ฮั่วจือสิงหันไปหาเธอด้วยความตะลึงผมยาวของเธอยุ่งเหยิงเล็กน้อย ยิ่งสร้างความน่ารักน่าชังขึ้นไปอีกถ้าไม่ใช่เพราะมีเรื่องมากมายต้องจัดการกับตระกูลฮั่ว เขาก็ยังต้องการ...“แน่ใจเหรอว่าจะเอาอาหารกลางวันไปให้?”เจียงชั่นพยักหน้าชายหนุ่มจึงยิ้มแล้วหัวเราะออกมาเบา ๆ“โอเคครับ” เขาเอ่ย “เดี๋ยวเที่ยงนี้ผมรอนะ”หลังจากเที่ยงวันไปแล้วก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะกินข้าวหรือกินเธอก่อนดี...ทันทีที่ฮั่วจือสิงออกไป เจียงชั่นก็ยุ่งอยู่ภายในครัวหลังจากที่ป้าเฉินทำความสะอาดภายในและภายนอกเสร็จแล้ว จู่ ๆ เธอก็ถูกกลิ่นหอมดึงดูดใจ เมื่อเดินมาดูก็เห็นเจียงชั่นกำลังเตรียมอาหารและซุปไว้อย่างดีและกำลังจะบรรจุลงในภาชนะเก็บความร้อน“คุณเจียงกำลังทำอะไรอยู่คะ?” ป้าเฉินถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “ได้กลิ่นหอม ๆ แบบนี้ จะต้องอร่อยมากแน่ ๆ”เจียงชั่นยิ้มก่อนจะวางหมูผัดเปรี้ยวหวานลงบนจานให้เธอในตอนแรกป้าเฉินกลับไม่กล้าหยิบมันขึ้นมา ทว่าสุดท้ายเมื่อได้ชิมความเปรี้ยวหวานที่กลมกล่อมก็ทำให้ป้าเฉินต้องร้องออกมาทั้งหัวเราะและยิ้มอย่างมีความสุข “ตอนอายุเท่านี้ป้าทำอาหารไม่ได้เท่าคุณเจียงเลยนะ”“งั้นเดี๋ยวจะทำให้บ
เจียงชั่นพยักหน้าแล้วออกไปทันทีฮั่วจือสิงมอบบัตรเข้าออกบริษัทพิเศษให้กับเธอ ดังนั้นเจียงชั่นจะสามารถเข้าออกที่ไหนในบริษัทก็ได้โดยไม่ต้องนัดหมายผ่านพนักงานต้อนรับด้านหน้าเธอจึงใช้บัตรนี้ขึ้นลิต์พิเศษแล้วขึ้นไปยังชั้นบนสุดกำลังจะเข้าไปในห้องทำงาน แต่ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวเล็กน้อยจากด้านใน“...เนื้อหาที่เฉพาะเจาะจงพวกนี้รวบรวมมาเป็นรายงานที่คุณสามารถตรวจสอบได้”เจียงชั่นตกตะลึงเสียงนี้คุ้นเคยมาก ราวกับเสียงของเหยาม่านหนิงเหยาม่านหนิงอยู่ในห้องทำงานของเขา?ไม่แปลกที่ส่งข้อความไปหาเขาหลายข้อความระหว่างทาง แต่เขาไม่ตอบกลับเลย“จือสิง” เสียงของเหยาท่านหนิงอ่อนลง “ฉันช่วยคุณเตรียมงานเซ็นสัญญากับทางฝรั่งเศสในสัปดาห์นี้ไว้แล้ว”ทว่าฮั่วจือสิงไม่ตอบ“ที่ฉันทำทั้งหมดก็เพื่อคุณ” เธอพูดด้วยความเจ็บปวด “ตอนนี้เราสามารถทำงานร่วมกันได้แล้ว ฉันก็ยิ่งชื่นชมโอกาสนี้มากยิ่งขึ้น... จือสิง คุณอยากให้ฉันควักกัวใจออกมาให้คุณเห็นจริง ๆ ใช่ไหม?”“ขอแค่คุณพยักหน้า ฉันก็จะพิสูจน์ให้คุณเห็น”เธอรู้สึกเวียนหัวเจียงชั่นหายใจเข้าลึก ๆ เธอเชื่อมั่นในตัวของเขา ทว่าการที่ฮั่วจือสิงเย็นชาก
