ทุกคนนั่งล้อมรอบโต๊ะกลม อาหารเลิศรส วางอยู่บนจานปราณีต แต่ละชนิดล้วนแต่หรูหราเป็นอย่างมาก มาตอนนี้เสิ่นเซียวเองก็ไม่สนใจแล้วว่าด้านในนั้นจะมียาหลอนประสาทอยู่หรือไม่ รีบร้อนที่จะอยากลิ้มลองมันเร็ว ๆ หลินอวี่ฉิงหัวเราะเขา "ตอนนี้ไม่กลัวแล้วว่าจะเป็นร้านโจรมาหลอกเอารหัสบัตรเอทีเอ็มของคุณไปแล้วเหรอ?" "เชิญหลอกได้ตามสบายเลย!" เสิ่นเซียวพึมพำออกมา "ยังไงเสียในบัตรเอทีเอ็มก็มีเงินอยู่ไม่มาก ยังห่างจากเงินค่าอาหารมื้อนี้อยู่ไกล! ผมกินไปก็ไม่เสียเปรียบ!" "แหม ยังเป็นคุณหมอเสิ่นที่คิดคำนวนเก่ง" "คุณเองก็ไม่เลวเหมือนกัน!" เสิ่นเซียวหัวเราะฮ่าฮ่าออกมา "คุณยังทานเสียมากกว่าผมอีก!" หลินอวี่ฉิงอีกเพียงนิดก็เกือบจะใช้ตะเกียบเคาะหัวเขาแล้ว เจียงชั่นและกู้หม่างมองพวกเขาสองคนทะเลาะกัน ก็ยิ้มให้กันบนใบหน้าเต็มไปด้วยความหวานฉ่ำ "ทุกท่าน อาหารมาครบแล้วครับ" ผู้จัดการนำคนมาเสิร์ฟซุปปลาให้กับทุกคน "นี่เป็นปลาแมนดารินลูกพีช ปลาชนิดนี้มีอยู่เพียงแค่ในลำธารตีนเขาหมิงหวง เนื้อสดอร่อย เนื้ออวบอ้วนแต่ไม่มัน เหมาะสำหรับตุ๋นเป็นน้ำซุป" ทุกคนเปิดถ้วยน้ำซุปตรงหน้าตัวเอง กลิ่นของปลาสดลอยมาจริง ๆ
“ฉันไม่เป็นอะไร” หลินอวี่ฉิงสูดลมหายใจแล้วฝืนยิ้มออกมา ก่อนตบไปที่หลังมือของเจี่ยงชั่น “พี่อวี่ฉิง” เจียงชั่นชะงักไป คิดจะพูดอะไรออกมาแต่กลับไม่พูดเพียงแต่ส่งเสียงออกมาเบา ๆ “อืม พี่พักหน่อยเร็วเสียหน่อยหากว่ามีเรื่องอะไรก็อย่าเก็บมาคิดใส่ใจ พี่ก็ถือเสียว่าฉันเป็นโพรงไม้ พูดออกมาอาจจะดีขึ้น” “ทว่าหากว่าพี่ไม่อยากพูด ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะไม่ถามอีก” “ชั่นชั่น ฉัน…” หลินอวี่ฉิงลังเลที่จะพูดออกมา ผ่านไปนานเธอถึงได้พูดออกมาเสียงเบา “ฉันรู้สึกว่าฉันไม่คู่ควรกับเสิ่นเซียว” “อะไรนะ?” “ฉันไม่คู่ควรกับเขา” เธอกัดริมฝีปาก “ฉัน…ฉันกับคนนั้น เคยมีอะไรกัน…” ถึงแม้ว่าเธอไม่ได้พูดต่อไป แต่เจียงชั่นเองก็เข้าใจว่าตกลงแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เธอประหลาดใจเล็กน้อย หลินอวี่ฉิงทำให้เธอรู้สึกสดใสร่าเริงมาโดยตลอด ถึงแม้ว่าจะมีบางครั้งที่บุ่มบ่าม แต่เมื่อพูดถึงเรื่องระหว่างชายหญิงแล้ว ไม่มีทางที่จะเป็นคนง่าย ๆ แน่ นอกจากนี้ผู้หญิงคนหนึ่งหากว่าไม่รักผู้ชายคนนั้น แล้วจะยอมมอบตัวเองให้โดยง่ายได้อย่างไร? หัวใจเจียงชั่นบีบรัด แตะไปที่นิ้วมือของเธอแล้วบีบเบา ๆ "พี่อวี่ฉิง พี่คิดมากจนเกินไปแล้ว" เธอพูด
