ตอนที่ 7 พบครอบครัว
ตอนนี้ถิงถิงนั่งอยู่บนรถของอี้ฟาน หลังจากลองชุดแต่งงานเสร็จเขาบอกเธอว่าจะพาเธอมาพบกับครอบครัวของเขา ตอนนี้เธอรู้สึกกดดันจนมือที่กำอยู่มีเหงื่อออกจนรู้สึกได้ว่ามือเธอคงเปียกไปหมด เธอเคยเจอครอบครัวของอี้ฟานแล้วเมื่อหลายปีก่อน แต่พอคุณปู่ของเธอยกเลิกจัดงานวันเกิด คนที่ไม่ชอบไปไหนอย่างเธอก็ไม่ได้เจอกับครอบครัวของเขาอีกเลย ไม่รู้ว่าพวกคุณลุงคุณป้าจะยังจำเธอได้หรือเปล่า
“ตื่นเต้นเหรอ” อี้ฟานถามหลังจากสังเกตคนตัวเล็กที่นั่งเงียบมาตลอดทาง
“ค่ะ พี่น่าจะบอกฉันก่อนฉันจะได้เตรียมตัวให้ดีกว่านี้” ถิงถิงตอบ แล้วก็เงียบไป
“ฉันเคยได้ยินข่าวเรื่องเธอมาก็เยอะนะ เห็นว่าเจ้าอารมณ์แล้วก็ขี้วีนมากเลยนี้ แต่ทำไมพอได้มาเจอตัวจริงถึงไม่เห็นเป็นแบบที่ข่าวลือ” อี้ฟานถามเขาสังเกตเธอมาตลอดตั้งแต่เจอกัน วันแรกที่เธอไปหาเขาเธอยังดูเป็นสาวมั่นที่ดูไม่กลัวอะไร แต่วันนี้เขากับรู้เหมือนหญิงสาวบอบบางที่ต้องทะนุถนอมทั้งๆที่เธอก็ไม่ได้ทำตัวต่างไปจากวันแรกที่เขาเจอ หรือเป็นเพราะเขามีอคติกับเธอตั้งแต่แรกก็ไม่รู้
“แล้วพี่ละคะ ตอนแรกที่เจอกันพี่เองก็ดูใจร้ายกับฉันมากเหมือนกัน”
“หืม เธอจะบอกว่าตอนนี้ฉันดูใจดีเหรอ”
“เปล่าค่ะ พี่ก็ยังใจร้ายเหมือนเดิมแค่ดีขึ้นนิดหน่อย” อี้ฟานขำกับการต่อล้อต่อเถียงของถิงถิง
“หึ ฉันว่ามีอย่างนึงละที่ตรงกับข่าวลือ”
“อะไรเหรอคะ”
“เถียงเก่ง” อี้ฟานคนพบว่าไม่ว่าจะเป็นถิงถิงในรูปแบบไหนจะเป็นสาวมั่นหรือบอบบางสิ่งนึงที่เหมือนกันก็คือ เธอเถียงเก่ง
บ้านใหญ่ตระกูลฮั้ว
“สวัสดีค่ะ คุณลุง คุณป้า อี้เฟย” ตอนนี้ถิงถิงอยู่ที่บ้านของพ่ออี้ฟานแล้ว คุณลุงคุณป้าดูตกใจที่คนที่มากับอี้ฟานเป็นถิงถิง ส่วนอี้เฟยน้องชายของอี้ฟานที่เรียนด้วยกันก็ตกใจจนทำมือถือตก
“พี่อย่าบอกนะว่าถิงถิงคือผู้หญิงที่พี่จะแต่งงานด้วยงั้นเหรอ” อี้เฟยถามเสียงดัง
“ใช่ แต่ก่อนจะคุยไปนั่งก่อนดีกว่าไหม จะยืนคุยตรงนี้เลยหรือยังไง” อี้ฟานพูดจบก็ดึงแขนถิงถิงให้เดินตามเขาเข้าไปในบ้าน ก่อนจะพามานั่งรอในห้องรับแขกแล้วสักพักทุกคนก็เดินตามเข้ามา
“หนูถิงถิงเอาน้ำอะไรดีจ๊ะ” แม่ของอี้ฟานถาม
“หนูขอน้ำอุ่นค่ะ”
“เธอกินเป็นแต่น้ำอุ่นเหรอ เห็นกินแต่น้ำอุ่นตลอด” อี้ฟานถาม เพราะเขาไม่เคยเห็นถิงถิงดื่มน้ำอย่างอื่นเลยนอกจากน้ำอุ่น
“พี่ไม่รู้เหรอ ว่าถิงถิงดื่มน้ำเย็นไม่ได้ ถ้าดื่มยัยนี่จะไอหนักมาก เรื่องแค่นี้พี่ไม่รู้ได้ไงนั่นว่าที่เมียพี่เลยนะ” อี้เฟยบอก ที่เขารู้เรื่องนี้เพราะเขาเคยเรียนอยู่ห้องเดียวกันกับถิงถิงเลยพอจะรู้เรื่องส่วนตัวเธอนิดหน่อย
“ใครบอกว่าที่เมีย ถิงถิงเป็นเมียฉันแล้วต่างหาก” อี้ฟานบอก เขารู้สึกไม่ชอบใจยังไงก็ไม่รู้ที่น้องชายของเขาทำเป็นรู้ดีเรื่องของเมียเขาเลยพูดออกไปแบบนั้น แต่คำพูดของเขาเล่นเอาคุณนายฮั้วถึงกับสำลักน้ำ
“แกพูดว่าอะไรนะ” พ่อของอี้ฟานถามเสียงขรึม
“ผมบอกว่าถิงถิงเป็นเมียผมแล้ว อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพราะพวกเราสองคนจดทะเบียนสมรสกันแล้วเมื่อสองอาทิตย์ก่อน ส่วนงานแต่งก็จัดในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า” อี้ฟานอธิบายที่เดียวจบ
“จริงเหรอหนูถิงถิง” แม่ของอี้ฟานถาม
“จะ จริงค่ะคุณป้า” ถิงถิงเองก็ตกใจทิอี้ฟานบอกทุกคนไปตรงๆแบบนั้น
“คุณป้าอะไรละ เรียกคุณแม่สิ แต่เดี๋ยวนะ ถ้าทั้งสองคนจดทะเบียนสมรสกันแล้ว แล้วทำไมเมื่อไม่กี่วันก่อนแม่ไปทำความสะอาดบ้านลูกถึงไม่เห็นที่บ้านลูกมีของใช้ของผู้หญิงเลย อย่าบอกนะว่าลูกไม่ได้พาถิงถิงเข้าไปอยู่ที่บ้าน ลูกพาถิงถิงไปอยู่ที่ไหน” คุณนายฮั้วหันไปถามลูกชาย
