“ไม่ใช่ครับ ผมมีเรื่องอยากจะให้คุณนายช่วยน่ะครับ”คุณนายจอร์จสูบบุหรี่คำหนึ่ง ก่อนจะเลิกคิ้ว “ในเมื่อนายอยากให้ฉันช่วย หรือว่าไม่ได้คิดจะเตรียมเอาตัวเองเป็นของขวัญขอบคุณ?”“ผมเตรียมของขวัญขอบคุณอย่างอื่นเอาไว้ให้คุณนายเรียบร้อยแล้ว”“ฉันอยากได้แค่นายเท่านั้น”“คุณนาย!” ฟู่เจิงเงยหน้ามองคุณนายจอร์จ“เอาละ ๆ” คุณนายจอร์จยอมประนีประนอม “นายอยากให้ฉันช่วยอะไรนายเหรอ?”เป็นคนรักไม่ได้ เป็นเพื่อนก็ยังดีหลังฟู่เจิงพูดความต้องการของตัวเองเสร็จ คุณนายจอร์จก็รีบพยักหน้าทันที “เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เองน่ะเหรอ ง่ายจะตายไป?”พูดจบเธอก็ทอดถอนใจ “ชาลส์ นายรักภรรยานายมาก ฉันละอิจฉาเธอจริง ๆ”หลังฟู่เจิงออกไป คุณนายจอร์จก็เอารูปที่ฟู่เจิงทิ้งเอาไว้ให้ลูกน้อง ให้พวกเขาไปพาตัวคนมาโดยเร็วที่สุดริชาร์ดถูกคลุมศีรษะเอาไว้ และถูกนำตัวมายังสถานที่ไม่คุ้นเคยแห่งหนึ่งเขากลัวจนสีหน้าซีดเผือด สั่นเทาไปทั้งเนื้อตัวหลังสัญญาของริชาร์ดและเวินเหลียงมีผล ในช่วงเวลานี้เขาทำได้เพียงให้บริการเวินเหลียงเพียงคนเดียวเท่านั้น จะไม่ไปบาร์ก็ได้ในขณะที่กำลังพักผ่อนอยู่ที่บ้าน จู่ ๆ ด้านนอกก็มีเสียงเคาะประตูแว่วดั
คุณนายจอร์จเคยเป็นแขกประจำที่บาร์นั้น เพียงแต่ช่วงนี้เธอได้ตัวเจสันไป กำลังหลงหัวปักหัวปำ ไม่ได้ไปที่บาร์นั่นมาระยะหนึ่งแล้วส่วนริชาร์ดเพิ่งเข้ามาได้ไม่นาน ฉะนั้นคุณนายจอร์จจึงไม่รู้จักเขาริชาร์ด “คุณนายต้องมีเจตนาที่จะใช้งานของตัวเองอยู่แล้ว”คุณนายจอร์จ “?”ไม่ได้มีแฟนอยู่แล้วหรอกเหรอ?รู้ตัวถึงขนาดนี้เชียว?“งั้นฉันจะพูดตรง ๆ เลยแล้วกันนะ ฉันคิดว่านายไม่เลวทีเดียว เลยอยากจะเลี้ยงดูนาย นายคิดว่ายังไง?”ริชาร์ดพยักหน้าโดยอัตโนมัติ “นี่ถือเป็นเกียรติของผมมากครับ”คุณนายจอร์จ “??”“นายแน่ใจนะว่าจะตอบตกลง?”“แน่นอนอยู่แล้วครับ”คงไม่ได้จับผิดคนใช่ไหม? คุณนายจอร์จคิดเธอล้วงรูปใบนั้นออกมาเปรียบเทียบอยู่ครู่หนึ่งไม่ผิดนี่“นี่เป็นสัญญา นายดูก่อนสิ” คุณนายจอร์จเอาสัญญาที่เตรียมเอาไว้ตั้งนานแล้วออกมาวางบนโต๊ะ หยิบมาแล้วเซ็นได้เลยริชาร์ดเดินเข้าไปหยิบมาอ่านโดยละเอียดนั่นคือสัญญารับเลี้ยงดูฉบับหนึ่งหลังจากเซ็นสัญญาเสร็จแล้ว ริชาร์ดก็จะได้รับเงินสดหนึ่งล้านเจ็ดแสนห้าหมื่นบาท หลังจากนี้จะได้รับเงินเดือนละหนึ่งล้านเจ็ดแสนห้าหมื่นบาทถึงสามล้านห้าแสนบาท ไม่พอแค่นี้ยังมีของขวั
