ฟู่เจิงมองผู้รับผิดชอบพื้นที่อุตสาหกรรมผู้รับผิดชอบนั่งตัวตรงแน่วทันทีและกล่าวสมทบ “ผมเห็นด้วยกับวิธีการของประธานเกาครับ ลดแรงกดดันจากการวิพากษ์วิจารณ์ก่อน แล้วปรับความเข้าใจเป็นการส่วนตัว ยังไงก็แค่ชดใช้เงิน ถ้าคุณปล่อยให้เขาอาละวาดต่อไปจะเป็นผลร้ายกับบริษัทมากนะครับ”ฟู่เจิงนั่งพิงโซฟา เอามือวางไว้ที่พนักแขน งอนิ้วเคาะเป็นจังหวะ “เรื่องกำลังลุกลาม ตอนนี้นักข่าวต้องเฝ้าอยู่ที่บ้านหม่าเหอแน่ ถ้าไปเจรจาเป็นการส่วนตัวตอนนี้ มีแต่ทำให้คนคิดว่าเราละอายใจ อีกอย่างผลการพิจารณาคดีใหม่ของฝ่ายปกครองก็ยังไม่ออก รอก่อนเถอะ”ประธานเกาไม่เห็นด้วยกับความคิดของฟู่เจิง “ช่วงนี้บริษัทมีแต่ข่าวลบ ๆ หุ้นตกเรื่อย ๆ พวกผู้ถือหุ้นพากันไม่พอใจแล้ว อย่าเพิ่งสนใจผลการพิจารณาคดีใหม่ของฝ่ายปกครองว่าจะเป็นยังไงเลย ต่อให้เป็นความผิดของคนตาย การที่พวกเราดีกับครอบครัวคนตายก็เป็นการทำกุศล กอบกู้ชื่อเสียงของบริษัทได้”“ผมจำได้ว่าเมื่อก่อนอาเกาก็มีใจฮึกเหิมเหมือนกัน การที่พื้นที่อุตสาหกรรมใหญ่โตอย่างทุกวันนี้ได้ล้วนเป็นผลงานของอาเกา ตอนนี้นั่งอยู่ในออฟฟิศนานทำไมกลายเป็นขี้ขลาดตาขาวไปได้?”ประธานเกา “...”“นักข่า
“เห็นแล้วค่ะ” เวินเหลียงนั่งอยู่บนโซฟา ยกแก้วน้ำขึ้นมาจิบคำหนึ่งฟู่เจิงชะงัก เหมือนไม่คิดว่าปฏิกิริยาของเวินเหลียงจะมีแค่คำพูดสองคำ เขาจึงถามหยั่งเชิง “คิดยังไงบ้าง?”เวินเหลียงมองไปทางเขาและพูดชืด ๆ อีกสองคำ “ไม่มีค่ะ”ฟู่เจิงนัยน์ตาอึมครึม“เมื่อไรเราจะไปจดทะเบียนหย่ากันที่สำนักงานเขตคะ?”ฟู่เจิงตัวแข็งทื่อ เส้นสายตาตกบนตัวเวินเหลียง สายตาครุ่นคิด “เธอก็ยังจะหย่า?”“ค่ะ”“แต่พวกเราเปิดเผยกับสาธารณชนแล้ว”“ใครบอกว่าเปิดเผยแล้วจะหย่าไม่ได้?”“เพราะอะไร?”“คราวก่อนฉันก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอคะ?”“เพราะโจวอวี่ใช่ไหม? เพราะเขายอมสละการงานของตัวเองซ้อมคนดึงดูดความสนใจของชาวเน็ตเพื่อเธอ เขาเปิดคลิปเสียงนั่นให้เธอฟังแล้ว?”เวินเหลียงขมวดคิ้ว มองเขาด้วยความสับสน “หมายความว่ายังไงคะ? โจวอวี่ซ้อมคนเพื่อฉัน? คลิปเสียงอะไร?”“ไม่มีอะไร” ฟู่เจิงเบนสายตาและส่ายหน้า “งั้นสาเหตุที่เธอจะหย่าให้ได้คืออะไร?”“ฉันก็แค่อยู่กับคุณต่อไปไม่ไหวแล้ว คุณก็ไปทำตามคำสัญญากับฉู่ซืออี๋ ส่วนฉันก็ใช้ชีวิตเรียบง่ายของฉันไม่ดีเหรอคะ?”“งั้นก็เพราะฉู่ซืออี๋? เธอจะให้ฉันทำยังไง? ฉันจะรับปากเธอหมด”“คุณอยากอยู
