“คุณพลาดเรื่องที่จัดการเจียงชั่นไม่สำเร็จ ผมบอกเรื่องนี้ไปแล้ว” เขาหันมามอง “แต่คุณชายสองมอบเงินจำนวนนี้มาให้ เขาบอกว่าจะเก็บคุณไว้ คุณอาจจะมีประโยชน์ในอนาคต”ทันใดนั้นร่างสูงของเด็กหนุ่มก็ยื่นมือออกมาบีบแก้มของกู้หม่างด้วยสีหน้าซุกซน“ฮ่าฮ่า คิดว่าแผนของคุณชายสองนี่ไม่เลวเลยนะ...น่าเสียดายที่จะไม่ได้เห็นใบหน้าแบบนี้อีก”ขนลุกไปทั่วร่างกายของกู้หม่างในทันที แม้ว่าเขาจะติดคุกมานานและเจออันธพาลอย่างลู่หลี่ซานมามากมาย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกถึงพลังเหมือนกับเวลาที่อยู่กับผู้ชายคนนี้“ลงไป” รถจอดลงตรงข้างถนน “หึหึ...ในอนาคตคุณคงมีประโยชน์มากเลยล่ะ”ว่าแล้วกู้หม่างก็เปิดประตูรถแล้ววิ่งหนีออกไปพร้อมกับเงินคนที่อยู่ภายในรถดึงหมวกลงอำพรางใบหน้า ก่อนจะปรากฎรอยยิ้มกว้างตามมา........ฮั่วจือสิงกำลังรอหมออยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉินเลือดบนมือของเขาเริ่มแห้งและกลายเป็นสีแดงเข้ม ร่างสูงประสานมือกันด้วยร่างที่สั่นเทาเล็กน้อย ในแววตาเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ด้านหลังมีสีหน้าที่เคร่งเครียดไม่แพ้กัน “นายน้อยตอนนี้เราพบว่ารถคันนั้นมุ่งหน้าไปที่ชานเมือง”“แต่..การตรวจสอบอาจจะยากสักหน่
ลู่หลี่ซานขมวดคิ้วแล้วมองหลินอวี่ฉิงด้วยแววตาที่ซับซ้อนอยู่พักหนึ่ง “ช่วยสงบสติอารมณ์หน่อยจะได้ไหม? ฮั่วจือสิงก็คงไม่อยากให้เรื่องมันกลายเป็นแบบนี้เหมือนกัน...”“มีอะไรที่เขาไม่อยาก?” หลินอวี่ฉิงขึ้นเสียง “อ้อ คุณชายแห่งเมืองหยางเฉิงคงจะเหนื่อยหน่ายกับชีวิตที่ร่ำรวยถึงได้มาแต่งานและใช้ชีวิตหลอก ๆ ในฐานะนักโทษใช่ไหมล่ะ?”“อย่าพูดแรงแบบนั้น เธอไม่เข้าใจสถานการณ์จริง ๆ ตอนนั้นเขาก็บาดแจ็บจากการลอบฆ่า ก็เลยเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงไม่เปิดเผยชื่อในเจียงโจว”หลินอวี่ฉิงเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะมองเขาด้วยความพินิจพิเคราะห์แล้วยิ้มเย็นชา “นายรู้มากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“....”“ลู่หลี่ซาน!”ตอนนี้ลู่หลี่ซานอยากจะตบหน้าตัวเองเสียจริง“ฮั่วจือสิง” หลินอวี่ชิงเอ่ยด้วยความโกรธ “ก็แค่พักฟื้นอาการบาดเจ็บของตัวเอง แล้วมาลากเจียงชั่นไปเกี่ยวด้วยทำไม?”“คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าชายหรือไง? แม้จะได้รับบาดเจ็บก็ยังหาเรื่องออกไปข้างนอกเพื่อสร้างเรื่องราวโรแมนติกจอมปลอมนี้ขึ้นมา ในวันข้างหน้ารอบตัวของคุณคงจะมีแต่คนเชิดชูและอิจฉาคุณล่ะสิ”“แล้วเจียงชั่นจะทำยังไง? คุณจะแต่งงานกับเธอจริง ๆ งั้นเหรอ?”“อวี่ฉิง” ลู่หลี