จู่ๆ เธอก็อยากไปเดินเล่นตรงชายทะเล เจียงชั่นรวบผมยาวของเธอไว้ ริมฝีปากเผยรอยยิ้มจาง ๆ ออกมา เธอสวมรองเท้าแตะเดินลงไปทางด้านชายทะเล …กู้หม่างนอนไม่หลับทั้งคืน ตอนนี้เมื่อไม่มีเจียงชั่นอยู่ข้าง ๆ ก็ยิ่งยากจะนอนหลับได้ แต่เจียงชั่นมีเรื่องที่ต้องการจะพูดคุยกันอย่างเป็นความลับกับเพื่อนสนิทอย่างหลินอวี่ฉิง เขาที่เป็นผู้ชายคงจะไม่อาจทำใจแคบได้ เพราะเหตุนี้เตียงอ่อนนุ่มนั้นจึงกลายเป็นกระสอบทรายที่ใช้ระบายความโกรธเขาไปตลอดทั้งคืน เขาพลิกตัวไปมาบนนั้น ดวงตาของเขาเบิกกว้างเหมือนกับระฆัง ในใจก็ด่าเสิ่นเซียวเสียยกใหญ่ การมาเที่ยวครั้งนี้ตกลงแล้วเพื่อใครกัน? ! แต่เขากลับละทิ้งโอกาสที่จะใกล้ชิดกับหลินอวี่ฉิงไปง่าย ๆ นอนหลับกรนอยู่ในห้องจนเสียงดังไปทั่วทิศ เขาที่อยู่ห่างคนละห้องก็ยังได้ยินชัดเจน! กู้หม่างสูดลมหายใจเข้าลึก ฟ้าเริ่มสว่างแล้ว ขณะที่คิดจะหลับตาลงเพื่อพักผ่อน ในตอนนี้จู่ ๆ โทรศัพท์ในห้องก็ดังขึ้น "ท่านสาม คุณเจียงออกมาคนเดียว" "อะไรนะ?" เขาตะลึงไป "เธอไปไหน?" "คนของเราตามเธอไปตั้งแต่เช้า พบว่าเธอไปริมทะเล... แต่ว่าที่นั่นไม่ใช่ชายหาดส่วนตัวของพวกเราเป็นพื้นที่สาธารณะ
"คุณ คุณ..." เหมือนว่าบนท้องฟ้าจะมีเสียงฟ้าร้อง ทันใดนั้นสมองของเธอก็ถูกเสียงฟ้าผ่านี้ทำให้ว่างเปล่า! ชายจรจัดเหมือนจะรับรู้ถึงอะไรบางอย่างได้ หลังจากที่เหลือบมองเธอแล้วปากก็ส่งเสียงพึมพำออกมา ก่อนจะส่ายหัวอย่างแรงแล้วผลักถังขยะวิ่งหนีไปสุดชีวิต เจียงชั่นตามไปได้เพียงสองก้าวก็ตามไม่ทัน ใบหน้าเล็กดูซีดขาวหอบหายใจอย่างแรง ใบหน้านั้น... ดูเหมือนกันกับกู้หม่าง! เจียงชั่นยืนแข็งค้างอยู่กับที่ เลือดทั่วทั้งร่างกายพุ่งขึ้นหัว มือเล็ก ๆ เย็นเสียจนหนาวสั่น สุดท้ายแล้วเธอเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าเดินกลับที่พักไปได้อย่างไร เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบกับกู้หม่าง กู้หม่างวางมือบนไหล่เธอ เธอผงะกลับไปก้าวหนึ่งยืนมองเขาอย่างตกตะลึง "เกิดอะไรขึ้น?" น้ำเสียงของกู้หม่างเบาและเคร่งขรึม เจียงชั่นได้สติขึ้นมา เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ใบหน้าที่อยู่ตรงหน้าดูคมกริบ สะอาด และสดชื่น ระหว่างคิ้วเผยความเป็นชายออกมาอย่างแรงกล้า ชายจรจัดนั้นจะมาเปรียบเทียบกับกู้หม่างได้อย่างไร? มือเล็กของเจียงชั่นตบลงบนศีรษะอย่างแรง เหมือนจะบ้าไปแล้วจริง ๆ เมื่อครู่คงจะมองพลาดไปแล้ว! "ตกลงแล้วเกิดอะไรขึ้น?" กู้หม่างถา
“จริงเหรอ?” เจียงชั่นรู้สึกตื่นเต้น “ที่บอกว่าเราคือผู้โชคดีจากงานเปิดร้านค้าใหม่ของพวกเขาน่ะ!”“ใช่” กู้หม่างยิ้มเล็กน้อยตราบใดที่เขาเห็นเธอมีความสุข เท่านี้เขาก็พอใจแล้ว“ที่รัก ฉันว่าตั้งแต่ฉันแต่งงานกับคุณเนี่ย ฉันโชคดีขึ้นมากเลยนะ มันดีกว่าที่คิดเอาไว้อีก” หญิงสาวเขย่งปลายเท้าแล้วจูบเขาอย่างแรง“คุณนี่เป็นตัวนำโชคของฉันเลยจริง ๆ คุณสามี!”