เวินเหลียงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกดตัดสายทิ้งตอนนี้เธอยังไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับฟู่เจิงดีคิดไปคิดมา เวินเหลียงก็เปิดหน้าห้องแชตแล้วส่งข้อความตอบกลับฟู่เจิงไปสองสามคำ : ปลอดภัยดี ไม่ต้องห่วงหลังส่งข้อความเสร็จ เวินเหลียงก็คว่ำโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะ แล้วยิ้มให้ฮั่วตงเฉิงนัยน์ตาของฮั่วตงเฉิงประกายความหมายลึกซึ้งออกมาสายหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “ทำไมไม่รับล่ะ?”“ไม่ใช่สายสำคัญอะไร” เวินเหลียงเอ่ยขึ้นโดยไม่คิดอะไรเพิ่งสิ้นเสียงเธอไปหยก ๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาอีกครั้งเวินเหลียงหยิบขึ้นมาดูทีหนึ่ง ก็ยังเป็นฟู่เจิง“ไม่งั้นเธอไปรับสายเถอะ ไม่แน่ว่าอาจมีเรื่องสำคัญอะไรก็ได้” ฮั่วตงเฉิงเอ่ย “ฉันจำได้ว่าวันนี้ตอนบ่ายจางกั๋วอันมาถึงเจียงเฉิงแล้ว ไม่แน่ว่าอาจสอบสวนอะไรออกมาได้”เมื่อนึกถึงความจริงของเรื่องราวทั้งหมดที่ได้รับรู้เมื่อตอนเช้า เวินเหลียงก็เม้มริมฝีปาก ก่อนจะตัดสายและปิดเครื่องไปเลย “ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องรับ”นัยน์ตาฮั่วตงเฉิงเป็นประกาย มุมปากกระตุกรอยยิ้มที่มีก็เหมือนไม่มีขึ้นมาสายหนึ่งหลังกินมื้อเย็นเสร็จ ก็เป็นเวลาใกล้หนึ่งทุ่มแล้ว“ไปกันเถอะ เธออยู่ที่ไหนเดี๋ยวฉันจะไปส่งเธอเอง
ฟู่เจิงคว้าข้อมือของเธอเอาไว้เวินเหลียงชะงักฝีเท้าพร้อมหันไปมองเขา “ฟู่เจิง คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?”ฟู่เจิงมองเธอด้วยนัยน์ตาเปล่งประกาย “เธอ...”ไปอยู่กับฮั่วตงเฉิงมาใช่ไหม?พูดไปได้ครึ่งหนึ่ง จู่ ๆ เขาก็ชะงักไป ครึ่งประโยคหลังจมหายอยู่ในลำคอ บนหน้าเผยสีหน้าขมขื่นทุรนทุรายออกมาเธอบอกว่าตัวเธอเองต้องการอยู่เงียบ ๆ เขากลัวเธอคิดไม่ตก ทีแรกอยากจะไปหาเธอใครจะรู้ได้เลยว่าระหว่างทางดันได้รับสายของฟู่ชิงเยว่เสียก่อนฟู่ชิงเยว่พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง บอกว่าเธอเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ จะทำการผ่าตัดต้องการให้คนในครอบครัวไปเซ็นชื่อฟู่เจิงไม่ระแคะระคายเรื่องอื่น เขาเปลี่ยนเส้นทางมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาล ถูกฟู่ชิงเยว่รั้งเอาไว้อยู่เป็นเวลานานเมื่อออกมาจากโรงพยาบาล ฟู่เจิงก็ต่อสายโทรหาเวินเหลียง ไม่มีคนรับ ในตอนที่โทรอีกครั้งก็ปิดเครื่องไปแล้วหลังจากนั้นเขาก็ไปเจอรถของเธออยู่หน้าบาร์ หลังเข้าไปสอบถามพนักงานในร้านถึงได้รู้ว่า เธอดื่มจนเมาและออกไปกับผู้ชายอีกคนแล้วเขาออกตามหาเธอไปทั่วทุกหนทุกแห่งราวกับเป็นบ้าทว่าในวินาทีนี้กลับได้รับรูปถ่ายเซ็ตหนึ่งในรูปภาพสองรูปแรก เวินเหลียงถูกฮั่วต
