หลังจากผ่านมรสุมข่าวแฉ ในเฟซบุ๊กบัญชีหลักของเวินเหลียงก็มีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นมาไม่น้อยใต้โพสต์ที่เธอโพสต์รูปใบสำคัญการหย่าไว้ในเฟซบุ๊กโพสต์ก่อน มีคนมากมายเข้ามาคอมเมนต์แสดงออกว่าเข้าใจเธอผิดไป สงสารเธอและสนับสนุนเธอในช่องแสดงความคิดเห็นทีแรกเธอไม่คิดอยากจะลงชื่อเข้าใช้บัญชีเฟซบุ๊กนี้อีกเพียงแต่ในยุคที่อินเทอร์เน็ตพัฒนาจนถึงจุดสูงสุดยุคนี้นั้น ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวเล็กการเคลื่อนไหวน้อยล้วนแล้วแต่ถูกโพสต์ลงในอินเทอร์เน็ตทั้งนั้น กระทั่งมีเรื่อง ‘สืบคดีในเฟซบุ๊ก’ มากมายเวินเหลียงไม่แน่ใจว่าคนที่อยู่เบื้องหลังการตายของพ่อเป็นใครกันแน่ แต่เธอเป็นกังวลว่าหากเรื่องที่เธอแอบสืบด้วยตัวเองถูกแพร่งพรายออกไป เธออาจมีจุดจบเดียวกับพ่อก็เป็นได้ฉะนั้นเธอจึงต้องรักษาระดับความดังของตัวเองเอาไว้ เตรียมทางหนีทีไล่เอาไว้ให้เรียบร้อยหากตนตายไป เรื่องจะได้เป็นข่าวดังยังมีอีกความเป็นไปได้หนึ่ง คืออวิ๋นเฉียวสืบหาเบาะแสร่องรอยออกมาได้ ทว่าเนื่องจากสาเหตุเรื่องขั้นตอน หรือการขัดขวางของหนอนบ่อนไส้ ไม่สามารถตรวจสำนวนคดีและตัดสินคดีใหม่ได้ถ้าเป็นแบบนั้นเธอจะได้ใช้ระดับความดังและกระแสของตัวเองกดดั
“ค่ะ”ฟู่ซือฝานพยักหน้าหนัก ๆ คงเป็นเพราะค่อนข้างตื่นตาตื่นใจกับเมืองเจียงเฉิง เอาแต่มองซ้ายทีขวาทีอยู่ตลอดออกมาจากอาคารผู้โดยสาร ฟู่ซือฝานก็ดิ้นขึ้นมา “คุณลุง ปล่อยหนูลงเถอะค่ะ หนูเดินเองได้”“ไม่ให้ลุงอุ้มแล้วเหรอ? ก่อนหน้านี้ชอบให้ลุงอุ้มนี่?”ฟู่ซือฝานส่ายหน้าอย่างจริงจัง “ใส่เสื้อผ้าหนาเกินไป โดนอุ้มแล้วไม่สบายตัวค่ะ”ฟู่เจิงวางเธอลง พร้อมปลดกระเป๋าเป้ออก ก่อนจะยื่นมือออกมา “ลุงช่วยถือกระเป๋าเป้ให้เธอเอง”ฟู่ซือฝานปลดกระเป๋าเป้ส่งให้ฟู่เจิง ก่อนจะใช้นิ้วเกี่ยวนิ้วของฟู่เจิงเอาไว้นิ้วหนึ่ง พลางเดินกระโดดโลดเต้นไปด้านหน้าเมื่อมาถึงข้างรถ ฟู่เจิงเปิดประตูที่นั่งด้านหลังออก แล้วอุ้มฟู่ซือฝานเข้าไป เสร็จแล้วปิดประตูเดินอ้อมไปเปิดประตูรถอีกด้านก่อนจะนั่งเข้าไปฟู่ซือฝานเห็นว่าตรงที่นั่งคนขับมีอีกคนนั่งอยู่ จึงยิ้มพลางทักทายอย่างเป็นมิตร “คุณลุงคนขับ สวัสดีค่ะ”“คุณหนูน้อย สวัสดีครับ” คนขับฉีกยิ้มพร้อมหันหน้าไป แล้วตอบกลับ“ไปกันเถอะ” ฟู่เจิงปิดประตูรถคนขับสตาร์ตรถ แล้วพูดหยอกขึ้นว่า “คุณผู้ชายครับ ช่างบังเอิญจริง ๆ ผมว่าคุณหนูน้อยดูเหมือนคุณอยู่หน่อย ๆ นะครับ ถ้าไม่บอก เดา
