"ปล่อยนะ!" มือข้างหนึ่งพยายามผลักหน้าอกของเขาออก และอีกข้างก็พยายามปกป้องด้านล่าง แต่แรงแค่นี้เหรอที่จะสู้เขาได้นิ้วแกร่งยังสะกิดเม็ดที่ไวต่อความรู้สึกแบบไม่สะทกสะท้าน ..ส่วนริมฝีปากหนาตอนนี้กำลังซุกไซร้ซอกคอระหง โดยที่ไม่สนใจเจ้าของเรือนร่างนั้นว่าจะปฏิเสธหรือไม่"ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ คุณไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้กับฉัน" เธอรู้ดีว่าน้ำตาของเธอไม่มีผลอะไรต่อเขาเลย เพราะเขาก็เคยพูดไว้ แต่ตอนนี้มันช่วยเธอได้เพราะหลายเรื่องที่อัดแน่นอยู่ในอก ทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องผู้หญิงของเขาแต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจ ชายหนุ่มยังล่วงเกินเธอต่อไปเพราะเขาหยุดตัวเองไม่ได้"อ๊อย อื้อ" เพียงไม่นานแก่นกายลำใหญ่ก็ได้ถูกส่งเข้ามาในร่างกาย ถึงแม้ว่าเธอจะขัดขืน แต่ก็สู้แรงของเขาไม่ได้อีกนั่นแหละ"อ้าา..ซี๊ดด" คนร่างหนาเริ่มขยับสะโพกให้เข้าที่ ไม่ใช่ว่าครั้งแรกสักหน่อยที่เธอปฏิเสธ"หยุดเดี๋ยวนี้นะ! นายทำแบบนี้กับฉันไม่ได้ นายอย่าลืมสิว่านายมีคู่หมั้นแล้ว""คู่หมั้นที่ไหนไม่มีหรอก" เขาพูดในขณะที่ยังขยับสะโพกไม่ยอมหยุด"อืออ.. ก็ผู้หญิงคนนั้นไง!" แต่หญิงสาวก็ยังพยายามจะหยุดเขาเพื่อคุยกันแต่เขาก็ไม่ยอมหยุด เธอก็เลยคุยใ
"คุณจะไปไหม ถ้าไม่ไปเอากุญแจรถมาฉันไปเอง" ในขณะที่พูดเธอก็เดินไปที่รถแบบไม่รอ"ไปครับ" เขาไม่คิดว่าเธอจะกล้าพูดแบบนั้นต่อหน้าตั๊กแตนหรือต่อหน้าใคร ชายหนุ่มรีบล้วงเอากุญแจรถในกระเป๋ากางเกงออกมาเปิดประตูรถ ที่ล็อกด้วยระบบไฟฟ้าส่วนตั๊กแตนได้แต่ยืนมองตามท้ายรถที่พวกเขาขับออกไป ด้วยสายตาที่ยากจะบรรยาย อุตส่าห์เอาความดีเข้าสู้กับจั๊กจั่น จนเขามองเห็นและเริ่มพูดคุยเหมือนคนกำลังมีใจให้ แต่อยู่ดีๆ ก็มีผู้หญิงคนนี้โผล่เข้ามาบอกว่าเป็นเมียทั้งสองนั่งรถออกมาด้วยกัน แต่ก็ไม่มีใครเอ่ยปากพูดคุยกับใครก่อนเขาใช้เวลาขับรถนานพอสมควรก็มาถึง และตอนนี้ตะวันเริ่มคล้อยลงมามากแล้ว"จอดร้านขายยา" มิลานเอยพูดขึ้นแต่ก็ไม่ได้หันไปมองคู่สนทนาเลยเขาจอดให้อย่างว่าง่าย แล้วก็ลงรถเดินตามเธอเข้าไปในขณะที่กำลังจะซื้อยาหญิงสาวลืมไปเลยว่าไม่ได้กระเป๋าเงินออกมาด้วย"นายเอาเงินมาด้วยไหม""เอามา""ซื้อยาคุมกำเนิดค่ะ"เภสัชที่ประจำอยู่ร้านยานั้นก็สอบถามเรื่องตัวยาว่าเธอเคยกินแบบไหนต้องการแบบไหน"อะไรนะคะ""เออ..แผงนั้นฉันกินไปแค่ 2 เม็ดเองค่ะ ไม่ได้พกยามาด้วยก็เลยไม่ได้กินต่อ""แล้ว..หยุดไปกี่วันแล้วคะ""อาทิตย์กว่าแล้วค
