ตอนที่ 3 จุดเริ่มต้น
“คุณหนูกินยาก่อนนะคะ” เสียวปิงยื่นถ้วยยาที่มียาเม็ดโตให้หญิงสาว ถิงถิงรับยานั้นมาก่อนจะกลอกลงปากแล้วดื่มน้ำตาม
“คุณหนูคิดว่าประธานฮั้วจะตอบรับข้อเสนอของคุณหนูหรือเปล่าคะ” หลังจากถิงถิงกินยาเสร็จเสียวปิงก็เริ่มถามเรื่องที่เธอเป็นกังวล เธอได้รับหน้าที่ดูแลคุณหนูมาตั้งแต่ตอนที่คุณท่านพาคุณหนูกับคุณชายมาที่บ้านตั้งแต่เมื่อสิบสองปีที่แล้ว จนตอนนี้เธอเห็นคุณหนูเป็นน้องสาวของเธอมากกว่าแค่เจ้านาย เพราะคุณหนูนั้นดีกับเธอมากแม้จะมีข่าวลือเกี่ยวกับคุณหนูว่ายังไงก็ตาม แต่เธอรู้ว่าที่คุณหนูทำไปทั้งหมดล้วนมีเหตุผล
“รับสิ ฉันมั่นใจว่ายังไงพี่ก็ต้องตอบรับข้อเสนอของฉัน เธอบอกให้คุณลุงซ่งเตรียมร่างสัญญาไว้ได้เลย” ถิงถิงบอกเสี่ยปิงด้วยความมั่นใจ
“รับทราบค่ะคุณหนู”
“แล้ววันนี้อาการคุณปู่เป็นยังไงบ้าง” ถิงถิงถามถึงอาการคุณปู่ของเธอปกติเธอจะต้องเขาไปเยี่ยมและคุยเล่นกับคุณปู่ทุกวัน แต่วันนี้เธอเหนื่อยเกินกว่าที่จะทำอย่างนั้นไหว ไม่คิดเลยว่าการไปเจอกับเขาแค่ครั้งเดียวก็ทำให้เธอหมดแรงถึงขนาดนี้
“คุณท่านอาการปกติดีค่ะ มีตื่นมาตอนบ่ายแล้วถามหาคุณหนูแต่พยาบาลที่ดูแลบอกว่าคุณหนูออกไปซื้อของ คุณท่านเลยบอกว่าดีแล้วให้คุณหนูออกจากบ้านบ้างไม่ใช่คลุกอยู่แต่กับท่าน” เสียวปิงตอบตามที่เธอไปสอบถามมา
“ถ้าคุณปู่รู้ว่าฉันไปทำอะไรมาคงได้ตกใจแย่” ถิงถิงพูดติดตลก
“ขอบใจนะเสียวปิง เธอไปพักเถอะฉันเองก็จะนอนแล้ว” เสียวปิงช่วยห่มผ้าให้คุณหนูของเธอก่อนจะขอตัวออกไปพักผ่อน
หลังจากเสียวปิงออกไปคนที่บอกว่าจะนอนแต่กลับนอนไม่หลับ ถิงถิงคิดถึงเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมาในอดีต ครั้งแรกที่เธอเจอคุณปู่คือในงานศพของคุณพ่อกับคุณแม่ของเธอ ท่านทั้งสองเสียชีวิตจากอุบัติเหตุขับรถตกสะพานหลังจากกลับจากงานกินเลี้ยง ตำจรวจบอกว่าพ่อของเธอที่เป็นคนขับเมาแล้วขับเลยควบคุมรถไม่ได้เลยชนเข้ากับราวสะพานก่อนจะตกลงแม่ในน้ำ ในตอนนั้นเธออายุแค่สิบขวบส่วนน้องชายของเธออายุแค่ห้าขวบ พวกเธอทั้งสองคนทำได้เพียงแค่กอดกันร้องให้ในงานศพเพราะไม่รู้ว่าต่อไปนี้พวกเธอจะทำยังไงจะอยู่ที่ไหน แล้วอยู่ๆ ก็มีชายสูงอายุเดินเขามาในงานพร้อมกับบอกพวกเธอว่าเขาเป็นปู่ของพวกเธอ
แล้วตั้งแต่วันนั้นคุณปู่ก็รับเธอกับน้องชายมาอยู่ด้วย และตั้งแต่นั้นชีวิตของเธอกับน้องก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากเมื่อก่อนเธอกับครอบครัวอาศัยอยู่ในบ้านหลังไม่ใหญ่มาก แต่ตอนนี้แค่ห้องนอนของเธอแค่ห้องเดียวก็ใหญ่กว่าบ้านที่เธอเคยอยู่ทั้งหลัง แต่ถึงมันจะใหญ่แค่ไหนสำหรับเธอมันกับไม่มีความอบอุ่นเหมือนบ้านหลังน้อยของเธอเลย ผู้คนที่นี่ก็เหมือนกัน ต่างพากันบอกว่าเป็นญาติเธอแต่ไม่มีใครที่ดีกับเธอหรือกับน้องเธอสักคน มีเพียงคุณปู่ที่คอยปกป้องเธอ เธอเลยต้องอาศัยอาการป่วยของตัวเองให้เป็นประโยชน์ มีครั้งหนึ่งตอนที่เธอมาอยู่ที่นี่ใหม่ๆ ลูกเลี้ยงของคุณอาเว่ยแกล้งผลักเธอ แต่เธอรู้ทันเลยทำเป็นล้มก่อนที่หมอนั่นจะได้ผลักเธอจริงๆ แล้วเธอก็ร้องไห้เสียงดังก่อนจะแกล้งเป็นลมผลคือคุณปู่สั่งห้ามหมอนั่นไม่ให้มาเหยียบที่บ้านของสกุลจางนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เล่นเอาคุณอาเว่ยหัวเสียแค้นเธอมาจนถึงทุกวันนี้ เลยคอยจ้องจะหาเรื่องเธอตลอดเวลา ล่าสุดพออาเว่ยทราบข่าวอาการของคุณปู่แทนที่เธอจะห่วงอาการของพ่อตัวเอง แต่อาเว่ยกลับมาข่มขู่เธอบอกว่าทันทีที่คุณปู่เสียจะไล่เธอกับน้องออกจากบ้านทันที แล้วให้ลูกเลี้ยงของเธอขึ้นมาเป็นหัวหน้าตระกูลแทน