“หนูเคยได้ยินคุณย่าพูดถึง คุณย่าร้องไห้ด้วย หนูปลอบคุณย่าว่าไม่ต้องร้องนะคะ”“ฝานฝานทำถูกแล้ว” ฟู่เจิงชมคุณท่านจากไปอย่างกะทันหัน แม้แต่ฟู่เจิงยังไม่ทันได้พูดประโยคสุดท้ายกับคุณท่านเลยในเมื่อไม่ได้เจอหน้าเป็นครั้งสุดท้าย ฟู่ชิงเยว่จึงไม่ได้กลับมา คงจะรอจนกว่าจะถึงปีใหม่“งั้นคุณลุงต้องอยู่กับคุณป้าแน่ ๆ!” ฟู่ซือฝานมองฟู่เจิงพลางยิ้มอย่างเริงร่าสีหน้าของฟู่เจิงแข็งทื่อ “ฝานฝาน ตอนนี้ลุงกับป้าไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว”“ทำไมล่ะคะ? สามีภรรยาก็อยู่ด้วยกันทั้งนั้น เหมือนคุณย่าทวดกับคุณปู่ทวด” ในดวงตากลมโตของฟู่ซือฝานเต็มไปด้วยความสงสัย“เพราะลุงหย่ากับป้าแล้ว ฝานฝานรู้ไหมว่าหย่าหมายความว่าอะไร? หมายความว่าลุงกับป้าไม่ได้เป็นสามีภรรยากันอีกต่อไปแล้ว”บนใบหน้าน้อย ๆ ของฟู่ซือฝานเผยสีหน้าผิดหวังออกมา “คุณป้าสวยขนาดนั้น ทำไมคุณลุงถึงหย่ากับคุณป้าล่ะคะ? คุณลุงจะแต่งงานกับคุณน้าอีกคนใช่ไหมคะ?”คุณน้าอีกคน หมายถึงฉู่ซืออี๋ ฟู่ซือฝานรู้ถึงการมีตัวตนของเธอ“ไม่ใช่ ลุงไม่ได้อยากแต่งงานกับคนอื่น ลุงไม่ได้อยากหย่ากับป้า แต่ป้าเป็นคนอยากหย่ากับลุง”“จริงเหรอคะ?” ใบหน้าของเจ้าตัวน้อยเต็มไปด้วยท
“สวัสดีจ้ะซือฝาน ช่างเป็นเด็กดีจริง ๆ รีบนั่งลงสิ” คุณหญิงพยักหน้าด้วยความพอใจ ก่อนจะล้วงนาฬิกาข้อมือเด็กที่เตรียมเอาไว้ตั้งนานแล้วออกมาส่งให้ฟู่ซือฝาน “นี่เป็นของขวัญเจอหน้ากันครั้งแรกที่ย่าทวดให้เธอ” เจ้าตัวน้อยไม่กลัวคนแปลกหน้าเลยแม้แต่น้อย เธอวางกระเป๋าเป้ลงบนโซฟาก่อน แล้วเขย่งขาขึ้นไปนั่งข้างคุณหญิง ค่อยหยิบกระเป๋าเป้ขึ้นมาเปิด “ขอบคุณค่ะคุณย่าทวด คุณย่าทวดคะ หนูเอาของขวัญมาให้คุณย่าทวดด้วยค่ะ”พูดไปเธอก็พลางล้วงกล่องเหล็กออกมาจากกระเป๋าเป้กล่องหนึ่ง “นี่ค่ะ คุณย่าทวด นี่เป็นคุกกี้ที่หนูทำเองกับมือเลยค่ะ คุณย่าทวดลองชิมดูสิคะ”“ว้าว ซือฝานของเรายังเด็กขนาดนี้แต่ทำคุกกี้เป็นแล้วเหรอ? เก่งจริง ๆ!”คุณหญิงเปิดกล่องเหล็กออก ข้างในเป็นคุกกี้สีเหลืองอร่ามที่ถูกวางเอาไว้สะเปะสะปะ ดูออกทันทีว่าใช้แม้พิมพ์กดออกมา มีรูปทรงกระต่ายตัวน้อย มีรูปทรงเจ้าแมวตัวเล็ก และยังมีรูปทรงกลม รูปทรงตัวเลขหนึ่ง เป็นต้นคุณหญิงหยิบออกมาชิมคำหนึ่ง ฟันปลอมเกือบหลุดออกมาจากปาก“อร่อยไหมคะ?!” ฟู่ซือฝานมองเธอด้วยนัยน์ตาเปล่งประกายดวงตาสองข้างนั้น ทั้งใหญ่ทั้งกลม แบ่งสัดส่วนตาดำและตาขาวออกอย่างชัดเจนเดิ
เจ้าตัวน้อยโอบคอของฟู่เจิงเอาไว้ พร้อมชมด้วยความตื่นเต้นดีใจ “ว้าว! คุณลุง คุณลุงเก่งมากจริง ๆ! หนูชอบคุณลุงสุด ๆ!”“เพราะลุงอุ้มเธอมือเดียวได้งั้นเหรอ?”“อืม ๆ! พ่อของสวี่เซ่อก็อุ้มเขาขึ้นมาด้วยมือเดียวได้เหมือนกัน! ฝานฝานไม่มีพ่อ คุณลุงทำให้หนูรู้สึกเหมือนถูกพ่ออุ้มเลย”เมื่อได้ยินดังนั้น ฟู่เจิงก็มองฟู่ซือฝาน พลางเจ็บปวดใจเล็กน้อยเจ้าเด็กน้อยตรงหน้าคนนี้ ดูเหมือนจะไม่รู้จักคิดไม่มีสมอง ทว่าอันที่จริงรู้ประสีประสาทุกอย่างเด็กหญิงตัวน้อยที่น่ารักขนาดนี้ ทำไมพ่อแม่ของเธอถึงได้ใจแข็งทิ้งไปได้นะ? ไม่เหมาะจะเป็นพ่อแม่คนจริง ๆ!