เวินเหลียงหงุดหงิดจนลูบหน้าผาก ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะเนี่ย?งั้นต่อไปเธอควรทำยังไงดี?ยังต้องหลอกต่อไปหรือเปล่า?หรือว่าไม่งั้นก็บอกความจริงกับฟู่เจิงไปเลยละกัน?เวินเหลียงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะลงมือทำงานต่อตอนเที่ยงเธอได้รับอีเมลฉบับหนึ่งเป็นอีเมลที่ส่งมาจากบัญชีปริศนาเธอเปิดดูทั้งลังเล พบว่าเป็นรูปภาพสองสามรูปในภาพราวกับเป็นการแอบถ่าย อยู่ห่างจากเป้าหมายเล็กน้อย ทว่าก็ทำให้แยกแยะได้พอดีว่าตัวละครเอกในภาพคือริชาร์ดเขากำลังจูบอย่างเร่าร้อนแนบชิดกับหญิงสาวรูปร่างเผ็ดร้อนคนหนึ่งเบื้องหลังของหญิงสาวพิงอยู่บนส่วนหน้าของรถยนต์ โลโก้รถที่เผยออกมาบอกได้ว่าราคาของรถยนต์คันนี้ไม่ธรรมดาเวินเหลียงราวกับเข้าใจแล้วว่าทำไมริชาร์ดถึงยกเลิกสัญญาเพราะมีคนที่มีเงินมากกว่าชอบเขาแต่ว่าทำไมถึงได้บังเอิญขนาดนี้ล่ะ?ริชาร์ดเพิ่งยกเลิกสัญญา ก็มีคนส่งรูปที่เขาทำท่าทีสนิทสนมกับผู้หญิงคนอื่นมาทันทีในหัวเวินเหลียงพลันวาบภาพของฟู่เจิงขึ้นมาทันทีหรือว่าเป็นแผนที่ฟู่เจิงคิดขึ้น?ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาจากด้านนอก ตามมาด้วยแจ้งเตือนของโทรศัพท์ที่สว่างขึ้นฟู่เจิงส่งไลน์ม
ฟู่เจิงทำได้เพียงอธิบาย “ฉันส่งให้คนไปสะกดรอยตามเขา ทีแรกคิดจะหาจุดอ่อนของเขา แต่คิดไม่ถึงว่าจะถ่ายได้รูปพรรค์นี้ออกมา อาเหลียง เธอเชื่อฉันนะ รูปนี้เป็นของจริงแน่นอน ฉันแค่กลัวว่าเธอจะไม่เชื่อฉัน ก็เลยใช้บัญชีปริศนาส่งให้เธอ”เวินเหลียงยกสองมือขึ้นมากอดอก เธอมองฟู่เจิงด้วยท่าทีครุ่นคิด สายตาเปล่งประกาย เงียบไม่พูดอะไร แค่ฟังก็รู้แล้วว่าโกหกถ้าเขาส่งให้คนสะกดรอยตามริชาร์ดไปจริง ๆ ต้องสืบเจอแล้วว่าริชาร์ดเป็นบริกรอยู่ที่บาร์ แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าเขาไม่รู้เลยสักนิดฟู่เจิงฉีกยิ้มอย่างสดใส ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างจริงจังว่า “อาเหลียง เธอเชื่อฉันเถอะนะ”เวินเหลียงหัวเราะพร้อมชี้ไปที่ผู้หญิงที่อยู่ในรูปภาพ “คุณรู้จักคนนี้หรือเปล่า”“ไม่รู้จัก...รู้จัก”เมื่อสบกับสายตาของเวินเหลียง นัยน์ตาฟู่เจิงก็เปล่งประกาย เขาเปลี่ยนคำพูดทันที ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ “ฉันใช้ให้เขาไปอ่อยริชาร์ด ไม่คิดเลยว่าเขาจะติดกับ ฉันบอกกับเธอเลยนะ ต่อให้ฉันไม่ได้ให้เขาไป ไม่ช้าก็เร็วคนอย่างริชาร์ดก็นอกใจอยู่ดี”“เพราะงั้นฉันต้องขอบคุณคุณงั้นสิ?”“อืม”“อืม ผีทะเลแบบคุณ ออกไปซะ”เธอไม
