'ไม่เหมาะสม'
คำคำ นี้ ลอยอยู่ในหัวสมองของมิลานนานอยู่นับชั่วโมงตั้งแต่เธอเดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าก้าวขาขึ้นรถประจำทางความคิดของเธอก็ยังไม่ได้หลุดพ้นจากเรื่องนี้ หนึ่งชั่วโมงในก่อนหน้านี้เธอยังได้มีเวลาอยู่ใกล้กันกับเขาราวกับว่าเธอกำลังฝัน แต่ดูเหมือนว่าความสุขในความฝันของเธอจะอยู่ได้ไม่นานเมื่อมีเสียงเพลงคนที่เหมาะสมกับราเชนทร์เข้ามาปลุกให้เธอได้ตื่นขึ้นมาเผชิญกับความเป็นจริงเสียก่อน "หนูกลับมาแล้วค่ะแม่"แม้ข้างในจะรู้สึกเจ็บปวดแต่เธอต้องเก็บมันเอาไว้ มิลานในชุดนักเรียนเดินเข้าไปในตัวบ้านซึ่งตอนนี้กำลังมีร่างของมารดาซึ่งเธอก็พึ่งจะกลับมาจากการขายขนมจากตลาดเช่นเดียวกัน "หิวไหมลูกแม่ซื้อก๋วยเตี๋ยวน้ำตกที่หนูชอบมาด้วยนะ" "ขอบคุณนะคะ หนูกำลังหิวอยู่พอดีเลย"เธอวางกระเป๋าสะพายลงบนโซฟาตัวเล็กก่อนเด็กสาวจะเดินเข้าไปกอดร่างของมารดา ทั้งสองใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมา แม้เธอจะเกิดมาแล้วมีแต่ผู้เป็นแม่ที่คอยเลี้ยงดูไม่ได้รวยล้นฟ้าแต่เธอกลับไม่รู้สึกว่าตัวเองขาดแคลนอะไรเลยสักนิด "มิลานของแม่ จะอ้อนเอาอะไรคะ" "เปล่าค่ะ หนูแค่อยากกอดแม่เฉย ๆ " "น่ารักจังเลยลูกสาวคนสวยของแม่"จมูกโด่งของมารดากดลงสูดดมความหอมบนศีรษะของบุตรสาวด้วยความรัก อุษณีย์มารดาของมิลานซึ่งแม้อายุจะย่างเข้าเลขห้าแต่เธอก็ยังคงดูดีแม้เธอจะดำรงทำอาชีพแม่ค้าแต่ก็ใช่ว่าเธอจะดูโทรมหรือมีริ้วรอยบนใบหน้าเหมือนกับคนที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน "ใกล้จะสอบเสร็จแล้วหรือยังคะคนเก่งของแม่" "พรุ่งนี้สอบอีกวันเดียวก็จะเสร็จแล้วค่ะ"อุษณีย์พยักหน้ารับรู้ "แล้วหนูคิดเอาไว้แล้วหรือยังว่าจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ไหน"คำถามนี้ทำให้มิลานชะงักไปชั่วขณะ เธอดันตัวออกจากอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นพลางเงยหน้าสบตามารดา "แม่คะ" "ว่าไงลูก" "หนูไม่อยากเรียนต่อแล้วค่ะ" "มิลาน หนูพูดอะไรออกมารู้ตัวหรือเปล่า"อุษณีย์ดีดตัวลุกขึ้นนั่งหลังตรง เธอเอ่ยถามลูกด้วยน้ำเสียงตกใจเพราะไม่คิดว่าลูกสาวของเธอที่ชื่นชอบในการเล่าเรียนถึงได้คิดในเรื่องนี้ "หนูคิดดีแล้วค่ะแม่ หนูอยากออกมาช่วยแม่ขายของหนูไม่อยากให้แม่ต้องเหนื่อยลำบากหาเงินส่งหนูเรียนเพียงลำพัง"แม้ว่าความหวังของเธอคือการเรียนจบสูง ๆ เพื่อจะได้หางานดี ๆ ทำจะได้มีเงินมาให้มารดาท่านจะได้หยุดขายขนมไม่ต้องออกไปตากแดดทนร้อนเหมือนทุกวันนี้ "หนูไม่อยากให้แม่ต้องมาลำบากเพราะหนูอีกต่อไป" "โถ มิลานลูก"อุษณีย์ดึงร่างของลูกสาวเข้ามากอด เธอร้องไห้ออกมาเมื่อได้ยินคำพูดของลูกสาว ความปวดร้าวมันบาดลึกฝังอยู่ในใจ ถ้าเธอไม่คิดที่จะเดินหนีออกมาจากชีวิตของสามีในวันนั้นป่านนี้ชีวิตของเธอกับลูกก็คงไม่ต้องมาทุกข์ลำบากเหมือนกับทุกวันนี้ มิลานก็คงไม่ต้องถูกตราหน้าว่าเป็นลูกสาวแม่ค้าขายขนม มีแม่เป็นเพียงแค่แม่ค้าจน ๆ คนเป็นแม่รู้สึกผิดขึ้นมาทันทีที่ตนเองพาลูกสาวมาอยู่อย่างยากลำบาก เมื่อก่อนเธอมีอาชีพเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน การที่เธอได้ทำอาชีพนั้นมันทำให้เธอได้ไปทั่วเที่ยวโบยบินไปรอบโลก จนได้มาพบรักกับหนุ่มตาน้ำข้าวที่เมืองมิลาน เขาและเธอตกหลุมรักกันตั้งแต่แรกเจอ ความสุขของเธอคือช่วงที่ได้มีเวลาอยู่กับเขา เราสองคนอยู่ด้วยกันใช้เวลาวันที่ว่างอย่างมีคุณค่า