มีแวบหนึ่งฟู่เจิงผุดความคิดที่จะรับเลี้ยงฟู่ซือฝานขึ้นมาเขาเพียงแค่อยากอยู่กับเวินเหลียง พวกเขาคงไม่มีลูกด้วยกันอีก รับเลี้ยงฟู่ซือฝานบางทีอาจเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวก็ได้เพียงแต่เขาจะเอ่ยปากออกไปสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ ต้องรอจนกว่าเขาจะจีบเวินเหลียงกลับมาได้ แล้วถามความคิดเห็นของเวินเหลียงพวกเขากลับไปกินข้าวเที่ยงกันที่บ้านใหญ่ เจ้าหนูน้อยเหนื่อยแล้ว เธอง่วงจนลืมตาไม่ขึ้นฟู่เจิงถามขึ้นเบา ๆ ว่า “ฝานฝาน ลุงพาเธอกลับไปบ้านลุงเลยนะ ตอนนี้เธอนอนบนรถไปก่อนสักพ
“ฝานฝาน” เวินเหลียงยิ้มเล็กน้อยพลางโน้มตัวลงไป แล้วอุ้มฟู่ซือฝานขึ้นมา บีบหน้าแดง ๆ ของเจ้าตัวน้อยอย่างสนิทสนม “ทำไมเธอถึงมาเมืองเจียงเฉิงได้ล่ะ?”ฟู่ซือฝานจูบลงบนหน้าเวินเหลียงดังจุ๊บ ๆ ก่อนจะผงกศีรษะน้อย ๆ ขึ้นมา “หนูปิดเทอมแล้วน่ะค่ะ คุณย่ามีธุระ เลยดูแลหนูไม่ได้”เธอยัดกล่องใสในมือให้เวินเหลียง “คุณป้าคะ นี่เป็นของขวัญที่หนูเอามาให้คุณป้าค่ะ”ดวงตากลมดิ๊กของฟู่ซือฝาน อย่างกับปุ๊กลุกตอนมุดอยู่ใต้โต๊ะเป๊ะ ๆ เวินเหลียงมองไปแล้วก็อดไม่ได้ที่จะใจอ่อน “ขอบคุณนะฝานฝานเรื่องของขวัญน่ะ จะขึ้นไปเล่นกับป้าไหม?”ไม่รู้เพราะอะไร เธอมักมีความรู้สึกสนิทสนมกับฟู่ซือฝานขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุถ้าลูกของเธอได้คลอดออกมา จะน่ารักเหมือนฝานฝานไหมนะ?ฟู่ซือฝานพยักหน้าหนัก ๆ “ไปค่ะ!”“ไปกัน ไปเล่นข้างบนกับป้า”เวินเหลียงจูงมือฟู่ซือฝานเดินเข้าไปในย่านเมื่อฟู่เจิงเห็นว่าผู้ใหญ่อย่างตนถูกละเลยอยู่คนเดียว เขาก็ลูบจมูก และเดินตามอยู่ด้านหลังไปเงียบ ๆเวินเหลียงเดินไปได้สองก้าวก็หยุดฝีเท้าลง ก่อนจะหันหน้าไปมองฟู่เจิงฟู่เจิงเองก็หยุดฝีเท้าลงอย่างแรง สีหน้าเหยเกอยู่เล็กน้อย“ส่วนคุณน่ะไม่ต้องตามไป” เ
“คุณป้าคะ คุณลุงบอกว่าที่บ้านของคุณป้ามีแมวอยู่ตัวหนึ่ง? หนูเองก็ชอบแมวเหมือนกัน!”“ที่บ้านป้ามีแมวอยู่ตัวหนึ่งจริง ๆ แต่ว่าตอนนี้แมวมันเป็นเชื้อราแมว เชื้อราแมวแพร่สู่คนได้ ฝานฝาน เธอยังเด็กเกินไป ถ้าสัมผัสแมว อาจติดเชื้อราแมวเอาได้นะ”“เชื้อราแมวคืออะไรเหรอคะ?” ใบหน้าของเจ้าตัวน้อยเผยความผิดหวังออกมา ก่อนจะถามขึ้นด้วยความสงสัย“เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งจ้ะ”เวินเหลียงเปิดโทรศัพท์ แล้วเซิร์ชหาภาพเชื้อราแมวในเบราว์เซอร์ ก่อนจะเอาให้ฟู่ซือฝานดู “นี่ไง