ปัง!
“อ๊ากกก!!!” เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดดังลั่นห้องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ชายฉกรรจ์ที่ถูกจับขึงเอาไว้ตะเบ็งร้องสุดเสียงเมื่อกระสุนปืนจากกระบอกปืนในมือมังกรพุ่งเข้าใส่ขา มังกรแสยะยิ้มออกมาอย่างน่ากลัวเมื่อเห็นคนของศัตรูโดนทรมานอย่างเจ็บปวด แววตาคมเข้มไร้ซึ่งความรู้สึก มีเพียงความเย็นชาที่แสดงออกมาเท่านั้น ใครที่ทำงานให้กับศัตรูแล้วทำทีเข้ามาเป็นพวกเดียวกับเขา เขาเล่นถึงตาย! “ปะ…ปล่อยผมไปเถอะนะครับคุณมังกร ผะ…ผมผิดไปแล้วจริงๆ” “มึงผิดตั้งแต่เข้ามาสืบเรื่องกูไปรายงานไอ้เหมันต์แล้ว” เขาพูดแล้วยกแก้วน้ำสีเหลืองอำพันขึ้นมาดื่ม คนที่เป็นสายให้ศัตรู ไม่มีใครได้เดินออกจากห้องนี้โดยมีลมหายใจ ในเมื่อพวกมันกล้าเข้ามาเป็นหนอนบ่อนไส้…เขาก็กล้ากำจัดพวกมันเช่นกัน “ปล่อยผมไปเถอะนะครับคุณมังกร ผมยังมีครอบครัวที่ต้องดูแล ยะ…อย่าฆ่าผมเลยนะครับ” ชายฉกรรจ์สภาพสะบักสะบอมพยายามร้องขอชีวิตจากมังกร มาเฟียหนุ่มเหยียดยิ้มมุมปาก ก่อนจะเบือนใบหน้าไปมองชายคนนั้นด้วยท่าทางเย็นชา คนเรามักเห็นค่าชีวิตก็ต่อเมื่อตอนที่กำลังถูกมัจจุราชพรากลมหายใจไปแบบไม่มีวันได้คืนกลับมา “มึงไม่ใช่คนแรกที่ร้องขอชีวิตจากกู แล้วก็ไม่ใช่คนแรกที่กูคิดจะไว้ชีวิต” “….” ชายฉกรรจ์มองมังกรด้วยความเว้าวอนแม้รู้ดีกว่าต่อให้พยายามร้องขอชีวิตจาก ‘มัจจุราช’ ตรงหน้าจนน้ำตาเป็นสายเลือด มังกรก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจไว้ชีวิตตัวเอง ถึงอย่างนั้นก็ยังเลือกที่จะเสี่ยงขอชีวิตจากผู้ชายคนนี้ “คนทำผิดถ้าไม่ลงโทษ แล้วธรรมชาติจะสร้างวิธีการลงโทษขึ้นมาทำไม” “ธรรมชาติไม่ได้สร้างบทลงโทษ คุณต่างหากที่สร้างมันขึ้นมาเอง” “หึ ถ้ารู้แบบนั้นแล้วมึงก็ไม่ควรมาขอชีวิตจากกูให้เปลืองน้ำลาย เพราะถึงยังไง…วันนี้มึงก็ไม่รอด” เขากระตุกยิ้มมุมปากแล้วกระดกน้ำสีเหลืองอำพันที่เหลือจนหมดแก้วเพียงแค่กรึ่บเดียว มังกรวางแก้วน้ำเมาลงที่เดิมแล้วหมุนตัวเดินออกจากห้องที่เอาไว้ใช้สำหรับลงโทษหนอนบ่อนไส้หรือพวกของศัตรู เมื่อเท้าทั้งสองก้าวพ้นขอบประตู เสียงปืนหลายนัดก็ดังสนั่นหวั่นไหวท่ามกลางรอยยิ้มพอใจของมาเฟียหนุ่มซึ่งเดินออกมาแล้ว @คอนโดซอจิน ซ่า ซ่า~ หญิงสาวยืนอาบน้ำท่ามกลางภาพการกระทำอุกอาจของมังกรที่ฉายวนในหัว เธอใช้มือถูบริเวณที่เขาสัมผัสแรงๆ จนผิวเนื้อเริ่มแดงเถือก สิ่งที่เขาทำกับเธอในตอนเช้า ทำให้เธอไม่อยากเจอหน้าเขาอีก แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เพราะเธอยังทำงานเป็นเลขาส่วนตัวให้เขาอยู่ “คนเลว…” เธอพึมพำออกมาคนเดียว ในยามที่ภาพการกระทำอุกอาจของมังกรฉายในหัว ความรู้สึกตอนที่ถูกเขาใช้ริมฝีปากสัมผัสก็พลอยกระตุ้นให้เธอสัมผัสถึงความรู้สึกในตอนนั้นด้วย ทำไมโลกใบนี้ต้องเหวี่ยงให้เธอมาเจอกับคนเลวๆ อย่างมังกรด้วย แกร๊ก หลังจากอาบน้ำเสร็จ เธอเดินออกมาในสภาพสวมเสื้อคลุมสีขาวโดยมีผ้าขนหนูคล้องบนคอสำหรับใช้เช็ดผมเปียกปอน ครืด ครืด~ เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้เธอเหลือบไปมอง เบอร์บนหน้าจอที่โชว์หลาไม่ได้ทำให้เธอรับสายอีกฝ่ายแต่อย่างใด เธอเมินเฉยต่อสายเรียกเข้าของมังกรแล้วนั่งลงเตียงนอนเพื่อเช็ดผม รู้ดีว่าไม่ควรท้าทายคนอย่างเขา แต่สิ่งที่เขากระทำต่อเธอเมื่อเช้ามันทำให้เธอไม่พร้อมพูดคุยกับเขาในตอนนี้ เมื่อเช็ดผมจนแห้งแล้วเธอจึงดึงตัวเองขึ้นจากเตียงนอนเดินออกมาเปิดตู้เย็นหยิบน้ำออกมาเทลงแก้วว่างก่อนจะยกดื่มจนหมด ปังๆ! เฮือก! เธอสะดุ้งตัวขึ้นด้วยความตกใจ จู่ๆ ก็มีเสียงทุบประตูคอนโดดังเข้าโสตประสาท เธอพลันสายไปมองด้วยท่าทางหวาดหวั่น ภาวนาขอให้ไม่ใช่เขา ปังๆ!! เสียงทุบประตูนั้นดังขึ้นมาเรื่อยๆ เธอตัดสินใจเดินไปส่องตาแมวเล็กๆ เพื่อดูว่าใครคือเจ้าของเสียงทุบประตู หัวใจเธอตกลงไปอยู่ตาตุ่มทันทีที่รู้ว่าคนที่ทุบประตูเป็นใคร “คุณมังกร…” “จะเปิดดีๆ หรือจะให้พังเข้าไป” “….” เธอควรทำยังไงดี นี่เป็นครั้งแรกที่มังกรบุกมาหาเธอถึงคอนโด มังกรไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน แต่คงไม่ยากสำหรับเขาที่จะตามหาใครสักคน ปังๆๆ! เธอสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ก่อนจะตัดสินใจเปิดประตูให้มังกร หากเธอไม่ยอมเปิด เขาคงพังเข้ามาอย่างที่พูดไว้ แกร๊ก “มะ…มีธุระอะไรเหรอคะ” พอเขามายืนอยู่ต่อหน้าแบบนี้ ภาพการกระทำอุกอาจของเขาเมื่อเช้าก็ทำให้เธอพลอยกลัวว่าเขาจะทำแบบนั้นกับเธออีก มังกรมองใบหน้าสวยหวานไร้เครื่องสำอางของเลขาสาว ก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองรอยดูดที่เขาทำไว้เมื่อเช้าบนคอขาวเนียน มาเฟียหนุ่มไม่พูดอะไร เดินต้อนซอจินเข้าไปข้างไปข้างในก่อนจะใช้เท้าปิดประตูลง การกระทำนี้ของมังกรเริ่มทำให้หญิงสาวรู้สึกไม่ปลอดภัย “คะ…คุณคิดจะทำอะไร” “ฉันมาทวงค่าตอบแทนจากเธอ” สิ้นประโยคนั้นของมังกร แผ่นหลังบางก็แนบชิดลงผนังห้อง ทำให้ตอนนี้เธอหมดหนทางที่จะหนีจากผู้ชายคนนี้ “คะ…ค่าตอบแทนอะไรคะ” “หนีกลับมาทั้งที่ฉันยังไม่อนุญาตยังพอรับได้ แต่การที่เธอลืมสัญญาที่เคยให้ไว้กับฉันเนี่ย…ฉันควรตัดลิ้นเธอทิ้งดีไหม?” “….” “อย่าลืมว่าฉันคือผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเธอ เพราะฉะนั้น…ได้เวลาจ่ายค่าตอบแทนให้ผู้มีพระคุณแล้ว”“อย่าลืมว่าฉันคือผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเธอ เพราะฉะนั้น…ได้เวลาจ่ายค่าตอบแทนให้ผู้มีพระคุณแล้ว” หัวใจดวงน้อยพลันกระตุกวูบเมื่ออีกฝ่ายเริ่มทวงถึง ‘ค่าตอบแทน’ ที่เคยเผลอรับปากว่าจะยอมจ่ายให้ถ้าหากเขายอมช่วยให้หลุดพ้นจากฤทธิ์ยาปลุกเซ็กซ์ที่อดีตแฟนเก่าแอบใส่ลงในเครื่องดื่ม ตอนนั้นที่รับปากเพราะเธอทนต่อฤทธิ์ยาปลุกเซ็กซ์ไม่ไหวบวกกับไม่รู้ว่า ‘ค่าตอบแทน’ ที่มังกรพูดถึงต้องจ่ายด้วยอะไร แต่ทว่าตอนนี้เธอรู้แล้วว่าสิ่งที่เขาต้องการให้จ่ายก็คือ…ร่างกายของเธอ “คราวนี้เธออย่าคิดว่าจะโชคดีเหมือนที่ผ่านมา” “ฉะ…ฉันมีข้อเสนอมายื่นให้คุณ หวังว่าคุณจะรับฟังข้อเสนอของฉันนะคะ” “ฉันไม่สนใจข้อเสนอของเธอ” “คุณยังไม่รู้เลยว่าข้อเสนอของฉันคืออะไร” “การที่ไม่สนใจแปลว่าฉันไม่อยากฟังข้อเสนอของเธอ เพราะถึงยังไงวันนี้เธอก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนในสิ่งที่ฉันอยากได้มา” “แล้วถ้าฉันไม่ยอมจ่ายคุณล่ะ” “เธอก็รู้นิว่าฉันเป็นคนยังไง เคยเห็นตัวตนฉันมาแล้วไม่ใช่เหรอ เธอคงไม่อยากกลายเป็นคนโชคร้ายเหมือนผู้ชายที่เธอเห็นฉันฆ่าเองกับมือหรอกนะ…ใช่ไหม?” เธอช้อนสายตาขึ้นมองมังกรด้วยแววตาหวาดกลัว ใช่ เธอเคยเห็นตัวตนของผู้ชายคนนี้มา
