แชร์

บทที่ 675 เข่นฆ่าโรมรัน

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-05-03 16:00:01
เย่จิ่งอวี้ถามศิษย์คนที่เดินมากับเขา เขาก็ไม่รู้ จึงต้องยอมแพ้

เมื่อกลับมาถึงสถานที่ตั้งของสำนักอวิ๋นซาน ซูถูก็ออกไปแล้ว

เย่จิ่งอวี้ไม่สนใจเลยสักนิดว่าซูถูจะไปที่ไหน ตอนนี้เขาแค่อยากพบฮวาเชียน ถามถึงเรื่องราวของเสด็จแม่ตั้งแต่ต้นจนจบ

เนื่องจากมีเรื่องค้างคาอยู่ในใจ เย่จิ่งอวี้จึงไม่คุยกับคนอื่น เขาเข้าไปในที่พำนักชั่วคราว ปิดประตูและนั่งลง

ในสถานที่อันเต็มไปด้วยยอดฝีมือเช่นนี้ เขาจะต้องเพิ่มความแข็งแกร่งโดยเร็วที่สุด

นั่งขัดสมาธิ รวบรวมสมาธิ เพ่งกำลังภายในทั้งหมดไปที่จุดตันเถียน ปล่อยลมปราณไหลผ่านร่างกายอย่างช้าๆ หลังจากนั้นไม่นาน ก็เข้าสู่ภาวะเข้าฌาน

ดูเหมือนคนทั้งคนจะตกอยู่ในความโกลาหล กลุ่มหมอกหนา ไม่สามารถมองเห็นสิ่งใดที่อยู่ตรงหน้าได้

ในหูแว่วยินเสียงยุ่งเหยิงต่างๆ บ้างก็มีคนเรียกหาพ่อบุญธรรม บ้างก็มีคนเรียกหาอวี้เอ๋อร์ นอกจากนี้ยังมีเสียงฆ่าฟันดังปะปนขึ้นด้วย

เย่จิ่งอวี้จิตใจแตกกระเจิง ทันใดนั้นเขาก็ลืมตาขึ้น มีวงกลมสีแดงปรากฏขึ้นรอบๆ รูม่านตา แต่เพียงพริบตาก็หายไปในทันที

พลังลมปราณภายในร่างกายเหมือนกับม้าป่า ที่กำลังวิ่งพล่านไปมาอย่างดุเดือด

เย่จิ่งอวี้ตกใจเล็กน้อย อาจ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 676 แว้งกัด

    เจ้าสำนักเซี่ยวหวังแค่จะจับตัวเย่จิ่งอวี้ ระหว่างที่เดินมา กลับถูกหยุดโดยผีแคระที่มีสัญลักษณ์รูปสีแดงระหว่างคิ้ว“เจ้าสำนักเซี่ยว ไม่เจอกันนานสบายดีหรือไม่”คนผู้นี้พูดภาษาจงหยวนแปร่งๆ ตัวเตี้ยและอ้วนเหมือนถังเล็กๆ แต่เคลื่อนไหวได้เร็วราวกับกระสุนปืน เท้าดูเหมือนจะติดสปริงไว้ กระเด้งตัวเหมือนคางคก เคลื่อนที่ไปซ้ายทีขวาทีอย่างรวดเร็ว ทำให้คนที่เห็นต้องรู้สึกสับสนมึนงงเมื่อเห็นคนผู้นี้ เจ้าสำนักเซี่ยวก็แสดงสีหน้าเคร่งขรึมในฉับพลันชายคนนี้ชื่อโนจิริจูนิ เป็นหนึ่งในแม่ทัพของตงหลิว คนผู้นี้มีเคล็ดวิชาลับ จัดการได้ยากมาก วิธีการค่อนข้างโหดร้ายอำมหิต ไม่ว่าสตรีคนใดที่ตกอยู่ในมือของเขาจะต้องถูกย่ำยีแค่ชื่อนี้ก็ทำให้คนต้องขบเขี้ยวเคี้ยวฟันได้“ที่แท้ก็เป็นเจ้า ข้าจะดูว่าวันนี้เจ้าก้าวหน้าไปแค่ไหนแล้ว”ในขณะที่พูดคุย ทั้งสองได้ลงมือเคลื่อนไหวหลายกระบวนท่าแล้ว ภายใต้กำลังภายในอันเผด็จการของเจ้าสำนักเซี่ยว ความเร็วของโนจิริจูนิก็ช้าลงมากถึงอย่างไรเขาก็เป็นผู้ที่สามารถผนึกมิติของอินชิงเสวียนได้ แม้แต่ในยุทธจักร เจ้าสำนักเซี่ยวก็ถูกเรียกขานว่าเป็นผู้นำโนจิริจูนิพูดว่า “ไม่ได้เจอกันหลาย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-04
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 677 เพลงหยกรัตติกาล