“เธอก็อยู่บ้านเธอสิ” อี้ฟานตอบ แม่ของเขาพอได้ยินแบบนั้นก็คิดว่าอี้ฟานทำไม่ดีกับถิงถิง จึงได้ยกมือกำลังจะตี แต่ดีที่ถิงถิงห้ามไว้ก่อน
“คือตอนนี้หนูอยู่ที่บ้านพักนอกเมืองกับคุณปู่นะคะ พอดีคุณปู่ไม่ค่อยสบายท่านเลยอยากไปรักษาตัวที่นั่น หนูก็เลยไปอยู่เป็นเพื่อนท่าน แล้วอี้ฟานก็ไม่อยากให้หนูอยู่ห่างจากคุณปู่เลยย้ายไปอยู่กับหนูที่นั่นแทน” ถิงถิงรีบอธิบาย เพราะกลัวคุณนายฮั้วจะเข้าใจผิด
“โห่ พี่เป็นคนดีตั้งแต่เมื่อไรอย่าบอกนะว่าพอมีเมียปุ๊บก็กลายเป็นคนดีปั๊บ” อี้เฟยแซว
“แล้วแกอยากโดนคนดีอัดสักทีสองทีไหมล่ะ”
“แล้วอาการคุณลุงจางเป็นยังไงบ้าง” พ่อของอี้ฟานถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“ในช่วงแรกไม่ค่อยดีเท่าไรค่ะ แต่ตอนนี้คุณปู่อาการดีขึ้นแล้วค่ะ” ถิงถิงตอบ เธอไม่ได้โกหก ช่วงนี้คุณหมอเองก็บอกว่าอาการของปู่เธอดีขึ้นมากจริงๆ
“ใช่ครับ คุณปู่บอกว่าท่านอยากอยู่เล่นกับเหลนก่อน” อี้ฟานพูดเสริม
“แม่ดีใจนะที่ลูกสะใภ้ของแม่เป็นหนูถิงถิง เมื่อก่อนแม่เคยแอบคิดนะว่าอยากให้ลูกชายแม่สักคนไปจีบหนู ตอนแรกที่หนูเรียนห้องเดียวกันกับอี้เฟยแม่ก็แอบเชียร์ให้พวกหนูชอบกันด้วย”
“อ่อ มิน่าตอนนั้นแม่ชอบพูดถึงยัยนี่ให้ผมฟังบ่อยๆ เป็นเพราะแบบนี้นี่เอง” อี้เฟยบอก
“แต่ตอนนี้แม่คิดว่าโชคดีแล้วล่ะที่อี้เฟยไม่ได้จีบหนู”
“อ้าว แม่พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง พี่ดีกว่าผมตรงไหน พี่เย็นชาจะตาย” อี้เฟยถาม แต่คนที่ตอบไม่ใช่แม่ของเขาแต่เป็นอี้ฟาน
“แกจะบอกว่าเมียฉันเลือกผิดต้องเลือกแกดีกว่างั้นเหรอ” อี้ฟานถามเสียงเข้ม
“ไม่อ่ะ ผมยังไม่อยากตาย ให้ยัยนั่นเป็นพี่สะใภ้ผมแบบนี้อ่ะดีแล้ว” อี้เฟยรีบปฏิเสธ
หลังจากพูดคุยกันเสร็จ อี้ฟานกับถิงถิงก็อยู่ทานข้าวที่บ้านของพ่อแม่พวกเขา ก่อนจะถูกรบเร้าให้นอนค้างที่นั่นทั้งสองตอบตกลงเพราะว่ามันก็ดึกมากพอสมควรแล้ว แต่ถิงถิงลืมนึกไปว่าคนที่นี่รู้เพียงแค่ทั้งสองคนแต่งงานกัน แต่ไม่รู้ว่าทั้งสองแค่แต่งกันเพราะสัญญา ตอนนี้ถิงถิงเลยเข้ามาอยู่ที่ห้องนอนของอี้ฟานเรียบร้อยแล้ว แล้วคืนนี้เธอจะนอนยังไงเนี่ย
“เธอไปอาบน้ำสิ วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้วจะได้รีบนอน ส่วนชุดฉันวางไว้ให้แล้ว” อี้ฟานที่เดินออกมาจากห้องแต่งตัวโดยที่ใส่แค่กางเกงขายาวตัวเดียวกับมีผ้าขนหนูผืนเล็กๆ พาดที่ไหลเปลือย กำลังยืนกดมือถือตอบข้อความอยู่ ช่างเป็นภาพที่ทำให้หัวใจของถิงถิงเต้นแรงจนเธอแทบจะเป็นลม เธอเลยต้องรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปเพื่อสงบสติอารมณ์
“ใจเย็นถิงถิง ก็แค่ผู้ชายเปลือยอกทำเป็นไม่เคยเห็นไปได้ หวังเหล่ยก็ถอดเสื้อเดินออกจะบ่อยเธอเห็นจนชินแล้ว” เธอปลอบใจตัวเองทั้งๆที่รู้ว่าไม่ได้ผล หุ่นของผู้ชายอายุสิบเจ็ด จะเอามาเปรียบเทียบกับรูปร่างของคนอายุสามสิบได้ยังไง ถึงน้องชายเธอเองก็หุ่นดีเพราะเป็นนักกีฬา แต่ก็สู้กับอี้ฟานที่ออกกำลังกายเป็นประจำมาเกือบสามสิบปีไม่ได้เลย
