“อ้อ โอเคครับ”ฟู่เจิงปรับกระจกขึ้น ก่อนจะล้วงโทรศัพท์ออกมากดหาเบอร์ของเวินเหลียง นิ้วหัวแม่มือตกอยู่บนปุ่มกดโทรออก ผ่านไปนานสองนานเขาก็ยังไม่กดสักทีหลังลังเลอยู่นาน เขาก็ชักนิ้วกลับ เก็บโทรศัพท์และขับรถมุ่งหน้าไปยังบริษัทรอถึงตอนค่ำก่อนแล้วค่อยกลับมาบอกเธอแล้วกันห้องทำงานของประธานใหญ่แห่งฟู่ซื่อกรุ๊ปหลังรายงานเรื่องงานเสร็จ เลขาหยางก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่งฟู่เจิงกำลังอ่านเอกสารอยู่ ทว่ามีอาการเหม่อลอยเล็กน้อย เขาเอ่ยขึ้นว่า “มีเรื่องอื่นอีกไหม?”“...เมื่อกี้คุณเวินมาค่ะ...”ฟู่เจิงพลันเงยหน้าขึ้น “เธอมาทำไม?”“เหมือนจะมาหาคุณค่ะ...”ฟู่เจิง “...”ฉะนั้น ตอนที่เขาบอกเวินเหลียงว่าเขาอยู่บริษัท เวินเหลียงก็รู้แล้วว่าเขากำลังโกหก??!หลังเธอรู้ว่าเขาไม่อยู่ที่บริษัท ถ้าอยากจะไปหาเขาต้องไปหาที่ไหน?บ้านใหญ่ในใจของฟู่เจิงเต้นตึกตัก ๆ ขึ้นมาเสียงหนึ่ง ลูกกระเดือกขยับขึ้นลง เขาปิดแฟ้มเอกสารดัง ‘ปึก’ เขากระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก “ทำไมคุณไม่รีบบอกให้มันเร็ว ๆ ล่ะ?!”เลขาหยาง “...”ฟู่เจิงต่อสายโทรออกไปหาคนขับรถ หลังโทรติดก็รีบถามขึ้นว่า “ตอนนี้คุณผู้หญิงยังอยู่กับคุณหรือเปล่า?”
เวินเหลียงเงียบไปอยู่สองสามวินาที จากนั้นเธอก็ฉีกยิ้มอย่างขมขื่นออกมา “ฉันรู้เรื่องแล้วจริง ๆ ที่แท้ฝานฝานก็เป็นลูกสาวแท้ ๆ ของคุณ มิน่าล่ะหน้าตาถึงได้เหมือนคุณอยู่หน่อย ๆ แต่ฉันไม่เคยคิดสงสัยเลย...”“ขอโทษนะ ขอโทษนะอาเหลียง ฉันไม่ได้มีเจตนาจะปิดบังเธอ ฉันก็...เพิ่งรู้เรื่องเมื่อวานนี้เองว่า ฝานฝานเป็นลูกของฉัน...” ฟู่เจิงกดเสียงต่ำ น้ำเสียงแหบพร่าเล็กน้อย“คุณกับอิเลีย...มันเรื่องอะไรกัน?” เวินเหลียงอดกลั้นไว้ไม่อยู่ เธอถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาเธอยังยอมถาม ยอมทำความเข้าใจ ดีกว่าไม่แยแสเขาเลยเยอะฟู่เจิงเอ่ยขึ้นมาอย่างยากลำบาก “อาเหลียง ฉันสาบาน ก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยรู้จักเขา...หกปีก่อน แค่อุบัติเหตุครั้งหนึ่ง...”ฤดูร้อนเมื่อหกปีก่อน ที่ค็อกเทลปาร์ตี้แห่งหนึ่ง จู่ ๆ ฟู่เจิงก็รู้สึกคั่นเนื้อคั่นตัว สงสัยว่าตัวเองจะถูกวางยา เขาขึ้นไปพักที่โรงแรมชั้นบนในระหว่างที่สติสัมปชัญญะของเขาเลือนราง นางฟ้าก็จุติลงมาร่วมรสกับเขาเมื่อเขาตื่นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น บนเตียงก็เหลือเพียงเขาคนเดียวฟู่เจิงส่งคนไปสืบ ทว่าสืบไม่เจออะไรเลย ผู้หญิงเมื่อคืนราวกับเขาแค่ฝันไปเท่านั้นสืบนานแล้วก็ยังไม่เจออ
