“เธอไม่รู้เหรอ?” อันอันตะลึงแล้วบอกเธอด้วยสีหน้าจริงจัง “เกี่ยวกับเธอกับคุณซู บางคนก็ว่าคุณซูโดนเล่นของใส่ แล้วก็เป็นป๋าดันช่วยดันเธอขึ้นสู่ตำแหน่งการขายไงล่ะ” เจียงชั่นตกตะลึงหากคิดดูให้ดีข่าวลือพวกนี้ก็ผ่านหูมาบ้างเพราะซูเฉินก็แปลกมากจริง ๆ เขาออกคำสั่งถึงห้าครั้งติดต่อกันและเจาะจงมาว่าจะต้องเป็นเธอเท่านั้นผลงานมากแบบนี้จะไม่สามารถเลื่อนตำแหน่งได้ยังไง?แต่...“ร่วมงานกับประธานซูไม่กี่ครั้ง แต่ผลประโยชน์ก็ตกอยู่ที่อีกฝ่ายทั้งนั้น” เธอพึมพำ “แต่ที่ฉันไม่เข้าใจคือทำไมเขาต้องยืนกรานให้ฉันเข้ามาร่วมงานโครงการนี้ด้วย”“พวกเขาอาจจะเห็นความสามารถของเธอก็ได้นะ!” อันอันตบไหล่เธอเบา ๆ “อย่าคิดมากเลย ฉันเดาว่าข่าวลือพวกนี้คงมาจากปากของเฉิงเซียวเซียว คงอิจฉาเพราะตอนนี้หล่อนไม่เหลืออะไรแล้ว”“ไม่ต้องห่วงเจียงชั่น เพื่อนร่วมงานของเราหลายคนก็สนับสนุนเธอนะ เธอแค่ต้องใช่ความสามารถเข้าสู้ให้ถึงที่สุดยังไงล่ะ!”เจียงชั่นจับมืออันอันอย่างซาบซึ้งแต่หญิงสาวเองก็รู้แก่ใจว่ามีคนมีความสามารถมากมายในบริษัทนี้ ซูเฉินไม่จำเป็นจะต้องลงนามเพื่อมอบอำนาจให้เธอโดยเฉพาะแบบนี้เลย ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายตั้งใจหรื
เจียงชั่นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดข้อความทั้งหมดที่ซูเฉินส่งมาไม่นานนี้ให้ชายหนุ่มดู“ภายนอกเขาก็ดูทักทายฉันปกติค่ะ แต่จริง ๆ ในทุกประโยคเขาจะแทรกชื่อคุณอยู่ด้วยตลอด” เจียงชั่นเอ่ยด้วยความฉลาด“อีกอย่างเขาเป็นคนที่ลงชื่อให้ฉันได้รับการเลื่อนตำแหน่งตั้งห้าครั้งติดด้วยนะคะ มันดูแปลกสำหรับคนในบริษัทมากทีเดียว ใช่แล้วล่ะ เขาต้องช่วยฉันให้สามารถโชว์ผลงานได้เต็มที่แต่สิ่งที่เขาต้องการมากกว่านั้นคือข้อมูลของคุณ”กู้หม่างหรี่ตาราวกับว่าเขาได้รู้อะไรอยู่แล้วในตอนที่เขาเห็นซูเฉินในงานเลี้ยงอาหารค่ำในวันนั้น เขาก็เกิดความสงสัยโดยเฉพาะตอนที่ซูเฉินมีท่าทีสนใจแหวนบนมือของเจียงชั่นเป็นอย่างมาก ทำให้เขาต้องรู้สึกระแวดระวังตัวมากขึ้นเช่นกัน มองจากมุมนี้แล้วก็อาจจะเป็นไปได้ที่ซูเฉินจะเป็นคนของฮั่วจ่านเฮ่อกู้หม่างนึกตำหนิผู้เป็นลุงอยู่ในใจ ว่าอีกฝ่ายชอบทำอะไรบุ่มบ่ามใจร้อนเสมอ ถึงขั้นส่งคนมาคอยจับตาดูเขา แต่ก็ไม่เห็นจำเป็นที่จะส่งคนมาติดตามแบบเปิดเผยตัวตนขนาดนี้ ถ้าฮั่วจ่านเฮ่อรู้ว่าเขาอยู่ที่เจียงโจวแทนที่จะเป็นแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ เขาคงจะเจอกับปัญหาตามมาไม่น้อยชายหนุ่มมองไปที่เจียงชั่น เธอยัง