"ชอบจังเหนือนรกเนี่ย ได้ยินทีไรต้องได้เสียวทุกที""นี่นาย! ฉันเป็นเพื่อนเล่นของนายตั้งแต่เมื่อไร ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ!" หญิงสาวกลัวว่าเขาจะทำอะไรเธออีก ..เพราะที่ตรงนี้มันไม่เหมาะที่จะทำเรื่องอย่างว่าเลย แต่ก็อีกล่ะนะเพราะไอ้เหนือนรกบ้าคนนี้มันไม่เลือกที่อยู่แล้ว"ถ้าปล่อยไปสงสัยแข็งแบบนี้ทั้งคืนแน่""ไอ้บ้า!" หญิงสาวรู้ได้ในทันทีว่าเขาหมายถึงอะไร เพราะตอนนี้ขาเธอก็รู้สึกได้ว่าไอ้นั่นของเขามันเริ่มขยายตัวโอกาสมาถึงแบบนี้แล้วมีเหรอที่เหนือตะวันจะปล่อยไปง่ายๆ ชายหนุ่มกดใบหน้างามลงมา เพื่อซุกไซร้ซอกคอระหง ซึ่งเธอก็ยังพยายามจะผลักไสเขาออกอยู่ตลอดเวลา..แต่ก็ดูจะไม่เป็นผล"ให้เลือกว่าอยากจะอยู่ข้างบนหรือข้างล่าง" นี่มันคือการขู่เพราะถ้าเธอยังดิ้นอยู่เขาได้จับเธอลงนอนเกลือกกับตอฟางแน่"ไม่เอาทั้งสอง! นายปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!! อืมมม!" เขาไม่ปล่อยให้เธอได้พูดต่อ ริมฝีปากหนาแนบจูบแบบดูดดื่ม..หมายถึงว่าทั้งดูดและดื่ม ..จนเธอไม่กล้าจะดิ้นเพราะเขาดูดแรงมากกลัวว่ามันจะช้ำจนเป็นรอยเขาไม่ได้หยุดอยู่แค่การดูดริมฝีปาก แต่เขาดูดลิ้นของเธอออกมาด้วย"อืมมม!!" หญิงสาวทุบหน้าอกหนาแรงขึ้น เพื่อให้เขาปล่อยลิ้นเ
"มึงจะไปไหนวะ..ช่วยสนใจกูหน่อยได้ไหม" เสกสรรพูดขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนไม่สนใจแถมยังจะเดินหนีไปอีก"มึงนั่งร้องไห้อยู่นี่ไปก่อนเดี๋ยวกูมา""อ้าวไอ้นี่แทนที่จะปลอบใจเพื่อน"เขาเห็นท่าทางของเธอแปลกๆ ก็เลยรีบเดินตรงมาบ้านที่เธออาศัยอยู่"เป็นอะไรครับ" ชายหนุ่มถามแม่แต่สายตาจ้องมองลูกสาวของท่านแบบเป็นห่วง"เห็นบอกว่าคลื่นไส้เวียนหัว แม่กลัวว่าอาหารจะเป็นพิษ""อาหารเป็นพิษเหรอครับ ไปโรงพยาบาลดีกว่า""ไม่ต้องหรอกแค่พักคงจะหาย" หญิงสาวพยายามกล้ำกลืนไว้ถึงแม้ว่าจะยังอยากอาเจียนอยู่ก็ตาม"..ไปโรงพยาบาลกัน" เขาเดินเข้ามาใกล้และก็พูดไม่แรงเท่าไร ..แต่ถ้าตรงนี้ไม่มีแม่ของเธออยู่ถึงแม้ว่าเธอจะปฏิเสธป่านนี้เขาคงจะพาไปได้แล้ว"ก็บอกว่าไม่เป็นอะไรไง ฉันต้องเตรียมอาหารไปส่งให้พ่ออีก" ตอนนี้พ่อของเธอลงไปที่สวนผักกับลุงพงษ์แล้วหญิงสาวเดินเข้าไปหาไฟที่ก่อไว้เพื่อที่จะจัดการต่อ แต่พอเข้ามาใกล้ก็เริ่มเหม็นขึ้นอีกครั้ง"เดี๋ยวผมทำให้" เขาก็เลยเข้าไปเอาไม้ ขยับเข้าเพื่อก่อไฟต่อ"แม่ก็ทำไม่เป็น ก็เลยต้องได้ลำบากหำอีกแล้ว""ไม่เป็นไรครับผมทำได้" ในขณะที่กำลังก่อไฟอยู่ก็เห็นเธอมีอาการคลื่นไส้อีก"เหม็นควันไฟเหรอ..ข
