“มานั่งข้างพี่สิ” จีน่ากวักมือเรียกธารทีราให้มานั่งข้างๆ
“เอ่อ...” หญิงสาวหันมองซันอย่างขอความเห็น
“ไปนั่งเถอะครับ นั่นก็เพื่อนคุณซีลครับ” ซันหันมากระซิบบอก ก่อนจะส่งสายตาให้คุณหนูของเขาไปนั่งกับผู้หญิงคนนั้น
“ค่ะ” ธารทีราพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะผละจากซันไปนั่งข้างกายของหญิงสาวมาดทอมบอยที่มีใบหน้าสวยเฉี่ยว ซ้ำยังไว้ผมยาวสลวยอีกด้วย
“พี่ชื่อจีน่า ส่วนนั่นภู ไอ้ที่หน้านิ่งๆ น่ะชื่อกานต์ ส่วนไอ้ผมทองนั้นชื่อนัท พวกพี่เป็นเพื่อนของพี่ชายเรานั่นแหละ”
เมื่อหญิงสาวนั่งลงข้างๆจีน่าก็รีบแนะนำตัวเองและบรรดาเพื่อนๆ ให้เธอได้รู้จัก
“ค่ะ สวัสดีอีกครั้งนะคะ” ธารทีราหันไปมอง และยกมือไหว้ทุกคนอีกครั้ง
“อื้อๆ หวัดดี” ทุกคนพากันรับไหว้แทบไม่ทัน
“แล้วนี่ ทำไมพา…”
‘ธนัท’ หรือ ‘นัท’หันไปมองซันอย่างตั้งคำถาม เพราะไม่รู้ว่าที่ซันพาน้องสาวเพื่อนมาที่นี่ เพราะต้องการให้พวกเขารู้จักเฉยๆ หรือว่ามีจุดประสงค์อื่นกันแน่
และด้วยท่าทีของธนัทที่มองซันสลับกับธารทีราด้วยความสงสัยก็ทำให้ชายหนุ่มรีบตอบกลับไปโดยไม่ได้ลงรายละเอียดมากนักว่า
“พอดีมีปัญหาเกิดขึ้นนิดหน่อยครับ นายกำลังจัดการอยู่ เดี๋ยวเสร็จเรื่องก็คงจะมารับคุณหนูกลับน่ะครับ”
“อ๋อ” ทุกคนที่ได้ฟัง ต่างก็ไม่ได้ถามลงลึกอะไร แต่ก็ยังคงให้ความสนใจในตัวของน้องสาวเพื่อนอย่างไม่วางตา
ทันทีที่ทั้งห้องเกิดความเงียบไปพักใหญ่ กานต์ก็ตัดสินใจหันไปถามภามอีกครั้ง
“แล้วเมื่อไรไอ้ดินมันจะลงมา”
“เดี๋ยวสักพักก็คงลงมาครับ” ภามตอบแล้วก็เดินมายืนข้างๆ ซัน
“ดื่มไหมครับน้องไอซ์” ธนัทเอ่ยถามธารทีราด้วยเสียงที่นุ่มนวลทำให้ทุกคนในห้องหันมาสนใจหญิงสาวอีกครั้งโดยเฉพาะภูริทซึ่งรีบหยิบแก้วมาถือไว้ เตรียมจะชงเหล้าให้เธอ
“ไอซ์ยังไม่ได้กินอะไรมาเลยค่ะ ขืนดื่มเหล้าทั้งแบบนี้มีหวังแย่แน่ๆ ค่ะ” หญิงสาวบอกแบบนั้นไป เพราะเธอไม่อยากดื่ม เอาจริงๆ เธอเพิ่งลงเครื่องมาไม่นาน น่าจะได้กลับบ้านไปพักผ่อนมากกว่า ไม่ใช่มานั่งดื่มของมึนเมาแบบนี้ อีกทั้งนี่ก็เพิ่งจะกี่โมงเอง บรรดาเพื่อน ๆ ของพี่ชายเธอจะปาร์ตี้กันแต่หัววันเลยหรือไงกันนะ
“อ้าวเหรอ งั้นนั่งกินกับแกล้มก็แล้วกัน” ภูริทวางแก้ว แล้วพยักหน้าให้ธารทีราจัดการกับกับแกล้มตรงหน้าแทน
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวยิ้มเล็กน้อย เมื่อเพื่อนของพี่ชายไม่เซ้าซี้ให้เธอดื่ม