กู้หม่างมองคนตัวเล็กแล้วก้มลงจูบเธอเบา ๆ บนหน้าผากสวย“ที่รัก คุณรู้ไหมว่ากีฬาอย่างการชกมวย นักกีฬาต้องทำอะไรมากที่สุดก่อนการแข่งขัน?”ดวงตากลมเต็มไปด้วยความสงสัย ก่อนจะส่ายหน้าเบา ๆกู้หม่างยิ้มอย่างชั่วร้าย ก่อนจะกระซิบข้างหูของอีกฝ่ายเสียงต่ำ “ลดการมีเพศสัมพันธ์”เจียงชั่นตกตะลึง“ถ้าปล่อยตัวปล่อยใจมากไป มือเท้าจะอ่อนแรงบนสังเวียน อาจจะแพ้การต่อสู้ในครั้งนี้นะ”“ซึ่งจะเป็นความผิดของคุณทั้งหมด” กู้หม่างมองเธอแล้วเม้มติ่งหูบางเบา ๆ “เวลาที่ผมอยู่กับคุณทุกวัน ผมคงควบคุมตัวเองไม่ได้ ..ถ้าผมควบคุมความต้องการของตัวเองไม่ได้มันจะเป็นยังไง?”“คุณ...”เจียงชั่นมองเขาด้วยความตกใจ ดวงตากลมเบิกกว้างตั้งแต่อดีตเวลาที่ผู้ชายควบคุมตัวเองไม่ดีก็มักจะโทษว่าเป็นความผิดของผู้หญิง นี่คงจะเป็นเรื่องจริงสินะ!เธอกัดริมฝีปากตัวเองเบา ๆ ใบหน้าเริ่มมีความไม่มั่นใจว่าการกระทำของตัวเองในขณะนี้มันดูเป็นการล่อลวงเขาด้วยหรือเปล่าทันใดนั้นความร้อนรุ่มในร่างกายก็ปะทุขึ้นมา จนร่างสูงสูญเสียการควบคุมกู้หม่างก้มลงจูบแล้วผลักร่างบางลงบนโซฟา“นี่คุณจะทำอะไร...” เจียงชั่นดิ้นขัดขืนและประท้วงด้วยเสียงต่ำ
กู้หม่างมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างตั้งใจ สะพานลอนดอนที่อยู่ไกลออกไปถูกปิดบังไว้ด้วยหมอกหนา เขาหลับตาลงแล้วขมวดคิ้วแน่น จนรู้สึกปวดหัวไปหมดคุณคิดที่จะปิดซ่อนเธอไปตลอดชีวิตเลยเหรอ?จะเป็นไปไปได้ยังไงไม่ช้าก็เร็วเธอก็จะต้องรู้เรื่องนี้ตามประเพณีของตระกูลฮั่ว คนที่เขาจะต้องแต่งงานด้วยต้องเป็นผู้หญิงจากตระกูลใหญ่เท่านั้น หากเจียงชั่นต้องเข้าไปอยู่ที่ตระกูลฮั่ว เขาก็พอจะจินตนาการได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้างสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่เขาต้องเข้ามาแทนที่ตัวตนของกู้หม่างคนนี้...ชายหนุ่มถอนหายใจแล้วหยิบบัตรประชาชนของกู้หม่างขึ้นมาจากกระเป๋าของตัวเอง บุคคลบนบัตรมีใบหน้าที่คล้ายคลึงกับเขามากแต่ก็ไม่ใช่เขา“นี่พี่สาม” แม้ว่าไป๋จิ่งหยวนจะไอคิวไม่สูงมากแต่เขาก็มีความฉลาดทางอารมณ์สูง “ทำไมไม่ยุติ ‘การฝึกซ้อม’ นี้ให้เร็วไปเลยล่ะ เรื่องที่อังกฤษมันเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ผมกับเย่เชินช่วยจัดการได้ พี่กลับไปหาพี่สะใภ้แล้วรักษาไข้ใจของตัวเองเถอะนะ...”กู้หม่างหันกลับมาเล็กน้อยเป็นครั้งแรกที่เขาสามารถยิ้มได้อย่างโล่งใจตั้งแต่มาถึงที่ลอนดอนเย่เชินเองก็อดไม่ได้ที่จะแอบยกนิ้วโป้งให้ไป๋จิ่งห
