Home / รักโบราณ / สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง / ตอนที่3||ข้าขอใช้ร่างกายตอบแทนบุญคุณ!

Share

ตอนที่3||ข้าขอใช้ร่างกายตอบแทนบุญคุณ!

last update Last Updated: 2025-04-09 15:45:27

ตอนที่3||ข้าขอใช้ร่างกายตอบแทนบุญคุณ!

ซึ่งตลอดเวลาที่เด็กสาววัยสิบสามปีกำลังนั่งเผากระดาษเงินกระดาษทองเฝ้าอยู่หน้าหลุมศพครอบครัวของนางทั้งห้าหนุ่มจากช่วงสายจนถึงมืดค่ำ ซ่งไป๋เซียวกับคนของเขาทั้งหกคนล้วนไม่มีใครจากไปไหน

จนบัดนี้มืดค่ำชาวบ้านทั้งหลายกลับบ้านเรือนของพวกเขาไปหมดแล้ว ซ่งไป๋เซียวจึงคิดว่ามันสมควรที่เขาจะส่งนางกลับเรือนได้แล้ว เขาก้าวเข้าไปหยุดยืนเคียงข้างร่างเล็กๆ ตรงหน้าหลุมศพ ก่อนเอ่ยเสียงหนักแน่น

"ค่ำแล้วกลับเรือนเถอะ"

พอเขาเอ่ยเตือน อาหลีจึงค่อยนึกได้ว่าตลอดเวลา บุรุษที่บอกกับนางว่าเขาคือ สหาย ของหลินลู่เฟย นามว่าซ่งไป๋เซียว หรือท่านหมอซ่งยังไม่ไปไหน

"ท่านหมอซ่งเชิญกลับไปก่อนได้เลย หมู่บ้านนี้สำหรับข้าไม่มีอันตรายข้าเกิดและเติบโตที่นี่"

เพราะช่วงสามวันมานี้นางทราบว่าท่านหมอซ่งกับคนของเขาพักผู้ที่บ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน (หลี่ฉาง) = (里長) ซึ่งอยู่ไกลกว่าเรือนของนางให้เขาเดินทางมืดค่ำ คงดูไม่ดี

"คงไม่ได้ ข้าไม่วางใจ อย่างไรเจ้าก็เป็นเด็กสาว ยิ่งเจ้าอยู่ตัวคนเดียวใจคนยากแท้หยั่งถึง"

ฟังคำเตือนของท่านหมอซ่ง หลินหลีฮวาก็คิดตามไปด้วยทบทวนครู่หนึ่งนางจึงขยับกายจัดข้าวของลงตะกร้าจนเรียบร้อยก็ลุกขึ้นยืนแต่คงเพราะนั่งคุกเข่าท่าเดิมนานไป พอลุกขึ้นนางจึงเสียหลัก ยังดีว่าซ่งไป๋เซียวว่องไวเขาจึงจับต้นแขนเล็กๆ ของนางเอาไว้ได้ทันก่อนจะที่ร่างเล็กจะหน้าคะมำลงไปจุมพิตพื้นดิน

"ระวังหน่อย"

พอร่างเล็กยืนได้มั่นคงแล้วเขาจึงเอ่ยเตือน เสียงค่อนข้างเข้มงวด ราวกับอาจารย์ดุศิษย์แสนซุกซน แต่เพียงชั่ววูบที่เขาเข้ามาใกล้ชิด หลินหลีฮวาคิดว่าตนเองเข้าใจไม่ผิด บุรุษผู้นี้เป็นมากกว่าท่านหมอหลวง!

"ข้าช่วยถือ"

ไม่ใช่การร้องขอ แต่เป็นการบอกกล่าว เพราะเมื่อกล่าวจบ ท่านหมอซ่งผู้นั้นก็ดึงเอาตะกร้าในมือของนางไปถือเสียเอง เป็นบุรุษที่ค่อนข้างเอาแต่ใจและเผด็จการผู้หนึ่งเลยทีเดียว

"ท่านหมอซ่งจะกลับเหยียนจิ่งวันใดหรือเจ้าค่ะ"

จากหยางโจวไปเหยียนจิ่งก็เดินทางร่วมหนึ่งเดือน ดังนั้นแต่ต้นจนจบเขามาและกลับคงกินเวลาสองเดือนเศษ พวกขุนนาง ถึงอีกฝ่ายจะเป็นเพียงหมอหลวงก็คงรั้งอยู่ต่างเมืองนานกว่านี้ไม่ได้ ยิ่งนางสอบถาม กับพี่ชายของร่างนี้เขาทั้งสองเป็นเพียงแค่สหายมิใช่เจ้านายหรือผู้ร่วมงานดังนั้นที่มาส่งเถ้ากระดูก ท่านหมอซ่งคงใช้วันลาส่วนตัวของเขาเองเป็นแน่ นางจึงถามเขาออกไปตามมารยาท

ฝ่ายของซ่งไป๋เซียวนั้นหลังจากที่รับรู้ว่าเด็กสาวคนนี้ไม่เหลือใครอีกแล้วเขาก็คิดทบทวนอย่างดีและถี่ถ้วนมาตลอดสามวัน แรกเริ่มเขาคิดจะพานางกับท่านย่าของนางกลับไปเหยียนจิ่งด้วย แต่มิคาดเลยว่าเมื่อมาถึงท่านย่าของสองพี่น้องแซ่หลินจะจากไปแล้วอีกคน การจะพาเด็กสาวไปอยู่กับเขาก็คงต้องทำอะไรให้ถูกต้อง ยิ่งต้องไปอยู่จวนเดียวกัน ยิ่งต้องจัดการให้ถูกต้องทุกทางจึงนับว่าเขาไม่ผิดต่อคำสาบานที่เขาได้ทำมันต่อหน้าศพของหลินู่เฟย

"หลินหลีฮวา ข้ามีเรื่องต้องพูดกับเจ้า"

หลังจากทั้งหมดเดินมาจนถึงเรือนหลังเล็กของหลินหลีฮวาแล้วพอเขาเอ่ยขึ้นมาเช่นนั้นเด็กสาวจึงหยุดฝีเท้าแล้วเงยหน้าขึ้นมองเขา ดวงตาของนางยังคงมีรอยแดงก่ำแต่ยังคงความเฉียบคมเช่นเดิม

"เช่นนั้นเชิญท่านหมอซ่งกล่าวมาเถอะ" ถึงจะมืดมากแล้วแต่หน้าเรือนคาดว่าเป็นอาต๋าที่มาจัดตะเกียงเอาไว้จึงไม่มืดจนมองอะไรไม่เห็น

"เข้าไปภายในเรือนเถอะ" ซ่งไป๋เซียวกล่าวจบเขาก็เดินนำเจ้าของเรือนตัวจริงเข้าไปด้านในเสียแล้ว หลินหลีฮวาถึงกับหรี่ตามองตาม บุรุษผู้นี้เป็นเผด็จการจริงเสียด้วย ถนัดออกคำสั่ง เป็นผู้นำ กิริยาเย็นชา รอบกายมีแต่กลิ่นอายสังหารไหนยังจะกิริยาตอบสนองว่องไว นี่มันเป็นหมอแน่หรือ?