คำว่ารักจากปากของเขาที่บอกเธอมาเธอสัมผัสได้ถึงความจริงจังและจริงใจ แต่ความรักของเราทั้งสองต้องจบลงเพราะเหตุผลบางอย่างที่มันเกินกว่าเธอจะรับไหวและเมื่อเธอได้ตัดสินใจขอจบความสัมพันธ์แล้วหันหลังเดินออกมาอุษณีย์ก็พบว่าคนที่เธอรักได้ฝากอีกหนึ่งชีวิตไว้ในร่างกายของเธอ ถ้าหากวันนี้เธอไม่หุนหันพลันแล่น มิลานลูกสาวของเธอก็คงไม่ต้องมาใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความลำบากเช่นนี้ "มิลานลูก" "คะ" "เรื่องเรียนลูกไม่ต้องเป็นห่วงนะ ลูกอยากจะเรียนคณะอะไรแม่ขอให้ลูกตั้งใจสอบให้เต็มที่"ความมุ่งมั่นในแววตาของมารดาทำให้มิลานรู้สึกชะงักไปเล็กน้อย เด็กสาวที่ไม่เคยรู้เรื่องราวของครอบครัวในอดีตที่ผ่านมาได้แต่นั่งมองหน้าของมารดาด้วยความไม่เข้าใจ "เข้าใจที่แม่บอกหรือเปล่า ไม่ว่าลูกอยากจะเรียนคณะอะไรก็ทำให้เต็มที่" "แม่คะ แต่เรา" "เรื่องค่าใช้จ่ายลูกไม่ต้องเป็นห่วง" "..." "เพราะต่อไปนี้แม่จะไม่ยอมให้หนูต้องมาทนอยู่อย่างยากลำบากอีกแล้ว"ผู้ชายเลวระยำอย่างโรเบิร์ต เลียม ต้องได้รับรู้เสียทีว่าเลือดเนื้อเชื้อไขที่เขาอยากได้ตอนที่ยังคบกับเธอได้ถือกำเนิดเกิดขึ้นแล้ว "หนูขึ้นไปพักผ่อนก่อนนะมิลาน แล้วไม่ต้องคิดมากถึงเรื่องนั้นแม่จะจัดการทุกอย่างให้หนูเอง" "ค่ะ"แม้จะไม่เข้าใจแต่มิลานก็ยังคงทำตามคำที่มารดาบอก เด็กสาวคว้ากระเป๋าสะพายเดินขึ้นไปยังห้องพักของตนเองที่อยู่บนชั้นสองโดยมีสายตาของอุษณีย์มองตามแผ่นหลังเล็ก ๆ ของลูกสาวด้วยแววตารักใคร่และเอ็นดู อุษณีย์เดินขึ้นมาบนห้องพักของตนเองซึ่งแยกออกจากลูกสาว เธอจัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ให้มันดูสดใสเครื่องสำอางที่เก็บไว้ในตู้หลายปีถูกรื้อค้นออกมาใช้ อดีตพนักงานต้อนรับบนเรื่องบินของสายการบินชื่อดังได้เปลี่ยนแปลงตัวเองในรูปโฉมใหม่ แม้อายุจะเข้าใกล้เลขห้าแต่ว่าผิวหน้าผิวเนื้อตามร่างกายยังคงเต่งตึงไม่หย่อนยานแม่เวลาจะล่วงเลยผ่านไปนาน "ไม่รู้ว่าคุณจะยังใช้งานมันอยู่ไหม"แอปพลิเคชันที่เขาฮิตกันทั่วโลกซึ่งอดีตเธอและเขาก็ได้เข้าถึงวิวัฒนาการของมัน อุษณีย์จัดการเปิดบัญชีเก่าที่เธอปิดไว้ไปนานก่อนจะจัดการนอนคว่ำเอียงหน้าสี่สิบห้าองค์ปัดเส้นผมนุ่มสลวยให้ลงมาปรกหน้าก่อนเธอจะจัดการถ่ายรูปแล้วโพสต์ลงบนinstagramพร้อมกับใส่แคปชั่นว่า 'พร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่' แม้จะไม่ได้เปิดบัญชีใช้มานานแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีใครผ่านเข้ามาเจอเธอมองบรรดาเพื่อนเก่าทยอยเข้ามากดไลค์แต่ยังไม่เห็นวี่แววว่าอดีตคนรักอย่างโรเบิร์ตจะเข้ามา ความสวยของเธอเป็นที่โดดเด่นสะดุดทุกสายตาเพราะอดีตเธอก็ฮอตอยู่ไม่น้อยถ้าไม่เช่นนั้นพ่อของมิลานคงไม่ตามหึงตามหวงหลงรักเธอหัวปักหัวปำแบบนั้นหรอก แต่อย่างที่บอกผู้ชายมันก็เหมือนเสือไม่สิ้นลายต่อให้เขามีเธออยู่แล้วก็ไม่แคล้วไปคว้าดอกไม้ข้างทางมาให้ความสุข "แม่จะทำเพื่อหนูนะมิลาน" ครืด โรเบิร์ต เลียม กดถูกใจรูปถ่ายของคุณ"มิลานพวกฉันสองคนต้องขอโทษเธอจริง ๆ นะ""ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ได้โกรธอะไรพวกเธอเลยจริง ๆ ""แต่ถึงยังไงพวกฉันสองคนก็ยังรู้สึกผิดอยู่ดี"บทสนทนาของเพื่อนรักทั้งสามดังขึ้นนานอยู่หลายนาที เนื่องจากเพื่อนทั้งสองไม่ได้มาตามนัดจนทำให้ทั้งคู่เกิดความไม่สบายใจกลัวว่ามิลานจะโกรธ"เราไม่เป็นไรจริง ๆ เธอสองคนไม่ต้องคิดมากนะ""จริง ๆ นะ"ลูกคุณหนูทั้งสองแววตาเปล่งประกาย"แต่เธอต้องบอกฉันมาก่อนว่าทำไมถึงไม่ยอมไปตามนัด