ด้านซ้ายของเขาเป็นชายแปลกหน้าคนหนึ่ง ส่วนด้านขวาคือหัวหน้ากองบรรณาธิการที่เวินเหลียงรู้จักมีช่างแต่งหน้าและพวกผู้ช่วยเดินตามอยู่ด้านหลังเวินเหลียงมองฟู่เจิงพลางกระตุกรอยยิ้มข้างมุมปาก ก่อนจะเอ่ยขึ้นตามสัญชาตญาณว่า “คุณมาได้ยังไง?”พวกหัวหน้ากองบรรณาธิการหยุดลงตรงหน้าเวินเหลียง เมื่อได้ยินเธอเอ่ยขึ้นมาแบบนี้ ก็กำลังอยากจะถามเธอว่ารู้จกกับคุณชาลส์หรือเปล่า เพราะเป็นคนจีนโพ้นทะเลเหมือนกัน และยังอยู่ที่เมืองฟิลาเดลเฟียเหมือนกัน รู้จักกันก็เป็นเรื่องปกติใครจะไปรู้ว่าผู้ชายที่อยู่ทางด้านซ้ายจะชำเลืองมองนางเอกอย่างไม่พอใจทีหนึ่ง ก่อนจะก้าวหน้าขึ้นมาก้าวหนึ่งแล้วเอ่ยว่า “คุณคือช่างภาพที่รับผิดชอบถ่ายภาพในวันนี้ใช่ไหม? ทำไมพูดจากับคุณชาลส์แบบนี้?”ฟู่เจิงหัวเราะชืด ๆ ขึ้นมาเสียงหนึ่งพลางกะพริบตาไปทางเวินเหลียง “ไม่เป็นไร”หัวหน้ากองบรรณาธิการเอ่ยขึ้นไกล่เกลี่ยให้จบลงด้วยดี “เฟย์คงไม่ได้ตั้งใจน่ะค่ะ มา เฟย์ ฉันจะแนะนำให้คุณได้รู้จักนะ ท่านนี้คือคุณชาลส์ผู้รับผิดชอบของบราวน์เทคโนโลยี ส่วนนี่คือเฟย์ ช่างภาพที่รับผิดชอบถ่ายให้คุณวันนี้ค่ะ”เวินเหลียงเข้าใจอะไรบางอย่างทันที เธอจ้องฟู่เจิงอ
หัวหน้ากองบรรณาธิการทำได้เพียงเดินไปดู เธอถามขึ้นว่า “มีอะไรเหรอ? เฟย์”เวินเหลียงเอารูปในกล้องให้เธอดู “หามุมได้ไม่ดี ถ่ายออกมาไม่สวยน่ะค่ะ”หัวหน้ากองบรรณาธิการดูรูป เธอเลื่อนดูภาพก่อนหน้าสองสามภาพ ก่อนจะเงยหน้ามองเธออย่างไม่เข้าใจ “นี่ก็ดีมากไม่ใช่เหรอ?”เวินเหลียง “นี่ดีเหรอคะ?”“นี่ไม่ดีเหรอ?”“ดีตรงไหนเหรอคะ?”“คุณตั้งเงื่อนไขกับตัวเองไว้สูงหรือเปล่า? ไม่งั้นให้คุณชาลส์มาดูเองเป็นยังไง?”เวินเหลียงชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเงยหน้ามองฟู่เจิง “คุณมาดูหน่อยสิ”ฟู่เจิงลุกขึ้นเดินมา ดูภาพในกล้องตามคำที่เธอว่า ก่อนจะเอ่ยขึ้นพร้อมฉีกยิ้มว่า “ไม่เลวเลย เฟย์ ฝีมือเธอดีมากเลยนะเนี่ย”ไวต์เดินมาชำเลืองมองภาพทีหนึ่ง “?”คนรูปหล่ออย่างกับนายแบบมาเอง ใครถ่ายก็ไม่น่าเกลียดทั้งนั้นแหละ ดูออกจากตรงไหนไม่ทราบว่าฝีมือดี?เฮ้อ คุณชาลส์ใจดีจริง ๆ“พูดมาตามจริง”“ที่ฉันพูดคือความจริง”เวินเหลียงเงียบไป เธอเม้มปากแน่น หรือว่าจะเป็นปัญหาของตัวเธอเอง?เธอมักจะคิดว่าฟู่เจิงในรูปดูไม่หล่ออันที่จริงไม่ใช่ไม่หล่อ ฟู่เจิงที่อยู่ในภาพยังคงหล่อเหลาและมีเสน่ห์น่าดึงดูด ทว่าเธอมักคิดว่ายังถ่ายความหล
“ถอดเสื้อโค้ตข้างนอกออกเถอะ เราไปถ่ายตรงนั้นกัน”ไวต์ตกตะลึง “เปลี่ยนที่เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?! ผมเห็นคุณถ่ายไปไม่กี่รูปเอง”“ทั้งหมดต้องการแค่สี่รูป ไม่ต้องถ่ายเยอะ”“ถ้าคุณชาลส์เลือกออกมาได้ไม่ครบสี่รูปล่ะ?”“ต้องเลือกได้แน่นอนอยู่แล้ว”รูปที่สามฟู่เจิงนั่งอยู่บนโซฟาเวินเหลียงอยากถ่ายทั้งตัวเธอเอ่ย “เป็นธรรมชาติหน่อย อย่าแข็งเกินไป ปกติคุณนั่งยังไงก็นั่งอย่างนั้น”มองขายาว ๆ ที่ไม่มีที่ให้วางของฟู่เจิงในรูป เวินเหลียงก็พยักหน้าอย่างพอใจ“เปลี่ยนที่”ไวต์ “เร็วขนาดนี้เชียว?”