เมื่อเห็นว่าคนปลายสายเงียบไป เวินเหลียงก็กระตุกรอยยิ้มมุมปาก “คุณไปเถอะ ตอนนี้ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ”“อาเหลียง...”“รอฉันใจเย็นลงก่อนแล้วค่อยคุยกัน”เวินเหลียงวางสายไป จากนั้นก็วางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะ หลับตาพลางพิงพนักพิงโซฟา ในใจรู้สึกสับสนเป็นอย่างมากเธอรักฟู่เจิงหรือเปล่า?แม้จะไม่เห็นเขาเป็นดั่งแสงแดดในความมืดมิดเหมือนอย่างแต่ก่อน แต่เธอก็ยังรักเขาเช่นเดิมเธอรักฟู่ซือฝานหรือเปล่า?แม้ฝานฝานจะไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของเธอ แต่ฝานฝานร่าเริงมีชีวิตชีวา เป็นเด็กดีรู้ประสีประสา ฉลาดมีไหวพริบ แถมยังไปมาหาสู่กันมานานขนาดนั้น เธอแทบจะเห็นฝานฝานเป็นลูกแท้ ๆ ของตัวเองไปแล้วต่อให้ตอนนี้ฟู่ซือฝานยืนอยู่ตรงหน้าเธอ เธอก็ไม่สามารถเกลียดฝานฝานได้เพียงเพราะชาติกำเนิดของฝานฝานฟู่เจิงผิดหรือเปล่า?เขาเองก็ถูกคนอื่นวางแผนทำร้ายเช่นกัน เขาไม่เคยรู้ถึงการมีตัวตนและชาติกำเนิดของฝานฝานมาก่อนฟู่ซือฝานผิดหรือเปล่า?ฝานฝานยิ่งไม่ผิดเข้าไปใหญ่เธอไม่สามารถเลือกพ่อแม่ของตัวเองได้ กลับกันยังคิดว่าตัวเองเป็นเด็กกำพร้ามาตลอด ในใจอ่อนไหวเป็นอย่างมากแต่ว่าจะให้เธอทำเหมือนไม่เคยเกิดอะไรขึ้น กลับไปเป็นอย่างแต
เวินเหลียงรีบลงจากรถไปตรวจสอบดู ท้ายรถถูกชนจนเนียน หัวรถคันสีขาวด้านหลังเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเจ้าของรถคันสีขาวลงจากรถมาดูจุดที่รถทั้งสองคันชนกัน จากนั้นก็เดินไปมองท้ายรถของตัวเอง เขาพ่นคำด่าใส่รถคันสีดำที่อยู่ข้างหลัง “คุณขับรถยังไงของคุณเนี่ย ขับเป็นหรือเปล่า?”คนขับรถสีดำล้วงใบขับขี่ออกมาอย่างอ่อนแอ “ฉัน...ยังฝึกหัดอยู่...”คนขับรถสีขาว “...”ในตอนนี้เวินเหลียงเพิ่งค้นพบว่า เป็นการชนท้ายแบบต่อเนื่องรถคันสีดำชนรถคันสีขาว รถคันสีขาวไม่ได้รักษาระยะห่างระหว่างรถให้ดี จึงมาชนเวินเหลียงอีกทีคนขับรถสีดำวางกรวยสองอันเอาไว้ด้านหลัง คนขับรถทั้งสามคนเดินไปข้างถนน ที่ควรแจ้งตำรวจก็แจ้งตำรวจ ที่ควรโทรหาประกันก็โทรหาประกันแม้จะเป็นคดีง่าย ๆ แต่ตลอดทั้งกระบวนการก็ต้องใช้เวลาไม่น้อยเมื่อเวินเหลียงออกมาจากหน่วนตำรวจจราจร ขณะมาถึงยังสถานีตำรวจที่ฉู่ซืออี๋ถูกคุมขัง ก็เลยเวลาเยี่ยมแล้วเธอถอนหายใจ ทำได้เพียงกลับไปแล้วค่อยมาใหม่ในวันพรุ่งนี้เท่านั้น...ช่วงนี้เซี่ยมู่ยิ่งขี้เกียจตื่นขึ้นทุกวันใกล้จะเสร็จสิ้นช่วงฝึกงานแล้ว อดทนต่อไปอีกนิดเดียวเท่านั้น เธอปลอบตัวเองขณะมาถึงโถงบริษัทก็
