กระบวยตักน้ำที่ทำจากกะลามะพร้าวใบโตขัดมันเรียบลื่นจ้วงน้ำในคลองขึ้นมาวางบนหน้าตัก น้ำเต็มปรี่เอ่อล้นจนซึมผ่านต้นขาลงไปด้านล่าง เหมยกุ้ยหลับตาพริ้มซึมซับเอาความเย็นที่แทรกผ่านนั้นจนอดไม่ได้ต้องเทน้ำลงไปตรงๆ เพราะแค่น้ำซึมผ่านเธอก็รู้สึกดีเสียยิ่งกระไร ความเย็นที่รับรู้ได้เป็นสายเล็กนั้นแทรกซอนผ่านผ้าถุงลงไปหาบางอย่างที่ร้อนรนเหลือเกิน
ฝ่ามือขาวจั๊วะตามเชื้อสายวักน้ำแตะซับไปมาตามใบหน้า ลำคอและท่อนแขนทั้งสองข้าง ผ้าถุงชื้นน้ำกระโจมขัดกันไว้เหนือดอกบัวคู่งามมันเป็นความอึดอัดที่เธอไม่อยากจะรู้สึก เวลาจะชำระคราบไคลทำความสะอาดต้องลงไปลอยคอในน้ำก่อนจะล้วงมือเข้ามาขัดถู แต่ถ้าโชคไม่ดีหากเรือไปเทียบท่าในจุดที่บันไดสูงหรือเป็นช่วงน้ำลง ก็ไม่พ้นที่เธอต้องค่อยๆ ตักน้ำราดเข้าไป แม้แต่ดอกบัวเธอยังหมดโอกาสที่จะชำระแล้วนับประสาอะไรกับดอกกุหลาบแรกแย้มเธอยิ่งไม่มีสิทธิ์ไปแตะต้อง ดังนั้นสายน้ำเย็นฉ่ำในคืนเดือนมืดช่างเป็นสิ่งที่เธอปรารถนา เพราะจะได้ไม่ต้องกระมิดกระเมี้ยนกลัวว่าใครจะเห็น ได้ขัดได้ถูความงดงามที่แม่มอบให้กับเธอไม่มีตกหล่นนั้นได้อย่างสะอาดหมดจนที่สุด
ดวงตากลมโตสวยหวานล้อมกรอบไปด้วยแพขนตางอนงามแตกต่างไปจากลูกสาวคนจีนโดยทั่วไปหันมองไปทั่วบริเวณ แม้จะยังไม่ดึกมากแต่ก็ไม่มีใครเลยในบริเวณนี้หรือหากจะมีก็คงจะไม่มีใครได้เห็น รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้างดงามดั่งจันทร์ฉายก่อนนิ้วมือจะปลดปมผ้ากระโจมออกให้ผืนผ้าฉ่ำน้ำนั้นละอยู่บริเวณสะโพกผาย ปล่อยเอวคอดกิ่วและดอกบัวคู่งามได้ออกมาท้าทายความมืดมิดในยามค่ำคืน
เหมยกุ้ยควักน้ำลูบไล้ดอกบัวคู่งามตั้งแต่ความอวบนูนด้านบนพาดผ่านปลายยอดไปจนถึงฐานด้านล่างที่มักจะเต็มไปด้วยคราบเหงื่อเมื่อเธอต้องใส่กี่เพ้าแนบชิดจนติดคอ กระบวยตักน้ำรดล้างไปทุกส่วนที่เธอต้องการ สบู่ขิงก้อนเล็กถูกหยิบออกมาจากกระป๋องสังกะสีใบเก่าที่เคยเป็นกล่องสบู่ต่างประเทศ เมื่อครั้งคุณนายเถ้าแก่โรงสีเคยกรุณามอบให้
สบู่ก้อนเล็กแต่ให้ฟองมากเหมาะสำหรับดับอากาศร้อนและกลิ่นก็หอมติดตัวทำให้นอนหลับได้ดีตลอดค่ำคืน จำได้ว่าครั้งแรกที่ได้มานั้นเธอตื่นเต้นกับความหอมและฟองที่มากเป็นพิเศษ แต่ครั้งต่อๆ มาเธอก็ต้องใช้อย่างระมัดระวังด้วยกลัวว่าจะหมด แม้ครั้งสุดท้ายที่ใช้เธอยังเสียดายมาจนถึงตอนนี้ถึงขนาดที่ยังเก็บกล่องเอาไว้เสมอ เธอชอบความสะอาดและเธอก็หวังว่าสักวันหนึ่ง ชีวิตจะได้รับความสะดวกสบาย ห้องอาบน้ำที่สามารถเปลือยกายได้ทุกครั้งที่ต้องการและมีสบู่ ยาสระผมครบครันเหมือนดังป้ายโฆษณาที่เคยเห็น