เหยาม่านหนิงตะลึง“เป็นอะไร?” ฮั่วจือสิงมองด้วยความเย็นชา “บอกว่าจะควักหัวใจออกมาให้ดูไม่ใช่หรือไง?”“จือสิง...” เหยาม่านหนิงอึ้ง“หรืออยากให้ฉันทำให้?”“ไม่นะ!”“ฉันหมายถึงฉันทำทุกอย่างได้เพื่อคุณ” เธอเอ่ย “ที่บอกว่าจะควักหัวใจออกมาน่ะ ...มันเป็นแค่คำเปรียบเทียบเท่านั้น...”เหยาม่านหนิงเสริม “คุณไม่เข้าใจหรือไงจือสิง?”“ต้องขอโทษด้วย” ฮั่วจือสิงหัวเราะเบา ๆ “ฉันเป็นคนที่คิดอะไรตรงไปตรงมา ก็เลยนึกว่าเธออยากจะควักหัวใจตัวเองออกมาจริง ๆ น่ะสิ”“อ้อ” เหยาม่านหนิงเอ่ย “คงล้อฉันเล่นใช่ไหมล่ะคะ?”“ฉันไม่เคยพูดเล่นกับคนไม่สนิท”การแสดงออกของเขายิ่งทำให้บรรยากาศโดยรอบเย็นยะเยือกเหยาม่านหนิงกัดริมฝีปากแล้วมองเขาด้วยสีหน้าที่ซีดเผือด“คุณ..คุณบอกว่าไม่สนิทกับฉันงั้นเหรอ?” เธอกระซิบเบา ๆ “คุณปู่บอกแล้วไงว่าเราจะต้องแต่งงานกันน่ะ!”ฮั่วจือสิงขมวดคิ้วเล็กน้อย ในตอนนี้เองที่เจียงชั่นเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มบาง ๆ บนใบหน้าเมื่อเห็นเธอเดินเข้ามาร่างสูงก็ตัวแข็งทื่อ ไม่ทันได้สังเกตว่าได้เวลาอาหารกลางวันแล้ว“ชั่นชั่น...”เขารู้สึกตื่นตระหนก เจียงชั่นคงจะเห็นว่าเหยาม่านหนิงอยู่ในห้องทำงานข
เจียงชั่นตอบอย่างไม่เต็มใจนัก “สัปดาห์หน้าคิดว่าคงไม่ได้ค่ะ...ฉันต้องไปทำงานที่หยู่เฟิงมีเดียแล้วตั้งแต่วันพรุ่งนี้”“เร็วขนาดนั้นเลย?”“ค่ะ” เธอยิ้มตั้งแต่ที่เจียงชั่นส่งมอบงานที่สำนักพิมพ์เสร็จ ฟู่ซิ่วอวี้ก็โทรตามเธอสามวันต่อกันเพื่อขอให้เธอมาทำงานให้เร็วที่สุดแม้ว่าจะเหลือเวลาให้เตรียมตัวอีกสองวัน แต่ความเป็นมืออาชีพตอนนี้เจียงชั่นจึงกำลังทำงานอย่างบ้าคลั่ง“เรื่องนี้..ไม่เป็นไรหรอก” ฮั่วจือสิงบอก “เดี๋ยวผมจะขอแม่ให้หยุดให้คุณหนึ่งวัน”เจียงชั่นขมวดคิ้ว “ไม่ดีเลยนะ”“ไม่เห็นแย่ตรงไหน” เขาหัวเราะลั่น ก่อนจะเอ่ยเสียงทุ้ม “งานเลี้ยงนี้สำคัญ คุณจะต้องไปกับผม”เห็นได้ชัดว่าเจียงชั่นจะยังไม่เข้าใจคำว่า ‘สำคัญ’ ที่เขาหมายถึงเธอไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วฮั่วจือสิงที่อยู่เบื้องหลังโครงการที่ดินแถบชานเมืองตะวันตกไม่ต้องการปรากฎตัวในงานพร้อมกับเหยาม่านหนิง การที่พาเจียงชั่นไปด้วยจึงมีความสำคัญมากเจียงชั่นหัวเราะอย่างมีความสุข......ไม่กี่วันต่อมาที่สำนักงานของหยู่เฟิงมีเดียฟู่ซิ่วอวี้กำลังนั่งจ้องลูกชายด้วยสีหน้าจริงจังใบหน้าหล่อเหลาจึงคลี่ยิ้มออกมาบาง ๆ“แม่ครับ...”ฟู่ซิ่วอว
“วันนี้มีอะไรอีกบ้างจ๊ะ?”““บ่ายโมงจะมีสัมภาษณ์ดาราวาไรตี้ 2 คน เวลาบ่ายสองครึ่งจะมีการประชุมภายในบริษัท ส่วนบ่ายสามจนถึงห้าโมง จะต้องไปสื่อสำคัญหลายรายการเพื่อทำข้อตกลงความร่วมมือค่ะ”“แล้วก็ตอนหนึ่งทุ่มมีนัดทานอาหารเย็นกับตัวแทนคนดัง โรงแรมถูกจองไว้ที่แมนฮัตตันเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นร้านอาหารชั้นบนสุดค่ะ”เจียงชั่นเป็นคนที่มีระเบียบมาก