“อะไรนะ?!!! ฉู่ซืออี๋ตายแล้วงั้นเหรอ?”“ครับ เพื่อนร่วมงานเพิ่งมาพบเช้าวันนี้ นำร่างไปชันสูตรแล้วครับ”“ค่ะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”หลังวางสาย สีหน้าของเวินเหลียงเต็มไปด้วยความสงสัย พร้อมทั้งกระวนกระวายใจทีแรกเธอเคยแอบคิดว่าฉู่ซืออี๋โกหกหรือเปล่า แต่วันนี้จู่ ๆ ฉู่ซืออี๋ก็ตายในคุก ดูมีลับลมคมในเป็นอย่างมากสิ่งนี้ทำให้เวินเหลียงไม่เชื่อคำพูดของฉู่ซืออี๋ไม่ได้ เธอถูกคนหลอกใช้จริง ๆ คนที่บงการอยู่เบื้องหลังกลัวว่าฉู่ซืออี๋จะพูดความจริงออกมา จึงลงมือฆ่าอย่างเหี้ยมโหดลงมือในคุกได้ เห็นได้ชัดว่าคนที่บงการอยู่เบื้องหลังมีอิทธิพลไม่ธรรมดาฉะนั้นการชนท้ายรถต่อเนื่องกันเมื่อวานนั้น ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่มีคนจงใจทำให้เกิดขึ้นเพื่อถ่วงเวลาเธอ!คนขับรถคันดำกับคนขับรถคันขาว ตกลงคนไหนกันแน่ที่คนบงการอยู่เบื้องหลังเป็นคนส่งมา?แล้วเหตุผลที่คนบงการอยู่เบื้องหลังต้องยืมมือของฉู่ซืออี๋ทำให้พ่อตายคืออะไรกันแน่?!เวินเหลียงรีบไปยังสถานีตำรวจพร้อมทั้งหอบอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความสงสัยไปด้วยโชคดีที่โทรศัพท์ของเธอมีการบันทึกเสียงระหว่างสนทนาเอาไว้ เธอให้ปากคำและส่งมอบให้ตำรวจพร้อมคลิปเสียง จากนั้นก็ออกมาจ
โรงเรียนอนุบาลระหว่างคาบ พวกเด็ก ๆ กำลังเล่นกันอย่างสนุกสนานอยู่ในสนามเด็กเล่น ครึกครื้นมากทีเดียวผอ.โรงเรียนอนุบาลเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ ครั้นจับได้ถึงเงาร่างของฟู่ซือฝาน เธอก็ฉีกยิ้มพลางตะโกนเรียก “หนูฝานฝาน แม่ของหนูมาหาหนูน่ะ ไปที่ห้องทำงานผอ.กับครูหน่อยสิจ๊ะ”เมื่อได้ยินดังนั้น นัยน์ตาทั้งสองของฟู่ซือฝานก็เปล่งประกายคุณป้าสะใภ้มา?คุณลุงเคลียร์กับคุณป้าสะใภ้แล้วเหรอ?คุณป้าสะใภ้ไม่ได้เกลียดเธอ?คุณป้าสะใภ้มาหาเธอตอนนี้ อยากพูดความในใจกับเธอ?“ค่ะ”เธอขานรับเสียงดัง จากนั้นก็รีบไถลลงมาจากสไลด์เดอร์แล้วเยื้องย่างขาน้อย ๆ สั้น ๆ ไปทางผอ. และเดินตามไปอยู่เบื้องหลัง ผอ. อย่างเชื่อฟังเมื่อมาถึงหน้าห้องทำงาน ผอ.ก็ฉีกยิ้มให้ฟู่ซือฝาน “แม่ของหนูอยู่ข้างใน พวกหนูแม่ลูกไปคุยกันเถอะจ๊ะ ครูไม่เข้าไปละ”“อืม ๆ ขอบคุณคุณน้าผอ.นะคะ!” ฟู่ซือฝานแหงนหน้าขึ้นไปเอ่ยอย่างสุภาพ“ไม่เป็นไรจ๊ะ ฝานฝานเป็นเด็กดีจริง ๆ”ผอ. มองดวงตากลมโตของเจ้าตัวน้อย พลางอดไม่ได้ที่จะลูบศีรษะของเธอ ในใจลอบถอนหายใจเฮือกหนึ่งที่แท้ฟู่ซือฝานก็ไม่ใช่ลูกของฟู่เจิงกับคุณผู้หญิงภรรยาคนแรกของเขา แต่เป็นลูกนอกสมรสของเ
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าพ่อของเธอคือคุณลุง เขาคงไม่มีทางยอมรับเธอกลับไปหรอก!ไม่รู้ว่าทำไม เมื่อสบกับสายตาของฟู่ซือฝาน อิเลียกลับกระวนกระวายใจอยู่หน่อย ๆเด็กคนหนึ่งทำไมถึงมีสายตาแบบบนี้ได้?