ราวกับมีระเบิดอยู่ภายในใจของเจียงชั่นฮั่วจือสิงยื่นมือออกไป แต่ก็ต้องหยุดมันไว้ในอากาศ“ผมโกหกคุณ” เขาเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “แล้วผมก็ทำร้ายคุณด้วยเหมือนกัน”เจียงชั่นหลับตาแน่น น้ำตาไหลอาบแก้มในที่สุดเธอก็ได้เข้าใจว่าทำไมกลิ่นอายของเขาถึงได้ไม่เหมือนคนธรรมดาทั่วไป ทำไมทุกครั้งที่เจอเรื่องยากลำบากเธอมักจะได้รับการแก้ไขอยู่เสมอ ทำไมเขาถึงไม่สนใจเรื่องเงินมากนัก ทำไมเขาถึงได้ดูกล้าหาญมากขนาดนี้...เดิมทีเขาเป็นคุณชายผู้สูงส่งจากตระกูลฮั่วนี่เอง โลกทั้งใบอยู่ใต้เท้าของเขา เขายังจะต้องกลัวอะไรอีก?เจียงชั่นยิ้มอย่างขมขื่น เธอเคยว่าเขาโง่ด้วยซ้ำแต่แท้จริงแล้วคนที่โง่โดนเขาหลอกคือตัวเธอเอง“โอเค...”“ออกไปเถอะ”เจียงชั่นเอาผ้าห่มคลุมหัวแล้วเอ่ยออกมาเบา ๆ ผ่านช่องว่างเล็ก ๆ ที่มี ฮั่วจือสิงเห็นอย่างนั้นเขาก็มือสั่น อยากจะเข้าไปกอดและปลอบเธอไว้ในอ้อมแขนอย่างที่เคยทำเมื่อก่อนแต่ตอนนี้เขาทำไม่ได้แล้วเขาทำได้เพียงยืนเงียบ ๆ แล้วเดินออกมา ชายหนุ่มนั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงทางเกินไม่ไปไหน.....ไม่กี่วันต่อมาเจียงชั่นก็ได้ออกจากโรงพยาบาล เมื่อกลับมาที่บ้านเช่าหลังเล็ก จู่ ๆ เธอก็หยุดเดินแล
หรือว่าฮั่วจือสิงจะขี้ขลาดจนกลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว แม้แต่เข้าบ้านของตัวเองก็ยังหาคนเหล่านี้มาทำให้กล้าหาญ?“ชั่นชั่น เธอนอนพักเสียหน่อยเถอะ” หลินอวี่ฉิงพูดออกมาเสียงเบา “ฉันจะลงข้างล่างไปซื้อของเสียหน่อย”เจียงชั่นพยักหน้า นอนลงไปในผ้าห่มและหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้าหลินอวี่ฉิงปิดประตูอย่างระมัดระวัง เธอลงมาด้านล่าง สองแขนกอดรอบอกเอาไว้แล้วเดินเข้ามาใกล้ชายหนุ่มทั้งสอง“กู้…” เธอกัดริมฝีปากแล้วเปลี่ยนคำพูด “คุณฮั่ว ชั่นชั่นเพิ่งจะหลับไป หากว่าคุณอยากจะกลับไปตอนนี้แล้วละก็ ทำอะไรให้อ่อนโยนลงหน่อย บาดแผลบนร่างกายเธอถึงแม้ว่าฟื้นฟูมาแล้ว แต่ว่าแผลที่ใจคิดจะให้ดีขึ้นมา เกรงว่าคงต้องใช้เวลานาน”ท่าทีของฮั่วจือสิงดูเคร่งเครียด พยักหน้าแล้วพูดเสียงขรึมออกมา “ขอบคุณมาก”“ไม่ต้องขอบคุณ” หลินอวี่ฉิงมองเขา “อันที่จริงแล้วในใจของเธอปล่อยวางคุณไม่ได้ เพียงแต่ยังรับไม่ได้ชั่วคราวเท่านั้น คุณค่อย ๆ พูดกับเธอ ยังไงซะเธอก็ต้องหันกลับมาได้”“อืม”“แต่คุณจะต้องจำเอาไว้ว่า หากว่าคุณกล้าโกหกเธอ ทำร้ายเธอ ต่อให้ฉันจะต้องตายไปพร้อมกับคุณฉันก็จะทวงความยุติธรรมกลับมาให้เจียงชั่นให้ได้!”“อะแฮ่ม!” ลู่หลี่ซ