แม้ว่าเธอจะมาที่นี่ได้ไม่กี่วัน แต่ก็ระมัดระวังและมีน้ำใจกับเพื่อนร่วมงาน เมื่อสิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นเธอก็ไม่รีบร้อนและจัดการกับปัญหาด้วยความสงบ ไม่เพียงแต่สามารถจัดการทุกอย่างได้อย่างเหมาะสม แต่เธอยังเขียนแผนการที่ดีมากอีกด้วย ความสามารถในการทำงานของเธอจึงได้รับการยอมรับเป็นอย่างมากฟู่ซิ่วอวี้ยิ้มด้วยความสบายใจ รู้สึกดีใจที่เลือกคนไม่ผิดฮั่วจือสิงมองเจียงชั่นด้วยสายตาที่เป็นทุกข์เล็กน้อยในตอนเช้าที่มาทำงาน เธอไม่มีเวลาแม้แต่จะกินข้าวเช้าเลยด้วยซ้ำตอนเย็นก็มักจะอยู่ทำงานจนดึก แล้วตื่นเช้าไปทำงานด้วยใต้ตาที่เป็นหมีแพนด้าด้วยภาระงานที่เกินพิกัดแบบนี้ทำให้เขาไม่สามารถทนดูต่อไปได้อีก“แม่ครับ” เขาเอ่ย “แม่กับชั่นชั่นเหนื่อยกันมาก ผมอยากจะพาเธอไปงานเว
ขนาดของงานลงนามไม่ได้ใหญ่มาก แต่ผู้ที่มีการติดต่อทางธุรกิจกับฮั่วจือสิงกลับเต็มไปด้วยคนที่มีชื่อเสียงโครงการที่ดินชานเมืองทางตะวันตกเกี่ยวข้องกับแง่มุมต่าง ๆ ที่น่าสนใจ และพิธีลงนามนี้เกี่ยวข้องกับบริษัทรับเหมาก่อสร้างและบริษัทออกแบบหลายแห่งเป็นหลักและในสัญญาเหล่านี้พวกเขาทั้งหมดกำหนดให้มีลายเซ็นของเจียงชั่น โครงการจึงจะมีผลเจียงชั่นนั่งอยู่ในห้องแต่งตังและกำลังถูกแต่งหน้าโดยหัวหน้าช่างแต่งหน้าหลายคนจากแบรนด์เครื่องสำอางชั้นนำระดับนานาชาติ บนราวแขวนเสื้อผ้าที่ผู้ช่วยของเธอนำเข้ามา มีเสื้อคลุมอลังการหลายชุดที่ส่องแสงเจิดจ้า พวกมันมีลักษณะคล้ายกับเครื่องแต่งกายของเจ้าหญิงในเทพนิยาย ชุดทั้งหมดได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับเธอ โดยแต่ละดีไซน์มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสไตลิสต์กำลังคุยกันว่าควรสวมชุดแบบไหนในการแต่งหน้าแบบนี้ และในขณะเดียวกันเจียงชั่นก็กำลังโบกปากกาในมือของเธอ และลงลายเซ็นบนเอกสารหลายฉบับอย่างเคร่งขรึมฮั่วจื้อสิงเคาะประตูแล้วเข้าไป เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของหญิงสาว เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกรักใคร่และเอ็นดู เขาเดินไปนั่งลงข้างเธอแล้วโบกมือให้สไตลิสต์ออกจากห้องไปตอนนี้ห้องว่
เหยาม่านหนิงเหลือบมองเจียงชั่น “ฉันแค่อยากจะคุยด้วยน่ะ”เจียงชั่นรักษาระยะห่าง โดยคอยสังเกตอะไรก็ตามในห้องที่เธอสามารถใช้เพื่อป้องกันตัวได้“เจียงชั่น ฉันรู้ว่าในใจของจือสิง ฉันเทียบกับคุณไม่ได้เลย” เหยาม่านหนิงพูดเบา ๆ “แต่การแต่งงานของเราถูกจัดเตรียมโดยคุณปู่ของฉัน และครอบครัวของเราทั้งสองก็มีความสัมพันธ์อันยาวนานมาหลายชั่วอายุ ความเชื่อมโยงนี้ จะตัดขาดไม่ได้เพียงเพราะปรารถนาของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรอกนะ”“ฉันเคยได้ยินคำพูดนั้นมาหลายครั้งแล้ว” เจียงชั่นพูดอย่างไม่แยแส “คุณเหยา ฉันอยากจะบอกคุณด้วยว่าบางสิ่งไม่สามารถบังคับได้จริง ๆ และบางคนจะไม่เปลี่ยนเจตจำนงเพียงเพราะความสัมพันธ์ที่ยาวนาน”“ฉันเข้าใจ” เหยาม่านหนิงจ้องมองเธอ “อันที่จริงฉันยอมแพ้แล้ว เพราะจือสิงไม่ใช่ของฉัน ฉันจึงควรปล่อยมือเขาไป เขาคงจะมีความสุขมากขึ้นเมื่ออยู่กับคุณ”“แต่สิ่งที่ฉันอยากบอกคุณก็คือคุณต้องมีค่าควรกับเขา” หัวใจของเจียงชั่นแน่นขึ้นขึ้นเล็กน้อย“อืม พูดตามตรงนะ ฉันคุ้นเคยกับเหตุการณ์แบบนี้ตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้ ฉันก็เลยจัดการมันได้อย่างง่ายดาย และฉันรู้ว่าจือสิงไม่ชอบให้ใครมาชักนำ ฉันก็เลยไม่ได้เตรียมการเร
เหยาม่านหนิงยืนนิ่งอยู่กับที่ ริมฝีปากของเธอขยับแต่ไม่สามารถพูดอะไรได้ เจียงชั่นยิ้มและเดินออกจากห้องแต่งตัวอย่างสง่างามเดิมทีเธอไม่ต้องการแข่งขันเพื่อสิ่งใด แต่ถ้าใครยืนกรานที่จะท้าทายเธอ เธอก็ไม่สนใจที่จะต่อสู้จนถึงบทสรุปสุดท้ายเนื่องจากเธอเพิ่งอ้างตัวครั้งใหญ่ว่าเป็นภรรยาของตระกูลฮั่ว เธอจึงต้องแสดงท่าทีของภรรยาในตอนนี้ เธอเดินอย่างสง่างามเข้าไปในห้องจัดเลี้ยง ยืนอยู่ข้าง ๆ ฮั่วจือสิง ก่อนจะค่อย ๆ ประสานแขนของเธอกับเขาด้วยท่าทางที่สงบ“อืม คุณเลือกชุดดูดีเลยนะ” ฮั่วจือสิงหัวเราะเบา ๆ “ทุกคนกำลังมองคุณอยู่”“คุณเคยเลือกให้ฉันผิดด้วยเหรอคะ?” เธอพิงเขาอย่างแนบชิดฟางฮั่นเข้ามาพร้อมกับนักธุรกิจชาวฝรั่งเศสสองสามคน ฮั่วจือสิงจึงพยักหน้าเล็กน้อย แลกเปลี่ยนความเห็นอย่างสุภาพ ขณะที่เขากำลังจะแนะนำเจียงชั่นให้พวกเขา จู่ ๆ เหยาม่านหนิงก็เดินเข้ามาจากด้านข้าง“จือสิง!”การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเธอดึงดูดสายตาหลาย ๆ คนในทันที คนบางคนรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลฮั่วและตระกูลเหยา ในความคิดของพวกเขาการแต่งงานระหว่างฮั่วจือสิงและเหยาม่านหนิงเป็นข้อตกลงที่เสร็จสิ้นแล้วอย่างไรก็ต
เจียงชั่นยิ้มแล้วไม่ตอบอะไรโมนาจึงรู้สึกตระหนกขึ้นมาถังอี้หรานเป็นผู้กำกับที่มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมนี้ ภาพยนตร์ทุกเรื่องที่เขากำกับล้วนแต่ได้รับรางวัลในระดับนานาชาติไม่เพียงแค่มีชื่อเสียงในประเทศ แต่ยังมีชื่อเสียงในวงการภาพยนตร์ระดับนานาชาติอีกด้วยทุกคนในวงการต่างก็กระตือรือร้นที่จะได้เข้าไปอยู่ในทีมของถังอี้หรานแน่นอนว่าโมนาเองก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ถังอี้หรานเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถ ทุกคนรู้จักกันดีว่าเธอหยิ่งแค่ไหน แน่นอนว่าแม้แต่ดารายอดนิยมอย่างเธอถังอี้หรานก็ไม่แยแสแต่ตอนนี้...