ตอนที่ 8 คืนแรก(NC)ถิงถิงใช้เวลาในการอาบน้ำนานกว่าปกติ เพราะเธอหวังว่าเมื่อเธอออกจากห้องน้ำมาแล้วจะพบว่าอี้ฟานนอนหลับไปแล้ว แต่เธอก็ต้องผิดหวังเพราะสิ่งที่เธอเห็นคือ อี้ฟานกำลังนั่งเอาหลังพิงหัวเตียงเล่นมือถืออยู่“เธออาบน้ำนานจัง” อี้ฟานถามทั้งๆที่ตายังไม่ล่ะจากจอมือถือ“พี่ยังไม่นอนเหรอ” ถิงถิงถามด้วยความประหม่า“ทำไม เธอหวังให้ฉันหลับก่อนที่เธอจะออกมาเหรอ โทษทีนะที่มันไม่เป็นแบบนั้น” อี้ฟานพูดจบก็เงยหน้ามองคนที่ยังยืนอยู่ที่ประตูห้องแต่งตัวที่ไม่ยอมเดินมาที่เตียง ก่อนจะจ้องถิงถิงจนเธออดที่จะถามออกมาไม่ได้“พี่มองอะไร”“เธอไม่เห็นกางเกงที่ฉันวางไว้ให้เหรอ” เขาถามเพราะเธอไม่ได้ใส่กางเกงขาสั้นที่เขาวางไว้ให้ ใส่เพียงแค่เสื้อเชิดของเขาแค่ตัวเดียว“พี่คิดว่าฉันจะใส่กางเกงพี่ได้เหรอ” เขาอุตส่าห์เลือกตัวที่มีสายรูดแล้วนะเธอก็ยังใส่ไม่ได้อีกเหรอ เอวเธอเล็กขนาดไหนกันเนี่ย แต่ช่างเรื่องนั้นก่อนเถอะ“ออกมาจากตรงนั้นได้แล้ว รีบมานอน” อี้ฟานเรียก เพราะเขาต้องการให้เธอออกมาจากตรงนั้นโดยเร็วที่สุด เพราะภาพที่เธอยืนอยู่ตรงนั้นโดยมีแสงไฟจากในห้องส่องไปแล้วพื้นหลังเป็นสีดำเพราะไฟที่ห้องแต่งตัวถูกปิ
ตอนที่ 9 ไข้ขึ้น“ถิงถิง ถิงถิงลูก ตื่นมากินข้าวกินยาก่อนแล้วค่อยนอนต่อ” ถิงถิงที่สะลึมสะลือตื่นเพราะเสียงเรียก เธอพยายามจะลุกแต่ลุกไม่ขึ้น เพราะรู้สึกปวดไปทั้งตัวจึงได้แต่ทิ้งตัวลงตามเดิม“อี้ฟานไปประคองน้องสิ เห็นไหมน้องลุกไม่ขึ้นนะ” คุณนายฮั้วหันไปสั่งลูกชายตัวต้นเหตุของเรื่องที่ทำให้ถิงถิงนอนซมเพราะพิษไข้แบบนี้ เมื่อเช้าอยู่ๆ อี้ฟานก็วิ่งหน้าตาตื่นไปหาเธอที่ห้องบอกให้มาดูอาการของถิงถิง ทันทีที่เธอเห็นสภาพของถิงถิงเธอก็อยากจะฆ่าเจ้าลูกชายตัวดีของเธอ เพราะบนตัวของถิงถิงมีแต่รอยดูดรอดกัดเต็มตัว ไม่ต้องบอกเลยว่าฝีมือใคร แล้วทำอีท่าไหนเนี่ยถิงถิงถึงได้ไข้ขึ้นขนาดนี้“พี่ คุณป้า” ถิงถิงที่เริ่มตั้งสติได้เรียกชื่อของคนทั้งสองที่เธอเห็น ตอนนี้เธอสามารถลุกนั่งได้แล้วเพราะอี้ฟานที่ประคองเธอให้ลุกขึ้นและยังให้เธอยืมหน้าอกพิง“กินข้าวกินยาหน่อยนะ หนูมีไข้นะ กินก่อนแล้วค่อยนอนต่อ” คุณนายฮั้วตักข้าวต้มขึ้นมาเป่าก่อนจะจ่อไปที่ปากของถิงถิง ก่อนที่ถิงถิงจะอ้าปากงับข้าวต้มจากช้อน“เป็นไงร้อนไหม” ถิงถิงส่ายหน้า ก่อนจะกินข้าวต้มที่คุณนายฮั้วป้อนให้อีกคำและอีกคำ หลังจากป้อนข้าวถิงถิงเสร็จคุณนายฮั้วก็ย
ตอนที่ 10 ฉันชอบเธอ“ทั้งๆที่เธอรู้ว่าฉันชอบเธอนี้นะ”“เรื่องนั้นไว้คุยกันที่หลังเถอะ จัดการงานตรงนี้ให้เสร็จก่อนดีไหม” ซิงเยียนเปลี่ยนเรื่อง ก่อนจะเดินเข้าไปกำกับการทำงานของลูกน้องการวางแผนงานการจัดสถานที่ผ่านไปด้วยดี มีปรับเปลี่ยนเล็กน้อยให้ขนาดพอดีกับสถานที่ หลังจากคุยเรื่องงานเสร็จซิงเยียนก็ชวนอี้ฟานให้ออกไปหาอะไรกิน เพื่อที่จะได้คุยเรื่องที่ยังค้างคาอยู่“นายสั่งอาหารให้ฉันหน่อย ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำแป๊บ” พูดจบซิงเยียนก็ลุกเดินออกไป ปล่อยให้อี้ฟานสั่งอาหารคนเดียวอี้ฟานสั่งอาหารมาสามสี่อย่า โดยเขาเลือกจากอาหารที่ซิงเยียนชอบ หลังจากสั่งอาหารเสร็จได้สักพักซิงเยียนก็กลับมา“นายสั่งอาหารแล้วใช่ไหม”“อื้ม สั่งไปแค่สามสี่อย่าง ฉันสั่งแต่อาหารที่เธอชอบทั้งนั้นแต่ถ้าเธออยากสั่งเพิ่มก็สั่งได้นะ” อี้ฟานยื่นเมนูให้ซิงเยียน แต่เธอปฏิเสธ“ไม่เป็นไร แค่นั้นก็พอ” ทั้งสองนั่งคุยกันสักพักอาหารที่อี้ฟานสั่งไปก็ทยอยมาเสิร์ฟ แล้วทั้งสองคนก็ลงมือจัดการอาหารตรงหน้า“เป็นไงอร่อยไหม” อี้ฟานถาม“อื้ม อร่อย” ซิงเยียนตอบด้วยสีหน้าเรียบ“แต่สีหน้าเธอไม่ได้บอกแบบนั้นเลยนะ”“อาหารพวกนี้อร่อยจริงๆ แต่แค่ฉันไม