กู้หม่างตกตะลึง ก่อนจะใช้มือเกาจมูกเล็ก ๆ ของเธอแล้วหัวเราะ“ไปกินข้าวก่อนเถอะ” เขากระซิบ “ผมจะไปเข้าห้องน้ำแล้วตามไปนะ”“ค่ะ” เจียงชั่นตอบรับอย่างว่าง่าย “งั้นฉันจะไปกับพี่อวี่ฉิงกับหมอเสิ่นก่อนนะ พวกเขาคงจะใกล้มาถึงแล้วล่ะ”“โอเค”เจียงชั่นรีบวิ่งออกไปจากห้อง ทันใดนั้นแววตาของชายหนุ่มก็เคร่งขรึมเขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรออก ก่อนจะเอ่ยเสียงทุ้ม “เมื่อเช้าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ?”“ในตอนที่คุณเจียงเล่นอยู่ที่ชายหาด เรายังคงเฝ้ามองจากระยะไกลครับ ไม่กล้าติดตามเธอไป แต่แล้วเห็นเธอเดินไปตรงถังขยะบนถนน...” คนพูดลังเลกู้หม่างไม่รีรอ เขาคำรามออกมาด้วยความโกรธ “พูดมา?!”“เธอพบกับชายจรจัดคนหนึ่งตรงนั้น”คนจรจัด? หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้น เธอคงจะไม่
นี่เป็นรูปถ่ายทั้งหมดของหยิ่นเหวินซีที่ศูนย์ฟื้นฟูมีการดูแลที่เข้มงวดมาก คนไข้ส่วนใหญ่ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ จึงไม่ได้รับอนุญาตให้มีญาติเข้าเยี่ยม เพราะเกรงว่าญาติอาจจะนำเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสจากภายนอกเข้าไปด้านในสมาชิกในครอบครัวจึงสามารถลงชื่อมาเยี่ยมได้เดือนละครั้งเท่านั้น เวลาที่เหลือผู้ป่วยจะต้องอยู่ในบ้านพักและได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญเจียงชั่นจึงไม่สามารถเจอแม่ของเธอได้ตามต้องการอย่างแต่ก่อนดังนั้นเสิ่นเซียวจึงใช้ตำแหน่งของเขาเป็นข้ออ้างในการขอถ่ายรูปเธอเป็นครั้งคราว แล้วส่งให้เจียงชั่น เพื่อให้หญิงสาวรับรู้ว่าผู้เป็นแม่ยังคงใช้ชีวิตเป็นอย่างดีที่นั่น“คุณป้าอาการดีขึ้นแล้ว” เขาหัวเราะ “พยาบาลบอกว่าช่วงนี้คุณป้าทำตัวตามปกติ ไม่ว่าจะพูดหรือทำกิจกรรมกลางแจ้งทุกอย่างดูราบรื่น ผมได้อ่านประวัติการรักษาและสอบถามกับหมอ ตอนนี้พวกเขาได้ลดปริมาณยาลงแล้วครึ่งหนึ่ง”“จริงเหรอ?” นับว่าเป็นข่าวดีที่เธอได้ยินอย่างนั้น“อืม” เสิ่นเซียวพยักหน้า “แต่เพราะผมเป็นหมอที่มาเรียนที่นี่เท่านั้นก็เลยไม่ได้มีสิทธิ์อะไรมากนัก ดังนั้น..ผมคงไม่สามารถพาคุณไปพบแม่ได้บ่อย ๆ เหมือนกัน ไม่งั้นคุณคงจะต้
“ว้าว สุดยอดมาก ดี!” เสิ่นเซียวตื่นเต้นตลอดทั้งการแข่งขัน ร่างสูงกระโดดเต้นและเชียร์จนสุดปอด “เอาแบบนั้น..แบบนั้น อัปเปอร์คัตไปเลยน้อง..ใช่แล้ว!”เสียงตะโกนดังมาก และนักกีฬาจากฝั่งของกู้หม่างก็ได้รับชัยชนะอีกครั้ง“เจียงชั่น ถ้านักเรียนของกู้หม่างชนะเกม พวกเขาจะได้รับเงินรางวัลด้วยใช่ไหม?”เจียงชั่นตกตะลึงกับคำถามของอีกฝ่าย จึงหัวเราะอยู่นาน“ทำอะไรคะเนี่ย?” แต่หลินอวี่ฉิงไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “ทิ้งเสื้อกาวน์แล้วมาเป็นโค้ชแทนดีไหมล่ะคุณ?”