ฝ่ามือเล็กไล่วนไปมาโดยรอบฐานลูบไล้ความอวบใหญ่ด้วยความสุข ก่อนจะปาดฟองไล้ไปมาบริเวณรอบเอวไร้ไขมัน หน้าท้องแบนราบกับอกอวบอิ่มรับกับสะโพกผายเป็นสิ่งที่อวดความเป็นสาวสะพรั่งที่ทำให้ผู้ชายทั้งหนุ่มและแก่ต้องมองดูเธอจนเหลียวหลังและอาจมีบ้างที่ลอบมองในยามที่อยู่กับเตี่ย ซึ่งทุกครั้งนั้นมันทำให้ใบหน้าของเธอวูบวาบไปด้วยความร้อนซ่านและมีบางครั้งที่อาจสะท้านตามสายตาที่มองลงต่ำลาดไปตามส่วนเว้าส่วนโค้งของร่างกาย ก็เพราะเธออ่านสายตาพวกเขาออก
ฟองนุ่มให้กลิ่นหอมคลอเคลียไปตามเรือนร่างช่างแตกต่างไปจากกลิ่นเค็มที่วนเวียนคละคลุ้งอยู่ในลำเรือ เหมยกุ้ยหลับตาซึมซับเอาความสุขที่เธอกำลังไขว่คว้า ฝ่ามือยังไล้วนไปมาจากบนลงล่างและจากล่างขึ้นบนและเมื่อใดที่พาดผ่านปลายยอดความรู้สึกแปลกซ่านไม่ต่างจากยามเห็นสายตาของชายเหล่านั้นก็แทรกผ่านเข้ามาในความคิด และอุปาทานหรือไรที่เธอคิดไปว่าเม็ดบัวสีชมพูสดคู่นี้ดูราวจะแข็งขึ้นเป็นไต
ริมฝีปากแดงสดด้วยการขบเม้มมันวาวขึ้นเพราะปลายลิ้นที่แลบไล้ไปมาอย่างไม่รู้ตัว อะไรบางอย่างในตัวกำลังฟ้อง ประท้วง ต่อต้าน หรือกำลังเรียกหาอะไรบางอย่างมาเติมเต็ม ดวงตาสวยหวานปรือขึ้นมองปลายยอดเม็ดบัวก่อนจะก้มมองลงไปยังกุหลาบดอกตูมที่บัดนี้เธอกลับรู้สึกว่ามันกำลังเริ่มจะแย้มออกเพื่อรอคอยอะไรบางอย่าง และนั่นเป็นสาเหตุที่เตี่ยและแม่ทำให้เรือสั่นเหมือนใครจับโยกใช่ไหม
เสียงของแม่ที่ครวญครางปานใจจะขาด ใบหน้าของแม่ที่บิดเบี้ยวแต่เธอก็รู้ว่านั่นไม่ใช่อาการของคนกำลังเจ็บปวด ภาพเหตุการณ์ที่ความอยากรู้พาเธอให้ขยับกายบางเบาและแนบใบหน้ากับรอยต่อของผ้าม่าน สิ่งที่ทำให้ดีใจที่สุดก็คือแม่บอกว่าเธอมี ‘ผัว’ ได้แล้ว และ ‘ผัวไทย’ ที่เธอจะได้แต่งงานกับเขาจะทำให้เธอร้องครวญครางได้เหมือนแม่หรือเปล่า หรือว่าจริงๆ แล้ว ‘ผัวจีน’ อย่างเตี่ยดีที่สุด เพราะแม่ไม่เคยค้านอะไรเตี่ยสักครั้ง