"มึงดูจะลงทุนมากเลยนะ" คนที่พูดก็คือเสกสรรซึ่งมายืนเท้าสะเอวมอง และรู้ดีว่าเพื่อนใช้เงินของตัวเอง ทั้งหมดโดยไม่ได้พึ่งเงินงบประมาณ ถ้าจะขอน้ำประปาคงรออีกเป็นปี กว่าจะได้ แต่ถ้าใช้เงินตัวเอง แค่วันถึงสองวันก็คงจะได้ใช้แล้ว"เรื่องของกู..มึงอย่าพูดมากแล้วกัน""พ่อพระ..พ่อมหาจำเริญ อยากจะปิดทองหลังพระว่างั้น""กูว่ามึงอย่ามายุ่งเรื่องของกูเลยดีกว่าไปยุ่งเรื่องของมึงโน่น..มาโน่นแล้ว"เสกสรรค์หันกลับไปมองก็เห็นว่าจั๊กจั่นกำลังเดินมา"กูอยากตาย ตาม เช้า กลางวัน เย็น""ติดใจมึงล่ะสิ""กูแค่จะทำเล่นๆ"พอเห็นจั๊กจั่นเดินมาถึงทั้งสองก็เลยหยุดพูดกัน"พี่มาทำอะไรตรงนี้ฉันไปหาที่บ้านก็ไม่เจอ""ไม่เห็นหรือไงว่ามาทำอะไร ถามอยู่ได้รำคาญ" ว่าแล้วเสกสรรก็เดินกลับบ้านเย็นวันเดียวกัน.."เขาทำอะไรกัน" ตอนนี้ท่อส่งน้ำประปาได้มาใกล้บ้านของลุงและป้าเข้าไปทุกทีแล้ว และคนที่ถามก็คือ ภูธร เพราะเพิ่งจะขึ้นมาจากสวนผัก พร้อมกับลุงพงษ์"ไม่รู้เหมือนกัน" ทั้งสองก็เลยแวะเข้าไปถามก่อน"น้ำประปา!?" ต่างก็พูดขึ้นพร้อมกันเมื่อรู้ว่ามันคืออะไร"แล้วจะต่อไปไหนเหรอ" ลุงพงษ์ก็เลยถามบ้างเพราะไม่รู้ว่ามีงบของรัฐบาลมาทางนี้"ทำ
"เดินดีๆ นะ" ชายหนุ่มเดินตามหลังมา แต่คนที่เดินกลางกลับเป็นตั๊กแตน เพราะถนนช่วงนี้เล็กมากเดินข้างๆ กันก็ไม่ได้ เขาได้แต่มองคนเดินนำหน้าแบบเป็นห่วงกลัวว่าจะตกคลองส่งน้ำ ..ไฟฉายในมือของเหนือตะวันพยายามส่องให้คนข้างหน้าเห็นได้ชัดที่สุด"แตนเดินแถวนี้จนชินแล้วล่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก" พูดแบบมีนัยยะเหมือนว่าเดินเข้าออกที่บ้านของเขาบ่อยแล้วแต่คนเดินนำหน้าเริ่มจะมันเขี้ยวเพียงไม่นานก็เดินมาถึงตรงที่ขุดน้ำประปา ..คนงานนับสิบหยุดงานกันไปแล้ว.. ทุกคนพักที่หน้างาน เพราะว่ามันเป็นงานเร่งด่วนต้องได้ตื่นมาทำแต่เช้ามืด และตอนนี้พวกเขาก็กำลังตั้งวงดื่มเหล้าตามประสาผู้ชายทั่วไปพอเดินมาถึงตรงนี้เหนือตะวันก็รีบเดินแซงหน้าตั๊กแตนเพื่อไปให้ทันคนที่เดินนำหน้า ..มาถึงตัวเธอเขาก็ยื่นมือไปโอบไหล่ไว้"อะไรของนาย" มิลานไม่รู้ว่าเขาทำไปเพื่ออะไร ..แต่ทำไมตั๊กแตนจะไม่รู้ เพราะสายตาผู้ชายพวกนี้ต่างก็มองสะโพกของมิลานเวลาเดิน"เดินไปเถอะน่า"ใช้เวลาอีกไม่นานก็เดินเข้ามาถึงหมู่บ้าน ตรงนี้เริ่มมีไฟส่องสว่างจากเสาไฟฟ้าก็เลยไม่ต้องใช้ไฟฉายแล้ว"แตนไม่กลับบ้านเหรอ" เหนือตะวันถามขึ้น เพราะถึงซอยบ้านของตั๊กแตนแล้ว แต่ไม่
"กลับลงมาอีกทำไม"ได้ยินเสียงที่คุ้นหูอยู่ใต้ถุนบ้าน ใบหน้างามรีบหันไปมอง"นาย" เมื่อรู้ว่าเป็นใครหัวใจเริ่มเต้นแรงขึ้น ..นี่เราเป็นอะไร ความรู้สึกแบบนี้ไม่เคยมีให้ใครมาก่อน"ถามว่าลงมาอีกทำไม" เท้าแกร่งค่อยๆ ก้าวเดินออกมาจากความมืด ที่เธอมองไม่เห็นก็เพราะแสงเดือนสาดส่องเข้าไปไม่ถึงใต้ถุนบ้าน"ลงมาดูว่านายกลับหรือยัง""ยังไม่กลับ""แล้วทำไมนายถึงยังอยู่"เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงยังไม่กลับ เพราะรู้สึกเป็นห่วง ..