“ไร้สาระ!” เจียงชั่นตัวสั่นและตบโต๊ะเข้าอย่างแรง “ฉันไม่ได้ทำ ไม่เคย! ใครกันที่เป็นคนปล่อยข่าวลือลับหลังฉัน เฉิงเซียวเซียว ปล่อยเธอให้มาเผชิญหน้ากับฉันซะ!”“เงียบ!” เจ้าหน้าที่กระแทกโต๊ะกลับ ก่อนจะคำรามเสียงดังไปทั่วทั้งห้อง “คุณคิดว่าที่นี่ที่ไหนถึงได้ตะโกนออกมาแบบนี้!”“ฉันจะไม่ยอมรับในสิ่งที่ฉันไม่ได้ทำ!”มือและเท้าของเจียงชั่นเริ่มเย็นเฉียบ เธอกัดริมฝีปากตัวเองแล้วพยายามสงบสติอารมณ์อย่างเต็มที่“ฉันเขียนแผนนั้นออกมาแต่ว่าเก็บเอาไว้ในคอมพิวเตอร์ตลอด ส่วนเอกสารก็ถูกล็อคไว้ในลิ้นชัก ฉันไม่รู้ว่าทำไมมันถึงได้ตกไปอยู่มือของบริษัทอื่น ไม่งั้นก็ต้องมีคนวงในที่ขโมยมันไป..ดังนั้นฉันขอเรียกร้องให้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั้งหมดของบริษัทอย่างละเอียด รวมถึงบุคคลต้องสงสัยทุกคนที่เข้าไปในห้องทำงานของฉัน!”“คุณเจียง ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายขาย เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่จะมีพนักงานเข้าออกห้องทำงานของคุณ แม้จะมีการตรวจสอบ คุณก็ไม่สามารถให้การเป็นพยานผ่านกล้องวงจรปิดเพียงอย่างเดียวได้นะครับ!”“ถ้าอย่างนั้นพวกคุณก็ไม่สามารถฟังแค่คำพูดของบริษัทคู่แข่งเหมือนกันว่าฉันทรยศบริษัท!”“คุณ...”เจ้าหน้าที
ในขณะที่กำลังเหยียบคันเร่ง กู้หม่างก็มีสีหน้าที่ตึงเครียดอยู่ตลอดเวลาจนเย่เชินรู้สึกว่าเขาเกือบจะบินออกไปนอกหน้าต่างเสียแล้ว เพราะเขาเองก็เคยมีประสบการณ์ตรงกับแรงเหวี่ยงดังกล่าว ไม่คิดเลยว่าจะได้มาเรียนฟิสิกส์ในตอนนี้เสียงเบรกอย่างกระทันหันดังขึ้น ก่อนที่รถจะจอดลงที่หน้าโรงพักทันทีกู้หม่างเดินเข้าไปด้านในอย่างมั่นคง เมื่อเข้ามาแล้วดวงตาของเขาก็เย็นชาและแข็งกร้าว กวาดมองทุกคนอย่างไม่เกรงกลัว ก่อนจะเห็นประตูเปิดออกแล้วมีเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงพาตัวเจียงชั่นออกมา“ชั่นชั่น!” ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมาเจียงชั่นเงยหน้าขึ้นมองเมื่อได้ยินเสียงทันทีที่เธอสบตาเขาดวงตากลมที่เหนื่อยล้าทั้งวันก็มีน้ำใส ๆ คลอลงมา เธอโผเข้าไปในอ้อมแขนของเขา แล้วใช้มือเล็ก ๆ โอบกอดไว้แน่น รู้สึกถึงความปลอดภัยที่คุ้นเคย ทว่าก็ไม่กล้าร้องไห้ออกมาเสียงดัง ทำได้เพียงสะอื้นเบา ๆกู้หม่างลูบหลังบางแล้วปลอบโยนคนตัวเล็กในอ้อมแขนสั่นเทา เขาจึงจัดผมที่ยุ่งเหยิงของเธอด้วยความเจ็บปวดในหัวใจ ใบหน้าของอีกฝ่ายซีดเซียว ดวงตาเริ่มแดงก่ำ“ไม่ต้องกลัว ผมมาแล้ว”หัวใจของเจียงชั่นหล่นลงกับพื้น พลางพยักหน้าเล็กน้อยเย่เ
กู้หม่างแกล้งไอเตือนอีกฝ่าย จนเย่เชินต้องหุบปากแล้วรีบขับรถต่อไป“ที่รักคะ” เจียงชั่นเรียกเบา ๆ “ฉันไม่ได้บอกอะไรนอกจากปฏิเสธไปว่าไม่ได้ทำ แล้วพวกเขาก็เอาเรื่องของคุณมาเร่งให้ฉันสารภาพออกมาด้วยความรู้สึกผิด”“คุณว่าไงนะ?”