“คุณไอซ์หิวเหรอครับ” ภามถามด้วยท่าทีห่วงใยซึ่งจริงๆ แล้วเขาอยากปลีกตัวออกไปดูเจ้านายของเขาด้วย ว่าตอนนี้เป็นอย่างไร ทำไมถึงไม่ลงมาสักที
“เอ่อ…” คำถามของภาม ทำให้ธารทีราหันไปมองคนถามแต่หญิงสาวก็ช้ากว่าภามไปก้าวหนึ่ง เพราะเขารีบสำทับต่อ
“งั้นนั่งรอตรงนี้นะครับ เดี๋ยวผมจัดการให้ครับ” ภามรีบอาสาแล้วเดินออกไป โดยไม่ยอมสนใจคำทักท้วงของธารทีรา
“พี่ภาม ดะ...เดี๋ยวค่ะ”
ด้านซันเห็นว่าคุณหนูน่าจะเข้ากับเพื่อนๆ ของเจ้านายได้จึงก้าวเข้าไปหาพร้อมกับกระซิบบอก
“ผมขอตัวไปติดต่อหาคุณซีลก่อนนะครับคุณหนู”
“ค่ะพี่ซัน” เธอพยักหน้าให้
เมื่อไม่มีภามกับซันแล้ว กลุ่มเพื่อนของหนึ่งนทีก็หันมาชวนธารทีราคุย และสอบถามอะไรเล็กน้อย
ทว่าสักพักก็มีเสียงประตูดังขึ้นทำให้ทุกคนหยุดบทสนทนาไว้เพียงเท่านั้นแล้วหันไปมอง และเมื่อเห็นว่าเป็นใครกานต์ก็เอ่ยทักขึ้นว่า
“อ้าวไอ้ดิน มาพอดีเลย”
“อื้อ” เขตแดนพยักหน้าทักทายเพื่อนๆ แต่สายตาคมเข้มกลับจ้องไปยังร่างของหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ จีน่า
บทที่ 1เวลาบ่ายโมง...‘เรียนท่านผู้โดยสาร...'เสียงพนักงานประชาสัมพันธ์ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิประกาศแจ้งผู้โดยสารที่เดินกันขวักไขว่ดังขึ้นเป็นระยะณ ทางออกสำหรับผู้โดยสารร่างของหญิงสาวคนหนึ่งในชุดเสื้อโค้ทกับกางเกงขายาวก้าวอย่างมาดมั่นตรงไปเบื้องหน้า ซึ่งการแต่งกายของเธอช่างท้าทายกับอากาศร้อนของประเทศไทยเหลือเกินแม้แต่ตอนนี้ใบหน้าหวานก็แดงระเรื่อขึ้นด้วยความไม่คุ้นชินกับสภาพอากาศธารทีราเดินลากกระเป๋ามาถึงด้านหน้าพลางมองหาคนที่จะมารอรับเธอ ระหว่างนั้นหญิงสาวรีบถอดเสื้อโค้ทออกจากตัวทันที เพราะกลัวว่าตนเองจะเป็นลมไปก่อนจะกลับถึงบ้าน“คุณหนู”พอมีเสียงเรียกดังขึ้น เธอก็รีบหันไปตามหาที่มาของเสียงหญิงสาวมองเห็นชายหนุ่มชุดดำยืนไม่ไกลจึงยิ้มให้พลางโบกมือเรียกชายคนนั้น“พี่ซัน?”“ครับ” ซัน บอดี้การ์ดที่ได้รับหน้าที่ให้มารอรับธารทีราตอบรับพร้อมกับรีบเดินเข้าไปเอากระเป๋าของหญิงสาวมาถือไว้เอง“ไอซ์ไม่เจอพี่ซันนานมากเลย พี่ซันสบายดีนะคะ”หญิงสาวพูดขึ้นพลางมองสำรวจชายตรงหน้าด้วยความคิดถึง“สบายดีครับ คุณหนูเชิญที่รถดีกว่านะครับ” ซันยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะรีบเชิญคุณหนูของเขาไปขึ้นรถ เนื่องจากไม่