ยิ่งเห็นสายตาคนงานพวกนั้นแล้ว มันก็ยิ่งทำให้เขาเป็นห่วงมากขึ้น"พ่อกับแม่นอนหรือยัง" สายตาคมยังมองต่ำลงไปดูคนตัวเล็กที่อยู่ด้านหน้า"หลับแล้ว" สิ้นคำพูดคนร่างสูงก็โน้มลงมาจูบ ซึ่งเธอก็ไม่ปฏิเสธ เขาพาเธอเข้ามาใต้ถุนบ้านในขณะที่ยังไม่ถอนจูบออก แล้ววางร่างเล็กลงที่แคร่ไม้เบาๆ"อือ..ไม่นะ" หญิงสาวรีบหนีบขาเข้าหากันไม่คิดว่าเขาจะใช้ลิ้นกับน้องสาวของเธอ ถึงแม้ว่าจะมืดมากแต่รู้ว่าตอนนี้เขาคุกเข่าอยู่ข้างแคร่ซึ่งเป็นพื้นดินชายหนุ่มไม่หยุด..แถมใบหน้าของเขาก็ยังพยายามซุกไซร้เข้ามา ..และเขาก็ไม่ได้ถอดกางเกงของเธอออก แค่จับมันแยกออกไปพร้อมกันทั้งสองตัว"อ๊อย..อือ" ตอนที่เขาช่วยด้วยนิ
เขาไม่เป็นอันทำอะไร มัวแต่จ้องมองไปที่บ้านหลังนั้น เพื่อรอเวลาให้พ่อของเธอออกจากบ้านไปก่อน ส่วนแม่..ต้องชั่งใจดูก่อนว่าวันนี้ท่านจะตามไปที่สวนผักไหม"ป้าจะไปไหนเหรอครับ" ชายหนุ่มถามขึ้นเมื่อเห็นว่าป้ากำลังจะเดินไปที่บ้านของเธอ"ไม่ได้ยินหรือไงว่าลุงจะลงผักใหม่ ก็จะไปชวนแม่ของหนูมิลานไปช่วยกันจะได้เสร็จเร็วๆ""ดีครับ จะได้เสร็จเร็วๆ" มุมปากแอบยิ้มตามผู้เป็นป้า แต่เขาไม่รู้หรอกว่าป้าวรรณีอยากจะเปิดโอกาสให้เขาได้คุยกับเธอมากกว่า"วันนี้ฉันห่วงลูกจังเลยพี่วรรณี" ดุจดาวอยากจะปฏิเสธแต่ก็เกรงใจเพราะวรรณีอุตส่าห์เดินมาชวน"คงไม่เป็นอะไรหรอก..ปล่อยให้เด็กนอนพักผ่อนไปก่อนถ้าไม่ดีขึ้น ค่อยว่ากันอีกที"จบคำพูดของป้าวรรณี..ดุจดาวก็เลยหันไปหากับลูกสาว"แม่จะลงไปแปลงผักกับป้าเดี๋ยวตอนเที่ยงแม่จะกลับมาหานะ""คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงลูกหรอกค่ะลูกดีขึ้นแล้ว" อาการของเธอจะปรากฏแค่ช่วงเช้า คล้ายๆ เหมือนกระเพาะบีบรัดตัว เพราะไม่มีอะไรลงไปในท้องก็เลยคลื่นไส้อาเจียน ยังคิดว่าตัวเองเป็นโรคกระเพาะหรือเปล่า"หนูไม่เป็นอะไรแน่นะ ทานข้าวแล้วก็นอนพักผ่อน ถ้าตอนเที่ยงแม่ไม่ได้ขึ้นมาก็คงจะคล้อยเย็นหน่อยนะ""ค่ะ"แม่กั
สามเดือนผ่านไปตอนนี้ท้องของมิลานก็เริ่มโตขึ้นจนโผล่พ้นออกมาให้เห็นมากแล้ว"ทำไมกลับบ้านเร็วล่ะคะ" หลายวันมานี้สามีกลับบ้านก่อนเวลาตลอด"ว่าจะไม่ไปทำงานด้วยซ้ำ""ทำไมล่ะ""ก็เป็นห่วงคุณไง ดูสิจะเดินจะนั่งก็ดูลำบากไปหมด" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับประคองภรรยาค่อยๆ นั่งลงที่โซฟา"ฉันอยู่ที่บ้านกับคุณแม่ไม่เห็นมีอะไรต้องน่าเป็นห่วงเลยค่ะ"ถึงแม้ว่าแม่ของเขาจะดูแลเธอเป็นอย่างดี แต่ผู้เป็นสามีก็อดห่วงไม่ได้ เพราะอยากจะดูแลเธอเอง