"ข้าอยากรับผิดชอบเจ้า" คำพูดนั้นเปล่งออกมาชัดถ้อยชัดคำหลังจากทั้งสองเข้ามาอยู่ภายในโถงกลางของเรือน ที่มีเอาไว้ทั้งรับแขก และกินข้าว รวมถึงทำสิ่งต่างๆ

มือเรียวของหลินหลีฮวาชะงัก ก่อนจะเทน้ำชาใส่ถ้วยเลื่อนไปตรงหน้าของท่านหมอซ่ง  ดวงตาของเด็กสาวหรี่แคบลงสามส่วนคล้ายกำลังประเมินคำว่า ‘ข้าอยากรับผิดชอบเจ้า‘ ที่บุรุษตรงหน้าเอ่ยออกมาให้กระจ่าง

"รับผิดชอบ? ข้าไม่เข้าใจ ท่านหมายความว่าอย่างไร?" สุดท้ายนางก็เลิกคาดเดาแล้วถามออกไปเลยย่อมดีกว่า

"แต่งงานกับข้า"

เพล้ง!

"!!!"

ซ่งไป๋เซียวเอ่ยตรงไปตรงมา ทำเอาถ้วยน้ำชาในมือของหลินหลีฮวาตกลงพื้น ก็จะไม่ให้นางตกใจได้อย่างไร หากเป็นร่างเดิมคือหลัวจือจื่อคงไม่แปลกเพราะร่างนั้นสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างนี้และขณะนี้อายุเพิ่งจะสิบสามปี!

"เจ้าตัวคนเดียว ไม่มีครอบครัว ไม่มีผู้ใดคอยดูแล พี่ชายของเจ้าจากไปแล้ว หากเจ้ายังอยู่ลำพังเช่นนี้ วันข้างหน้าอาจมีคนคิดร้าย เจ้าก็รู้ว่าหญิงสาวที่ไร้ญาติขาดมิตรในหมู่บ้านเล็ก ๆ เช่นนี้ มักตกเป็นเป้าของผู้ไม่หวังดีได้โดยง่าย"

หลินหลีฮวาเม้มริมฝีปากแน่น นางกำลังตกใจ แต่ก็เก็บอาการเอาไว้ได้ ผ่านไปครู่นางจึงรวบรวมสติกลับมั่นคงได้

"ข้าไม่ต้องการให้ใครรับผิดชอบ ข้าดูแลตนเองได้" สามเดือนเศษที่ผ่านมานางก็อยู่มาได้

"แต่ผู้เฒ่าในหมู่บ้านมิได้คิดเช่นนั้น"

"หมายความว่าอย่างไร?" นางถามเสียงเย็น

"พวกเขาพูดกับข้าว่าเป็นห่วงเจ้า แต่ก่อนทุกคนยังคิดว่าพี่ชายของเจ้ายังอยู่ถึงจะไกลแต่พี่ชายของเจ้าไปเป็นทหารย่อมไม่มีใครกล้าแตะต้องเจ้า แต่บัดนี้ไม่มีอีกแล้ว ทุกคนกังวลว่าเจ้าจะไม่ปลอดภัย"

ซ่งไป๋เซียวอธิบายจบจึงถอนหายใจก่อนจะกล่าวออกมาอีกหลายประโยค

"หัวหน้าผู้บ้านกับผู้อาวุโสอีกหลายคนก็บอกว่าหากเจ้ายังไม่มีสามี เกรงว่าคนในหมู่บ้านหรือพวกคหบดีในเมืองจะใช้เล่ห์กลมาบีบบังคับเจ้าให้แต่งงานกับคนที่เจ้าไม่ต้องการ และเมื่อถึงวันนั้น เจ้าอาจไม่มีทางเลือก"

หลินหลีฮวาเงียบไป นางย่อมรู้ดีว่าคำพูดของเขาไม่ผิด ยิ่งนางเติบโตขึ้นทุกวัน อันตรายยิ่งคืบคลานเข้ามาใกล้ขึ้นทุกขณะเช่นกัน

"ที่สำคัญข้าทราบมาว่าเจ้าอยากศึกษาวิชาปรุงโอสถและทำเครื่องหอมกับกำยาน ข้าเป็นหมอหลวง และสนิทกับท่านอาจารย์ในสำนักศึกษาหลวงที่เหยียนจิ่ง เจ้าอยากจะเข้าเรียนข้าช่วยเจ้าได้ หรือหากเจ้าไม่ต้องการไปเรียน ข้ายินดีสอนเจ้าด้วยตนเอง และหากเจ้าอยากเปิดร้านกำยาน ร้านเครื่องหอม ข้าก็จะสนับสนุนเจ้าทุกทาง"

ซ่งไป๋เซียวยังคงพูดชักหลินหลีฮวาจูงให้เด็กสาวคล้อยตาม บอกจากใจเขาทอดทิ้งนางให้อยู่ที่ถงหลัวเพียงลำพังไม่ลงจริงๆ หลินหลีฮวาเงียบเพราะคิดตรึกตรองอีกชั่วครู่ก่อนที่นางจะสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะเอ่ยขึ้นเบา ๆ ว่า…

"ท่านหมอซ่ง ท่านรู้หรือไม่... ข้าเป็นตัวซวย แม้แต่นามของข้ายังมาจากคำว่าจากลาครั้งแรกข้ายังไม่เชื่อแต่พอวันนั้นที่ท่านกลับมาพร้อมโถกระดูกของพี่ใหญ่ข้าจึงเชื่อสนิทใจว่าข้าคงมีดวงพิฆาตญาติพี่น้อง"

ซ่งไป๋เซียวขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่นางยังคงพูดต่อไป

"ทุกคนที่ใกล้ชิดกับข้ามักพบจุดจบที่เลวร้ายท่านก็เห็นแล้วนี่"

นางหัวเราะเยาะตัวเอง

"พ่อแม่ของข้าตายไปตั้งแต่ข้ายังเด็ก จากนั้นก็เป็นท่านปู่ ท่านย่า แม้แต่พี่ใหญ่ที่รักข้ามากที่สุดก็จากข้าไปแล้ว เช่นนี้แล้วท่าน... ท่านยังกล้าแต่งกับข้าอีกหรือ?"

ซ่งไป๋เซียวมองดูเด็กสาวตรงหน้าอย่างเงียบงัน ก่อนกล่าวเสียงเรียบ

"ชีวิตของข้า อาลู่เป็นคนช่วยเอาไว้"

เขาหยุดเว้นระยะเล็กน้อยก่อนที่เขาเอ่ยต่อเสียงเรียบแต่หนักแน่น

"หากสุดท้ายข้าต้องตายเพราะเจ้าที่เป็นน้องสาวของเขา ข้าก็ยินดี เพราะนับจากวันที่อาลู่เอาชีวิตของเข้าปกป้องตายแทนข้า ชีวิตของข้าก็เป็นของเจ้าไปแล้ว"

คำพูดของเขาทำให้หลินหลีฮวาชะงักงัน หัวใจของนางสั่นไหวอย่างรุนแรง นางจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้า แววตาของเขาแน่วแน่มั่นคง ไม่มีแววล้อเล่น ไม่มีความลังเล

"ท่านจะไม่เสียใจแน่หรือ?"