ทำไมถึงปล่อยให้ฉันต้องอยู่กับราเชนทร์สองคน"มิลานนั่งมองหน้าจอโทรศัพท์เครื่องเก่าซึ่งบนหน้าจอสามารถมองเห็นปฏิกิริยาของเพื่อนทั้งสองผ่านการวิดีโอคอลได้"เรื่องนี้ฉันไม่เกี่ยวนะ เป็นความคิดของยัยมีนาล้วน ๆ "กุ๊กไก่โบกมือไปมาเพราะเธอเองก็ถูกมีนาสั่งห้ามจนต้องใช้ให้คนขับรถอย่างกราฟฟิกพาเธอมาส่งที่บ้านแทนที่จะมุ่งหน้าไปห้างสรรพสินค้าตามที่นัดกันไว้"ว่าไงมีนา""ก็ฉันอยากให้เธอได้มีเวลาอยู่กับคนที่เธอชอบนี่"เด็กสาวคนคิดแผนนี้ขึ้นมาพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง"ฉันคิดว่าการเปิดทางให้เธอได้อยู่กับราเชนทร์เพียงแค่สองคนมันจะทำให้เธอได้มีโอกาสบอกชอบหมอนั่น เธออย่าโกรธฉันเลยนะมิลาน""ฉันไม่โกรธเธอหรอก อย่
"มิลานไปซื้อกับพวกฉันสองคนไหม""ไม่ล่ะ พวกเธอสองคนไปกันเถอะฉันอยากกลับไปนอนพักผ่อนมากกว่า"มิลานตอบปฏิเสธดั่งเช่นทุกครั้ง วันนี้เธอรู้สึกอยากกลับบ้านไปนอนพักผ่อนเสียมากกว่า"ถ้าอย่างนั้นเราแยกกันตรงนี้เลยนะ เจอกันวันเดินทาง"แม้เพื่อนทั้งสองอยากให้มิลานออกไปเปิดหูเปิดตาแต่ทว่าพูดเธอก็ไม่กล้าที่จะเซ้าซี้เพราะดูจากสีหน้าแล้วมิลานคงจะเหนื่อยจริง ๆ ทั้งสามโบกมือลาตรงใต้อาคารเรียน เพื่อนทั้งสองเดินไปขึ้นรถของทางบ้านมีนาซึ่งตอนนี้คนขับรถมาจอดรออยู่ก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนมิลานเธอทำได้เพียงแค่เดินเท้าไปข้างหน้าอย่างเชื่องช้าในเวลาบ่ายคล้อยนักเรียนหลายคนทยอยกลับกันไปใกล้จะหมด สายตากวาดมองบริเวณโดยรอบอย่างต้องการจดจำเพราะอีกไม่กี่วันเธอก็จะไม่ได้เห็นภาพเหล่านี้อีกแล้ว"เธอนี่พูดไม่รู้เรื่องเลยนะ"น้ำเสียงขึงขังดังมาจากทางด้านหน้าทำให้มิลานหยุดชะงักอยู่ตรงมุมตึกซึ่งเป็นจุดอับไม่มีใครได้เห็น"เสียงเพลง"มิลานเรียกชื่อของคนที่ยืนขวางเอาไว้ด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาเมื่อเห็นร่างเล็กของเสียงเพลงและเพื่อนอีกสองคนของเธอเดินมาขวางทางเอาไว้"นี่น่ะเหรอสภาพของคนที่ชอบราเชนทร์ของแกมาตั้งหลายปี ดูไม่จืดเลยนี่""หน้า
อุษณีย์นั่งนิ่งอยู่บนโซฟาดวงตากำลังมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือ หญิงสาววัยกลางคนสลัดคราบแม่ค้าขายขนมออกวันนี้เธอแต่งตัวด้วยชุดที่ดูดีเพื่อรอเวลาให้อดีตคนรักติดต่อกลับมาหลังจากเธอลงรูปถ่ายให้เขาได้รู้ว่าเธอยังมีตัวตนครืด ครืดโทรศัพท์เครื่องเก่าส่งเสียงแผดร้องแม้จะยังใช้ได้แต่มันก็ผ่านการใช้มาอย่างยาวนาน หญิงสาววัยกลางคนนั่งนิ่งเธอนับหนึ่งถึงสิบอยู่ภายในใจก่อนจะยื่นมือไปคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสายก่อนอดีตพนักงานต้อนรับของสายการบินชื่อดังจะกรอกน้ำเสียงเรียบนิ่งให้ปลายสายได้ยิน"ฮัลโหล""โอ้ว ที่รัก เดซี่คุณจริง ๆ ด้วย"น้ำเสียงดีใจของอีกฝ่ายลอยผ่านสายโทรศัพท์ โรเบิร์ต เลียม แทบจะเก็บความดีใจเอาไว้ไม่ไหวเมื่อเขาสามารถติดต่อคนรักได้ในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมาน้ำตาของลูกผู้ชายไหลออกมาอย่างเงียบ ๆ เขาพยายามเก็บเสียงสะอื้นไม่ให้เธอได้ยิน ความตื่นเต้นดีใจมันจุกอก"เดซี่ คุณสบายดีหรือเปล่า ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนผมคิดถึงคุณเหลือเกินที่รัก""..."หญิงสาวเงียบคำพูดในก่อนหน้านี้ถูกกลืนหายเมื่อเธอได้ยินเสียงของชายคนรัก "ที่รัก ผมคิดถึงคุณเหลือเกินตั้งแต่คุณหนีไปไม่มีวันไหนที่ผมจะกินอิ่มแล้วหลับตานอนได้""..."