เหมยกุ้ยปล่อยหัวใจให้ล่องลอยไปกับความคิดและปล่อยฝ่ามือลูบไล้ตัวเองอย่างบางเบา ท่อนขาขาวจะถูกยกขึ้นจากน้ำและปล่อยให้สบู่หอมกรุ่นทำหน้าที่ไม่ต่างจากเดิม จนแน่ใจว่าเรือนร่างทุกส่วนสะอาดหมดไร้กลิ่นเหงื่อและคราบไคล เรือนร่างขาวนวลก็ค่อยๆ หย่อนกายที่มีผ้าถุงปิดสะโพกหมิ่นเหม่ลงสู่ลำคลอง มือดึงรั้งผ้าถุงออกจากตัวนำไปพาดไว้บนบันได ก่อนที่ร่างเปล่าเปลือยไม่ต่างจากนางผีพรายจะโผออกจากฝั่งและว่ายวนซึมซับความเย็นของน้ำอย่างมีความสุข
แสงสีส้มที่เริ่มจะลาลับไปจากขอบฟ้าทำให้บรรยากาศจ้อกแจ้กจอแจเมื่อครู่ใหญ่ๆ คลายลง ผู้คนที่พายเรือสัญจรไปมาในลำคลองสายนี้เริ่มบางเพราะต่างฝ่ายต่างรีบจะกลับให้ถึงบ้านถึงเรือนก่อนค่ำ ใครโชคดีบ้านอยู่ไปทางหน้าตลาดก็ยังพายเรือไม่ได้เร่งรีบมากนัก หากแต่ใครโชคร้ายที่บ้านอยู่ค่อนไปทางวัดแต่ดันทำธุระเสียจนเกือบค่ำก็ได้แต่จ้ำอ้าวๆ ไม่รอใคร เพราะรู้กันทั่วว่าผีหน้าวัดน่ะดุใช่เล่น ใครทะเล่อทะล่ากลับค่ำหรือแค่ยามโพล้เพล้ได้โดนหลอกจับไข้หัวโกร๋นกันมานักต่อนักแล้ว น้ำเต็มตลิ่งเพราะใกล้เดือนสิบสองมาทุกทีทำให้สายลมที่โชยพัดมาหอบเอาความเย็นชื่นใจมาด้วย เธอจึงชอบที่จะมานั่งรับลมอยู่บริเวณหัวเรือ ไม่ว่าใครจะพูดถึงเรื่องผีสางกันเท่าไร เธอก็ไม่กลัว เธอกลัวความร้อนมากกว่า หลายปีแล้วที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในลำเรือ เพราะตั้งแต่เตี่ยและแม่เลือกที่จะค้าขายทางน้ำทำให้เธอที่เป็นลูกสาวเพียงคนเดียวต้องติดสอยห้อยตามมาด้วย จากเด็กหญิงจนกลายเป็นสาวเต็มตัว ความอุดอู้อยู่เพียงในลำเรือพูดไปก็คงจะไม่มีใครเข้าใจยามต้องทนมองหญิงสาวหลากหลายคนลงเล่นน้ำในท่าหน้าบ้านของตนเอง เธอให้นึกอิจฉาพวกหล่อนนัก อิจฉาที่พวกหล่อนเป็
ในยามนั้นเธอเปรียบดั่งดอกเหมยฮัวแรกแย้มส่งกลิ่นล่อแมลง และในยามนี้เธอก็ยังคงเป็นดอกเหมยฮัวที่เบ่งบานเต็มที่พร้อมจะได้รับการผสมพันธุ์จากแมลงครั้งแล้วครั้งเล่า ทว่าแมลงที่คุ้นเคยกลับไม่สามารถทำได้ เพราะวัยที่แตกต่างกันมาก บ่อยครั้งที่ลูกค้ามักจะคิดว่าเธอและเหมยกุ้ยเป็นลูกสาวของเฮียย้ง กว่าสี่ปีที่ล่องเรือค้าขายทำให้มีเงินเก็บมากพอที่จะซื้อหาบ้านเรือนและที่ดินแต่เฮียย้งก็ชะล่าใจบอกให้คอยอีกหน่อยเพราะเงินเก็บที่มีอยู่แกจะนำไปลงทุนค้าข้าว ให้ทนอยู่ในเรือกันไปก่อน ในวันข้างหน้าเธอกับลูกจะได้สุขสบายแต่สิ่งที่หวังไว้มาไม่ทัน เงินเก็บถูกปล้นไม่เหลือ เหลือแต่ข้าวของที่ต้องค้าขายกันใหม่ และยังดีที่เธอซุกซ่อนทองเส้นเล็กเส้นน้อยไว้ตามฝากระดานที่เปิดได้จึงพอได้ขายนำเงินมาทำทุนเพิ่ม ไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้เฮียย้งจึงดูแก่ไปมากและเพราะคิดมาก แต่เธอล่ะ... ยิ่งเฮียหลับลึกเธอยิ่งทรมานเพราะรสสัมผัสที่ถูกจุดติดนับจากวันนั้นมันตามหลอกหลอนจนเธอหลับไม่ลง‘เฮ้ย! ค้นให้ทั่ว ดูสิว่ามันมีเงินซุกซ่อนไว้ตรงไหนบ้าง’เสียงหัวหน้าโจรตะโกนบอกลูกน้องในขณะที่สายตาของมันกวาดมองความขาวภายนอกร่มผ้าของเธอไม่วางตา แม้จะอยู่ใ
‘อะ! อย่า! อย่า...’‘ผัวมึงมาแล้ว ให้มันเอามึงต่อล่ะกัน หึหึ..’เธอไขว่คว้าร่างของมันเพราะแรงตอดรัดอย่างรุนแรงต้องการสิ่งมาเติมเต็ม แต่มันกลับกระโดดลงน้ำไปทางท้ายเรือปล่อยให้เธอลอยเคว้งทั้งที่กลิ่นคาวแข็งแกร่งนั้นยังคงคลุ้งไปทั่ว แต่เพราะเสียงผู้คนและแรงสะเทือนที่รู้ได้ว่ามีคนลงมาในเรือเธอจึงต้องรีบจัดแต่งเสื้อผ้าและทำเป็นนอนสลบไสลไม่รับรู้ราวกับโดนรมยา"บัญชีของเตี่ยฉันทำเสร็จแล้ว แม่ไม่ต้องห่วงหรอก และทีหลังอย่าเรียกฉันแบบนี้อีก แม่ก็รู้ว่าฉันไม่ชอบ"เสียงหวานแต่ไม่สบอารมณ์ของเหมยกุ้ยทำลายภวังค์อันเพริศแพร้วของเธอ เหมยฮัวส่ายใบหน้าไปมา สงสารทั้งลูกและสงสารทั้งตัวเอง เหมยกุ้ยเก่งทั้งงานบ้านงานเรือนตามที่เธออบรมสั่งสอนและทั้งยังพูดอ่านเขียนภาษาไทยได้เป็นอย่างดีแม้ไม่ได้ไปเรียนหนังสือเหมือนลูกคนอื่นเขาเพราะได้คุณนายเถ้าแก่โรงสีสอนสั่งเมื่อครั้งเป็นเด็กหญิงเหมยกุ้ยจึงไม่ต้องพูดไทยสำเนียงจีนอย่างเธอกับเฮียย้ง อีกทั้งเหมยกุ้ยยังสามารถคิดราคาสินค้าและจัดทำบัญชีได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แต่เหมยกุ้ยไม่ชอบชีวิตแบบนี้ ก็ใครล่ะจะชอบเธอเองก็ไม่ชอบเหมือนกัน ทางใดที่จะผลักดันให้ลูกไปให้พ้นจากในเรือ
โรงสีข้าว โรงน้ำมัน โรงน้ำแข็ง ร้านขายยา ตลอดจนร้านขายส่งผัก หมู ไก่ ผลหมากรากไม้ ที่จ้อกแจ้กจอแจในช่วงเช้ามืดเพราะผู้คนจากหลายหมู่บ้านจะพายเรือมาหาซื้อสินค้าเพื่อนำไปขายต่อในหมู่บ้านของตน ทั้งเรือของแม่ค้าที่นำสินค้ามาแลกเปลี่ยนหมุนเวียนกันก็มาก ตลอดจนเรือขายข้าวต้มเครื่อง ปากริมไข่เต่าและขนมหวานในยามค่ำคืน ทำให้ย่านตลาดแห่งนี้ตั้งแต่เวลาย่ำรุ่งไปจนถึงย่ำค่ำไม่เคยพบกับความเงียบเหงา