหวครับผมดีขึ้นมากเลย” เจรัลด์ตอบ“งั้นก็ดีครับ”“เอ่อ แล้ว เช้านี้มาช้านะคะ ทานอะไรหรือยัง” แสงฉายถามด้วยความสงสัย“เอ่อ คือ ยังไม่หิวฮะ อิ่มกาแฟน่ะ” วสินตอบเสียงเรียบ“งั้นเดี๋ยวเจอร์รี่ทาน
“ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงตัวคนเดียวจะดูแลกิจการทั้งหมดนี้นะครับ”“ฉันก็มีผู้ช่วยค่ะ ก็เลยดูแลทุกอย่างได้ไง ไม่ได้ดูแลเองทั้งหมด”“หมายถึงวสินเหรอครับ”“ใช่ค่ะ รวมถึงคนอื่นๆ ด้วย แต่ฉันไว้ใจพี่สินที่สุด”“ที่นี่สวยมากเลยนะครับ ท่ามกลางขุนเขาแล้วก็กว้างใหญ่มาก เอ่อ จอดแล้วเดินได้ไหมครับผมอยากชมองุ่นของคุณ”“ได้สิคะ งั้นจอดตรงที่มีคนงานก็แล้วกัน” ว่าแล้วเธอก็ขับรถนำไปยังจุดที่มีคนงานของถากถางหญ้า บางส่วนก็กำลังเก็บเกี่ยวผลผลิต และพอเห็นว่าแสงฉายกำลังมาลูกน้องทั้งหมดก็หันมาทักทายพร้อมกัน“สวัสดีครับนายหญิง” ทุกคนทักทายพร้อมกัน“สวัสดีค่ะ ตามสบายนะคะพอดีแสงพาเพื่อนมาเที่ยวน่ะ” แสงฉายตอบกลับเสียงหวานและยิ้มละมุนละไม“เจอร์รี่คะ มาทางนี้” เธอเรียกเขาพร้อมกับกวักมือเรียก แล้วเดินเข้ามาในร่ององุ่น เขาตื่นตาตื่นใจมาก บรรยากาศน่าอยู่ แต่ขณะที่เขากำลังเดินผ่านคนงาน หูก็ดันได้ยินคนงานนินทาแต่ฟังไม่รู้เรื่อง ทว่าคนที่ชะงักคือแสงฉายแทน
“ซี๊ด อ่า เยส อ่า” เขาหายใจหอบ พร้อมกับแนบกลางกายกับเนินเนื้อนุ่มเอาไว้โน้มตัวลงไปสวมกอดและจูบอย่างดูดดื่ม เนิ่นนานจนรู้สึกว่ามังกรตัวร้ายได้ปลดปล่อยพ่นพิษออกมาจนหมดแล้ว ร่างกายทั้งสองเบาหวิวสุขสม และเหนื่อยหอบอย่างประหลาด ทว่าเขายังคงจูบอ้อยอิ่งอยู่นานจนอิ่มเอม แล้วค่อยถอดแท่งร้อนออกช้าๆ ทว่าทั้งคู่ยังหอบอยู่ พูดออกมาไม่ได้ มีเพียงแววตาที่สื่อถึงกันเท่านั้น เขาจึงยิ้มบางๆ และแนบหน้าผากกับเธอเอาไว้“จะเบื่อไหมถ้าผมจะพูดว่า... ผมรักคุณ” เขากระซิบที่ปากอิ่มเบาๆ“ฉันไม่ได้ยินคำนี้มาเป็นเดือน จะเบื่อได้ยังไงคะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเดียวกัน“ผมคิดถึงแทบขาดใจ ไม่เป็นอันทำงานเลย” พูดจบเขาก็ประคองใบหน้าเธอเอาไว้อย่างอ่อนโยน“ฉันก็รักและคิดถึงคุณมากค่ะ”“เสร็จแล้ว หายคิดถึงหรือยัง” เขาถามเสียงเจ้าเล่ห์เชียว“แล้วคุณล่ะคะ”“หึๆ ยังเลย กินได้อีก กินได้เรื่อยๆ ผมมีความสุขมากนะรู้ไหม