อุษณีย์มองหน้าลูกสาวด้วยความเจ็บปวด เธอเลี้ยงมิลานมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยไม่ตบไม่เคยตีสักครั้ง มิลานเป็นเด็กดีเชื่อฟังผู้ใหญ่เธอเชื่อสนิทใจว่าลูกสาวที่น่ารักไม่มีทางทำร้ายใครก่อนอย่างแน่นอน"แม่จะทวงคืนความยุติธรรมให้กับหนูเองนะมิลาน"อุษณีย์คว้ามือเรียวเล็กของลูกสาวในวัยสิบแปดปีขึ้นมากุมอย่างแผ่วเบา แม้มิลานจะโตเป็นสาวสะพรั่งแต่ในสายตาของเธอลูกสาวของเธอก็ยังคงเป็นเด็กน้อย"มิลานจำได้ไหม เมื่อตอนเด็ก ๆ มิลานเคยถามหาพ่อกับแม่อยู่ตลอดเลยนะว่าพ่อเป็นใคร""...""รีบตื่นขึ้นมานะลูก ตอนนี้พ่อกำลังเดินทางมาหาเราสองคนแล้วนะ"คนเป็นแม่เจ็บปวดหัวใจเมื่อได้เห็นร่างกายของลูกเต็มไปด้วยบาดแผล "มีนาแกติดต่อมิลานได้ไหม"อีกด้านหนึ่งของเมืองหลวงในยามค่ำคืนมีสองสาวเพื่อนสนิทกำลังต่อสายพูดคุยถึงการหายไปของเพื่อนสนิทอีกคน ทั้งสองพยายามต่อสายหามิลายแต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้"ฉันโทรหามิลานเป็นสิบ ๆ สายแต่ก็ไม่ติด""ฉันก็เหมือนกัน นี่กะว่าจะอวดชุดใส่ไปเที่ยวให้ดูซะหน่อย"ทั้งกุ๊กไก่และมีนาต่างซื้อเสื้อผ้าสำหรับใส่ไปเที่ยวมาให้เพื่อนรักแต่ตอนนี้ทั้งคู่กลับไม่สามารถติดต่ออีกฝ่ายได้จนเกิดความรู้สึกกังวลภายในใจ"แกว่าม
อุษณีย์ไม่สามารถข่มตาให้นอนหลับลงได้เมื่อพิษไข้เล่นงานลูกสาวของเธอตลอดทั้งคืน เนื้อตัวของมิลานร้อนดั่งไฟคนเป็นแม่กระวนกระวายแทบจะอยู่ไม่เป็นสุข 'ฮึก อย่าทำฉัน'คนบนเตียงนอนละเมอออกมาด้วยความหวาดกลัวราวกับว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ได้กลายเป็นฝันร้ายสำหรับลูกสาวของเธอไปเสียแล้ว "หมอได้ฉีดยาแก้ปวดกับยาลดไข้ให้กับคนไข้แล้วนะครับ" "ขอบคุณมากนะคะหมอ" "ไม่เป็นไรครับมันเป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้ว ถ้าหากญาติต้องการความช่วยเหลืออะไรสามารถกดกริ่งเรียกพยาบาลได้ตลอดเวลาเลยนะครับ" "ค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ"หมอเจ้าของไข้เดินออกไปหลังจากตรวจอาการและดูบาดแผลตามร่างกายของคนไข้ คงต้องใช้เวลาในการรักษากว่าจะหายดี อุษณีย์เดินเข้าไปใกล้ลูกสาวเธอบรรจงใช้ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กเช็ดไปตามร่างกายของมิลานด้วยความแผ่วเบาเพราะกลัวว่าถ้าหากทำรุนแรงจะไปโดนแผลเข้า "แม่ขอโทษนะลูกที่แม่ดูแลหนูไม่ดี"เธอรู้สึกโทษตัวเองยิ่งเห็นบาดแผลเต็มตัวลูกสาวยิ่งทำให้เธอนึกโกรธตัวเองมากยิ่งขึ้นที่ไม่สามารถปกป้องดูแลลูกสาวเพียงคนเดียวได้ ครืด ครืด ครืด โทรศัพท์เครื่องเก่าของหญิงสาววัยกลางคนมีสายเรียกเข้า อุษณีย์เงยหน้ามองนาฬิกาซึ่งติด
ทางกุ๊กไก่และมีนาต้องพบกับความผิดหวังเมื่อทั้งสองเดินทางมาถึงตลาดแต่กลับไม่พบวี่แววของร้านขายขนมซึ่งเป็นร้านขายขนมของมารดามิลาน "ทำยังไงดีล่ะมีนา พวกเราสองคนยังติดต่อมิลานไม่ได้เลยนะ""ไปหาที่บ้านดีไหม""แต่เราไม่รู้เลยนะว่าบ้านของมิลานอยู่ตรงไหน""ถามคนแถวนี้เอาก็ได้ ไปเถอะยังไงวันนี้เราสองก็จะต้องได้เจอมิลาน"มีนาผู้ไม่มีความย่อท้อ เธอเปิดรูปถ่ายของมิลานก่อนสองสาวจะเดินไปถามชาวบ้านแถวนั้นด้วยความกระตือรือร้น"หลังนี้เหรอ""อืม ไม่ผิดแน่นอนแต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีคนอยู่"ลูกคุณหนูทั้งสองยืนมองแผ่นกระดาษซึ่งเป็นแผนที่มาบ้านของมิลานซึ่งเธอทั้งสองได้มาจากคนขายของในตลาดประตูบ้านปูนถูกปิดบรรยากาศโดยรอบเงียบสงัดมีบ้านของคนอื่นตั้งห่างออกไปแม้ว่ามันจะไม่ได้เปลี่ยวมากแต่ก็ใช่ว่าจะไม่น่ากลัว"เคาะประตูเรียกดูก่อนเอาไหม""เอาอย่างนั้นก็ได้"ก๊อก ก๊อก ก๊อก"ขอโทษนะคะ มีใครอยู่หรือเปล่าคะ"เงียบ ไร้เสียงขานตอบกลับมาจนทั้งคู่ต้องหันมองหน้า กุ๊กไก่อาสาเคาะประตูเรียกคนในบ้านอีกครั้งและผลตอบรับก็เหมือนเช่นเดิม"แปลก ไม่มีใครอยู่บ้านเลย""มิลานก็ยังติดต่อไม่ได้อีกด้วย""แล้วเราสองคนจะไปหามิลานที่ไหนดี ชั