มีเพียงในเวลานี้เท่านั้นเมื่อผีตากผ้าอ้อมลาลับความมืดมิดมาเยือน มีเพียงแสงตะเกียงจากครัวเรือนและแสงไฟจากโรงสี โรงน้ำมัน ซึ่งเป็นเวลาที่เธอจะได้อาบน้ำผลัดผ้าผ่อนที่ซึมซับเอาเหงื่อไคลจากการขายของมาตลอดทั้งวันให้เนื้อตัวได้สะอาดสะอ้าน เรือขายเกลือ กะปิ น้ำปลา ทำให้กระไอความเค็มเหมือนจะอยู่ติดเนื้อติดตัวหรือแม้แต่ปลายจมูกที่ทำให้เธอหายใจไม่สะดวกอยากออกมานั่งรับลมอยู่ที่หัวเรือทั้งวันทั้งคืนเรือนร่างอวบอัดตามวัยลุกขึ้นยืนก่อนจะพาตัวเองเข้าไปสู่ด้านในลำเรือเพื่อผลัดผ้าเตรียมอาบน้ำและท่าน้ำใต้สะพานก็คือสถานที่ที่เธอจะปล่อยกายปล่อยใจให้ล่องลอยอยู่ในสายน้ำ ถึงแม้เธอจะไม่ชอบอยู่ในเรือแต่หากการพาตัวเองลงไปว่ายวนอยู
กระบวยตักน้ำที่ทำจากกะลามะพร้าวใบโตขัดมันเรียบลื่นจ้วงน้ำในคลองขึ้นมาวางบนหน้าตัก น้ำเต็มปรี่เอ่อล้นจนซึมผ่านต้นขาลงไปด้านล่าง เหมยกุ้ยหลับตาพริ้มซึมซับเอาความเย็นที่แทรกผ่านนั้นจนอดไม่ได้ต้องเทน้ำลงไปตรงๆ เพราะแค่น้ำซึมผ่านเธอก็รู้สึกดีเสียยิ่งกระไร ความเย็นที่รับรู้ได้เป็นสายเล็กนั้นแทรกซอนผ่านผ้าถุงลงไปหาบางอย่างที่ร้อนรนเหลือเกินฝ่ามือขาวจั๊วะตามเชื้อสายวักน้ำแตะซับไปมาตามใบหน้า ลำคอและท่อนแขนทั้งสองข้าง ผ้าถุงชื้นน้ำกระโจมขัดกันไว้เหนือดอกบัวคู่งามมันเป็นความอึดอัดที่เธอไม่อยากจะรู้สึก เวลาจะชำระคราบไคลทำความสะอาดต้องลงไปลอยคอในน้ำก่อนจะล้วงมือเข้ามาขัดถู แต่ถ้าโชคไม่ดีหากเรือไปเทียบท่าในจุดที่บันไดสูงหรือเป็นช่วงน้ำลง ก็ไม่พ้นที่เธอต้องค่อยๆ ตักน้ำราดเข้าไป แม้แต่ดอกบัวเธอยังหมดโอกาสที่จะชำระแล้วนับประสาอะไรกับดอกกุหลาบแรกแย้มเธอยิ่งไม่มีสิทธิ์ไปแตะต้อง ดังนั้นสายน้ำเย็นฉ่ำในคืนเดือนมืดช่างเป็นสิ่งที่เธอปรารถนา เพราะจะได้ไม่ต้องกระมิดกระเมี้ยนกลัวว่าใครจะเห็น ได้ขัดได้ถูความงดงามที่แม่มอบให้กับเธอไม่มีตกหล่นนั้นได้อย่างสะอาดหมดจนที่สุดดวงตากลมโตสวยหวานล้อมกรอบไปด้วยแพขนตางอนงา