ตอนที่ 11 ประกาศเมื่อคืนตอนที่อี้ฟานกลับมาถึงก็เป็นเวลาค่อนข้างดึกพอสมควร ถิงถิงเองก็หลับไปแล้ว เขาเลยต้องอาบน้ำอย่างเงียบที่สุดเพราะไม่อยากให้เธอตื่น ก่อนจะปีนขึ้นเตียงไปนอนข้างๆเธอ แต่ก่อนที่เขาจะนอนเขาก็เอื้อมมือไปสัมผัสที่หน้าผากของถิงถิงเบาๆ เพื่อวัดอุณหภูมิของร่างกายของคนตัวเล็กว่ายังมีไข้อยู่หรือเปล่า แต่พอรู้ว่าลูกพีชของเขาตัวไม่ร้อนเท่าตอนเช้า เขาก็สามารถทิ้งตัวลงนอนได้อย่างสบายใจก่อนจะคิด ว่านี่เป็นคืนที่สองแล้วที่เขามีคนนอนร่วมเตียง เพราะปกติอี้ฟานจะไม่นอนร่วมเตียงกับใครแม้แต่กระทั่งผู้หญิงทุกคนที่เคยมีอะไรกับเขา เขาก็ไม่เคยให้ใครได้นอนร่วมเตียงกับเขาสักคน เพราะหลังจากเสร็จกิจเขาก็จะให้พวกเธอกลับไปทันทีหรือไม่ก็เป็นเขาเองที่กลับ แต่กับถิงถิงเขากลับนอนร่วมเตียงกับเธอได้โดยไม่รู้สึกอะไร ไม่รู้เป็นว่าเพราะเธอคือเมียของเขาหรือเพราะเหตุผลอื่น“อื้มมมมม” ถิงถิงตื่นนอนแล้ว เธอรู้สึกหิวน้ำจึงดันตัวลุกขึ้นเพราะจะไปหยิบแก้วน้ำที่อยู่ตรงโต๊ะข้างหัวเตียง ร่างกายเธอดีขึ้นแล้วแต่ยังรู้สึกหนักๆตัวอยู่จึงยังขยับตัวค่อนข้างลำบาก แต่ระหว่างที่เธอกำลังพยายามจะลุกขึ้นก็มีเสียงดังขึ้น“ถ้าลุกล
ตอนที่ 12 จางลี่“ไม่จริง คุณแม่เอาอะไรมาพูด นังถิงถิงต้องโกหกคุณแม่แน่ๆค่ะ” อาเว่ยนำเรื่องที่ถิงถิงประกาศในที่ประชุมเมื่อหลายวันก่อนมาเล่าให้กับจางลี่ลูกสาวบุญธรรมของเธอฟัง ความจริงเธออยากจะเล่าให้จางลี่ฟังตั้งแต่วันแรกด้วยซ้ำ แต่เธอไม่ได้เจอจางลี่เลยวันนี้ถ้าเธอไม่บอกให้มาเจอก็ไม่รู้จะเจอตัวลูกสาวบุญธรรมคนนี้เมื่อไร“แต่มันดูมั่นใจมากเลยนะ ลูกแน่ใจนะว่ามันกับคุณชายฮั้วไม่รู้จักกันจริงๆ”“แน่ใจสิคะ นังถิงถิงมันจะไปรู้จักคุณชายฮั้วได้ยังไง มันเคยออกไปไหนซ่ะที่ไหนกัน งานเลี้ยงหรือปาร์ตี้ก็ไม่เคยไป มันจะไปเจอคุณชายฮั้วได้ยังไง แล้วอีกอย่างคนอย่างคุณชายฮั้วใช่ว่าอยากเจอก็จะเจอได้ง่ายๆซ่ะเมื่อไร ขนาดหนูพยายามเข้าใกล้ทุกวิถีทางยังเคยคุยด้วยไม่ถึงห้าประโยคเลยด้วยซ้ำ แล้วคนอย่างมันนะยิ่งไม่มีทาง” จางลี่พูดด้วยความมั่นใจ“แม่ก็ไม่เชื่อที่นางถิงถิงพูดเหมือนกัน มันคงเอาผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้มาแต่งงานด้วยนั่นแหละ ไม่ก็ถูกผู้ชายคนนั้นหลอก แต่แม่ก็อยากมาเช็กกับลูกให้มั่นใจก็แค่นั้นเอง” อาเว่ยบอก“คุณแม่มั่นใจได้เลยค่ะ ไม่เป็นความจริงแน่นอน แต่ถ้าคุณชายฮั้วจะแต่งงานจริงๆ คนที่คุณชายฮั้วจะแต่งด้วยจะต้
ตอนที่ 13 ขี่ม้าเป็นมั้ย“คุณหนูพักทานข้าวก่อนเถอะค่ะเดี๋ยวค่อยเขียนต่อ ถ้ารอให้เสร็จแล้วค่อยทานดิฉันว่าคุณหนูคงได้ทานรวบมื้อเช้าของพรุ่งนี้แน่ๆ ยังเหลือเยอะขนาดนั้น” เสียวปิงมองดูจำนวนซองที่เหลืออยู่อีกจำนวนมาก วันนี้คุณหนูของเธอนั่งเขียนมาเกือบทั้งวันแต่ก็ยังเสร็จเกินครึ่งไปนิดหน่อยเอง เดิมทีการ์ดเชิญคุณหนูของเธอเขียนเสร็จตั้งนานแล้วรอแค่คุณชายฮั้วว่างจะได้นำไปแจก แต่อยู่ๆ เมื่อวานคุณชายฮั้วก็เพิ่มจำนวนแขกขึ้นมาอีกเท่าตัว คุณหนูของเธอเลยต้องมาเขียนการ์ดเชิญเพิ่ม แล้วนอกจากเรื่องการ์ดที่ต้องเขียนเพิ่มยังมีเรื่องที่ต้องจัดการเพิ่มขึ้นอีกเพราะการเพิ่มจำนวนแขกแบบปุบปับของคุณชายฮั้ว คุณหนูของเธอเลยต้องวุ่นวายทั้งวัน“ช่วยเอามาให้ที่โต๊ะหน่อยสิ ฉันไม่อยากเสียเวลานะ” เสียวปิงถอนหายใจดูเอาเถอะ แค่เดินจากโต๊ะทำงานมาที่โต๊ะที่วางอาหารเย็นไว้แค่ไม่ถึงยี่สิบก้าวคุณหนูของเธอยังไม่อยากเสียเวลาเดินเลย“ทานช้าๆค่ะคุณหนู เดี๋ยวก็ติดคอหรอก” เสียวปิงเตือนถิงถิงที่ตักข้าวเข้าปากด้วยความเร็ว“ช่วยเอาไปเก็บให้หน่อย” ถิงถิงส่งจานข้าวที่กินไปได้ไม่ถึงครึ่งคืนให้กับเสียวปิง ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทำงานตรงหน้าต่อ