เธอเบือนสายตาหลบ แล้วเปลี่ยนเรื่องคุย “แม่ซื้อขนมมาให้หนู ไม่รู้ว่าหนูชอบกินอะไร? ก็เลยซื้อ ๆ มา หนูลองดูก่อนสิจ๊ะ”ฟู่ซือฝานเปิดถุงพลาสติกดู ข้างในเป็นขนมคละ ๆ กัน มีมันฝรั่งทอด คุกกี้แซนด์วิชโอรีโอ ขนมปังหมูหยองเป็นต้น ของอร่อยมากมายเธอกัดนิ้วชี้พลางมองอิเลียอย่างรู้สึกผิดทีหนึ่ง “หนูชอบขนมพวกนี้ ขอบคุณค่ะคุณน้า”บนใบหน้าของอิเลียเผยรอยยิ้มออกมา “งั้นก็ดีจ๊ะ ต่อไปแม่ค่อยซื้อมาให้หนูอีกนะ”เธอก็ว่าแล้วเชียว เด็กน่ะซื้อตัวง่ายจะตายไป!ขอแค่มีจุดอ่อนก็พอแล้วกลัวว่าฟู่ซือฝานไม่อยากได้ของของเธอ ไม่ยอมเข้าใกล้เธอต้องมีสักวันที่ฟู่ซือฝานจะเปลี่ยนไปเรียกเธอว่าแม่ฟู่ซือฝานพยักหน้า เมื่อได้ยินเสียงออดเข้าเรียนดังขึ้น เธอก็เอ่ยขึ้นว่า “ต้องไปเข้าเรียนแล้ว หนูกลับไปก่อนนะคะ ไว้เจอกันค่ะคุณน้า”“เจอกันจ๊ะ”ฟู่ซือฝานถือถุงขนมกลับไปยังห้องเรียนระหว่างรอเรียนคาบต่อไป เธอก็เอาขนมขึ้นมาวางบนโต๊ะ “เหมิง
เมื่อสบกับสายตาของเด็กน้อย เธอก็อธิบายไปตามสัญชาตญาณว่า “ต่อไปแม่แค่อยากให้เราสามคนพ่อแม่ลูกไปกินข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตา”“พ่อหนูชอบกินเนื้อแพะ!” นัยน์ตาดำขลับของเจ้าตัวน้อยกลอกไปมาทีหนึ่ง “เนื้อแพะน้ำแดง เนื้อแพะนึ่ง เนื้อแพะย่าง ซุปเนื้อแพะ เขาชอบทุกอย่างเลยค่ะ”“งั้นเหรอ?”“ค่ะ” เจ้าหนูน้อยแสดงสีหน้าดังเดิม“โอเค แม่จะจำเอาไว้ ไม่รู้ว่าตอนนี้พ่อของหนูกินข้าวเที่ยงหรือยัง? ฝานฝาน ไม่งั้นหนูโทรหาเขาถามไถ่เขาดูหน่อย?”เผยไต๋เร็วขนาดนี้เลยเหรอ!นี่มันไม่มีความอดทนเกินไปแล้วหรือเปล่า!ฟู่ซือฝานเบะปาก “ไม่ดีมั้งคะ ตอนนี้คุณลุงอาจจะคุยธุรกิจอยู่ก็ได้ หนูจะไปรบกวนเขาไม่ได้”“จะนับว่าเป็นการรบกวนได้ยังไงกัน? ถ้าพ่อหนูได้รับสายจากหนูต้องดีใจมากแน่ ๆ!”ฟู่ซือฝานทำปากจู๋พลางส่ายหน้า “ไม่เอาค่ะ”อิเลียจ้องฟู่ซือฝานด้วยใบหน้าเคร่งขรึม ทว่าเห็นฟู่ซือฝานไม่สะทกสะท้าน ที่ควรกินก็กิน ที่ควรดื่มก็ดื่ม ราวกับปล่อยหมัดไปบนผ้าฝ้าย ทำเธอเดือดเป็นฟืนเป็นไฟเด็กคนนี้ระแวดระวังตัวสูงจริง ๆหลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ อิเลียก็ไปส่งฟู่ซือฝานที่โรงเรียนอนุบาลยังไม่หมดเวลาพัก ฟู่ซือฝานไปนอนพักที่เตียงขอ
อิเลียลุกขึ้นพรวด พลางมองเยี่ยนหวยอย่างเหลือเชื่อ“ถ้าเธอยังเห็นฉันเป็นพี่ชายของเธออยู่ ก็เชื่อฟังฉัน แล้วกลับไปเมืองฟิลาเดลเฟียพรุ่งนี้ซะ!” เยี่ยนหวยนั่งตัวตรงพลางเงยหน้ามองเธออยู่บนโซฟา“ฉันไม่กลับ!” อิเลียเดือดดาลจนแค่นเสียงฮึออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะกลับไปนั่งตรงมุมโซฟา “อยากกลับพี่ก็กลับไปเองซะเลยสิ!”