หลินอวี่ฉิง “...”คนที่มุงดูอยู่ก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น หากไม่ใช่สายตาที่เต็มไปด้วยความอิจฉาก็เป็นคุณป้าที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มยังมีคนอีกไม่น้อยที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกวีดีโอ แล้วหัวเราะกระซิบกระซาบออกมา “ก่อนหน้านั้นมักจะได้ยินคนพูดว่าคุกเข่าบนกระดานซักผ้า ไม่คิดเลยว่าวันนี้จะได้เห็นคนคุกเข่าลงบนกระดานให้ภรรยาจริงๆ!”“ฮาฮาฮา…”แก้มของหลินอวี่ฉิงเห่อร้อนเหมือนมีไข้ แทบอยากจะมุดเข้ารูนั้นไป“ลู่หลี่ซาน! นาย กลางวันแสก ๆ นายมาบ้าอะไรกัน!”“รีบลุกขึ้นมา ไม่ต้องคุกเข่าแล้ว!”ขณะที่พูดเธอก็คิดที่จะดึงเขาขึ้นมาใครจะรู้ว่าชายหนุ่มจะตะเบ็งเสียงดังออกมา “อย่ามาแตะต้องตัวฉัน!”“วันนี้ไม่ว่าใครก็ตามมาทำให้การที่ยอมรับความผิดกับภรรยาล่าช้าแล้ว คนนั้นก็คือศัตรูของลู่หลี่ซาน! ฉันลู่หลี่ซานในวงการยังถือว่ามีสถานะอยู่บ้าง หากว่าใครคิดจะเป็นศัตรูกับฉันแล้ว ฉันจะ…”“โอ้ย!”ยังไม่ทันได้พูดจบก็ถูกหลินอวี่ฉิงบิดหูเข้าลู่หลี่ซานถึงแม้ว่าจะแสดงออกมาว่าเจ็บปวด แต่ดวงตาที่มองไปทางหลินอวี่ฉิงนั้นกลับเต็มไปด้วยความอ่อนหวานลูกน้องที่อยู่ด้านหลังนั้นในที่สุดก็ทนไม่ไหว ทยอยพากันหัวเราะออกมา“นายข
“ฉันว่าพาเธอกลับมาหยางเฉิงเลยเถอะ! ตระกูลฮั่วยังไงก็มีฉันกับพ่อของเธออยู่ ไม่มีทางทำให้เจียงชั่นเสียเปรียบแน่”“ขอบคุณป้าหยุนมาก” ฮั่วจือสิงฝืนยิ้มออกมา “ผมกลัวก็แต่ว่ายิ่งทำแบบนี้เธอจะยิ่งเกลียดผม”“กู้หม่างจับตัวได้แล้วยัง?”“ยังไม่ได้” ฮั่วจือสิงพูดเสียงขรึมออกมา “คนที่พาเขาไปเจ้าเล่ห์มาก เป็นเขตชานเมืองเจียงโจว อีกทั้งเขายังคุ้นเคยกับทางแยกต่าง ๆ ริมแม่น้ำเป็นอย่างมาก เมื่อมาถึงสถานที่ที่มีกล้องวงจรปิดอยู่ก็ปิดใบหน้าเอาไว้ บวกกับรถไม่มีทะเบียน การตรวจสอบก็เลยค่อนข้างยาก”“ต้องการให้ฉันช่วยอะไรก็บอกมาได้” หวังเหม่ยหยุนปลอบออกมาฮั่วจือสิงมองเธออย่างซาบซึ้งใจ พยักหน้าออกมาเบา ๆ ตามมาด้วยถามออกมาอีกประโยคหนึ่ง “คุณกับจือซินจะกลับบ้านกันเมื่อไหร่?”“อีกสองวันนี่ล่ะ จือซินก็ควรจะเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้แล้ว!”เพิ่งสิ้นเสียงลง ฮั่วจือซินก็ผลักประตูปึงปังเข้ามา เมื่อเห็นว่าพี่ใหญ่ก็อยู่ที่นี้ด้วยก็รีบถามถึงสถานการณ์ของเจียงชั่นอย่างไรก็ตามฮั่วจือสิงกลับสังเกตว่าด้านหลังเธอยังมีอีกคนหนึ่งตามมาด้วย“ท่านสามฮั่วสวัสดีครับ”ฮั่วจือสิงจ้องมองเขาอย่างละเอียด “นายคือ…”“ผมชื่อห