บทที่ 2ทว่าในระหว่างที่เขากำลังพุ่งความสนใจไปยังรถยนต์คันหนึ่งอยู่กลับมีรถมอเตอร์ไซด์อีกคันเร่งเครื่อง แล้วพุ่งขึ้นมาจากเลนด้านข้างด้วยความเร็ว“พี่ซันระวังค่ะ” ธารทีราร้องเตือน เมื่อมีรถมอเตอร์ไซค์ขับขึ้นมาด้วยความเร็วแล้วขับแซงหน้าขึ้นไป“เชี่ยเอ๊ย!” ซันสบถด่าไอ้คนที่ขับรถมอเตอรไซค์ตัดหน้ารถของเขา ซึ่งซันก็หักพวงลัยหลบไปทางซ้ายอย่างรวดเร็ว จนเกือบจะชนเข้ากับรถอีกคัน“ทำไมขับรถไม่ระวังแบบนี้นะ”เธอบ่นออกมา แต่มอเตอร์ไซค์คันนั้นกลับขับหนีไปไกลแล้ว“เดี๋ยวผมโทรหาคุณซีลก่อนนะครับคุณหนู”เพื่อความปลอดภัยของหญิงสาว ซันจึงรีบต่อสายหาเจ้านายอีกคนของตนทันที“ค่ะ” ด้านธารทีราพยักหน้ารับเมื่อได้สบตาของซัน จากนั้นเธอก็คอยหันไปมองด้านหลังเป็นระยะด้วยความเป็นกังวลซันต่อสายถึงเจ้านาย และรอไม่นาน คนปลายสายก็ตอบกลับมาด้วยเสียงหนาทุ้มที่ฟังแล้วดูน่ากลัว“อื้ม ว่ายังไง”“นายครับ มีคนตามรถของผมมาครับ” ซันรีบบอกนายน้อยของตนซึ่งนายน้อยของเขานั้นก็คือพี่ชายของธารทีรานั่นเอง“ว่ายังไงนะ”ผู้เป็นพี่ชายถามย้ำด้วยความห่วงใยน้องสาว“มีรถคันหนึ่งตามผมมาตั้งแต่อยู่ที่สนามบินแล้วครับ”“แล้วน้องสาวฉันล่ะ”คำถามของ
บทที่ 3ซันอธิบายพลางเลื่อนสายตาไปมองข้างหน้า ก่อนจะค่อยๆ ชะลอรถให้รถคันอื่นของทีมบอดี้การ์ดมาขับเทียบด้านข้าง แล้วหาโอกาสเลี้ยวหลบไปอีกทาง โดยใช้รถของทีมสกัดไว้ เพื่อไม่ให้รถคันนั้นสามารถตามขับมาได้ทันหญิงสาวเห็นซันตั้งใจขับรถอยู่จึงไม่ถามอะไรเธอนั่งนิ่งแล้วคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาเงียบๆ‘ธารทีรา บริพัฒน์สกุลเกียรติ’ หรือ ‘ไอซ์’ ลูกสาวเพียงคนเดียวของคุณจอห์นและคุณหญิงโสภา บริพัฒน์สกุลเกียรติ ตัวเธอมีพี่ชายหนึ่งคนอายุมากกว่าเธอห้าปีคือ ‘ซีล’หรือ ‘หนึ่งนที บริพัฒน์สกุลเกียรติ’บ้านบริพัฒน์สกุลเกียรตินั้นทำธุรกิจหลายอย่างทั้งขาวและเทา ซึ่งธุรกิจที่ทุกคนรู้จักดีก็คือโรงพยาบาล ปั๊มน้ำมัน ห้างสรรพสินค้า และกาสิโนที่คุณจอห์นทุ่มทุนสร้างกับเพื่อนสนิทธารทีราถูกส่งไปเรียนต่อที่ต่างประเทศตั้งแต่อายุห้าขวบ โดยมีป้านมและพี่เลี้ยงตามไปดูแลแค่สองคน โดยหญิงสาวเรียนจบคณะแพทย์ศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยชื่อดังในอเมริกาปัจจุบันหญิงสาวมีอายุยี่สิบสี่ปี ซึ่งครั้งนี้คือครั้งแรกที่เธอได้กลับมาที่ประเทศไทยในรอบสิบเก้าปีหญิงสาวตั้งใจไว้ว่าจะกลับมาช่วยพี่ชายบริหารโรงพยาบาลเนื่องจากเรียนจบทางสายนี้มา และทางคุณจอ