ถึงแม้ว่าอาเขยจะแต่งงานเข้าตระกูลแล้วเปลี่ยนมาใช้สกุลจางแต่ลูกเลี้ยงของเธอก็ยังเป็นคนอื่นอยู่ดี แล้วนิสัยของหมอนั่นก็เลวร้ายขั้นสุด ทั้งการพนัน เสพยา แล้วยังมีเรื่องไปยุ่งเรื่องธุรกิจสีเทาอีก เธอจะปล่อยให้คนแบบนั้นขึ้นเป็นหัวหน้าตระกูลได้ยังไง ถ้าเธอทำแบบนั้นไม่เท่ากับเธอปล่อยให้สิ่งที่คุณปู่สร้างมาทั้งหมดล่มสลายหรอกเหรอ ไม่ได้เธอจะปล่อยให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นไม่ได้ และนั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่เธอต้องการให้เขามาแต่งงานด้วย
“หวังว่าพี่จะไม่ใจร้ายกับฉันเกินไปนะ”
บ้านใหญ่ตระกูลจาง
“วันนี้ลมอะไรหอบมาเหรอหลานสาวที่น่ารักของฉันถึงได้มาที่นี่ได้ ไม่อยู่เฝ้าคุณปู่ของเธอเหรอ หรืออยากมาเดินชมความงามของบ้านหลังนี้ก่อนที่จะไม่มีโอกาสอีก” วันนี้เธอเข้ามาทำธุระแทนคุณปู่ แต่งยังเดินไม่ทันถึงห้องทำงานก็เจอกับอาเว่ยอาแท้ๆ ของเธอที่เดินออกมาจากห้องเข้าซะก่อน
“อาพูดถึงตัวเองเหรอคะ” ถิงถิงหยุดเดินก่อนจะหันไปตอบคำถามคนถาม “ฉันได้ยินมาว่าเมื่อวันก่อนอาให้ลูกเลี้ยงของอาเข้ามานอนที่บ้านหลังนี้ใช่หรือเปล่าคะ” คำถามที่ถิงถิงถามทำให้อาเว่ยถึงกับโมโหจนหน้าดำหน้าแดง
“แล้วจะทำไม ถึงยังไงจางหย๋งก็ถือว่าเป็นลูกชายของฉัน ทำไมจะมานอนที่บ้านนี้ไม่ได้ คอยดูนะต่อไปนี้ฉันจะไม่ให้ลูกชายฉันนอนที่ห้องรับรองแขกแล้ว แต่ฉันจะยกห้องของน้องชายแกให้กับจางหย๋งด้วย” อาเว่ยพูด ถิงถิงที่ได้ยินแบบนั้นเลยต้องเปลี่ยนจุดหมายจากห้องทำงานเป็นเดินตรงไปหาคุณอาเว่ยสุดที่รักของเธอแทน
“อาก็ลองทำแบบนั้นดูสิคะ” ถิงถิงที่เดินมาหยุดตรงหน้าอาเว่ยพูดเสียงต่ำ
“ทะ ทำไม แกจะทำไมฉัน ฉันไม่กลัวแกหรอก” อาเว่ยพูดตะกุกตะกัก ทั้งๆ ที่กลัวแต่เธอจะยอมแพ้นังเด็กนี่ไม่ได้
“ก็ไม่ทำไมหรอกค่ะ ฉันก็แค่จะใช้สิ่งนี้ให้เกิดประโยชน์แค่นั้นเอง” ถิงถิงโชว์ตราประทับประจำตระกูลให้อาเว่ยดู
“แกมีมันได้ยังไง คุณพ่อให้แกมาเหรอ ไม่มีทางแกต้องขโมยมาแน่ๆ เอามานี้นะ” อาเว่ยพยายามที่จะแย่งตราประทับจากมือของถิงถิง แต่ก็ไม่สามารถทำแบบนั้นได้เพราะผู้ติดตามของเธอเข้ามากันตัวอาเว่ยไว้ก่อนที่จะถึงตัวเธอ
“ฉันไม่ได้ขโมยและไม่จำเป็นต้องขโมย แต่คุณปู่เป็นคนให้ฉันเองกับมือของท่าน ถ้าอาไม่เชื่อก็ไปถามทนายซ่งได้ เพราะฉะนั้นตอนนี้ฉันจะทำอะไรก็ได้ แม้แต่ตัดชื่อของลูกชายสุดที่รักของอาให้ออกจากตระกูลฉันก็ทำได้” ถิงถิงบอก พร้อมกับยิ้มให้อย่างเหนือกว่า
“แกทำไม่ได้หรอก ถ้าแกจะตัดชื่อจางหย๋งออกแกต้องมีเหตุผลที่ดีพอที่จะตัด เหอะคิดว่าเรื่องแค่นี้ฉันไม่รู้เหรอ อย่าได้คิดเอาเรื่องนี้มาขู่ฉัน ฉันไม่กลัวแกหรอก” อาเว่ยพูดด้วยความมั่นใจว่าถิงถิงทำอะไรเธอกับลูกเลี้ยงของเธอไม่ได้
“ใครบอกอาเว่ยว่าฉันมีเหตุผลไม่เพียงพอที่จะตัดชื่อลูกชายสุดที่รักของอาเว่ยเหรอคะ เหตุผลแค่นั้นนะฉันมีเป็นร้อยเรื่อง เอาแค่เรื่องที่ขัดคำสั่งของหัวหน้าตระกูลก็พอ แค่เรื่องนี้ก็เพียงพอให้ไล่ออกได้แล้วค่ะ หรือถ้าอาเว่ยไม่เชื่อจะให้ฉันสาธิตให้ดูดีไหมคะ” อาเว่ยมีสีหน้าตกใจเธอไม่คิดว่าถิงถิงที่วันๆเอาแต่นอนซมเพราะอาการป่วยจะรู้เรื่องกฎพวกนั้นถึงขั้นกล้าเอาเรื่องนี้มาขู่เธอเลยเหรอ
“อย่านะ ฉันให้จางเว่ยมานอนแค่คืนเดียวเองจะอะไรหนักหนา แล้วอีกอย่างห้องน้องชายแกก็เล็กนิดเดียว รอจางเว่ยได้เป็นหัวหน้าตระกูลก่อนเถอะฉันจะหาห้องที่ใหญ่กว่านี้ให้เขาอยู่ ส่วนแกสองพี่น้องก็เตรียมตัวไปนอนข้างกองขยะได้เลย” พูดจบอาเว่ยก็เดินสะบัดก้นจากไป ถิงถิงได้แต่ส่ายหน้าให้กับคนที่เดินจากไป