ในตอนที่เจียงมู่ผลักประตูห้องวีไอพีและเห็นฟู่เจิงนั่งอยู่คนเดียวก็เดาอะไรออกแล้วเขาปิดประตู หยุดอยู่ตรงหน้าโต๊ะ มองขวดเหล้าที่ว่างเปล่าก่อนจะถาม “ทะเลาะกับเวินเหลียงมาเหรอ?”ฟู่เจิงเงียบ ตัวโคลงเคลงเทเหล้าตรงหน้าตัวเองจนเต็มแก้ว แล้วจรดดื่มเจียงมู่เห็นเขาจะเทเหล้าอีกจึงรีบคว้าขวดเหล้าไว้แบบตาเร็วมือไวฟู่เจิงตอบสนองช้าครึ่งจังหวะ มองเจียงมู่แบบความรู้สึกช้า เขายื่นมือออกไป “เอาเหล้ามาให้ฉัน”“นายเรียกฉันมา เพื่อให้ฉันดูนายดื่มเหล้าเนี่ยนะ? ฉันไม่มีความชอบด้านนี้ ถ้านายจะดื่มต่อ ฉันจะกลับแล้ว”ฟู่เจิงตัวกระตุก มือที่ค้างอยู่กลางอากาศหมดแรง หล่นลงบนตักของเขาดังตุบ ทั้งตัวปวกเปียกอิงโซฟาเหมือนไม่มีกระดูกเขากึ่งหลุบตา ทำให้คนเห็นแววตาของเขาไม่ชัดเจน ความหมองคล้ำใต้ขนตาแสดงให้เห็นถึงความอ่อนล้าในระยะนี้“เขาจะหย่ากับฉัน” อยู่ดี ๆ ฟู่เจิงก็พูดขึ้น เจียงมู่กลับเข้าใจเขาวางขวดเหล้าไว้อีกทางหนึ่งแล้วนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับฟู่เจิง ใบหน้าไม่มีท่าทางแปลกใจสักนิด ก่อนจะถอนหายใจพูด “นึกอยู่แล้ว”ฟู่เจิงชายตามองพรึบ“คราวก่อนเจอกัน ตอนที่นายให้ฉางคงขอโทษเวินเหลียง อินซะ ตอนที่มีแต่นายกั
พอได้ยินคำพูดของเจียงมู่ ฟู่เจิงก็ชะงักไป หัวเราะด้วยความรู้สึกโง่งม “ทำไมฉันไม่เข้าใจเหตุผลง่าย ๆ ที่นายพูดนะ?”เขานึกถึงตอนที่กำลังมีอารมณ์เร่าร้อนกับเวินเหลียงบนเตียง พอรับสายจากผู้จัดการส่วนตัวของฉู่ซืออี๋และรู้ว่าฉู่ซืออี๋หายตัวไป เขาก็ดึงดันจะไปให้ได้เวินเหลียงรั้งตัวเขาไว้หลายครั้ง แต่เขาก็ยังไปในตอนนั้นเขายังว่าเธอด้วยความโมโหอีกว่าไม่มีความเห็นใจสักนิดตอนนี้คิด ๆ ดูแล้ว คำพูดนี้ทำร้ายเธอขนาดไหนทำไมเวินเหลียงต้องเห็นใจคนที่ทำลายชีวิตคู่ของเธอด้วย?ถ้าตอนนี้มีคนบอกเขาว่าโจวอวี่หายตัวไป เขามีแต่จะปรบมือเรียกว่าดี“ความจริงต่อให้นายติดค้างฉู่ซืออี๋ ก็ไม่ควรยอมให้มากเกินไป ตอนนั้นหลังจากเรื่องนั้น ทุกคนเอาแต่โทษนาย แต่พวกเขาคิดว่านายกับฉู่ซืออี๋เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว นายไม่ใช่ผู้ปกครองของฉู่ซืออี๋ กลางค่ำกลางคืนเขาวิ่งออกจากมหาลัยไปเป็นปัญหาของเขาเอง แถมที่โดนจับเรียกค่าไถ่ โดนโจรเรียกค่าไถ่ปู้ยี่ปู้ยำก็ไม่เกี่ยวกับนาย ตอนนั้นแจ้งความคือวิธีการที่ดีที่สุด ไม่งั้นนายคนเดียวจะช่วยได้หรือเปล่ายังไม่รู้ และไม่แน่ว่าตัวเองจะโดนไปด้วย ฉันรู้ว่านายรู้สึกผิดถึงได้ชดเชยกับฉู่ซืออี๋ให