บทที่ 4ไม่ถึงสามสิบนาทีรถหรูของธารทีราก็ขับเข้ามาที่ด้านหน้าผับ ซันรีบขับเข้าไปจอดยังที่จอดของVIP ด้วยความคุ้นเคย“ที่นี่เหรอคะ”หญิงสาวเอ่ยถามขึ้น เมื่อมองไปรอบๆ ผ่านกระจกรถด้านข้างด้วยความสนใจ“ครับ” ซันพยักหน้ารับ และก่อนที่เขาจะลงจากรถก็มองสำรวจไปด้วย เพื่อความปลอดภัย“เพื่อนพี่ซีลคือใครเหรอคะ”ธารทีราถามซันด้วยความสงสัย เพราะตอนแรกที่ซันบอกว่าเป็นผับของเพื่อนพี่ชาย เธอไม่ได้ถามอะไร เนื่องจากตอนนั้นซันกำลังวุ่นคุยงานกับลูกน้องของเขาอยู่“ชื่อเขตแดนครับ” ซันตอบแล้วจ้องหน้าอีกฝ่ายนิ่ง ๆ เพื่อจับสังเกต“เขตแดน” ธารทีราพึมพำคนเดียวโดยไม่ให้ซันได้ยิน พลางคิดในใจว่าคงไม่ใช่เขาคนนั้นหรอกนะ“คุณหนู” ซันเอ่ยเรียกอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าคุณหนูของตนไม่ยอมลงจากรถ“คะ” หญิงสาวตื่นจากความคิด แล้วมองหน้าซัน ซึ่งชายหนุ่มยังคงยืนเกาะประตูรถและมองมายังเธอ“ลงมาเถอะครับ” ซันขยับถอยหลังไปยืนบนทางเท้า เพื่อเปิดทางให้คุณหนูก้าวลงจากรถ“ค่ะ” ธารทีรามองตึกหรูนั้นอีกครั้ง สลับกับการมองหน้าซัน พร้อมถอนหายใจเบาๆ และในที่สุดหญิงสาวก็ก้าวออกจากรถไปยืนเคียงข้างซันบอดี้การ์ดหนุ่มผายมือเชิญให้หญิงสาวเดินนำหน้าไปยั
บทที่ 5บริเวณที่ธารทีรายืนอยู่ในเวลานี้คือชั้นห้าของผับ เมื่อมองตรงไปจากช่องทางเดินที่เปิดออกจากลิฟต์แก้วคือทางเดินกว้างที่ระหว่างทางมีห้องหลายห้องทว่าสายตาของหญิงสาวกลับไม่ได้สนใจไปยังที่ใดเลย นอกจากจุดที่ภามผายมือเชิญ“ทางนี้ครับคุณไอซ์” ภามเดินนำทางไปยังห้องที่อยู่ด้านในสุด ทว่ายังไม่ทันได้ก้าวล่วงเข้าสู่ด้านในก็มีเสียงหนึ่งดังแทรกขึ้นมา“เดี๋ยว!”ในขณะกำลังจะเดินตามภามเข้าไปยังห้องวีไอพี ซันได้ตัดสินใจเรียกเพื่อนไว้เสียก่อน เมื่อได้ยินเสียงเอะอะดังอยู่ในห้องที่เพื่อนกำลังจะเปิดประตูเข้าไปอะไรวะ” ภามจับประตูค้างไว้อย่างนั้น แล้วหันมามองพร้อมกับถามขึ้นด้วยความแปลกใจ“ใครอยู่ในห้อง” ซันถามเสียงเรียบ แต่สีหน้าของเขากลับเคร่งเครียดเหมือนคนกำลังครุ่นคิดบางอย่างด้วยความหวาดวิตก“ก็เพื่อนๆ ของเจ้านายไง” ภามตอบกลับมาด้วยท่าทางสบายๆ ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไร พลางดันมือของซันออกจากประตู“แล้วทำไมไม่พาไปห้องอื่นวะ” ซันจับบ่าของเพื่อนให้หันมาเผชิญหน้ากัน พร้อมกับเดินไปขวางประตูไว้“ห้องอื่นเต็มแล้ว” ภามตอบพร้อมยิ้มกวนๆ ใส่เพื่อน“แต่คุณหนูกูไม่คุ้นเคยกับพวกเพื่อนๆ เจ้านายนะโว้ย” ซันเอ่ยขึ้นแล้วหั