“ฉันก็ยังคงเงียบไว้ค่ะ” คนตัวเล็กแม้จะดูซีดเซียว แต่แววตามีความมุ่งมั่นหัวใจของกู้หม่างสั่นไหว ก่อนจะใช้มือใหญ่ลูบผมเธอด้วยความรู้สึกสงสารถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นก็คงจะตกใจมากกับการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ แล้วก็อาจจะบอกทุกอย่างอย่างไม่มีสติแต่เจียงชั่นกลับเข้มแข็งและดื้อรั้น ขัดกับบุคลิกที่ดูอ่อนแอของเธอ หญิงสาวไม่ยอมรับอะไรเลย แม้จะมีมีดจ่ออยู่ที่คอก็ตามกู้หม่างเม้มปากแน่น เธอดูคล้ายกับเขามากทีเดียวอย่างที่เขาบอกว่าศีลเสมอกัน มันเป็นอย่างนี้นี่เอง“คุณทำได้ดีมากครับ” เย่เชินชม “ก่อนที่จะมีการตัดสิน ยิ่งให้การน้อยเท่าไรยิ่งดี ปล่อยให้ส่วนที่เหลือเป็นหน้าที่ของทนาย มันจะช่วยได้เยอะครับ”เจียงชั่นพิงไหล่ของกู้หม่างนิ่ง หลังจากที่ถูกกักขังอยู่ในห้องสอบสวนทั้งวันทั้งคืนจนเกิดความตึงเครียด ตอนนี้เธอจึงรู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อยจนเผลอหลับไปกู้หม่างจึงตบไหล่เย่เชินให
เย่เชินมองผู้ชายตรงหน้าอย่างว่างเปล่า เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเบิกตากว้างแล้วถอนหายใจ“เฉิงเซียวเซียวคงวางแผนเอาไว้หมดแล้ว” เย่เชินกระซิบ “เธอสมรู้ร่วมคิดกับฝ่ายตรงข้าม แล้วลบวิดิโอที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเจียงชั่นออก ตอนนี้หลักฐานทางกายภาพเข้าทางหล่อนแทบทั้งหมด เจียงชั่นอาจจะต้องรับผิด...”กู้หม่างจ้องเขาเขม็งจนเขาต้องเปลี่ยนบทสนทนาทันที “เอ่อ นายน้อยเชื่อในความสามารถของผมได้ ไม่ว่ายังไงผมก็จะหาทางทำให้ทุกอย่างดีขึ้นตามที่คุณต้องการอย่างแน่นอน!”กู้หม่างยืนขึ้นแล้วเดินเข้าไปในห้องอย่างเงียบ ๆเจียงชั่นยังคงนอนหลับสนิท ดูเหมือนกับว่าเธอเหนื่อยมาก ร่างบางนอนตะแคงโดยกอดหมอนของเขาไว้ในอ้อมแขน ใบหน้าเล็ก ๆ ค่อย ๆ มีสีเลือดฝาดเล็กน้อยชายหนุ่มก้มลงไปจูบหน้าผากเธอเบา ๆ ด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเดินกลับออกไปด้านนอก“กว่าจะได้เรื่อง คนร้ายหนีหายไปพอดี”“ต้องจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ช้าไปไม่ได้การเพราะเจียงชั่นเป็นคนที่ถูกใส่ร้าย งั้นเรามาเริ่มจากจุดนี้กัน”“นายน้อยหมายความว่ายังไง?”“สำหรับคนนอกข้อมูลของบริษัทถือเป็นความลับ แต่สำหรับคนข้างในมันก็ไม่ได้เป็นความลับอะไร”เย่เชินอ้า
เจียงชั่นยิ้มแล้วไม่ตอบอะไรโมนาจึงรู้สึกตระหนกขึ้นมาถังอี้หรานเป็นผู้กำกับที่มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมนี้ ภาพยนตร์ทุกเรื่องที่เขากำกับล้วนแต่ได้รับรางวัลในระดับนานาชาติไม่เพียงแค่มีชื่อเสียงในประเทศ แต่ยังมีชื่อเสียงในวงการภาพยนตร์ระดับนานาชาติอีกด้วยทุกคนในวงการต่างก็กระตือรือร้นที่จะได้เข้าไปอยู่ในทีมของถังอี้หรานแน่นอนว่าโมนาเองก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ถังอี้หรานเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถ ทุกคนรู้จักกันดีว่าเธอหยิ่งแค่ไหน แน่นอนว่าแม้แต่ดารายอดนิยมอย่างเธอถังอี้หรานก็ไม่แยแสแต่ตอนนี้...