นางถามออกไปด้วยน้ำเสียงจริงจังไม่มีล้อเล่น

"ข้ารู้ดีว่าตัวเองกำลังทำอะไรและตั้งใจแล้วว่าข้าขอใช้ร่างกายตอบแทนบุญคุณเจ้าไปชั่วชีวิต! "

ซ่งไป๋เซียวตอบกลับนางมาหนักและแน่วแน่ไม่ต่างกัน แต่อันใดคือข้าขอใช้ร่างกายตอบแทนบุญคุณ ฟังดูแล้วขัดหูพิลึก!

"และข้ามิได้แต่งกับเจ้าเพราะความสงสาร แต่เพราะข้าต้องการปกป้องเจ้า ให้เกียรติเจ้า สนับสนุนเจ้า ให้เติบโตขึ้นเป็นสตรีที่มีค่าดังที่อาลู่เขาพูดกับข้าอยู่บ่อยครั้ง"

หลินหลีฮวายังคงนิ่งเงียบ หัวใจของนางเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน ข้อเสนอของเขาน่าสนใจมากจริงๆ ไปเหยียนจิ่ง ย่อมดูกว่าอยู่ที่หยางโจว

ซ่งไป๋เซียวจ้องมองนาง ก่อนเอ่ยเสียงอ่อนลงเล็กน้อย คล้ายกับเขาจะวิงวอนให้นางตอบตกลง บุรุษผู้นี้ยากแท้หยั่งถึงเสียจริง

"เจ้าจะลองเชื่อใจข้าสักครั้งได้หรือไม่?"

หลินหลีฮวาก้มหน้าลง ดวงตาของนางสะท้อนแสงวูบไหว ในที่สุด... นางก็เอ่ยตอบเบา ๆ

"ตกลง"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่4||สู่ขออย่างสมเกียรติ

    ตอนที่4||สู่ขออย่างสมเกียรติลมหนาวพัดโชยไปทั่วหมู่บ้านถงหลัว บรรยากาศยังคงสงบราบเรียบเช่นทุกวันที่ผันผ่าน ตามประสาหมู่บ้านเล็กในเมืองติดชายแดนเช่นหยางโจว หลังจากวันที่ซ่งไป๋เซียวพูดคุยเกลี้ยกล่อมจนหลินหลีฮวายอมรับปากจะแต่งงานกับเขา ท่านหมอซ่งก็หายไปราวสามวันพอตกสายของวันที่ห้าหมู่บ้านถงหลัวที่เคยเงียบสงบกลับคึกคักขึ้นมาเมื่อขบวนรถม้าหรูหราเดินทางมาหยุดที่ลานหน้าศาลากลางหมู่บ้านซึ่งเป็นจวนของหัวหน้าหมู่บ้านติง"เฮ้ย นั่นมันตราประจำตัวของผู้ว่าการเมืองหยางโจวใช่หรือไม่?"ท่านป้าผู้หนึ่ง ที่ออกมาร่วมดูชมขบวนรถม้าหรูหรา เพราะอาจจะเท่าชีวิตของนาง ห้าสิบปียังไม่เคยพบเห็นขบวนรถม้าหรูหรายิ่งใหญ่ผ่านเข้ามาในหมู่บ้านแห่งนี้มาก่อน"ใช่แล้ว! ท่านผู้ว่าการฮั่นเป็นคนสำคัญของเมืองหยางโจวเชียวนะ แล้วเข้ามาทำอะไรในหมู่บ้านเล็กๆ ของพวกเราทำไมกัน?"บรรยากาศเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ผู้คนต่างพากันจับกลุ่มซุบซิบด้วยความสงสัยไม่คลาย"ได้ยินมาว่าวันนี้ท่านหมอซ่งที่มาส่งอัฐิของอาลู่เขาจะมาสู่ขออาหลี…"แล้วก็มีท่านลุงผู้หนึ่งซึ่งคุ้นเคยกับบ้านเว่ยที่เป็นช่างไม้เอ่ยขึ้นและเพียงเท่านั้นข่าวลือก็แพร่สะพัดไปทั่วหม

    Last Updated : 2025-04-09
  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่ 5||พิธีสมรสหน้าป้ายวิญญาณ

    ตอนที่ 5||พิธีสมรสหน้าป้ายวิญญาณเวลาเจ็ดวันผ่านไปรวดเร็วยิ่งและแล้วฤกษ์มงคลก็มาถึงในวันนี้อากาศแจ่มใสท้องฟ้ากระจ่างแสงแดดอ่อนต้นยามเฉินสาดส่องลงมายังพื้นปฐพี ทุกชีวิตในหมู่บ้านถงหลัวต่างมารวมตัวกันที่เรือนสกุลหลินเพื่อเป็นสักขีพยานให้กับคู่บ่าวสาวในงานสมรสวันนี้ตามธรรมเนียมของชาวต้าฉู่แล้ว หญิงสาวผู้เป็นเจ้าสาวต้องสวมชุดแต่งงานสีแดงเข้ม ปักลวดลายนกยวนยางอันเป็นสัญลักษณ์แห่งโชคดีและความเจริญรุ่งเรืองหากเป็นคู่แต่งงานเป็นชาวบ้านทั่วไป ส่วนเจ้าสาวที่เป็นเชื้อพระวงศ์ลวดลายที่ปักจะเป็นสงห์ ดังนั้นชุดที่หลินหลีฮวาสวมจะมิได้หรูหราดังเช่นของคุณหนูสูงศักดิ์ แต่ผ้าเนื้อดีสีแดงสดนี้ก็เป็นผ้าไหมที่ซ่งไป๋เซียวจัดหามาให้ ลวดลายที่ปักยังเป็นช่างมากฝีมืออันหนึ่งในหยางโจวอีกด้วย เวลาเพียงสิบเอ็ดวันก็เสร็จเรียบร้อย หากไม่มีเงินยากนักที่จะทำได้เช่นนี้ทำเอาสตรีภายในหมู่บ้านถงหลัวล้วนตื่นตาตื่นใจและมีหลายคนรู้สึกริษยาเจ้าสาวขึ้นมา แต่ก็เพียงส่วนน้อย คนส่วนใหญ่ก็ล้วนยินดีไปกับอาหลี เด็กน้อยชะตาอาภัพกันทั้งสิ้น ชุดแต่งงานว่างดงามแล้วแต่ด้วยกิริยาสงบนิ่งเกินอายุของหลินหลีฮวากลับทำให้นางงามสง่าไม่แพ้สตรีชั