ในตอนที่ฮั่วจือสิงกลับมาถึงบ้านนั้นก็ได้ยินเสียงน้ำไหลออกมาจากห้องน้ำหัวใจเขาบีบรัด แล้วก็ไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหวใด ทำได้เพียงยืนอยู่เงียบ ๆ ตรงนั้นเขาคิดถึงคำพูดที่เสิ่นเซียวเคยพูดออกมา พฤติกรรมผิดปกติเหล่านี้ของเจียงชั่น เรียกว่าเกิดจากความตึงเครียดหลังจากเกิดอาการสะเทือนใจ“อาการเธอยังถือว่าค่อนข้างเบาอยู่” เสิ่นเซียวบอกเขา “ทางที่ดีที่สุดคือให้คำปรึกษาทางจิตใจเพื่อแก้ไขปัญหา ทว่า…คนที่แก้ไขได้นั้นต้องเป็นตัวคุณเองเพราะปัญหามันเกิดมาจากตัวคุณ เช่นนั้นคุณคือหมอทางจิตวิทยาที่ดีที่สุด”ฮั่วจือสิงสูดลมหายใจเข้าลึกเขาอยากจะเป็นคนที่ช่วยเหลือเธอมาก แต่เจียงชั่นไม่ยอมให้โอกาสเขาเข้าใกล้เลยและก็เป็นในตอนที่ประตูห้องน้ำเปิดออก เจียงชั่นเดินห่อผ้าเช็ดตัวออกมาห้องน้ำ จู่ ๆ ก็เงยหน้าขึ้นมาสบสายกับเขา เธอตกใจจนส่งเสียงร้องออกมา“ชั่นชั่น…”เขายังไม่ทันได้พูดออกมา เจียงชั่นก็ก้มหัวลงแล้วรีบเข้าห้องนอนไปปิดประตูแน่นประตูบานนั้นเหมือนว่าจะแยกพวกเขาทั้งสองคนเอาไว้เป็นสองโลกผ่านไปครู่หนึ่ง เจียงชั่นเปิดประตูออกเป็นรอยแยกเล็ก ๆ ลอบมองเขา มองเขาที่เก็บกวาดอยู่ในห้องนั่งเล่นเล็ก ๆ นั่น เก
เจียงชั่นขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ออกมาดี “เขาทั้งซื้อปลาซื้อผัก ซื้อมาตั้งมากมายจนไม่อาจยัดเข้าตู้เย็นได้แล้ว!” หยิ่นเหวินซีขมวดคิ้วออกมา ชี้ไปยังระเบียง “ลูกดู ที่เหลือล้วนแต่กองอยู่ตรงนั้น! นี่เหมือนกับว่าย้ายซุปเปอร์มาเก็ตกลับมาแล้วมาแล้วนะ?”เจียงชั่นประคองแม่ของเธอนั่งลงก่อน ขณะที่เตรียมจะไปดูที่ห้องครัว ในตอนนี้ฮั่วจือสิงก็ยกอาหารออกมา ทั้งสองคนมองสบตากัน ต่างก็พากันนิ่งอึ้งไป เจียงชั่นก้มหน้าลงหลบสายตาของเขาไป ก่อนจะเดินตรงไปห้องครัวสถานการณ์ข้างในนั้นค่อนข้างจะน่าอนาถ เจียงชั่นยิ้มออกมาอย่างขมขื่น สุดท้ายก็เป็นที่เธอที่มาทำความสะอาดสภาพที่เหมือนสนามรบนั้นจำได้ในตอนที่เพิ่งจะอยู่ด้วยกันนั้น เขามักจะเป็นเหมือนกับนายท่านที่รอให้คนมาคอยรับใช้ ภายหลังบางครั้งถึงได้เข้าครัวเป็นครั้งคราว ห้องครัวล้วนแต่ทำเสียจนยุ่งเหยิง ในตอนนั้นเจียงชั่นไม่เข้าใจ ว่างานบ้านมันยากถึงขนาดนั้นเชียวเหรอ?ตอนนี้เธอเข้าใจแล้ว ฮั่วจือสิงเดิมทีก็คือคนที่ถูกคนคอยดูแลรับใช้อยู่แล้ว การทำงานบ้านพวกนี้ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายนักฮั่วจือสิงยกปลาจานสุดท้ายออกมาขึ้นโต๊ะ แผ่นหลังตรงยืนแข
เจียงชั่นยิ้มแล้วไม่ตอบอะไรโมนาจึงรู้สึกตระหนกขึ้นมาถังอี้หรานเป็นผู้กำกับที่มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมนี้ ภาพยนตร์ทุกเรื่องที่เขากำกับล้วนแต่ได้รับรางวัลในระดับนานาชาติไม่เพียงแค่มีชื่อเสียงในประเทศ แต่ยังมีชื่อเสียงในวงการภาพยนตร์ระดับนานาชาติอีกด้วยทุกคนในวงการต่างก็กระตือรือร้นที่จะได้เข้าไปอยู่ในทีมของถังอี้หรานแน่นอนว่าโมนาเองก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ถังอี้หรานเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถ ทุกคนรู้จักกันดีว่าเธอหยิ่งแค่ไหน แน่นอนว่าแม้แต่ดารายอดนิยมอย่างเธอถังอี้หรานก็ไม่แยแสแต่ตอนนี้...