“ฉันควรจะเปลี่ยนชื่อให้สองแม่ลูกนั่นเป็น เปิ้ลตั้น* กับ ซ่ากวา** ดีกว่าไหม ฉันว่าดูเหมาะกับสองคนนั้นมากกว่านะ”
*เปิ้ลตั้น = โง่
**ซ่ากวา = โง
ตอนที่ 4 ทำสัญญาหนึ่งอาทิตย์ต่อมาหลังจากที่ถิงถิงไปคุยเรื่องแต่งงานกับอี้ฟาน ตอนนี้เธอกำลังนั่งอยู่ในห้องพักของคุณปู่แต่ไม่ได้มีเพียงแค่เธอกับคุณปู่สองคนเหมือนกับในวันปกติ แต่วันนี้ในห้องของคุณปู่เต็มไปด้วยผู้คนมีทั้งอี้ฟาน ทนายซ่ง อาคังและเสียวปิง เมื่อสามวันก่อนถิงถิงได้รับโทรศัพท์จากอี้ฟานเขาตกลงที่จะแต่งงานกับเธอ แต่เขาต้องการทำสัญญาต่อหน้าคุณปู่จาง ถึงการแต่งงานตามข้อตกลงจะต้องปิดบังไม่ให้คนอื่นรู้แต่อี้ฟานไม่อยากปิดบังคุณปู่จาง ถิงถิงตกลงตามคำขอของอี้ฟานและนัดชายหนุ่มให้เขามาทำข้อตกลงในวันนี้หลังจากวางโทรศัพท์จากอี้ฟานในตอนนั้น ถิงถิงก็รอให้คุณปู่ของเธอตื่นเพื่อเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ท่านฟัง เพราะเกรงว่าท่านจะตกใจหากรู้เรื่องจากคนอื่น แต่คุณปู่จางกลับไม่มีท่าทีตกใจหรือต่อว่าอะไรเธอ บอกเพียงแต่ว่าเธอเลือกผู้ชายได้ดี คุณปู่คงไม่รู้สินะว่าทุกคนเขาตั้งฉายาให้กับผู้ชายที่คุณปู่บอกว่าดีว่ายังไง“นี้คือหนังสือสัญญาของการแต่งงาน ทั้งสองคนอ่านให้ละเอียดด้วยครับ” ทนายซ่งยื่นหนังสือสัญญาให้กับอี้ฟานและถิงถิงเพื่อให้ทั้งสองคนอ่าน ทั้งสองคนคนอ่านหนังสือสัญญาอย่างละเอียด แต่มีอยู่ข้อหนึ่ง
ตอนที่ 5 เริ่มแผนการวันนี้ถิงถิงกับอี้ฟานมีนัดจดทะเบียนสมรส อี้ฟานส่งคนมารับเธอที่บ้านตั้งแต่เช้าแล้วทั้งสองก็ไปเจอกันที่สำนักงาน การจดทะเบียนผ่านไปได้ด้วยดีและค่อนข้างจะรวดเร็ว และที่สำคัญอี้ฟานได้กำชับให้ทุกคนในวันนี้ เก็บเรื่องการจดทะเบียนสมรสของเขาและถิงถิงเป็นไว้ความลับห้ามเผยแพร่ออกไปโดยเด็ดขาดขาดไม่งั้นเขาจะเล่นงานคนปล่อยข่าวให้ถึงที่สุดหลังจากจดทะเบียนสมรสเสร็จอี้ฟานก็พาถิงถิงกลับมาที่บริษัทของเขา แต่ครั้งนี้ต่างจากครั้งก่อนที่เธอเคยมามาก เพราะครั้งก่อนเธอต้องไปนั่งรอเขาที่ห้องรับแขกนานเกือบสองชั่วโมง แต่ครั้งนี้เธอกำลังเดินเข้าห้องทำงานส่วนตัวของประธานบริษัท ซึ่งเป็นห้องที่ไม่ใช่ว่าใครจะเข้าไปได้ง่ายๆ“เธอจะเอาน้ำอะไร บอกอาคังได้เลย เราจะได้เริ่มคุยเรื่องงานกัน” อี้ฟานบอกกับถิงถิงทันทีที่เข้ามาภายในห้อง ถิงถิงมองสำรวจห้องของเขาเล็กน้อยก่อนจะหันไปบอกอาคัง“ฉันขอน้ำเปล่า แต่ขอเป็นน้ำอุ่นนะ” เธอบอกก่อนจะนั่งลงบนโซฟาภายในห้องทำงาน อี้ฟานที่ถอดสูทตัวนอกออกแล้วก็เดินมานั่งที่โซฟาอีกตัว“ก่อนจะคุยเรื่องงานฉันของถามอะไรเธอหน่อยสิ” ถิงถิงหยุดการมองสำรวจห้องเปลี่ยนมาเป็นจ้องเขาและรอค
ตอนที่ 6 เตรียมงานแต่ง“คุณหนูพักก่อนเถอะค่ะ คุณหนูนั่งทำงานมาทั้งวันแล้วนะคะ เดี๋ยวร่างกายจะไม่ไหวเอา” เสียวปิงที่ยกของว่างมาให้เอ่ยเตือน คุณหนูของเธอนั่งทำงานหนักแบบนี้มาเกือบอาทิตย์แล้ว กว่าจะได้นอนก็ดึกดื่น“ขอบคุณนะ แต่ฉันไม่เป็นอะไร จริงสิรายชื่อของแขกในงานเรียบร้อยหรือยัง” ถิงถิงถามถึงรายชื่อของแขกที่จะเชิญมาร่วมงานแต่ง“เรียบร้อยแล้วค่ะ ทางนั้นพึ่งส่งรายชื่อแขกมาให้” ทางนั้นที่เสียวปิงพูดถึงก็คืออี้ฟาน“เอารายชื่อมาให้ฉันเลยนะ จะได้เริ่มเขียนซองเลยเดี๋ยวจะไม่ทัน พอพี่กลับมาจะได้เริ่มแจกเลย”“ค่ะ ส่วนเรื่องชุดพรุ่งนี้ที่ร้านจะนำชุดที่คุณหนูเลือกมาให้ลองค่ะ” เสียวปิงรายงาน“ขอบใจนะเสียวปิง เธอไปทำงานของเธอต่อเถอะ ไว้มีอะไรฉันจะเรียก” ถิงถิงบอก เสียวปิงมองเจ้านายสาวที่กำลังตั้งใจทำงานอยู่สักพักก่อนตอบรับคำสั่ง“ค่ะ คุณหนูอย่าลืมพักผ่อนบ้างนะคะ” เสียวปิงย้ำก่อนจะออกจากห้องทำงานของเธอ ถิงถิงรู้ดีว่าเสียวปิงเป็นห่วงเธอมากขนาดไหน แต่ตอนนี้เธอมีเรื่องหลายอย่างให้ต้องจัดการ ทั้งเรื่องกิจการของตระกูลที่เธอต้องเข้ามารับหน้าที่แทนคุณปู่ที่ป่วย และหวังเหล่ยก็ยังเด็กเกินที่จะรับผิดชอบหน้าที
