แชร์

chapter 35

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-31 13:17:35

“จะหุบปากเองหรือให้ฉันปิดให้ล่ะขอขวัญ” ในนาทีนี้ไม่ควรโวยวายให้กลายเป็นจุดสนใจและควรที่จะรีบเร่งออกจากห้องมืดๆ นี้ ก่อนจะกลายเป็นเหยื่อในอุ้งมือเจ้าตัวร้ายที่หาเรื่องเล่นงานเขาทุกยุทธวิธี แม้งานนี้จะมีการเตรียมตัวรับมืออย่างดีแล้ว แต่เขาก็ยังพลาดจนได้! อันเดซาอีได้แต่หงุดหงิดใจ

ขอขวัญทำเสียงจิจ๊ะในลำคอ “ฉันดูแลตัวเองได้ คุณไปช่วยคุณเอแคลร์ดีกว่า”

“ฉันอยู่นี่จ้ะขวัญ” อติกานต์รีบบอกก่อนสองหนุ่มสาวจะทุ่มเถียงให้เธอปวดศีรษะมากไปกว่าที่เป็นอยู่ เท้าบอบบางก้าวเดินตามแรงลากจูงของเหล่ากลุ่มผู้คนที่กระวีกระวาดวิ่งไปหาแสงสว่างซึ่งส่องมารำไรอย่างระมัดระวังที่สุด

“โอ๊ย!”

“คุณเอแคลร์! เป็นอะไรไปคะ คุณอยู่ตรงไหน” ขอขวัญเอ่ยถามพร้อมมือหนึ่งทาบแผ่นหลังของคนที่เดินนำและพยายามสะบัดอีกมือออกจากการเกาะกุม เพื่อไขว่คว้าอติกานต์ด้วยใจร้อนรน

“ฉันไม่เป็นไร” อติกานต์กัดฟันบอก ทั้งที่เจ็บข้อเท้าอันเนื่องมาจากเดินผิดท่าเลยพลิก ก่อนถูกซ้ำด้วยอะไรหนักๆ ที่น่าจะเป็นคนกระแทกที่แผ่นหลังจนกายถลาพุ่งไปด้านหน้าจนหัวตุงคว้าง แล้วเหมือนเวรซ้ำกรรมซัด ขณะก้าวเดินตามอันเดซาอีและขอขวัญไปอย่างรีบเร่งนั้นเอง อยู่ดีๆ ก็ถูกกระชา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 36

    “คุณไม่ได้ส่งใครตามหาคุณเอแคลร์ทั้งนั้นแหละ” ขอขวัญกระแทกเสียงแข็งใส่ สองแขนยกขึ้นสอดไขว้ระหว่างอกอย่างกระฟัดกระเฟียด อยากลุกออกไปจากห้องนี้เพื่อตามหาอติกานต์ด้วยตัวเอง แต่...เพียงแค่ขยับกายอันเดซาอีซึ่งคอยจับตามองอยู่คงจะรีบจับเอาตัวไว้เสียก่อน หรือหากผ่านชายหนุ่มไปได้ ประตูห้องก็ยังมีหนุ่มร่างยักษ์ใบหน้าถมึงทึงเหมือนโกรธเกลียดใครมาสักร้อยปีพันชาติเฝ้าอยู่ ยังไงก็ไม่พ้นอยู่ดี สู้อยู่หาเรื่องต่อว่าให้พ่อคนตรงหน้าทนไม่ไหวออกจัดการด้วยตัวเองจะดีกว่า“รู้ได้ยังไง” อันเดซาอีถาม นิ้วยาวเคาะบนเบาะนุ่มเบาๆ ขณะจับตามองขอขวัญอย่างแน่วนิ่ง“เอาเป็นว่าฉันรู้แล้วกัน”“รู้แบบผิดๆ น่ะสิ”“งั้นคุณก็บอกที่ถูกมาสิ” ขอขวัญโต้กลับอย่างไม่ยอมแพ้ “ว่าไงล่ะ พูดไม่ออกใช่ไหมล่ะ”“ว่าไง...ได้เรื่องอะไรบ้าง” แทนที่จะตอบแม่ตัวเล็กเรื่องมาก อันเดซาอีกลับหันใบหน้าไปถามลูกน้องที่เมื่อรู้ว่าเกิดเหตุร้ายขึ้นก็เร่งรุดทำหน้าที่ของตัวเอง ก่อนจะถูกเขาตะเพิดไล่ออกโทษฐานทำงานบกพร่อง“เราตรวจเช็กจากกล้องวงจรปิดทุกตัวแล้ว ไม่พบว่ามีการพาใครออกไปจากโรงแรม แต่ถึงตอนนี้เราก็ยังหาตัวคุณอติกานต์และคนก่อเรื่องไม่เจอเช่นกันครับ”“

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-31
  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 37