ค่ำคืนเงียบสงัด คาเยนน์สีดำคันหนึ่งขับเข้าที่จอดรถชั้นใต้ดินโรงแรมที่พักของกองถ่ายเมืองอวิ๋นสุ่ย“คุณผู้ชาย ถึงแล้วครับ”คนขับรถจอดรถนิ่ง มองฟู่เจิงที่นั่งอยู่ด้านหลังและหลับตาพักผ่อนจากกระจกมองหลัง ส่งเสียงเรียก“อื่ม”ฟู่เจิงหลับตาตอบรับ จากนั้นก็เงียบไปเหมือนหลับอีกคนขับรถได้กลิ่นเหล้าฉุนคลุ้งรถ ลังเลไม่รู้ว่าควรเรียกให้ตื่นหรือเปล่าผ่านไปสองนาที ฟู่เจิงที่อยู่ด้านหลังเคลื่อนไหวแล้วเขาหรี่ตาจนเหลือขีดเดียว มือลูบคลำบนตัวเล็กน้อย ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าสูท กดหน้าจอสองสามทีก็ได้ยินเสียงโทรออกตู๊ด ๆ ที่ดังออกมาจากโทรศัพท์ ไม่นานปลายสายก็มีคนรับ เสียงง่วงนอนแต่ดีใจจนที่ไม่ปกปิด “อาเจิง??”“ผมอยู่ชั้นล่างของโรงแรม”หลังจากฟู่เจิงส่งบอดีการ์ดมา ฉู่ซืออี๋รู้ว่าฟู่เจิงไม่ยอมโอนอ่อนให้อีก ถ้าเขาไม่อยากเจอเธอ เธอก็จะไม่ได้เจอกับฟู่เจิง!แผนนี้ใช้ไม่ได้ผลแล้ว เธอจึงได้แต่ทำเป็นว่าอาการป่วยคงที่ ถ่ายละครในกองถ่ายต่อและรอโอกาสไม่นึกว่าดึกดื่นเที่ยงคืนฟู่เจิงจะมาหาเธอในวันที่สองหลังจากเข้ากองถ่าย ฉู่ซืออี๋เซอร์ไพรส์มาก ความง่วงหายไปหมด “ฉันจะลงไปหาคุณเดี๋ยวนี้แห
ฉู่ซืออี๋มองฟู่เจิงแบบไม่อยากจะเชื่อ ทันใดนั้นก็พูดไม่ออกปัจจุบันสภาพแวดล้อมของวงการบันเทิงในประเทศไม่ได้ใช้ความสามารถ แต่ต้องมีเส้นสายไม่รู้ว่ามีนักแสดงที่มีฝีมือตั้งเท่าไรถูกกดขี่ให้ต้องเล่นบทเล็ก ๆ ไม่ได้ลืมตาอ้าปากเพราะไม่มีเส้น และนักแสดงนำที่สวยแต่รูปจูบไม่หอมไม่มีทักษะการแสดงสักนิดกลับผุดขึ้นมาคนแล้วคนเล่าในเจียงเฉิง ตระกูลฉู่นับว่าพอมีชื่อแต่ฉู่ซืออี๋รู้ พ่อของเธอก็คนคือไม่เอาถ่านคนหนึ่ง ไม่มีประโยชน์สักนิด รู้จักแต่กินดื่มเที่ยวเล่น กลับชอบคุยโตโอ้อวดหยิ่งผยอง ส่วนลุงที่ดูเป็นมิตร ความจริงกลับเห็นแก่ตัวและเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนถ้าเธอไม่มีฟู่เจิงหนุนหลัง ลุงคงไม่แม้แต่จะรักษาน้ำใจต่อหน้าแล้วเธอจะเสียทุกอย่างในตอนนี้ไปไม่ได้!ฉู่ซืออี๋มองฟู่เจิง ปั้นหน้าเป็นทุกข์บางส่วน ความริษยาแวบผ่านดวงตา หมัดที่อยู่ข้างลำตัวกำแน่น เล็บทิ้งรอยจันทร์เสี้ยวตรงฝ่ามือหลายรอย“อาเจิง คุณต้องทำอย่างนี้ให้ได้ใช่ไหมคะ? คุณแค้นฉันขนาดนั้นเลยเหรอ? คุณรู้หรือเปล่าว่าพอคลิปให้สัมภาษณ์ของคุณแพร่ออกไป พวกเขาพากันด่าว่าฉันเป็นมือที่สามที่แทรกแซงชีวิตคู่ของพวกคุณ...”“หรือว่าคุณไม่เคยมีความคิดน