“มันก็ไม่เลวเลยนี่นา” เสิ่นเซียวมองไปรอบ ๆ “ดูผู้ชมสิ พวกเขาซื้อตั๋วกันเข้ามานะคุณ ส่วนนักมวยก็จะได้ค่าตัวไม่ว่าจะชนะหรือแพ้ แล้วโค้ชล่ะจะไม่ได้มากกว่านั้นอีกหรือไง”“คุณหมกมุ่นเรื่องเงินเกินไปแล้วหรือเปล่าเสิ่นเซียว?” หลินอวี่ฉิงเบิกตากว้าง“โธ่” เสิ่นเซียวถอนหายใจ “ถ้าไม่ตั้งใจหาเงินแล้วจะมีเงินมาให้ภรรยาได้ยังไงล่ะครับ?”“คุณว่าไงนะ?”เสิ่นเซียวเงียบเสียงก่อนจะส่ายหน้าอย่างแรงหลินอวี่ฉิงจึงหัวเราะแล้วยกมือขึ้นตีเขา แต่เมื่อหันกลับมาก็ต้องตัวแข็งทันทีเจียงชั่นตกใจเมื่อเห็นว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติกับหลินอวี่ฉิง “พี่เป็นอะไรห
“เฮ้ นี่คุณกำลังทำอะไร?” เจียงชั่นเห็นอีกฝ่ายสะบัดขี้เถ้าจากบุหรี่ใส่คนรัก ก็รีบเข้าไปปกป้องทันที“ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย!” เขาทำหน้าดูถูก “ถามสามีเธอสิว่าที่ผ่านมาเขาเคารพฉันมาแค่ไหน...ฮ่า ฮ่า ขนาดตอนที่สะบัดขี้บุหรี่ออก ฝ่ามือนั่นก็จะเข้ามารองอยู่เสมอเลยนะ เป็นแค่ที่เขี่ยบุหรี่!”“คุณ...”“นี่คนสวย คิดว่าได้แต่งงานกับผู้ชายดี ๆ แล้วงั้นเหรอ?” ชายคนนั้นมองร่างบางขึ้นลงอย่างไม่ให้เกียรติ จนเธอรู้สึกอึดอัด“หืม อันธพาลต่ำต้อย ถูกดูหมิ่นแม้กระทั่งในคุก แล้วจะยังปฏิบัติต่อเขาเหมือนสมบัติอีกงั้นเหรอ?” เขาหัวเราะเยาะ “กู้หม่าง..แกนี่มันมีโชคเรื่องความรักจริง ๆ เลยนะ”“พูดจบแล้วหรือยัง?” เจียงชั่นตะโกนอย่างไม่ลดละ “ฉันไม่สนหรอกนะว่านายเป็นใคร แต่นี่มันในที่สาธารณะ ถ้าไม่เคารพกัน ฉันจะเรียก รปภ!”“กู้หม่าง” ดวงตาของคนฟังแข็งกร้าว “ซ่อนอยู่แต่ข้างหลังผู้หญิง ทำไมดูสิ้นหวังแบบนี้วะ!”“เกิดอะไรขึ้น..เกิดอะไรขึ้น?” เสิ่นเซียวที่มาถึงทีหลังมองพวกเขาด้วยความสับสนเขามีความกังวลต่อหลินอวี่ฉิงมากที่สุด จึงมาหยุดยืนข้าง ๆ เธอแต่ก่อนที่จะเข้าไปใกล้ร่างบาง หลิงอวี่ฉิงก็จงใจยืนรักษาระยะห่างกับเขา
เจียงชั่นยิ้มแล้วไม่ตอบอะไรโมนาจึงรู้สึกตระหนกขึ้นมาถังอี้หรานเป็นผู้กำกับที่มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมนี้ ภาพยนตร์ทุกเรื่องที่เขากำกับล้วนแต่ได้รับรางวัลในระดับนานาชาติไม่เพียงแค่มีชื่อเสียงในประเทศ แต่ยังมีชื่อเสียงในวงการภาพยนตร์ระดับนานาชาติอีกด้วยทุกคนในวงการต่างก็กระตือรือร้นที่จะได้เข้าไปอยู่ในทีมของถังอี้หรานแน่นอนว่าโมนาเองก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ถังอี้หรานเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถ ทุกคนรู้จักกันดีว่าเธอหยิ่งแค่ไหน แน่นอนว่าแม้แต่ดารายอดนิยมอย่างเธอถังอี้หรานก็ไม่แยแสแต่ตอนนี้...