ในใจเขามีแต่จะยิ่งเจ็บปวดฉะนั้นคับแค้นใจก็ส่วนคับแค้นใจ เธอไม่มีทางเปลี่ยนทีท่าที่มีต่อฟู่เจิงในหลังจากนี้เพราะเรื่องนี้อย่างแน่นอน“งั้นเธอ...อย่าติดต่อกับฮั่วตงเฉิงอีกได้ไหม?” ในน้ำเสียงของฟู่เจิงแฝงความคาดหวังเอาไว้สายหนึ่งถ้าเธอตอบตกลงได้ เขาจะทำเป็นว่าเรื่องวันนี้มันไม่เคยเกิดขึ้นเลยเวินเหลียงได้ยินดังนั้นก็รู้สึกประหลาดใจ “เป็นไปไม่ได้ ฟู่เจิง คุณอย่างี่เง่าไร้เหตุผลสิ”แม้ฟู่เยว่จะมอบตัวแล้ว ท้ายที่สุดฮั่วตงเฉิงก็เป็นคนช่วยเธอจับตัวจางกั๋วอันได้ แถมยังเป็นครูสอนถ่ายภาพของเธออีก จะไม่ให้ติดต่อกันได้ยังไง?นัยน์ตาของฟู่เจิงประกายความเศร้าสลดออกมาสายหนึ่งเป็นอย่างที่คิดเอาไว้จริง ๆ เธอไม่ยอมตอบตกลง...เธอบอกว่าเขางี่เง่าไร้เหตุผล“ยังมีเรื่องอื่นอีกไหม? ถ้าไม่มีแล้วละก็ ฉันขอตัวขึ้นไปก่อนนะ”เวินเหลียงผละตัวออกจากอ้อมอกเขา ก่อนจะกดปุ่มลิฟต์ขึ้นแล้วเดินเข้าไปในลิฟต์ฟู่เจิงยืนอยู่ที่เดิม เขาหลับตาไม่กระดุกกระดิกใด ๆเมื่อเวินเหลียงออกมาจากลิฟต์เธอก็ใส่รหัสเปิดประตูภายในห้องนั่งเล่นมืดสนิทเธอเปลี่ยนรองเท้าแล้วหย่อนก้นนั่งลงบนโซฟา พบว่าถังซือซือส่งไลน์ให้เธอตอนที่เ
ร่างกายท่อนบนเย็นยะเยียบ เวินเหลียงพลันตื่นเต็มตามากขึ้น เธอเอ่ยขึ้นอย่างสะลึมสะลือว่า “...ฟู่เจิง! อย่านะ...”วินาทีถัดมา เข่าทั้งสองข้างของฟู่เจิงก็กางอยู่ขนาบสองข้างของลำตัวเธอ จากนั้นยกลำตัวท่อนบนขึ้นมาพลางจ้องมองเธอ สายตาชำเลืองไปด้านล่างทีละนิ้ว ๆ นัยน์ตาเริ่มประกายความลึกซึ้งออกมา ทั้งตัวแฝงไปด้วยเปลวเพลิงประหลาดเธอเดือดพล่านจนหน้าอกพองขึ้นยุบลงอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังสั่นระเรื่อเล็กน้อยเมื่อเวินเหลียงเห็นนัยน์ตาของเขา สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นแดงระเรื่อ เธอพยายามสลัดข้อมือออก ทว่าก็สลัดไม่ออก “ฟู่เจิง คุณปล่อยฉันไปนะ ถ้าขืนคุณยังทำแบบนี้อีกฉันจะโกรธแล้วนะ!”สีหน้าฟู่เจิงนิ่งสงบ ราวกับไม่ได้ยินคำพูดของเวินเหลียงอย่างนั้น เขาคลี่เนกไทออกด้วยมือเดียวเวินเหลียงอึ้งไปครู่หนึ่งเมื่อเห็นฟู่เจิงใช้เนกไทมัดข้อมือทั้งสองข้างของเธอไว้ด้วยกันเวินเหลียงก็ดิ้นพล่านขึ้นมาอย่างแรง “ไม่ได้นะ! ฟู่เจิง คุณใจเย็นหน่อยสิ!”ฟู่เจิงยังไม่หยุดการกระทำ เขาวนเนกไทรอบข้อมือเวินเหลียงสองรอบก่อนจะผูกโบว์“ฟู่เจิง คุณคิดจะทำอะไรกันแน่? มีอะไรก็พูดกันดี ๆ โอเคไหม? คุณไปหลับให้เต็มอิ่มสักตื่น พรุ่งนี้เ