    Last Updated : 2025-04-09
  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่ 6 || เดินทางกลับเมืองหลวง

    ตอนที่ 6 || เดินทางกลับเมืองหลวงสรุปแล้วคืนนั้นก็จบลงที่ต่างเมาแล้วเผลอหลับกันที่สุสานกันทั้งคู่ พอรุ่งเช้าซ่งไป๋เซียวนั้นร่างกายแข็งแรงย่อมไม่มีผลอันใด ทว่าเด็กสาวเช่นหลินหลีฮวาต่างออกไปเพราะแต่เดิมร่างนี้ก็ไม่ค่อยแข็งแรงอยู่แล้ว ตากน้ำค้างทั้งคืน พอถึงยามเช้าเลยป่วยมีไข้เสียแล้ว เป็นอันว่ากำหนดเดินทางกลับเมืองหลวงจึงต้องเลื่อนออกไปอีกสามวันพอรุ่งอรุณของวันที่สี่หลังพิธีแต่งงานมาเยือน หมอกบางลอยเรี่ยอยู่เหนือแนวป่า เสียงนกร้องแว่วมาแต่ไกล สายลมเย็นพัดผ่านเรือนเล็กของอาหลีที่บัดนี้ไม่มีความเงียบสงัดดังเคยเพราะวันนี้มีรถม้ากับคนของซ่งไป๋เซียวร่วมเจ็ดสิบชีวิตมารวมตัวกันและใช่วันนี้เป็นวันที่ซ่งไป๋เซียวจะพาหลินหลีฮวาหรืฮูหยินท่านหมอซ่งกำลังจะออกเดินทางกลับไปยังเมืองหลวงแล้วหลินหลีฮวาออกมายืนอยู่หน้าประตูเรือน ดวงตาจับจ้องไปยังขบวนม้าที่จอดเรียงรายอยู่เบื้องหน้า รถม้าคันใหญ่ถูกจัดเตรียมไว้สำหรับนางและอาจ้าน ขณะที่เหล่าองครักษ์ในชุดเกราะหนังสีเข้มยืนเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบ แสดงให้เห็นถึงความเป็นระเบียบแบบแผนของกองคุ้มกันนี้นี่แท้จริงซ่งไป๋เซียวเป็นหมอหลวงแน่หรือ?สงสัยแต่นางยังไม่กล้

    Last Updated : 2025-04-09
  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่7|| เรือนอวี้หลันของพวกเรา

    ตอนที่7|| เรือนอวี้หลันของพวกเราทันทีที่ก้าวผ่านประตูใหญ่และเหล่าคนรับใช้ส่วนหนึ่งที่ตั้งแถวต้อนรับคุณชายรอง อาหลีก็กวาดสายตาสังเกตรอบข้างเงียบงัน นางสัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่กว้างขวางของจวนแห่งนี้ เพราะจวนซ่งนี้ถูกสร้างขึ้นตามรูปแบบ เรือนสี่ประสาน หรือ ซื่อเหอย่วน (四合院) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมดินแดนจงหยวนของขุนนางชั้นสูง ภายในประกอบด้วยเรือนหลักและเรือนรองที่เชื่อมต่อกันล้อมรอบลานกว้างตรงกลางพื้นทางเดินปูด้วยหินแกรนิตสีเทาเรียบสนิท บรรยากาศสงบและเข้มขลัง เมื่อเงยหน้ามองขึ้นไปจะเห็นอาคารเรือนใหญ่ที่หลังคามุงกระเบื้องเขียวสลับฟ้า ตัดกับเชิงชายไม้ที่แกะสลักลวดลายเมฆมงคลอย่างวิจิตร เสาไม้ขนาดใหญ่ถูกสลักงดงาม ตัดกับคานไม้สีทองอร่าม แสดงถึงความมั่นคงของจวนขุนนางเสียงรองเท้าของบ่าวไพร่ที่สวมรองเท้าผ้าดังก้องบนพื้นหิน พวกเขาล้วนแต่งกายด้วยอาภรณ์เรียบง่าย แต่สะอาดสะอ้าน บ้างถือพัด บ้างถือถาดน้ำชาเดินสวนกันไปมาอย่างเป็นระเบียบ แต่พอพวกเขาแลเห็นคุณชายรองต่างก็ก้มศีรษะและโค้งกายทำความเคารพบ่าวไพร่จำนวนไม่น้อยลอบมองอาหลีด้วยความอยากรู้ ต่างพากันคาดเดาไปต่างๆ นานา บางคนอดใจไม่ไหวก็ถึงกับแอบไปสอบถาม

    Last Updated : 2025-04-09
  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่8|| นี่หรือพ่อสามี

    ตอนที่8|| นี่หรือพ่อสามีภายในห้องโถงใหญ่ของจวนเสนาบดีสกุลซ่ง บรรยากาศตึงเครียดจนแทบไม่มีผู้ใดกล้าหายใจแรง หลังจาก คนสนิทของใต้ซ่งผู้นำตระกูลในขณะนี้เข้าไปแจ้งกับนายท่านของเขาว่าบัดนี้ท่านหมอซ่งหรือคุณชายรองซ่งมาขอพบพร้อมกับฮูหยิน ไม่นานเขาก็อนุญาตให้บุตรชายคนรองของตนเองเข้าพบได้"ให้มันเข้ามา!"บุรุษหนุ่มใหญ่นั่งอยู่บนแท่นสูงเอ่ยออกไป ใบหน้าของเขามืดครึ้มดุจพายุคลั่ง ดวงตาเฉียบคมเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด บนโต๊ะไม้แกะสลักอันวิจิตรถูกปกคลุมไปด้วยเอกสารราชการที่ถูกเขวี้ยงทิ้งอย่างไม่ไยดี ด้านหลังบุรุษวัยสี่สิบปลาย ๆ ผู้มีตำแหน่งสูงส่ง แผ่นหลังตั้งตรงราวกับไม้สน แม้จะอายุไม่น้อยแต่ยังคงแข็งแกร่งและทรงอำนาจเสียงฝีเท้าดังขึ้นเมื่อซ่งไป๋เซียวก้าวเข้ามาในห้องโถง พร้อมกับ หลินหลีฮวา ที่เดินตามมาด้วยกิริยาสงบนิ่ง แม้จะต้องเผชิญกับสายตากดดันของขุนนางใหญ่แห่งแผ่นดิน แต่เด็กสาวเพียงค้อมศีรษะให้เล็กน้อย ก่อนจะคุกเข่าลงข้าง ๆ สามีของตนแต่ไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้เอ่ยสิ่งใด เสียงของซ่งป๋อเหยียนก็กระแทกก้องห้องโถง"เจ้าหายหัวไปสามเดือน! พอกลับมาเจ้ากลับพาเด็กสาวที่ใดก็ไม่รู้มาเป็นสะใภ้ของสกุลซ่ง!?"ซ่ง

    Last Updated : 2025-04-09
  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่ 15|| ท่านหมอซ่งชื่นชมอาหลีในใจ