    “ทำไมถึงไม่ตอบล่ะ...หรือเธอเองก็ไม่แน่ใจ ถึงตอบฉันไม่ได้”“ฉันไม่ได้เกาะติดคุณเอแคลร์เป็นตังเมนี่นา ถึงจะได้รู้ว่าเธอทำอะไรที่ไหนเมื่อไหร่”“ถ้าไม่รู้ ไม่แน่ใจก็อย่าพูดแทนคนอื่น เดี๋ยวเกิดไม่ใช่ขึ้นมา เธอนั่นแหละจะเป็นฝ่ายเดือดร้อน”รู้ว่าเขาเตือนด้วยความหวังดี แต่เมื่อโดนว่าต่อหน้าเช่นนี้ขอขวัญก็หงุดหงิดไม่พอใจขึ้นมา ใบหน้าผุดผ่องถึงได้หงิกงอง้ำ “คุณล่ะ ดีกว่าฉันตรงไหน ไม่รู้ไปสร้างเรื่องเลวร้ายอะไรไว้ ร้อนถึงผู้หญิงที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ต้องถูกดึงมาเดือดร้อนด้วย”ถ้าไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน เขาคงดึงแม่สาวปากกล้ามาลงทัณฑ์ด้วยการจูบแล้ว แต่เมื่อทำไม่ได้ อันเดซาอีจึงทำเสียงง่ำๆ ฮึ่มๆ ในลำคอประหนึ่งฝากบทลงโทษเอาไว้ก่อน และแม่ตัวเล็กก็ดูเหมือนจะรู้ เลยลอยหน้าลอยตาท้าทายใบหน้าแฉล้มแช่มชื่น อีกทั้งลูกน้องที่มาใหม่เหมือนมีเรื่องรายงาน ทำให้เขาต้องหันไปให้ความสนใจมากกว่าจะนั่งต่อปากต่อคำกับขอขวัญ“ได้เรื่องแล้วใช่ไหม” ชายหนุ่มเอ่ยถามพร้อมยันกายลุกขึ้น เมื่อผู้ถูกถามพยักหน้ารับ“คุณจะไปไหน” ขอขวัญรีบถามทันที เมื่อจำได้อย่างแม่นยำว่าชายคนที่เข้ามาใหม่ และทำท่าทางเหมือนมีเรื่องพูดกั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-31
  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 38

    อันเดซาอีหลุบตามองแม่ตัวเล็กปากจัดเถียงคำไม่ตกฟากเล็กน้อย ก่อนยอมให้เธอเบียดกระแซะ ด้วยใจกระหวัดไปถึงบางคนที่ผูกพัน แม้จากไปไกลสุดแสนก็ยังคงครองตำแหน่งของหัวใจ จนมิอาจมีใครที่แม้หน้าตาจะเหมือนราวกับพิมพ์เดียวกันก็มิทำให้เขาหวั่นไหวได้ หนังตาอ่อนนุ่มหลุบลงให้ใจกระหวัดไปถึงใครคนที่หัวใจใฝ่ฝันหา ขอกำลังใจจากเธอให้เขาผ่านเรื่องราวเลวร้ายนี้ไปได้ด้วยดี!“อื้อ...อื้อ...” คนร่างเล็กส่งเสียงดังเป็นระลอก สองเท้าที่ถูกมัดไว้ก็กระทืบลงไปบนพื้นพรมนุ่มๆ ในห้องพักที่ถูกนำตัวมากักขังเอาไว้ ในดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความกราดเกรี้ยวไล่มองร่างแกร่งเรื่อยไปถึงใบหน้าที่มีผ้าปกคลุม จนแทบไม่เห็นสิ่งใดนอกจากดวงตาเข้มดุที่ค่อนข้างไปทางขี้เล่น คลับคล้ายคลับคลาว่าเธอเคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่...เธอจะไปเคยเห็นไอ้โจรบ้านี่ที่ไหนและได้ยังไงกันล่ะใบหน้าภายใต้ผ้าคลุมที่พันจนเหลือเพียงดวงตาคลี่ยิ้ม ขณะพากายแกร่งเดินไปทรุดลงบนนั่งส้นเท้า ยื่นมือไปจับปลายคางของคนที่จนป่านนี้ยังไม่ยอมหยุดส่งเสียง ทั้งที่ถูกผูกมัดปากเอาไว้ก็ยังไม่วายละความพยายาม ที่เขาเห็นแล้วเหนื่อยแทนและสะบัดศีรษะอย่างระอิดระอาใจ “ยังไม่เหนื่อยหรืออติกานต์

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-31
  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 39