“เมื่อกี้นี้คุณโทรหาถังอี้หรานจริง ๆ เหรอ?”“ใช่ครับ” ผู้จัดการห่าวเหลือบมองเธอ “ผู้อำนวยการถังเพิ่งสร้างภาพยนตร์เรื่องใหม่ คุณเนี่ยซินและคุณเจียงช่วยติดต่อกับเธอแล้ว”สีหน้าของโมนาเปลี่ยนไปด้วยความรู้สึกเสียใจอย่างมาก“ผะ..ผู้ช่วยเจียง” เธอมองเจียงชั่น “ผู้กำกับถังจะมาร่วมรายการนี้ด้วยเหรอ? แต่ฉันได้ยินมาว่าเธอไม่เคยปรากฎตัวในรายการวาไรตี้เลยนะ”เจียงชั่นยิ้มและยังคงไม่พูดอะไร“มันไม่ใช่รายการวาไรตี้ธรรมดา ๆ หรอกเหรอ?!” โมนาโกรธจัดเจียงชั่นเม้มปากแล้วเอ่ยอย่างใจเย็น “ไม่สำคัญหรอกค่ะ เพ
เจียงชั่นที่กำลังดื่มน้ำ เกือบพ่นน้ำออกมาทันทีที่ได้ยินหลังจากวางสายแล้วเธอก็เดินออกไปเห็นได้ชัดว่าดาราสาวเป็นคนที่ใจร้อนมาก หญิงสาวจ้องเจียงชั่นด้วยความไม่พอใจ“นี่น่ะเหรอที่เรียกว่ามืออาชีพ กำลังทำอะไรอยู่?” โมนาตะโกน “หยู่เฟิงมีเดียก็ใหญ่โตแล้วมีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมนี้นะ จะดูแลได้ดีแน่เหรอ? เพิกเฉยต่อศิลปินแบบนี้มันไม่สุภาพเลยนะ!”ผู้จัดการห่าวทนไม่ไหว “คุณโมนามีมารยาทหน่อยได้ไหมครับ?”โมนาเหลือบมองเขา“ผู้ช่วยเจียงเป็นผู้ช่วยอาวุโสของคุณฟู่ เธอรับผิดชอบงานประชาสัมพันธ์และการฝึกอบรมต่าง ๆ ให้กับศิลปินทุกคน แม้แต่เนี่ยซินเองก็ต้องทำตามและให้ความร่วมมือกับผู้ช่วยเจียง”“คุณโมนาคิดว่าตัวเองมีสถานะที่สูงกว่าคุณเนี่ยซินงั้นสินะครับ?”ทุกคำพูดของผู้จัดการห่าวเน้นย้ำ โมนาจึงถอยหลังเล็กน้อย ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจเจียงชั่นยิ้มแล้วหยิบเอกสารจากโต๊ะขึ้นมา ในนั้นมีตารางงานของศิลปินหลายคนของบริษัท“นี่เป็นแผนการเดินทางของคุณค่ะ” เจียงชั่นยื่นเอกสารสำเนาให้กับโมนา “ในนั้นมีข้อควรระวังในการปรากฏตัวในรายการ เดี๋ยวฉันจะช่วยสื่อสารกับผู้จัดการส่วนตัวของคุณล่วงหน้า”“นีมันรายการอะไ
เจียงชั่นขมวดคิ้วพลางมองตามไปยังเสียงที่ได้ยินเธอเห็นหญิงสาวสวยแต่งตัวเรียบหรู สวมแว่นกันแดดอันใหญ่และต่างหูกับสร้อยคอที่ดูเว่อร์เดินนวยนาดเข้ามา“ไม่ได้บอกว่ามีทีมผู้บริหารที่เป็นมืออาชีพหรอกเหรอ?” เธอถอดแว่นนกันแดดอันใหญ่ออกแล้วมองเจียงชั่นด้วยท่าทางที่ไม่เป็นมิตร “แล้วอยู่ไหน?”ผู้จัดการห่าวและเจียงชั่นมองหน้ากันแล้วพยักหน้าเบา ๆเจียงชั่นยื่นมือออกมาแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “คุณโมนาใช่ไหมคะ? ฉันคือ...”