    เมื่อได้ยินเสียงคนเรียกฮวาเชียน เย่จิ่งอวี้ก็หันศีรษะทันทีแน่นอนว่าเขาเห็นสตรีคนหนึ่งที่มีรูปร่างหน้าตาคุ้นเคย แม้เวลาผ่านไปหลายปี ใบหน้าที่ตรากตรำความลำบากมากมายของนาง ยังเป็นเหมือนกับในความทรงจำของเย่จิ่งอวี้เมื่อมองดูสตรีในชุดสีขาวพระจันทร์ยืนอยู่ข้างๆ ฮวาเชียนอีกครั้ง หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็พองโตขึ้นเสวียน‍เอ๋อร์ ทำไมนางถึงมาที่เป่ยไห่!ขณะที่กำลังว่อกแว่ก ดาบเล่มยาวก็ฟาดลงมาที่หัว ตามมาด้วยถ้อยคำก่นด่าอันโกรธเกรี้ยว“บากะยาโร่ว (ไอ้บ้าเอ๊ย)” คนตัวเตี้ยรู้สึกได้ว่าเย่จิ่งอวี้กำลังฟุ้งซ่าน ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าตัวเองถูกดูหมิ่น อดไม่ได้ที่จะก่นด่าสาปแช่งเย่จิ่งอวี้ไม่มีความอดทนที่จะเสียเวลากับพวกเขาอีกต่อไป แค่อยากจะไปหาอินชิงเสวียนโดยเร็วที่สุดทันทีที่กระบี่ยาวในมือตวัด เสียงมังกรแผดคำรามก็ดังขึ้นอีกครั้ง ปราณกระบี่มหาศาลทำให้กระบี่ยาวสูงขึ้นหนึ่งเมตรในทันทีเมื่อผีแคระตงหลิวเห็นสิ่งนี้ แทนที่จะกลัว เขากลับหัวเราะ“เจ้าน่ะ ขยะ”ทันใดนั้นเขาก็ยกดาบยาวขึ้น โจมตีไปที่แขนของเย่จิ่งอวี้ โดยไม่คาดคิดว่าปราณกระบี่นั้นเร็วกว่าวิชาดาบของเขาหลายเท่าตัว ได้ยินเสียงฉึ่บ และแขนของผ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-04
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 678 ความน่าทึ่งของมิติ

    อินชิงเสวียนตกอยู่ในห้วงภวังค์แหjงเสียงพิณ ไม่สนใจโลกภายนอก แม้ว่าเสียงพิณจะน่าตื่นเต้นมาก แต่สภาวะจิตใจของอินชิงเสวียนกลับสงบอย่างประหลาดในเวลานี้ ทันใดนั้นก็มีเสียงอันน่าอัศจรรย์ดังมาจากมิติที่เงียบสงบมาโดยตลอดมิติอัพเกรด รับคะแนนสะสม 10,000 คะแนนเพิ่มทักษะ ช่วงชิงดวงชะตาเพิ่มระยะเวลาการใช้ทักษะ ครั้งละ 10 นาทีเพิ่มจำนวนครั้งการใช้ทักษะ 10 ครั้งอินชิงเสวียนรู้สึกตัวขึ้นมาทันทีโห ให้รางวัลมากมายขนาดนี้เลย นางเกือบลืมเรื่องมิติไปแล้วเชียวในช่วงนี้ หน้าที่เดียวในมิติคือการปลูกพืช สะสมคะแนนเล็กน้อย และแลกเป็นของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวัน ในความเห็นของนาง สิ่งที่มีประโยชน์มากที่สุดในมิติคือน้ำพุวิญญาณ ไม่คาดคิดว่าวันนี้จะเกิดขึ้นอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว หรือว่ามิติของตัวเองเกี่ยวข้องกับพิณการเวก?ถ้ารู้แต่แรกว่าจะได้รับคะแนนสะสมมากมายในคราวเดียว นางคงจะไม่ใช้คะแนนอย่างสุรุ่ยสุร่าย และสะสมแลกปืนพกมาแทน คงจะยอดเยี่ยมที่สุดทันทีที่เกิดความเสียใจภายหลัง อินชิงเสวียนก็หลุดพ้นจากสภาวะจิตใจในเมื่อครู่ทันที เสียงพิณก็วุ่นวายไร้ระเบียบทันทีแม้ว่านางจะไม่สามารถควบคุมมันได้อย่างเต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-04
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 679 ที่นี่เป็นที่ฝังศพของเจ้า