    “ฉันพอเข้าใจนะ ปากเธออ้อนวอนขอให้ฉันปล่อย แต่ตากลับบอกเป็นอีกอย่าง” ปลายนิ้วยาวลูบไล้ปลายคางไต่เรื่อยไปถึงกลีบปากอิ่มที่ขบกัดจนแบนราบเรียบ ขณะดวงตาเจิดจรัสกร้าวแข็ง “จะทำทุกทาง เพื่อเอาเลือดหัวฉันออก”อยากเถียงว่าไม่จริง! แต่เพราะเพลิงโทสะยังคุกรุ่นอยู่ในใจ ถึงจะพยายามยังไง แต่ในดวงตาของเธอก็ยังคงมีเปลวเพลิงลุกโชนอยู่ อติกานต์กระทืบสองเท้าแรงๆ ด้วยหงุดหงิดตัวเอง คิดหาทางพาตัวเองออกจากเหตุการณ์บ้าๆ นี้แต่กลับเริ่มหนักที่ต้นคอและปวดแถวกระบอกตาริ้วๆ พร้อมกับอาการอยากคายของเก่าทิ้ง“นาย...นาย”ประตูเปิดออกพร้อมกับเสียงร้อนรนและร่างเล็กปราดเปรียวสวมเสื้อผ้าสีตุ่นยาวกรอมมือกรอมเท้าวิ่งกระหืดกระหอบมาหยุดและยืนเอาสองมือเท้าขา ใบหน้าที่มีผ้าปกปิดจนเหลือเพียงแค่ลูกตาเหลือบมองมายังคนตัวเล็กที่เริ่มยกเท้าขึ้นทีละน้อย อย่างต้องการส่งสัญญาณให้ผู้เป็นนายได้รู้ “จะรีบร้อนไปทำไมกัน” ชายหนุ่มเอ่ยพลางเหลือบมองคนมาใหม่ แล้วสะบัดศีรษะด้วยเหนื่อยหน่ายระอาใจ “มากันแล้วนาย...พวกนั้นมากันแล้ว”“อืม...รู้แล้ว” คนถูกเรียกว่านายรับคำในลำคอ “แกไปก่อน”“แต่นาย...” ฮามีดร้องขัด ถึงนายจะเก่งกล้า สามารถเข้ามาก่อก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-31
  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 40

    มือใหญ่จับรั้งปลายคางมนให้หันหน้ามาหา “เอาเป็นว่าฉันค่อยพิสูจน์คำท้าทายของเธออีกที ตอนเราอยู่ด้วยกันท่ามกลางหาดทราย สายลม แสงดาวและจันทราส่องสว่างยามที่ฉันแนบชิด...” ปากอุ่นระอุแนบทับบนลาดไหล่กว้าง ขบเม้มไต่ขึ้นไปทีละน้อย ขณะฝ่ามือหนาลูบไล้แขนเสลา ซอกซอนด้วยความจัดเจนจนได้สัมผัสกับปทุมถันนุ่มหยุ่น“ค่อยๆ จูบไล่ไปจนทั่ว ไม่เว้นแม้แต่ส่วนนั้นของเธอ ก่อนที่ฉันจะถูกความฉ่ำชุ่มนุ่มอบอุ่นกลืนกินจนหมดทั้งตัว”อติกานต์สะดุ้ง ราวกับมีใครเอาถ่านไฟร้อนๆ โยนลงมาใส่มือ แต่จะหนีก็ไม่ได้ เมื่อถูกกักเอาไว้ด้วยท่อนแขนกำยำและปากอุ่นระอุที่เคลื่อนมาจนแนบชิดกกหู“อื้อ...ปล่อยฉันนะ...ไอ้โจรห้าร้อย” เพราะมือได้รับการปลดปล่อย จึงเป็นโอกาสให้เธอเอาคืนจอมโจรกักขฬะด้วยการ...“โอ๊ย! ฉันเจ็บนะเอแคลร์ เดี๋ยวเถอะ” ชายหนุ่มเอ่ยง่ำๆ ฮึ่มๆ พลางจับมือเล็กที่จิกลงมาบนท่อนขากำยำและลากอย่างแรง“น้ำหน้าอย่างแก ก็เป็นได้แค่ไอ้พวกหน้าไม่อาย ดีแต่รังแกผู้หญิง เอาสิ...ถึงฉันจะเป็นเชลยของแกก็จริง แต่อย่าคิดนะว่าจะยอมให้ถูกรังแกได้ง่ายๆ น่ะ”ลมหายใจหนักๆ ถูกเป่าพ่นออกจากปากหนา “ผู้หญิง! ชอบเหลือเกินละที่จะใช้วาจายั่วยุผู้ชายให้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-31
  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 1

    ภายในป้อมปราการอันมั่นคงกลางทะเลทราย แสงแดดยามเที่ยงวันสาดส่องกระทบกับพื้นทรายสีขาวนวล จนมีไอร้อนคล้ายหมอกควันสีขาวใสพวยพุ่งขึ้นมา ทว่าผู้คนเกือบครึ่งร้อยที่มาร่วมพิธีแต่งงานกลับไม่รับรู้เลยสักนิด ด้วยพวกเขาต่างมีความชื่นชมและยินดีกับคู่บ่าวสาวที่ยืนยิ้มกว้าง ต้อนรับแขกเหรื่ออย่างเป็นกันเองและใบหน้าเปี่ยมสุขเจ้าบ่าวรูปร่างบึกบึนล่ำสัน ใบหน้าเข้มขรึมปราศจากไรหนวดเคราอย่างที่เคยเห็นจนชินตา ยิ้มกว้างจนเห็นฟันสีขาวสะอาดในปากแทบหมดทุกซี่ ยืนเคียงข้างเจ้าสาวหน้าละอ่อนแย้มยิ้มด้วยเขินอายจากนัยน์ตาเข้มแฝงความหวานที่มองมาบ่อยครั้งเสียงแซวจากกลุ่มเพื่อนๆ ดังแว่วมา ทำให้สองแก้มใสของเจ้าสาวเป็นสีกลีบกุหลาบ ค้อนปะหลับปะเหลือกใส่เจ้าบ่าวที่ร่วมผสมโรงด้วยการส่งสายตาเข้มวามวาวด้วยความรักใคร่ระคนเอ็นดู“อย่าไปสนใจเลย เจ้าพวกนั้นอิจฉาที่ไอย่าตกลงแต่งงานกับฉัน อิจฉาที่ฉันได้สาวน้อยแสนสวยและแสนดีคนนี้ไปครอบครองนะ”อันเดซาอีเอ่ยเสียงทุ้มหวาน หลุบสายตาลงมองแก้มใสซับสีเลือดด้วยหัวใจระทึก อยากจรดจมูกโด่งลงไปจูบซับความหอมละมุนให้ชุ่มฉ่ำใจ แต่ต้องข่มกลั้นใจเอาไว้ ด้วยเคยรับปากมารดาที่ขอไว้ เป็นสุภาพบุรุษจะต้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-23
  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 2