โมนาแสดงท่าทีที่หยิ่งออกมา เธอไม่ยอมจับมือกับเจียงชั่นเลยเจียงชั่นจึงหยุดค้างอยู่กลางอากาศแบบนั้น ก่อนจะดึงมือกลับเงียบ ๆผู้จัดการห่าวก้าวไปข้างหน้าแล้วเอ่ย “คุณโมนาครับ นี่คือคุณเจียงชั่นผู้ช่วยอาวุโสที่หยู่เฟิงมีเดียของเรา เธอรับผิดชอบในการจัดหาศิลปิน ถ้าหากว่าคุณมีคำถามอะไร สามารถคุยกับเธอได้เลยโดยตรง”“อ้อ เจียงชั่น!” โมนายิ้มในขณะที่ก้มลงมองเล็บมือที่เพิ่งทำมาของเธอ “มีประสบการณ์หรือเปล่า? ไม่ใช่ใครก็จะดูแลฉันได้นะ”“ไม่ต้องกังวลครับคุณโมนา แม้ว่าผู้ช่วยเจียงจะไม่ได้อยู่ในวงการนี้นาน แต่ความสามารถในการทำงานของเธอโดดเด่นมาก”“ความสามารถในการทำงานหรือยั่วผู้ชายกันแน่ที่โดด
“ไอ้สารเลว! แกมันน่ารังเกียจ”สีหน้าของหยินรั่วหงแดงจัดฮั่วจ่านเฮ่อมองกลับด้วยรอยยิ้ม ภายใต้แววตาเจ้าเล่ห์มีความชั่วร้ายอยู่เต็มเปี่ยมเครื่องบินส่วนตัวของฮั่วจือสิงตกจริง แต่หยินรั่วหงไม่รู้เรื่องนี้ในตอนนั้นเขาพบกับฮั่วจ่านเฮ่อที่งานเลี้ยงหลายแห่ง พวกเขาเป็นเพียงคนที่รู้จักกันเท่านั้นนอกเหนือจากการฝึกฝนด้านการแพทย์และเภสัชกรรมแล้ว ตระกูลหยินในหนานหยางยังเปิดสนามบินพลเรือนอีกด้วย สนามบินขนาดใหญ่หลายแห่งในหนานหยางอยู่ภายใต้การควบคุมของตระกูลหยินดังนั้นฮั่วจ่านเฮ่อจึงมีแผนนี้ขึ้นมา ทว่าเขาซ่อนความจริงนี้จากหยินรั่วหง ก่อนจะใช้อุบายในการใช้ช่างเทคนิคเข้ามาทำอะไรบางอย่างกับเครื่องบินของฮั่วจือสิง...จากนั้นเขาก็แกล้งทำกรรมธรรม์ก้อนใหญ่แล้วบอกหยินรั่วหงว่าเงินหลายล้านจะตกเป็นของเขาหยินรั่วหงไม่คิดมาก่อนว่าตัวเองจะกลายเป็นผู้ร้ายในการก่ออาชญากรรมที่เลวร้ายในครั้งนี้ด้วย“ประธานหยิน ถ้าเรื่องนี้ถูกพูดออกไป จะไม่มีใครฟังคำอธิบายของคุณหรอกนะ เพราะพวกเขาจะคิดว่าคุณเป็นคนที่ร่วมทำร้ายฮั่วจือสิงเหมือนกัน”“เมื่อถึงเวลาชื่อเสียงและความมั่นคงของคุณก็จะถูกทำลายลงไป”หยินรั่วหงหายใจเข
“ใช่”ฮั่วจือสิงขมวดคิ้วด้วยสีหน้าที่จริงจังขึ้นมาเล็กน้อย “ผมไม่ได้บอกเรื่องนี้กับชั่นชั่น ดังนั้นอย่าพูดเรื่องนี้เลยนะ...”“เกิดอะไรขึ้น?” “ช่วงนี้อาการบาดเจ็บที่ขา...มันมีอาการนิดหน่อยน่ะ”เสิ่นเซียวตกใจ รีบพาเขาไปเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดทันที“ไม่มีอะไรหรอก” ฮั่วจือสิงตบไหล่อีกฝ่าย “มันน่าจะกำเริบ ก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ช่วงนี้อากาศเย็นลงมาก ก็จะเจ็บมากหน่อย”“ผมจำได้ว่าตอนนั้นคุณให้ยาผม ทั้งแบบกินแล้วก็แบบทา มันได้ผลดีมากนะ..วันนี้ก็เลยอยากจะให้สั่งยาเพิ่ม”เสิ่นเซียวลังเลอยู่นาน โดยที่ไม่พูดอะไร“มีอะไรรึเปล่า?”ฮั่วจือสิงนึกสงสัยว่าแพทย์อาจจะไม่สามารถสั่งยาได้ง่ายดายอย่างทีคิด?“จือสิง” เสิ่นเซียวมองเขาแล้วเม้มปากแน่น ในที่สุดก็ตัดสินใจเอ่ยออกมา “ที่จริงผม..ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคือยาอะไร”“ว่าไงนะ?” ฮั่วจือสิงประหลาดใจ “แต่ตอนนั้นคนที่ให้ยากับผมคือคุณนะ”“ใช่ แต่ยานั่นมีคนมอบให้คุณอีกที”ฮั่วจือสิงยิ่งเกิดความสับสนมากขึ้นเสิ่นเซียวถอนหายใจแล้วบอกความจริงทั้งหมด“คุณลองคิดดูสิ ถึงผมจะจบจากโรงเรียนแพทย์มา แต่ตอนนั้นผมไม่ได้เป็นหมอมานานแล้ว ไม่เคยผ่า