“เมื่อกี้นี้คุณโทรหาถังอี้หรานจริง ๆ เหรอ?”“ใช่ครับ” ผู้จัดการห่าวเหลือบมองเธอ “ผู้อำนวยการถังเพิ่งสร้างภาพยนตร์เรื่องใหม่ คุณเนี่ยซินและคุณเจียงช่วยติดต่อกับเธอแล้ว”สีหน้าของโมนาเปลี่ยนไปด้วยความรู้สึกเสียใจอย่างมาก“ผะ..ผู้ช่วยเจียง” เธอมองเจียงชั่น “ผู้กำกับถังจะมาร่วมรายการนี้ด้วยเหรอ? แต่ฉันได้ยินมาว่าเธอไม่เคยปรากฎตัวในรายการวาไรตี้เลยนะ”เจียงชั่นยิ้มและยังคงไม่พูดอะไร“มันไม่ใช่รายการวาไรตี้ธรรมดา ๆ หรอกเหรอ?!” โมนาโกรธจัดเจียงชั่นเม้มปากแล้วเอ่ยอย่างใจเย็น “ไม่สำคัญหรอกค่ะ เพ
เจียงชั่นที่กำลังดื่มน้ำ เกือบพ่นน้ำออกมาทันทีที่ได้ยินหลังจากวางสายแล้วเธอก็เดินออกไปเห็นได้ชัดว่าดาราสาวเป็นคนที่ใจร้อนมาก หญิงสาวจ้องเจียงชั่นด้วยความไม่พอใจ“นี่น่ะเหรอที่เรียกว่ามืออาชีพ กำลังทำอะไรอยู่?” โมนาตะโกน “หยู่เฟิงมีเดียก็ใหญ่โตแล้วมีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมนี้นะ จะดูแลได้ดีแน่เหรอ? เพิกเฉยต่อศิลปินแบบนี้มันไม่สุภาพเลยนะ!”ผู้จัดการห่าวทนไม่ไหว “คุณโมนามีมารยาทหน่อยได้ไหมครับ?”โมนาเหลือบมองเขา“ผู้ช่วยเจียงเป็นผู้ช่วยอาวุโสของคุณฟู่ เธอรับผิดชอบงานประชาสัมพันธ์และการฝึกอบรมต่าง ๆ ให้กับศิลปินทุกคน แม้แต่เนี่ยซินเองก็ต้องทำตามและให้ความร่วมมือกับผู้ช่วยเจียง”“คุณโมนาคิดว่าตัวเองมีสถานะที่สูงกว่าคุณเนี่ยซินงั้นสินะครับ?”ทุกคำพูดของผู้จัดการห่าวเน้นย้ำ โมนาจึงถอยหลังเล็กน้อย ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจเจียงชั่นยิ้มแล้วหยิบเอกสารจากโต๊ะขึ้นมา ในนั้นมีตารางงานของศิลปินหลายคนของบริษัท“นี่เป็นแผนการเดินทางของคุณค่ะ” เจียงชั่นยื่นเอกสารสำเนาให้กับโมนา “ในนั้นมีข้อควรระวังในการปรากฏตัวในรายการ เดี๋ยวฉันจะช่วยสื่อสารกับผู้จัดการส่วนตัวของคุณล่วงหน้า”“นีมันรายการอะไ
เจียงชั่นขมวดคิ้วพลางมองตามไปยังเสียงที่ได้ยินเธอเห็นหญิงสาวสวยแต่งตัวเรียบหรู สวมแว่นกันแดดอันใหญ่และต่างหูกับสร้อยคอที่ดูเว่อร์เดินนวยนาดเข้ามา“ไม่ได้บอกว่ามีทีมผู้บริหารที่เป็นมืออาชีพหรอกเหรอ?” เธอถอดแว่นนกันแดดอันใหญ่ออกแล้วมองเจียงชั่นด้วยท่าทางที่ไม่เป็นมิตร “แล้วอยู่ไหน?”ผู้จัดการห่าวและเจียงชั่นมองหน้ากันแล้วพยักหน้าเบา ๆเจียงชั่นยื่นมือออกมาแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “คุณโมนาใช่ไหมคะ? ฉันคือ...”