ตอนที่ 7 พบครอบครัวตอนนี้ถิงถิงนั่งอยู่บนรถของอี้ฟาน หลังจากลองชุดแต่งงานเสร็จเขาบอกเธอว่าจะพาเธอมาพบกับครอบครัวของเขา ตอนนี้เธอรู้สึกกดดันจนมือที่กำอยู่มีเหงื่อออกจนรู้สึกได้ว่ามือเธอคงเปียกไปหมด เธอเคยเจอครอบครัวของอี้ฟานแล้วเมื่อหลายปีก่อน แต่พอคุณปู่ของเธอยกเลิกจัดงานวันเกิด คนที่ไม่ชอบไปไหนอย่างเธอก็ไม่ได้เจอกับครอบครัวของเขาอีกเลย ไม่รู้ว่าพวกคุณลุงคุณป้าจะยังจำเธอได้หรือเปล่า“ตื่นเต้นเหรอ” อี้ฟานถามหลังจากสังเกตคนตัวเล็กที่นั่งเงียบมาตลอดทาง“ค่ะ พี่น่าจะบอกฉันก่อนฉันจะได้เตรียมตัวให้ดีกว่านี้” ถิงถิงตอบ แล้วก็เงียบไป“ฉันเคยได้ยินข่าวเรื่องเธอมาก็เยอะนะ เห็นว่าเจ้าอารมณ์แล้วก็ขี้วีนมากเลยนี้ แต่ทำไมพอได้มาเจอตัวจริงถึงไม่เห็นเป็นแบบที่ข่าวลือ” อี้ฟานถามเขาสังเกตเธอมาตลอดตั้งแต่เจอกัน วันแรกที่เธอไปหาเขาเธอยังดูเป็นสาวมั่นที่ดูไม่กลัวอะไร แต่วันนี้เขากับรู้เหมือนหญิงสาวบอบบางที่ต้องทะนุถนอมทั้งๆที่เธอก็ไม่ได้ทำตัวต่างไปจากวันแรกที่เขาเจอ หรือเป็นเพราะเขามีอคติกับเธอตั้งแต่แรกก็ไม่รู้“แล้วพี่ละคะ ตอนแรกที่เจอกันพี่เองก็ดูใจร้ายกับฉันมากเหมือนกัน”“หืม เธอจะบอกว่าตอนนี้ฉันดูใจ
ตอนที่ 8 คืนแรก(NC)ถิงถิงใช้เวลาในการอาบน้ำนานกว่าปกติ เพราะเธอหวังว่าเมื่อเธอออกจากห้องน้ำมาแล้วจะพบว่าอี้ฟานนอนหลับไปแล้ว แต่เธอก็ต้องผิดหวังเพราะสิ่งที่เธอเห็นคือ อี้ฟานกำลังนั่งเอาหลังพิงหัวเตียงเล่นมือถืออยู่“เธออาบน้ำนานจัง” อี้ฟานถามทั้งๆที่ตายังไม่ล่ะจากจอมือถือ“พี่ยังไม่นอนเหรอ” ถิงถิงถามด้วยความประหม่า“ทำไม เธอหวังให้ฉันหลับก่อนที่เธอจะออกมาเหรอ โทษทีนะที่มันไม่เป็นแบบนั้น” อี้ฟานพูดจบก็เงยหน้ามองคนที่ยังยืนอยู่ที่ประตูห้องแต่งตัวที่ไม่ยอมเดินมาที่เตียง ก่อนจะจ้องถิงถิงจนเธออดที่จะถามออกมาไม่ได้“พี่มองอะไร”“เธอไม่เห็นกางเกงที่ฉันวางไว้ให้เหรอ” เขาถามเพราะเธอไม่ได้ใส่กางเกงขาสั้นที่เขาวางไว้ให้ ใส่เพียงแค่เสื้อเชิดของเขาแค่ตัวเดียว“พี่คิดว่าฉันจะใส่กางเกงพี่ได้เหรอ” เขาอุตส่าห์เลือกตัวที่มีสายรูดแล้วนะเธอก็ยังใส่ไม่ได้อีกเหรอ เอวเธอเล็กขนาดไหนกันเนี่ย แต่ช่างเรื่องนั้นก่อนเถอะ“ออกมาจากตรงนั้นได้แล้ว รีบมานอน” อี้ฟานเรียก เพราะเขาต้องการให้เธอออกมาจากตรงนั้นโดยเร็วที่สุด เพราะภาพที่เธอยืนอยู่ตรงนั้นโดยมีแสงไฟจากในห้องส่องไปแล้วพื้นหลังเป็นสีดำเพราะไฟที่ห้องแต่งตัวถูกปิ
ตอนที่ 9 ไข้ขึ้น“ถิงถิง ถิงถิงลูก ตื่นมากินข้าวกินยาก่อนแล้วค่อยนอนต่อ” ถิงถิงที่สะลึมสะลือตื่นเพราะเสียงเรียก เธอพยายามจะลุกแต่ลุกไม่ขึ้น เพราะรู้สึกปวดไปทั้งตัวจึงได้แต่ทิ้งตัวลงตามเดิม“อี้ฟานไปประคองน้องสิ เห็นไหมน้องลุกไม่ขึ้นนะ” คุณนายฮั้วหันไปสั่งลูกชายตัวต้นเหตุของเรื่องที่ทำให้ถิงถิงนอนซมเพราะพิษไข้แบบนี้ เมื่อเช้าอยู่ๆ อี้ฟานก็วิ่งหน้าตาตื่นไปหาเธอที่ห้องบอกให้มาดูอาการของถิงถิง ทันทีที่เธอเห็นสภาพของถิงถิงเธอก็อยากจะฆ่าเจ้าลูกชายตัวดีของเธอ เพราะบนตัวของถิงถิงมีแต่รอยดูดรอดกัดเต็มตัว ไม่ต้องบอกเลยว่าฝีมือใคร แล้วทำอีท่าไหนเนี่ยถิงถิงถึงได้ไข้ขึ้นขนาดนี้“พี่ คุณป้า” ถิงถิงที่เริ่มตั้งสติได้เรียกชื่อของคนทั้งสองที่เธอเห็น ตอนนี้เธอสามารถลุกนั่งได้แล้วเพราะอี้ฟานที่ประคองเธอให้ลุกขึ้นและยังให้เธอยืมหน้าอกพิง“กินข้าวกินยาหน่อยนะ หนูมีไข้นะ กินก่อนแล้วค่อยนอนต่อ” คุณนายฮั้วตักข้าวต้มขึ้นมาเป่าก่อนจะจ่อไปที่ปากของถิงถิง ก่อนที่ถิงถิงจะอ้าปากงับข้าวต้มจากช้อน“เป็นไงร้อนไหม” ถิงถิงส่ายหน้า ก่อนจะกินข้าวต้มที่คุณนายฮั้วป้อนให้อีกคำและอีกคำ หลังจากป้อนข้าวถิงถิงเสร็จคุณนายฮั้วก็ย