ตอนที่ 14 พี่จะสอนฉันขี่ม้ามั้ยหลังจากทานข้าวเสร็จถิงถิงก็กลับมาที่ห้องทำงานของเธอเพื่อจะทำงานที่ค้างคาไว้ให้เสร็จโดยมีอี้ฟานที่นั่งทำงานของตัวเองอยู่ที่โซฟารับแขก ตลอดเวลาที่ถิงถิงนั่งทำงานเธอแทบจะทำงานไม่รู้เรื่องเพราะคิดถึงแต่เหตุการณ์และคำพูดของเขาเมื่อช่วงค่ำก่อนที่เธอจะไปทานข้าว ความจริงจะบอกว่าคิดถึงแค่คำพูดก่อนไปกินข้าวก็ไม่ถูก เพราะคำพูดของอี้ฟานในตอนนั้นทำให้เธอนึกไปถึงเหตุการณ์ที่เธอกับเขามีอะไรกันครั้งแรกถึงแม้เหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้นเพราะเธอถูกอี้ฟานปลุกเล้าก็ตามแต่เธอก็พูดได้ไม่เต็มปากเพราะในตอนหลังเธอเองก็เหมือนจะให้ความร่วมมือกับเขาเหมือนกัน แค่คิดถึงเรื่องนั้นเธอก็รู้สึกปั่นป่วนในท้องอย่างบอกไม่ถูกก๊อก ก๊อก“อุ๊ย” ถิงถิงตกใจที่อี้ฟานใช้นิ้วเคาะลงที่โต๊ะเบาๆเพื่อเรียกเธอ นั่นเป็นเพราะเธอเอาแต่คิดวนเวียนถึงคำพูดอี้ฟานซ้ำไปซ้ำมาจนไม่ทันได้สังเกตว่าคนที่เธอเอาแต่นึกถึง ที่ตอนแรกนั่งอยู่ที่โซฟารับแขกได้วางงานที่ทำอยู่ในมือลง แล้วลุกขึ้นเดินมาที่โต๊ะทำงานของเธอ ็หกลัหหฟฟฟเเเเเเเเเเเเ“เหม่ออะไร? ทำงานเสร็จแล้วเหรอ ถ้าเสร็จก็ไปอาบน้ำพักผ่อนได้แล้ว” อี้ฟานบอกพร้อมมองหน้าที่ข
ตอนที่ 15 ไหนว่าพี่จะสอนฉัน (nc)“อื้ม....” ถิงถิงส่งเสียงครางออกมาด้วยความพอใจกับจูบที่ดูดดื่มแสนหวานที่อี้ฟานเป็นคนมอบให้ แต่การจูบกันของเธอและเขาในครั้งนี้ต่างจากทุกครั้ง เพราะครั้งก่อนๆ มักเป็นอี้ฟานที่เป็นฝ่ายเรียกร้องจากเธอไม่หยุด แต่ครั้งนี้เป็นเธอเองที่เป็นผ่ายเรียกร้องจากเขา“พี่” ถิงถิงเรียกอี้ฟานเสียงหวางแต่สีหน้าของเธอกับต่างจากน้ำเสีย เพราะเธอกำลังรู้สึกหงุดหงิดที่ชายหนุ่มถอนจูบหวานออกแต่เธอยังต้องการมันอีก เธอดึงคอเสื้อของอี้ฟานให้เข้ามาหาเธออีกครั้งแต่ชายหนุ่มยื้อไว้ไม่ยอมให้ความร่วมมือกับเธอแต่โดยดี เธอเลยได้แต่ชักสีหน้าใส่เขาด้วยความไม่พอใจ“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ ฉันไม่ได้จะหยุดแค่จะพาเธอไปที่เตียง” อี้ฟานบอกพร้อมกับอุ้มหญิงสาวแล้วก้าวยาวตรงไปที่เตียงทันที เขาเองก็ไม่บ้าพอที่จะหยุดเรื่องกินเธอไว้กลางคันแบบนี้หรอกอี้ฟานวางถิงถิงลงบนเตียงอย่างนิ่มนวนก่อนที่เขาจะขึ้นคล่อมตัวเธอแล้วกดจูบหวานตามมาในทันที“อ๊ะ...พะ พี่” ถิงถิงครางออกมาเพราะตอนนี้มือของอี้ฟานกำลังขยำหน้าอกของเธออยู่ถึงแม้จะมีเสื้อผ้ากั้นระหว่างมือหนากับอกนุ่มของเธอแต่เธอก็ยังรับรู้ได้ถึงฝ่ามืออุ่นของเขา ส่วนป
ตอนที่ 34 สัญญาสองปี (NC) จบ“พี่ ฉันช่วยค่ะ” ถิงถิงเดินเข้าไปช่วยรับเสื้อสูทของอี้ฟานมาวางพาดไว้ที่เก้าอี้ส่วนอี้ฟานก็คลายเนคไทออก พร้อมกับปลดกระดุมที่คอเสื้อกับแขน ก่อนจะอุ้มคนตัวเล็กแล้วเดินไปที่โซฟา เขานั่งลงที่โซฟาโดยมีถิงถิงนั่งลงบนตักถิงถิงมองใบหน้าหล่อเหลาของสามีของเธอแล้วขำออกมาจนคนตัวใหญ่ต้องถาม“ขำอะไร”“พอมองหน้าพี่ใกล้ๆแบบนี้แล้วอดคิดถึงงานแต่งไม่ได้เลยค่ะ” ถิงถิงตอบก่อนจะขำออกมาเบาๆพวกเขาสองคนแต่งงานมาได้เดือนกว่าแล้ว แต่คิดถึงวันแต่งงานทีไรถิงถิงก็อดขำไม่ได้ เพราะความขี้หึงของอี้ฟานเกือบทำให้งานแต่งงานเกือบล่ม เพราะเขาให้เหตุผลว่าเจ้าสาวของเขาสวยเกินไปไม่อยากให้ใครเห็น งานตอนเช้าไม่เท่าไรเพราะเป็นงานพิธีการและมีแค่คนในครอบครัวและชุดที่เธอใส่ก็ค่อนข้างเรียบร้อย แต่ปัญหามันมาเกิดในตอนเย็นนี่สิเพราะตอนเย็นเป็นงานฉลองแล้วอี้ฟานก็เป็นคนเปลี่ยนงานในตอนแรกที่จะจัดแค่งานเล็กๆ แต่เขากลับเพิ่มแขกขึ้นมาเกือบสองเท่า นั่นยิ่งทำให้มีคนเห็นเจ้าสาวคนสวยของเขามากขึ้น แล้วชุดตอนเย็นของถิงถิงส่วนหลังยังเป็ยซีทรูถึงจะมีลายลูกไม้ปกปิด แต่เขาก็ยังหวงอยู่ดี“เธอไม่รู้หรอกว่าวันนั้นฉันอยาก