โมนาแสดงท่าทีที่หยิ่งออกมา เธอไม่ยอมจับมือกับเจียงชั่นเลยเจียงชั่นจึงหยุดค้างอยู่กลางอากาศแบบนั้น ก่อนจะดึงมือกลับเงียบ ๆผู้จัดการห่าวก้าวไปข้างหน้าแล้วเอ่ย “คุณโมนาครับ นี่คือคุณเจียงชั่นผู้ช่วยอาวุโสที่หยู่เฟิงมีเดียของเรา เธอรับผิดชอบในการจัดหาศิลปิน ถ้าหากว่าคุณมีคำถามอะไร สามารถคุยกับเธอได้เลยโดยตรง”“อ้อ เจียงชั่น!” โมนายิ้มในขณะที่ก้มลงมองเล็บมือที่เพิ่งทำมาของเธอ “มีประสบการณ์หรือเปล่า? ไม่ใช่ใครก็จะดูแลฉันได้นะ”“ไม่ต้องกังวลครับคุณโมนา แม้ว่าผู้ช่วยเจียงจะไม่ได้อยู่ในวงการนี้นาน แต่ความสามารถในการทำงานของเธอโดดเด่นมาก”“ความสามารถในการทำงานหรือยั่วผู้ชายกันแน่ที่โดด
“ไอ้สารเลว! แกมันน่ารังเกียจ”สีหน้าของหยินรั่วหงแดงจัดฮั่วจ่านเฮ่อมองกลับด้วยรอยยิ้ม ภายใต้แววตาเจ้าเล่ห์มีความชั่วร้ายอยู่เต็มเปี่ยมเครื่องบินส่วนตัวของฮั่วจือสิงตกจริง แต่หยินรั่วหงไม่รู้เรื่องนี้ในตอนนั้นเขาพบกับฮั่วจ่านเฮ่อที่งานเลี้ยงหลายแห่ง พวกเขาเป็นเพียงคนที่รู้จักกันเท่านั้นนอกเหนือจากการฝึกฝนด้านการแพทย์และเภสัชกรรมแล้ว ตระกูลหยินในหนานหยางยังเปิดสนามบินพลเรือนอีกด้วย สนามบินขนาดใหญ่หลายแห่งในหนานหยางอยู่ภายใต้การควบคุมของตระกูลหยินดังนั้นฮั่วจ่านเฮ่อจึงมีแผนนี้ขึ้นมา ทว่าเขาซ่อนความจริงนี้จากหยินรั่วหง ก่อนจะใช้อุบายในการใช้ช่างเทคนิคเข้ามาทำอะไรบางอย่างกับเครื่องบินของฮั่วจือสิง...จากนั้นเขาก็แกล้งทำกรรมธรรม์ก้อนใหญ่แล้วบอกหยินรั่วหงว่าเงินหลายล้านจะตกเป็นของเขาหยินรั่วหงไม่คิดมาก่อนว่าตัวเองจะกลายเป็นผู้ร้ายในการก่ออาชญากรรมที่เลวร้ายในครั้งนี้ด้วย“ประธานหยิน ถ้าเรื่องนี้ถูกพูดออกไป จะไม่มีใครฟังคำอธิบายของคุณหรอกนะ เพราะพวกเขาจะคิดว่าคุณเป็นคนที่ร่วมทำร้ายฮั่วจือสิงเหมือนกัน”“เมื่อถึงเวลาชื่อเสียงและความมั่นคงของคุณก็จะถูกทำลายลงไป”หยินรั่วหงหายใจเข
“ใช่”ฮั่วจือสิงขมวดคิ้วด้วยสีหน้าที่จริงจังขึ้นมาเล็กน้อย “ผมไม่ได้บอกเรื่องนี้กับชั่นชั่น ดังนั้นอย่าพูดเรื่องนี้เลยนะ...”“เกิดอะไรขึ้น?” “ช่วงนี้อาการบาดเจ็บที่ขา...มันมีอาการนิดหน่อยน่ะ”เสิ่นเซียวตกใจ รีบพาเขาไปเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดทันที“ไม่มีอะไรหรอก” ฮั่วจือสิงตบไหล่อีกฝ่าย “มันน่าจะกำเริบ ก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ช่วงนี้อากาศเย็นลงมาก ก็จะเจ็บมากหน่อย”“ผมจำได้ว่าตอนนั้นคุณให้ยาผม ทั้งแบบกินแล้วก็แบบทา มันได้ผลดีมากนะ..วันนี้ก็เลยอยากจะให้สั่งยาเพิ่ม”เสิ่นเซียวลังเลอยู่นาน โดยที่ไม่พูดอะไร“มีอะไรรึเปล่า?”ฮั่วจือสิงนึกสงสัยว่าแพทย์อาจจะไม่สามารถสั่งยาได้ง่ายดายอย่างทีคิด?“จือสิง” เสิ่นเซียวมองเขาแล้วเม้มปากแน่น ในที่สุดก็ตัดสินใจเอ่ยออกมา “ที่จริงผม..ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคือยาอะไร”“ว่าไงนะ?” ฮั่วจือสิงประหลาดใจ “แต่ตอนนั้นคนที่ให้ยากับผมคือคุณนะ”“ใช่ แต่ยานั่นมีคนมอบให้คุณอีกที”ฮั่วจือสิงยิ่งเกิดความสับสนมากขึ้นเสิ่นเซียวถอนหายใจแล้วบอกความจริงทั้งหมด“คุณลองคิดดูสิ ถึงผมจะจบจากโรงเรียนแพทย์มา แต่ตอนนั้นผมไม่ได้เป็นหมอมานานแล้ว ไม่เคยผ่า