ตั่บ! ตั่บ! ตั่บ!! เสียงเนื้อกระทบกันยังคงดังทั่วห้องนอนท่ามกลางเสียงครางกระเส่าของทั้งสองคน เวลาผ่านมาแล้วหลายชั่วโมงแต่ทว่าบทรักที่แสนป่าเถื่อนจากมังกรยังคงดำเนินอยู่ “พะ…พอได้แล้วอึก…” เธอนอนรองรับแรงกระแทกจากมังกรอย่างรุนแรงมาเนิ่นนานจนร่างกายเริ่มไม่ไหว แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมผู้หญิงถึงชอบขึ้นเตียงกับเขาทั้งที่เขารุนแรงและป่าเถื่อนขนาดนี้ มังกรละสายตาจากจุดเชื่อมมองไปที่ใบหน้าสวยหวานบิดเบี้ยว เขากระตุกยิ้มเล็กๆ บนมุมปาก ก่อนจะดึงเธอขึ้นมานั่งบนตักแล้วฉกฉวยริมฝีปากสีระเรื่อมาจูบในขณะที่ส่วนล่างยังคงเคลื่อนไหวอยู่ “อืมม~” เขาครางเบาๆ ในลำคอ มือหนาข้างหนึ่งเลื่อนขึ้นมาบีบเคล้นหน้าอกขนาดใหญ่พลางสอดแทรกลิ้นสากเข้าไปในโพรงปากซอจินแล้วเกี่ยวกระหวัดไปมา ไม่วายจะดูดดุนลิ้นเล็กเบาๆ ความรู้สึกต่างๆ ที่ถูกมังกรมอบให้อย่างไม่เต็มใจ ทำให้เธอเผลอจิกไหล่กว้างอีกครั้งทั้งที่ก่อนหน้านั้นเขาเพิ่งบอกว่าไม่ชอบให้ใครทำรอยไว้บนร่างกาย “เธอจิกฉันอีกแล้วนะ” เขาถอนจูบออกแล้วขยับเรียวปากหยักพูดกับซอจินอย่างไม่พอใจนัก “ทะ…ทีคุณยังทำรอยไว้บนตัวฉันเลยอ๊ะ!” ถ้อยคำที่ยอกย้อนกลับทำให้มังกรผลักซอจินนอนราบ
หลายชั่วโมงต่อมา ครืด ครืด~ “อื้อ…” เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นในช่วงเย็นของวันทำให้ซอจินซึ่งกำลังนอนหลับใหลอยู่ส่งเสียงดังในลำคอออกมาเบาๆ พร้อมกับความรู้สึกปวดร้าวตามร่างกายจากการกระทำแสนป่าเถื่อนของมังกร เธอดึงตัวเองขึ้นมานั่งพิงหัวเตียงนอนอย่างยากลำบาก ความปวดร้าวที่กัดกินไปทั่วร่างกายทำให้ไม่อยากขยับเขยื้อนร่างกายไปไหน เธอหยิบโทรศัพท์มาดูเบอร์บนหน้าจอแล้วนิ่งลงไปพักหนึ่ง เบอร์บนหน้าจอแม้ไม่มีชื่อกำกับ แต่เธอก็จำได้แม่นว่าเป็นเบอร์ของใคร “สวัสดีค่ะ” เธอแสร้งทำทีไม่รู้จักกับปลายสาย ทั้งที่ในความเป็นจริงปลายสายนั้นก็คือพ่อของเธอ (นี่พ่อเองนะ) “มีอะไรเหรอคะ” น้ำเสียงแข็งกระด้างเอ่ยถาม แม้ไม่อยากกดรับสายตั้งแต่แรก ทว่าสุดท้ายก็ไม่สามารถทำตามความคิดในหัวได้ (หมู่นี้ซอลไม่ค่อยมาบ้านเลย พ่อเลยอยากโทรมาถามว่างานยุ่งเหรอถึงไม่มีเวลามาทานข้าวด้วยกันที่บ้าน) “เพิ่งรู้นะคะว่าที่นั่นคือบ้านซอล” (ซอล…) “บ้านหลังนั้นไม่ใช่บ้านของซอลตั้งแต่วันที่คุณแม่ไม่อยู่แล้วล่ะคะ” เธอพูดแทรกคนเป็นพ่อขึ้น (ประภาเขาอยากเจอซอลมากเลยนะ ถามหาซอลทุกวันเลย) “เหอะ! แม่เลี้ยงใจร้ายคนนั้นคิดถึงซอลจริงๆ อย่างนั
“เป็นเด็กดีและเชื่อฟัง เธอจะได้ไม่ต้องเจ็บตัว” “คุณจะปล่อยฉันไปทำงานได้รึยังคะ” เธอเบือนสายตาไปจากใบหน้าหล่อเหลาของมังกรแล้วเอ่ยถามหลังจากเขาพูดประโยคนั้นจบ ยอมรับว่าคำพูดเหล่านั้นเผลอทำให้เธออดกลัวเขาขึ้นมาไม่ได้ “คืนนี้มาหาฉันที่คาสิโน” เขาไม่ตอบคำถามนั้นของซอจินแต่กลับออกคำสั่งบอกให้เธอมาหาตัวเองที่คาสิโน “คืนนี้ฉันมีนัดกับเพื่อนแล้ว” “ยกเลิกไป” “ฉันคงทำแบบนั้นไม่ได้หรอกนะคะ ถ้าคุณรอได้ ไม่เกินเที่ยงคืนฉันจะไปหา” “ฉันให้เธอไม่เกินห้าทุ่ม” “แต่ว่า…” “ถ้าไม่อยากให้คนรอบข้างเธอพลอยโดนร่างแหไปด้วยก็ทำตามที่ฉันบอก” เธอเริ่มเกิดอาการไม่พอใจขึ้นมาในความเผด็จการของมังกร เขารู้ว่าพอเธอเริ่มจนมุมสุดท้ายก็ต้องยอมทำตามที่เขาบอก ซึ่งนั่นมันก็เรื่องจริง เพราะเธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจาก…ยอม “คุณมันเผด็จการและบ้าอำนาจ” “อะไรที่ฉันต้องการแล้วไม่ได้…มันไม่ใช่ฉัน” “อื้อ! คะ…คุณจะทำอะไร” เธอใช้สองมือดันไหล่กว้างของมังกรออกเมื่อเขาเริ่มโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ ทว่ากลับถูกเขารวบมือทั้งสองขึ้นไปไว้ข้างบนศีรษะด้วยมือข้างเดียว ก่อนจะใช้มืออีกข้างปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวที่เธอสวมใส่อยู่ออกทีละเม็ด