บทที่ 6“มานั่งข้างพี่สิ” จีน่ากวักมือเรียกธารทีราให้มานั่งข้างๆ“เอ่อ...” หญิงสาวหันมองซันอย่างขอความเห็น“ไปนั่งเถอะครับ นั่นก็เพื่อนคุณซีลครับ” ซันหันมากระซิบบอก ก่อนจะส่งสายตาให้คุณหนูของเขาไปนั่งกับผู้หญิงคนนั้น“ค่ะ” ธารทีราพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะผละจากซันไปนั่งข้างกายของหญิงสาวมาดทอมบอยที่มีใบหน้าสวยเฉี่ยว ซ้ำยังไว้ผมยาวสลวยอีกด้วย“พี่ชื่อจีน่า ส่วนนั่นภู ไอ้ที่หน้านิ่งๆ น่ะชื่อกานต์ ส่วนไอ้ผมทองนั้นชื่อนัท พวกพี่เป็นเพื่อนของพี่ชายเรานั่นแหละ”เมื่อหญิงสาวนั่งลงข้างๆจีน่าก็รีบแนะนำตัวเองและบรรดาเพื่อนๆ ให้เธอได้รู้จัก“ค่ะ สวัสดีอีกครั้งนะคะ” ธารทีราหันไปมอง และยกมือไหว้ทุกคนอีกครั้ง“อื้อๆ หวัดดี” ทุกคนพากันรับไหว้แทบไม่ทัน“แล้วนี่ ทำไมพา…”‘ธนัท’ หรือ ‘นัท’หันไปมองซันอย่างตั้งคำถาม เพราะไม่รู้ว่าที่ซันพาน้องสาวเพื่อนมาที่นี่ เพราะต้องการให้พวกเขารู้จักเฉยๆ หรือว่ามีจุดประสงค์อื่นกันแน่และด้วยท่าทีของธนัทที่มองซันสลับกับธารทีราด้วยความสงสัยก็ทำให้ชายหนุ่มรีบตอบกลับไปโดยไม่ได้ลงรายละเอียดมากนักว่า“พอดีมีปัญหาเกิดขึ้นนิดหน่อยครับ นายกำลังจัดการอยู่ เดี๋ยวเสร็จเรื่องก็คงจะมารั
บทที่ 5บริเวณที่ธารทีรายืนอยู่ในเวลานี้คือชั้นห้าของผับ เมื่อมองตรงไปจากช่องทางเดินที่เปิดออกจากลิฟต์แก้วคือทางเดินกว้างที่ระหว่างทางมีห้องหลายห้องทว่าสายตาของหญิงสาวกลับไม่ได้สนใจไปยังที่ใดเลย นอกจากจุดที่ภามผายมือเชิญ“ทางนี้ครับคุณไอซ์” ภามเดินนำทางไปยังห้องที่อยู่ด้านในสุด ทว่ายังไม่ทันได้ก้าวล่วงเข้าสู่ด้านในก็มีเสียงหนึ่งดังแทรกขึ้นมา“เดี๋ยว!”ในขณะกำลังจะเดินตามภามเข้าไปยังห้องวีไอพี ซันได้ตัดสินใจเรียกเพื่อนไว้เสียก่อน เมื่อได้ยินเสียงเอะอะดังอยู่ในห้องที่เพื่อนกำลังจะเปิดประตูเข้าไปอะไรวะ” ภามจับประตูค้างไว้อย่างนั้น แล้วหันมามองพร้อมกับถามขึ้นด้วยความแปลกใจ“ใครอยู่ในห้อง” ซันถามเสียงเรียบ แต่สีหน้าของเขากลับเคร่งเครียดเหมือนคนกำลังครุ่นคิดบางอย่างด้วยความหวาดวิตก“ก็เพื่อนๆ ของเจ้านายไง” ภามตอบกลับมาด้วยท่าทางสบายๆ ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไร พลางดันมือของซันออกจากประตู“แล้วทำไมไม่พาไปห้องอื่นวะ” ซันจับบ่าของเพื่อนให้หันมาเผชิญหน้ากัน พร้อมกับเดินไปขวางประตูไว้“ห้องอื่นเต็มแล้ว” ภามตอบพร้อมยิ้มกวนๆ ใส่เพื่อน“แต่คุณหนูกูไม่คุ้นเคยกับพวกเพื่อนๆ เจ้านายนะโว้ย” ซันเอ่ยขึ้นแล้วหั