นี่ก็คือเชื้อราแมว”เวินเหลียงเป็นผู้ใหญ่ ภูมิคุ้มกันแข็งแรง อาจไม่ติดเชื้อ แต่ฟู่ซือฝานยังเด็กเกินไป เวินเหลียงไม่กล้าพาเธอไปเสี่ยงแม้จะบอกว่าเชื้อราแมวเป็นโรคที่รักษาให้หายเองได้ แต่ฟู่ซือฝานไม่ใช่ลูกของตนหากติดเชื้อราแมวขึ้นมา ฟู่ชิงเยว่คงได้มาคิดบัญชีกับเธอแน่เจ้าตัวน้อยดูภาพเชื้อราแมวแล้ว ก็เอ่ยขึ้นด้วยความรังเกียจว่า “น่าขยะแขยงจัง จะหายไหมคะ?”“หายจ้ะ แค่ตรงที่เป็นเชื้อราแมวจะคันนิดหน่อย”เมื่อได้ยินดังนั้น ฟู่ซือฝานก็กลอกตาทีหนึ่ง พลางกัดนิ้ว สีหน้าเต็มไปด้วยความสับสน “แต่หนูก็ยังอยากเล่นกับแมวอยู่ดี ทำยังไงดีคะ?”เวินเ
ฟู่ซือฝานตอบตกลง เวินเหลียงหยิบกุญแจรถแล้วออกจากห้องไปเมืองเจียงเฉิงในฐานะเมืองเอกประจำมณฑลเจ เป็นศูนย์กลางการปกครองและศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ ธุรกิจการท่องเที่ยวพัฒนาไปในทิศทางที่ไม่เลวเลย มีจุดชมวิวโด่งดังไปทั่วทั้งประเทศอยู่สองสามแห่ง เมื่อถึงวันหยุดจะมีคนมากมายเวินเหลียงขับรถพาฟู่ซือฝานไปยังจุดชมวิวสองแห่งของเมืองเจียงเฉิง ถ่ายรูปมาไม่น้อยเลยทีเดียว พร้อมทั้งถือโอกาสเดินเล่นรอบ ๆ จุดชมวิวด้วยฟู่ซือฝานกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ เธอซื้อของที่ระลึกไปเยอะมาก บอกว่าจะซื้อกลับไปฝากคุณย่าและบรรดาเพื่อนร่วมชั้นของตัวเองเมื่อถึงตอนกลางวัน เวินเหลียงก็พาฟู่ซือฝานไปกินข้าวที่ร้านอาหารมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งใกล้จุดชมวิวทั้งสองคนเลือกที่นั่งริมหน้าต่าง สามารถมองเห็นทัศนียภาพด้านนอกได้ที่นั่งค่อนข้างสูง เวินเหลียงอุ้มฟู่ซือฝานขึ้นไป ขาเล็กสั้นลอยอยู่ในอากาศ จากนั้นก็แกว่งไปแกว่งมาเพื่อให้ดูแลเธอได้สะดวก เวินเหลียงจึงนั่งฝั่งเดียวกับเธอ หารือกันแล้วสั่งอาหารมาสองสามอย่างฟู่ซือฝานใช้ชีวิตอยู่ในไชน่าทาวน์ที่ลอสแอนเจลิส ชินกับการกินอาหารจีน แต่ถึงอย่างไรก็เป็นต่างประเทศ อาหารจีนไม่หลากหลายเ
อิเลียลุกขึ้นพรวด พลางมองเยี่ยนหวยอย่างเหลือเชื่อ“ถ้าเธอยังเห็นฉันเป็นพี่ชายของเธออยู่ ก็เชื่อฟังฉัน แล้วกลับไปเมืองฟิลาเดลเฟียพรุ่งนี้ซะ!” เยี่ยนหวยนั่งตัวตรงพลางเงยหน้ามองเธออยู่บนโซฟา“ฉันไม่กลับ!” อิเลียเดือดดาลจนแค่นเสียงฮึออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะกลับไปนั่งตรงมุมโซฟา “อยากกลับพี่ก็กลับไปเองซะเลยสิ!”“ฟู่เจิงไม่ใช่คนดี ต่อให้ระหว่างพวกเธอมีลูกด้วยกัน เขาก็ไม่มีทางคบกับเธอ”ก่อนหน้านี้ฟู่เจิงเคยมีเรื่องอื้อฉาวว่ามีชู้ ตอนนี้ก็มีอดีตภรรยาที่มีความสัมพันธ์คลุมเครือมาอีกคน ขอให้เป็นผู้ใหญ่ที่รักลูกสาว ก็จะไม่มีวันเลือกเขาทั้งนั้น“พี่รู้ได้ยังไงว่าเขาไม่ใช่คนดี? พี่รู้ได้ไงว่าเขาจะไม่คบกับฉัน? วันนี้ตอนเที่ยงเรายังไปกินข้าวด้วยกันอยู่เลย!”