“เมื่อกี้นี้คุณโทรหาถังอี้หรานจริง ๆ เหรอ?”“ใช่ครับ” ผู้จัดการห่าวเหลือบมองเธอ “ผู้อำนวยการถังเพิ่งสร้างภาพยนตร์เรื่องใหม่ คุณเนี่ยซินและคุณเจียงช่วยติดต่อกับเธอแล้ว”สีหน้าของโมนาเปลี่ยนไปด้วยความรู้สึกเสียใจอย่างมาก“ผะ..ผู้ช่วยเจียง” เธอมองเจียงชั่น “ผู้กำกับถังจะมาร่วมรายการนี้ด้วยเหรอ? แต่ฉันได้ยินมาว่าเธอไม่เคยปรากฎตัวในรายการวาไรตี้เลยนะ”เจียงชั่นยิ้มและยังคงไม่พูดอะไร“มันไม่ใช่รายการวาไรตี้ธรรมดา ๆ หรอกเหรอ?!” โมนาโกรธจัดเจียงชั่นเม้มปากแล้วเอ่ยอย่างใจเย็น “ไม่สำคัญหรอกค่ะ เพ
เจียงชั่นที่กำลังดื่มน้ำ เกือบพ่นน้ำออกมาทันทีที่ได้ยินหลังจากวางสายแล้วเธอก็เดินออกไปเห็นได้ชัดว่าดาราสาวเป็นคนที่ใจร้อนมาก หญิงสาวจ้องเจียงชั่นด้วยความไม่พอใจ“นี่น่ะเหรอที่เรียกว่ามืออาชีพ กำลังทำอะไรอยู่?” โมนาตะโกน “หยู่เฟิงมีเดียก็ใหญ่โตแล้วมีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมนี้นะ จะดูแลได้ดีแน่เหรอ? เพิกเฉยต่อศิลปินแบบนี้มันไม่สุภาพเลยนะ!”ผู้จัดการห่าวทนไม่ไหว “คุณโมนามีมารยาทหน่อยได้ไหมครับ?”โมนาเหลือบมองเขา“ผู้ช่วยเจียงเป็นผู้ช่วยอาวุโสของคุณฟู่ เธอรับผิดชอบงานประชาสัมพันธ์และการฝึกอบรมต่าง ๆ ให้กับศิลปินทุกคน แม้แต่เนี่ยซินเองก็ต้องทำตามและให้ความร่วมมือกับผู้ช่วยเจียง”“คุณโมนาคิดว่าตัวเองมีสถานะที่สูงกว่าคุณเนี่ยซินงั้นสินะครับ?”ทุกคำพูดของผู้จัดการห่าวเน้นย้ำ โมนาจึงถอยหลังเล็กน้อย ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจเจียงชั่นยิ้มแล้วหยิบเอกสารจากโต๊ะขึ้นมา ในนั้นมีตารางงานของศิลปินหลายคนของบริษัท“นี่เป็นแผนการเดินทางของคุณค่ะ” เจียงชั่นยื่นเอกสารสำเนาให้กับโมนา “ในนั้นมีข้อควรระวังในการปรากฏตัวในรายการ เดี๋ยวฉันจะช่วยสื่อสารกับผู้จัดการส่วนตัวของคุณล่วงหน้า”“นีมันรายการอะไ
เจียงชั่นขมวดคิ้วพลางมองตามไปยังเสียงที่ได้ยินเธอเห็นหญิงสาวสวยแต่งตัวเรียบหรู สวมแว่นกันแดดอันใหญ่และต่างหูกับสร้อยคอที่ดูเว่อร์เดินนวยนาดเข้ามา“ไม่ได้บอกว่ามีทีมผู้บริหารที่เป็นมืออาชีพหรอกเหรอ?” เธอถอดแว่นนกันแดดอันใหญ่ออกแล้วมองเจียงชั่นด้วยท่าทางที่ไม่เป็นมิตร “แล้วอยู่ไหน?”ผู้จัดการห่าวและเจียงชั่นมองหน้ากันแล้วพยักหน้าเบา ๆเจียงชั่นยื่นมือออกมาแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “คุณโมนาใช่ไหมคะ? ฉันคือ...”