บทที่ 4ไม่ถึงสามสิบนาทีรถหรูของธารทีราก็ขับเข้ามาที่ด้านหน้าผับ ซันรีบขับเข้าไปจอดยังที่จอดของVIP ด้วยความคุ้นเคย“ที่นี่เหรอคะ”หญิงสาวเอ่ยถามขึ้น เมื่อมองไปรอบๆ ผ่านกระจกรถด้านข้างด้วยความสนใจ“ครับ” ซันพยักหน้ารับ และก่อนที่เขาจะลงจากรถก็มองสำรวจไปด้วย เพื่อความปลอดภัย“เพื่อนพี่ซีลคือใครเหรอคะ”ธารทีราถามซันด้วยความสงสัย เพราะตอนแรกที่ซันบอกว่าเป็นผับของเพื่อนพี่ชาย เธอไม่ได้ถามอะไร เนื่องจากตอนนั้นซันกำลังวุ่นคุยงานกับลูกน้องของเขาอยู่“ชื่อเขตแดนครับ” ซันตอบแล้วจ้องหน้าอีกฝ่ายนิ่ง ๆ เพื่อจับสังเกต“เขตแดน” ธารทีราพึมพำคนเดียวโดยไม่ให้ซันได้ยิน พลางคิดในใจว่าคงไม่ใช่เขาคนนั้นหรอกนะ“คุณหนู” ซันเอ่ยเรียกอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าคุณหนูของตนไม่ยอมลงจากรถ“คะ” หญิงสาวตื่นจากความคิด แล้วมองหน้าซัน ซึ่งชายหนุ่มยังคงยืนเกาะประตูรถและมองมายังเธอ“ลงมาเถอะครับ” ซันขยับถอยหลังไปยืนบนทางเท้า เพื่อเปิดทางให้คุณหนูก้าวลงจากรถ“ค่ะ” ธารทีรามองตึกหรูนั้นอีกครั้ง สลับกับการมองหน้าซัน พร้อมถอนหายใจเบาๆ และในที่สุดหญิงสาวก็ก้าวออกจากรถไปยืนเคียงข้างซันบอดี้การ์ดหนุ่มผายมือเชิญให้หญิงสาวเดินนำหน้าไปยั
บทที่ 3ซันอธิบายพลางเลื่อนสายตาไปมองข้างหน้า ก่อนจะค่อยๆ ชะลอรถให้รถคันอื่นของทีมบอดี้การ์ดมาขับเทียบด้านข้าง แล้วหาโอกาสเลี้ยวหลบไปอีกทาง โดยใช้รถของทีมสกัดไว้ เพื่อไม่ให้รถคันนั้นสามารถตามขับมาได้ทันหญิงสาวเห็นซันตั้งใจขับรถอยู่จึงไม่ถามอะไรเธอนั่งนิ่งแล้วคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาเงียบๆ‘ธารทีรา บริพัฒน์สกุลเกียรติ’ หรือ ‘ไอซ์’ ลูกสาวเพียงคนเดียวของคุณจอห์นและคุณหญิงโสภา บริพัฒน์สกุลเกียรติ ตัวเธอมีพี่ชายหนึ่งคนอายุมากกว่าเธอห้าปีคือ ‘ซีล’หรือ ‘หนึ่งนที บริพัฒน์สกุลเกียรติ’บ้านบริพัฒน์สกุลเกียรตินั้นทำธุรกิจหลายอย่างทั้งขาวและเทา ซึ่งธุรกิจที่ทุกคนรู้จักดีก็คือโรงพยาบาล ปั๊มน้ำมัน ห้างสรรพสินค้า และกาสิโนที่คุณจอห์นทุ่มทุนสร้างกับเพื่อนสนิทธารทีราถูกส่งไปเรียนต่อที่ต่างประเทศตั้งแต่อายุห้าขวบ โดยมีป้านมและพี่เลี้ยงตามไปดูแลแค่สองคน โดยหญิงสาวเรียนจบคณะแพทย์ศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยชื่อดังในอเมริกาปัจจุบันหญิงสาวมีอายุยี่สิบสี่ปี ซึ่งครั้งนี้คือครั้งแรกที่เธอได้กลับมาที่ประเทศไทยในรอบสิบเก้าปีหญิงสาวตั้งใจไว้ว่าจะกลับมาช่วยพี่ชายบริหารโรงพยาบาลเนื่องจากเรียนจบทางสายนี้มา และทางคุณจอ