“ไม่ดื้อนะ แยกขาหน่อยสิ...”เขาเอ่ยโน้มน้าวด้วยเสียงอ่อนโยน น้ำเสียงทุ้มต่ำทว่ามีแรงดึงดูดเป็นอย่างมาก เวินเหลียงทำตามที่เขาบอกทุกอย่างราวกับถูกพิษหนอนกู่เสียงหัวเราะแผ่วเบาสายหนึ่งแว่วดังขึ้นมาเวินเหลียงตอบสนองกลับมา ตรงแก้มก็แดง ‘เถือก’ แล้ว เธอรีบหุบขาทั้งสองข้างทันทีทว่ามันไม่ทันแล้ว มือใหญ่ ๆ ของเขากดไว้บนเข่าของเธอทันใดนั้นภายในห้องนั่งเล่นก็เงียบลงเหลือเพียงเสียงลมหายใจที่ค่อย ๆ หนักอึ้งขึ้นของฟู่เจิงเวินเหลียงเริ่มเกร็งไปทั้งเนื้อตัวขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมสั่นเทาเล็กน้อยทั้ง ๆ ที่มองไม่เห็น ทว่าราวกับเธอสัมผัสได้ถึงสายตาอันรุ่มร้อนของเขา จ้องจนตัวเธอไม่เป็นตัวเองไปเลย ราวกับจู่ ๆ ฟู่เจิงก็เก่งขึ้นมาก...เธอถูกเขาทำให้คล้อยตามเป็นจังหวะเดียวกันไปแล้ว!ทั้งหมดต้องโทษเขา!เขาบีบบังคับเธอ เธอเพียงแค่ไม่สามารถต้านทานได้เท่านั้นเวินเหลียงปลอบตัวเองจู่ ๆ งูน้ำก็เลื้อยขึ้นมาอยู่บนต้นขาของเธอ!ค่อย ๆ เลื้อยขึ้นมา ราวกับแหวกว่ายอยู่ในน้ำงูน้ำของประเทศจีนเป็นงูน้ำที่กระจายอยู่ในประเทศอย่างแพร่หลาย สามารถพบได้ทุกที่ตามแม่น้ำหรือบ่อน้ำนอกป่า มักอาศัยอยู่ในน้ำตลอดทั้งปี
ทำไมเธอถึงได้...ถึงได้...ถูกเขาปรนนิบัติให้ลุ่มหลงได้สบาย ๆ อย่างนั้น!น่ารังเกียจชะงัด นี่มันจิ้งจอกตัวผู้ชัด ๆขณะอาบน้ำ เมื่อเวินเหลียงเห็นร่องรอยด้านในต้นขาก็ยิ่งอับอายเข้าไปกันใหญ่อ๊า ๆ ๆ ๆ...ทั้ง ๆ ที่เมื่อวานตอนเช้าเธอยังน้อยเนื้อต่ำใจอย่างสุดขีดอยู่แท้ ๆ พอตกดึกทำไมถึงได้กลายเป็นแบบนั้นไปได้...ทั้งหมดเป็นเพราะฟู่เจิงบังคับขืนใจเธอ!เวินเหลียงพยายามล้างสมองตัวเองสุดชีวิตขณะหลังเวินเหลียงจัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อยและออกไปจากห้องนอน สถานการณ์ทุกอย่างก็นิ่งสงบลงตั้งนานแล้ว ราวกับไม่เคยเกิดอะไรขึ้นมาก่อนภายในห้องรับแขกไม่มีใครอยู่เวินเหลียงมองไปรอบ ๆ ด้วยความสงสัย หรือว่าเขาไปแล้ว?ในขณะนี้เองก็มีเสียงหั่นของแว่วดังขึ้นมาจากในห้องครัวอ๋อที่แท้ก็ยังไม่ได้ไปชุดนอนพาดอยู่บนข้างโซฟา เวินเหลียงเดินไปเก็บขึ้นมา ในขณะที่กำลังจะหมุนตัวนี้เองฝีเท้าก็เป็นอันต้องชะงักไปในฉับพลันบนโซฟามีรอยเปียกชื้นดวงใหญ่มากดวงหนึ่งตำแหน่งตรงนั้น...สีหน้าเวินเหลียงพลันแดงก่ำขึ้นมา แถมยังร้อนผ่าวจนจะหุงข้าวสุกอยู่แล้วเธอมองซ้ายมองขวา ก่อนจะลวดมือหยิบหมอนโยนไปใบหนึ่งกลัวว่าจะปิดไม่ม