“อืม”ฉากเบื้องหลังอีกสองสามฉากที่เหลือ เวินเหลียงไม่ชอบ เธอครุ่นคิดแล้วเอ่ยกับฟู่เจิงว่า “เราไปถ่ายข้างนอกกันเถอะ ถ่ายรูปในรถสักรูป”“โอเค”“รถคุณอยู่ไหน?”“ลานจอดรถใต้ดิน”เวินเหลียงหมุนตัวไปถามหัวหน้ากองบรรณาธิการกับไวต์ “รถของใครจอดอยู่หน้าตึกบ้างคะ?”“ของฉัน ใช้ของฉันก็แล้วกัน” หัวหน้ากองบรรณาธิการเอ่ยขึ้นว่า “เพิ่งล้างมาเมื่อสองสามวันก่อนพอดี”ทีมงานสองสามคนหยิบแผ่นรีแฟล็กซ์ จากนั้นลงไปพร้อมกันฟู่เจิงขึ้นไปนั่งยังตำแหน่งคนขับแล้วลดกระจกลงครึ่งหนึ่ง“มองทางนี้ ระวังสายตา คุณทำเป็นว่าเขาคือ
ระหว่างนั้นเวินเหลียงไปห้องน้ำ ขณะออกมาก็ได้ยินว่าในโถงมีเสียงทะเลาะวิวาทกัน เธอไม่อยากกลับไปในห้องรับรอง จึงยืนดูเรื่องสนุกอยู่ตรงปากบันไดครู่หนึ่งไม่นานเธอก็เผือกจนเข้าใจเรื่องราวผู้หญิงสองคนแย่งผู้ชายคนเดียวกันผู้ชายเป็นแฟนกับผู้หญิงหนึ่งในนั้น ทว่านอกใจไปคบกับอีกคน และอยากเลิกกับแฟนสาวไม่คิดเลยว่าผู้หญิงจะไม่ยอมตกลง เธอบอกว่าเธอรักแฟนของเธอมาก ๆ ยังบอกอีกว่าไม่รังเกียจเรื่องที่ผู้ชายนอกใจ ต่อให้หลังจากนี้ผู้ชายจะยังมีความสัมพันธ์กับมือที่สามอยู่ เธอก็ไม่รังเกียจเวินเหลียง “??”มีคนพรรค์นี้อยู่ด้วยเหรอเนี่ย?หลังเผือกจนเข้าใจเรื่องทุกอย่างแล้ว เวินเหลียงก็เดินกลับช้า ๆ ในหัวพลันวาบเรื่องหนึ่งขึ้นมาราวกับเธอจะละเลยไปเรื่องหนึ่งนั่นก็คือ ไม่ว่าจะคบกับเมิ่งเซ่อหรือว่าริชาร์ด เมื่อเวินเหลียงเห็นรูปที่พวกเขาทำท่าทีสนิทสนมกับผู้หญิงคนอื่น ตอนที่ถูกฟู่เจิงบังคับให้เลิก ก็ไม่เคยมีความรู้สึกเสียใจเลยสักนิด ราวกับมันไม่เกี่ยวกับตัวเธออย่างนั้นเพราะเธอไม่เคยชอบพวกเขาเลยบางทีฟู่เจิงเองอาจจะสัมผัสได้ถึงจุดนี้เช่นกัน ถึงได้ไม่เกรงกลัวอะไร ทั้งวางแผนเขี่ยเมิ่งเซ่อให้ออกไป และวา
อิเลียลุกขึ้นพรวด พลางมองเยี่ยนหวยอย่างเหลือเชื่อ“ถ้าเธอยังเห็นฉันเป็นพี่ชายของเธออยู่ ก็เชื่อฟังฉัน แล้วกลับไปเมืองฟิลาเดลเฟียพรุ่งนี้ซะ!” เยี่ยนหวยนั่งตัวตรงพลางเงยหน้ามองเธออยู่บนโซฟา“ฉันไม่กลับ!” อิเลียเดือดดาลจนแค่นเสียงฮึออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะกลับไปนั่งตรงมุมโซฟา “อยากกลับพี่ก็กลับไปเองซะเลยสิ!”“ฟู่เจิงไม่ใช่คนดี ต่อให้ระหว่างพวกเธอมีลูกด้วยกัน เขาก็ไม่มีทางคบกับเธอ”ก่อนหน้านี้ฟู่เจิงเคยมีเรื่องอื้อฉาวว่ามีชู้ ตอนนี้ก็มีอดีตภรรยาที่มีความสัมพันธ์คลุมเครือมาอีกคน ขอให้เป็นผู้ใหญ่ที่รักลูกสาว ก็จะไม่มีวันเลือกเขาทั้งนั้น“พี่รู้ได้ยังไงว่าเขาไม่ใช่คนดี? พี่รู้ได้ไงว่าเขาจะไม่คบกับฉัน? วันนี้ตอนเที่ยงเรายังไปกินข้าวด้วยกันอยู่เลย!”