    อินชิงเสวียนหันไปมองเย่จิ่งอวี้กล่าวด้วยเสียงสั่นเล็กน้อย เนื่องจากความตื่นเต้นมากเกินไป“เจ้า...คืออาอวี้?”เย่จิ่งอวี้ยื่นมือออกมา ถอดหน้ากากออก ภายใต้แสงจันทร์ ใบหน้าหล่อเหลาคมสันก็ประจักษ์ชัดในดวงตาของอินชิงเสวียนเรียวตาหงส์หรี่ลงเล็กน้อย แววตาเต็มไปด้วยความสุขเขาจับมือของอินชิงเสวียนทันที พูดด้วยเสียงอ่อนโยน “ข้าเอง เสวียน‍เอ๋อร์ เจ้ามาที่นี่ทำไม”อินชิงเสวียนรู้สึกตื่นเต้น อดไม่ได้ที่จะโผตัวเข้าสู่อ้อมแขนของเย่จิ่งอวี้ พูดละล่ำละลักว่า “ข้าต้องมาตามหาท่านอยู่แล้ว อาอวี้ ท่านไม่เป็นไร ดีจังเลย”เย่จิ่งหลานยืนอยู่ข้างหลังทั้งสองคน เขาไอแห้งๆ และพูดว่า “เฮ้ ทุกคนไปกันหมดแล้ว พวกเราก็ควรตามไปไม่ใช่หรือ”ใบหน้าของอินชิงเสวียนเปลี่ยนเป็นสีแดง รีบผลักเย่จิ่งอวี้ออก แล้วก็เห็นเจ้าสำนักเซี่ยวที่ถูกพยุงออกไปด้วยศิษย์หลายคนฮวาเชียนยังคงยืนอยู่ไม่ไกล ดูเหมือนกำลังรอพวกเขาอยู่เย่จิ่งอวี้พูดทันที “เสวียน‍เอ๋อร์ ไว้เราค่อยคุยเรื่องอดีตกันทีหลัง ข้ามีเรื่องจะถามฮวาเชียน”เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดที่ไม่จำเป็น อินชิงเสวียนรีบพูดว่า “อาอวี้ นี่เป็นความเข้าใจผิดทั้งหมด ท่านอาฮวาไม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-05
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 680 แม่ลูกพบหน้า

    ฮวาเชียนมาที่ห้องที่ใกล้กับฝั่งขวา เอื้อมมือออกไปดันประตูให้เปิดออกเย่จิ่งอวี้เดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว และเห็นสตรีคนนั้นนอนอยู่บนเตียงทันทีหญิงผู้นั้นสวมเสื้อป้ายตัวในสีขาว มือทั้งสองข้างตกอยู่ข้างลำตัว อายุราวๆ สามสิบหกสามสิบเจ็ดปี ผิวขาวซีด ใบหน้าดูป่วยนางหลับตาเบาๆ ขมวดคิ้วเป็นครั้งคราว ถึงกระนั้น ก็ยังไม่สามารถปกปิดความงดงามอันน่าทึ่งได้ ถ้าเป็นเมื่อตอนที่อายุยังน้อย คงงดงามไม่น้อยไปกว่าอินชิงเสวียนแน่เมื่อเห็นคนผู้นี้ เย่จิ่งอวี้ก็ตัวสั่นสะท้าน ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีแดงแม้ว่าคนตรงหน้าเขาจะซูบผอมไปมาก แต่เขาก็ยังจำได้ ว่านี่คือเสด็จแม่ที่เขาฝันถึงหลายครั้งจนไม่ถ้วนเขาเดินไปที่เตียงโดยไม่รู้ตัว งอเข่า และทรุดตัวลงคุกเข่าลงบนพื้น“เสด็จแม่ อวี้เอ๋อร์มาพบท่านแล้ว”ก่อนที่เขาจะพูดจบ ภาพเบื้องหน้าก็พร่ามัวไปแล้วแม้ว่าเขาจะดำรงตำแหน่งที่สูง แต่ก็ต้องฝ่าแดนอเวจีนับไม่ถ้วน ถึงมาอยู่ในจุดที่เขาอยู่ทุกวันนี้ได้องค์ชายคนอื่นๆ ล้วนเติบโตมาด้วยการเลี้ยงดูจากมารดา มีเพียงเขาที่อาศัยอยู่ตามลำพังในตำหนักบูรพาวัยเด็กของเย่จิ่งอวี้ข้ามผ่านมาด้วยความลำบาก ฮ่องเต้องค์ก่อนไม่มีมีทายาทแค่ส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-05
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 681 หวนไท่เฟยฟื้นแล้ว