“ไม่เอา”ฟู่เจิงปลดเข็มขัดนิรภัยออกก่อนจะลงจากรถไปผ่านไปสิบนาทีฟู่เจิงก็กลับมา เขาส่งถุงกระดาษคราฟต์ในมือให้เวินเหลียง “ขนมเปี๊ยะกรอบไส้ทุเรียนเพิ่งออกจากเตาใหม่ ๆ”เวินเหลียงรับมา เปิดถุงไปด้วยพลางบ่นพึมพำไปด้วย “ทำไมถึงได้ช้าขนาดนี้ล่ะ?”“คนต่อคิวค่อนข้างเยอะน่ะ”เวินเหลียงแค่นเสียงฮึทีหนึ่ง ก่อนจะคีบขนมเปี๊ยะกรอบไส้ทุเรียนขึ้นมากินชิ้นหนึ่งผ่านไปไม่นาน ในรถก็คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นทุเรียนฟู่เจิงไม่ได้รังเกียจกลิ่นทุเรียน ทว่าก็รับไม่ได้ที่จะมีกลิ่นนี้ติดไปทั้งตัวขณะอยู่ในพื้นที่แคบ ๆเขากำลังคิดจะเปิดกระจก ทว่าเวินเหลียงดันพูดตัดหน้าเขา “ฉันหนาว เปิดฮีตเตอร์แรงหน่อย”ฟู่เจิง “...”เยี่ยมไปเลยเวินเหลียงที่เชื่อฟังและประสีประสากลายเป็นสาวน้อยร้ายกาจจอมเอาแต่ใจฟู่เจิงยิ้มอย่างจนใจทีหนึ่ง ทว่าในใจพอใจสุด ๆเขากลัวว่าเธอจะเกลียดเขา ไม่แยแสเขาอีกเพราะเรื่องเมื่อคืน ภายใต้การเปรียบเทียบ เดิมทีการลงโทษเล็กน้อยในตอนนี้ไม่มีความสลักสำคัญใด ๆ กลับกันยิ่งเหมือนมีอรรถรสเพิ่มมากขึ้นเมื่อมาถึงยังร้านอาหารขายเนื้อแกะแถวถนนมหาวิทยาลัยแล้ว เวินเหลียงก็เดินมุ่งหน้าเข้าไปในร้านทันทีฟู
เวินเหลียงเลือกโซฟาที่ทำด้วยวัสดุผ้าลินินมาสองแบบและทำด้วยวัสดุหนังวัวมาสองแบบ จากนั้นถ่ายวิดีโอส่งไปให้ถังซือซือสุดท้ายถังซือซือเลือกโซฟาที่ทำด้วยวัสดุลินินแบบหนึ่งในนั้น โซฟาแบบนี้ออกแบบมาให้มีความกว้างและนุ่มสลายเวินเหลียงเองก็ชอบเช่นกัน จึงตัดสินใจอย่างมีความสุขแล้วฟู่เจิงถอนหายใจเฮือกหนึ่งเวินเหลียงถลึงตาใส่เขาสองทีฟู่เจิงเป็นคนจ่ายเงินค่าโซฟา สามารถไปส่งสินค้าให้ถึงห้องในบ่ายวันนี้หลังออกมาจากร้านเฟอร์นิเจอร์ ฟู่เจิงก็ได้รับสายหนึ่งเป็นสายของเลขาหยางที่โทรเข้ามาเมื่อวานฟู่เจิงหัวหมุนสุด ๆ ทว่าเขาไม่พบร่องรอยอะไรบนตัวเวินเหลียง การแสดงออกของเธอราวกับไม่รู้ว่าเขาโกรธมาก่อนฟู่เจิงสัมผัสได้ถึงความปิดปกติบางอย่าง ตอนเช้าพอตื่นขึ้นมาก็ให้เลขาหยางไปตรวจสอบทันทีเลขาหยางตรวจสอบจนแจ่มชัดแล้วก็มารายงานกับเขา ฟู่เจิงถึงรู้ว่าหลังฮั่วตงเฉิงไปส่งเวินเหลียงที่โรงแรม เขาก็เปลี่ยนชุดออกไปข้างนอกทันที ผ่านไปนานสองนานถึงกลับมาทว่าคนที่ถ่ายรูปส่งมาให้เขาละเลยจุดนี้ไป ราวกับจงใจทำให้เขาเข้าใจผิดถ้าเมื่อคืนเขาไม่ได้มาพิสูจน์ยืนยันด้วยตัวเอง บางทีเขาอาจยังเข้าใจเรื่องนี้ผิดไปตลอด
อิเลียลุกขึ้นพรวด พลางมองเยี่ยนหวยอย่างเหลือเชื่อ“ถ้าเธอยังเห็นฉันเป็นพี่ชายของเธออยู่ ก็เชื่อฟังฉัน แล้วกลับไปเมืองฟิลาเดลเฟียพรุ่งนี้ซะ!” เยี่ยนหวยนั่งตัวตรงพลางเงยหน้ามองเธออยู่บนโซฟา“ฉันไม่กลับ!” อิเลียเดือดดาลจนแค่นเสียงฮึออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะกลับไปนั่งตรงมุมโซฟา “อยากกลับพี่ก็กลับไปเองซะเลยสิ!”“ฟู่เจิงไม่ใช่คนดี ต่อให้ระหว่างพวกเธอมีลูกด้วยกัน เขาก็ไม่มีทางคบกับเธอ”ก่อนหน้านี้ฟู่เจิงเคยมีเรื่องอื้อฉาวว่ามีชู้ ตอนนี้ก็มีอดีตภรรยาที่มีความสัมพันธ์คลุมเครือมาอีกคน ขอให้เป็นผู้ใหญ่ที่รักลูกสาว ก็จะไม่มีวันเลือกเขาทั้งนั้น“พี่รู้ได้ยังไงว่าเขาไม่ใช่คนดี? พี่รู้ได้ไงว่าเขาจะไม่คบกับฉัน? วันนี้ตอนเที่ยงเรายังไปกินข้าวด้วยกันอยู่เลย!”