“ฟู่เจิงไม่ใช่คนดี ต่อให้ระหว่างพวกเธอมีลูกด้วยกัน เขาก็ไม่มีทางคบกับเธอ”ก่อนหน้านี้ฟู่เจิงเคยมีเรื่องอื้อฉาวว่ามีชู้ ตอนนี้ก็มีอดีตภรรยาที่มีความสัมพันธ์คลุมเครือมาอีกคน ขอให้เป็นผู้ใหญ่ที่รักลูกสาว ก็จะไม่มีวันเลือกเขาทั้งนั้น“พี่รู้ได้ยังไงว่าเขาไม่ใช่คนดี? พี่รู้ได้ไงว่าเขาจะไม่คบกับฉัน? วันนี้ตอนเที่ยงเรายังไปกินข้าวด้วยกันอยู่เลย!”เมื่อเห็นอิเลียดื้อดึง ในใจของเยียนหวยก็รู้สึกไม่ได้ดั่งใจ เขาแสยะยิ้มออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “พวกเธอไม่ได้ไปกินข้าวด้วยกันตามลำพัง แต่ฟู่ซือฝานอยู่ข้าง ๆ ใช่ไหม?”ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ ฟู่เจิงจะมากินข้าวกับอิเลียตามลำพังได้ยังไง? นอกเสียจากเขาคิดจะเลิกกับเวินเหลียงจริง ๆ“...ใช่ ก็เขาเป็นลูกของพวกเรานี่” เมื่อเห็นว่าถูกเดาทางถูก อิเลียก็พูดอึ
แต่หลังจากเดินตามแผนแล้วถึงได้พบว่า นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยถ้าพ่อแม่คุณลุงคุณป้ารู้ว่าเธอมีลูกนอกสมรสข้างนอก ต้องเข้ามาแทรก และไม่แน่ว่าจะพาตัวเธอกับลูกกลับไป“อิเลีย ผมเข้าใจนะครับคุณในฐานะแม่แท้ ๆ คุณอยากรีบกระชับความสัมพันธ์กับฝานฝาน แต่ก็อย่าตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก โดยเฉพาะมักจะไปหาฝานฝานที่โรงเรียนอนุบาล แบบนี้จะส่งผลกระทบกับชีวิตของเธอได้นะครับ”“ฉันรู้แล้วค่ะ ต่อไปจะไม่ไปหาเขาที่โรงเรียนอนุบาลอีก ฉันเห็นว่าคุณกินน้อยมาก อาหารที่เหลือไม่ถูกปากหรือเปล่า?”ฟู่เจิง “...ก่อนมาผมกินมาบ้างแล้ว”หลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ ฟู่ซือฝานรบเร้าขอกลับกับฟู่เจิงเธอล้วงกลยุทธ์ร้องไห้งอแงชักดิ้นชักงออยู่ที่พื้นของเด็กห้าขวบออกมาอย่างล้ำลึก ไม่มีเหตุผล ทว่าอิเลียฝืนเธอไม่ได้อิเลียทำได้เพียงกลับไปที่บ้านของเซี่ยเจิน“อิเลีย เธอกลับมาแล้วเหรอ?”เมื่อเห็นอลิซนั่งอยู่บนโซฟา อิเลียเดินมานั่งลง “เป็นยังไงบ้าง? ครั้งนี้เธอไปเมืองซีกับซีซาร์ ได้แสร้งทำเป็นเจอโดยบังเอิญ แล้วไปกินข้าวกับเขาอะไรหรือเปล่า?”อลิซเบะปาก “เปล่า”“ทำไมล่ะ? โอกาสดีขนาดนั้นทำไมเธอไม่คว้าเอาไว้?”“เขางานยุ่งมาก ฉันกล
อิเลียจัดผมด้วยท่าทางราวกับไม่มีเจตนาอื่น หน้าตาเผยความตื่นเต้นออกมาดูท่าเธอจะเลือกวิธีถูกจริง ๆในตอนนี้เธอเพิ่งเข้าใกล้ฟู่ซือฝานไม่เท่าไร ท่าทีของฟู่เจิงเขาก็ผ่อนคลายลงเยอะแล้วผ่านไปยี่สิบนาที ฟู่เจิงก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องรับรองนี่เป็นการเจอกันครั้งที่สองหลังจากวันนั้นเขานั่งลงข้าง ๆ ฟู่ซือฝาน พลางพยักหน้าให้อิเลียเบา ๆ “รบกวนแล้ว ไม่ถือสาที่ผมมาร่วมโต๊ะด้วยใช่ไหม?”