บรรยากาศภายในห้องพักตกอยู่ในความเงียบ ความจริงที่มิลานรับรู้ว่าผู้ชายตรงหน้าคือพ่อแท้ ๆ ผู้ให้กำเนิดมันกำลังทำให้เธอจุกอยู่ในอก เธอไม่รู้ว่าจะอธิบายความรู้สึกในตอนนี้ออกมายังไงดี มันมีทั้งความตื่นเต้นดีใจและน้อยใจปะปนกันไปหมด"พ่อเหรอคะ"เธอมองผู้ชายวัยกลางคนตรงหน้าด้วยดวงตาที่สั่นไหว เด็กสาวพยายามพยุงกายลุกขึ้นนั่งโดยมีมารดาคอยช่วยอยู่อีกแรงส่วนโรเบิร์ตเขาได้แต่ยืนนิ่งยิ่งเขาเห็นดวงตากลมโตสึขใสคู่นั้นของลูกสาวสั่นเครือขาทั้งสองข้างก็อ่อนแรงลงเอาเสียดื้อ ๆ จนไม่มีแม้แต่แรงจะก้าวไปข้างหน้าแม้ตนเองอยากจะคว้าร่างเล็กมากอดสักแค่ไหนก็ตาม"ผู้ชายคนนี้คือพ่อแท้ ๆ ของหนูเหรอคะแม่""ใช่จ้ะ โรเบิร์ตเขาคือพ่อแท้ ๆ ของลูก มิลาน""...""มันเป็นความผิดของแม่เองที่ทำให้หนูขาดความอบอุ่นจากพ่อตั้งแต่เล็กจนถึงตอนนี้ ตอนนั้นพ่อกับแม่เราสองคนมีปัญหากันแม่ก็เลยหนีพ่อมาอยู่ที่เมืองไทยและไม่คิดจะติดต่อกลับไปแม้แต่เรื่องที่แม่เองก็รู้ดีว่ากำลังมีหนูอยู่ในตอนนั้น""...""แม่ขอโทษนะลูก ถ้าไม่ใช่เพราะความใจร้อนของแม่หนูก็คง...""ไม่เป็นไรเลยค่ะ หนูไม่เป็นไร"มิลานส่ายหน้าเธอฉีกยิ้มบาง ๆ ออกมาแม้ว่าจะยังรู้สึกเจ็
"พ่อกับแม่ไปอยู่ที่อิตาลีเถอะค่ะหนูอยู่คนเดียวที่นี่ได้ สบายมาก"นี่คือคำพูดของลูกสาวในวันที่เธอเดินทางออกจากโรงพยาบาลกลับมายังบ้านพัก ทันทีที่มิลานพูดจบโรเบิร์ตก็ทำการกวาดสายตามองไปรอบบริเวณบ้านโดยทันที"ถ้าลูกอยู่ที่นี่แม่ก็จะอยู่ที่นี่กับลูกด้วย""แม่คะ"มิลานจ้องหน้ามารดาด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก"ตลอดสิบแปดปีที่ที่แม่เลี้ยงมิลานมา มิลานรู้ว่าแม่เหนื่อยมาตลอด""...""แม่ต้องอดทนต่อสู้ต่อความเหนื่อยเพื่อเลี้ยงมิลานมา มิลานต้องทนเห็นแม่ทำขนมดึก ๆ แล้วต้องรีบตื่นเอาขนมออกไปขายตั้งแต่เช้าตั้งแต่มิลานจำความได้"ดวงตาของคนเป็นแม่สั่นเครือเพราะสิ่งที่ลูกสาวพูดออกมามันคือความจริงทุกอย่าง"มิลานอยากให้แม่ได้พักบ้าง มิลานอยากให้แม่ได้มีความสุขกับพ่อ""โถ มิลานลูก"อุษณีย์น้ำตาไหลเธอไม่นึกเลยว่าลูกสาวของเธอจะมีความคิดเป็นเหมือนผู้ใหญ่ได้ถึงขนาดนี้"แม่ควรหาความสุขให้กับตัวเองได้แล้วนะคะ มิลานอยู่ที่นี่ได้สบายมากแม่ไม่ต้องเป็นห่วง""แต่ถ้าลูกคิดจะเรียนต่อที่นี่เราคงต้องมีข้อต่อรองกันนะลูกรัก"สองแม่ลูกหันหน้าไปมองร่างสูงใหญ่ของชายวัยกลางคนซึ่งกำลังยืนนิ่งคิ้วเข้มทั้งสองข้างขมวดเข้าหากัน
"ฉันขอเลียมันนะ""อะ...อื้อ"เสียงครางในลำคอเล็กดังขึ้นเมื่อปลายลิ้นแตะลงบนเนื้อสาวผ่านผิวผ้าบางของกางเกงในสีขาว ใบหน้าของหญิงสาวแดงระเรื่อมีเหงื่อซึมไหลลมหายใจเริ่มหนักหน่วง ตรงช่วงล้างกำลังมีปลายลิ้นร้ายของชายหนุ่มปาดซ้ายเลียขวาเรียกน้ำหวานให้ซึมไหลออกมา"อ๊าส์ ซี๊ด""หวานมากเลยมิลาน"เขาเอ่ยชมก่อนจะก้มลงไปจัดการกับเนินเนื้อของเธอต่อ มิลานน้ำตาคลอเธอยืนขาสั่นเกร็ง ยิ่งเขาเร่งตวัดปลายลิ้นถี่มากเท่าไหร่ยิ่งทำให้เธออ่อนแรงจนแทบจะยืนไม่ไหว"ราเชนทร์ อ๊าส์ เบาหน่อย อื้อ หยุดก่อน"เธอรีบเอ่ยปรามเมื่อรู้สึกว่าเหมือนตัวเองจะปลดปล่อยบางสิ่งบางอย่างออกมาแต่ทว่าชายหนุ่มกลับไม่คิดจะหยุด ราเชนทร์ใช้นิ้วสากของตัวเองเกี่ยวขอบกางเกงในตัวบางให้มาอยู่ตรงกลางกลีบอูม กลีบขาวสีขาวสวยทั้งสองฝั่งรัดกางเกงในตัวบางดันทรงให้เม็ดสวยเด้งขึ้นมาล่อตาล่อใจซึ่งมันเกินกว่าที่ชายหนุ่มจะอดใจไหวได้เม็ดสวยสีชมพูแนบไปกับกางเกงในสีขาวตัวบางจนเห็นเป็นรูปทรงสวย ราเชนทร์ฉวยโอกาสในตอนที่เธอเผลอโน้มหน้าเข้าไปฉกชิมความหอมหวานจากติ่งสวยของเธอจนมิลานดิ้นพล่านแผล็บ แผล็บ แผล็บ"อ๊าย ราเชนทร์ ฉันทนไม่ไหวแล้ว อื้อ""ก็ไม่ต้องทน ปล่