@Dragon Casino เธอเดินเข้ามายังคาสิโนของมังกรพร้อมกับพิมฐา โดยที่นี่นอกจากจะเป็นคาสิโนแล้วยังมีโซนสำหรับนั่งดื่มบนชั้นสองไม่ต่างจากผับแห่งหนึ่ง หรือเรียกง่ายๆ ว่า ‘กึ่งคาสิโนกึ่งผับ’ สายตาผู้คนที่มองมาทำให้เธอรู้สึกประหม่าเล็กน้อย ที่นี่ส่วนใหญ่มีแต่ผู้ชายมาใช้บริการ ส่วนผู้หญิงนั้นมีแต่ก็น้อยมากที่จะเห็น พิมฐาพาเธอเดินขึ้นไปยังชั้นสองซึ่งเป็นโซนสำหรับนั่งดื่ม “แกจองไว้ก่อนหน้านี้แล้วเหรอ?” เธอเอ่ยถามพิมฐา เพราะพอมาถึงพนักงานก็ขอดูบางอย่างจากโทรศัพท์และทำการปั้มข้อมือให้ ก่อนจะพาไปยังโต๊ะที่มุมหนึ่งของโซนนี้ “ใช่ ถ้าจะใช้บริการโซนนี้ต้องจองไว้ก่อนล่วงหน้าสามชั่วโมง” เธอไม่ได้ตอบอะไรเพื่อนสาวกลับ หย่อนตัวนั่งลงโซฟาปล่อยให้พิมฐาสั่งเครื่องดื่ม เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อเช็กตารางงานของมังกรในวันพรุ่งนี้ แต่ทว่ากลับมีข้อความจากธาม ลูกติดของภรรยาใหม่พ่อเธอเด้งขึ้นมา ‘สรุปที่เงียบแปลว่าไม่ให้?’ ‘อยากให้คนอื่นรู้เรื่องในอดีตของมึงใช่ไหม?’ ‘กูจะให้โอกาสมึงครั้งสุดท้าย เอามาให้กูแสนนึงแล้วกูจะไม่บอกใครเรื่องอดีตของมึง’ เธออ่านข้อความที่เด้งขึ้นมาข้างบนโดยไม่ได้กดเข้าไปอ่านโดยตรงด้วยควา
แกร๊ก มังกรเปิดประตูห้องพักส่วนตัวในคาสิโนออกแล้วแทรกตัวเข้ามาโดยที่ยังอุ้มซอจินในท่าเจ้าสาวอยู่ หญิงสาวกวาดสายตามองไปรอบห้องที่คุ้นเคย ห้องนี้คือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ระหว่างเธอและเขา ร่างบางถูกวางลงเตียงนอนขนาดใหญ่ กลิ่นหอมคุ้นเคยภายในห้องนอนของมังกรพานทำให้หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบ ดวงตาคู่สวยช้อนมองมาเฟียหนุ่มซึ่งกำลังยืนพับแขนเสื้อเชิ้ตสีดำขึ้นแล้วเดินไปหยิบบุหรี่ที่วางบนโต๊ะเล็กข้างเตียงขึ้นมาคาบไว้ในปากแล้วใช้ไฟแช็คลนปลายกระบอกจนควันสีเทาคลุ้งกระจาย ก่อนจะเคลื่อนย้ายตัวเองไปนั่งลงโซฟา “ไหนคุณบอกว่าจะไปส่งฉันที่คอนโดไงคะ” เธอตัดสินใจพูดเพื่อทำลายความเงียบที่กำลังเกาะกิน “ลืมไปแล้วเหรอว่าคืนนี้เธอต้องทำอะไร” เขาตอบกลับเสียงเรียบแล้วพ่นควันสีเทาออกมา ก่อนจะปรายสายตาไปมองซอจิน “มาทำหน้าที่ของเธอซะ” “….” เธอนั่งหลุบตาต่ำมามองมือเล็กที่วางบนตักของตัวเองนิ่งๆ เธอรู้ว่ามังกรกำลังพูดเรื่องอะไร ‘หน้าที่’ ที่เขาหมายถึงก็คือเรื่องบนเตียง “อย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำรอบสอง” “ฉันขอเป็นวันอื่นได้ไหมคะ วันนี้ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายเท่าไร” “หึ จะทำเองหรือจะให้ฉัน…เป็นคนทำ?” เขาเลิกคิ้วถามพลางยกบ