    ตอนที่ 15|| ท่านหมอซ่งชื่นชมอาหลีในใจกลางยามเฉิน ภายในโรงหมอหลวง ซ่งไป๋เซียวยังคงง่วนอยู่กับการจัดเรียงตำราแพทย์บนโต๊ะหนังสือขนาดใหญ่ แสงแดดอ่อนยามสายสาดผ่านหน้าต่างกระดาษสา ทาบลงบนเอกสารรายงานการรักษาผู้ป่วยที่กองสูงเป็นตั้ง เขาพลิกกระดาษอย่างแผ่วเบา สายตากวาดมองข้อมูลอย่างรวดเร็วแต่เพียงครู่เดียว เสียงฝีเท้าแผ่วเบาก็ดังขึ้นด้านหลัง ซ่งไป๋เซียวไม่ได้เงยหน้าขึ้น เขารู้ดีว่าเป็นผู้ใด"ท่านหมอซ่ง"เงาร่างของบุรุษในอาภรณ์สีกลมกลืนไปกับชาวบ้านทั่วไปปรากฏขึ้นตรงหน้าประตู เกาหานค้อมกายประสานมืออย่างนอบน้อม แววตาแน่วแน่และเคร่งขรึม"มีเรื่องใด?" ซ่งไป๋เซียวถามโดยไม่ละสายตาจากเอกสาร"ข้านำข่าวจากจวนมารายงานขอรับ"ซ่งไป๋เซียวเลิกคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าให้เกาหานรายงานต่อ"วันนี้สะใภ้ใหญ่เฉาเชิญฮูหยินรองไปพบที่เรือนฉางเล่อขอรับ"ทันทีที่ได้ยินชื่อ "เฉาหลิงเอ๋อ" มือที่ถือพู่กันของซ่งไป๋เซียวพลันหยุดชะงักไปเสี้ยววินาที ดวงตาที่เคยสงบนิ่งคล้ายฉายแววเย็นเยียบขึ้นโดยไม่รู้ตัว‘เฉาหลิงเอ๋อ...’หญิงผู้นี้มาพบอาหลี จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ล้วนไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเด็กสาวแน่"แล้วเป็นอย่างไรบ้าง?" น้ำเส

    Last Updated : 2025-04-10
  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่ 11 || พูดคุยตามประสาพี่น้อง

    ตอนที่ 11 || พูดคุยตามประสาพี่น้อง(ตรวจคำผิดแล้ว)หลังจากส่งอาหลีที่เรือนแล้ว ซ่งไป๋เซียวจึงตรงไปหาซ่งไป๋ซั่วทันที ขณะนี้เป็นเวลาปลายยามซวี แต่ภายในจวนสกุลซ่งกลับเงียบสงัด ทว่าภายในเรือนอันเล่อของคุณชายใหญ่ยังคงมีแสงไฟส่องสว่างตัดกับความมืดของราตรีซ่งไป๋เซียวก้าวเข้าไปในเรือนอย่างเงียบเชียบ บ่าวรับใช้ที่เฝ้าประตูเรือนอันเล่อเมื่อเห็นเขาก็รีบค้อมตัวทำความเคารพ ก่อนจะผลักบานประตูให้เปิดออก"ท่านราชเลขารออยู่ที่ห้องหนังสือ เชิญขอรับ ท่านหมอซ่ง"ซ่งไป๋เซียวไม่ตอบอะไร ทำเพียงก้าวเข้าไปอย่างไม่ลังเล ภายในห้องโถงตกแต่งเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยกลิ่นอายอำนาจ หนังสือและรายงานกองเป็นตั้งอยู่บนโต๊ะไม้สลักลวดลายดอกโบตั๋น เสียงพู่กันขูดกระดาษดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอบุรุษผู้หนึ่งนั่งอยู่เบื้องหน้า เขาอยู่ในชุดขุนนางเต็มยศสีดำขลับ คาดว่าหลังกลับจากวังหลวงก็ตรงเข้ามาทำงานต่อในห้องหนังสือเลย ไม่ได้แวะไปที่ใด คิ้วเรียวของคนผู้นี้ได้รูป สายตาคมกริบดุจคมดาบ แม้ไม่ได้เอ่ยวาจา แต่บรรยากาศรอบตัวเขากลับหนักอึ้งราวกับสามารถบดขยี้ผู้คนได้ในพริบตาคนผู้นี้คือ... ซ่งไป๋ซั่วราชเลขาหนุ่มวัยยี่สิบสองปี ผู้กุมอำนาจในราช

    Last Updated : 2025-04-12
  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่ 12 || ท่านแต่งกับนางเพื่อประชดข้าใช่หรือไม่

    ตอนที่ 12 || ท่านแต่งกับนางเพื่อประชดข้าใช่หรือไม่หลังจากซ่งไป๋เซียวก้าวออกจากเรือนอันเล่อหลังเสร็จสิ้นการสนทนากับพี่ชาย แม้สีหน้าของเขาจะเรียบเฉยดังเดิม แต่ในดวงตากลับฉายแววเบื่อหน่ายและระอา"ไป๋ซั่วผู้นี้อายุตั้งเท่าไหร่แล้ว ยังทำตัวเป็นเด็กไปได้..." เขาพึมพำเบา ๆ บ่นให้กับพี่ชายที่ปีนี้อายุยี่สิบสอง ไม่พอ ยังเป็นถึงราชเลขาแล้วแท้ ๆ แต่กลับเอาแต่โวยวาย หากมีใครมาเห็นเข้า จะคิดอย่างไร...บ่นไปพลาง ก้าวเท้าเตรียมมุ่งหน้ากลับบ้านรองของตนเองไปพลาง แต่ทันทีที่ซ่งไป๋เซียวก้าวพ้นประตูเรือน ก็ต้องหยุดฝีเท้าเมื่อเห็นร่างของสตรีผู้หนึ่งยืนรออยู่เฉาหลิงเอ๋อสตรีที่เคยเป็นคนรักของเขาเมื่อสองปีก่อน และบัดนี้... นางกลายเป็นภรรยาของพี่ชายเขาไปแล้วซ่งไป๋เซียวขมวดคิ้วเล็กน้อย สายตาของเขาว่างเปล่าไร้อารมณ์ ดวงตาคมกริบจ้องมองนางอย่างเย็นชา"เจ้ามารอพบข้าทำไม?" น้ำเสียงของเขาเรียบเฉย ไม่แสดงความยินดีหรือโกรธเคืองแม้จะไม่ได้พบกันเกือบหนึ่งปีเฉาหลิงเอ๋อกัดริมฝีปากแน่น นางพยายามสงบใจ แต่เมื่อสบเข้ากับสายตาเย็นชาของเขา หัวใจของนางกลับปวดร้าวยิ่งนัก"ท่านกลับมาแล้วจริง ๆ" นางเอ่ยเบา ๆ"ใช่ ข้ากลับมาแล้ว