ตอนที่ 10 ฉันชอบเธอ“ทั้งๆที่เธอรู้ว่าฉันชอบเธอนี้นะ”“เรื่องนั้นไว้คุยกันที่หลังเถอะ จัดการงานตรงนี้ให้เสร็จก่อนดีไหม” ซิงเยียนเปลี่ยนเรื่อง ก่อนจะเดินเข้าไปกำกับการทำงานของลูกน้องการวางแผนงานการจัดสถานที่ผ่านไปด้วยดี มีปรับเปลี่ยนเล็กน้อยให้ขนาดพอดีกับสถานที่ หลังจากคุยเรื่องงานเสร็จซิงเยียนก็ชวนอี้ฟานให้ออกไปหาอะไรกิน เพื่อที่จะได้คุยเรื่องที่ยังค้างคาอยู่“นายสั่งอาหารให้ฉันหน่อย ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำแป๊บ” พูดจบซิงเยียนก็ลุกเดินออกไป ปล่อยให้อี้ฟานสั่งอาหารคนเดียวอี้ฟานสั่งอาหารมาสามสี่อย่า โดยเขาเลือกจากอาหารที่ซิงเยียนชอบ หลังจากสั่งอาหารเสร็จได้สักพักซิงเยียนก็กลับมา“นายสั่งอาหารแล้วใช่ไหม”“อื้ม สั่งไปแค่สามสี่อย่าง ฉันสั่งแต่อาหารที่เธอชอบทั้งนั้นแต่ถ้าเธออยากสั่งเพิ่มก็สั่งได้นะ” อี้ฟานยื่นเมนูให้ซิงเยียน แต่เธอปฏิเสธ“ไม่เป็นไร แค่นั้นก็พอ” ทั้งสองนั่งคุยกันสักพักอาหารที่อี้ฟานสั่งไปก็ทยอยมาเสิร์ฟ แล้วทั้งสองคนก็ลงมือจัดการอาหารตรงหน้า“เป็นไงอร่อยไหม” อี้ฟานถาม“อื้ม อร่อย” ซิงเยียนตอบด้วยสีหน้าเรียบ“แต่สีหน้าเธอไม่ได้บอกแบบนั้นเลยนะ”“อาหารพวกนี้อร่อยจริงๆ แต่แค่ฉันไม
ตอนที่ 11 ประกาศเมื่อคืนตอนที่อี้ฟานกลับมาถึงก็เป็นเวลาค่อนข้างดึกพอสมควร ถิงถิงเองก็หลับไปแล้ว เขาเลยต้องอาบน้ำอย่างเงียบที่สุดเพราะไม่อยากให้เธอตื่น ก่อนจะปีนขึ้นเตียงไปนอนข้างๆเธอ แต่ก่อนที่เขาจะนอนเขาก็เอื้อมมือไปสัมผัสที่หน้าผากของถิงถิงเบาๆ เพื่อวัดอุณหภูมิของร่างกายของคนตัวเล็กว่ายังมีไข้อยู่หรือเปล่า แต่พอรู้ว่าลูกพีชของเขาตัวไม่ร้อนเท่าตอนเช้า เขาก็สามารถทิ้งตัวลงนอนได้อย่างสบายใจก่อนจะคิด ว่านี่เป็นคืนที่สองแล้วที่เขามีคนนอนร่วมเตียง เพราะปกติอี้ฟานจะไม่นอนร่วมเตียงกับใครแม้แต่กระทั่งผู้หญิงทุกคนที่เคยมีอะไรกับเขา เขาก็ไม่เคยให้ใครได้นอนร่วมเตียงกับเขาสักคน เพราะหลังจากเสร็จกิจเขาก็จะให้พวกเธอกลับไปทันทีหรือไม่ก็เป็นเขาเองที่กลับ แต่กับถิงถิงเขากลับนอนร่วมเตียงกับเธอได้โดยไม่รู้สึกอะไร ไม่รู้เป็นว่าเพราะเธอคือเมียของเขาหรือเพราะเหตุผลอื่น“อื้มมมมม” ถิงถิงตื่นนอนแล้ว เธอรู้สึกหิวน้ำจึงดันตัวลุกขึ้นเพราะจะไปหยิบแก้วน้ำที่อยู่ตรงโต๊ะข้างหัวเตียง ร่างกายเธอดีขึ้นแล้วแต่ยังรู้สึกหนักๆตัวอยู่จึงยังขยับตัวค่อนข้างลำบาก แต่ระหว่างที่เธอกำลังพยายามจะลุกขึ้นก็มีเสียงดังขึ้น“ถ้าลุกล
ตอนที่ 34 สัญญาสองปี (NC) จบ“พี่ ฉันช่วยค่ะ” ถิงถิงเดินเข้าไปช่วยรับเสื้อสูทของอี้ฟานมาวางพาดไว้ที่เก้าอี้ส่วนอี้ฟานก็คลายเนคไทออก พร้อมกับปลดกระดุมที่คอเสื้อกับแขน ก่อนจะอุ้มคนตัวเล็กแล้วเดินไปที่โซฟา เขานั่งลงที่โซฟาโดยมีถิงถิงนั่งลงบนตักถิงถิงมองใบหน้าหล่อเหลาของสามีของเธอแล้วขำออกมาจนคนตัวใหญ่ต้องถาม“ขำอะไร”“พอมองหน้าพี่ใกล้ๆแบบนี้แล้วอดคิดถึงงานแต่งไม่ได้เลยค่ะ” ถิงถิงตอบก่อนจะขำออกมาเบาๆพวกเขาสองคนแต่งงานมาได้เดือนกว่าแล้ว แต่คิดถึงวันแต่งงานทีไรถิงถิงก็อดขำไม่ได้ เพราะความขี้หึงของอี้ฟานเกือบทำให้งานแต่งงานเกือบล่ม เพราะเขาให้เหตุผลว่าเจ้าสาวของเขาสวยเกินไปไม่อยากให้ใครเห็น งานตอนเช้าไม่เท่าไรเพราะเป็นงานพิธีการและมีแค่คนในครอบครัวและชุดที่เธอใส่ก็ค่อนข้างเรียบร้อย แต่ปัญหามันมาเกิดในตอนเย็นนี่สิเพราะตอนเย็นเป็นงานฉลองแล้วอี้ฟานก็เป็นคนเปลี่ยนงานในตอนแรกที่จะจัดแค่งานเล็กๆ แต่เขากลับเพิ่มแขกขึ้นมาเกือบสองเท่า นั่นยิ่งทำให้มีคนเห็นเจ้าสาวคนสวยของเขามากขึ้น แล้วชุดตอนเย็นของถิงถิงส่วนหลังยังเป็ยซีทรูถึงจะมีลายลูกไม้ปกปิด แต่เขาก็ยังหวงอยู่ดี“เธอไม่รู้หรอกว่าวันนั้นฉันอยาก