โมนาแสดงท่าทีที่หยิ่งออกมา เธอไม่ยอมจับมือกับเจียงชั่นเลยเจียงชั่นจึงหยุดค้างอยู่กลางอากาศแบบนั้น ก่อนจะดึงมือกลับเงียบ ๆผู้จัดการห่าวก้าวไปข้างหน้าแล้วเอ่ย “คุณโมนาครับ นี่คือคุณเจียงชั่นผู้ช่วยอาวุโสที่หยู่เฟิงมีเดียของเรา เธอรับผิดชอบในการจัดหาศิลปิน ถ้าหากว่าคุณมีคำถามอะไร สามารถคุยกับเธอได้เลยโดยตรง”“อ้อ เจียงชั่น!” โมนายิ้มในขณะที่ก้มลงมองเล็บมือที่เพิ่งทำมาของเธอ “มีประสบการณ์หรือเปล่า? ไม่ใช่ใครก็จะดูแลฉันได้นะ”“ไม่ต้องกังวลครับคุณโมนา แม้ว่าผู้ช่วยเจียงจะไม่ได้อยู่ในวงการนี้นาน แต่ความสามารถในการทำงานของเธอโดดเด่นมาก”“ความสามารถในการทำงานหรือยั่วผู้ชายกันแน่ที่โดด
“ไอ้สารเลว! แกมันน่ารังเกียจ”สีหน้าของหยินรั่วหงแดงจัดฮั่วจ่านเฮ่อมองกลับด้วยรอยยิ้ม ภายใต้แววตาเจ้าเล่ห์มีความชั่วร้ายอยู่เต็มเปี่ยมเครื่องบินส่วนตัวของฮั่วจือสิงตกจริง แต่หยินรั่วหงไม่รู้เรื่องนี้ในตอนนั้นเขาพบกับฮั่วจ่านเฮ่อที่งานเลี้ยงหลายแห่ง พวกเขาเป็นเพียงคนที่รู้จักกันเท่านั้นนอกเหนือจากการฝึกฝนด้านการแพทย์และเภสัชกรรมแล้ว ตระกูลหยินในหนานหยางยังเปิดสนามบินพลเรือนอีกด้วย สนามบินขนาดใหญ่หลายแห่งในหนานหยางอยู่ภายใต้การควบคุมของตระกูลหยินดังนั้นฮั่วจ่านเฮ่อจึงมีแผนนี้ขึ้นมา ทว่าเขาซ่อนความจริงนี้จากหยินรั่วหง ก่อนจะใช้อุบายในการใช้ช่างเทคนิคเข้ามาทำอะไรบางอย่างกับเครื่องบินของฮั่วจือสิง...จากนั้นเขาก็แกล้งทำกรรมธรรม์ก้อนใหญ่แล้วบอกหยินรั่วหงว่าเงินหลายล้านจะตกเป็นของเขาหยินรั่วหงไม่คิดมาก่อนว่าตัวเองจะกลายเป็นผู้ร้ายในการก่ออาชญากรรมที่เลวร้ายในครั้งนี้ด้วย“ประธานหยิน ถ้าเรื่องนี้ถูกพูดออกไป จะไม่มีใครฟังคำอธิบายของคุณหรอกนะ เพราะพวกเขาจะคิดว่าคุณเป็นคนที่ร่วมทำร้ายฮั่วจือสิงเหมือนกัน”“เมื่อถึงเวลาชื่อเสียงและความมั่นคงของคุณก็จะถูกทำลายลงไป”หยินรั่วหงหายใจเข
“ใช่”ฮั่วจือสิงขมวดคิ้วด้วยสีหน้าที่จริงจังขึ้นมาเล็กน้อย “ผมไม่ได้บอกเรื่องนี้กับชั่นชั่น ดังนั้นอย่าพูดเรื่องนี้เลยนะ...”“เกิดอะไรขึ้น?” “ช่วงนี้อาการบาดเจ็บที่ขา...มันมีอาการนิดหน่อยน่ะ”เสิ่นเซียวตกใจ รีบพาเขาไปเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดทันที“ไม่มีอะไรหรอก” ฮั่วจือสิงตบไหล่อีกฝ่าย “มันน่าจะกำเริบ ก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ช่วงนี้อากาศเย็นลงมาก ก็จะเจ็บมากหน่อย”“ผมจำได้ว่าตอนนั้นคุณให้ยาผม ทั้งแบบกินแล้วก็แบบทา มันได้ผลดีมากนะ..วันนี้ก็เลยอยากจะให้สั่งยาเพิ่ม”เสิ่นเซียวลังเลอยู่นาน โดยที่ไม่พูดอะไร“มีอะไรรึเปล่า?”ฮั่วจือสิงนึกสงสัยว่าแพทย์อาจจะไม่สามารถสั่งยาได้ง่ายดายอย่างทีคิด?“จือสิง” เสิ่นเซียวมองเขาแล้วเม้มปากแน่น ในที่สุดก็ตัดสินใจเอ่ยออกมา “ที่จริงผม..ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคือยาอะไร”“ว่าไงนะ?” ฮั่วจือสิงประหลาดใจ “แต่ตอนนั้นคนที่ให้ยากับผมคือคุณนะ”“ใช่ แต่ยานั่นมีคนมอบให้คุณอีกที”ฮั่วจือสิงยิ่งเกิดความสับสนมากขึ้นเสิ่นเซียวถอนหายใจแล้วบอกความจริงทั้งหมด“คุณลองคิดดูสิ ถึงผมจะจบจากโรงเรียนแพทย์มา แต่ตอนนั้นผมไม่ได้เป็นหมอมานานแล้ว ไม่เคยผ่า