"พ่อกับแม่ไปก่อนนะ แล้วก็อย่าลืมเรื่องหลานนะพ่อกับแม่แก่แล้วอยากอยู่บ้านเลี้ยงหลานมากกว่า"มิลานเขินอายจนหน้าแดงเมื่อมารดาทั้งของเธอและทั้งของชายหนุ่มพูดแบบนั้นออกมา แม้ว่าพวกท่านทั้งสี่จะเดินออกไปจากห้องหอของเธอในคืนนี้ได้สักพักแล้วแต่มิลานก็ยังคงเขินอายจนไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมองสามีหมาด ๆ ของตัวเธอพรึ่บ"อุ๊ย"มิลานร้องอุทานเมื่อฝ่ามือใหญ่ของสามีอย่างราเชนทร์แตะลงบนท่อนแขนเปลือย "เป็นอะไรเหรอ""ปะ...เปล่า เราไม่ได้เป็นอะไร"เธอตอบชายหนุ่มออกไปด้วยน้ำเสียงซึ่งไม่ค่อยจะมั่นคงสักเท่าไหร่ สายตาเหลือบมองไปยังท่อนแขนซึ่งยังมีฝ่ามือใหญ่ของชายหนุ่มสัมผัสอยู่"ไม่ได้เป็นอะไรแล้วทำไมตัวสั่นล่ะ หรือว่าเธอกลัว""กะ...ก็""ถ้าเธอกลัว ฉันจะรอให้ถึงวันที่เธอพร้อมก็ได้นะ"เพราะเขาเองก็ไม่อยากฝืนน้ำใจของเธอเหมือนกันแม้ว่าคืนนี้มันจะเป็นคืนสำคัญระหว่างเขาและเธอ"ไม่ใช่อย่างนั้นนะ"มิลานรีบหันตัวใช้ฝ่ามือคว้าท่อนแขนของชายหนุ่มเอาไว้เมื่อเขาดึงฝ่ามือออกจากท่อนแขนของเธอชายหนุ่มหันมามองหน้าภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายปล่อยให้เธอเดินเข้ามาสวมกอดโดยไม่คิดจะผลักเธอออกไปเพราะเรื่องแบบนี้เขาเข้าใจมันดี"คือฉันแค่กลั
'จับมือแล้วเดินกันไปด้วยกันนะ'คำคำนี้พวกเขาทั้งสองมักจะบอกต่างฝ่ายเอาไว้เสมอยามเมื่อต้องเจอเรื่องที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกัน ซึ่งเรื่องเหล่านั้นมันก็จะเกิดขึ้นในชีวิตซึ่งมันเป็นเรื่องปกติสำหรับคู่ของใครหลาย ๆ คนซึ่งหนึ่งในนั้นมันก็เป็นคู่ของเขาแต่ไม่ว่าทั้งสองจะเจอปัญหาอะไรต่างฝ่ายต่างก็ไม่คิดจะเดินหันหลังหนีให้พวกเขาทั้งสองจะใช้เวลาในการปรับความเข้าใจเพราะว่าการทำแบบนี้มันดีกว่าการเดินหนีปัญหาแล้วปล่อยให้คนรักคิดหนักไปต่าง ๆ นานา การเดินหนีปัญหาแล้วปล่อยให้อีกฝ่ายต้องมานั่งจมอยู่กับความคิดมันไม่ใช่ทางเลือกของทั้งสองคน ทั้งราเชนทร์และมิลานจับมือครองรักกันมายาวนานจนถึงสี่ปีตั้งแต่ปีหนึ่งจนถึงปีสี่ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับทั้งสอง คู่รักแห่งปีไม่เคยมีข่าวเสียหายเพราะต่างฝ่ายต่างให้ความสำคัญและยึดมั่นกับคนรักมากกว่าใคร วันรับปริญญาคือวันส่งท้ายการใช้ชีวิตอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยที่ราเชนทร์ได้มอบของขวัญสุดพิเศษให้กับแฟนสาวของเขา"แต่งงานกับเชนทร์นะ"น้ำตาของคนถูกขอแต่งงานอย่างมิลานแทบจะไหลทะลักอวดโชว์กลางสายตานับกว่าร้อยชีวิต มิลานทั้งรู้สึกเขินอายและอยากจะร้องไห้ในเวลาเดียวกัน เธอไม่ทั