โรงสีข้าว โรงน้ำมัน โรงน้ำแข็ง ร้านขายยา ตลอดจนร้านขายส่งผัก หมู ไก่ ผลหมากรากไม้ ที่จ้อกแจ้กจอแจในช่วงเช้ามืดเพราะผู้คนจากหลายหมู่บ้านจะพายเรือมาหาซื้อสินค้าเพื่อนำไปขายต่อในหมู่บ้านของตน ทั้งเรือของแม่ค้าที่นำสินค้ามาแลกเปลี่ยนหมุนเวียนกันก็มาก ตลอดจนเรือขายข้าวต้มเครื่อง ปากริมไข่เต่าและขนมหวานในยามค่ำคืน ทำให้ย่านตลาดแห่งนี้ตั้งแต่เวลาย่ำรุ่งไปจนถึงย่ำค่ำไม่เคยพบกับความเงียบเหงา มีเพียงในเวลานี้เท่านั้นเมื่อผีตากผ้าอ้อมลาลับความมืดมิดมาเยือน มีเพียงแสงตะเกียงจากครัวเรือนและแสงไฟจากโรงสี โรงน้ำมัน ซึ่งเป็นเวลาที่เธอจะได้อาบน้ำผลัดผ้าผ่อนที่ซึมซับเอาเหงื่อไคลจากการขายของมาตลอดทั้งวันให้เนื้อตัวได้สะอาดสะอ้าน เรือขายเกลือ กะปิ น้ำปลา ทำให้กระไอความเค็มเหมือนจะอยู่ติดเนื้อติดตัวหรือแม้แต่ปลายจมูกที่ทำให้เธอหายใจไม่สะดวกอยากออกมานั่งรับลมอยู่ที่หัวเรือทั้งวันทั้งคืนเรือนร่างอวบอัดตามวัยลุกขึ้นยืนก่อนจะพาตัวเองเข้าไปสู่ด้านในลำเรือเพื่อผลัดผ้าเตรียมอาบน้ำและท่าน้ำใต้สะพานก็คือสถานที่ที่เธอจะปล่อยกายปล่อยใจให้ล่องลอยอยู่ในสายน้ำ ถึงแม้เธอจะไม่ชอบอยู่ในเรือแต่หากการพาตัวเองลงไปว่ายวนอยู
‘อะ! อย่า! อย่า...’‘ผัวมึงมาแล้ว ให้มันเอามึงต่อล่ะกัน หึหึ..’เธอไขว่คว้าร่างของมันเพราะแรงตอดรัดอย่างรุนแรงต้องการสิ่งมาเติมเต็ม แต่มันกลับกระโดดลงน้ำไปทางท้ายเรือปล่อยให้เธอลอยเคว้งทั้งที่กลิ่นคาวแข็งแกร่งนั้นยังคงคลุ้งไปทั่ว แต่เพราะเสียงผู้คนและแรงสะเทือนที่รู้ได้ว่ามีคนลงมาในเรือเธอจึงต้องรีบจัดแต่งเสื้อผ้าและทำเป็นนอนสลบไสลไม่รับรู้ราวกับโดนรมยา"บัญชีของเตี่ยฉันทำเสร็จแล้ว แม่ไม่ต้องห่วงหรอก และทีหลังอย่าเรียกฉันแบบนี้อีก แม่ก็รู้ว่าฉันไม่ชอบ"เสียงหวานแต่ไม่สบอารมณ์ของเหมยกุ้ยทำลายภวังค์อันเพริศแพร้วของเธอ เหมยฮัวส่ายใบหน้าไปมา สงสารทั้งลูกและสงสารทั้งตัวเอง เหมยกุ้ยเก่งทั้งงานบ้านงานเรือนตามที่เธออบรมสั่งสอนและทั้งยังพูดอ่านเขียนภาษาไทยได้เป็นอย่างดีแม้ไม่ได้ไปเรียนหนังสือเหมือนลูกคนอื่นเขาเพราะได้คุณนายเถ้าแก่โรงสีสอนสั่งเมื่อครั้งเป็นเด็กหญิงเหมยกุ้ยจึงไม่ต้องพูดไทยสำเนียงจีนอย่างเธอกับเฮียย้ง อีกทั้งเหมยกุ้ยยังสามารถคิดราคาสินค้าและจัดทำบัญชีได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แต่เหมยกุ้ยไม่ชอบชีวิตแบบนี้ ก็ใครล่ะจะชอบเธอเองก็ไม่ชอบเหมือนกัน ทางใดที่จะผลักดันให้ลูกไปให้พ้นจากในเรือ