“อืม ค่ะ” เธอตอบสั้นๆ เขาก็ใช้มือข้างเดิมแหวกกลีบสาวออกจากกัน พร้อมกับใช้ปลายนิ้วกรีดกรายไปตามร่องเสียวที่เริ่มฉ่ำไปด้วยน้ำหวาน เขาบดเบียดฝ่ามือและปลายนิ้วกับร่องเสียวขึ้นลงจนไหมสีดำเปียกลู่“ซี๊ด อ่า เจอร์รี่ อืม เสียวค่ะที่รัก” เธอครางออกมาและพูดด้วยความที่ทนไม่ไหวอีกต่อไป เสียวซ่านทุกอณูรูขุมขน“เสียวตรงไหนจ้ะ เสียวเพราะปากผมหรือมือ”“อืม ทั้งสองเลยค่ะ อ่า มือคุณร้อนจังเลยค่ะ” เธอกระซิบบอกเสียงหวาน“ผมร้อนทั้งตัว อยากเข้าไปร้อนในตัวคุณด้วย แต่เดี๋ยวก่อน” เขาเองก็มีความต้องการไม่แพ้เธอ เพียงแต่เขาอยากจะดื่มด่ำกับความหวานและบำเรอเธอให้ถึงที่สุด“ซี๊ดดดด อ่า เข้ามาสิคะ” เธอเรียกร้องเสียงแหบพร่าแผ่วเบา พลางกระดกยกสะโพกขึ้นรับจังหวะที่ปลายนิ้วกรีดกรายร่องเสียวหนักหน่วง“อ่า อืม ที่รัก อ่า อย่าทรมานกันสิคะ อ๊ะ! ฉันเสียวจะแย่อยู่แล้ว” เธอครางเสียงหวานแผ่วเบา“ดีจ้ะผมอยากให้คุณรู
ทว่าช่วงเวลาเดียวกันนั้น แสงฉายยังคงเดินเล่นอยู่ในสวนหน้าบ้าน อย่างเพลิดเพลิน จากนั้นก็กวาดตามองออกไปยังไร่องุ่นที่กว้างสุดลูกหูลูกตา แม้ว่าเวลานี้พระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว แต่ก็สามารถมองเห็นได้ชัดเจน เธอสูดอากาศเย็นสดชื่นเข้าปอดเพื่อความผ่อนคลาย หลับตาพริ้ม แต่แล้วอยู่ๆ ก็นึกถึงเจรัลด์ขึ้นมาอีกครั้งใช่เธอคิดถึงเขา และกลัวว่าเขาจะไม่กลับมาอีกแล้ว กลัวมันจะเป็นเพียงความวาบหวามที่เกิดขึ้นมาในขณะนั้นเท่านั้นเอง เขาคงจะไม่จริงจังหรอก อีกอย่างฝรั่งก็ไม่ได้แคร์เรื่องเซ็กส์อยู่แล้ว เธอคิด แต่เธอรักเขาไปแล้วจะห้ามใจไม่ให้คิดถึงอย่างไรได้“ฉันจะรอคุณนะเจอร์รี่ นานแค่ไหนก็จะรอ” มันเป็นการรอคอยโดยไร้ซึ่งความหวังเหลือเกิน เธอคิดแล้วก็ถอนหายใจจากนั้นจึงตัดสินใจเดินกลับเข้าบ้าน ซึ่งเวลานี้บนโต๊ะอาหารถูกจัดเตรียมเอาไว้แล้วด้วยฝีมือแม่บ้านพร้อมกับครอบฝาชีเอาไว้เป็นอย่างดี เธอเห็นแล้วจึงเดินผ่านเลยขึ้นไปยังห้องนอนเพื่อจะได้อาบน้ำชำระคราบเหงื่อไหลเสียก่อนแต่ในทุกๆ วันที่แสงฉายกลับขึ้นห้อง ก็ยังคงรู้สึกถึงความหวามไหว ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วทั้งห้อง มันมีร่องร