“เมื่อกี้นี้คุณโทรหาถังอี้หรานจริง ๆ เหรอ?”“ใช่ครับ” ผู้จัดการห่าวเหลือบมองเธอ “ผู้อำนวยการถังเพิ่งสร้างภาพยนตร์เรื่องใหม่ คุณเนี่ยซินและคุณเจียงช่วยติดต่อกับเธอแล้ว”สีหน้าของโมนาเปลี่ยนไปด้วยความรู้สึกเสียใจอย่างมาก“ผะ..ผู้ช่วยเจียง” เธอมองเจียงชั่น “ผู้กำกับถังจะมาร่วมรายการนี้ด้วยเหรอ? แต่ฉันได้ยินมาว่าเธอไม่เคยปรากฎตัวในรายการวาไรตี้เลยนะ”เจียงชั่นยิ้มและยังคงไม่พูดอะไร“มันไม่ใช่รายการวาไรตี้ธรรมดา ๆ หรอกเหรอ?!” โมนาโกรธจัดเจียงชั่นเม้มปากแล้วเอ่ยอย่างใจเย็น “ไม่สำคัญหรอกค่ะ เพ
เจียงชั่นที่กำลังดื่มน้ำ เกือบพ่นน้ำออกมาทันทีที่ได้ยินหลังจากวางสายแล้วเธอก็เดินออกไปเห็นได้ชัดว่าดาราสาวเป็นคนที่ใจร้อนมาก หญิงสาวจ้องเจียงชั่นด้วยความไม่พอใจ“นี่น่ะเหรอที่เรียกว่ามืออาชีพ กำลังทำอะไรอยู่?” โมนาตะโกน “หยู่เฟิงมีเดียก็ใหญ่โตแล้วมีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมนี้นะ จะดูแลได้ดีแน่เหรอ? เพิกเฉยต่อศิลปินแบบนี้มันไม่สุภาพเลยนะ!”ผู้จัดการห่าวทนไม่ไหว “คุณโมนามีมารยาทหน่อยได้ไหมครับ?”โมนาเหลือบมองเขา“ผู้ช่วยเจียงเป็นผู้ช่วยอาวุโสของคุณฟู่ เธอรับผิดชอบงานประชาสัมพันธ์และการฝึกอบรมต่าง ๆ ให้กับศิลปินทุกคน แม้แต่เนี่ยซินเองก็ต้องทำตามและให้ความร่วมมือกับผู้ช่วยเจียง”“คุณโมนาคิดว่าตัวเองมีสถานะที่สูงกว่าคุณเนี่ยซินงั้นสินะครับ?”ทุกคำพูดของผู้จัดการห่าวเน้นย้ำ โมนาจึงถอยหลังเล็กน้อย ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจเจียงชั่นยิ้มแล้วหยิบเอกสารจากโต๊ะขึ้นมา ในนั้นมีตารางงานของศิลปินหลายคนของบริษัท“นี่เป็นแผนการเดินทางของคุณค่ะ” เจียงชั่นยื่นเอกสารสำเนาให้กับโมนา “ในนั้นมีข้อควรระวังในการปรากฏตัวในรายการ เดี๋ยวฉันจะช่วยสื่อสารกับผู้จัดการส่วนตัวของคุณล่วงหน้า”“นีมันรายการอะไ
เจียงชั่นขมวดคิ้วพลางมองตามไปยังเสียงที่ได้ยินเธอเห็นหญิงสาวสวยแต่งตัวเรียบหรู สวมแว่นกันแดดอันใหญ่และต่างหูกับสร้อยคอที่ดูเว่อร์เดินนวยนาดเข้ามา“ไม่ได้บอกว่ามีทีมผู้บริหารที่เป็นมืออาชีพหรอกเหรอ?” เธอถอดแว่นนกันแดดอันใหญ่ออกแล้วมองเจียงชั่นด้วยท่าทางที่ไม่เป็นมิตร “แล้วอยู่ไหน?”ผู้จัดการห่าวและเจียงชั่นมองหน้ากันแล้วพยักหน้าเบา ๆเจียงชั่นยื่นมือออกมาแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “คุณโมนาใช่ไหมคะ? ฉันคือ...”