แกร๊กมังกรเปิดประตูห้องนอนเข้ามาหลังจากใช้เวลาราวสองชั่วโมงในการประชุมเรื่องลับกับเพื่อนสนิท สายตาคมเข้มเหลือบมองซอจินซึ่งกำลังนอนหลับปุ๋ยบนโซฟาโดยมีโทรศัพท์วางไว้ข้างๆ เปิดหนังทิ้งเอาไว้มาเฟียหนุ่มละสายตาจากซอจินเดินไปเปิดตู้เย็นแล้วหยิบเบียร์กระป๋องออกมาเปิดดื่ม จากนั้นเดินกลับมานั่งลงโซฝั่งตรงข้ามหญิงสาวแล้วหยิบรีโมทมาเปิดโทรทัศน์พลางยกเบียร์ขึ้นดื่มตามไปด้วย“อื้อ…” ซอจินเริ่มส่งเสียงเบาๆ ในลำคอ คิ้วเรียวได้รูปพลางขมวดเข้าหากันเมื่อมีเสียงรบกวนจากบางอย่างดังเข้ามาในโสตประสาทปลุกให้ตื่นจากการหลับใหลนัยน์ตาสีน้ำตาลปะทะเข้ากับเจ้านายหนุ่มซึ่งกำลังนั่งดื่มเบียร์และเปิดโทรทัศน์ดู เธอค่อยๆ ดึงตัวเองขึ้นจากโซฟาแล้วหยิบโทรศัพท์มาปิดหนังที่ตัวเองเปิดทิ้งเอาไว้ ก่อนหน้านั้นนอนไม่หลับเลยต้องหาอะไรมาดูจนเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”“เมื่อกี้”“คุณจะให้ฉันกลับคอนโดได้รึยังคะ”ประโยคนั้นทำให้มังกรละสายตาจากภาพเคลื่อนไหวในหน้าจอสี่เหลี่ยมมามองซอจินนิ่งๆ จนเธอเป็นฝ่ายหลบสายตาคู่นั้นไป“คืนนี้นอนที่นี่”“ฉันยังไม่ได้สรุปรายงานของเดือนนี้ให้คุณเลยนะคะ”“ค่อยสรุปทีหลัง ฉันไ
เช้าวันต่อมา“อื้อ…” หญิงสาวที่กำลังนอนหลับอยู่ส่งเสียงในลำคอออกมาเบาๆ พร้อมกับขยับเข้าไปกอดเจ้าของไออุ่นจากคนข้างกายโดยไม่รู้ตัว แรงขยับยุกยิกของหญิงสาวปลุกมังกรให้ตื่นจากการหลับใหล มาเฟียหนุ่มเหลือบสายตามามองซอจินซึ่งกำลังนอนกอดตัวเอง ไอร้อนที่แผ่ขยายออกมาทำให้เขารู้ว่าเธอนั้นมีไข้เขาจับแขนเล็กที่วางบนหน้าท้องแกร่งออกแล้วจัดท่านอนของซอจินเป็นนอนหงาย ก่อนจะใช้หลังมืออังหน้าผากบางเพื่อวัดอุณหภูมิของเธอ“ตัวร้อนจังวะ…” เขาพึมพำออกมาคนเดียวเมื่อพบว่าเธอกำลังไข้ขึ้นและตัวร้อนจี๋ราวกับไฟ เขาเหวี่ยงขาทั้งสองลงจากเตียงนอนแล้วหยัดกายขึ้นเดินไปหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้ซอจินเขาเดินกลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้งเมื่อได้สิ่งที่ต้องการแล้วหย่อนตัวนั่งลงขอบเตียง ก่อนจะใช้ผ้าเปียกหมาดๆ เช็ดตัวซอจินเพื่อให้ไข้เธอลด แสดงว่าซอจินไข้ขึ้นตั้งแต่เมื่อคืนแต่เขาไม่รู้“อื้อ~ หนาว…” หญิงสาวเริ่มส่งเสียงเบาๆ ในลำคออีกครั้งพร้อมขยับเรียวปากอวบอิ่มบอกความรู้สึกในตอนนี้ มือไม้พยายามปัดป่ายไปมา การกระทำนั้นสร้างความรำคาญให้แก่มังกรไม่น้อย“อยู่นิ่งๆ”ซอจินค่อยๆ เปิดเปลือกตาออกอย่างยากลำบากพร้อมกับความหนักอึ้งที่หั
หลายวันต่อมา“แม่ไม่อยู่ไทยแค่แป๊บเดียว พอกลับมา ลูกสาวคนสวยก็บอกข่าวดีว่าแม่กำลังได้อุ้มหลาน เป็นของขวัญก่อนปีใหม่ที่ดีที่สุดสำหรับแม่เลย” ชลธิชาเอ่ยพูด หลังจากลูกสาวบอกว่ากำลังตั้งครรภ์ คนเป็นแม่พอรับรู้ก็แสดงออกชัดเจนว่าดีใจมากแค่ไหนเพราะอยากอุ้มหลานมานานแล้ว“ไม่ได้แกล้งแม่เล่นใช่ไหม?”“ไม่ได้แกล้งค่ะ ซอลกำลังท้องจริงๆ” เธอพูดยืนยันกับคนเป็นแม่อีกครั้ง “ได้สองสัปดาห์แล้วค่ะ”“นี่แม่กำลังจะมีหลานจริงๆ ใช่ไหม”“ใช่ค่ะ คุณแม่กำลังมีหลาน” เธอตอบกลับ ก่อนจะเบือนใบหน้าไปมองมังกรซึ่งนั่งอยู่ข้างกายพร้อมระบายยิ้ม คุณแม่บินไปทำธุระที่ต่างประเทศหลายวัน คงคิดไม่ถึงว่าพอบินกลับไทยมาเธอจะมอบของขวัญที่คนเป็นแม่อยากได้มากที่สุดให้ “แม่ไม่ได้ฝันไปใช่ไหม?”“ไม่ค่ะ มันคือเรื่องจริง ซอลกำลังมีหลานให้คุณแม่”“รู้ไหมว่าเมื่อคืน แม่อะฝันว่าซอลกำลังท้อง แต่ไม่คิดไม่ถึงเลยว่าความเมื่อคืนจะกลายเป็นจริง” ชลธิชาตอบด้วยรอยยิ้ม เมื่อคืนระหว่างนั่งเครื่องจากดูไบมาประเทศไทย ฝันว่าลูกสาวมีหลานให้อุ้ม คาดไม่ถึงเหมือนกันว่าพอมาถึงประเทศไทย ซอจินจะนำข่าวดีมาบอกตัวเอง นับว่าเป็นของของขวัญก่อนปีใหม่ที่ดีที่สุดสำหร