เมื่อเห็นอิเลียดื้อดึง ในใจของเยียนหวยก็รู้สึกไม่ได้ดั่งใจ เขาแสยะยิ้มออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “พวกเธอไม่ได้ไปกินข้าวด้วยกันตามลำพัง แต่ฟู่ซือฝานอยู่ข้าง ๆ ใช่ไหม?”ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ ฟู่เจิงจะมากินข้าวกับอิเลียตามลำพังได้ยังไง? นอกเสียจากเขาคิดจะเลิกกับเวินเหลียงจริง ๆ“...ใช่ ก็เขาเป็นลูกของพวกเรานี่” เมื่อเห็นว่าถูกเดาทางถูก อิเลียก็พูดอึ
แต่หลังจากเดินตามแผนแล้วถึงได้พบว่า นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยถ้าพ่อแม่คุณลุงคุณป้ารู้ว่าเธอมีลูกนอกสมรสข้างนอก ต้องเข้ามาแทรก และไม่แน่ว่าจะพาตัวเธอกับลูกกลับไป“อิเลีย ผมเข้าใจนะครับคุณในฐานะแม่แท้ ๆ คุณอยากรีบกระชับความสัมพันธ์กับฝานฝาน แต่ก็อย่าตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก โดยเฉพาะมักจะไปหาฝานฝานที่โรงเรียนอนุบาล แบบนี้จะส่งผลกระทบกับชีวิตของเธอได้นะครับ”“ฉันรู้แล้วค่ะ ต่อไปจะไม่ไปหาเขาที่โรงเรียนอนุบาลอีก ฉันเห็นว่าคุณกินน้อยมาก อาหารที่เหลือไม่ถูกปากหรือเปล่า?”ฟู่เจิง “...ก่อนมาผมกินมาบ้างแล้ว”หลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ ฟู่ซือฝานรบเร้าขอกลับกับฟู่เจิงเธอล้วงกลยุทธ์ร้องไห้งอแงชักดิ้นชักงออยู่ที่พื้นของเด็กห้าขวบออกมาอย่างล้ำลึก ไม่มีเหตุผล ทว่าอิเลียฝืนเธอไม่ได้อิเลียทำได้เพียงกลับไปที่บ้านของเซี่ยเจิน“อิเลีย เธอกลับมาแล้วเหรอ?”เมื่อเห็นอลิซนั่งอยู่บนโซฟา อิเลียเดินมานั่งลง “เป็นยังไงบ้าง? ครั้งนี้เธอไปเมืองซีกับซีซาร์ ได้แสร้งทำเป็นเจอโดยบังเอิญ แล้วไปกินข้าวกับเขาอะไรหรือเปล่า?”อลิซเบะปาก “เปล่า”“ทำไมล่ะ? โอกาสดีขนาดนั้นทำไมเธอไม่คว้าเอาไว้?”“เขางานยุ่งมาก ฉันกล
อิเลียจัดผมด้วยท่าทางราวกับไม่มีเจตนาอื่น หน้าตาเผยความตื่นเต้นออกมาดูท่าเธอจะเลือกวิธีถูกจริง ๆในตอนนี้เธอเพิ่งเข้าใกล้ฟู่ซือฝานไม่เท่าไร ท่าทีของฟู่เจิงเขาก็ผ่อนคลายลงเยอะแล้วผ่านไปยี่สิบนาที ฟู่เจิงก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องรับรองนี่เป็นการเจอกันครั้งที่สองหลังจากวันนั้นเขานั่งลงข้าง ๆ ฟู่ซือฝาน พลางพยักหน้าให้อิเลียเบา ๆ “รบกวนแล้ว ไม่ถือสาที่ผมมาร่วมโต๊ะด้วยใช่ไหม?”