ความรู้สึกของทั้งสองตลอดระยะเวลาหลายปีถูกปลดปล่อยมันออกมา ภาพที่ทั้งสองเคยคิดอยู่ในหัวตอนนี้มันได้เป็นจริงเสียแล้ว การคบหาของมิลานและราเชนทร์เป็นที่รับรู้ของทั้งสองครอบครัว เพราะหลังจากราเชนทร์จัดเซอร์ไพรส์มอบเกียร์วิศวะให้กับมิลานในเย็นวันนั้นรุ่งเช้าเขาก็พาเธอเข้าไปพบพ่อแม่ที่บ้านหลังใหญ่เรียกว่าการเปิดตัวคนรักของลูกชายในครั้งนี้ทำเอาคุณสุชาดาและคุณหญิงเพียงเพ็ญแทบจะตั้งตัวรับไม่ทัน'นี่มิลานครับ เธอเป็นแฟนของผม''...''เธอคือคนที่ผมเลือกแล้ว'ราเชนทร์มองตาผู้เป็นบิดา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาก้าวขาเข้ามาเหยียบในบ้านหลังนี้หลังจากเกิดเหตุการณ์ครั้งนั้นซึ่งมันก็ผ่านมานานหลานเดือนบรรยากาศการของพบหน้าบิดามารดาของแฟนหนุ่มแม้มันจะดูผิดแปลกแต่มิลานก็สัมผัสได้ว่าท่านทั้งสองไม่ได้นึกรังเกียจเธอ และบางครั้งเธอก็แอบเห็นแววตาของท่านสุชาดาแอบมองบุตรชายอยู่บ่อยครั้งเหมือนกับว่ามีเรื่องบางอย่างอยากจะพูดด้วย'ขนมฝีมือคุณน้าอร่อยจังเลยนะคะ ไม่ทราบว่าขนมแบบนี้เขาทำกันยังไงเหรอคะ หนูอยากลองทำบ้างเผื่อวันว่าง ๆ จะได้ทำให้ราเชนทร์ได้ทาน''หนูอยากทำเหรอจ๊ะ''ค่ะ หนูอยากทำ'มารดาของราเชนทร์ยิ้มออกมาก่อนท่านจะ
"ทำไมรีบกลับจังเลยล่ะคะไม่อยู่กับหนูก่อนเหรอ"น้ำเสียงออดอ้อนของมิลานดังขึ้นเมื่อรถตู้คันหรูเคลื่อนตัวมาจอดยังสนามบิน ร่างเล็กของมิลานเข้าไปกอดบิดามารดาด้วยความคิดถึงอีกครั้งวันนี้ตลอดทั้งวันเธอได้ใช้เวลาอยู่กับท่านทั้งสองส่วนแฟนหนุ่มอย่างราเชนทร์ได้เดินทางกลับคอนโดเพื่อกลับไปเตรียมตัวสำหรับการประชุมรับน้องในวันนี้"เอาไว้พ่อเคลียร์เรื่องงานเสร็จเมื่อไหร่พ่อกับแม่จะรีบเดินทางมาหาหนูนะลูก""จริงนะคะ""จริงสิ แต่ถ้าลูกอยากจะเดินทางไปหาพ่อกับแม่ที่นั่นก็ได้นะพ่อจะได้ส่งเครื่องบินมารับ"โรเบิร์ตโอบกอดบุตรสาวเพียงคนเดียวด้วยความรัก "แม่กับพ่อต้องไปแล้ว ดูแลตัวเองรักษาเนื้อรักษาตัวให้ดีนะลูกเข้าใจไหม""ค่ะ เดินทางปลอดภัยนะคะ""จ้ะลูกรัก"บุตรสาวเพียงคนเดียวโบกมือลาทั้งสอง มิลานมองร่างของบิดาและมารดาเดินเคียงคู่ขึ้นไปบนเครื่องบินส่วนตัว รถตู้คันหรูเครื่องตัวออกมาจากตรงนั้นอย่างเชื่องช้า หลังจากฝ่าฟันรถติดในช่วงเวลาเย็นมาได้ทำให้มิลานรู้สึกเหนื่อยอยู่ไม่น้อย ร่างเล็กล้มตัวนอนลงบนโซฟาตัวยาวด้วยความเหนื่อยล้าแต่ทว่าวันนี้กลับเป็นวันที่เธอมีความสุขมากที่สุดเลยก็ว่าได้'พ่อกับแม่อนุญาตให้ลูกทั้งส
หนึ่งชั่วต่อมารถตู้คันหรูสองคันเคลื่อนตัวเข้ามาจอดยังบริเวณหน้าบ้านหลังใหญ่สาวใช้ที่เห็นว่ามีรถคันใหญ่เคลื่อนตัวเข้ามาจอดก็รีบวิ่งไปบอกผู้เป็นเจ้านายแตกต่างกับสีหน้าของคนในรถ"นี่มันอะไรกันเหรอคะ คุณพ่อพาหนูมาที่นี่ทำไม"บ้านหลังใหญ่ที่ครั้งหนึ่งเธอเคยก้าวขาเข้ามาเหยียบที่นี่และตอนนี้เธอก็ได้กลับมาเหยียบอีกครั้งพร้อมกับบิดาและมารดาของเธอ"คุณพ่อคะ""พ่อก็แค่จะทำเรื่องทุกอย่างให้มันจบ"ฝ่ามือสากกุมแก้มข้าวของลูกสาว รอยแผลจากเรื่องเมื่อวานยังคงเป็นรอยอยู่บนใบหน้าของมิลาน"ไม่ต้องกลัวอะไรนะลูก พ่อจะคอยปกป้องหนูเองจะไม่มีใครมาทำร้ายลูกสาวของพ่อได้อีก""คุณพ่อคิดจะทำอะไรคะ"โรเบิร์ตไม่ตอบเขาหันมองออกไปนอกตัวรถเห็นร่างของชายหญิงวัยกลางคนเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าประตู"เราลงจากรถกันเถอะค่ะ"ครืดประตูรถตู้คันหรูถูกเปิดออกด้วยฝีมือของบอดีการ์ดก่อนร่างของอุษณีกับสามีจะก้าวขาเดินลงมาจากรถด้วยท่าทีสง่างามดั่งคนมีเงิน"สวัสดีครับคุณโรเบิร์ตคุณหญิงเป็นเกียรติอย่างมากที่คุณโรเบิร์ตเดินทางมาที่นี่ด้วยตัวเอง"เกริกพลอดีตนักธุรกิจชื่อดังและภรรยาอย่างคุณหญิงประภาพรซึ่งตอนนี้ตำแหน่งคุณหญิงได้ถูกปลดออกไปเป็นที่เ