ในยามนั้นเธอเปรียบดั่งดอกเหมยฮัวแรกแย้มส่งกลิ่นล่อแมลง และในยามนี้เธอก็ยังคงเป็นดอกเหมยฮัวที่เบ่งบานเต็มที่พร้อมจะได้รับการผสมพันธุ์จากแมลงครั้งแล้วครั้งเล่า ทว่าแมลงที่คุ้นเคยกลับไม่สามารถทำได้ เพราะวัยที่แตกต่างกันมาก บ่อยครั้งที่ลูกค้ามักจะคิดว่าเธอและเหมยกุ้ยเป็นลูกสาวของเฮียย้ง กว่าสี่ปีที่ล่องเรือค้าขายทำให้มีเงินเก็บมากพอที่จะซื้อหาบ้านเรือนและที่ดินแต่เฮียย้งก็ชะล่าใจบอกให้คอยอีกหน่อยเพราะเงินเก็บที่มีอยู่แกจะนำไปลงทุนค้าข้าว ให้ทนอยู่ในเรือกันไปก่อน ในวันข้างหน้าเธอกับลูกจะได้สุขสบายแต่สิ่งที่หวังไว้มาไม่ทัน เงินเก็บถูกปล้นไม่เหลือ เหลือแต่ข้าวของที่ต้องค้าขายกันใหม่ และยังดีที่เธอซุกซ่อนทองเส้นเล็กเส้นน้อยไว้ตามฝากระดานที่เปิดได้จึงพอได้ขายนำเงินมาทำทุนเพิ่ม ไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้เฮียย้งจึงดูแก่ไปมากและเพราะคิดมาก แต่เธอล่ะ... ยิ่งเฮียหลับลึกเธอยิ่งทรมานเพราะรสสัมผัสที่ถูกจุดติดนับจากวันนั้นมันตามหลอกหลอนจนเธอหลับไม่ลง‘เฮ้ย! ค้นให้ทั่ว ดูสิว่ามันมีเงินซุกซ่อนไว้ตรงไหนบ้าง’เสียงหัวหน้าโจรตะโกนบอกลูกน้องในขณะที่สายตาของมันกวาดมองความขาวภายนอกร่มผ้าของเธอไม่วางตา แม้จะอยู่ใ
แสงสีส้มที่เริ่มจะลาลับไปจากขอบฟ้าทำให้บรรยากาศจ้อกแจ้กจอแจเมื่อครู่ใหญ่ๆ คลายลง ผู้คนที่พายเรือสัญจรไปมาในลำคลองสายนี้เริ่มบางเพราะต่างฝ่ายต่างรีบจะกลับให้ถึงบ้านถึงเรือนก่อนค่ำ ใครโชคดีบ้านอยู่ไปทางหน้าตลาดก็ยังพายเรือไม่ได้เร่งรีบมากนัก หากแต่ใครโชคร้ายที่บ้านอยู่ค่อนไปทางวัดแต่ดันทำธุระเสียจนเกือบค่ำก็ได้แต่จ้ำอ้าวๆ ไม่รอใคร เพราะรู้กันทั่วว่าผีหน้าวัดน่ะดุใช่เล่น ใครทะเล่อทะล่ากลับค่ำหรือแค่ยามโพล้เพล้ได้โดนหลอกจับไข้หัวโกร๋นกันมานักต่อนักแล้ว น้ำเต็มตลิ่งเพราะใกล้เดือนสิบสองมาทุกทีทำให้สายลมที่โชยพัดมาหอบเอาความเย็นชื่นใจมาด้วย เธอจึงชอบที่จะมานั่งรับลมอยู่บริเวณหัวเรือ ไม่ว่าใครจะพูดถึงเรื่องผีสางกันเท่าไร เธอก็ไม่กลัว เธอกลัวความร้อนมากกว่า หลายปีแล้วที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในลำเรือ เพราะตั้งแต่เตี่ยและแม่เลือกที่จะค้าขายทางน้ำทำให้เธอที่เป็นลูกสาวเพียงคนเดียวต้องติดสอยห้อยตามมาด้วย จากเด็กหญิงจนกลายเป็นสาวเต็มตัว ความอุดอู้อยู่เพียงในลำเรือพูดไปก็คงจะไม่มีใครเข้าใจยามต้องทนมองหญิงสาวหลากหลายคนลงเล่นน้ำในท่าหน้าบ้านของตนเอง เธอให้นึกอิจฉาพวกหล่อนนัก อิจฉาที่พวกหล่อนเป็