    แล้วเย่จิ่งอวี้ก็นึกถึงน้ำพุวิญญาณของอินชิงเสวียน รีบพูดทันควัวน “ต้องรบกวนเสวียน‍เอ๋อร์แล้ว”อินชิงเสวียนยิ้มอย่างอ่อนโยน“หวนไท่เฟยก็เป็นเสด็จแม่ของข้าเช่นกัน อาอวี้ไม่ต้องเกรงใจเพียงนี้”เย่จิ่งอวี้พยักหน้าอย่างซาบซึ้ง อินชิงเสวียนเป็นดาวนำโชคของเขาจริงๆ ไม่ว่าเขาจะประสบพบเจอปัญหาอะไรก็ตาม ตราบใดที่สาวน้อยคนนี้ยังอยู่ นางก็สามารถช่วยเขาจัดการได้ได้มีภรรยาเช่นนี้ นับเป็นวาสนาอย่างแท้จริง!อินชิงเสวียนหยิบถุงน้ำออกจากแขนเสื้อ เย่จิ่งอวี้ก็เอื้อมมือไปรับ แล้วยกร่างหวนไท่เฟยขึ้นอย่างระมัดระวัง และค่อยๆ ป้อนให้นางดื่มฮวาเชียนไม่หวังกับสิ่งนี้มากนัก นับตั้งแต่ผู้คุมตราเซี่ยวสลบไสลไม่ได้สติ เจ้าสำนักเซี่ยวก็เดินทางไปขอยาถอนพิษจากสำนักต่างๆ กินยาไปมากแต่ก็ไม่มีผล แล้วยาที่ใสเหมือนน้ำเปล่านี้ จะทำอะไรได้แต่ถึงอย่างไร นี่คือความกตัญญูของฝ่าบาทและกุ้ยเฟย นางจึงไม่มีอะไรจะพูดมากนัก แค่ถอนหายใจเบาๆ และถอนตัวออกไปเย่จิ่งหลานยืนอยู่ในห้องคนเดียว รู้สึกประดักประเดิดพอสมควร แต่แล้วเขาก็ถอยออกไปอย่างรู้สถานการณ์ในห้องนั้น เย่จิ่งอวี้วางเสด็จแม่ของเขาไว้บนเตียง สำหรับน้ำพุวิญญาณของอินชิง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-05
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 682 ผู้ที่สวรรค์เลือก

    สองแม่ลูกกอดกันแน่น เซี่ยวอิ๋นหวนไม่นึกรู้เลยว่าความฝันจะคล้ายความจริงได้ขนาดนี้ ไม่เพียงแต่จะสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิในร่างกายของลูกชายเท่านั้น แต่ยังสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของแขนอีกด้วยดีจังเลย!ขอบคุณสวรรค์ที่ประทานความฝันอันแสนหวานนี้ให้กับนาง ได้เห็นลูกชายก่อนตาย นางก็ควรจะพอใจแล้ว“ลูก อวี้เอ๋อร์ลูกแม่ ไม่คิดว่าเจ้าจะโตขนาดนี้แล้ว เป็นคนที่มีความสามารถจริงๆ”เซี่ยวอิ๋นหวนผลักลูกชายออกไปเล็กน้อย แล้วมองดูเขาอย่างละเอียดถี่ถ้วนเจ้าสำนักเซี่ยวและเฮ่ออวิ๋นทงอดไม่ได้ที่จะมองหน้ากันด้วยสายตาประหลาดใจเล็กน้อยหรือว่านี่คือพลังจากทางสายเลือดงั้นหรือหมอเทวดาหนิงเคยกล่าวไว้ว่า ถ้าขจัดพิษให้หมดไปไม่ได้ เซี่ยวอิ๋นหวนก็ไม่สามารถฟื้นได้อีก ไม่คาดคิดว่านางจะลืมตาขึ้นมา ถือเป็นปาฏิหาริย์จริงๆเฮ่ออวิ๋นทงดึงเจ้าสำนักเซี่ยว แสดงท่าทางเป็นความหมายให้เขาติดตามตัวเองออกไป ยากนักที่สองแม่ลูกจะได้พบหน้ากัน กลัวว่าตาเฒ่าเซี่ยวจะพูดอะไรที่ไม่พึงประสงค์ออกไปอีกอินชิงเสวียนและเย่จิ่งหลานก็ตามมาด้วย ทั้งสองไม่ได้เจอกันมาหลายปีแล้ว เย่จิ่งอวี้คงมีเรื่องมากมายที่จะพูดกับหวนไท่เฟย ในมิตินี้ควรสงวนไว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-06
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 683 เสียดาย