ตอนที่ 33 แต่งงานสักที“ขยับไปทางขวาอีก ใช่ๆตรงนั้นแหละ วางได้เลย เสร็จตรงนี้ช่วยไปดูแจกันดอกไม้ในสวนด้วยนะ” ซิงเยียนสั่งงานลูกน้องด้วยความวุ่นวายเพราะเธอต้องทำงานแข่งกับเวลา“พี่ซิงเยียนพี่ไปดูที่ซุ้มให้หน่อยว่าโอเคหรือยัง” เสียงลูกน้องที่รับผิดชอบที่ซุ้มเรียก“พี่ซิงเยียนดอกไม้ที่สวนไม่น่าจะพอทำไงดีพี่” เสียงลูกน้องอีกคนดังขึ้น“พี่ซิงเยียนแล้วในห้องรับแขกล่ะพี่ เอาไง” ลูกน้องอีกคนถามขึ้นตอนนี้ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็มีแต่เสียงเรียกพี่ซิงเยียนๆ จนเธอหนวกหูไปหมด สาเหตุที่เป็นแบบนี้ไม่ใช่เพราะเธอหรือลูกน้องทำงานไม่ดี แต่มันเป็นเพราะนายจ้างจอมเรื่องมากของเธอต่างหากที่อยู่ๆก็เพิ่มงานมาให้เธอโดยไม่ให้เธอได้ตั้งตัวก่อน ซึ่งนายจ้างของเธอก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นเพื่อนและน้องสาวที่รักของเธอนั่นเอง ใช่แล้วในที่สุดก็ถึงงานแต่งงานของอี้ฟานและถิงถิงก็มาแล้วหลังจากจัดการเรื่องวุ่นวายทั้งหลายในที่สุดวันพรุ่งนี้เป็นวันจัดงานแต่งของอี้ฟานกับถิงถิง ซึ่งเธอจัดเตรียมงานของทั้งสองเสร็จเรียบร้อยอย่างสวยงาม แต่ว่าเมื่อวานอี้ฟานก็โทรหาเธอแล้วบอกกับเธอว่าเขาอยากเพิ่มงานพิธีการแบบจีนในช่วงเช้า เดิมทีเธอก็ปฏิเ
ตอนที่ 32 ถอนรากถอนโคนก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูห้องพักผู้ป่วยดังขึ้นก่อนที่ประตูจะเปิดออกแล้วชายหนุ่มหน้าหวานก็เดินเข้ามา“พี่ซ่งเหยียนมาแล้วเหรอคะ” เสียงหวานทักเข้าขึ้นทันทีที่เธอหันมามองเขา“ครับ” ซงเหยียนตอบรับสั้นๆ เขามองถิงถิงที่ตอนนี้นั่งพิงอกของอี้ฟานอยู่บนเตียงผู้ป่วย โดยมีอี้ฟานกำลังป้อนผลไม้ใส่ปากของเธอ ทำเอาซงเหยียนถึงกับพูดไม่ออกกับการแสดงความรักของทั้งสองคน“ทำไมนายมาช้าขนาดนี้ รู้มั้ยฉันต้องทนนั่งดูสองคนนั้นแสดงความรักกันจนฉันขนลุกไปหมดแล้ว” เฉินตงตงลุกขึ้นมาโวยวายใส่ซงเหยียนจนคนถูกโวยวายขมวดคิ้วใส่“ผมจะมาตอนไหนแล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณ” ซงเหยียนถามหน้านิ่งๆ “ทำไมจะไม่เกี่ยว ก็ที่ฉันไปไหนไม่ได้ต้องทนดูสองคนนั้นโชว์หวานก็เพราะรอนายอยู่ไง” ตงตงบอก ซ่งเหยียนหันไปมองคุณหนูของเขาก่อนจะขอคำอธิบายเรื่องที่ตงตงพูด“หมายความว่ายังไงครับคุณหนู อย่าบอกนะว่าผมต้องทำงานร่วมกับคุณชายเฉินอีกแล้ว” ซ่งเหยียนถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจ“นี้ๆ พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง น้ำเสียงนายเหมือนไม่ค่อยพอใจที่ได้ทำงานกับฉันเลย” ตงตงอดที่จะถามไม่ได้“ครับ คุณชายเฉินเข้าใจไม่ผิดหรอกครับ ผมไม่อยากทำงา