เมื่อเห็นอิเลียดื้อดึง ในใจของเยียนหวยก็รู้สึกไม่ได้ดั่งใจ เขาแสยะยิ้มออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “พวกเธอไม่ได้ไปกินข้าวด้วยกันตามลำพัง แต่ฟู่ซือฝานอยู่ข้าง ๆ ใช่ไหม?”ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ ฟู่เจิงจะมากินข้าวกับอิเลียตามลำพังได้ยังไง? นอกเสียจากเขาคิดจะเลิกกับเวินเหลียงจริง ๆ“...ใช่ ก็เขาเป็นลูกของพวกเรานี่” เมื่อเห็นว่าถูกเดาทางถูก อิเลียก็พูดอึ
แต่หลังจากเดินตามแผนแล้วถึงได้พบว่า นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยถ้าพ่อแม่คุณลุงคุณป้ารู้ว่าเธอมีลูกนอกสมรสข้างนอก ต้องเข้ามาแทรก และไม่แน่ว่าจะพาตัวเธอกับลูกกลับไป“อิเลีย ผมเข้าใจนะครับคุณในฐานะแม่แท้ ๆ คุณอยากรีบกระชับความสัมพันธ์กับฝานฝาน แต่ก็อย่าตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก โดยเฉพาะมักจะไปหาฝานฝานที่โรงเรียนอนุบาล แบบนี้จะส่งผลกระทบกับชีวิตของเธอได้นะครับ”“ฉันรู้แล้วค่ะ ต่อไปจะไม่ไปหาเขาที่โรงเรียนอนุบาลอีก ฉันเห็นว่าคุณกินน้อยมาก อาหารที่เหลือไม่ถูกปากหรือเปล่า?”ฟู่เจิง “...ก่อนมาผมกินมาบ้างแล้ว”หลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ ฟู่ซือฝานรบเร้าขอกลับกับฟู่เจิงเธอล้วงกลยุทธ์ร้องไห้งอแงชักดิ้นชักงออยู่ที่พื้นของเด็กห้าขวบออกมาอย่างล้ำลึก ไม่มีเหตุผล ทว่าอิเลียฝืนเธอไม่ได้อิเลียทำได้เพียงกลับไปที่บ้านของเซี่ยเจิน“อิเลีย เธอกลับมาแล้วเหรอ?”เมื่อเห็นอลิซนั่งอยู่บนโซฟา อิเลียเดินมานั่งลง “เป็นยังไงบ้าง? ครั้งนี้เธอไปเมืองซีกับซีซาร์ ได้แสร้งทำเป็นเจอโดยบังเอิญ แล้วไปกินข้าวกับเขาอะไรหรือเปล่า?”อลิซเบะปาก “เปล่า”“ทำไมล่ะ? โอกาสดีขนาดนั้นทำไมเธอไม่คว้าเอาไว้?”“เขางานยุ่งมาก ฉันกล
อิเลียจัดผมด้วยท่าทางราวกับไม่มีเจตนาอื่น หน้าตาเผยความตื่นเต้นออกมาดูท่าเธอจะเลือกวิธีถูกจริง ๆในตอนนี้เธอเพิ่งเข้าใกล้ฟู่ซือฝานไม่เท่าไร ท่าทีของฟู่เจิงเขาก็ผ่อนคลายลงเยอะแล้วผ่านไปยี่สิบนาที ฟู่เจิงก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องรับรองนี่เป็นการเจอกันครั้งที่สองหลังจากวันนั้นเขานั่งลงข้าง ๆ ฟู่ซือฝาน พลางพยักหน้าให้อิเลียเบา ๆ “รบกวนแล้ว ไม่ถือสาที่ผมมาร่วมโต๊ะด้วยใช่ไหม?”