“ใช่ค่ะ เดี๋ยวเขาก็มา” เธอตอบเสียงเรียบขึ้น“รู้น่าว่าคิดถึง”“ก็ต้องคิดถึงสิคะ เป็นเรื่องธรรมดา”“ปกติผู้หญิงจะปากแข็ง แต่นี่ไม่”“จะปากแข็งไปทำไมคะ คิดถึงก็บอกคิดถึงสิ”“แล้วมีความคิดสักวูบไหมที่คิดว่าเขาจะไม่กลับมา”“มีค่ะ แอบคิดว่าคนแปลกหน้าที่เพิ่งเจอกันได้ไม่นาน จะรักษาสัญญาไปทำไม เราอาจจะเป็นทางผ่านก็เป็นได้ แต่คิดอีกที ช่วงเวลาที่ไม่นานมันก็ทำให้เราเห็นทุกอย่างที่เขาอยากให้เห็น เช่นตัวจริงของเขา แสงเชื่อว่าเขาจริงใจพอ แสงเชื่อและจะรอ เดี๋ยวเขาก็คงจะมาเยี่ยมเรา ตอนนี้แสงก็ทำงานเพลินๆ จะได้ไม่ต้องคิดถึงเขามากไง”“ก็ดีแล้วครับ นายหญิงของผมเข้มแข็งเสมอ”“อยากจะเข้มแข็งให้ได้ตลอดนะคะ แต่บางทีก็อาจจะไม่ไหว”“หึๆ ต้องไหวสิครับ เดี๋ยวเขาก็มา เชื่อสิ”“ค่ะ เชื่อก็เชื่อ” “ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอไปทำงานต่อก่อนนะครับ”“เอ่อ อย่าล
ช่วงเวลาเดียวกันนี้ จอร์นนี่ซึ่งถือว่าเป็นหัวหน้าบอร์ดี้การ์ด ก็กำลังให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ทั้งหมด ว่าเจรัลด์เป็นใครมาจากไหน และคนที่มาป้องร้ายคือใคร รวมถึงวสินก็ได้ให้ข้อมูลหลังจากที่เจรัลด์มาพักรักษาตัวกับแสงฉาย ทำให้ตำรวจได้รู้ความจริงทั้งหมดและเป็นประโยชน์ต่อการจับกุมมากทว่าไม่นานนัก แสงฉายกับเจรัลด์พร้อมด้วยผู้ติดตามก็มาสมทบที่โรงพัก ส่วนผู้ร้ายทั้งหมดอยู่ที่โรงพยาบาล มีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา ส่วนผู้เสียชีวิตหนึ่งรายถูกเก็บร่างเอาไว้ในห้องดับจิต ขณะเดียวกันผู้ต้องหาที่ได้รับบาดเจ็บก็ยอมรับสารภาพทั้งหมด จึงได้รู้ว่าผู้สมรู้ร่วมคิดเป็นทั้งฝรั่งและคนไทยด้วยความที่แสงฉายกับอังกูรค่อนข้างมีชื่อเสียง มีอิทธิพลอยู่ไม่น้อย ทำให้ได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ตำรวจนายใหญ่ได้รายชื่อผู้อยู่เบื้องหลังแล้ว จึงรีบสั่งการเพื่อสกัดตัวผู้มีส่วนเกี่ยวกับการวางแผนฆ่าเจรัลด์ เรียกได้ว่าตามจับให้ได้ก่อนที่ผู้ต้องหาจะหลบหนีออกนอกประเทศต่อมาเรื่องราวทั้งหมดกลายเป็นข่าวใหญ่ จากที่ทุกคนไม่รู้ว่าเจรัลด์เป็นใครก็ได้รู้ว่าเขาใช่คนธรรมดา ส่วนคนร้ายซึ่งเป็นเพื่อนร่วมธ