    นัยน์ตากลมโตเบิกกว้าง กลีบปากอิ่มสีชมพูสดอ้าค้างอย่างไม่กลัวแมลงบินเข้าไปวางไข่ เมื่อปากหนาอุ่นแนบลงมาบนหน้าผากนวลเนียนเต็มๆ“คุณ!” ใบหน้านวลผ่องร้อนผ่าวจรดลำคอ หัวใจดวงน้อยเต้นกระหน่ำอย่างกับจะกระโดดออกมาจากทรวง เมื่อได้ใกล้ชิดบุรุษเพศชนิดได้กลิ่นกายเนื้อแท้ที่ติดจมูกพร้อมจูบ! แรกที่มิได้มาจากคนในครอบครัว“ถอยไปนะคนบ้า รัดมาได้...อึดอัดจะตาย” หญิงสาวพูดเสียงแข็งกลบเกลื่อนความอายและบางสิ่งที่เกิดขึ้นในใจอย่างปัจจุบันทันด่วน อย่างที่หักห้ามไว้ไม่ได้ สองมือเล็กผลักดันร่างยักษ์ให้ถอยห่างไปอย่างเร็วไว“เอ่อ...ฉันขอโทษ” อันเดซาอีเอ่ยขอโทษอย่างรู้สึกผิด พร้อมหัวใจที่กระตุกไหวยามได้ยลความงามของแม่สาวร่างบอบบางเบื้องหน้า ดวงหน้าเรียวรูปไข่นวลลออผ่องพรรณ ยามลุกขึ้นพากายไปยืนห่างๆ มองมือบางปัดไล่ความสกปรกออกจากกาย ใบหน้าคมคร้ามก็เปื้อนรอยยิ้มอย่างเอ็นดูอย่างไม่รู้ตัวแม่แมวขโมยหน้าตาใสซื่อ กลีบปากรูปกระจับสีชมพูเข้ม ทำให้ต้องรีบเมินหนีด้วยความรู้สึกแปลกๆ ที่ผุดขึ้นมาในหัวใจ ทว่าหัวใจกลับเรียกร้องให้ต้องมองซ้ำ แก้มใสซับสีเลือดป่องออกจนเขาอยากกดจมูกไปดมดอมความหอม “คิดยังไงถึงได้มาทำตัวเป็นขโมยห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-23
  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 3

    “ไม่รู้บิดาไอย่าจะว่ายังไงบ้าง ถ้าหากฉันจะเชิญไอย่าไปเป็นแขกที่บ้าน”มีคำถามมากมายในดวงตากลมโตใสแจ๋ว ที่อันเดซาอีอยากยื่นมือไปทาบบนสองแก้มซับสีเลือด แล้วกดปากลงบนหน้าผากนวลไล่ลงมาถึงดวงตา สิ้นสุดบนกลีบปากสีชมพูสด“ไม่อยากปล่อยให้ไอย่าเดินคนเดียว กลัวใครดักพาดวงใจหนีหายไป” “ขี้ตู่ เรายังไม่ได้เป็นอะไรกันเลยนะ” หญิงสาวตวัดค้อนใส่อันเดซาอีวงโต แต่ก็ปล่อยให้มือเล็กตกอยู่ในอุ้งมืออุ่น ฟังเสียงนุ่มทุ้มเอ่ยเล่าเรื่องราวสานสายใยบางๆ ให้กับหัวใจที่เต้นกระหน่ำรัวเร็ว ใบหน้าสองคนเปี่ยมล้นด้วยความสุขกับรักแรกเจอ!“แต่งงาน! ความสุขหรือเศร้า...สูญเสียและร้องไห้!”ความหวานจางหายจากคู่บ่าวสาว เสียงหัวเราะแห่งความสุข ใบหน้าที่ยิ้มแย้มสดใสหยุดชะงักลง เมื่อมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญ!สายตาทุกคู่ของแขกในงานไปโฟกัสอยู่ที่จุดเดียว...ชายร่างผอมกะหร่องกะแหร่ง เสื้อผ้าที่สวมใส่หาสีเก่าไม่เจอ ด้วยตอนนี้เหลือเพียงสีกระด่างกระดำและขาดกะรุ่งกะริ่ง ใบหน้ามอมแมมรกครึ้มไปด้วยหนวดเครา จนเห็นเพียงแค่ลูกตาที่เลื่อนลอยและสติไม่อยู่กับตัว“ดูแลกันยังไง ถึงได้ปล่อยให้ตาแก่สกปรกนี่เข้ามาในงานเราได้” อันเดซาอีหันไปต่อว่าเพื่อนด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-23