เมื่อเห็นอิเลียดื้อดึง ในใจของเยียนหวยก็รู้สึกไม่ได้ดั่งใจ เขาแสยะยิ้มออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “พวกเธอไม่ได้ไปกินข้าวด้วยกันตามลำพัง แต่ฟู่ซือฝานอยู่ข้าง ๆ ใช่ไหม?”ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ ฟู่เจิงจะมากินข้าวกับอิเลียตามลำพังได้ยังไง? นอกเสียจากเขาคิดจะเลิกกับเวินเหลียงจริง ๆ“...ใช่ ก็เขาเป็นลูกของพวกเรานี่” เมื่อเห็นว่าถูกเดาทางถูก อิเลียก็พูดอึ
แต่หลังจากเดินตามแผนแล้วถึงได้พบว่า นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยถ้าพ่อแม่คุณลุงคุณป้ารู้ว่าเธอมีลูกนอกสมรสข้างนอก ต้องเข้ามาแทรก และไม่แน่ว่าจะพาตัวเธอกับลูกกลับไป“อิเลีย ผมเข้าใจนะครับคุณในฐานะแม่แท้ ๆ คุณอยากรีบกระชับความสัมพันธ์กับฝานฝาน แต่ก็อย่าตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก โดยเฉพาะมักจะไปหาฝานฝานที่โรงเรียนอนุบาล แบบนี้จะส่งผลกระทบกับชีวิตของเธอได้นะครับ”“ฉันรู้แล้วค่ะ ต่อไปจะไม่ไปหาเขาที่โรงเรียนอนุบาลอีก ฉันเห็นว่าคุณกินน้อยมาก อาหารที่เหลือไม่ถูกปากหรือเปล่า?”ฟู่เจิง “...ก่อนมาผมกินมาบ้างแล้ว”หลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ ฟู่ซือฝานรบเร้าขอกลับกับฟู่เจิงเธอล้วงกลยุทธ์ร้องไห้งอแงชักดิ้นชักงออยู่ที่พื้นของเด็กห้าขวบออกมาอย่างล้ำลึก ไม่มีเหตุผล ทว่าอิเลียฝืนเธอไม่ได้อิเลียทำได้เพียงกลับไปที่บ้านของเซี่ยเจิน“อิเลีย เธอกลับมาแล้วเหรอ?”เมื่อเห็นอลิซนั่งอยู่บนโซฟา อิเลียเดินมานั่งลง “เป็นยังไงบ้าง? ครั้งนี้เธอไปเมืองซีกับซีซาร์ ได้แสร้งทำเป็นเจอโดยบังเอิญ แล้วไปกินข้าวกับเขาอะไรหรือเปล่า?”อลิซเบะปาก “เปล่า”“ทำไมล่ะ? โอกาสดีขนาดนั้นทำไมเธอไม่คว้าเอาไว้?”“เขางานยุ่งมาก ฉันกล
อิเลียจัดผมด้วยท่าทางราวกับไม่มีเจตนาอื่น หน้าตาเผยความตื่นเต้นออกมาดูท่าเธอจะเลือกวิธีถูกจริง ๆในตอนนี้เธอเพิ่งเข้าใกล้ฟู่ซือฝานไม่เท่าไร ท่าทีของฟู่เจิงเขาก็ผ่อนคลายลงเยอะแล้วผ่านไปยี่สิบนาที ฟู่เจิงก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องรับรองนี่เป็นการเจอกันครั้งที่สองหลังจากวันนั้นเขานั่งลงข้าง ๆ ฟู่ซือฝาน พลางพยักหน้าให้อิเลียเบา ๆ “รบกวนแล้ว ไม่ถือสาที่ผมมาร่วมโต๊ะด้วยใช่ไหม?”