“ไม่ถือสา นั่งเถอะค่ะ”สีหน้าของอิเลียเย็นชา ราวกับยังอยู่ต่อหน้าคุณหญิงและฟู่ชิงเยว่ครั้งก่อน เธอไม่ได้โกรธที่ฟู่เจิงปฏิเสธเธออย่างไร้ความปรานี“งานผมยุ่งมาก ยากที่จะใส่ใจคุณกับฝานฝานได้มากขนาดนั้น”“ฝานฝานเป็นลูกของฉัน นี่เป็นสิ่งที่สมควรอยู่แล้ว ฉันไม่รู้ว่าคุณจะมา ก็เลยสั่งอาหารไปสุ่ม ๆ เดี๋ยวอาหารมาเสิร์ฟคุณก็ดูแล้วกันว่าอยากจะสั่งเพิ่มไหม”“ผมไม่เลือกกิน” ฟู่เจิงตอบจากนั้นพนักงานก็เริ่มมาเสิร์ฟอาหารฟู่เจิงมองเนื้อแพะที่มาเสิร์ฟเต็มโต๊ะ เขาเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก้มหน้าไปมองฟู่ซือฝานฟู่ซือฝานก้มศีรษะน้อย ๆ อย่างกระวนกระวายอิเลียหยิบตะเกียบขึ้นมา “ไม่ต้องเกรงใจ กินเลยค่ะ”ฟู่เจิงลังเลอยู่ครู่หนึ่
เจียงเฉิงเที่ยงวันศุกร์ อิเลียไปรับฟู่ซือฝานออกไปกินข้าวเที่ยงที่คฤหาสน์ย่านซิงเหอวานเธอฉีกยิ้มพลางพูดกับฟู่ซือฝานว่า “เมื่อวานแม่ว่าจะไปรับหนูที่โรงเรียนอนุบาล จู่ ๆ ก็นึกถึงคำพูดของหนูเมื่อครั้งก่อนได้ ก็เลยมาวันนี้ วันนี้ตอนบ่ายแม่จะพาหนูไปเล่นดี ๆ เป็นยังไงจ๊ะ?”ฟู่ซือฝานเอียงคอพลางครุ่นคิด “ตอนบ่ายหนูต้องทำการบ้าน แค่กินข้าวเที่ยงก็พอแล้วค่ะ”“ก็ได้ งั้นหนูคิดไว้หรือเปล่าว่าอยากกินอะไร?”“ไปร้านอาหารที่มีเมนูเนื้อแพะแนะนำแล้วกันค่ะ” ฟู่ซือฝานเอ่ยขึ้นด้วยทีท่าจริงจัง “วันนี้คุณลุงบอกว่าจะไปกินข้าวเที่ยงเป็นเพื่อนหนู ไม่รู้ว่าจะมาไหม”นัยน์ตาอิเลียวาบความปลื้มปีติออกมา “จริงเหรอ?”“เขาเคยบอกไว้แบบนี้ค่ะ คุณน้าคะ ที่คุณน้ารับหนูออกมา ไม่ใช่เป็นเพราะอยากกระชับความสัมพันธ์กับหนูสองต่อสองเหรอคะ? ทำไมถึงหวังให้คุณลุงมาด้วยล่ะคะ?”เจ้าตัวน้อยเอ่ยถามขึ้นด้วยใบหน้าจริงจัง“น้า...น้ามีเรื่องอยากพูดคุยกับพ่อของหนูน่ะ แล้วก็หวังว่าเราจะได้กินข้าวด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว” อิเลียรีบหาข้ออ้างทันทีเจ้าเด็กคนนี้ หูตาเฉียบแหลมจริง ๆ“อ้อ”“น้าจะหาร้านอาหารเนื้อแพะเดี๋ยวน
“เรียกฉันทำไม?” เยี่ยนหวยมองเธอด้วยสีหน้าไร้เดียงสา“ตอนนี้มันฤดูร้อน”ผ่านฤดูใบไม้ผลิมาแล้ว“ฉันแค่นึกถึงวันนั้นที่ไปติวให้เธอแล้วเจอแม่เธอเข้าโดยบังเอิญ เธอคิดไปถึงไหน?” เยี่ยนหวยเลิกคิ้วถังซือซือชะงักไปมีครั้งหนึ่งตอนที่เธอติวอยู่ในบ้าน แล้วบังเอิญเจอแม่ของเธอเข้าจริง ๆ แต่นั่นมันเรื่องตอนเทอมที่สองเยี่ยนหวยต้องจงใจพูดถึงวันนั้นตอนเทอมแรกแน่ ๆ ให้เธอเข้าใจผิดถ้าเธอชี้ไปเลยว่าเยี่ยนหวยจำผิด ก็จะเข้าแผนของเยี่ยนหวย เหมือนว่าเธอยังไม่เคยลืมเรื่องในอดีต คิดถึงเรื่องราวเหล่านั้นของเธอกับเยี่ยนหวยอยู่ตลอด“ตอนนี้ไม่ใช่ฤดูร้อนเหรอ? นายคิดไปถึงไหนอีก?” เธอปัดตกเรื่องนี้ไปอย่างมั่นใจทันทีหลังพูดจบ เธอก็หมุนตัวเดินไปด้านหน้าต่อ “ไม่พูดแล้ว รีบไปร้านถัดไปเถอะ”อยู่ข้างนอกจนถึงสี่ทุ่ม ทั้งสองคนถึงกลับไปยังโรงแรมด้วยกันถังซือซืออยากเรียกรถกลับไปเอง ไม่อยากให้เยี่ยนหวยไปส่งเธอเยี่ยนหวยจึงเอ่ยไปตามตรงว่า “ฉันพักอยู่ที่โรงแรมเดียวกันกับเธอ”ถังซือซือ “...”นี่ไม่ใช่ครั้งแรกแล้วคราวก่อนตอนที่เวินเหลียงถ่ายรูปเยี่ยนหวยรูปแรกที่เมืองฟิลาเดลเฟีย เวินเหลียงก็ถามว่าช่วงนี้เยี่ยนหวย