สามวันต่อมา แฮชแท็กหนึ่งในอันดับค้นหายอดฮิตทำให้อินเทอร์เน็ตเดือดเมืองอวิ๋นสุ่ยเปลี่ยนตัวนางเอกไป๋เหมี่ยว กองถ่ายคัดเลือกคนใหม่พอเชื่อมโยงกับคลิปสัมภาษณ์เมื่อไม่นานมานี้ ชาวเน็ตต่างสันนิษฐานว่าฟู่เจิงแตกหักกับฉู่ซืออี๋แล้วชาวเน็ตที่เซนซิทีฟประหนึ่งเชอร์ล็อกโฮล์มส์ พบว่าหน้าเพจทางการของฟู่ซื่อถอดแอมบาสเดอร์ของฉู่ซืออี๋แล้วเหมือนกันดูท่าฟู่เจิงคิดจะเป็นชายประเสริฐสักครั้ง หวนคืนสู่ครอบครัว?พอได้รับการแจ้งนี้ ผู้กำกับเฉินทั้งตกใจทั้งดีใจแต่โดยรวมแล้ว ดีใจมากกว่าตกใจที่ตกใจคือ ตามความคืบหน้าการถ่ายทำในตอนนี้ ถ้าเปลี่ยนตัวนางเอก จะต้องถ่ายบางฉากใหม่ เสียเวลา เสียกำลัง เสียเงินทองที่ดีใจคือ ถึงยังไงผู้ลงทุนก็เป็นคนควักเงินถ่ายซ่อม ทางผู้ลงทุนเป็นคนกำหนดตัวฉู่ซืออี๋แต่ต้น เขาไม่มีทางเลือก ตอนนี้สามารถเลือกนางเอกตามเงื่อนไขของตัวเองได้แล้ว เปลืองเวลาเปลืองแรงหน่อยจะเป็นอะไรไปเหตุจากเรื่องนี้ ผู้รับผิดชอบการลงทุนของซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์จึงจัดเลี้ยงอาหารในห้องอาหารส่วนตัวแห่ง เชิญผู้กำกับเฉินและฟู่เจิงมาที่ตั้งของห้องอาหารส่วนตัวแห่งนี้อยู่ในหลืบ อยู่ในส่วนลึกของซอย ต้องจอด
ฟู่เจิงเปล่งเสียงด้วยความโกรธทีหนึ่ง ใช้เท้าข้างหนึ่งถีบคนกระเด็น อีกฝ่ายกุมท้องหมอบอยู่กับพื้น กระอักเลือดปนน้ำย่อยคำหนึ่ง“พอ อย่า...” หนึ่งในนั้นคิดจะถอยตกลงกันไว้แล้วว่าให้คนแซ่ฟู่โดนสั่งสอนหน่อยเท่านั้นแต่เวลานี้คนที่เหลือต่อสู้กันจนเลือดขึ้นหน้า แต่ละกระบวนท่าดุดันรุนแรง ไม่รู้จักหยุดมือ ลืมการนัดแนะในตอนแรกไปหมดฟู่เจิงตั้งการ์ดป้องกันในตอนนี้เอง จู่ ๆ ก็มีคนถือมีดเข้ามาหาจากข้างหลัง คมมีดตรงมายังตำแหน่งหัวใจด้านหลังของฟู่เจิง“อาเจิง! ระวัง!”‘ฉึก’ เสียงหนึ่ง คมมีดแทงเข้าเนื้อกาย“อ๊า...” ผู้หญิงร้องเสียงหลง ปอดฉีกหัวใจแหลกลาญ……วันที่ยี่สิบสี่เดือนตุลาคมเวลาบ่ายสองโมงสิบแปดนาที เกิดเหตุแทงกันที่ถนนกว่างโจวเมืองเจียงเฉิง มีผู้ได้รับบาดเจ็บสองคน เวลานี้กำลังเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว คดีนี้กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการข้อความข่าวเด้งขึ้นมาเวินเหลียงกำลังตั้งใจทำงานจึงไม่ได้ใส่ใจกระทั่งผ่านไปสิบนาที ถังซือซือผู้เกาะติดกระแสข่าวแชร์ลิงก์มาให้ “อาเหลียง เธอดูผู้ชายในคลิปวินาทีที่ห้าสิบเจ็ดสิ เหมือนอีตามืดบอดนั่นหรือเปล่า?”นิ้วมือของเวินเหลียงชะงัก ใช้เม