“ไม่ถือสา นั่งเถอะค่ะ”สีหน้าของอิเลียเย็นชา ราวกับยังอยู่ต่อหน้าคุณหญิงและฟู่ชิงเยว่ครั้งก่อน เธอไม่ได้โกรธที่ฟู่เจิงปฏิเสธเธออย่างไร้ความปรานี“งานผมยุ่งมาก ยากที่จะใส่ใจคุณกับฝานฝานได้มากขนาดนั้น”“ฝานฝานเป็นลูกของฉัน นี่เป็นสิ่งที่สมควรอยู่แล้ว ฉันไม่รู้ว่าคุณจะมา ก็เลยสั่งอาหารไปสุ่ม ๆ เดี๋ยวอาหารมาเสิร์ฟคุณก็ดูแล้วกันว่าอยากจะสั่งเพิ่มไหม”“ผมไม่เลือกกิน” ฟู่เจิงตอบจากนั้นพนักงานก็เริ่มมาเสิร์ฟอาหารฟู่เจิงมองเนื้อแพะที่มาเสิร์ฟเต็มโต๊ะ เขาเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก้มหน้าไปมองฟู่ซือฝานฟู่ซือฝานก้มศีรษะน้อย ๆ อย่างกระวนกระวายอิเลียหยิบตะเกียบขึ้นมา “ไม่ต้องเกรงใจ กินเลยค่ะ”ฟู่เจิงลังเลอยู่ครู่หนึ่
เจียงเฉิงเที่ยงวันศุกร์ อิเลียไปรับฟู่ซือฝานออกไปกินข้าวเที่ยงที่คฤหาสน์ย่านซิงเหอวานเธอฉีกยิ้มพลางพูดกับฟู่ซือฝานว่า “เมื่อวานแม่ว่าจะไปรับหนูที่โรงเรียนอนุบาล จู่ ๆ ก็นึกถึงคำพูดของหนูเมื่อครั้งก่อนได้ ก็เลยมาวันนี้ วันนี้ตอนบ่ายแม่จะพาหนูไปเล่นดี ๆ เป็นยังไงจ๊ะ?”ฟู่ซือฝานเอียงคอพลางครุ่นคิด “ตอนบ่ายหนูต้องทำการบ้าน แค่กินข้าวเที่ยงก็พอแล้วค่ะ”“ก็ได้ งั้นหนูคิดไว้หรือเปล่าว่าอยากกินอะไร?”“ไปร้านอาหารที่มีเมนูเนื้อแพะแนะนำแล้วกันค่ะ” ฟู่ซือฝานเอ่ยขึ้นด้วยทีท่าจริงจัง “วันนี้คุณลุงบอกว่าจะไปกินข้าวเที่ยงเป็นเพื่อนหนู ไม่รู้ว่าจะมาไหม”นัยน์ตาอิเลียวาบความปลื้มปีติออกมา “จริงเหรอ?”“เขาเคยบอกไว้แบบนี้ค่ะ คุณน้าคะ ที่คุณน้ารับหนูออกมา ไม่ใช่เป็นเพราะอยากกระชับความสัมพันธ์กับหนูสองต่อสองเหรอคะ? ทำไมถึงหวังให้คุณลุงมาด้วยล่ะคะ?”เจ้าตัวน้อยเอ่ยถามขึ้นด้วยใบหน้าจริงจัง“น้า...น้ามีเรื่องอยากพูดคุยกับพ่อของหนูน่ะ แล้วก็หวังว่าเราจะได้กินข้าวด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว” อิเลียรีบหาข้ออ้างทันทีเจ้าเด็กคนนี้ หูตาเฉียบแหลมจริง ๆ“อ้อ”“น้าจะหาร้านอาหารเนื้อแพะเดี๋ยวน
“เรียกฉันทำไม?” เยี่ยนหวยมองเธอด้วยสีหน้าไร้เดียงสา“ตอนนี้มันฤดูร้อน”ผ่านฤดูใบไม้ผลิมาแล้ว“ฉันแค่นึกถึงวันนั้นที่ไปติวให้เธอแล้วเจอแม่เธอเข้าโดยบังเอิญ เธอคิดไปถึงไหน?” เยี่ยนหวยเลิกคิ้วถังซือซือชะงักไปมีครั้งหนึ่งตอนที่เธอติวอยู่ในบ้าน แล้วบังเอิญเจอแม่ของเธอเข้าจริง ๆ แต่นั่นมันเรื่องตอนเทอมที่สองเยี่ยนหวยต้องจงใจพูดถึงวันนั้นตอนเทอมแรกแน่ ๆ ให้เธอเข้าใจผิดถ้าเธอชี้ไปเลยว่าเยี่ยนหวยจำผิด ก็จะเข้าแผนของเยี่ยนหวย เหมือนว่าเธอยังไม่เคยลืมเรื่องในอดีต คิดถึงเรื่องราวเหล่านั้นของเธอกับเยี่ยนหวยอยู่ตลอด“ตอนนี้ไม่ใช่ฤดูร้อนเหรอ? นายคิดไปถึงไหนอีก?” เธอปัดตกเรื่องนี้ไปอย่างมั่นใจทันทีหลังพูดจบ เธอก็หมุนตัวเดินไปด้านหน้าต่อ “ไม่พูดแล้ว รีบไปร้านถัดไปเถอะ”อยู่ข้างนอกจนถึงสี่ทุ่ม ทั้งสองคนถึงกลับไปยังโรงแรมด้วยกันถังซือซืออยากเรียกรถกลับไปเอง ไม่อยากให้เยี่ยนหวยไปส่งเธอเยี่ยนหวยจึงเอ่ยไปตามตรงว่า “ฉันพักอยู่ที่โรงแรมเดียวกันกับเธอ”ถังซือซือ “...”นี่ไม่ใช่ครั้งแรกแล้วคราวก่อนตอนที่เวินเหลียงถ่ายรูปเยี่ยนหวยรูปแรกที่เมืองฟิลาเดลเฟีย เวินเหลียงก็ถามว่าช่วงนี้เยี่ยนหวย