ตอนที่ 33 แต่งงานสักที“ขยับไปทางขวาอีก ใช่ๆตรงนั้นแหละ วางได้เลย เสร็จตรงนี้ช่วยไปดูแจกันดอกไม้ในสวนด้วยนะ” ซิงเยียนสั่งงานลูกน้องด้วยความวุ่นวายเพราะเธอต้องทำงานแข่งกับเวลา“พี่ซิงเยียนพี่ไปดูที่ซุ้มให้หน่อยว่าโอเคหรือยัง” เสียงลูกน้องที่รับผิดชอบที่ซุ้มเรียก“พี่ซิงเยียนดอกไม้ที่สวนไม่น่าจะพอทำไงดีพี่” เสียงลูกน้องอีกคนดังขึ้น“พี่ซิงเยียนแล้วในห้องรับแขกล่ะพี่ เอาไง” ลูกน้องอีกคนถามขึ้นตอนนี้ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็มีแต่เสียงเรียกพี่ซิงเยียนๆ จนเธอหนวกหูไปหมด สาเหตุที่เป็นแบบนี้ไม่ใช่เพราะเธอหรือลูกน้องทำงานไม่ดี แต่มันเป็นเพราะนายจ้างจอมเรื่องมากของเธอต่างหากที่อยู่ๆก็เพิ่มงานมาให้เธอโดยไม่ให้เธอได้ตั้งตัวก่อน ซึ่งนายจ้างของเธอก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นเพื่อนและน้องสาวที่รักของเธอนั่นเอง ใช่แล้วในที่สุดก็ถึงงานแต่งงานของอี้ฟานและถิงถิงก็มาแล้วหลังจากจัดการเรื่องวุ่นวายทั้งหลายในที่สุดวันพรุ่งนี้เป็นวันจัดงานแต่งของอี้ฟานกับถิงถิง ซึ่งเธอจัดเตรียมงานของทั้งสองเสร็จเรียบร้อยอย่างสวยงาม แต่ว่าเมื่อวานอี้ฟานก็โทรหาเธอแล้วบอกกับเธอว่าเขาอยากเพิ่มงานพิธีการแบบจีนในช่วงเช้า เดิมทีเธอก็ปฏิเ
ตอนที่ 32 ถอนรากถอนโคนก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูห้องพักผู้ป่วยดังขึ้นก่อนที่ประตูจะเปิดออกแล้วชายหนุ่มหน้าหวานก็เดินเข้ามา“พี่ซ่งเหยียนมาแล้วเหรอคะ” เสียงหวานทักเข้าขึ้นทันทีที่เธอหันมามองเขา“ครับ” ซงเหยียนตอบรับสั้นๆ เขามองถิงถิงที่ตอนนี้นั่งพิงอกของอี้ฟานอยู่บนเตียงผู้ป่วย โดยมีอี้ฟานกำลังป้อนผลไม้ใส่ปากของเธอ ทำเอาซงเหยียนถึงกับพูดไม่ออกกับการแสดงความรักของทั้งสองคน“ทำไมนายมาช้าขนาดนี้ รู้มั้ยฉันต้องทนนั่งดูสองคนนั้นแสดงความรักกันจนฉันขนลุกไปหมดแล้ว” เฉินตงตงลุกขึ้นมาโวยวายใส่ซงเหยียนจนคนถูกโวยวายขมวดคิ้วใส่“ผมจะมาตอนไหนแล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณ” ซงเหยียนถามหน้านิ่งๆ “ทำไมจะไม่เกี่ยว ก็ที่ฉันไปไหนไม่ได้ต้องทนดูสองคนนั้นโชว์หวานก็เพราะรอนายอยู่ไง” ตงตงบอก ซ่งเหยียนหันไปมองคุณหนูของเขาก่อนจะขอคำอธิบายเรื่องที่ตงตงพูด“หมายความว่ายังไงครับคุณหนู อย่าบอกนะว่าผมต้องทำงานร่วมกับคุณชายเฉินอีกแล้ว” ซ่งเหยียนถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจ“นี้ๆ พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง น้ำเสียงนายเหมือนไม่ค่อยพอใจที่ได้ทำงานกับฉันเลย” ตงตงอดที่จะถามไม่ได้“ครับ คุณชายเฉินเข้าใจไม่ผิดหรอกครับ ผมไม่อยากทำงา
ตอนที่ 31 คิดบัญชี“อ๊ากกกกกกก พวกมึงปล่อยกูเดี๋ยวนี้เลยนะ รู้มั้ยกูเป็นใคร อ๊ากกกกก” เสียงร้องโหยหวนกับคำขู่ของจางหย๋งดังลั่นห้องสี่เหลี่ยมที่ถูกปิดตาย ซึ่งภายในห้องมีคนอยู่ไม่กี่คน“ไม่อยากเจ็บก็หยุดดิ้นสิ ฉันกำลังทำแผลให้นายอยู่ไม่เห็นเหรอ พวกนายก้จับมันแน่นๆหน่อยอย่าให้มันขยับได้” เสี่ยวปิงพูดขึ้นลูกน้องของอี้ฟานที่กำลังล๊อกแขนขาของจางหย๋งไม่ให้ขยับมองการทำแผลของเสี่ยวปิงด้วยความสยอดสยอง เพราะตอนนี้เสี่ยวปิงกำลังใช้มีดกรีดไปที่แผลถูกยิงของจางหย๋งก่อนจะควักเอาลูกกระสุนออกมาแล้วทำความสะอาจแผลโดยการเทแอลกอฮอราดไปบนแผลทั้งขวด“อ๊ากกกกกกก