“ครับ นายน้อย” ฟางฮั่นพยักหน้าแต่หยินรั่วหงเป็นคนค่อนข้างลึกลับ ไม่ชอบปรากฎตัวต่อสาธารณะแม้แต่ในงานประมูลวันนั้น ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้เจอหน้าเขา“ถ้านัดหมายในนามของเรา เขาจะต้องรับ” ฮั่วจือสิงคิดเรื่องนี้ไว้แล้ว“แล้ว...ในนามของคุณชายสองล่ะครับ?”“ไม่จำเป็น” ฮั่วจือสิงเม้มปาก “บอกแค่ว่าปู่อยากเจอเขา”ฟางฮั่นสะดุ้งเล็กน้อย “นี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง ถ้ามีปู่ร่วมด้วย หยินรั่วหงจะไม่กล้าทำอะไร”ฮั่วจือสิงยิ้ม ก่อนจะปรับสีหน้าไปเป็นไม่พอใจอีกครั้ง“นายน้อย เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?” ฟางฮั่นรู้สึกตระหนกเล็กน้อยฮั่วจือสิงลดเสียงทันทีและเจียงชั่นก็ยังอยู่ในครัว“เปล่า” เขาขยับตัวเล็กน้อย “ก็ปัญหาเดิม ๆ”“อาการบาดเจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือเปล่าครับ?” ฟางฮั่นเป็นกังวลหลังจากเหตุการณ์เครื่องบินตก ฮั่วจือสิงได้รับบาดเจ็บหนัก แม้ตรวจแล้วทุกอย่างจะปกติดี แต่ก็มีเพียงอาการบาดเจ็บที่ขาเท่านั้นที่ยังมีผลกระทบที่ต่อเนื่องมาจนถึงตอนนี้“จริง ๆ มันก็ไม่ได้ร้ายแรง” เขายืดตัวขึ้นแล้วเอ่ยอย่างใจเย็น “ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นลง ก็เลยเจ็บมากเป็นบางครั้งแต่ไม่รุนแรงมาก คงจะไม่เป็นอะไรถ้าฉันพอจะปรั
เจียงชั่นหน้าแดงด้วยความเขินอาย ในขณะที่ฮั่วจือสิงกำลังโมโห เธอรีบผละออกจากเขาแล้ววิ่งเข้าไปในบ้านทันทีฟางฮั่นอ้าปากค้าง สายเกินไปแล้วที่เขาจะหนีไปอีกคน...สีหน้าของฮั่วจือสิงมืดดำราวกับมีหมึกดำ ๆ มาป้ายไว้บนหน้าเขาเดินออกไปตรงลานสนามหญ้าอย่างรวดเร็ว พลางมองฟางฮั่นด้วยแววตาที่แข็งกร้าวและเย็นชาฟางฮั่วกระตุกยิ้มแห้ง ๆ หัวใจเต้นแรงจนจะกระเด้งออกมาจากปาก“เกิดอะไรขึ้น?” เขาเอ่ยตอนนี้ฟางฮั่นลืมทุกสิ่งที่เขาต้องการจะพูดแล้ว จึงมองคนตรงหน้าด้วยแววตาว่างเปล่าความเงียบไม่กี่วินาที ทว่าความรู้สึกกลับยาวนานเป็นทศวรรษจากนั้นเจียงชั่นก็ได้ยินเสียงคำรามเข้ม ๆ ของใครบางคนดังขึ้นมา “ฟางฮั่น!”ป้าเฉินที่กำลังเลือกผักอยู่สะดุ้งแล้วรีบวิ่งออกมาจากครัวทันที“เกิดอะไรขึ้นคะ?”เจียงชั่นนั่งหัวเราะอยู่บนโซฟา“เสี่ยวฟางมีเรื่องเหรอคะ?” ป้าเฉินส่ายหน้าแล้วถอนหายใจ ก่อนจะกลับไปที่ห้องครัวพลางพึมพำกับตัวเอง “ตะเบ็งเสียงขนาดนี้ คงต้องทำซุปไว้ให้นายน้อยหน่อยแล้วล่ะนะ...”ที่สนามหญ้าเองเจ้าแมวส้มที่กินอาหารจนหมดก็กำลังเหวี่ยงร่างอ้วน ๆ ของมันไปมา ขณะที่มองชายหนุ่มทั้งสองแล้วร้องเหมียวสองสามครั้ง