“ครับ นายน้อย” ฟางฮั่นพยักหน้าแต่หยินรั่วหงเป็นคนค่อนข้างลึกลับ ไม่ชอบปรากฎตัวต่อสาธารณะแม้แต่ในงานประมูลวันนั้น ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้เจอหน้าเขา“ถ้านัดหมายในนามของเรา เขาจะต้องรับ” ฮั่วจือสิงคิดเรื่องนี้ไว้แล้ว“แล้ว...ในนามของคุณชายสองล่ะครับ?”“ไม่จำเป็น” ฮั่วจือสิงเม้มปาก “บอกแค่ว่าปู่อยากเจอเขา”ฟางฮั่นสะดุ้งเล็กน้อย “นี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง ถ้ามีปู่ร่วมด้วย หยินรั่วหงจะไม่กล้าทำอะไร”ฮั่วจือสิงยิ้ม ก่อนจะปรับสีหน้าไปเป็นไม่พอใจอีกครั้ง“นายน้อย เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?” ฟางฮั่นรู้สึกตระหนกเล็กน้อยฮั่วจือสิงลดเสียงทันทีและเจียงชั่นก็ยังอยู่ในครัว“เปล่า” เขาขยับตัวเล็กน้อย “ก็ปัญหาเดิม ๆ”“อาการบาดเจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือเปล่าครับ?” ฟางฮั่นเป็นกังวลหลังจากเหตุการณ์เครื่องบินตก ฮั่วจือสิงได้รับบาดเจ็บหนัก แม้ตรวจแล้วทุกอย่างจะปกติดี แต่ก็มีเพียงอาการบาดเจ็บที่ขาเท่านั้นที่ยังมีผลกระทบที่ต่อเนื่องมาจนถึงตอนนี้“จริง ๆ มันก็ไม่ได้ร้ายแรง” เขายืดตัวขึ้นแล้วเอ่ยอย่างใจเย็น “ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นลง ก็เลยเจ็บมากเป็นบางครั้งแต่ไม่รุนแรงมาก คงจะไม่เป็นอะไรถ้าฉันพอจะปรั
เจียงชั่นหน้าแดงด้วยความเขินอาย ในขณะที่ฮั่วจือสิงกำลังโมโห เธอรีบผละออกจากเขาแล้ววิ่งเข้าไปในบ้านทันทีฟางฮั่นอ้าปากค้าง สายเกินไปแล้วที่เขาจะหนีไปอีกคน...สีหน้าของฮั่วจือสิงมืดดำราวกับมีหมึกดำ ๆ มาป้ายไว้บนหน้าเขาเดินออกไปตรงลานสนามหญ้าอย่างรวดเร็ว พลางมองฟางฮั่นด้วยแววตาที่แข็งกร้าวและเย็นชาฟางฮั่วกระตุกยิ้มแห้ง ๆ หัวใจเต้นแรงจนจะกระเด้งออกมาจากปาก“เกิดอะไรขึ้น?” เขาเอ่ยตอนนี้ฟางฮั่นลืมทุกสิ่งที่เขาต้องการจะพูดแล้ว จึงมองคนตรงหน้าด้วยแววตาว่างเปล่าความเงียบไม่กี่วินาที ทว่าความรู้สึกกลับยาวนานเป็นทศวรรษจากนั้นเจียงชั่นก็ได้ยินเสียงคำรามเข้ม ๆ ของใครบางคนดังขึ้นมา “ฟางฮั่น!”ป้าเฉินที่กำลังเลือกผักอยู่สะดุ้งแล้วรีบวิ่งออกมาจากครัวทันที“เกิดอะไรขึ้นคะ?”เจียงชั่นนั่งหัวเราะอยู่บนโซฟา“เสี่ยวฟางมีเรื่องเหรอคะ?” ป้าเฉินส่ายหน้าแล้วถอนหายใจ ก่อนจะกลับไปที่ห้องครัวพลางพึมพำกับตัวเอง “ตะเบ็งเสียงขนาดนี้ คงต้องทำซุปไว้ให้นายน้อยหน่อยแล้วล่ะนะ...”ที่สนามหญ้าเองเจ้าแมวส้มที่กินอาหารจนหมดก็กำลังเหวี่ยงร่างอ้วน ๆ ของมันไปมา ขณะที่มองชายหนุ่มทั้งสองแล้วร้องเหมียวสองสามครั้ง