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา“ยัยซอล แกเห็นข่าวนี้รึยัง” “ข่าวอะไรเหรอ?” เธอละสายตาจากหนังสือนิตยสารตรงหน้าไปมองพิมฐาที่เดินเข้ามานั่งลงข้างๆ “นี่ไง เมียใหม่พ่อแกถูกยิงจนเสียชีวิตเมื่อคืน” เธอรับโทรศัพท์จากพิมฐามาเพื่อเลื่อนอ่านข่าวของภรรยาใหม่พ่อตัวเองเงียบๆ แอบตกใจไม่น้อยที่ได้ยินข่าวนี้ เท่าที่เลื่อนอ่านคร่าวๆ สรุปได้ว่าภรรยาใหม่ของพ่อเธอติดหนี้บ่อนพนันแล้วคิดจะหนีบวกกับขโมยสารเสพติดมา สุดท้ายเลยถูกยิงจนเสียชีวิตตามข่าว “ไม่น่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการพนันเลย” พิมฐาพูด“….” พอรู้เรื่องการเสียชีวิตของภรรยาใหม่พ่อ ภาพในอดีตที่ผู้หญิงคนนี้เคยกระทำกับเธอก็ถูกขุดขึ้นมาจากความทรงจำฉายเข้ามาในหัว ครั้งหนึ่งเธอเคยถูกภรรยาใหม่พ่อหลอกไปขายให้กับซ่องแห่งหนึ่ง โชคดีที่หนีออกมาได้ แต่ก็ไม่วายจะถูกคนเหล่านั้นไล่ล่า ทว่าโชคชะตาก็นำพาให้เธอมาเจอกับ ‘พศิน’ พ่อของมังกร ท่านคือผู้มีพระคุณที่ช่วยเธอออกมาจากตรงนั้น นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ภรรยาใหม่ของพ่อก็ไม่กล้าแตะต้องตัวเธออีกเลยเพราะถูกพศินขู่เอาไว้ ส่วนตอนนั้นพ่อแทบไม่สนใจอะไรเธอเพราะมัวแต่หลงภรรยาใหม่ และภรรยาใหม่นั่นแหละที่เป็นต้นเหตุทำให้พ่อเธอต้องล้
หลายวันต่อมา“วะ…ว่ายังไงนะ?” มัทนาขยับเรียวปากพูดอย่างตะกุกตะกัก สิ่งที่ลูกชายเอื้อนเอ่ยออกมาเมื่อครู่ ใช่ว่าตนไม่ได้ยิน แต่เพียงแค่อยากแน่ใจเท่านั้นว่าหูตัวเองไม่ได้ฝาดไป“ซอจินกำลังท้องครับ” มัทนาหันหน้าไปมองพศินอย่่างอึ้งๆ วันที่รอคอยมานานในที่สุดก็มาถึงแล้ว ไม่นึกไม่ฝันว่าวันหนึ่งมังกรจะจูงมือซอจินมาหาแล้วบอกว่ากำลังมีลูก นับว่าเป็นของขวัญก่อนถึงวันคริสมาสต์และปีใหม่ที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้“ไม่ได้หลอกให้คนแก่ดีใจเล่นใช่ไหม”“ซอลท้องจริงๆ ค่ะ ไปตรวจมาแล้ว” เธอพูดยืนยันอีกหนึ่งเสียงด้วยรอยยิ้ม ถ้าพ่อแม่มังกรไม่เชื่อว่าเธอกำลังท้องคงไม่แปลก เพราะที่ผ่านมาทั้งสองคนอยากอุ้มหลาน แต่มังกรก็เอาแต่ปฏิเสธหัวชนฝามาโดยตลอด พอวันนี้มาบอกว่ากำลังมีลูก เป็นใครก็เชื่อไม่ลง“ได้ยินไหมคะคุณ พวกเราสองคนจะได้อุ้มหลานแล้ว”“ยังมีน้ำยาอยู่นิ” พศินขยับเรียวปากพูด หลังจากเงียบไปสองนาน แม้ถ้อยคำที่เปล่งออกมาจะเชิงแขวะลูกชาย หากแต่แววตากลับเต็มไปด้วยความดีใจที่เอ่อล้นออกมา“ผมไม่ได้อ่อนหัดขนาดนั้น”“หึ…”“คุณคะ แบบนี้เราต้องปิดเกาะฉลองแล้วไหมคะ”“นี่ขนาดหลานยังไม่ออกมายังถึงขั้นปิดเกาะฉลอง ถ้าหลานออกมาแ
วันต่อมา@Dragon Casino“กาแฟค่ะ” เธอวางแก้วกาแฟขนาดเล็กลงให้มังกรที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาทำงานด้วยใบหน้าจริงจังมาเฟียหนุ่มละสายตาจากงานไปมองภรรยาสาว ก่อนหน้านี้เคยย้ำซอจินแล้วว่าไม่ต้องทำอะไรอย่างนี้ให้แล้ว เพราะกำลังตั้งครรภ์แต่เธอกลับไม่ยอมฟัง ยังคงดื้อรั้นเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ไม่รู้จะสรรหาคำพูดไหนมาพูดกับคนดื้อคนนี้ดี“เฮียบอกแล้วไงว่าไม่ต้องทำ”“แต่ว่าซอลอยากทำนิคะ”“ทำไมดื้อแบบนี้หืม?” เขาไม่พูดเปล่า แขนกำยำเลื่อนไปรั้งเอวบางของซอจินเข้ามาหากระทั่งบั้นท้ายงอนงามหย่อนลงบนตัก “เวียนหัวไหม”“ไม่ค่ะ”“รู้สึกคลื่นไส้อยากอาเจียนรึเปล่า?”“ยังไม่รู้สึกค่ะ”“ซอลคงทรมานมากน่าดู ถ้าเฮียสามารถแพ้ท้องแทนซอลได้ เฮียก็จะทำ”หัวใจดวงน้อยพองโตเมื่ออีกฝ่ายเอื้อนเอ่ยประโยคชวนอ่อนไหวออกมา ทุกคำพูดของมังกรทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูก ย้อนกลับไปตอนที่เธอเริ่มมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ซึ่งตอนนั้นไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร มังกรดูแลเธอเป็นอย่างดี คอยถามไถ่ตลอดว่าเป็นยังไงบ้าง เขาดูแลและเอาใจใส่ทั้งที่ไม่รู้ว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ ทว่าตอนนี้เขารู้แล้ว เขาก็ยังดูแลเธอเป็นอย่างดีไม่ต่างจากตอนนั้น