จู่ ๆ ไป๋จิ่งหยวนก็รู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นผิดจังหวะ แทบจะควบคุมเอาไว้ไม่ได้ใบหน้าที่ชัดเจนของเหยาหว่านยินสะกดเขาราวกับมีเวทย์มนตร์ ดวงตากลมคู่นั้นราวกับโลกที่ลึกลับกำลังดึงดูดให้เขาเข้าไปสำรวจไป๋จิ่งหยวนมองเธออย่างว่างเปล่า บรรยากาศโดยรอบเงียบลง ราวกับว่าทุกอย่างกำลังมุ่งความสนใจไปที่เธอลมเย็น ๆ ที่พัดกระโชกมาทำให้เหยาหว่านยินไอออกมาสองสามครั้งทำให้ไป๋จิ่งหยวนถอดเสื้อคลุมออกมาแล้วสวมให้กับเธอแทน“ไม่เป็นไร...”“ใส่เถอะ” เขาช่วยกระชับเสื้อให้กับเธอ “ไม่สบายเหรอคุณ? หรือว่าเป็นหวัด?”เหยาหว่านยินเม้มปากแล้วมองเขาเงียบ ๆตอนนี้เริ่มมีคนทะยอยออกมาจากประตูงานประมูล“ดูเหมือนงานจะจบแล้วล่ะ” ไป๋จิ่งหยวนเอ่ย “เอาล่ะ..เดี๋ยวผมไปส่ง คุณอยู่ที่ไหน?”เหยาหว่านยินชะงักแล้วส่ายหน้าเล็กน้อยทุกอย่างราวกับภาพฝัน ในตอนที่เธอตื่นเธอก็ต้องกลับสู่โลกของความเป็นจริงความจริงที่ว่าเธอเป็นลูกสาวนิรนามของตระกูลเหยา ไม่รู้ว่าจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ต่อไปอีกนานแค่ไหน ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง...ร่างบางหันหลังกลับแล้วเดินไปอย่างช้า ๆ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงคนของตระดูลเหยากำลังตามหาเธออยู่ไม่ไกล
“คุณชื่อหว่านยินเหรอ?” ไป๋จิ่งหยวนขมวดคิ้วดูสับสน “แล้วนามสกุลอะไร?”เหยาหว่านยินหลับตาลงแล้วนิ่งเงียบไป๋จิ่งหยวนจึงยิ้มกว้าง ไม่ว่าเธอจะนามสกุลอะไรแต่แค่ได้รู้จักชื่อก็ดีมากแล้ว“เอาล่ะ เดี๋ยวผมจะพาไปเดินเล่นในสวน” เขาเอ่ยพลางเดินออกไปจากประตู“นี่คุณ...”แต่ก่อนที่เขาจะออกไปได้ ร่างสูงก็ถูกเหยาหว่านยินรั้งเอาไว้เขาตะลึงก่อนจะหันกลับมามองเขายังไม่ได้ใส่กางเกง!ชายหนุ่มหน้าแดง ในขณะที่มองเหยาหว่านยินด้วยความตระหนก ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ใส่เธอดีเห็นอย่างนั้นเหยาหว่านยินก็รู้สึกขบขัน ใบหน้าที่ซีดเซียวเริ่มมีสีสันขึ้นมาทันทีไป๋จิ่งหยวนวิ่งเข้าไปในห้องแล้วรีบสวมกางเกงทันที ก่อนจะพาเหยาหว่านยินออกไปเดินเล่นในค่ำคืนของฤดใบไม้ร่วงช่างสวยงาม ภายในสวนที่ได้รับแสงแดดอบอุ่นมาตลอดทั้งวัน ยังคงมีกลิ่นอายของความอบอุ่นไปทั่วทั้งบริเวณ รอบข้างมีความเงียบสงบและมีเสียงนกนานาชนิดร้องเป็นระยะ ๆ แสงไฟดวงเล็ก ๆ ที่ตกแต่งสวยงามราวกับมีหิ่งห้อยกำลังบินอยู่เหยาหว่านยินสูดหายใจลึกแล้วหลับตาลงเบา ๆเธอยืนอยู่บนสนามหญ้าและหายใจได้อย่างอิสระ อิสระที่เธอเฝ้าใฝ่หามาทั้งชีวิต“ดีจัง” เธอหั