บทที่ 2ทว่าในระหว่างที่เขากำลังพุ่งความสนใจไปยังรถยนต์คันหนึ่งอยู่กลับมีรถมอเตอร์ไซด์อีกคันเร่งเครื่อง แล้วพุ่งขึ้นมาจากเลนด้านข้างด้วยความเร็ว“พี่ซันระวังค่ะ” ธารทีราร้องเตือน เมื่อมีรถมอเตอร์ไซค์ขับขึ้นมาด้วยความเร็วแล้วขับแซงหน้าขึ้นไป“เชี่ยเอ๊ย!” ซันสบถด่าไอ้คนที่ขับรถมอเตอรไซค์ตัดหน้ารถของเขา ซึ่งซันก็หักพวงลัยหลบไปทางซ้ายอย่างรวดเร็ว จนเกือบจะชนเข้ากับรถอีกคัน“ทำไมขับรถไม่ระวังแบบนี้นะ”เธอบ่นออกมา แต่มอเตอร์ไซค์คันนั้นกลับขับหนีไปไกลแล้ว“เดี๋ยวผมโทรหาคุณซีลก่อนนะครับคุณหนู”เพื่อความปลอดภัยของหญิงสาว ซันจึงรีบต่อสายหาเจ้านายอีกคนของตนทันที“ค่ะ” ด้านธารทีราพยักหน้ารับเมื่อได้สบตาของซัน จากนั้นเธอก็คอยหันไปมองด้านหลังเป็นระยะด้วยความเป็นกังวลซันต่อสายถึงเจ้านาย และรอไม่นาน คนปลายสายก็ตอบกลับมาด้วยเสียงหนาทุ้มที่ฟังแล้วดูน่ากลัว“อื้ม ว่ายังไง”“นายครับ มีคนตามรถของผมมาครับ” ซันรีบบอกนายน้อยของตนซึ่งนายน้อยของเขานั้นก็คือพี่ชายของธารทีรานั่นเอง“ว่ายังไงนะ”ผู้เป็นพี่ชายถามย้ำด้วยความห่วงใยน้องสาว“มีรถคันหนึ่งตามผมมาตั้งแต่อยู่ที่สนามบินแล้วครับ”“แล้วน้องสาวฉันล่ะ”คำถามของ
บทที่ 1เวลาบ่ายโมง...‘เรียนท่านผู้โดยสาร...'เสียงพนักงานประชาสัมพันธ์ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิประกาศแจ้งผู้โดยสารที่เดินกันขวักไขว่ดังขึ้นเป็นระยะณ ทางออกสำหรับผู้โดยสารร่างของหญิงสาวคนหนึ่งในชุดเสื้อโค้ทกับกางเกงขายาวก้าวอย่างมาดมั่นตรงไปเบื้องหน้า ซึ่งการแต่งกายของเธอช่างท้าทายกับอากาศร้อนของประเทศไทยเหลือเกินแม้แต่ตอนนี้ใบหน้าหวานก็แดงระเรื่อขึ้นด้วยความไม่คุ้นชินกับสภาพอากาศธารทีราเดินลากกระเป๋ามาถึงด้านหน้าพลางมองหาคนที่จะมารอรับเธอ ระหว่างนั้นหญิงสาวรีบถอดเสื้อโค้ทออกจากตัวทันที เพราะกลัวว่าตนเองจะเป็นลมไปก่อนจะกลับถึงบ้าน“คุณหนู”พอมีเสียงเรียกดังขึ้น เธอก็รีบหันไปตามหาที่มาของเสียงหญิงสาวมองเห็นชายหนุ่มชุดดำยืนไม่ไกลจึงยิ้มให้พลางโบกมือเรียกชายคนนั้น“พี่ซัน?”“ครับ” ซัน บอดี้การ์ดที่ได้รับหน้าที่ให้มารอรับธารทีราตอบรับพร้อมกับรีบเดินเข้าไปเอากระเป๋าของหญิงสาวมาถือไว้เอง“ไอซ์ไม่เจอพี่ซันนานมากเลย พี่ซันสบายดีนะคะ”หญิงสาวพูดขึ้นพลางมองสำรวจชายตรงหน้าด้วยความคิดถึง“สบายดีครับ คุณหนูเชิญที่รถดีกว่านะครับ” ซันยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะรีบเชิญคุณหนูของเขาไปขึ้นรถ เนื่องจากไม่