วันต่อมา“เฮีย…” เธอดึงแขนมังกรเอาไว้ในตอนกำลังก้าวเท้าเข้าไปในโรงพยาบาล ก่อนหน้านี้ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่พอมาถึงกลับรู้สึกกลัวและวิตกกับอะไรหลายๆ อย่าง“มีอะไรเหรอ?”“ซอลกลัว”มาเฟียหนุ่มเลื่อนมือหนาไปลูบหัวทุยของภรรยาด้วยความอ่อนโยน ริมฝีปากหยักได้รูปคลี่ยิ้ม แววตาซอจินแสดงออกชัดเจนว่าวิตกกังวลมากแค่ไหน“มีเฮียอยู่ด้วยทั้งคน ซอลจะกลัวอะไร”น้ำเสียงทุ้มและสัมผัสอ่อนโยนจากมังกร พลอยทำให้คนเป็นภรรยาคลายความกังวลลงในระดับหนึ่ง หัวใจดวงน้อยพองฟูไปกับการกระทำของสามี ไม่อยากเชื่อเลยว่าผู้ชายป่าเถื่อนในวันนั้น จะกลับกลายเป็นคนอ่อนโยนราวกับไม่ใช่คนเดียวกันในวันนี้…“ไม่ว่าผลตรวจจะออกมาเป็นอะไร เฮียก็จะอยู่ข้างๆ ซอลไม่ไปไหน”“จับมือซอลไว้แน่นๆ ระหว่างที่คุณหมอวินิจฉัยได้ไหมคะ”“หึ แน่นอนอยู่แล้ว” เขายิ้มอีกครั้ง ก่อนจะจูงมือซอจินเดินเข้าไปในโรงพยาบาล คนข้างกายเขาอาจวิตกกังวล หากแต่เขากลับตื่นเต้นก่อนหน้านี้เขาโทรไปปรึกษาคุณแม่ ท่านบอกว่าอาการของซอจินเข้าข่าย ‘อาการแพ้ท้อง’ เพราะตอนคุณแม่อุ้มท้องเขา ท่านเล่าว่ามีอาการแบบเดียวกับซอจิน รู้สึกคลื่นไส้อาเจียน เวียนหัว และติดสามีมากกว่าปกติ เขาภาว
เธอยืนนิ่งอึ้งทำอะไรไม่ถูก ใบหน้าค่อยๆ เบือนมามองเหมันต์ที่ยืนกอดตัวเองไว้แน่น รับรู้ได้ทันทีว่าอ้อมกอดนั้นเริ่มคลายตัวลงหลังจากเสียงปืนสงบลง เขาถูกยิง…“พะ…พี่เหมันต์” เธอเอ่ยเรียกเขาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ไม่นานนักร่างของเขาก็ค่อยๆ ร่วงลงพื้นโดยมีเธอประคองเอาไว้ “ไปลากคอมันมา!!” เสียงของมังกรตะโกนลั่นลานจอดรถเพื่อบอกลูกน้องให้ไปลากตัวเจ้าของเสียงปืนมา ก่อนที่มาเฟียหนุ่มจะวิ่งเข้าไปหาภรรยาก่อนหน้านี้ที่เช็กสินค้าอยู่ เหมันต์ส่งข้อความมาหา บอกว่าคลัซให้คนมาดักซุ่มที่คาสิโนเพื่อจัดการซอจิน พอเขารู้ก็รีบออกตามหาซอจินและบอกให้ลูกน้องตามหาคนของคลัซที่ดักซุ่มอยู่“เจ็บตรงไหนไหม…” เหมันต์เอ่ยถามซอจินด้วยน้ำเสียงสั่นระริก ฝ่ามือใหญ่เลื่อนขึ้นมาเพื่อสัมผัสแก้มใสของคนตรงหน้า ริมฝีปากหยักพยายามคลี่ยิ้มให้อย่างยากลำบาก “ไม่เจ็บใช่ไหม”“ไม่…” เธอส่ายหน้าไปมา ดวงตาทั้งสองคลอเคล้าด้วยของเหลวสีใส ตอนนี้เธอทั้งช็อคและตกใจในเวลาเดียวกัน อีกทั้งยังทำอะไรไม่ถูกอีกด้วยซอจินเงยหน้าขึ้นมองสามี ก่อนจะขยับเรียวปากพูดบางอย่าง“เฮียกรเรียกรถพยาบาล…”“ไม่ต้อง เดี๋ยวเฮียจัดการเอง” เขาพูดแทรกทั้งที่ซอจินยังพูด