“ไม่ถือสา นั่งเถอะค่ะ”สีหน้าของอิเลียเย็นชา ราวกับยังอยู่ต่อหน้าคุณหญิงและฟู่ชิงเยว่ครั้งก่อน เธอไม่ได้โกรธที่ฟู่เจิงปฏิเสธเธออย่างไร้ความปรานี“งานผมยุ่งมาก ยากที่จะใส่ใจคุณกับฝานฝานได้มากขนาดนั้น”“ฝานฝานเป็นลูกของฉัน นี่เป็นสิ่งที่สมควรอยู่แล้ว ฉันไม่รู้ว่าคุณจะมา ก็เลยสั่งอาหารไปสุ่ม ๆ เดี๋ยวอาหารมาเสิร์ฟคุณก็ดูแล้วกันว่าอยากจะสั่งเพิ่มไหม”“ผมไม่เลือกกิน” ฟู่เจิงตอบจากนั้นพนักงานก็เริ่มมาเสิร์ฟอาหารฟู่เจิงมองเนื้อแพะที่มาเสิร์ฟเต็มโต๊ะ เขาเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก้มหน้าไปมองฟู่ซือฝานฟู่ซือฝานก้มศีรษะน้อย ๆ อย่างกระวนกระวายอิเลียหยิบตะเกียบขึ้นมา “ไม่ต้องเกรงใจ กินเลยค่ะ”ฟู่เจิงลังเลอยู่ครู่หนึ่
เจียงเฉิงเที่ยงวันศุกร์ อิเลียไปรับฟู่ซือฝานออกไปกินข้าวเที่ยงที่คฤหาสน์ย่านซิงเหอวานเธอฉีกยิ้มพลางพูดกับฟู่ซือฝานว่า “เมื่อวานแม่ว่าจะไปรับหนูที่โรงเรียนอนุบาล จู่ ๆ ก็นึกถึงคำพูดของหนูเมื่อครั้งก่อนได้ ก็เลยมาวันนี้ วันนี้ตอนบ่ายแม่จะพาหนูไปเล่นดี ๆ เป็นยังไงจ๊ะ?”ฟู่ซือฝานเอียงคอพลางครุ่นคิด “ตอนบ่ายหนูต้องทำการบ้าน แค่กินข้าวเที่ยงก็พอแล้วค่ะ”“ก็ได้ งั้นหนูคิดไว้หรือเปล่าว่าอยากกินอะไร?”“ไปร้านอาหารที่มีเมนูเนื้อแพะแนะนำแล้วกันค่ะ” ฟู่ซือฝานเอ่ยขึ้นด้วยทีท่าจริงจัง “วันนี้คุณลุงบอกว่าจะไปกินข้าวเที่ยงเป็นเพื่อนหนู ไม่รู้ว่าจะมาไหม”นัยน์ตาอิเลียวาบความปลื้มปีติออกมา “จริงเหรอ?”“เขาเคยบอกไว้แบบนี้ค่ะ คุณน้าคะ ที่คุณน้ารับหนูออกมา ไม่ใช่เป็นเพราะอยากกระชับความสัมพันธ์กับหนูสองต่อสองเหรอคะ? ทำไมถึงหวังให้คุณลุงมาด้วยล่ะคะ?”เจ้าตัวน้อยเอ่ยถามขึ้นด้วยใบหน้าจริงจัง“น้า...น้ามีเรื่องอยากพูดคุยกับพ่อของหนูน่ะ แล้วก็หวังว่าเราจะได้กินข้าวด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว” อิเลียรีบหาข้ออ้างทันทีเจ้าเด็กคนนี้ หูตาเฉียบแหลมจริง ๆ“อ้อ”“น้าจะหาร้านอาหารเนื้อแพะเดี๋ยวน
“เรียกฉันทำไม?” เยี่ยนหวยมองเธอด้วยสีหน้าไร้เดียงสา“ตอนนี้มันฤดูร้อน”ผ่านฤดูใบไม้ผลิมาแล้ว“ฉันแค่นึกถึงวันนั้นที่ไปติวให้เธอแล้วเจอแม่เธอเข้าโดยบังเอิญ เธอคิดไปถึงไหน?” เยี่ยนหวยเลิกคิ้วถังซือซือชะงักไปมีครั้งหนึ่งตอนที่เธอติวอยู่ในบ้าน แล้วบังเอิญเจอแม่ของเธอเข้าจริง ๆ แต่นั่นมันเรื่องตอนเทอมที่สองเยี่ยนหวยต้องจงใจพูดถึงวันนั้นตอนเทอมแรกแน่ ๆ ให้เธอเข้าใจผิดถ้าเธอชี้ไปเลยว่าเยี่ยนหวยจำผิด ก็จะเข้าแผนของเยี่ยนหวย เหมือนว่าเธอยังไม่เคยลืมเรื่องในอดีต คิดถึงเรื่องราวเหล่านั้นของเธอกับเยี่ยนหวยอยู่ตลอด“ตอนนี้ไม่ใช่ฤดูร้อนเหรอ? นายคิดไปถึงไหนอีก?” เธอปัดตกเรื่องนี้ไปอย่างมั่นใจทันทีหลังพูดจบ เธอก็หมุนตัวเดินไปด้านหน้าต่อ “ไม่พูดแล้ว รีบไปร้านถัดไปเถอะ”อยู่ข้างนอกจนถึงสี่ทุ่ม ทั้งสองคนถึงกลับไปยังโรงแรมด้วยกันถังซือซืออยากเรียกรถกลับไปเอง ไม่อยากให้เยี่ยนหวยไปส่งเธอเยี่ยนหวยจึงเอ่ยไปตามตรงว่า “ฉันพักอยู่ที่โรงแรมเดียวกันกับเธอ”ถังซือซือ “...”นี่ไม่ใช่ครั้งแรกแล้วคราวก่อนตอนที่เวินเหลียงถ่ายรูปเยี่ยนหวยรูปแรกที่เมืองฟิลาเดลเฟีย เวินเหลียงก็ถามว่าช่วงนี้เยี่ยนหวย