บทล่าสุด

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 40

    มือใหญ่จับรั้งปลายคางมนให้หันหน้ามาหา “เอาเป็นว่าฉันค่อยพิสูจน์คำท้าทายของเธออีกที ตอนเราอยู่ด้วยกันท่ามกลางหาดทราย สายลม แสงดาวและจันทราส่องสว่างยามที่ฉันแนบชิด...” ปากอุ่นระอุแนบทับบนลาดไหล่กว้าง ขบเม้มไต่ขึ้นไปทีละน้อย ขณะฝ่ามือหนาลูบไล้แขนเสลา ซอกซอนด้วยความจัดเจนจนได้สัมผัสกับปทุมถันนุ่มหยุ่น“ค่อยๆ จูบไล่ไปจนทั่ว ไม่เว้นแม้แต่ส่วนนั้นของเธอ ก่อนที่ฉันจะถูกความฉ่ำชุ่มนุ่มอบอุ่นกลืนกินจนหมดทั้งตัว”อติกานต์สะดุ้ง ราวกับมีใครเอาถ่านไฟร้อนๆ โยนลงมาใส่มือ แต่จะหนีก็ไม่ได้ เมื่อถูกกักเอาไว้ด้วยท่อนแขนกำยำและปากอุ่นระอุที่เคลื่อนมาจนแนบชิดกกหู“อื้อ...ปล่อยฉันนะ...ไอ้โจรห้าร้อย” เพราะมือได้รับการปลดปล่อย จึงเป็นโอกาสให้เธอเอาคืนจอมโจรกักขฬะด้วยการ...“โอ๊ย! ฉันเจ็บนะเอแคลร์ เดี๋ยวเถอะ” ชายหนุ่มเอ่ยง่ำๆ ฮึ่มๆ พลางจับมือเล็กที่จิกลงมาบนท่อนขากำยำและลากอย่างแรง“น้ำหน้าอย่างแก ก็เป็นได้แค่ไอ้พวกหน้าไม่อาย ดีแต่รังแกผู้หญิง เอาสิ...ถึงฉันจะเป็นเชลยของแกก็จริง แต่อย่าคิดนะว่าจะยอมให้ถูกรังแกได้ง่ายๆ น่ะ”ลมหายใจหนักๆ ถูกเป่าพ่นออกจากปากหนา “ผู้หญิง! ชอบเหลือเกินละที่จะใช้วาจายั่วยุผู้ชายให้

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 39

    “ฉันพอเข้าใจนะ ปากเธออ้อนวอนขอให้ฉันปล่อย แต่ตากลับบอกเป็นอีกอย่าง” ปลายนิ้วยาวลูบไล้ปลายคางไต่เรื่อยไปถึงกลีบปากอิ่มที่ขบกัดจนแบนราบเรียบ ขณะดวงตาเจิดจรัสกร้าวแข็ง “จะทำทุกทาง เพื่อเอาเลือดหัวฉันออก”อยากเถียงว่าไม่จริง! แต่เพราะเพลิงโทสะยังคุกรุ่นอยู่ในใจ ถึงจะพยายามยังไง แต่ในดวงตาของเธอก็ยังคงมีเปลวเพลิงลุกโชนอยู่ อติกานต์กระทืบสองเท้าแรงๆ ด้วยหงุดหงิดตัวเอง คิดหาทางพาตัวเองออกจากเหตุการณ์บ้าๆ นี้แต่กลับเริ่มหนักที่ต้นคอและปวดแถวกระบอกตาริ้วๆ พร้อมกับอาการอยากคายของเก่าทิ้ง“นาย...นาย”ประตูเปิดออกพร้อมกับเสียงร้อนรนและร่างเล็กปราดเปรียวสวมเสื้อผ้าสีตุ่นยาวกรอมมือกรอมเท้าวิ่งกระหืดกระหอบมาหยุดและยืนเอาสองมือเท้าขา ใบหน้าที่มีผ้าปกปิดจนเหลือเพียงแค่ลูกตาเหลือบมองมายังคนตัวเล็กที่เริ่มยกเท้าขึ้นทีละน้อย อย่างต้องการส่งสัญญาณให้ผู้เป็นนายได้รู้ “จะรีบร้อนไปทำไมกัน” ชายหนุ่มเอ่ยพลางเหลือบมองคนมาใหม่ แล้วสะบัดศีรษะด้วยเหนื่อยหน่ายระอาใจ “มากันแล้วนาย...พวกนั้นมากันแล้ว”“อืม...รู้แล้ว” คนถูกเรียกว่านายรับคำในลำคอ “แกไปก่อน”“แต่นาย...” ฮามีดร้องขัด ถึงนายจะเก่งกล้า สามารถเข้ามาก่อก