“ครับ นายน้อย” ฟางฮั่นพยักหน้าแต่หยินรั่วหงเป็นคนค่อนข้างลึกลับ ไม่ชอบปรากฎตัวต่อสาธารณะแม้แต่ในงานประมูลวันนั้น ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้เจอหน้าเขา“ถ้านัดหมายในนามของเรา เขาจะต้องรับ” ฮั่วจือสิงคิดเรื่องนี้ไว้แล้ว“แล้ว...ในนามของคุณชายสองล่ะครับ?”“ไม่จำเป็น” ฮั่วจือสิงเม้มปาก “บอกแค่ว่าปู่อยากเจอเขา”ฟางฮั่นสะดุ้งเล็กน้อย “นี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง ถ้ามีปู่ร่วมด้วย หยินรั่วหงจะไม่กล้าทำอะไร”ฮั่วจือสิงยิ้ม ก่อนจะปรับสีหน้าไปเป็นไม่พอใจอีกครั้ง“นายน้อย เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?” ฟางฮั่นรู้สึกตระหนกเล็กน้อยฮั่วจือสิงลดเสียงทันทีและเจียงชั่นก็ยังอยู่ในครัว“เปล่า” เขาขยับตัวเล็กน้อย “ก็ปัญหาเดิม ๆ”“อาการบาดเจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือเปล่าครับ?” ฟางฮั่นเป็นกังวลหลังจากเหตุการณ์เครื่องบินตก ฮั่วจือสิงได้รับบาดเจ็บหนัก แม้ตรวจแล้วทุกอย่างจะปกติดี แต่ก็มีเพียงอาการบาดเจ็บที่ขาเท่านั้นที่ยังมีผลกระทบที่ต่อเนื่องมาจนถึงตอนนี้“จริง ๆ มันก็ไม่ได้ร้ายแรง” เขายืดตัวขึ้นแล้วเอ่ยอย่างใจเย็น “ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นลง ก็เลยเจ็บมากเป็นบางครั้งแต่ไม่รุนแรงมาก คงจะไม่เป็นอะไรถ้าฉันพอจะปรั
เจียงชั่นหน้าแดงด้วยความเขินอาย ในขณะที่ฮั่วจือสิงกำลังโมโห เธอรีบผละออกจากเขาแล้ววิ่งเข้าไปในบ้านทันทีฟางฮั่นอ้าปากค้าง สายเกินไปแล้วที่เขาจะหนีไปอีกคน...สีหน้าของฮั่วจือสิงมืดดำราวกับมีหมึกดำ ๆ มาป้ายไว้บนหน้าเขาเดินออกไปตรงลานสนามหญ้าอย่างรวดเร็ว พลางมองฟางฮั่นด้วยแววตาที่แข็งกร้าวและเย็นชาฟางฮั่วกระตุกยิ้มแห้ง ๆ หัวใจเต้นแรงจนจะกระเด้งออกมาจากปาก“เกิดอะไรขึ้น?” เขาเอ่ยตอนนี้ฟางฮั่นลืมทุกสิ่งที่เขาต้องการจะพูดแล้ว จึงมองคนตรงหน้าด้วยแววตาว่างเปล่าความเงียบไม่กี่วินาที ทว่าความรู้สึกกลับยาวนานเป็นทศวรรษจากนั้นเจียงชั่นก็ได้ยินเสียงคำรามเข้ม ๆ ของใครบางคนดังขึ้นมา “ฟางฮั่น!”ป้าเฉินที่กำลังเลือกผักอยู่สะดุ้งแล้วรีบวิ่งออกมาจากครัวทันที“เกิดอะไรขึ้นคะ?”เจียงชั่นนั่งหัวเราะอยู่บนโซฟา“เสี่ยวฟางมีเรื่องเหรอคะ?” ป้าเฉินส่ายหน้าแล้วถอนหายใจ ก่อนจะกลับไปที่ห้องครัวพลางพึมพำกับตัวเอง “ตะเบ็งเสียงขนาดนี้ คงต้องทำซุปไว้ให้นายน้อยหน่อยแล้วล่ะนะ...”ที่สนามหญ้าเองเจ้าแมวส้มที่กินอาหารจนหมดก็กำลังเหวี่ยงร่างอ้วน ๆ ของมันไปมา ขณะที่มองชายหนุ่มทั้งสองแล้วร้องเหมียวสองสามครั้ง