เมืองซีในฐานะเมืองใหญ่ของเจียงหนาน ประเภทของกินเล่นมีมากมาย ของกินเอกลักษณ์ที่ขึ้นชื่อไปทั่วประเทศอาทิ เต้าหู้เหม็น ไส้กรอกยักษ์ เส้นหมีเฝิ่น กุ้งเผ็ดเป็นต้นถังซือซือเคยมาเมืองซีตอนมาทำงานต่างถิ่นก่อนหน้านี้ เวลาค่อนข้างกระชั้นชิด จึงทำได้เพียงเดินช็อปปิงที่อื่น แต่เพิ่งเคยมาถนนคนเดินที่นี่เป็นครั้งแรกเธอซื้อไส้กรอกยักษ์สองชิ้นก่อน และแบ่งให้เยี่ยนหวยหนึ่งชิ้นกินไปได้เพียงครึ่งเดียว ถังซือซือก็หยุดอยู่ตรงหน้าร้านขายขนมฉือปา เธอกลืนน้ำลายแล้วถามขึ้นว่า “รู้ไหมคะว่าตรงไหนมีถังขยะบ้าง?”“ที่เหลือเธอไม่กินแล้วเหรอ?”“อืม”“ไม่อร่อย?”“ไม่ใช่ อร่อยมาก แต่ว่ายังมีของอร่อยอื่น ๆ อีกเยอะแยะ ฉันอยากเก็บท้องเอาไว้”เยี่ยนหวย “...”“เอามาให้ฉันก็ได้” เยี่ยนหวยรับไส้กรอกครึ่งชิ้นที่เหลืออยู่มาจากในมือของเธอ ก่อนจะเติมเข้าไปในท้องอย่างไม่มีภาระใด ๆถังซือซือซื้อขนมฉือปาแล้วเธอทำตัวอย่างกับโจร แต่ละร้านไม่ยอมปล่อยไปเลย ทว่าก็ชิมเพียงสองสามคำ ทั้งหมดที่เหลือก็โยนให้เยี่ยนหวยอย่างสบายใจเยี่ยนหวยเพลิดเพลินกับพฤติกรรมพรรค์นี้ ในใจเข้าใจได้ในทันที ราวกับกลับไปเมื่อเจ็ดปีก่อนหลังเรียนอย
“มันเรื่องอะไรกันแน่?”ก่อนหน้านี้ที่เยี่ยนหวยอยู่ที่เจียงเฉิง กลับไม่ได้สังเกตเท่าไรว่าอิเลียกำลังทำอะไรอยู่ เธอออกไปข้างนอกทุกวัน เยี่ยนหวยคิดเพียงแค่ว่าเธอกำลังไปเที่ยวเล่นถังซือซือไม่ใช่คนที่จะกุเรื่องมั่วซั่ว เธอพูดแบบนี้ ต้องรู้อะไรบางอย่างแน่ ๆ“พูดไปแล้วก็ยาว ตอนแรกฟู่ชิงเยว่อาของฟู่เจิงรับเลี้ยงเด็กกำพร้าอยู่ที่เมืองนอก ตอนนี้อายุห้าขวบแล้ว ปีที่แล้วอาเหลียงแท้ง แล้วฟู่ชิงเยว่ติดธุระพอดี เลยส่งเด็กคนนั้นกลับประเทศมาให้ฟู่เจิงดูแลช่วงหนึ่ง ฟู่เจิงเลยให้เด็กคนนั้นอยู่ในประเทศไปเลยเพื่อง้ออาเหลียง ปกติจะมาอยู่เป็นเพื่อนอาเหลียง และเด็กคนนั้นเองก็เข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้านของฟู่เจิง แต่ว่า...”เยี่ยนหวยเดาเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไปออกแล้ว จึงรับช่วงเอ่ยขึ้นต่อว่า “แต่ว่าจู่ ๆ ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวบอกว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกของฟู่เจิงกับอิเลีย?”“ใช่ รายละเอียดฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน เหมือนว่าจะเกี่ยวข้องกับอาของฟู่เจิงนิดหน่อย เธอรู้ตัวตนของเด็กผู้หญิงคนนั้นมาตั้งแต่แรก และไม่ชอบอาเหลียงมาโดยตลอด ยังไงตอนนี้อาเหลียงก็อยู่กับฉัน เขากับฟู่เจิงทะเลาะกันอีกแล้ว”เยี่ยนหวยเอ่ยควา