ตอนที่ 31 คิดบัญชี“อ๊ากกกกกกก พวกมึงปล่อยกูเดี๋ยวนี้เลยนะ รู้มั้ยกูเป็นใคร อ๊ากกกกก” เสียงร้องโหยหวนกับคำขู่ของจางหย๋งดังลั่นห้องสี่เหลี่ยมที่ถูกปิดตาย ซึ่งภายในห้องมีคนอยู่ไม่กี่คน“ไม่อยากเจ็บก็หยุดดิ้นสิ ฉันกำลังทำแผลให้นายอยู่ไม่เห็นเหรอ พวกนายก้จับมันแน่นๆหน่อยอย่าให้มันขยับได้” เสี่ยวปิงพูดขึ้นลูกน้องของอี้ฟานที่กำลังล๊อกแขนขาของจางหย๋งไม่ให้ขยับมองการทำแผลของเสี่ยวปิงด้วยความสยอดสยอง เพราะตอนนี้เสี่ยวปิงกำลังใช้มีดกรีดไปที่แผลถูกยิงของจางหย๋งก่อนจะควักเอาลูกกระสุนออกมาแล้วทำความสะอาจแผลโดยการเทแอลกอฮอราดไปบนแผลทั้งขวด“อ๊ากกกกกกก อีเสี่ยวปิงมึงกล้าทำกูเหรอ อย่าให้กูหลุดไปได้นะมึงกูไม่เอามึงไว้แน่” จางหย๋งร้องด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับขู่อาฆาตเสี่ยวปิงไว้ แต่เสี่ยวปิงก็ไม่ได้สนใจ“หึ ก่อนคิดจะมาแก้แค้น แกหาทางหนีไปให้ได้โดยที่ไม่ตายก่อนดีกว่า” เสี่ยวปิงพูดพร้อมกับลงมือเย็บแผลของจางหย๋งแบบสดๆ จนหมอนั่นร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดอีกครั้ง “แต่แกไม่ต้องห่วงนะ แกจะไม่ได้ตายง่ายๆหรอก เพราะแบบนั้นมันสบายเกินไป คนอย่างแกมันต้องทรมารจนร้องหาความตายแต่ก็ตายไม่ได้ต่างหาก”คำพูดของเสี่ยวปิงที่พ
ตอนที่ 30 ช่วย“อ๊ากกกกกก”หลังจากเสียงปืนดังก็เป็นเสียงร้องด้วยความทรมานของใครบางคนดังขึ้น แต่แน่นอนว่าไม่ใช่เสียงของเสี่ยวปิงและเสียงของถิงถิง เพราะเสียงร้องเจ็บปวดนั่นเป็นเสียงของผู้ชายและเสียงนั่นก็คือเสียงของจางหย๋ง หมอนั่นถูกปืนยิงเข้าที่มือและที่ขา จนต้องลงไปร้องโอดครวญที่พื้นทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก อยู่ๆถิงถิงก็ถูกดึงเข้าสู่อ้อมกอดของใครบางคนที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นใคร เพราะเธอจำความอบอุ่นและสัมผัสนั้นได้ โดยเฉพาะกลิ่นน้ำหอมที่เขาใช้ซึ่งเป็นกลิ่นที่เธอเคยบอกว่าเหมาะกับเขาอี้ฟานกอดลูกพีชของเขาไว้แน่ เขารู้สึกได้ถึงร่างกายที่สั่นเทาของคนตัวเล็ก ยิ่งได้เห็นเธอที่กอดเขาพร้อมกับสะอื้นร้องไห้มันทำให้เขายิ่งแทบคลั่ง“จัดการมันแต่อย่าให้มันแต่อย่าให้มันตายเพราะมันต้องทรมานยิ่งกว่านี้” อี้ฟานสั่งลูกน้องของเขาที่พามาด้วยน้ำเสียงที่ใครได้ฟังต่างก็ต้องหวาดกลัว เพราะมันทั้งเย็นชาและเต็มไปด้วยอารมณ์โกรธ“พะ พี่” คนตัวเล็กเงยหน้ามองคนตัวใหญ่ที่กอดเธออยู่ก่อนจะส่งเสียงเรียกเบาๆ จนแทบจะเหมือนเสียงกระซิบอี้ฟานก้มมาสพตาหญิงสาวก่อนที่เขาจะเห็นรอยแดงกับคราบเลือดที่ใบหน้าของเธอ และนั่นยิ่งท
ตอนที่ 29 จางหย๋งถิงถิงเริ่มได้สติแต่เธอรู้สึกว่าไม่สามารถขยับตัวได้ดังใจเพราะว่ายังมึนงงอยู่ เธอพยายามฝืนลืมตาด้วยความยากลำบากเพราะรู้สึกว่าหนังตามันหนักและรู้สึกเวียนหัวจนลืมตาแทบไม่ขึ้น แต่เธอก็พยามฝืนมันจนในที่สุดเธอก็ลืมตาได้สำเร็จเธอมองสำรวจรอบๆห้องที่มือมีเพียงแสงไฟสลัวๆที่มาจากหน้าจอทีวีที่กำลังดูหนังฆ่าตกรรม ถึงความสว่างจากแสงทีวีจะมีไม่มากแต่ก็พอให้เธอมองเห็นภายในห้องได้ เธอพยามเพ่งสายตาเพื่อมองว่าคนที่นั่งหันหลังดูทีวีอยู่เป็นใคร“จางหย๋ง” ถิงถิงอุทานชื่อของคนที่นั่งดูทีวีอยู่ในห้องออกมาทันทีที่รู้ว่าเป็นใคร นั่นลูกชายบุญธรรมของอาเว่ยนี่ ทำไมถึงเป็นหมอนั่นที่มาอยู่ที่นี่จางหย๋งพอได้ยินชื่อของตัวเองก็หันกลับมามองถิงถิง ก่อนหมอนั่นจะส่งรอยยิ้มที่ชวนขนหัวลุกไม่ต่างจากฆ่าตกรที่ปรากฏในทีวีที่กำลังฉายอยู่ให้กับหญิงสาว“ตื่นแล้วเหรอ มึงตื่นเร็วกว่าที่กูคิดอีก กูนึกว่ามึงจะนอนจนถึงชาติหน้าซ่ะอีก เสียดายว่ะหลับไปแค่ครึ่งชั่วโมงเองสงสัยยานอนหลับจะอ่อนเกินไป” จางหย๋งพูดขึ้นก่อนที่เขาจะลุกขึ้นแล้วเดินมาหาถิงถิงที่นอนอยู่บนเตียง“นี่เป็นฝีมือนายเหรอ” ถิงถิงถาม ตอนนี้เธอเข้าใจสถานการณ