“ค่ะ งั้นแยกย้าย ฝากบ้านด้วยนะคะ” แสงฉายบอกอีกครั้ง จากนั้นทุกคนจึงได้พากันกลับ และจัดเวรยามเพื่อเฝ้าบ้านขณะที่แสงฉายเป็นคนขับรถพาเจรัลด์และบอร์ดี้การ์ดไปโรงพัก เพื่อจะได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมโดยมีวสินกับจอร์นนี่คอยให้ปากคำอยู่ก่อนแล้วขณะเดียวกัน ที่บ้านของพ่อเลี้ยงอังกูร ทุกคนกลับมาถึงบ้านเรียบร้อย ต่างคนต่างนั่งหน้าชาและหน้าแตก เพราะความขี้อิจฉา ใส่ความพี่สาวของเกศรินทร์แท้ๆ ที่ที่ทำให้เกิดเรื่องแย่ๆ มาถึงตอนนี้เธอก็ได้แต่นั่งก้มหน้ารับกรรมเล็กๆ ไป เวลานี้ทุกคนมองเธอราวกับตัวประหลาด เพราะที่เรื่องมีอะไรกับวสินก็เพิ่งจะเกิดขึ้นหมาดๆ และยังแก้ไขไม่ได้ ไหนจะเรื่องใส่ไฟพี่สาวอีก“ฝรั่งขี้นก ต๊อกต๋อย ไม่มีหัวนอนปลายเท้า หึๆ นี่แหละน้า ตีค่า ตีราคาคนจากภายนอก คนที่เราไม่รู้จักเลย แต่กลับเอามาใส่สีตีไข่ได้เป็นเรื่องเป็นราว ไหนจะหาว่าเขาเป็นโจรหลบหนีอีก” อังกูรพูดลอยๆ ไม่ได้มองหน้าใคร แต่ทุกคนรู้ตัวดี“ก็ยัยเกรซนั่นแหละ หูเบา ไม่ดูตาม้าตาเรื
“แล้วพ่อได้ยินเสียงปืน ลูกไม่ได้เจ็บอะไรตรงไหนใช่ไหม” อังกูรถามด้วยความเป็นห่วง“ไม่ค่ะ” เธอตอบสั้นๆ ห้วนๆ“ก็ดีแล้ว เอ่อ คุณตำรวจ ผมไม่รู้ว่าคนพวกนี้เป็นใครนะ แต่จับไปก่อนนะ”“ฉันจะส่งตัวแทน ให้วสินกับคนของเจอร์รี่ไปก่อน” แสงฉายบอกและหันไปมาพูดกับวสิน“งั้นจอร์นไปกับวสิน ให้ปากคำทั้งหมดที่เป็นประโยชน์ และบีบเอาความจริงออกมาให้ได้ว่าใครอยู่เบื้องหลังบ้าง สาวไปให้หมด” เจรัลด์หันไปสั่งลูกน้องเช่นกัน“ได้ครับเจ้านาย” จอร์นนี่รับคำ“ถ้างั้น พวกเราเรียกเจ้าหน้าที่เจ้ามาเก็บศพให้เรียบร้อย อะไรที่เป็นหลักฐานเอาไปให้หมดนะ แล้วก็ตามผมไปโรงพักด้วย” นายตำรวจหนุ่มสั่งการพร้อมกับโทรเรียกมูลนิธิมาเก็บศพจากนั้นก็นำตัวผู้ร้ายที่ได้รับบาดเจ็บไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล อีกทั้งให้วสินและจอร์นนี่ตามไปให้ข้อมูลที่แท้จริง ส่วนที่เหลือก็อยู่กับแสงฉาย เพื่อจะได้เคลียร์กับทางบิดา ที่แจ้งความโดยไม่รู้เร