เมืองซีในฐานะเมืองใหญ่ของเจียงหนาน ประเภทของกินเล่นมีมากมาย ของกินเอกลักษณ์ที่ขึ้นชื่อไปทั่วประเทศอาทิ เต้าหู้เหม็น ไส้กรอกยักษ์ เส้นหมีเฝิ่น กุ้งเผ็ดเป็นต้นถังซือซือเคยมาเมืองซีตอนมาทำงานต่างถิ่นก่อนหน้านี้ เวลาค่อนข้างกระชั้นชิด จึงทำได้เพียงเดินช็อปปิงที่อื่น แต่เพิ่งเคยมาถนนคนเดินที่นี่เป็นครั้งแรกเธอซื้อไส้กรอกยักษ์สองชิ้นก่อน และแบ่งให้เยี่ยนหวยหนึ่งชิ้นกินไปได้เพียงครึ่งเดียว ถังซือซือก็หยุดอยู่ตรงหน้าร้านขายขนมฉือปา เธอกลืนน้ำลายแล้วถามขึ้นว่า “รู้ไหมคะว่าตรงไหนมีถังขยะบ้าง?”“ที่เหลือเธอไม่กินแล้วเหรอ?”“อืม”“ไม่อร่อย?”“ไม่ใช่ อร่อยมาก แต่ว่ายังมีของอร่อยอื่น ๆ อีกเยอะแยะ ฉันอยากเก็บท้องเอาไว้”เยี่ยนหวย “...”“เอามาให้ฉันก็ได้” เยี่ยนหวยรับไส้กรอกครึ่งชิ้นที่เหลืออยู่มาจากในมือของเธอ ก่อนจะเติมเข้าไปในท้องอย่างไม่มีภาระใด ๆถังซือซือซื้อขนมฉือปาแล้วเธอทำตัวอย่างกับโจร แต่ละร้านไม่ยอมปล่อยไปเลย ทว่าก็ชิมเพียงสองสามคำ ทั้งหมดที่เหลือก็โยนให้เยี่ยนหวยอย่างสบายใจเยี่ยนหวยเพลิดเพลินกับพฤติกรรมพรรค์นี้ ในใจเข้าใจได้ในทันที ราวกับกลับไปเมื่อเจ็ดปีก่อนหลังเรียนอย
“มันเรื่องอะไรกันแน่?”ก่อนหน้านี้ที่เยี่ยนหวยอยู่ที่เจียงเฉิง กลับไม่ได้สังเกตเท่าไรว่าอิเลียกำลังทำอะไรอยู่ เธอออกไปข้างนอกทุกวัน เยี่ยนหวยคิดเพียงแค่ว่าเธอกำลังไปเที่ยวเล่นถังซือซือไม่ใช่คนที่จะกุเรื่องมั่วซั่ว เธอพูดแบบนี้ ต้องรู้อะไรบางอย่างแน่ ๆ“พูดไปแล้วก็ยาว ตอนแรกฟู่ชิงเยว่อาของฟู่เจิงรับเลี้ยงเด็กกำพร้าอยู่ที่เมืองนอก ตอนนี้อายุห้าขวบแล้ว ปีที่แล้วอาเหลียงแท้ง แล้วฟู่ชิงเยว่ติดธุระพอดี เลยส่งเด็กคนนั้นกลับประเทศมาให้ฟู่เจิงดูแลช่วงหนึ่ง ฟู่เจิงเลยให้เด็กคนนั้นอยู่ในประเทศไปเลยเพื่อง้ออาเหลียง ปกติจะมาอยู่เป็นเพื่อนอาเหลียง และเด็กคนนั้นเองก็เข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้านของฟู่เจิง แต่ว่า...”เยี่ยนหวยเดาเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไปออกแล้ว จึงรับช่วงเอ่ยขึ้นต่อว่า “แต่ว่าจู่ ๆ ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวบอกว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกของฟู่เจิงกับอิเลีย?”“ใช่ รายละเอียดฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน เหมือนว่าจะเกี่ยวข้องกับอาของฟู่เจิงนิดหน่อย เธอรู้ตัวตนของเด็กผู้หญิงคนนั้นมาตั้งแต่แรก และไม่ชอบอาเหลียงมาโดยตลอด ยังไงตอนนี้อาเหลียงก็อยู่กับฉัน เขากับฟู่เจิงทะเลาะกันอีกแล้ว”เยี่ยนหวยเอ่ยควา