โมนาแสดงท่าทีที่หยิ่งออกมา เธอไม่ยอมจับมือกับเจียงชั่นเลยเจียงชั่นจึงหยุดค้างอยู่กลางอากาศแบบนั้น ก่อนจะดึงมือกลับเงียบ ๆผู้จัดการห่าวก้าวไปข้างหน้าแล้วเอ่ย “คุณโมนาครับ นี่คือคุณเจียงชั่นผู้ช่วยอาวุโสที่หยู่เฟิงมีเดียของเรา เธอรับผิดชอบในการจัดหาศิลปิน ถ้าหากว่าคุณมีคำถามอะไร สามารถคุยกับเธอได้เลยโดยตรง”“อ้อ เจียงชั่น!” โมนายิ้มในขณะที่ก้มลงมองเล็บมือที่เพิ่งทำมาของเธอ “มีประสบการณ์หรือเปล่า? ไม่ใช่ใครก็จะดูแลฉันได้นะ”“ไม่ต้องกังวลครับคุณโมนา แม้ว่าผู้ช่วยเจียงจะไม่ได้อยู่ในวงการนี้นาน แต่ความสามารถในการทำงานของเธอโดดเด่นมาก”“ความสามารถในการทำงานหรือยั่วผู้ชายกันแน่ที่โดด
“ไอ้สารเลว! แกมันน่ารังเกียจ”สีหน้าของหยินรั่วหงแดงจัดฮั่วจ่านเฮ่อมองกลับด้วยรอยยิ้ม ภายใต้แววตาเจ้าเล่ห์มีความชั่วร้ายอยู่เต็มเปี่ยมเครื่องบินส่วนตัวของฮั่วจือสิงตกจริง แต่หยินรั่วหงไม่รู้เรื่องนี้ในตอนนั้นเขาพบกับฮั่วจ่านเฮ่อที่งานเลี้ยงหลายแห่ง พวกเขาเป็นเพียงคนที่รู้จักกันเท่านั้นนอกเหนือจากการฝึกฝนด้านการแพทย์และเภสัชกรรมแล้ว ตระกูลหยินในหนานหยางยังเปิดสนามบินพลเรือนอีกด้วย สนามบินขนาดใหญ่หลายแห่งในหนานหยางอยู่ภายใต้การควบคุมของตระกูลหยินดังนั้นฮั่วจ่านเฮ่อจึงมีแผนนี้ขึ้นมา ทว่าเขาซ่อนความจริงนี้จากหยินรั่วหง ก่อนจะใช้อุบายในการใช้ช่างเทคนิคเข้ามาทำอะไรบางอย่างกับเครื่องบินของฮั่วจือสิง...จากนั้นเขาก็แกล้งทำกรรมธรรม์ก้อนใหญ่แล้วบอกหยินรั่วหงว่าเงินหลายล้านจะตกเป็นของเขาหยินรั่วหงไม่คิดมาก่อนว่าตัวเองจะกลายเป็นผู้ร้ายในการก่ออาชญากรรมที่เลวร้ายในครั้งนี้ด้วย“ประธานหยิน ถ้าเรื่องนี้ถูกพูดออกไป จะไม่มีใครฟังคำอธิบายของคุณหรอกนะ เพราะพวกเขาจะคิดว่าคุณเป็นคนที่ร่วมทำร้ายฮั่วจือสิงเหมือนกัน”“เมื่อถึงเวลาชื่อเสียงและความมั่นคงของคุณก็จะถูกทำลายลงไป”หยินรั่วหงหายใจเข
“ใช่”ฮั่วจือสิงขมวดคิ้วด้วยสีหน้าที่จริงจังขึ้นมาเล็กน้อย “ผมไม่ได้บอกเรื่องนี้กับชั่นชั่น ดังนั้นอย่าพูดเรื่องนี้เลยนะ...”“เกิดอะไรขึ้น?” “ช่วงนี้อาการบาดเจ็บที่ขา...มันมีอาการนิดหน่อยน่ะ”เสิ่นเซียวตกใจ รีบพาเขาไปเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดทันที“ไม่มีอะไรหรอก” ฮั่วจือสิงตบไหล่อีกฝ่าย “มันน่าจะกำเริบ ก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ช่วงนี้อากาศเย็นลงมาก ก็จะเจ็บมากหน่อย”“ผมจำได้ว่าตอนนั้นคุณให้ยาผม ทั้งแบบกินแล้วก็แบบทา มันได้ผลดีมากนะ..วันนี้ก็เลยอยากจะให้สั่งยาเพิ่ม”เสิ่นเซียวลังเลอยู่นาน โดยที่ไม่พูดอะไร“มีอะไรรึเปล่า?”ฮั่วจือสิงนึกสงสัยว่าแพทย์อาจจะไม่สามารถสั่งยาได้ง่ายดายอย่างทีคิด?“จือสิง” เสิ่นเซียวมองเขาแล้วเม้มปากแน่น ในที่สุดก็ตัดสินใจเอ่ยออกมา “ที่จริงผม..ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคือยาอะไร”“ว่าไงนะ?” ฮั่วจือสิงประหลาดใจ “แต่ตอนนั้นคนที่ให้ยากับผมคือคุณนะ”“ใช่ แต่ยานั่นมีคนมอบให้คุณอีกที”ฮั่วจือสิงยิ่งเกิดความสับสนมากขึ้นเสิ่นเซียวถอนหายใจแล้วบอกความจริงทั้งหมด“คุณลองคิดดูสิ ถึงผมจะจบจากโรงเรียนแพทย์มา แต่ตอนนั้นผมไม่ได้เป็นหมอมานานแล้ว ไม่เคยผ่า