มือหนาลูบไล้หน้าท้องของภรรยาซึ่งตอนนี้เด็กดื้อที่อยู่ในนั้นกำลังดิ้นแรงมาก"เหลืออีกตั้งสี่เดือนกว่า ลูกถึงจะคลอด ถ้าไม่ไปทำงานใครจะดูงานให้ล่ะคะ""ก็ให้ท่านรองประธานดูไปสิ""คุณเสกสรรนะเหรอ""ไอ้เสกมันทำงานเก่งไม่เป็นแบบที่คุณคิดหรอกนะ" ใครจะคิดว่าเสกสรรจะเก่งในการทำงานขนาดนี้ เพราะเคยเห็นแต่สำมะเลเทเมาไปวันวานพอรู้ว่าโปรเจคงานที่ก่อปัญหาในครั้งนั้นเป็นผลงานของเสกสรร เหนือตะวัน และพ่อของมิลานก็มองเสกสรรใหม่ จนตอนนี้ให้ตำแหน่งเขาเป็นถึงท่านรองประธาน เพื่อที่จะมาดูงานช่วยกันอีกแรงแต่เสกสรรจะยอมรับตำแหน่งนั้น ถ้าให้ภรรยาของเขาเป็นเลขาส่วนตัว เพราะทีแรกจั๊กจั่นขอไปทำงานที่แ
เช้าวันต่อมา.."ถ้ามีโอกาส เราจะมาเที่ยวเล่นที่นี่อีกนะ" ประไพเอ่ยพูดขึ้นกับลุงพงษ์และป้าวรรณีที่เดินมาส่งตรงท้ายหมู่บ้านเพื่อจะขึ้นรถไปสนามบิน"เชิญพวกท่านทั้งสองได้เสมอเลยครับ" ลุงพงษ์ตอบกลับไปแบบนอบน้อม"ถ้าเมื่อไรอยากได้ถนน กับไฟฟ้า ให้บอกมาได้ตลอดเลยนะ เดี๋ยวให้คนมาจัดการให้" คำพูดนี้ท่านรัฐมนตรีเป็นคนพูดเอง เพราะถ้าเป็นคำสั่งของท่านคงใช้เวลาไม่นาน"ก็ไอ้หำน่ะสิ..เออ..ขอโทษครับ" ลุงพงษ์เผลอปากเรียกลูกชายท่านว่าหำต่อหน้า"ไม่เป็นไรหรอกครับลุง ลุงถนัดแบบไหนก็พูดแบบนั้นเถอะ" เหนือตะวันที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ได้พูดให้ลุงคลายกังวล"ลูกหลานมันอยากจะเก็บบรรยากาศแบบนี้ไว้ ก็ทำตามคนที่เขาอยู่อาศัยต่อเถอะครับท่าน" มันยิ่งทำให้ป้าและลุงรักหลานชายคนนี้เพิ่มขึ้น เพราะเขาไม่ใช่คนธรรมดา แต่ยังมาอาศัยอยู่กับพวกท่าน ถือว่าบุญเก่าเคยทำมาร่วมกัน"คุณพ่อกับคุณแม่กลับไปก่อนนะครับ ถ้าพ้นช่วงฮันนีมูนแล้วเดี๋ยวผมจะพาลูกสะใภ้กลับไปหาเอง" เหนือตะวันพูดพร้อมกับเปิดประตูให้ผู้เป็นพ่อกับแม่ได้ขึ้น"ฝากดูแลท่านทั้งสองด้วยนะเสก" เขายังหันไปพูดกับเสกสรรที่กำลังจะขึ้นรถอีกคัน"ได้สิ มึงอย่าลืมนะว่านี่ก็พ่อตาแม่ยายกูเ
"คิดถึง""คะ?" จะตกใจอะไรก่อนดี ระหว่าคำที่ท่านบอกว่าคิดถึง หรือมือที่ท่านยื่นมาโอบกอด สัมผัสแบบนี้ไม่เคยเจอมาเป็นสิบปีแล้ว ถึงแม้เวลามันจะยาวนาน แต่นางก็นับวันนับคืน ว่าเมื่อไรสามีจะหันหน้ากลับมาหา แต่ยิ่งท่านหันหลังให้ก็ยิ่งเดินห่างไกลออกไป วิ่งตามเท่าไรก็ตามไม่ทัน"ท่านไม่สบายหรือเปล่าคะ" ความคิดนี้พุ่งขึ้นมาในหัว ส่วนมากถ้าคนที่เป็นโรคร้าย ชอบจะกลับมาตายรังแบบนี้เสมอ เพราะอีหนูพวกนั้นคงดูแลไม่ได้"ทำไมคิดแบบนั้นล่ะ""ก็ดูท่านเปลี่ยนไป" นอกจากคำว่าคุณแล้ว ประไพชอบเรียกสามีว่าท่าน เพราะยังไงนางก็อายุน้อยกว่าเป็นสิบปี"ถ้าผมไม่สบายจริง คุณจะดูแลไหม"เพียงไม่นานก็ได้ยินเสียงสะอื้นของภรรยาเก่า