@Dragon Casino “แกมีเรื่องสำคัญอะไรอยากคุยกับฉันเหรอ?” พิมฐาเอ่ยถามเพื่อนสาว หนึ่งชั่วโมงที่แล้วซอจินโทรมาหา บอกว่ามีเรื่องสำคัญอยากคุยด้วย โดยบอกอีกว่าให้มาหาที่คาสิโนของมังกร แถมยังย้ำอีกว่าต้องวันนี้เท่านั้น การกระทำของเพื่อนสนิทที่ผิดแปลกไปจากทุกวัน ทำให้ตัดสินใจตอบรับปากซอจินว่าจะมาหา“ฉันมีเรื่องสำคัญมากๆ เรื่องนึงอยากปรึกษาแก” ซอจินขยับตัวเข้าไปใกล้พิมฐาพร้อมเลื่อนมือเล็กไปจับมือเพื่อนสนิท เธอไม่รู้จะปรึกษาใครเรื่องนี้นอกจากพิมฐา ครั้นจะปรึกษามังกรก็ไม่มีความกล้าพอ อีกอย่างไม่อยากรบกวนเขาเพราะช่วงนี้เขาค่อนข้างยุ่งกับงาน“เรื่องอะไรเหรอ?”“ช่วงนี้ฉันรู้สึกคลื่นไส้อาเจียนและเวียนหัวบ่อยมาก เอะอะอยากกินแต่ของเปรี้ยวๆ แถมยังติดกลิ่นคุณมังกรมากๆ แกว่าฉันเป็นอะไรยัยพิม”“แกก็เป็นแกไง”“ไม่ใช่ ฉันหมายถึง อาการที่ฉันเป็นอยู่ตอนนี้อะ ฉันเป็นอะไร”พิมฐานิ่งเงียบไปพักหนึ่งเพื่อครุ่นคิดบางอย่าง ส่วนซอจินก็นั่งรอลุ้นคำตอบจากเพื่อนสาวว่าจะตอบเชิงประมาณไหน ตอนแรกเธอไม่ได้อะไรมากมายกับอาการที่ตัวเองเป็น แต่พอโดนสาวใช้ของบ้านทักท้วงขึ้น เธอก็เริ่มคิดไม่ตกว่าตัวเองอาจจะท้องหรือเปล่า“ว่ายังไ
หลายวันต่อมา“ยังไม่เลิกดูอีกเหรอคะ” ซอจินเดินเข้าไปกอดคอของมังกรที่กำลังนั่งดูใบทะเบียนสมรสที่เพิ่งจดมาหมาดๆ เอ่ยถามสามีด้วยรอยยิ้ม ตั้งแต่กลับมาจากการจดทะเบียนสมรส มังกรก็เอาแต่นั่งมองสิ่งนี้ ก่อนหน้านี้เขาบอกว่าตื่นเต้นมากเพราะนี่เป็นครั้งแรกได้จดทะเบียนสมรส ดูจากท่าทางแล้วเหมือนเขารอคอยสิ่งนี้มานาน เพราะแววตาเขาเอ่อล้นความสุขออกมาอย่างปิดไม่มิด“คิดว่าต้องรอนานกว่านี้ซะอีก”“ได้ทะเบียนสมรสแล้ว ครั้งหน้าจะเอาอะไรอีกคะ” มังกรที่กำลังนั่งมองดูทะเบียนสมรสอยู่ชะงักลงไปเล็กน้อยเมื่อซอจินเอื้อนเอ่ยประโยคนั้นออกมา ริมฝีปากหยักค่อยๆ เหยียดยิ้มเล็กๆ ก่อนจะพูดในสิ่งที่ต้องการกับภรรยา“อยากได้…อยากได้ลูก”“ลูกเหรอคะ?” เธอทวนสิ่งที่มังกรเอ่ยเอื้อนออกมาอีกครั้ง “ใช่ ฉันอยากมีลูกกับเธอ” เขาตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แววตาไม่ได้ส่อแววถึงการแกล้งพูดแต่อย่างใด “เรามามีลูกกันนะซอจิน”“….”“ฉันอยากมีลูกกับเธอ ส่วนเรื่องสัญญาก่อนแต่งงานที่เราสองคนตกลงกัน ฉันไม่สนใจแล้ว” ก่อนแต่งงาน เขาบอกซอจินไว้ว่า เมื่อไหร่ที่เธอมีลูกให้เขาได้ เธอจะเป็นอิสระจากเขาทันที ทว่าตอนนี้ความคิดเหล่านั้นกลับไม่มีอยู่ใ
สองชั่วโมงต่อมาแกร๊กมังกรเปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานหลังจากสะสางธุระส่วนตัวเสร็จแล้วเรียบร้อย สายตาคมเข้มมองไปยังคนตัวเล็กที่กำลังนอนหลับปุ๋ยบนโซฟา ริมฝีปากหยักค่อยๆ เหยียดยิ้มเล็กๆ ก่อนจะตวัดเท้าเดินเข้าไปหาภรรยาจุ๊บริมฝีปากหยักได้รูปประทับลงหน้าผากบางของภรรยา สัมผัสอ่อนโยนจากมาเฟียหนุ่มปลุกให้หญิงสาวเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาจากการหลับใหล “มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ” น้ำเสียงงัวเงียเอ่ยถามมังกร ตอนแรกตั้งใจนั่งดูหนังรอเขา ทว่าทนไม่ไหวเพราะง่วงมากจึงตัดสินใจงีบพักหนึ่ง แต่ไม่คิดว่าตัวเองจะหลับนานขนาดนี้ “เมื่อกี้” เขาตอบ ขณะที่มือกำลังลูบหัวของซอจิน “ถ้าง่วงก็นอนต่อเถอะ” ซอจินดึงตัวเองขึ้นจากโซฟามาสวมกอดมังกร แขนเล็กสอดเข้าไปกอดเอวของเขา วางใบหน้าไว้บนไหล่กว้าง มาเฟียหนุ่มยิ้มให้กับการกระทำนี้ของภรรยา“กอดได้ไหม”“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้” “คิดถึงกันไหม” “หืม?” เขาเลิกคิ้วขึ้นสูง พร้อมส่งเสียงในลำคอด้วยความมึนงงเพราะไม่เข้าใจว่าซอจินกำลังหมายถึงเรื่องอะไร “คิดถึงกันไหม” เธอถามย้ำอีกครั้ง มังกรนิ่งไปพักหนึ่งเพื่อประมวลสิ่งที่ภรรยาต้องการสื่อ ก่อนจะเริ่มเข้าใจว่าเธอกำลังหมายถึงเรื่องอะไร ซอจิน