“ครับ นายน้อย” ฟางฮั่นพยักหน้าแต่หยินรั่วหงเป็นคนค่อนข้างลึกลับ ไม่ชอบปรากฎตัวต่อสาธารณะแม้แต่ในงานประมูลวันนั้น ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้เจอหน้าเขา“ถ้านัดหมายในนามของเรา เขาจะต้องรับ” ฮั่วจือสิงคิดเรื่องนี้ไว้แล้ว“แล้ว...ในนามของคุณชายสองล่ะครับ?”“ไม่จำเป็น” ฮั่วจือสิงเม้มปาก “บอกแค่ว่าปู่อยากเจอเขา”ฟางฮั่นสะดุ้งเล็กน้อย “นี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง ถ้ามีปู่ร่วมด้วย หยินรั่วหงจะไม่กล้าทำอะไร”ฮั่วจือสิงยิ้ม ก่อนจะปรับสีหน้าไปเป็นไม่พอใจอีกครั้ง“นายน้อย เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?” ฟางฮั่นรู้สึกตระหนกเล็กน้อยฮั่วจือสิงลดเสียงทันทีและเจียงชั่นก็ยังอยู่ในครัว“เปล่า” เขาขยับตัวเล็กน้อย “ก็ปัญหาเดิม ๆ”“อาการบาดเจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือเปล่าครับ?” ฟางฮั่นเป็นกังวลหลังจากเหตุการณ์เครื่องบินตก ฮั่วจือสิงได้รับบาดเจ็บหนัก แม้ตรวจแล้วทุกอย่างจะปกติดี แต่ก็มีเพียงอาการบาดเจ็บที่ขาเท่านั้นที่ยังมีผลกระทบที่ต่อเนื่องมาจนถึงตอนนี้“จริง ๆ มันก็ไม่ได้ร้ายแรง” เขายืดตัวขึ้นแล้วเอ่ยอย่างใจเย็น “ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นลง ก็เลยเจ็บมากเป็นบางครั้งแต่ไม่รุนแรงมาก คงจะไม่เป็นอะไรถ้าฉันพอจะปรั
เจียงชั่นหน้าแดงด้วยความเขินอาย ในขณะที่ฮั่วจือสิงกำลังโมโห เธอรีบผละออกจากเขาแล้ววิ่งเข้าไปในบ้านทันทีฟางฮั่นอ้าปากค้าง สายเกินไปแล้วที่เขาจะหนีไปอีกคน...สีหน้าของฮั่วจือสิงมืดดำราวกับมีหมึกดำ ๆ มาป้ายไว้บนหน้าเขาเดินออกไปตรงลานสนามหญ้าอย่างรวดเร็ว พลางมองฟางฮั่นด้วยแววตาที่แข็งกร้าวและเย็นชาฟางฮั่วกระตุกยิ้มแห้ง ๆ หัวใจเต้นแรงจนจะกระเด้งออกมาจากปาก“เกิดอะไรขึ้น?” เขาเอ่ยตอนนี้ฟางฮั่นลืมทุกสิ่งที่เขาต้องการจะพูดแล้ว จึงมองคนตรงหน้าด้วยแววตาว่างเปล่าความเงียบไม่กี่วินาที ทว่าความรู้สึกกลับยาวนานเป็นทศวรรษจากนั้นเจียงชั่นก็ได้ยินเสียงคำรามเข้ม ๆ ของใครบางคนดังขึ้นมา “ฟางฮั่น!”ป้าเฉินที่กำลังเลือกผักอยู่สะดุ้งแล้วรีบวิ่งออกมาจากครัวทันที“เกิดอะไรขึ้นคะ?”เจียงชั่นนั่งหัวเราะอยู่บนโซฟา“เสี่ยวฟางมีเรื่องเหรอคะ?” ป้าเฉินส่ายหน้าแล้วถอนหายใจ ก่อนจะกลับไปที่ห้องครัวพลางพึมพำกับตัวเอง “ตะเบ็งเสียงขนาดนี้ คงต้องทำซุปไว้ให้นายน้อยหน่อยแล้วล่ะนะ...”ที่สนามหญ้าเองเจ้าแมวส้มที่กินอาหารจนหมดก็กำลังเหวี่ยงร่างอ้วน ๆ ของมันไปมา ขณะที่มองชายหนุ่มทั้งสองแล้วร้องเหมียวสองสามครั้ง