    Last Updated : 2025-04-12

Latest chapter

  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่ 14|| พี่สะใภ้เฉา ที่คิดไม่ซื่อกับน้องสามี

    ตอนที่ 14|| พี่สะใภ้เฉา ที่คิดไม่ซื่อกับน้องสามีเช้าตรู่ของจวนสกุลซ่ง แสงแดดยามเช้าส่องผ่านม่านบางของเรือนอวี้หลัน ลมเย็นพัดพากลิ่นหอมของดอกอวี้หลันที่กำลังผลิบานให้ลอยฟุ้งทั่วบริเวณ หลินหลีฮวายืนอยู่บนระเบียง พลางทอดสายตามองสวนเล็ก ๆ ที่ถูกจัดไว้อย่างประณีตหลังจากแต่งเข้าจวนสกุลซ่งในฐานะ ‘ฮูหยินรอง’ ของบ้านรองของท่านหมอซ่ง นี่เป็นเช้าวันแรกที่นางตื่นขึ้นมาในฐานะภรรยาของซ่งไป๋เซียว เมื่อคืนหลังจากดื่มน้ำชาแล้วเผลอหลับไป คงถูกซ่งไป๋เซียวอุ้มมาส่งที่ห้องนอน เมื่อตื่นขึ้นมาก็ไม่พบสามีตามประเพณีและกฎหมายของต้าฉู่เสียแล้ว ฟังจากอาจิ่วกับอาหนิว ท่านหมอซ่งออกไปโรงหมอหลวงตั้งแต่ปลายยามอิ๋น (*ยามอิ๋น (寅 yín) = 03.00 - 04.59 น.)ดังนั้นขณะนี้เรือนอวี้หลันจึงเหลือเพียงนาง สาวใช้ บ่าวไพร่สิบกว่าคน และแมวน้อยหนึ่งตัว ใต้เท้าซ่งไม่ยอมรับนางเป็นสะใภ้ การคารวะยามเช้าจึงถูกตัดออกไป ส่วนฮูหยินซ่งก็บอกกับนางตั้งแต่หัวค่ำหลังจบมื้อค่ำว่าไม่เคร่งครัดเรื่องนี้ ให้นางพักผ่อนไปก่อน เรื่องคารวะเอาไว้ให้นางปรับตัวได้จึงค่อยว่ากัน‘เช่นนั้นวันนี้ข้าอยู่เงียบ ๆ น่าจะดีที่สุด’แต่ยังไม่ทันที่นางจะซึมซับความสงบ

  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่ 13 || คืนแรกในจวนสกุลซ่งของอาหลีกับอาจ้าน

    ตอนที่ 13 || คืนแรกในจวนสกุลซ่งของอาหลีกับอาจ้านหลินหลีฮวาไม่รู้เรื่องรู้ราวว่าตนเองถูกสตรีอื่นหมายหัว นางกำลังเตรียมตัวเข้านอนในค่ำคืนแรกภายในจวนสกุลซ่ง ไหนเลยจะคิดไปถึงผู้อื่นหรือเรื่องไกลตัวบรรยากาศรอบบ้านรอง หรือเรือน อวี้หลัน เต็มไปด้วยความเงียบสงบ ดวงจันทร์ทอแสงอ่อนโยนลอดผ่านหน้าต่างกระดาษสา สาดส่องลงบนพื้นไม้ขัดเงา เสียงลมพัดแผ่วทำให้ม่านแพรบางไหวระริก กลิ่นหอมจาง ๆ ของดอกอวี้หลันโชยมาแตะจมูก ราวกับต้องการกล่อมผู้ที่อยู่ภายในให้เข้าสู่ห้วงนิทราทว่า..."เฮ้อ..."เด็กสาวพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงกว้าง พลางถอนหายใจเบา ๆ นางรู้สึกอึดอัดบอกไม่ถูก คงเป็นเพราะยังแปลกที่กระมังหลังอาบน้ำและแต่งกายเรียบร้อย นางก็บอกให้สองสาวใช้ อาจิ่วกับอาหนิว กลับไปพักผ่อนได้ นางไม่ชอบให้ใครคอยดูแลมากเกินไป และไม่ต้องการรบกวนเวลาพักของพวกนาง แต่พออยู่เพียงลำพังในห้องกว้างขวางนี้แล้ว กลับรู้สึกไม่คุ้นชินเลยในอดีต สมัยยังเป็นท่านหญิง นางอาศัยอยู่ในตำหนักกว้างใหญ่หรูหรา แต่กลับรู้สึกว่าตนเองเป็นเพียงคนแปลกหน้าภายในตำหนักนั้นเสียมากกว่า... ตรงกันข้ามกับเรือนเล็ก ๆ ที่หมู่บ้านถงหลัว แม้จะสมถะเรียบง่าย แต่กล

  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่ 9 || พบมารดาเลี้ยงสามีใจประเสริฐ

    ตอนที่ 9 || พบมารดาเลี้ยงสามีใจประเสริฐหลังจากเสร็จสิ้นพิธียกน้ำชาคารวะใต้เท้าซ่ง แต่กลับต้องเทน้ำชาทิ้ง ซ้ำยังถูกบิดาสามีขับไล่ออกมาอีกด้วย ซ่งไป๋เซียวก็พาหลินหลีฮวาเดินลัดเลาะผ่านโถงทางเดินของจวนซ่งมายังเรือนที่อยู่อีกด้านของเรือนชิงมู่"ท่านหมอซ่ง เรากำลังจะไปที่ใดหรือเจ้าคะ" อาหลีเอ่ยถาม นางยังคงสลัดบรรยากาศตึงเครียดจากการพบใต้เท้าซ่งเมื่อครู่ไม่หมด จึงอดกังวลไม่ได้ว่าตนจะต้องไปพบผู้ใดอีกเพิ่งมาถึงก็ต้องเผชิญกับเหตุการณ์เช่นนี้ อาหลีก็เริ่มรู้สึกท้อขึ้นมาบ้าง ซ่งไป๋เซียวเหลือบมองนางแวบหนึ่ง ก่อนตอบเสียงเรียบเมื่อเห็นแววตาอ่อนล้าของเด็กสาว"ไปพบมารดาเลี้ยงของข้า นางคือฮูหยินเอกของใต้เท้าซ่ง แต่นางไม่เหมือนใต้เท้าซ่ง"อาหลีชะงักเล็กน้อย ดวงตาสะท้อนความแปลกใจ"มารดาเลี้ยงของท่าน?"เด็กสาวถามย้ำออกไป เพราะปกติแล้วฮูหยินเอกมักอยู่เรือนหลักมิใช่หรือ เหตุใดจึงแยกเรือน? แต่คิดไปคิดมา หลินหลีฮวาก็ไม่กล้าถามออกไปทั้งหมด"ท่านแม่ใหญ่นางแต่งเข้ามา แต่มิอาจตั้งครรภ์ได้ นางจึงได้ยกท่านแม่ของข้าที่เป็นน้องสาวต่างมารดาขึ้นมาเป็นอี๋เหนียง เพื่อรักษาฐานะฮูหยินเอกของตนเอาไว้"ซ่งไป๋เซียวเอ่ยเล่าเส