เมืองซีในฐานะเมืองใหญ่ของเจียงหนาน ประเภทของกินเล่นมีมากมาย ของกินเอกลักษณ์ที่ขึ้นชื่อไปทั่วประเทศอาทิ เต้าหู้เหม็น ไส้กรอกยักษ์ เส้นหมีเฝิ่น กุ้งเผ็ดเป็นต้นถังซือซือเคยมาเมืองซีตอนมาทำงานต่างถิ่นก่อนหน้านี้ เวลาค่อนข้างกระชั้นชิด จึงทำได้เพียงเดินช็อปปิงที่อื่น แต่เพิ่งเคยมาถนนคนเดินที่นี่เป็นครั้งแรกเธอซื้อไส้กรอกยักษ์สองชิ้นก่อน และแบ่งให้เยี่ยนหวยหนึ่งชิ้นกินไปได้เพียงครึ่งเดียว ถังซือซือก็หยุดอยู่ตรงหน้าร้านขายขนมฉือปา เธอกลืนน้ำลายแล้วถามขึ้นว่า “รู้ไหมคะว่าตรงไหนมีถังขยะบ้าง?”“ที่เหลือเธอไม่กินแล้วเหรอ?”“อืม”“ไม่อร่อย?”“ไม่ใช่ อร่อยมาก แต่ว่ายังมีของอร่อยอื่น ๆ อีกเยอะแยะ ฉันอยากเก็บท้องเอาไว้”เยี่ยนหวย “...”“เอามาให้ฉันก็ได้” เยี่ยนหวยรับไส้กรอกครึ่งชิ้นที่เหลืออยู่มาจากในมือของเธอ ก่อนจะเติมเข้าไปในท้องอย่างไม่มีภาระใด ๆถังซือซือซื้อขนมฉือปาแล้วเธอทำตัวอย่างกับโจร แต่ละร้านไม่ยอมปล่อยไปเลย ทว่าก็ชิมเพียงสองสามคำ ทั้งหมดที่เหลือก็โยนให้เยี่ยนหวยอย่างสบายใจเยี่ยนหวยเพลิดเพลินกับพฤติกรรมพรรค์นี้ ในใจเข้าใจได้ในทันที ราวกับกลับไปเมื่อเจ็ดปีก่อนหลังเรียนอย
“มันเรื่องอะไรกันแน่?”ก่อนหน้านี้ที่เยี่ยนหวยอยู่ที่เจียงเฉิง กลับไม่ได้สังเกตเท่าไรว่าอิเลียกำลังทำอะไรอยู่ เธอออกไปข้างนอกทุกวัน เยี่ยนหวยคิดเพียงแค่ว่าเธอกำลังไปเที่ยวเล่นถังซือซือไม่ใช่คนที่จะกุเรื่องมั่วซั่ว เธอพูดแบบนี้ ต้องรู้อะไรบางอย่างแน่ ๆ“พูดไปแล้วก็ยาว ตอนแรกฟู่ชิงเยว่อาของฟู่เจิงรับเลี้ยงเด็กกำพร้าอยู่ที่เมืองนอก ตอนนี้อายุห้าขวบแล้ว ปีที่แล้วอาเหลียงแท้ง แล้วฟู่ชิงเยว่ติดธุระพอดี เลยส่งเด็กคนนั้นกลับประเทศมาให้ฟู่เจิงดูแลช่วงหนึ่ง ฟู่เจิงเลยให้เด็กคนนั้นอยู่ในประเทศไปเลยเพื่อง้ออาเหลียง ปกติจะมาอยู่เป็นเพื่อนอาเหลียง และเด็กคนนั้นเองก็เข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้านของฟู่เจิง แต่ว่า...”เยี่ยนหวยเดาเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไปออกแล้ว จึงรับช่วงเอ่ยขึ้นต่อว่า “แต่ว่าจู่ ๆ ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวบอกว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกของฟู่เจิงกับอิเลีย?”“ใช่ รายละเอียดฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน เหมือนว่าจะเกี่ยวข้องกับอาของฟู่เจิงนิดหน่อย เธอรู้ตัวตนของเด็กผู้หญิงคนนั้นมาตั้งแต่แรก และไม่ชอบอาเหลียงมาโดยตลอด ยังไงตอนนี้อาเหลียงก็อยู่กับฉัน เขากับฟู่เจิงทะเลาะกันอีกแล้ว”เยี่ยนหวยเอ่ยควา