พร้อมกับมือที่ขยับขึ้นปาดน้ำตาตัวเองออก"คุณเป็นอะไร" สำราญตกใจ รีบลุกขึ้นนั่ง จะจุดไฟตะเกียงก็ทำไม่ได้แล้วเพราะทำไม่เป็น"คุณป่วยระยะที่เท่าไรแล้วคะ""ระยะที่เท่าไรหมายความว่ายังไง""คุณเป็นมะเร็งใช่ไหม คุณไปหาหมอมาหรือยัง แล้วทำไมคุณไม่รีบกลับมาหาฉัน" สิ้นประโยคคำพูดเสียงสะอื้นของนางก็ดังขึ้นเรื่อยๆ ที่ประไพคิดแบบนี้ ก็เพราะมีไม่กี่โรคหรอกคนรุ่นราวคราวนี้ที่จะเจอ"ใจเย็นก่อนสิคุณ""ทำไมคุณไม่รี
ในเวลาเดียวกันนั้นที่บ้านปลายนา..หลังจากร่วมรับประทานอาหารเย็นกันเสร็จแล้ว ลุงพงษ์กับป้าวรรณี และคู่ที่มาฮันนีมูนก็ได้กลับบ้าน ซึ่งปล่อยให้ท่านรัฐมนตรีกับอดีตภรรยาได้อยู่ด้วยกันแค่สองคน ในบ้านหลังที่พ่อและแม่ของมิลานเคยอาศัยอยู่เรามารู้จักกับท่านรัฐมนตรีและภรรยาเก่ากันบ้าง สำราญ ชายวัย 57 ปี แต่รูปร่างหน้าตาก็ไม่ได้เป็นไปตามอายุเท่าไร เพราะดูแลร่างกายดี ส่วนประไพ ซึ่งอายุน้อยกว่าสามีเก่าถึง 10 ปี ตอนที่เรียนมหาวิทยาลัยในปีนั้นนางก็ได้คว้าดาวมหาวิทยาลัยมาครอง ความสวยของนางก็ยังคงมีอยู่ แต่ด้วยความไม่พอของสามี จึงยังต้องการเด็กสาวเข้ามาเติมเต็ม"คุณนอนได้ไหมล่ะคะ""นอนได้สิ" สำราญพูดพร้อมกับค่อยๆ หย่อนกายมุดเข้าไปในมุ้งแบบลำบากเพราะไม่เคยนอนแบบนี้มาก่อน"หึ..มันก็สรรหาที่มาอยู่นะ""แต่ผัวเมียคู่นั้นก็ดูรักลูกเราดีนะคะ""อืมม..ชีวิตแบบนี้ก็ดีไปอีกแบบ""คุณนอนไปก่อนเลยนะคะ ฉันจะลงไปเล่นข้างล่าง" ว่าแล้วนางก็แยกตัวลงมาก่อน ..อายุปูนนี้แล้วทำไมหัวใจยังเต้นแรงอยู่อีกควรพอได้แล้วมั้งประไพ เข้าใกล้สามีเก่าแล้วรู้สึกหวั่นไหวจนต้องได้ตำหนิตัวเองพอลงมาถึงข้างล่างนางก็มองขึ้นไปบนท้องฟ้า ซึ่งตอนน
"คนเจ้าเล่ห์" ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไรเพื่อแลกเปลี่ยน"เจ้าเล่ห์ที่ไหนอยากรู้ความลับก็ต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยนกันหน่อยสิ" ใบหน้าหล่อคมขยับเข้ามาใกล้ริมฝีปากบางแบบห้ามใจตัวเองไม่อยู่"ครั้งนี้พี่จะเป็นเหมือนครั้งที่แล้วไหม" หญิงสาวไม่ปฏิเสธแถมเธอยังหลับตาให้ แต่อดที่จะถามออกไปไม่ได้ เพราะกลัวว่าเรื่องแบบเดิมๆ มันจะกลับมาอีกครั้ง"ไม่แล้ว..และพี่จะไม่ขอโทษเราอีก แต่พี่จะทำให้เราเห็น" เสกสรรรู้ดีว่าเธอหมายถึงอะไร ตอนนั้นเขายังคึกคะนองในตัวเอง และเสียดายความโสดของตัวเอง จึงได้พยายามผลักไสเธอออกไป"พี่จะทำอะไรให้ฉันเห็น" ดวงตากลมเปิดขึ้นอีกครั้งเพื่อมองสบตา"ทำให้เห็นว่าพี่รักเราไง"น้ำตาได้ไหลลงมาจากดวงตางามคู่นั้น เธอสัมผัสได้ว่าที่เขาพูดมันออกมาจากใจจริง ไม่เหมือนครั้งก่อนที่เขาต้องการแค่ร่างกายของเธอ"ไม่ร้องนะคนเก่งของพี่" จากที่จะจูบก็เลยได้เปลี่ยนมาเป็นซับน้ำตาให้"ฉันเก่งที่ไหน""เก่งสิ..ถ้าจั๊กจั่นของพี่ไม่เก่งแล้วใครจะเก่งล่ะ" เสกสรรคว้าร่างบางเข้ามากอดไว้"ยังเจ็บอยู่ไหม"หญิงสาวตอบด้วยการส่ายหน้าเบาๆ สิ่งที่เกิดขึ้นมันทำให้เธอลืมความเจ็บปวดไปได้ เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะมีความ
"จะ..จะ..จริงเหรอวะ" อัมพรแม่ของจั๊กจั่นไม่ค่อยเชื่อ แต่พอมีคนไปตามก็รีบมาดู"ต่อไปนี้แม่จะไม่ให้ใครทำร้ายหนูได้อีกแล้ว เราจะกลับไปพร้อมกันนะ" ประไพพูดพร้อมกับลูบผมของจั๊กจั่นเบาๆ เพื่อปลอบใจหญิงสาวไม่ตอบแต่เธอพยักหน้าเพราะตื้นตันใจ ขนาดท่านไม่ใช่แม่แท้ๆ ยังเป็นห่วงเธอขนาดนี้"คนนี้บอกว่าเป็นแม่ของคุณจั๊กจั่นครับท่าน" ตำรวจที่ควบคุมสถานการณ์อยู่ข้างนอกได้พาผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามา"จั๊กจั่น" อัมพรตกใจที่เห็นลูกสาวอยู่ในอ้อมกอดของใครก็ไม่รู้"คนนี้ใช่ไหม" ประไพถามจั๊กจั่น แต่สายตามองไปที่อัมพร ซึ่งข้างกายของอัมพรก็มีผู้หญิงอีกคนที่รุ่นราวคราวเดียวกับจั๊กจั่นยืนอยู่ด้วยจั๊กจั่นทำได้แค่ส่ายหน้า เพราะเป็นห่วงแม่ ยังไงท่านก็เป็นแม่ที่ให้กำเนิด"บอกแม่มาตามตรง คนนี้ใช่ไหมคือแม่ใจร้ายที่ทำหนู""เกิดอะไรขึ้นน่ะน้า" ตั๊กแตนสะกิดข้างของน้าอัมพร แล้วถามเบาๆ สายตาก็ได้มองไปดูทั่วบริเวณบ้านของเสกสรร ซึ่งตอนนี้ผู้ชายที่แต่งตัวภูมิฐาน ต่างก็ยืนรอบล้อมอยู่แถวนั้น"ท่านนี้คือผู้ใหญ่ที่จะมาสู่ขอจั๊กจั่นให้ผมครับ" เสกสรรซึ่งยืนอยู่ไม่ไกล ก็เดินเข้ามาแนะนำให้แม่ของจั๊กจั่นได้รู้จัก"ท่านคือ ท่านรัฐมนตรีสำร
"กูขอโทษด้วยนะที่ทำให้มึงเดือดร้อนไปด้วย" พอเหตุการณ์ปกติ ทั้งสี่ก็ได้มานั่งคุยกันที่บ้านหลังเดิมของมิลาน"ไม่เป็นไรหรอกน่าา เป็นเพื่อนกัน""แล้วพ่อมึงจะยอมมาไหมวะ" ด้วยความโมโหและความเป็นห่วงคนรัก เขาก็เลยพูดไปโดยไม่ได้คิด เพราะคนระดับท่านรัฐมนตรีจะว่างมาให้ไหม"ต้องลองคุยกับพ่อดูก่อน""อย่าคิดมากนะเดี๋ยวทุกอย่างมันก็ผ่านไป" มิลานได้แต่ปลอบใจจั๊กจั่นที่นั่งทำหน้าเศร้า"ทุกคนก็เลยต้องได้มาเดือดร้อนเพราะฉัน ฉันน่าจะกลับไปพร้อมแม่ให้เรื่องมันจบๆ ไป""ทุกคนเต็มใจช่วย อย่าพูดแบบนั้นอีกนะ เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ"เหนือตะวันก็เลยเดินเข้ามาเอาโทรศัพท์ที่รถ เพื่อที่จะโทรหาพ่อดูก่อน.. ที่เขาต้องเก็บโทรศัพท์ไว้ในรถเพราะยังไงบ้านปลายนาก็ไม่ค่อยมีสัญญาณอยู่แล้ว แถมไม่มีไฟฟ้าที่จะชาร์จโทรศัพท์ด้วยเวลาผ่านไป.. ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว เขาก็ได้กลับมาหาทั้งสามที่นั่งรออยู่ที่เดิม"พ่อกูติดประชุมในพรรค""ท่านปลีกตัวมาไม่ได้เลยเหรอ" มิลานเดินเข้ามาถามสามี"ไม่แน่ใจ""ทำไมไม่ถามดีๆ ก่อนล่ะ""ทุกคนพอแค่นี้เถอะ ฉันจะกลับบ้าน" จั๊กจั่นไม่อยากจะให้ พวกเพื่อนๆ ต้องมาเดือดร้อนกับเธอมากไปกว่านี้อีกแล้ว"ไม่ได้นะ