จู่ ๆ ไป๋จิ่งหยวนก็รู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นผิดจังหวะ แทบจะควบคุมเอาไว้ไม่ได้ใบหน้าที่ชัดเจนของเหยาหว่านยินสะกดเขาราวกับมีเวทย์มนตร์ ดวงตากลมคู่นั้นราวกับโลกที่ลึกลับกำลังดึงดูดให้เขาเข้าไปสำรวจไป๋จิ่งหยวนมองเธออย่างว่างเปล่า บรรยากาศโดยรอบเงียบลง ราวกับว่าทุกอย่างกำลังมุ่งความสนใจไปที่เธอลมเย็น ๆ ที่พัดกระโชกมาทำให้เหยาหว่านยินไอออกมาสองสามครั้งทำให้ไป๋จิ่งหยวนถอดเสื้อคลุมออกมาแล้วสวมให้กับเธอแทน“ไม่เป็นไร...”“ใส่เถอะ” เขาช่วยกระชับเสื้อให้กับเธอ “ไม่สบายเหรอคุณ? หรือว่าเป็นหวัด?”เหยาหว่านยินเม้มปากแล้วมองเขาเงียบ ๆตอนนี้เริ่มมีคนทะยอยออกมาจากประตูงานประมูล“ดูเหมือนงานจะจบแล้วล่ะ” ไป๋จิ่งหยวนเอ่ย “เอาล่ะ..เดี๋ยวผมไปส่ง คุณอยู่ที่ไหน?”เหยาหว่านยินชะงักแล้วส่ายหน้าเล็กน้อยทุกอย่างราวกับภาพฝัน ในตอนที่เธอตื่นเธอก็ต้องกลับสู่โลกของความเป็นจริงความจริงที่ว่าเธอเป็นลูกสาวนิรนามของตระกูลเหยา ไม่รู้ว่าจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ต่อไปอีกนานแค่ไหน ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง...ร่างบางหันหลังกลับแล้วเดินไปอย่างช้า ๆ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงคนของตระดูลเหยากำลังตามหาเธออยู่ไม่ไกล
“คุณชื่อหว่านยินเหรอ?” ไป๋จิ่งหยวนขมวดคิ้วดูสับสน “แล้วนามสกุลอะไร?”เหยาหว่านยินหลับตาลงแล้วนิ่งเงียบไป๋จิ่งหยวนจึงยิ้มกว้าง ไม่ว่าเธอจะนามสกุลอะไรแต่แค่ได้รู้จักชื่อก็ดีมากแล้ว“เอาล่ะ เดี๋ยวผมจะพาไปเดินเล่นในสวน” เขาเอ่ยพลางเดินออกไปจากประตู“นี่คุณ...”แต่ก่อนที่เขาจะออกไปได้ ร่างสูงก็ถูกเหยาหว่านยินรั้งเอาไว้เขาตะลึงก่อนจะหันกลับมามองเขายังไม่ได้ใส่กางเกง!ชายหนุ่มหน้าแดง ในขณะที่มองเหยาหว่านยินด้วยความตระหนก ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ใส่เธอดีเห็นอย่างนั้นเหยาหว่านยินก็รู้สึกขบขัน ใบหน้าที่ซีดเซียวเริ่มมีสีสันขึ้นมาทันทีไป๋จิ่งหยวนวิ่งเข้าไปในห้องแล้วรีบสวมกางเกงทันที ก่อนจะพาเหยาหว่านยินออกไปเดินเล่นในค่ำคืนของฤดใบไม้ร่วงช่างสวยงาม ภายในสวนที่ได้รับแสงแดดอบอุ่นมาตลอดทั้งวัน ยังคงมีกลิ่นอายของความอบอุ่นไปทั่วทั้งบริเวณ รอบข้างมีความเงียบสงบและมีเสียงนกนานาชนิดร้องเป็นระยะ ๆ แสงไฟดวงเล็ก ๆ ที่ตกแต่งสวยงามราวกับมีหิ่งห้อยกำลังบินอยู่เหยาหว่านยินสูดหายใจลึกแล้วหลับตาลงเบา ๆเธอยืนอยู่บนสนามหญ้าและหายใจได้อย่างอิสระ อิสระที่เธอเฝ้าใฝ่หามาทั้งชีวิต“ดีจัง” เธอหั