“เยี่ยนหวย!!”ประตูลิฟต์เปิดออก ทั้งสองคนเข้าไปกันตามลำดับ แล้วลงไปยังลานจอดรถใต้ดินตรงมุมเลี้ยว ในหัวของผู้หญิงสวมหน้ากากอนามัยวาบภาพที่เห็นเมื่อครู่ขึ้นมา หมัดที่ห้อยอยู่กำขึ้นแน่น เธอก้มหน้าทั้งดวงตาที่ประกายความอำมหิตออกมาหากเวินเหลียงอยู่ตรงนี้ คงจะจำได้แน่ ๆ ว่าผู้หญิงที่สวมหน้ากากอนามัยคนนี้ก็คืออลิซที่เธอมาเจียงเฉิง ก็เพราะเยี่ยนหวย เยี่ยนหวยมาเมืองซีเมื่อสองวันก่อน เธอเองก็ตามมาเช่นกันอิเลียถามเลขาของเยี่ยนหวย เมื่อรู้โรงแรมของเขาก็บอกกับอลิซทีแรกอลิซคิดว่าเยี่ยนหวยมาทำธุระที่เมืองซี จากนั้นก็ค่อย ๆ พบว่ามันไม่ชอบมาพากลเยี่ยนหวยไม่ยุ่งเลยสักนิดแถมยังมีเวลาไปสอบถามร้านอาหารท้องถิ่น ถนนคนเดิน จุดชมวิวของเมืองซีเป็นต้น อีกต่างหาก ไม่เหมือนมาทำงานต่างถิ่น แต่เหมือนมาเที่ยวเสียมากกว่าจนกระทั่งวันนี้ เมื่อได้เห็นภาพนั้น อลิซถึงเข้าใจทุกอย่างที่แท้คนที่ซีซาร์ชอบไม่ใช่เฟย์ แต่เป็นถังซือซือเพื่อนของเฟย์!ที่แท้เขาไม่ได้มาทำงานต่างถิ่นที่เมืองซี แต่มาเพื่อตามจีบถังซือซือ!ที่เขาสอบถามร้านอาหารและจุดชมวิวของเมืองซี ก็เพื่อพาถังซือซือไปวันนี้!ในใจอลิซอิจฉาเป็นอย่างม
เมื่อเยี่ยนหวยได้ยินดังนั้น ก็รู้ในทันทีว่าเวินเหลียงไม่ได้รักษาคำมั่นสัญญาแต่เขาก็เตรียมตัวไว้นานแล้ว วันนั้นหลังจากกลับไปก็ให้คนไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด แล้วตัดคลิปมาใส่ไว้ในโทรศัพท์เมื่อได้ยินถังซือซือถามขึ้น เขาก็รีบส่งให้เธอทันที “ก็แค่คนที่ไม่สลักสำคัญอะไรคนหนึ่ง ฉันปฏิเสธเขาไปแล้ว”ถังซือซือดูคลิปรอบหนึ่ง ก่อนจะเบะปาก “อยู่ต่างประเทศคุณเยี่ยนมีสาวมาชอบเพียบเลยนะคะ”“แต่ฉันสนใจอยากจะครอบครองแค่เธอ”“จะยอมให้ฉันครอบครองไหม คุณถัง?”เยี่ยนหวยนั่งเอี้ยวตัว แขนข้างหนึ่งพาดอยู่บนพนักพิงเก้าอี้ เขาโน้มตัวเข้ามา ตัวท่อนบนใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ กลิ่นหอมฉุยจาง ๆ และกลิ่นอายของชายหนุ่มที่มาพร้อมกับการบุกรุกโอบล้อมเธอเอาไว้เขาดันแว่นตากรอบทอง สีหน้าอบอุ่น ฉีกยิ้มทว่าก็ราวกับไม่ยิ้ม มุมปากกระตุกรอยยิ้มเล็กน้อย ค่อนข้างมีความรู้สึกประเภทหน้าเนื้อใจเสือถังซือซือเหม่อไปครู่หนึ่ง“คุณถัง?”ใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้าขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ไออุ่นร้อนปะทะเข้ามาที่หน้า ในที่สุดถังซือซือก็ได้สติกลับมา เธอเอนหลังพลางตบหน้าอก “นายทำฉันตกใจหมด...ไป ไปเดินหาของกินเล่นกันเถอะ”เธอลุกขึ้นและเดินออกไปอย่าง