จู่ ๆ ไป๋จิ่งหยวนก็รู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นผิดจังหวะ แทบจะควบคุมเอาไว้ไม่ได้ใบหน้าที่ชัดเจนของเหยาหว่านยินสะกดเขาราวกับมีเวทย์มนตร์ ดวงตากลมคู่นั้นราวกับโลกที่ลึกลับกำลังดึงดูดให้เขาเข้าไปสำรวจไป๋จิ่งหยวนมองเธออย่างว่างเปล่า บรรยากาศโดยรอบเงียบลง ราวกับว่าทุกอย่างกำลังมุ่งความสนใจไปที่เธอลมเย็น ๆ ที่พัดกระโชกมาทำให้เหยาหว่านยินไอออกมาสองสามครั้งทำให้ไป๋จิ่งหยวนถอดเสื้อคลุมออกมาแล้วสวมให้กับเธอแทน“ไม่เป็นไร...”“ใส่เถอะ” เขาช่วยกระชับเสื้อให้กับเธอ “ไม่สบายเหรอคุณ? หรือว่าเป็นหวัด?”เหยาหว่านยินเม้มปากแล้วมองเขาเงียบ ๆตอนนี้เริ่มมีคนทะยอยออกมาจากประตูงานประมูล“ดูเหมือนงานจะจบแล้วล่ะ” ไป๋จิ่งหยวนเอ่ย “เอาล่ะ..เดี๋ยวผมไปส่ง คุณอยู่ที่ไหน?”เหยาหว่านยินชะงักแล้วส่ายหน้าเล็กน้อยทุกอย่างราวกับภาพฝัน ในตอนที่เธอตื่นเธอก็ต้องกลับสู่โลกของความเป็นจริงความจริงที่ว่าเธอเป็นลูกสาวนิรนามของตระกูลเหยา ไม่รู้ว่าจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ต่อไปอีกนานแค่ไหน ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง...ร่างบางหันหลังกลับแล้วเดินไปอย่างช้า ๆ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงคนของตระดูลเหยากำลังตามหาเธออยู่ไม่ไกล
“คุณชื่อหว่านยินเหรอ?” ไป๋จิ่งหยวนขมวดคิ้วดูสับสน “แล้วนามสกุลอะไร?”เหยาหว่านยินหลับตาลงแล้วนิ่งเงียบไป๋จิ่งหยวนจึงยิ้มกว้าง ไม่ว่าเธอจะนามสกุลอะไรแต่แค่ได้รู้จักชื่อก็ดีมากแล้ว“เอาล่ะ เดี๋ยวผมจะพาไปเดินเล่นในสวน” เขาเอ่ยพลางเดินออกไปจากประตู“นี่คุณ...”แต่ก่อนที่เขาจะออกไปได้ ร่างสูงก็ถูกเหยาหว่านยินรั้งเอาไว้เขาตะลึงก่อนจะหันกลับมามองเขายังไม่ได้ใส่กางเกง!ชายหนุ่มหน้าแดง ในขณะที่มองเหยาหว่านยินด้วยความตระหนก ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ใส่เธอดีเห็นอย่างนั้นเหยาหว่านยินก็รู้สึกขบขัน ใบหน้าที่ซีดเซียวเริ่มมีสีสันขึ้นมาทันทีไป๋จิ่งหยวนวิ่งเข้าไปในห้องแล้วรีบสวมกางเกงทันที ก่อนจะพาเหยาหว่านยินออกไปเดินเล่นในค่ำคืนของฤดใบไม้ร่วงช่างสวยงาม ภายในสวนที่ได้รับแสงแดดอบอุ่นมาตลอดทั้งวัน ยังคงมีกลิ่นอายของความอบอุ่นไปทั่วทั้งบริเวณ รอบข้างมีความเงียบสงบและมีเสียงนกนานาชนิดร้องเป็นระยะ ๆ แสงไฟดวงเล็ก ๆ ที่ตกแต่งสวยงามราวกับมีหิ่งห้อยกำลังบินอยู่เหยาหว่านยินสูดหายใจลึกแล้วหลับตาลงเบา ๆเธอยืนอยู่บนสนามหญ้าและหายใจได้อย่างอิสระ อิสระที่เธอเฝ้าใฝ่หามาทั้งชีวิต“ดีจัง” เธอหั