“ไม่ถือสา นั่งเถอะค่ะ”สีหน้าของอิเลียเย็นชา ราวกับยังอยู่ต่อหน้าคุณหญิงและฟู่ชิงเยว่ครั้งก่อน เธอไม่ได้โกรธที่ฟู่เจิงปฏิเสธเธออย่างไร้ความปรานี“งานผมยุ่งมาก ยากที่จะใส่ใจคุณกับฝานฝานได้มากขนาดนั้น”“ฝานฝานเป็นลูกของฉัน นี่เป็นสิ่งที่สมควรอยู่แล้ว ฉันไม่รู้ว่าคุณจะมา ก็เลยสั่งอาหารไปสุ่ม ๆ เดี๋ยวอาหารมาเสิร์ฟคุณก็ดูแล้วกันว่าอยากจะสั่งเพิ่มไหม”“ผมไม่เลือกกิน” ฟู่เจิงตอบจากนั้นพนักงานก็เริ่มมาเสิร์ฟอาหารฟู่เจิงมองเนื้อแพะที่มาเสิร์ฟเต็มโต๊ะ เขาเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก้มหน้าไปมองฟู่ซือฝานฟู่ซือฝานก้มศีรษะน้อย ๆ อย่างกระวนกระวายอิเลียหยิบตะเกียบขึ้นมา “ไม่ต้องเกรงใจ กินเลยค่ะ”ฟู่เจิงลังเลอยู่ครู่หนึ่
เจียงเฉิงเที่ยงวันศุกร์ อิเลียไปรับฟู่ซือฝานออกไปกินข้าวเที่ยงที่คฤหาสน์ย่านซิงเหอวานเธอฉีกยิ้มพลางพูดกับฟู่ซือฝานว่า “เมื่อวานแม่ว่าจะไปรับหนูที่โรงเรียนอนุบาล จู่ ๆ ก็นึกถึงคำพูดของหนูเมื่อครั้งก่อนได้ ก็เลยมาวันนี้ วันนี้ตอนบ่ายแม่จะพาหนูไปเล่นดี ๆ เป็นยังไงจ๊ะ?”ฟู่ซือฝานเอียงคอพลางครุ่นคิด “ตอนบ่ายหนูต้องทำการบ้าน แค่กินข้าวเที่ยงก็พอแล้วค่ะ”“ก็ได้ งั้นหนูคิดไว้หรือเปล่าว่าอยากกินอะไร?”“ไปร้านอาหารที่มีเมนูเนื้อแพะแนะนำแล้วกันค่ะ” ฟู่ซือฝานเอ่ยขึ้นด้วยทีท่าจริงจัง “วันนี้คุณลุงบอกว่าจะไปกินข้าวเที่ยงเป็นเพื่อนหนู ไม่รู้ว่าจะมาไหม”นัยน์ตาอิเลียวาบความปลื้มปีติออกมา “จริงเหรอ?”“เขาเคยบอกไว้แบบนี้ค่ะ คุณน้าคะ ที่คุณน้ารับหนูออกมา ไม่ใช่เป็นเพราะอยากกระชับความสัมพันธ์กับหนูสองต่อสองเหรอคะ? ทำไมถึงหวังให้คุณลุงมาด้วยล่ะคะ?”เจ้าตัวน้อยเอ่ยถามขึ้นด้วยใบหน้าจริงจัง“น้า...น้ามีเรื่องอยากพูดคุยกับพ่อของหนูน่ะ แล้วก็หวังว่าเราจะได้กินข้าวด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว” อิเลียรีบหาข้ออ้างทันทีเจ้าเด็กคนนี้ หูตาเฉียบแหลมจริง ๆ“อ้อ”“น้าจะหาร้านอาหารเนื้อแพะเดี๋ยวน
“เรียกฉันทำไม?” เยี่ยนหวยมองเธอด้วยสีหน้าไร้เดียงสา“ตอนนี้มันฤดูร้อน”ผ่านฤดูใบไม้ผลิมาแล้ว“ฉันแค่นึกถึงวันนั้นที่ไปติวให้เธอแล้วเจอแม่เธอเข้าโดยบังเอิญ เธอคิดไปถึงไหน?” เยี่ยนหวยเลิกคิ้วถังซือซือชะงักไปมีครั้งหนึ่งตอนที่เธอติวอยู่ในบ้าน แล้วบังเอิญเจอแม่ของเธอเข้าจริง ๆ แต่นั่นมันเรื่องตอนเทอมที่สองเยี่ยนหวยต้องจงใจพูดถึงวันนั้นตอนเทอมแรกแน่ ๆ ให้เธอเข้าใจผิดถ้าเธอชี้ไปเลยว่าเยี่ยนหวยจำผิด ก็จะเข้าแผนของเยี่ยนหวย เหมือนว่าเธอยังไม่เคยลืมเรื่องในอดีต คิดถึงเรื่องราวเหล่านั้นของเธอกับเยี่ยนหวยอยู่ตลอด“ตอนนี้ไม่ใช่ฤดูร้อนเหรอ? นายคิดไปถึงไหนอีก?” เธอปัดตกเรื่องนี้ไปอย่างมั่นใจทันทีหลังพูดจบ เธอก็หมุนตัวเดินไปด้านหน้าต่อ “ไม่พูดแล้ว รีบไปร้านถัดไปเถอะ”อยู่ข้างนอกจนถึงสี่ทุ่ม ทั้งสองคนถึงกลับไปยังโรงแรมด้วยกันถังซือซืออยากเรียกรถกลับไปเอง ไม่อยากให้เยี่ยนหวยไปส่งเธอเยี่ยนหวยจึงเอ่ยไปตามตรงว่า “ฉันพักอยู่ที่โรงแรมเดียวกันกับเธอ”ถังซือซือ “...”นี่ไม่ใช่ครั้งแรกแล้วคราวก่อนตอนที่เวินเหลียงถ่ายรูปเยี่ยนหวยรูปแรกที่เมืองฟิลาเดลเฟีย เวินเหลียงก็ถามว่าช่วงนี้เยี่ยนหวย