อีเสี่ยวปิงมึงกล้าทำกูเหรอ อย่าให้กูหลุดไปได้นะมึงกูไม่เอามึงไว้แน่” จางหย๋งร้องด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับขู่อาฆาตเสี่ยวปิงไว้ แต่เสี่ยวปิงก็ไม่ได้สนใจ“หึ ก่อนคิดจะมาแก้แค้น แกหาทางหนีไปให้ได้โดยที่ไม่ตายก่อนดีกว่า” เสี่ยวปิงพูดพร้อมกับลงมือเย็บแผลของจางหย๋งแบบสดๆ จนหมอนั่นร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดอีกครั้ง “แต่แกไม่ต้องห่วงนะ แกจะไม่ได้ตายง่ายๆหรอก เพราะแบบนั้นมันสบายเกินไป คนอย่างแกมันต้องทรมารจนร้องหาความตายแต่ก็ตายไม่ได้ต่างหาก”คำพูดของเสี่ยวปิงที่พ
ตอนที่ 30 ช่วย“อ๊ากกกกกก”หลังจากเสียงปืนดังก็เป็นเสียงร้องด้วยความทรมานของใครบางคนดังขึ้น แต่แน่นอนว่าไม่ใช่เสียงของเสี่ยวปิงและเสียงของถิงถิง เพราะเสียงร้องเจ็บปวดนั่นเป็นเสียงของผู้ชายและเสียงนั่นก็คือเสียงของจางหย๋ง หมอนั่นถูกปืนยิงเข้าที่มือและที่ขา จนต้องลงไปร้องโอดครวญที่พื้นทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก อยู่ๆถิงถิงก็ถูกดึงเข้าสู่อ้อมกอดของใครบางคนที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นใคร เพราะเธอจำความอบอุ่นและสัมผัสนั้นได้ โดยเฉพาะกลิ่นน้ำหอมที่เขาใช้ซึ่งเป็นกลิ่นที่เธอเคยบอกว่าเหมาะกับเขาอี้ฟานกอดลูกพีชของเขาไว้แน่ เขารู้สึกได้ถึงร่างกายที่สั่นเทาของคนตัวเล็ก ยิ่งได้เห็นเธอที่กอดเขาพร้อมกับสะอื้นร้องไห้มันทำให้เขายิ่งแทบคลั่ง“จัดการมันแต่อย่าให้มันแต่อย่าให้มันตายเพราะมันต้องทรมานยิ่งกว่านี้” อี้ฟานสั่งลูกน้องของเขาที่พามาด้วยน้ำเสียงที่ใครได้ฟังต่างก็ต้องหวาดกลัว เพราะมันทั้งเย็นชาและเต็มไปด้วยอารมณ์โกรธ“พะ พี่” คนตัวเล็กเงยหน้ามองคนตัวใหญ่ที่กอดเธออยู่ก่อนจะส่งเสียงเรียกเบาๆ จนแทบจะเหมือนเสียงกระซิบอี้ฟานก้มมาสพตาหญิงสาวก่อนที่เขาจะเห็นรอยแดงกับคราบเลือดที่ใบหน้าของเธอ และนั่นยิ่งท
ตอนที่ 29 จางหย๋งถิงถิงเริ่มได้สติแต่เธอรู้สึกว่าไม่สามารถขยับตัวได้ดังใจเพราะว่ายังมึนงงอยู่ เธอพยายามฝืนลืมตาด้วยความยากลำบากเพราะรู้สึกว่าหนังตามันหนักและรู้สึกเวียนหัวจนลืมตาแทบไม่ขึ้น แต่เธอก็พยามฝืนมันจนในที่สุดเธอก็ลืมตาได้สำเร็จเธอมองสำรวจรอบๆห้องที่มือมีเพียงแสงไฟสลัวๆที่มาจากหน้าจอทีวีที่กำลังดูหนังฆ่าตกรรม ถึงความสว่างจากแสงทีวีจะมีไม่มากแต่ก็พอให้เธอมองเห็นภายในห้องได้ เธอพยามเพ่งสายตาเพื่อมองว่าคนที่นั่งหันหลังดูทีวีอยู่เป็นใคร“จางหย๋ง” ถิงถิงอุทานชื่อของคนที่นั่งดูทีวีอยู่ในห้องออกมาทันทีที่รู้ว่าเป็นใคร นั่นลูกชายบุญธรรมของอาเว่ยนี่ ทำไมถึงเป็นหมอนั่นที่มาอยู่ที่นี่จางหย๋งพอได้ยินชื่อของตัวเองก็หันกลับมามองถิงถิง ก่อนหมอนั่นจะส่งรอยยิ้มที่ชวนขนหัวลุกไม่ต่างจากฆ่าตกรที่ปรากฏในทีวีที่กำลังฉายอยู่ให้กับหญิงสาว“ตื่นแล้วเหรอ มึงตื่นเร็วกว่าที่กูคิดอีก กูนึกว่ามึงจะนอนจนถึงชาติหน้าซ่ะอีก เสียดายว่ะหลับไปแค่ครึ่งชั่วโมงเองสงสัยยานอนหลับจะอ่อนเกินไป” จางหย๋งพูดขึ้นก่อนที่เขาจะลุกขึ้นแล้วเดินมาหาถิงถิงที่นอนอยู่บนเตียง“นี่เป็นฝีมือนายเหรอ” ถิงถิงถาม ตอนนี้เธอเข้าใจสถานการณ