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 38

    อันเดซาอีหลุบตามองแม่ตัวเล็กปากจัดเถียงคำไม่ตกฟากเล็กน้อย ก่อนยอมให้เธอเบียดกระแซะ ด้วยใจกระหวัดไปถึงบางคนที่ผูกพัน แม้จากไปไกลสุดแสนก็ยังคงครองตำแหน่งของหัวใจ จนมิอาจมีใครที่แม้หน้าตาจะเหมือนราวกับพิมพ์เดียวกันก็มิทำให้เขาหวั่นไหวได้ หนังตาอ่อนนุ่มหลุบลงให้ใจกระหวัดไปถึงใครคนที่หัวใจใฝ่ฝันหา ขอกำลังใจจากเธอให้เขาผ่านเรื่องราวเลวร้ายนี้ไปได้ด้วยดี!“อื้อ...อื้อ...” คนร่างเล็กส่งเสียงดังเป็นระลอก สองเท้าที่ถูกมัดไว้ก็กระทืบลงไปบนพื้นพรมนุ่มๆ ในห้องพักที่ถูกนำตัวมากักขังเอาไว้ ในดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความกราดเกรี้ยวไล่มองร่างแกร่งเรื่อยไปถึงใบหน้าที่มีผ้าปกคลุม จนแทบไม่เห็นสิ่งใดนอกจากดวงตาเข้มดุที่ค่อนข้างไปทางขี้เล่น คลับคล้ายคลับคลาว่าเธอเคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่...เธอจะไปเคยเห็นไอ้โจรบ้านี่ที่ไหนและได้ยังไงกันล่ะใบหน้าภายใต้ผ้าคลุมที่พันจนเหลือเพียงดวงตาคลี่ยิ้ม ขณะพากายแกร่งเดินไปทรุดลงบนนั่งส้นเท้า ยื่นมือไปจับปลายคางของคนที่จนป่านนี้ยังไม่ยอมหยุดส่งเสียง ทั้งที่ถูกผูกมัดปากเอาไว้ก็ยังไม่วายละความพยายาม ที่เขาเห็นแล้วเหนื่อยแทนและสะบัดศีรษะอย่างระอิดระอาใจ “ยังไม่เหนื่อยหรืออติกานต์

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 37

    “ทำไมถึงไม่ตอบล่ะ...หรือเธอเองก็ไม่แน่ใจ ถึงตอบฉันไม่ได้”“ฉันไม่ได้เกาะติดคุณเอแคลร์เป็นตังเมนี่นา ถึงจะได้รู้ว่าเธอทำอะไรที่ไหนเมื่อไหร่”“ถ้าไม่รู้ ไม่แน่ใจก็อย่าพูดแทนคนอื่น เดี๋ยวเกิดไม่ใช่ขึ้นมา เธอนั่นแหละจะเป็นฝ่ายเดือดร้อน”รู้ว่าเขาเตือนด้วยความหวังดี แต่เมื่อโดนว่าต่อหน้าเช่นนี้ขอขวัญก็หงุดหงิดไม่พอใจขึ้นมา ใบหน้าผุดผ่องถึงได้หงิกงอง้ำ “คุณล่ะ ดีกว่าฉันตรงไหน ไม่รู้ไปสร้างเรื่องเลวร้ายอะไรไว้ ร้อนถึงผู้หญิงที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ต้องถูกดึงมาเดือดร้อนด้วย”ถ้าไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน เขาคงดึงแม่สาวปากกล้ามาลงทัณฑ์ด้วยการจูบแล้ว แต่เมื่อทำไม่ได้ อันเดซาอีจึงทำเสียงง่ำๆ ฮึ่มๆ ในลำคอประหนึ่งฝากบทลงโทษเอาไว้ก่อน และแม่ตัวเล็กก็ดูเหมือนจะรู้ เลยลอยหน้าลอยตาท้าทายใบหน้าแฉล้มแช่มชื่น อีกทั้งลูกน้องที่มาใหม่เหมือนมีเรื่องรายงาน ทำให้เขาต้องหันไปให้ความสนใจมากกว่าจะนั่งต่อปากต่อคำกับขอขวัญ“ได้เรื่องแล้วใช่ไหม” ชายหนุ่มเอ่ยถามพร้อมยันกายลุกขึ้น เมื่อผู้ถูกถามพยักหน้ารับ“คุณจะไปไหน” ขอขวัญรีบถามทันที เมื่อจำได้อย่างแม่นยำว่าชายคนที่เข้ามาใหม่ และทำท่าทางเหมือนมีเรื่องพูดกั