เมืองซีในฐานะเมืองใหญ่ของเจียงหนาน ประเภทของกินเล่นมีมากมาย ของกินเอกลักษณ์ที่ขึ้นชื่อไปทั่วประเทศอาทิ เต้าหู้เหม็น ไส้กรอกยักษ์ เส้นหมีเฝิ่น กุ้งเผ็ดเป็นต้นถังซือซือเคยมาเมืองซีตอนมาทำงานต่างถิ่นก่อนหน้านี้ เวลาค่อนข้างกระชั้นชิด จึงทำได้เพียงเดินช็อปปิงที่อื่น แต่เพิ่งเคยมาถนนคนเดินที่นี่เป็นครั้งแรกเธอซื้อไส้กรอกยักษ์สองชิ้นก่อน และแบ่งให้เยี่ยนหวยหนึ่งชิ้นกินไปได้เพียงครึ่งเดียว ถังซือซือก็หยุดอยู่ตรงหน้าร้านขายขนมฉือปา เธอกลืนน้ำลายแล้วถามขึ้นว่า “รู้ไหมคะว่าตรงไหนมีถังขยะบ้าง?”“ที่เหลือเธอไม่กินแล้วเหรอ?”“อืม”“ไม่อร่อย?”“ไม่ใช่ อร่อยมาก แต่ว่ายังมีของอร่อยอื่น ๆ อีกเยอะแยะ ฉันอยากเก็บท้องเอาไว้”เยี่ยนหวย “...”“เอามาให้ฉันก็ได้” เยี่ยนหวยรับไส้กรอกครึ่งชิ้นที่เหลืออยู่มาจากในมือของเธอ ก่อนจะเติมเข้าไปในท้องอย่างไม่มีภาระใด ๆถังซือซือซื้อขนมฉือปาแล้วเธอทำตัวอย่างกับโจร แต่ละร้านไม่ยอมปล่อยไปเลย ทว่าก็ชิมเพียงสองสามคำ ทั้งหมดที่เหลือก็โยนให้เยี่ยนหวยอย่างสบายใจเยี่ยนหวยเพลิดเพลินกับพฤติกรรมพรรค์นี้ ในใจเข้าใจได้ในทันที ราวกับกลับไปเมื่อเจ็ดปีก่อนหลังเรียนอย
“มันเรื่องอะไรกันแน่?”ก่อนหน้านี้ที่เยี่ยนหวยอยู่ที่เจียงเฉิง กลับไม่ได้สังเกตเท่าไรว่าอิเลียกำลังทำอะไรอยู่ เธอออกไปข้างนอกทุกวัน เยี่ยนหวยคิดเพียงแค่ว่าเธอกำลังไปเที่ยวเล่นถังซือซือไม่ใช่คนที่จะกุเรื่องมั่วซั่ว เธอพูดแบบนี้ ต้องรู้อะไรบางอย่างแน่ ๆ“พูดไปแล้วก็ยาว ตอนแรกฟู่ชิงเยว่อาของฟู่เจิงรับเลี้ยงเด็กกำพร้าอยู่ที่เมืองนอก ตอนนี้อายุห้าขวบแล้ว ปีที่แล้วอาเหลียงแท้ง แล้วฟู่ชิงเยว่ติดธุระพอดี เลยส่งเด็กคนนั้นกลับประเทศมาให้ฟู่เจิงดูแลช่วงหนึ่ง ฟู่เจิงเลยให้เด็กคนนั้นอยู่ในประเทศไปเลยเพื่อง้ออาเหลียง ปกติจะมาอยู่เป็นเพื่อนอาเหลียง และเด็กคนนั้นเองก็เข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้านของฟู่เจิง แต่ว่า...”เยี่ยนหวยเดาเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไปออกแล้ว จึงรับช่วงเอ่ยขึ้นต่อว่า “แต่ว่าจู่ ๆ ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวบอกว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกของฟู่เจิงกับอิเลีย?”“ใช่ รายละเอียดฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน เหมือนว่าจะเกี่ยวข้องกับอาของฟู่เจิงนิดหน่อย เธอรู้ตัวตนของเด็กผู้หญิงคนนั้นมาตั้งแต่แรก และไม่ชอบอาเหลียงมาโดยตลอด ยังไงตอนนี้อาเหลียงก็อยู่กับฉัน เขากับฟู่เจิงทะเลาะกันอีกแล้ว”เยี่ยนหวยเอ่ยควา