ตอนที่ 28 ติดกับ“คุณหนูคะ พรุ่งนี้คุณเว่ยอิงขอนัดพบคุณหนูคะ คุณหนูจะไปพบเธอหรือเปล่าคะ” เสี่ยวปิงรายงานถิงถิงวางปากกาในมือลงก่อนจะมองเสี่ยวปิง เธอใช้เวลาคิดสักพักก่อนจะพยักหน้าตกลง“เอาสิ พรุ่งนี้ก็ไม่มีงานด่วนอะไร ฉันเองก็มีเรื่องที่อยากจะคุยกับอาเว่ยพอดี” ความจริงช่วงนี้ถิงถิงไม่ค่อยอยากจะพบใครเพราะใกล้ถึงงานแต่งของเธอแล้ว งานของเธอเลยเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว“แล้วคุณหนูจะให้แจ้งประธานฮั้วด้วยหรือเปล่าคะ” เสี่ยวปิงถาม เพราะตั้งแต่วันที่แถลงข่าววันนั้น อี้ฟานก็สั่งเธอไว้ว่าไม่ว่าถิงถิงจะไปไหน ไปหาใครต้องรายงานเขาทุกอย่าง เพราะเขากลัวว่าศัตรูของเขาจะทำร้ายเธอ“อืม...บอกพี่แค่ว่าฉันไปพบอาเว่ยเพราะเธอนัดเจอก็พอ แต่ไม่ต้องบอกเรื่องที่ฉันจะพูดกับอาเว่ยหรอก” ถิงถิงบอก“ค่ะ” เสี่ยวปิงรับคำก่อนจะเดินออกจากห้องไป ซึ่งสวนกับหวังเหล่ยที่เดินเข้ามาพอดี “สวัสดีค่ะคุณชาย” เสี่ยวปิงทักทายตามมารยาท“สวัสดีครับ พี่อยู่ในห้องมั้ย” หวังเหล่ยถาม“ค่ะ คุณหนูอยู่ในห้อง” เสี่ยวปิงตอบ“คนเดียว” หวังเหล่ยถาม“ค่ะ คนเดียว” เสี่ยวปิงตอบยิ้ม พร้อมกับเน้นยำคำว่าคนเดียว เพราะว่าหวังเหล่ยจะไม่เข้าไปถ้าพี่สาวของเขาอ
ตอนที่ 27 ไม่จริง“ตื่น ตื่น จางลี่ตื่นเดี๋ยวนี้”“โอ๊ย...จะปลุกทำไมเนี่ยไม่เห็นเหรอว่าคนกำลังนอน” จางลี่โวยวายเสียงดังเพราะเธอหงุดหงิดที่ถูกปลุก แต่พอเธอเห็นว่าใครเป็นคนปลุกเธอก็ยิ่งอารมณ์เสีย “นายจะปลุกฉันทำไมเนี่ย อย่าบอกนะว่าจะเอาอีก ฉันไม่เอาแล้วที่เอาไปยังไม่พออีกเหรอ” เธอบอกชายหนุ่มคู่ขาของเธอด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดก่อนจะพลิกตัวหนีไปอีกทาง“ฉันไม่ได้ปลุกเธอมาเอาหรอกน่า ตื่นมาดูนี่ก่อน” ชายหนุ่มยังไม่ยอมแพ้เขาต้องปลุกเธอมาดูเรื่องที่เขาจะบอกให้ได้“อะไรว่ะ” จางลี่ลุกขึ้นมาอย่างหงุดหงิดไม่ได้สนใจว่าผ้าห่มที่ปกปิดร่างกายของเธอจะตกไปกองที่ต้นขา ทำให้หน้าอกของเธอที่ไม่มีอะไรปกปิดจะออกมาอวดสายตาของใคร “ถ้าเรื่องที่นายบอกไม่สำคัญนะฉันฆ่านายแน่” จางลี่ขู่ก่อนเธอจะรับโทรศัพท์ที่ชายหนุ่มยื่นมาให้แล้วอ่านข้อความที่ปรากฏในนั้น“นี่มันคืออะไรนายไปเอาไร้สาระข่าวพวกนี้มาจากไหน” จางลี่หันไปถามชายหนุ่มด้วยความโกรธ“ก็จากงานแถลงข่าววันนี้ไง วันนี้จู่ๆยัยคุณหนูพี่สาวเธอก็เดินขึ้นไปบนเวทีแล้วประกาศว่าตัวเองเป็นภรรยาของไอ้อี้ฟานนั่น สรุปว่ายังไงกันแน่ ไหนเธอบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงไม่ใช่เหรอ แล้วทำไม
ตอนที่ 26 จับกุม“ไอ้บ้าอี้ฟานหายมันหัวไปไหนของมันว่ะ อย่าบอกนะว่ารีบไปอยู่กับเมีย” ตงตงที่เดินตามหาอี้ฟานที่หลังเวทีแต่ก็ไม่เจอ เขาทั้งโทรหาทั้งส่งข้อความไป แต่ก็ยังไม่สามารถติดต่อเพื่อนรักที่พ่วงตำแหน่งเจ้านายได้ “ตั้งแต่มีเมียนี่ชักจะเอาใหญ่ ไม่สนใจงานเลย” ตงตงอดบ่นไม่ได้ ถ้าถิงถิงมาได้ยินที่ตงตงบ่นเธอคงจะพยักหน้าเห็นด้วยเพราะเขาเอาเก่งจริงๆนั่นแหละ แต่ความหมายของคำว่าเอาของเธอกับตงตงมันต่างกัน“ขอโทษนะครับคุณชายเฉิน” ขณะที่ตงตงกำลังหงุดหงิดที่ตามตัวอี้ฟานไม่เจอก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลัง เขาเลยหันกลับไปมองก่อนจะพบกับผู้ชายคนหนึ่งตงตงมองสำรวจผู้ชายคนนั้นอย่างละเอียดพร้อมกับใช้ความคิดว่าเขารู้จักหมอนี่หรือเปล่า แต่เขาก็คิดไม่ออกว่าเขาเคยรู้จักหมอนี่ที่ไหน หมอนี่หน้าหวานขนาดนี้ แถมหุ่นก็บาง ถ้าเขาเคยเจอเขาต้องจำได้แน่ๆ“ผมซงเหยียน เป็นทนายที่คุณหนูถิงถิงส่งมาครับ” ซงเหยียนแนะนำตัว เพราะเขารู้ว่าเฉินตงตงกำลังสงสัยว่าเขาเป็นใคร“อ่อ แล้วนายมาหาฉันทำไม” ตงตงถามด้วยความสงสัย“คุณหนูให้ผมเอาเอกสารมาให้ครับ” ซงเหยียนบอกพร้อมกับยื่นซองเอกสารให้ ตงตงมองซองเอกสารนั้นอย่างสงสัย “ในซองนี้มีห