“เยี่ยนหวย!!”ประตูลิฟต์เปิดออก ทั้งสองคนเข้าไปกันตามลำดับ แล้วลงไปยังลานจอดรถใต้ดินตรงมุมเลี้ยว ในหัวของผู้หญิงสวมหน้ากากอนามัยวาบภาพที่เห็นเมื่อครู่ขึ้นมา หมัดที่ห้อยอยู่กำขึ้นแน่น เธอก้มหน้าทั้งดวงตาที่ประกายความอำมหิตออกมาหากเวินเหลียงอยู่ตรงนี้ คงจะจำได้แน่ ๆ ว่าผู้หญิงที่สวมหน้ากากอนามัยคนนี้ก็คืออลิซที่เธอมาเจียงเฉิง ก็เพราะเยี่ยนหวย เยี่ยนหวยมาเมืองซีเมื่อสองวันก่อน เธอเองก็ตามมาเช่นกันอิเลียถามเลขาของเยี่ยนหวย เมื่อรู้โรงแรมของเขาก็บอกกับอลิซทีแรกอลิซคิดว่าเยี่ยนหวยมาทำธุระที่เมืองซี จากนั้นก็ค่อย ๆ พบว่ามันไม่ชอบมาพากลเยี่ยนหวยไม่ยุ่งเลยสักนิดแถมยังมีเวลาไปสอบถามร้านอาหารท้องถิ่น ถนนคนเดิน จุดชมวิวของเมืองซีเป็นต้น อีกต่างหาก ไม่เหมือนมาทำงานต่างถิ่น แต่เหมือนมาเที่ยวเสียมากกว่าจนกระทั่งวันนี้ เมื่อได้เห็นภาพนั้น อลิซถึงเข้าใจทุกอย่างที่แท้คนที่ซีซาร์ชอบไม่ใช่เฟย์ แต่เป็นถังซือซือเพื่อนของเฟย์!ที่แท้เขาไม่ได้มาทำงานต่างถิ่นที่เมืองซี แต่มาเพื่อตามจีบถังซือซือ!ที่เขาสอบถามร้านอาหารและจุดชมวิวของเมืองซี ก็เพื่อพาถังซือซือไปวันนี้!ในใจอลิซอิจฉาเป็นอย่างม
เมื่อเยี่ยนหวยได้ยินดังนั้น ก็รู้ในทันทีว่าเวินเหลียงไม่ได้รักษาคำมั่นสัญญาแต่เขาก็เตรียมตัวไว้นานแล้ว วันนั้นหลังจากกลับไปก็ให้คนไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด แล้วตัดคลิปมาใส่ไว้ในโทรศัพท์เมื่อได้ยินถังซือซือถามขึ้น เขาก็รีบส่งให้เธอทันที “ก็แค่คนที่ไม่สลักสำคัญอะไรคนหนึ่ง ฉันปฏิเสธเขาไปแล้ว”ถังซือซือดูคลิปรอบหนึ่ง ก่อนจะเบะปาก “อยู่ต่างประเทศคุณเยี่ยนมีสาวมาชอบเพียบเลยนะคะ”“แต่ฉันสนใจอยากจะครอบครองแค่เธอ”“จะยอมให้ฉันครอบครองไหม คุณถัง?”เยี่ยนหวยนั่งเอี้ยวตัว แขนข้างหนึ่งพาดอยู่บนพนักพิงเก้าอี้ เขาโน้มตัวเข้ามา ตัวท่อนบนใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ กลิ่นหอมฉุยจาง ๆ และกลิ่นอายของชายหนุ่มที่มาพร้อมกับการบุกรุกโอบล้อมเธอเอาไว้เขาดันแว่นตากรอบทอง สีหน้าอบอุ่น ฉีกยิ้มทว่าก็ราวกับไม่ยิ้ม มุมปากกระตุกรอยยิ้มเล็กน้อย ค่อนข้างมีความรู้สึกประเภทหน้าเนื้อใจเสือถังซือซือเหม่อไปครู่หนึ่ง“คุณถัง?”ใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้าขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ไออุ่นร้อนปะทะเข้ามาที่หน้า ในที่สุดถังซือซือก็ได้สติกลับมา เธอเอนหลังพลางตบหน้าอก “นายทำฉันตกใจหมด...ไป ไปเดินหาของกินเล่นกันเถอะ”เธอลุกขึ้นและเดินออกไปอย่าง