  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่ 10 || อาหารมื้อแรกในจวนสกุลซ่ง(ตรวจคำผิดแล้ว)

    ตอนที่ 10 || อาหารมื้อแรกในจวนสกุลซ่ง(ตรวจคำผิดแล้ว)บรรยากาศในเรือนของฮูหยินซ่งอบอุ่นและสงบเงียบ ต่างจากเรือนหลักโดยสิ้นเชิงหลังจากพูดคุยกันได้สักพัก ฮูหยินซ่งก็สั่งให้สาวใช้จัดสำรับอาหารเผื่อซ่งไป๋เซียวและหลินหลีฮวาด้วย"พวกเจ้าเพิ่งเดินทางมาไกล ต้องเหน็ดเหนื่อยไม่น้อย นั่งพักก่อนเถอะ สำรับอาหารใกล้จะเสร็จแล้ว วันนี้กินข้าวกับแม่ใหญ่สักมื้อ" ฮูหยินซ่งเอ่ยชวนเรียบง่าย"ขอบพระคุณท่านแม่ใหญ่เจ้าค่ะ"อาหลีค้อมกายรับอย่างนอบน้อมไม่นานนัก บ่าวไพร่ก็นำสำรับอาหารมาจัดวางลงบนโต๊ะไม้เนื้อดีที่ตั้งอยู่กลางห้อง อาหารแต่ละจานถูกจัดวางเรียบร้อย ดูเรียบง่ายแต่พิถีพิถัน กลิ่นหอมของ ซุปไก่ตุ๋นยาจีน ลอยกรุ่น เคียงข้างด้วย เนื้อเป็ดรมควันชิ้นหนา ผัดผักรวมหลากสี และปลานึ่งซีอิ๊วที่ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนหลินหลีฮวาลอบมองอาหารตรงหน้าด้วยความเงียบงันต้องยอมรับว่าอาหารที่นี่ดูดีกว่าที่นางเคยกินในหมู่บ้านถงหลัวมากนัก แต่ถึงกระนั้น อาหารเหล่านี้ก็ยังเป็นเพียงอาหารธรรมดาของจวนสกุลซ่ง หาใช่อาหารชั้นสูงของราชสำนัก และยิ่งไม่ใกล้เคียงอาหารของเผ่าเจียง"มื้อนี้เป็นเพียงอาหารง่าย ๆ แต่ล้วนเป็นของสดใหม่ที่แม่ใหญ่ให้

  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่ 12 || ท่านแต่งกับนางเพื่อประชดข้าใช่หรือไม่

    ตอนที่ 12 || ท่านแต่งกับนางเพื่อประชดข้าใช่หรือไม่หลังจากซ่งไป๋เซียวก้าวออกจากเรือนอันเล่อหลังเสร็จสิ้นการสนทนากับพี่ชาย แม้สีหน้าของเขาจะเรียบเฉยดังเดิม แต่ในดวงตากลับฉายแววเบื่อหน่ายและระอา"ไป๋ซั่วผู้นี้อายุตั้งเท่าไหร่แล้ว ยังทำตัวเป็นเด็กไปได้..." เขาพึมพำเบา ๆ บ่นให้กับพี่ชายที่ปีนี้อายุยี่สิบสอง ไม่พอ ยังเป็นถึงราชเลขาแล้วแท้ ๆ แต่กลับเอาแต่โวยวาย หากมีใครมาเห็นเข้า จะคิดอย่างไร...บ่นไปพลาง ก้าวเท้าเตรียมมุ่งหน้ากลับบ้านรองของตนเองไปพลาง แต่ทันทีที่ซ่งไป๋เซียวก้าวพ้นประตูเรือน ก็ต้องหยุดฝีเท้าเมื่อเห็นร่างของสตรีผู้หนึ่งยืนรออยู่เฉาหลิงเอ๋อสตรีที่เคยเป็นคนรักของเขาเมื่อสองปีก่อน และบัดนี้... นางกลายเป็นภรรยาของพี่ชายเขาไปแล้วซ่งไป๋เซียวขมวดคิ้วเล็กน้อย สายตาของเขาว่างเปล่าไร้อารมณ์ ดวงตาคมกริบจ้องมองนางอย่างเย็นชา"เจ้ามารอพบข้าทำไม?" น้ำเสียงของเขาเรียบเฉย ไม่แสดงความยินดีหรือโกรธเคืองแม้จะไม่ได้พบกันเกือบหนึ่งปีเฉาหลิงเอ๋อกัดริมฝีปากแน่น นางพยายามสงบใจ แต่เมื่อสบเข้ากับสายตาเย็นชาของเขา หัวใจของนางกลับปวดร้าวยิ่งนัก"ท่านกลับมาแล้วจริง ๆ" นางเอ่ยเบา ๆ"ใช่ ข้ากลับมาแล้ว

  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่ 11 || พูดคุยตามประสาพี่น้อง

    ตอนที่ 11 || พูดคุยตามประสาพี่น้อง(ตรวจคำผิดแล้ว)หลังจากส่งอาหลีที่เรือนแล้ว ซ่งไป๋เซียวจึงตรงไปหาซ่งไป๋ซั่วทันที ขณะนี้เป็นเวลาปลายยามซวี แต่ภายในจวนสกุลซ่งกลับเงียบสงัด ทว่าภายในเรือนอันเล่อของคุณชายใหญ่ยังคงมีแสงไฟส่องสว่างตัดกับความมืดของราตรีซ่งไป๋เซียวก้าวเข้าไปในเรือนอย่างเงียบเชียบ บ่าวรับใช้ที่เฝ้าประตูเรือนอันเล่อเมื่อเห็นเขาก็รีบค้อมตัวทำความเคารพ ก่อนจะผลักบานประตูให้เปิดออก"ท่านราชเลขารออยู่ที่ห้องหนังสือ เชิญขอรับ ท่านหมอซ่ง"ซ่งไป๋เซียวไม่ตอบอะไร ทำเพียงก้าวเข้าไปอย่างไม่ลังเล ภายในห้องโถงตกแต่งเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยกลิ่นอายอำนาจ หนังสือและรายงานกองเป็นตั้งอยู่บนโต๊ะไม้สลักลวดลายดอกโบตั๋น เสียงพู่กันขูดกระดาษดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอบุรุษผู้หนึ่งนั่งอยู่เบื้องหน้า เขาอยู่ในชุดขุนนางเต็มยศสีดำขลับ คาดว่าหลังกลับจากวังหลวงก็ตรงเข้ามาทำงานต่อในห้องหนังสือเลย ไม่ได้แวะไปที่ใด คิ้วเรียวของคนผู้นี้ได้รูป สายตาคมกริบดุจคมดาบ แม้ไม่ได้เอ่ยวาจา แต่บรรยากาศรอบตัวเขากลับหนักอึ้งราวกับสามารถบดขยี้ผู้คนได้ในพริบตาคนผู้นี้คือ... ซ่งไป๋ซั่วราชเลขาหนุ่มวัยยี่สิบสองปี ผู้กุมอำนาจในราช