ตอนที่ 28 ติดกับ“คุณหนูคะ พรุ่งนี้คุณเว่ยอิงขอนัดพบคุณหนูคะ คุณหนูจะไปพบเธอหรือเปล่าคะ” เสี่ยวปิงรายงานถิงถิงวางปากกาในมือลงก่อนจะมองเสี่ยวปิง เธอใช้เวลาคิดสักพักก่อนจะพยักหน้าตกลง“เอาสิ พรุ่งนี้ก็ไม่มีงานด่วนอะไร ฉันเองก็มีเรื่องที่อยากจะคุยกับอาเว่ยพอดี” ความจริงช่วงนี้ถิงถิงไม่ค่อยอยากจะพบใครเพราะใกล้ถึงงานแต่งของเธอแล้ว งานของเธอเลยเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว“แล้วคุณหนูจะให้แจ้งประธานฮั้วด้วยหรือเปล่าคะ” เสี่ยวปิงถาม เพราะตั้งแต่วันที่แถลงข่าววันนั้น อี้ฟานก็สั่งเธอไว้ว่าไม่ว่าถิงถิงจะไปไหน ไปหาใครต้องรายงานเขาทุกอย่าง เพราะเขากลัวว่าศัตรูของเขาจะทำร้ายเธอ“อืม...บอกพี่แค่ว่าฉันไปพบอาเว่ยเพราะเธอนัดเจอก็พอ แต่ไม่ต้องบอกเรื่องที่ฉันจะพูดกับอาเว่ยหรอก” ถิงถิงบอก“ค่ะ” เสี่ยวปิงรับคำก่อนจะเดินออกจากห้องไป ซึ่งสวนกับหวังเหล่ยที่เดินเข้ามาพอดี “สวัสดีค่ะคุณชาย” เสี่ยวปิงทักทายตามมารยาท“สวัสดีครับ พี่อยู่ในห้องมั้ย” หวังเหล่ยถาม“ค่ะ คุณหนูอยู่ในห้อง” เสี่ยวปิงตอบ“คนเดียว” หวังเหล่ยถาม“ค่ะ คนเดียว” เสี่ยวปิงตอบยิ้ม พร้อมกับเน้นยำคำว่าคนเดียว เพราะว่าหวังเหล่ยจะไม่เข้าไปถ้าพี่สาวของเขาอ
ตอนที่ 27 ไม่จริง“ตื่น ตื่น จางลี่ตื่นเดี๋ยวนี้”“โอ๊ย...จะปลุกทำไมเนี่ยไม่เห็นเหรอว่าคนกำลังนอน” จางลี่โวยวายเสียงดังเพราะเธอหงุดหงิดที่ถูกปลุก แต่พอเธอเห็นว่าใครเป็นคนปลุกเธอก็ยิ่งอารมณ์เสีย “นายจะปลุกฉันทำไมเนี่ย อย่าบอกนะว่าจะเอาอีก ฉันไม่เอาแล้วที่เอาไปยังไม่พออีกเหรอ” เธอบอกชายหนุ่มคู่ขาของเธอด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดก่อนจะพลิกตัวหนีไปอีกทาง“ฉันไม่ได้ปลุกเธอมาเอาหรอกน่า ตื่นมาดูนี่ก่อน” ชายหนุ่มยังไม่ยอมแพ้เขาต้องปลุกเธอมาดูเรื่องที่เขาจะบอกให้ได้“อะไรว่ะ” จางลี่ลุกขึ้นมาอย่างหงุดหงิดไม่ได้สนใจว่าผ้าห่มที่ปกปิดร่างกายของเธอจะตกไปกองที่ต้นขา ทำให้หน้าอกของเธอที่ไม่มีอะไรปกปิดจะออกมาอวดสายตาของใคร “ถ้าเรื่องที่นายบอกไม่สำคัญนะฉันฆ่านายแน่” จางลี่ขู่ก่อนเธอจะรับโทรศัพท์ที่ชายหนุ่มยื่นมาให้แล้วอ่านข้อความที่ปรากฏในนั้น“นี่มันคืออะไรนายไปเอาไร้สาระข่าวพวกนี้มาจากไหน” จางลี่หันไปถามชายหนุ่มด้วยความโกรธ“ก็จากงานแถลงข่าววันนี้ไง วันนี้จู่ๆยัยคุณหนูพี่สาวเธอก็เดินขึ้นไปบนเวทีแล้วประกาศว่าตัวเองเป็นภรรยาของไอ้อี้ฟานนั่น สรุปว่ายังไงกันแน่ ไหนเธอบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงไม่ใช่เหรอ แล้วทำไม
ตอนที่ 26 จับกุม“ไอ้บ้าอี้ฟานหายมันหัวไปไหนของมันว่ะ อย่าบอกนะว่ารีบไปอยู่กับเมีย” ตงตงที่เดินตามหาอี้ฟานที่หลังเวทีแต่ก็ไม่เจอ เขาทั้งโทรหาทั้งส่งข้อความไป แต่ก็ยังไม่สามารถติดต่อเพื่อนรักที่พ่วงตำแหน่งเจ้านายได้ “ตั้งแต่มีเมียนี่ชักจะเอาใหญ่ ไม่สนใจงานเลย” ตงตงอดบ่นไม่ได้ ถ้าถิงถิงมาได้ยินที่ตงตงบ่นเธอคงจะพยักหน้าเห็นด้วยเพราะเขาเอาเก่งจริงๆนั่นแหละ แต่ความหมายของคำว่าเอาของเธอกับตงตงมันต่างกัน“ขอโทษนะครับคุณชายเฉิน” ขณะที่ตงตงกำลังหงุดหงิดที่ตามตัวอี้ฟานไม่เจอก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลัง เขาเลยหันกลับไปมองก่อนจะพบกับผู้ชายคนหนึ่งตงตงมองสำรวจผู้ชายคนนั้นอย่างละเอียดพร้อมกับใช้ความคิดว่าเขารู้จักหมอนี่หรือเปล่า แต่เขาก็คิดไม่ออกว่าเขาเคยรู้จักหมอนี่ที่ไหน หมอนี่หน้าหวานขนาดนี้ แถมหุ่นก็บาง ถ้าเขาเคยเจอเขาต้องจำได้แน่ๆ“ผมซงเหยียน เป็นทนายที่คุณหนูถิงถิงส่งมาครับ” ซงเหยียนแนะนำตัว เพราะเขารู้ว่าเฉินตงตงกำลังสงสัยว่าเขาเป็นใคร“อ่อ แล้วนายมาหาฉันทำไม” ตงตงถามด้วยความสงสัย“คุณหนูให้ผมเอาเอกสารมาให้ครับ” ซงเหยียนบอกพร้อมกับยื่นซองเอกสารให้ ตงตงมองซองเอกสารนั้นอย่างสงสัย “ในซองนี้มีห