    “นี่...”ทันทีที่อินชิงเสวียนพูดคำนี้ เจ้าสำนักเซี่ยวก็หยุดนางไว้“เรื่องนี้เป็นอันตกลงตามนี้ ข้ายังต้องไปหาใครบางคน มาช่วยตรวจอาการของหวนเอ๋อร์ว่าเป็นอย่างไรแล้ว เจ้าอยู่ที่นี่ก่อน หากต้องการอะไร ให้ไปหาฮวาเชียนได้”เจ้าสำนักเซี่ยวชื่นชมอินชิงเสวียนเป็นอย่างมาก น้ำเสียงก็อ่อนโยนขึ้นมากอินชิงเสวียนโค้งคำนับและพูดว่า “ขอบคุณเจ้าสำนักเซี่ยวที่ดูแล ชิงเสวียนจะปกป้องความปลอดภัยให้หวนไท่เฟยอย่างแน่นอน”เจ้าสำนักเซี่ยวพยักหน้า และออกไปพร้อมกับเฮ่ออวิ๋นทงเมื่อออกมานอกหอ เฮ่ออวิ๋นทงถามว่า “สตรีคนนั้นคือใคร ทำไมนางถึงเล่นพิณการเวกได้”เจ้าสำนักเซี่ยวพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ และพูดว่า “นางเป็นกุ้ยเฟยคนปัจจุบัน ยังเป็นคนที่ลิ่นเซียวเลือก”เฮ่ออวิ๋นทงตกใจเล็กน้อย“หรือว่านางก็คืออินชิงเสวียน?”เรื่องของเด็กคนนี้ เฮ่ออวิ๋นทงเคยได้ยินต่งจื่ออวี๋พูดถึงเหมือนกัน จึงพอจะจำได้เมื่อนึกถึงศิษย์น้องลิ่นเซียว เฮ่ออวิ๋นทงก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ“แม้ว่าลิ่นเซียวจะหวาดระแวง แต่ก็มีสายตาเฉียบแหลมดี”เจ้าสำนักเซี่ยวแค่นเสียงหึและพูดว่า “นับตั้งแต่เสี่ยวเฟิ่งเอ๋อร์ตายไป เขาก็บ้าๆ บวมๆ ใครจะรู้ว่าตอนนี้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-06

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1540 สองพระองค์ครองราชย์ จบบริบูรณ์

    ปีที่สามของการครองราชย์ในราชวงศ์ต้าโจวฮองเฮาให้กำเนิดพระธิดา ได้รับพระราชทานนามว่าองค์หญิงเจ๋อเทียน นามว่าเจิน มีชื่อเล่นว่าฝูเอ๋อร์ในเดือนเก้าของปีเดียวกัน เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนปกครองร่วมกัน แบ่งกันปกครองบ้านเมืองและการดำรงชีวิตของผู้คน ราษฎรเคารพทั้งสองในฐานะพระองค์ฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ประวัติศาสตร์ได้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้ด้วยถ้อยคำที่งดงามที่สุด และเรียกช่วงเวลานี้อย่างเคารพว่า ยุคที่สององค์ปกครอง!ห้าปีต่อมา เครื่องกำเนิดพลังงานลมเครื่องแรกปรากฏขึ้นด้วยฝีมือความสามารถของชาวต้าโจว ซึ่งก้าวล้ำหน้าสมัยโบราณที่ล้าหลังไปอย่างมากด้วยก้าวที่ยิ่งใหญ่นักเรียนจากทั่วแคว้นได้แสดงความสามารถ พัฒนาสิ่งที่ล้ำหน้าต่างๆ ผ่านความรู้ทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมีใหม่ล่าสุด บุปผานับร้อยบานสะพรั่งพร้อมกัน ก่อให้เกิดยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ต้าโจวตอนนี้อาหารไม่ขาดแคลน ราษฎรไม่ต้องทนทุกข์กับความหิวโหยอีกต่อไป ยิ่งไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน โครงการคลองส่งน้ำก็สำเร็จลุล่วง ด้วยการคมนาคมสะดวกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการได้ในที่สุด อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นยังสามารถเปลี่ยนเส้นท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1539 เสวียนเอ๋อร์ขอบคุณเจ้านะ