“เยี่ยนหวย!!”ประตูลิฟต์เปิดออก ทั้งสองคนเข้าไปกันตามลำดับ แล้วลงไปยังลานจอดรถใต้ดินตรงมุมเลี้ยว ในหัวของผู้หญิงสวมหน้ากากอนามัยวาบภาพที่เห็นเมื่อครู่ขึ้นมา หมัดที่ห้อยอยู่กำขึ้นแน่น เธอก้มหน้าทั้งดวงตาที่ประกายความอำมหิตออกมาหากเวินเหลียงอยู่ตรงนี้ คงจะจำได้แน่ ๆ ว่าผู้หญิงที่สวมหน้ากากอนามัยคนนี้ก็คืออลิซที่เธอมาเจียงเฉิง ก็เพราะเยี่ยนหวย เยี่ยนหวยมาเมืองซีเมื่อสองวันก่อน เธอเองก็ตามมาเช่นกันอิเลียถามเลขาของเยี่ยนหวย เมื่อรู้โรงแรมของเขาก็บอกกับอลิซทีแรกอลิซคิดว่าเยี่ยนหวยมาทำธุระที่เมืองซี จากนั้นก็ค่อย ๆ พบว่ามันไม่ชอบมาพากลเยี่ยนหวยไม่ยุ่งเลยสักนิดแถมยังมีเวลาไปสอบถามร้านอาหารท้องถิ่น ถนนคนเดิน จุดชมวิวของเมืองซีเป็นต้น อีกต่างหาก ไม่เหมือนมาทำงานต่างถิ่น แต่เหมือนมาเที่ยวเสียมากกว่าจนกระทั่งวันนี้ เมื่อได้เห็นภาพนั้น อลิซถึงเข้าใจทุกอย่างที่แท้คนที่ซีซาร์ชอบไม่ใช่เฟย์ แต่เป็นถังซือซือเพื่อนของเฟย์!ที่แท้เขาไม่ได้มาทำงานต่างถิ่นที่เมืองซี แต่มาเพื่อตามจีบถังซือซือ!ที่เขาสอบถามร้านอาหารและจุดชมวิวของเมืองซี ก็เพื่อพาถังซือซือไปวันนี้!ในใจอลิซอิจฉาเป็นอย่างม
เมื่อเยี่ยนหวยได้ยินดังนั้น ก็รู้ในทันทีว่าเวินเหลียงไม่ได้รักษาคำมั่นสัญญาแต่เขาก็เตรียมตัวไว้นานแล้ว วันนั้นหลังจากกลับไปก็ให้คนไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด แล้วตัดคลิปมาใส่ไว้ในโทรศัพท์เมื่อได้ยินถังซือซือถามขึ้น เขาก็รีบส่งให้เธอทันที “ก็แค่คนที่ไม่สลักสำคัญอะไรคนหนึ่ง ฉันปฏิเสธเขาไปแล้ว”ถังซือซือดูคลิปรอบหนึ่ง ก่อนจะเบะปาก “อยู่ต่างประเทศคุณเยี่ยนมีสาวมาชอบเพียบเลยนะคะ”“แต่ฉันสนใจอยากจะครอบครองแค่เธอ”“จะยอมให้ฉันครอบครองไหม คุณถัง?”เยี่ยนหวยนั่งเอี้ยวตัว แขนข้างหนึ่งพาดอยู่บนพนักพิงเก้าอี้ เขาโน้มตัวเข้ามา ตัวท่อนบนใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ กลิ่นหอมฉุยจาง ๆ และกลิ่นอายของชายหนุ่มที่มาพร้อมกับการบุกรุกโอบล้อมเธอเอาไว้เขาดันแว่นตากรอบทอง สีหน้าอบอุ่น ฉีกยิ้มทว่าก็ราวกับไม่ยิ้ม มุมปากกระตุกรอยยิ้มเล็กน้อย ค่อนข้างมีความรู้สึกประเภทหน้าเนื้อใจเสือถังซือซือเหม่อไปครู่หนึ่ง“คุณถัง?”ใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้าขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ไออุ่นร้อนปะทะเข้ามาที่หน้า ในที่สุดถังซือซือก็ได้สติกลับมา เธอเอนหลังพลางตบหน้าอก “นายทำฉันตกใจหมด...ไป ไปเดินหาของกินเล่นกันเถอะ”เธอลุกขึ้นและเดินออกไปอย่าง