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 36

    “คุณไม่ได้ส่งใครตามหาคุณเอแคลร์ทั้งนั้นแหละ” ขอขวัญกระแทกเสียงแข็งใส่ สองแขนยกขึ้นสอดไขว้ระหว่างอกอย่างกระฟัดกระเฟียด อยากลุกออกไปจากห้องนี้เพื่อตามหาอติกานต์ด้วยตัวเอง แต่...เพียงแค่ขยับกายอันเดซาอีซึ่งคอยจับตามองอยู่คงจะรีบจับเอาตัวไว้เสียก่อน หรือหากผ่านชายหนุ่มไปได้ ประตูห้องก็ยังมีหนุ่มร่างยักษ์ใบหน้าถมึงทึงเหมือนโกรธเกลียดใครมาสักร้อยปีพันชาติเฝ้าอยู่ ยังไงก็ไม่พ้นอยู่ดี สู้อยู่หาเรื่องต่อว่าให้พ่อคนตรงหน้าทนไม่ไหวออกจัดการด้วยตัวเองจะดีกว่า“รู้ได้ยังไง” อันเดซาอีถาม นิ้วยาวเคาะบนเบาะนุ่มเบาๆ ขณะจับตามองขอขวัญอย่างแน่วนิ่ง“เอาเป็นว่าฉันรู้แล้วกัน”“รู้แบบผิดๆ น่ะสิ”“งั้นคุณก็บอกที่ถูกมาสิ” ขอขวัญโต้กลับอย่างไม่ยอมแพ้ “ว่าไงล่ะ พูดไม่ออกใช่ไหมล่ะ”“ว่าไง...ได้เรื่องอะไรบ้าง” แทนที่จะตอบแม่ตัวเล็กเรื่องมาก อันเดซาอีกลับหันใบหน้าไปถามลูกน้องที่เมื่อรู้ว่าเกิดเหตุร้ายขึ้นก็เร่งรุดทำหน้าที่ของตัวเอง ก่อนจะถูกเขาตะเพิดไล่ออกโทษฐานทำงานบกพร่อง“เราตรวจเช็กจากกล้องวงจรปิดทุกตัวแล้ว ไม่พบว่ามีการพาใครออกไปจากโรงแรม แต่ถึงตอนนี้เราก็ยังหาตัวคุณอติกานต์และคนก่อเรื่องไม่เจอเช่นกันครับ”“

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 35

    “จะหุบปากเองหรือให้ฉันปิดให้ล่ะขอขวัญ” ในนาทีนี้ไม่ควรโวยวายให้กลายเป็นจุดสนใจและควรที่จะรีบเร่งออกจากห้องมืดๆ นี้ ก่อนจะกลายเป็นเหยื่อในอุ้งมือเจ้าตัวร้ายที่หาเรื่องเล่นงานเขาทุกยุทธวิธี แม้งานนี้จะมีการเตรียมตัวรับมืออย่างดีแล้ว แต่เขาก็ยังพลาดจนได้! อันเดซาอีได้แต่หงุดหงิดใจขอขวัญทำเสียงจิจ๊ะในลำคอ “ฉันดูแลตัวเองได้ คุณไปช่วยคุณเอแคลร์ดีกว่า”“ฉันอยู่นี่จ้ะขวัญ” อติกานต์รีบบอกก่อนสองหนุ่มสาวจะทุ่มเถียงให้เธอปวดศีรษะมากไปกว่าที่เป็นอยู่ เท้าบอบบางก้าวเดินตามแรงลากจูงของเหล่ากลุ่มผู้คนที่กระวีกระวาดวิ่งไปหาแสงสว่างซึ่งส่องมารำไรอย่างระมัดระวังที่สุด“โอ๊ย!”“คุณเอแคลร์! เป็นอะไรไปคะ คุณอยู่ตรงไหน” ขอขวัญเอ่ยถามพร้อมมือหนึ่งทาบแผ่นหลังของคนที่เดินนำและพยายามสะบัดอีกมือออกจากการเกาะกุม เพื่อไขว่คว้าอติกานต์ด้วยใจร้อนรน“ฉันไม่เป็นไร” อติกานต์กัดฟันบอก ทั้งที่เจ็บข้อเท้าอันเนื่องมาจากเดินผิดท่าเลยพลิก ก่อนถูกซ้ำด้วยอะไรหนักๆ ที่น่าจะเป็นคนกระแทกที่แผ่นหลังจนกายถลาพุ่งไปด้านหน้าจนหัวตุงคว้าง แล้วเหมือนเวรซ้ำกรรมซัด ขณะก้าวเดินตามอันเดซาอีและขอขวัญไปอย่างรีบเร่งนั้นเอง อยู่ดีๆ ก็ถูกกระชา

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 34

    “ไม่ว่าจะไปนรกขุมไหน แค่มีเธอไปด้วย ฉันก็ยินดีไปโดยไม่รีรอเลยละ” ชายหนุ่มโต้กลับพร้อมละสายตาจากการมองสบกับดวงตากลมโตเปล่งประกายลุกเรืองรองและสองแก้มใสซึ่งแดงระเรื่อด้วยโกรธกริ้วไปยังมุมหนึ่งของห้อง เมื่อรู้สึกเหมือนกับถูกมองด้วยสายตาเป็นอริ แต่ก็ได้เห็นเพียงหลังไวๆ ของใครบางคน ความรู้สึกบอกว่าใช่! คนที่เขาตามหาตัวอยู่ แม้ไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ที่ไม่ได้เห็นหน้าให้ตามไล่ล่าตัวถูกง่ายๆ แต่เขาก็รู้อีกฝ่ายใช่จะเป็นหนูให้ถูกแมวตะครุบได้ง่ายๆ แต่เป็นหมูเขี้ยวตันที่มีมันสมองและเป็นพันธุ์หมาป่า ถึงได้ปราดเปรียวและเจ้าเล่ห์เป็นที่สุด แต่คนเราต่อให้เก่งฉกาจสักแค่ไหน ทว่าก็ยังมีวันพลาดเผลอกระโจนลงสู่หลุมกับดักจนได้นั่นแหละ!“คุณมัน...ไอ้บ้า!” เมื่อไม่รู้จะโต้กลับอีกฝ่ายไปได้ยังไง ขอขวัญจึงถลึงตาใส่และเบี่ยงใบหน้าหนีดวงตาเหมือนจะยิ้มได้คู่นั้น ทำให้ได้เห็นอติกานต์ที่เดินตามหลังใครบางคนมา ใบหน้าแม้จะเรียบเฉย ทว่าดวงตากลมโตสุกใสคู่นั้นกลับฉายแววประหวั่นพรั่นพรึงอย่างกักเก็บไว้ไม่มิด“อยากไปก็ได้นะขอขวัญ แต่ฉันไม่รับประกันว่าเพื่อนเธอจะปลอดภัย” มือใหญ่สอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกงและหันไปพยักหน้าให้ลูกน