  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่ 15|| ท่านหมอซ่งชื่นชมอาหลีในใจ

    ตอนที่ 15|| ท่านหมอซ่งชื่นชมอาหลีในใจกลางยามเฉิน ภายในโรงหมอหลวง ซ่งไป๋เซียวยังคงง่วนอยู่กับการจัดเรียงตำราแพทย์บนโต๊ะหนังสือขนาดใหญ่ แสงแดดอ่อนยามสายสาดผ่านหน้าต่างกระดาษสา ทาบลงบนเอกสารรายงานการรักษาผู้ป่วยที่กองสูงเป็นตั้ง เขาพลิกกระดาษอย่างแผ่วเบา สายตากวาดมองข้อมูลอย่างรวดเร็วแต่เพียงครู่เดียว เสียงฝีเท้าแผ่วเบาก็ดังขึ้นด้านหลัง ซ่งไป๋เซียวไม่ได้เงยหน้าขึ้น เขารู้ดีว่าเป็นผู้ใด"ท่านหมอซ่ง"เงาร่างของบุรุษในอาภรณ์สีกลมกลืนไปกับชาวบ้านทั่วไปปรากฏขึ้นตรงหน้าประตู เกาหานค้อมกายประสานมืออย่างนอบน้อม แววตาแน่วแน่และเคร่งขรึม"มีเรื่องใด?" ซ่งไป๋เซียวถามโดยไม่ละสายตาจากเอกสาร"ข้านำข่าวจากจวนมารายงานขอรับ"ซ่งไป๋เซียวเลิกคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าให้เกาหานรายงานต่อ"วันนี้สะใภ้ใหญ่เฉาเชิญฮูหยินรองไปพบที่เรือนฉางเล่อขอรับ"ทันทีที่ได้ยินชื่อ "เฉาหลิงเอ๋อ" มือที่ถือพู่กันของซ่งไป๋เซียวพลันหยุดชะงักไปเสี้ยววินาที ดวงตาที่เคยสงบนิ่งคล้ายฉายแววเย็นเยียบขึ้นโดยไม่รู้ตัว‘เฉาหลิงเอ๋อ...’หญิงผู้นี้มาพบอาหลี จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ล้วนไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเด็กสาวแน่"แล้วเป็นอย่างไรบ้าง?" น้ำเส

  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่8|| นี่หรือพ่อสามี

    ตอนที่8|| นี่หรือพ่อสามีภายในห้องโถงใหญ่ของจวนเสนาบดีสกุลซ่ง บรรยากาศตึงเครียดจนแทบไม่มีผู้ใดกล้าหายใจแรง หลังจาก คนสนิทของใต้ซ่งผู้นำตระกูลในขณะนี้เข้าไปแจ้งกับนายท่านของเขาว่าบัดนี้ท่านหมอซ่งหรือคุณชายรองซ่งมาขอพบพร้อมกับฮูหยิน ไม่นานเขาก็อนุญาตให้บุตรชายคนรองของตนเองเข้าพบได้"ให้มันเข้ามา!"บุรุษหนุ่มใหญ่นั่งอยู่บนแท่นสูงเอ่ยออกไป ใบหน้าของเขามืดครึ้มดุจพายุคลั่ง ดวงตาเฉียบคมเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด บนโต๊ะไม้แกะสลักอันวิจิตรถูกปกคลุมไปด้วยเอกสารราชการที่ถูกเขวี้ยงทิ้งอย่างไม่ไยดี ด้านหลังบุรุษวัยสี่สิบปลาย ๆ ผู้มีตำแหน่งสูงส่ง แผ่นหลังตั้งตรงราวกับไม้สน แม้จะอายุไม่น้อยแต่ยังคงแข็งแกร่งและทรงอำนาจเสียงฝีเท้าดังขึ้นเมื่อซ่งไป๋เซียวก้าวเข้ามาในห้องโถง พร้อมกับ หลินหลีฮวา ที่เดินตามมาด้วยกิริยาสงบนิ่ง แม้จะต้องเผชิญกับสายตากดดันของขุนนางใหญ่แห่งแผ่นดิน แต่เด็กสาวเพียงค้อมศีรษะให้เล็กน้อย ก่อนจะคุกเข่าลงข้าง ๆ สามีของตนแต่ไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้เอ่ยสิ่งใด เสียงของซ่งป๋อเหยียนก็กระแทกก้องห้องโถง"เจ้าหายหัวไปสามเดือน! พอกลับมาเจ้ากลับพาเด็กสาวที่ใดก็ไม่รู้มาเป็นสะใภ้ของสกุลซ่ง!?"ซ่ง

  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่7|| เรือนอวี้หลันของพวกเรา

    ตอนที่7|| เรือนอวี้หลันของพวกเราทันทีที่ก้าวผ่านประตูใหญ่และเหล่าคนรับใช้ส่วนหนึ่งที่ตั้งแถวต้อนรับคุณชายรอง อาหลีก็กวาดสายตาสังเกตรอบข้างเงียบงัน นางสัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่กว้างขวางของจวนแห่งนี้ เพราะจวนซ่งนี้ถูกสร้างขึ้นตามรูปแบบ เรือนสี่ประสาน หรือ ซื่อเหอย่วน (四合院) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมดินแดนจงหยวนของขุนนางชั้นสูง ภายในประกอบด้วยเรือนหลักและเรือนรองที่เชื่อมต่อกันล้อมรอบลานกว้างตรงกลางพื้นทางเดินปูด้วยหินแกรนิตสีเทาเรียบสนิท บรรยากาศสงบและเข้มขลัง เมื่อเงยหน้ามองขึ้นไปจะเห็นอาคารเรือนใหญ่ที่หลังคามุงกระเบื้องเขียวสลับฟ้า ตัดกับเชิงชายไม้ที่แกะสลักลวดลายเมฆมงคลอย่างวิจิตร เสาไม้ขนาดใหญ่ถูกสลักงดงาม ตัดกับคานไม้สีทองอร่าม แสดงถึงความมั่นคงของจวนขุนนางเสียงรองเท้าของบ่าวไพร่ที่สวมรองเท้าผ้าดังก้องบนพื้นหิน พวกเขาล้วนแต่งกายด้วยอาภรณ์เรียบง่าย แต่สะอาดสะอ้าน บ้างถือพัด บ้างถือถาดน้ำชาเดินสวนกันไปมาอย่างเป็นระเบียบ แต่พอพวกเขาแลเห็นคุณชายรองต่างก็ก้มศีรษะและโค้งกายทำความเคารพบ่าวไพร่จำนวนไม่น้อยลอบมองอาหลีด้วยความอยากรู้ ต่างพากันคาดเดาไปต่างๆ นานา บางคนอดใจไม่ไหวก็ถึงกับแอบไปสอบถาม

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status