จู่ ๆ ไป๋จิ่งหยวนก็รู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นผิดจังหวะ แทบจะควบคุมเอาไว้ไม่ได้ใบหน้าที่ชัดเจนของเหยาหว่านยินสะกดเขาราวกับมีเวทย์มนตร์ ดวงตากลมคู่นั้นราวกับโลกที่ลึกลับกำลังดึงดูดให้เขาเข้าไปสำรวจไป๋จิ่งหยวนมองเธออย่างว่างเปล่า บรรยากาศโดยรอบเงียบลง ราวกับว่าทุกอย่างกำลังมุ่งความสนใจไปที่เธอลมเย็น ๆ ที่พัดกระโชกมาทำให้เหยาหว่านยินไอออกมาสองสามครั้งทำให้ไป๋จิ่งหยวนถอดเสื้อคลุมออกมาแล้วสวมให้กับเธอแทน“ไม่เป็นไร...”“ใส่เถอะ” เขาช่วยกระชับเสื้อให้กับเธอ “ไม่สบายเหรอคุณ? หรือว่าเป็นหวัด?”เหยาหว่านยินเม้มปากแล้วมองเขาเงียบ ๆตอนนี้เริ่มมีคนทะยอยออกมาจากประตูงานประมูล“ดูเหมือนงานจะจบแล้วล่ะ” ไป๋จิ่งหยวนเอ่ย “เอาล่ะ..เดี๋ยวผมไปส่ง คุณอยู่ที่ไหน?”เหยาหว่านยินชะงักแล้วส่ายหน้าเล็กน้อยทุกอย่างราวกับภาพฝัน ในตอนที่เธอตื่นเธอก็ต้องกลับสู่โลกของความเป็นจริงความจริงที่ว่าเธอเป็นลูกสาวนิรนามของตระกูลเหยา ไม่รู้ว่าจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ต่อไปอีกนานแค่ไหน ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง...ร่างบางหันหลังกลับแล้วเดินไปอย่างช้า ๆ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงคนของตระดูลเหยากำลังตามหาเธออยู่ไม่ไกล
“คุณชื่อหว่านยินเหรอ?” ไป๋จิ่งหยวนขมวดคิ้วดูสับสน “แล้วนามสกุลอะไร?”เหยาหว่านยินหลับตาลงแล้วนิ่งเงียบไป๋จิ่งหยวนจึงยิ้มกว้าง ไม่ว่าเธอจะนามสกุลอะไรแต่แค่ได้รู้จักชื่อก็ดีมากแล้ว“เอาล่ะ เดี๋ยวผมจะพาไปเดินเล่นในสวน” เขาเอ่ยพลางเดินออกไปจากประตู“นี่คุณ...”แต่ก่อนที่เขาจะออกไปได้ ร่างสูงก็ถูกเหยาหว่านยินรั้งเอาไว้เขาตะลึงก่อนจะหันกลับมามองเขายังไม่ได้ใส่กางเกง!ชายหนุ่มหน้าแดง ในขณะที่มองเหยาหว่านยินด้วยความตระหนก ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ใส่เธอดีเห็นอย่างนั้นเหยาหว่านยินก็รู้สึกขบขัน ใบหน้าที่ซีดเซียวเริ่มมีสีสันขึ้นมาทันทีไป๋จิ่งหยวนวิ่งเข้าไปในห้องแล้วรีบสวมกางเกงทันที ก่อนจะพาเหยาหว่านยินออกไปเดินเล่นในค่ำคืนของฤดใบไม้ร่วงช่างสวยงาม ภายในสวนที่ได้รับแสงแดดอบอุ่นมาตลอดทั้งวัน ยังคงมีกลิ่นอายของความอบอุ่นไปทั่วทั้งบริเวณ รอบข้างมีความเงียบสงบและมีเสียงนกนานาชนิดร้องเป็นระยะ ๆ แสงไฟดวงเล็ก ๆ ที่ตกแต่งสวยงามราวกับมีหิ่งห้อยกำลังบินอยู่เหยาหว่านยินสูดหายใจลึกแล้วหลับตาลงเบา ๆเธอยืนอยู่บนสนามหญ้าและหายใจได้อย่างอิสระ อิสระที่เธอเฝ้าใฝ่หามาทั้งชีวิต“ดีจัง” เธอหั