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 33

    “ไม่อยากได้ยินเธอกรีดร้องเสียงแหลมแสบไส้ บาดลึกจนแก้วหูแทบแตก แต่ขอเป็นร้องครางหวานๆ ยั่วเย้าเว้าวอนขอให้ฉันรีบทำอย่างอื่นเร็วไวดีกว่าไหมขอขวัญ”ใบหน้าผุดผาดซีดเผือดแหงนขึ้นมองหน้าคมเข้มอย่างงุนงง ดวงตาเข้มดุวามวาวคล้ายลูกแก้วสะท้อนแสงไฟ ทำให้หัวใจดวงน้อยคล้ายมีความหวาดกลัวระคนอยากรู้อยากเห็น ก่อนความทรงจำร้ายๆ จะผุดขึ้นในสมอง พร้อมความเจ็บปวดราวกับผิวเนื้อถูกทิ่มแทงจากเข็มนับร้อยเล่ม“...” เสียงผลักไสกลายเป็นเพียงแค่เสียงกระอึกกระอักในลำคอ สองมือที่ทาบผลักบ่ากว้างก็สั่นสะท้าน เมื่อชายหนุ่มละเลียดไล้บดคลึงอย่างอ่อนโยนราวกับปีกขนนกโบยบิน คล้ายต้องการจะปลอบโยนและปัดเป่าความหวาดกลัวภายในใจขอขวัญให้จางหายไปทีละน้อยท่อนแขนกำยำรัดร่างบอบบางแนบสนิทชิดจนได้สัมผัสโนมเนื้อนุ่มนิ่ม ฝ่ามือหนาลูบไล้แผ่นหลังบอบบาง ไต่ไปจับรั้งท้ายทอยมนให้รับจุมพิตอ่อนหวานเว้าวอนให้ยินยอมพร้อมใจ ฟันคมๆ กดย้ำบนกลีบปากอิ่มนุ่มจนขอขวัญรู้สึกหนาวสะท้านจนขนกายลุกเกรียว พอๆ กับเสียงของหัวใจที่กระหน่ำเต้นรัวเร็ว แม้มีความเจ็บปวดสอดแทรกอยู่บ้างแต่ก็น้อยนิดเมื่อเทียบกับครั้งแรก สัมผัสที่มาพร้อมความรู้สึกวาบหวามปั่นป่วนในช่

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 32

    “ขอโทษนะคะ ฉันอยากอยู่คนเดียว” หญิงสาวเอ่ยเสียงเย็นอย่างคิดว่าสามารถตัดปัญหาไปได้ ทว่า...รอยยิ้มตรงมุมปากที่ได้เห็นช่างคุ้นตามากเหลือเกิน จนทำให้ไพล่คิดไปถึงใครบางคนที่ชอบทำให้เธอโกรธ ที่พ่วงกับอีกหนึ่งความรู้สึกซ่อนอยู่ในส่วนลึกของหัวใจ ทว่าอติกานต์ก็สลัดความคิดนั้นทิ้งไป ด้วยไม่เชื่อว่าเขาคนนั้นจะกล้าเข้ามาประกาศตัวว่าสนใจเธอในอาณาจักรแห่งนี้ ด้วยเข้ามาแล้วอาจไม่ได้กลับออกไปอย่างคนอาการครบสามสิบสอง“อยู่คนเดียวเหงาออก ผู้คนมากมายล้วนแล้วแต่แปลกหน้าทั้งนั้น ผมว่าคุณผู้หญิงมีเพื่อนคุยคอยเป็นเกราะคุ้มกันน่าจะดีกว่านะครับ”ท่ามกลางสรรพเสียงที่ดังกระหึ่ม เพียงเธอปรากฏกายขึ้นเท่านั้น ทุกอย่างกลับเงียบลง สายตาทุกคู่โฟกัสมาที่ร่างเพรียวบางในชุดสีครีมลูกไม้แนบเน้นให้เห็นความงดงามของกายสาว ผู้ชายมองด้วยความรู้สึกอยากสานสัมพันธไมตรีด้วย ขณะที่ผู้หญิงมองด้วยความอิจฉาริษยาในความงดงาม ภายใต้ใบหน้าและส่วนบนของศีรษะจะมีผ้าลูกไม้ฉลุปกคลุมอยู่“ไม่จำเป็น ฉันเอาตัวรอดได้”“อย่าเสี่ยงดีกว่าครับ ตอนนี้ใครต่อใครต่างก็หมายใจอยากเข้าใกล้ เพื่อเต้นรำกับสาวสวยอย่างคุณ”“ไม่เว้นแม้แต่คุณ...แต่ขอโทษด้วย ฉันมาท

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status