"มานี่เลยนะนังลูกไม่รักดี!" อัมพรเดินเข้าไปคว้าตัวลูกสาวเข้ามาหวังจะทำโทษ"อย่าทำอะไรจั๊กจั่นนะน้า" เสกสรรที่เดินตามหลังมา ดูท่าไม่ดีก็เลยรีบเข้ามาขวางไว้"เราคุยกันรู้เรื่องแล้วไม่ใช่เหรอเสก ไหนตกลงกับน้าแล้วไงว่าจะไม่เจอหน้ากัน""ผมแค่มาส่งเห็นมันมืดค่ำแล้ว น้าจะปล่อยให้ลูกสาวมีอันตรายหรือไง" ในขณะที่พูดสายตาของเขาตวัดมองไปที่ตั๊กแตน แต่ก่อนไม่เคยรู้เลยว่าตั๊กแตนจะเป็นคนนิสัยแบบนี้ เพราะดูเรียบร้อย ผิดกับอีกคนที่เขากำลังหลงใหลอยู่ในตอนนี้ เธออาจจะเป็นคนที่ดูแรง แต่เธอก็ไม่ได้เสแสร้งเหมือนตั๊กแตน"ใครก็พูดได้ถ้าจะพูดแบบนี้" ตั๊กแตนยังพูดยุแยง เพราะได้ยินเมื่อตอนกลางวันเรื่องที่เสกสรรมาสู่ขอจั๊กจั่นอีกครั้ง ก็เลยเริ่มจะหมั่นไส้"ตกลงแม่จะตีไหม ถ้าไม่ตีฉันจะกลับเข้าห้องแล้ว""จั๊กจั่นอย่าพูดแบบนั้น" เสกสรรห้ามปรามไว้ เพราะมันเหมือนกับไปกระตุ้นอารมณ์ของแม่ เขากลัวว่าน้าอัมพรจะตีเธอซ้ำรอยเดิม"พี่ไม่ต้องมายุ่งหรอกกลับบ้านพี่ไปเถอะ" จั๊กจั่นหันมาตวาดใส่เสกสรร เพราะถ้าเขายังอยู่กลัวว่าเรื่องจะบานปลายมากไปกว่านี้"พี่จะกลับ แต่ต้องแน่ใจก่อนว่าน้าอัมพรจะไม่ตีเรา" แต่เสกสรรไม่ยอมไปเพราะกลัวแม
"ไอ้เสกมึงจะฆ่าแม่หรือไง" พ่อรีบเข้ามาในครัวเมื่อได้ยินเสียง"ผมฆ่าแม่ตอนไหน""ก็เรื่องที่มึงกำลังพูดอยู่เมื่อกี้ไง!""พ่อได้ยินแล้วเหรอ""กูได้ยินตั้งแต่คำแรกที่มึงพูดแล้ว" ที่พ่อของเขาได้ยินเพราะท่านอยู่แถวหน้าต่าง ตรงที่เขาคุยกับแม่พอดี"นะพ่อนะ..ไปขอเมียให้ผมหน่อยนะ"ผู้เป็นพ่อไม่ตอบ แต่เดินเข้าไปเก็บของที่ภรรยาทำตกหล่น"พ่อกับแม่จะไปคุยให้ผมไหมเนี่ย""มึงจำได้ไหมก่อนที่มึงจะหนีเข้ากรุงเทพฯ มึงก็พูดคำนี้แหละ แต่มึงให้พวกกูไปถอนคำพูด จนเสียค่าสินไหมไปกี่แสน""เรื่องนั้นผมขอโทษ ผมรับรองว่ามันจะไม่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นอีกแล้ว""กูไม่เชื่อมึงหรอกไอ้เสก""เชื่อผมเถอะพ่อ" เสกสรรเดินตามพ่อออกมาหน้าบ้าน เพราะตอนนี้พ่อเอาขยะออกมาทิ้ง"ถูกตีเลยเหรอวะ" จังหวะนั้นป้าร้านค้ากำลังคุยกับตั๊กแตนอยู่พอดี"จะเหลือเหรอป้า""เรื่องปกติของแม่มันอยู่แล้ว เอะอะอะไรก็ตีลูก""สมน้ำหน้าน่ะสิไม่ว่า เดี๋ยวก็ท้องไม่มีพ่อเข้าสักวัน""กำลังพูดถึงเรื่องใครอยู่" เสกสรรเดินตามพ่อออกมาได้ยินคำนี้พอดี"จะพูดถึงใครล่ะ ก็พูดถึงเรื่องผู้หญิงที่พี่ไม่เอาแล้วไง" ตั๊กแตนหันไปพูดกับเสกสรรแบบได้ใจ เหมือนกับว่าหาแนวร่วมเพราะ