“เอาล่ะ ระหว่างรอตำรวจ พวกนั้นบอกได้ไหมว่าคนที่เหลือเป็นยังไงบ้าง แล้วหาฉันเจอได้ยังไง” เจรัลด์หันมาถามลูกน้องของตัวเอง“ตั้งแต่วันนั้น เราไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้านาย ได้ยินแต่เสียงปืน แต่พอ เควินเห็นหน้าเรา มันก็บอกว่ามันฆ่านายแล้ว พวกเราตกใจมากครับและกำลังจะถูกเก็บไปด้วย ก็เลยชิงหลบหนีก่อนอย่างน้อยเอาตัวเองให้รอด เพื่อจะได้มาเก็บศพเจ้านายกลับบ้านทีหลัง” จอร์นนี่เริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง“แล้วอะไรทำให้พวกนายคิดว่าฉันรอดและออกตามหาฉันล่ะ”“พอพวกเราหนีไปได้ ก็เลยไปวางแผนกันว่าจะเอายังไง ลงความเห็นว่าจะตามหาร่างของเจ้านาย จะอยู่หรือตายเราต้องได้เห็นแล้วจะพากลับบ้าน การเริ่มต้นหาคือนายตกจากน้ำตก ฉะนั้นน้ำตกมันไหล่ผ่านตรงนี้ นี่คือสุดปลายทางแล้ว เราเลยลองหาเรื่อยๆ ครับแต่ไม่เจอ คาดว่าร่างของเจ้านายต้องมาเกยอยู่แถวนี้ แต่ก็ไม่เห็น” คำบอกเล่าของจอร์นนี่ทำให้เจรัลด์ถอนหายใจด้วยความเครียด หากแสงฉายไม่มาเจอเขาอาจจะตายไปแล้วก็ได้เพราะตัวอยู่ในน้ำนี่นะ“แล้วตาม
“เสียใจด้วยเจสัน ค่าหัวคุณแพงจนผมใจอ่อนให้คุณไม่ได้” ชายคนเดิมบอกพร้อมกับเอาปืนจ่อมาที่เจรัลด์แต่ไม่ใกล้นัก ขณะที่ลูกน้องภายในบ้านพยายามคิดหาแผนการที่จะยิงทั้งสี่คนโดยที่เจ้านายไม่เป็นอะไร และคิดว่าทำอย่างไรให้ปืนเข้าไปอยู่ในมือของเจรัลด์อีกครั้ง“เฮ้! พวกเรา” เสียงตะโกนของวสินดังขึ้นจากที่ซ่อน เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ ทำให้ชายคนดังกล่าวหันไปมองโดยอัตโนมัติ และวินาทีเดียวกันนั้นจอร์นนี่ก็โยนปืนในมือส่งให้เจ้านายทันที ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากไม่ถึงห้าวินาทีปัง! ปัง! ปัง! เจรัลด์ยิงรัวสามนัดจนชายเบื้องหน้าก็กระตุกเฮือก ยืนนิ่ง แล้วร่วงทรุดลงไปกับพื้น พร้อมกับปืนในมือก็ร่วง อีกคนที่เห็นจึงกราดยิ่งทันที เจรัลด์ก็กลิ้งหลบ แต่... คราวนี้วสินกับลูกน้องก็จ่อยิ่งไปที่คนกลุ่มนั้น ลูกน้องของเจรัลดก์วิ่งออกมาบังกระสุนให้เจ้านายเอาไว้ พร้อมกันสาดกระสุนใส่กันอย่างเมามันปัง! ปัง! ปัง! เสียงปืนสะเทือนเลือนลั่นท่ามกลางความมืด ทุกคนกรูกันเข้ามาปกป้องเจรัลด์เอาไว้ แต่จอร์นนี่เป็นคนให้สัญญาณมือว่าพอก่อน จากนั