รุ่งเช้าอันแสนสดใสทำให้ใครต่อใครต่างไม่อยากลุกขึ้นจากเตียงนอนรวมไปถึงหญิงสาวเจ้าของห้องพักอย่างเธอ มิลานกำลังนอนหลับตาพริ้มอย่างสบายอยู่บนเตียงนอน คำพูดหวาน ๆ ของแฟนหนุ่มกลายเป็นฝันดีทำให้เธอนอนหลับสบายทั้งคืนจนไม่อยากจะตื่นติ๊ดแม้แต่เสียงสแกนเปิดประตูห้องพักด้านนอกดังขึ้นเจ้าของห้องอย่างเธอกลับไม่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา แต่ทว่ามันกลับไม่ใช่กับคนที่หูไวอย่างราเชนทร์ซึ่งตอนนี้เขากำลังเผชิญหน้ากับชายหญิงผู้มาใหม่"นายเป็นใครทำไมถึงมาอยู่ในห้องของลูกสาวฉันได้""โรเบิร์ตคะ ใจเย็นก่อนค่ะ"เสียงแข็งกระด้างตวาดดังกึกก้องทำเอาใครต่อใครต่างพากันสะดุ้งจนภรรยาคนสวยต้องรีบปรามเพราะกลัวว่าสามีจะสั่งคนให้ไปทำร้ายเด็กหนุ่มคนนี้"ที่รัก คุณจะให้ผมใจเย็นได้ยังไงเด็กหนุ่มที่ไหนก็ไม่รู้มาอยู่ที่ห้องลูกสาวของเราสองคนนะ""โรเบิร์ตคะ ก่อนจะโวยวายอะไรฉันว่าเราฟังคำอธิบายจากเด็กทั้งสองคนก่อนดีกว่าไหมคะ"อุษณีย์เป็นคนอารมณ์เย็นเธอพยายามหาคำพูดมาปลอบให้ผู้เป็นสามีอารมณ์เย็นลง"สวัสดีครับคุณน้าทั้งสอง คือผม""ไม่ต้องเกร็งหรอกจ้ะ"อุษณียิ้มรับเธอพอจะคลับคล้ายคลับคลาเด็กหนุ่มตรงหน้าเหมือนว่าเธอเคยเจอกันมาก่อน"มีอะไรอ
'มั่นหน้ามากแต่สุดท้ายผู้ชายก็ไม่เอา''นั่นน่ะสิ ยังหน้าด้านไปทำร้ายแฟนเขาด้วยนะต้องมั่นหน้าเบอร์ไหนถึงคิดว่าผู้ชายจะเอา''สวยก็ไม่สวยสู้น้องคนนั้นไม่ได้สักนิด'เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คนรอบข้างดังขึ้นซึ่งมีผลกระทบต่อเสียงเพลงหลังจากเรื่องทุกอย่างจบ ราเชนทร์โอบกอดร่างมิลานเดินออกไปเขาทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดว่าถึงอย่างไรจะไม่มีวันหันมาสนใจคนอย่างเธอ"เสียงเพลง พวกเรากลับกันเถอะฉันสองคนอายคนว่ะ"แม้แต่เพื่อนสนิทที่ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่มาด้วยกันยังต้องหนีหน้า แต่ทว่าเสียงเพลงยังคงยืนมองไปยังทิศทางที่ทั้งสองเดินเคียงคู่กันออกไป"ถ้าแกไม่กลับฉันสองคนกลับก่อนนะ"เมื่อเห็นว่าเสียงเพลงเอาแต่ยืนนิ่งเพื่อนทั้งสองจึงรีบเดินออกไปเพราะทนต่อสายตาของผู้คนไม่ไหว เสียงวิพากษ์วิจารณ์ยังคงดั่งอย่างต่อเนื่องพรุ่งนี้เรื่องที่เกิดขึ้นคงเป็นข่าวดังในมหาวิทยาลัยตึก ตึก ตึกกว่าเสียงเพลงจะหอบร่างอ่อนแรงออกมาจากตรงนั้นได้ก็ใช้เวลานานอยู่หลายนาที เรี่ยวแรงทั้งหมดของเธอแทบจะไม่มีเหลือเมื่อเห็นสายตาว่างเปล่าของชายหนุ่มในวันนี้ซึ่งมันไม่มีเธออยู่ในนั้นเลยตลอดเวลามีเพียงเธอคนเดียวที่คิดเข้าข้างว่ายังไงราเชนท
"อยากกินอะไรไหมเย็นนี้"ราเชนทร์ยิงคำถามทันทีหลังจากที่เขาเดินมาหาเธอซึ่งเป็นคำถามที่มิลานรู้สึกชินกับมันเสียแล้ว"อยากกินซูชิร้านนั้นที่ตลาดนัดหลังมอ""ร้อน""ไม่ได้เหรอ"เธอเงยหน้าช้อนดวงตากลมโตมองเขาทำเอาราเชนทร์ใจอ่อนยวบ"ก็ได้ ถ้าไม่รักไม่ตามใจหรอกนะ""ราเชนทร์ของมิลานใจดีที่สุดเลย"เธอยิ้มออกมาเมื่อได้รับคำตอบตามความต้องการตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ทั้งคู่เปิดใจคบหาราเชนทร์มักจะเป็นฝ่ายตามใจมิลานอยู่ตลอดไม่ว่าเธออยากทำอะไรหรือจะไปที่ไหนเพราะรอยยิ้มสดใสดูมีความสุขของเธอนั้นนั่นคือสิ่งที่เขาต้องการการดูแลเอาใจใส่ต่อเธอชายหนุ่มก็ไม่เคยบกพร่องเรียกได้ว่าชายหนุ่มเอาใจใส่ดูแลเธอได้อย่างดีเยี่ยมทำเอาผู้หญิงหลายต่อหลายคนต่างพากันอิจฉามิลานที่ได้ผู้ชายแสนดีอย่างราเชนทร์ไปเป็นแฟน"คนเยอะจังเลยอะ"มิลานบ่นอุบเมื่อเห็นผู้คนยืนต่อแถวกันยาวตรงหน้าร้านขายซูชิเจ้าอร่อย "ถ้าเราไปยืนต่อแถวอีกนานเลยกว่าจะได้""เธอไปนั่งรอฉันที่ร้านข้าวมันไก่ตรงนั้นก่อน เดี๋ยวฉันไปยืนต่อคิวให้""แต่"ปึก"หรืออยากจะไปเดินซื้ออะไรก่อนก็ได้แต่อย่าไปไกลนักเข้าใจไหม"กระเป๋าสตางค์ใบหรูถูกจับยัดใส่ฝ่ามือของหญิงสาวซึ่งในมือ