“เยี่ยนหวย!!”ประตูลิฟต์เปิดออก ทั้งสองคนเข้าไปกันตามลำดับ แล้วลงไปยังลานจอดรถใต้ดินตรงมุมเลี้ยว ในหัวของผู้หญิงสวมหน้ากากอนามัยวาบภาพที่เห็นเมื่อครู่ขึ้นมา หมัดที่ห้อยอยู่กำขึ้นแน่น เธอก้มหน้าทั้งดวงตาที่ประกายความอำมหิตออกมาหากเวินเหลียงอยู่ตรงนี้ คงจะจำได้แน่ ๆ ว่าผู้หญิงที่สวมหน้ากากอนามัยคนนี้ก็คืออลิซที่เธอมาเจียงเฉิง ก็เพราะเยี่ยนหวย เยี่ยนหวยมาเมืองซีเมื่อสองวันก่อน เธอเองก็ตามมาเช่นกันอิเลียถามเลขาของเยี่ยนหวย เมื่อรู้โรงแรมของเขาก็บอกกับอลิซทีแรกอลิซคิดว่าเยี่ยนหวยมาทำธุระที่เมืองซี จากนั้นก็ค่อย ๆ พบว่ามันไม่ชอบมาพากลเยี่ยนหวยไม่ยุ่งเลยสักนิดแถมยังมีเวลาไปสอบถามร้านอาหารท้องถิ่น ถนนคนเดิน จุดชมวิวของเมืองซีเป็นต้น อีกต่างหาก ไม่เหมือนมาทำงานต่างถิ่น แต่เหมือนมาเที่ยวเสียมากกว่าจนกระทั่งวันนี้ เมื่อได้เห็นภาพนั้น อลิซถึงเข้าใจทุกอย่างที่แท้คนที่ซีซาร์ชอบไม่ใช่เฟย์ แต่เป็นถังซือซือเพื่อนของเฟย์!ที่แท้เขาไม่ได้มาทำงานต่างถิ่นที่เมืองซี แต่มาเพื่อตามจีบถังซือซือ!ที่เขาสอบถามร้านอาหารและจุดชมวิวของเมืองซี ก็เพื่อพาถังซือซือไปวันนี้!ในใจอลิซอิจฉาเป็นอย่างม
เมื่อเยี่ยนหวยได้ยินดังนั้น ก็รู้ในทันทีว่าเวินเหลียงไม่ได้รักษาคำมั่นสัญญาแต่เขาก็เตรียมตัวไว้นานแล้ว วันนั้นหลังจากกลับไปก็ให้คนไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด แล้วตัดคลิปมาใส่ไว้ในโทรศัพท์เมื่อได้ยินถังซือซือถามขึ้น เขาก็รีบส่งให้เธอทันที “ก็แค่คนที่ไม่สลักสำคัญอะไรคนหนึ่ง ฉันปฏิเสธเขาไปแล้ว”ถังซือซือดูคลิปรอบหนึ่ง ก่อนจะเบะปาก “อยู่ต่างประเทศคุณเยี่ยนมีสาวมาชอบเพียบเลยนะคะ”“แต่ฉันสนใจอยากจะครอบครองแค่เธอ”“จะยอมให้ฉันครอบครองไหม คุณถัง?”เยี่ยนหวยนั่งเอี้ยวตัว แขนข้างหนึ่งพาดอยู่บนพนักพิงเก้าอี้ เขาโน้มตัวเข้ามา ตัวท่อนบนใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ กลิ่นหอมฉุยจาง ๆ และกลิ่นอายของชายหนุ่มที่มาพร้อมกับการบุกรุกโอบล้อมเธอเอาไว้เขาดันแว่นตากรอบทอง สีหน้าอบอุ่น ฉีกยิ้มทว่าก็ราวกับไม่ยิ้ม มุมปากกระตุกรอยยิ้มเล็กน้อย ค่อนข้างมีความรู้สึกประเภทหน้าเนื้อใจเสือถังซือซือเหม่อไปครู่หนึ่ง“คุณถัง?”ใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้าขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ไออุ่นร้อนปะทะเข้ามาที่หน้า ในที่สุดถังซือซือก็ได้สติกลับมา เธอเอนหลังพลางตบหน้าอก “นายทำฉันตกใจหมด...ไป ไปเดินหาของกินเล่นกันเถอะ”เธอลุกขึ้นและเดินออกไปอย่าง