    ตำหนักจินอู๋อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่ไม่กล้าโคจรกำลังภายในต้านทานไว้ เพราะกลัวว่าจะทำร้ายลูกของนางเมื่อเห็นนางกัดริมฝีปากล่างแน่น มีเหงื่อไหลอาบหน้า หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกเหมือนถูกมีดคมๆ นับพันทิ่มแทง รู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง“ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาได้ ต้องปล่อยให้นางเจ็บปวดทนทุกข์เช่นนี้หรือ”หมอตำแยกล่าวอย่างกล้าหาญว่า “สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้เพคะ อดทนไว้ แล้วจะดีเอง”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความโกรธ “ฮองเฮาของข้าจะเทียบได้กับสตรีทั่วไปได้อย่างไร รีบหาทางบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาเดี๋ยวนี้”“ข้าไม่เป็นไร อาอวี้ออกไปก่อนเถอะ!”เสียงของอินชิงเสวียนนั้นอ่อนแรง แม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถูกเห็นเข้าในสถานการณ์เช่นนี้ก็น่าอายอยู่เหมือนกันเย่จิ่งอวี้เดินก้าวเดียวก็ไปถึงเตียง จับมือของนางแน่นๆ แล้วพูดอย่างกระวนกระวายใจ “ข้าไม่วางใจ มีวิธีถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ข้าได้ไหม เจ้าอยู่กับลั่วสุ่ยชิงมานานแล้ว ไม่ได้เรียนวิชาอาคมอะไรจากนางบ้างหรือ”อินชิงเสวียนเจ็บปวดเจียนตายอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้ก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1538 ไท่เฟยไท่ผินออกจากวัง

    อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดและกล่าวว่า “ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันแต่งงานของไห่ถัง ในฐานะพี่ชาย ควรเป็นประธานงานแต่งของนางด้วยตนเอง หากไม่มีคนในราชวงศ์ไป ไห่ถังจะผิดหวังได้”แม้น้องสาวจะเป็นญาติ แต่ก็ไม่ชิดเชื้อเท่ากับภรรยา ลูกคนแรกเกิดในตำหนักเย็น ซึ่งทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกผิดไปครึ่งชีวิตแล้ว ยากนี้เด็กคนนี้คือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงระหว่างพวกเขา ในฐานะพ่อของลูก เขาจะจากไปได้อย่างไรเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางซีด มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นเต็มขมับของนาง เย่จิ่งอวี้ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบนาง “ไม่เป็นไร มีแม่ทัพอินและจอมพลกวนอยู่ด้วย ไห่ถังก็ไม่นับว่าเสียเกียรติอะไรนัก”อินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา“จะได้อย่างไร หากไม่มีใครจากในวังไป มันจะกลายเป็นปมในใจของไห่ถังอย่างแน่นอน นี่คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง”ไม่ว่าอย่างไรเย่จิ่งอวี้ก็ไม่ยอมไป แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้น้องสาวเสียหน้าได้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีความคิดอยู่ในใจ“เจวี๋ยอิ่ง ไปเชิญไท่เฟยไท่ผินทุกท่าน ให้พวกนางออกจากวัง ร่วมงานเสกสมรสขององค์หญิงเดี๋ยวนี้”ทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่จิ่งอวี้จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1537 ฮองเฮาทรงมีพระประสูติการ

    เย่ไห่ถังยังคงมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงของหลี่เต๋อฝูก็ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตู เห็นเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้ยืนอยู่ที่กลางเรือน น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา“ไห่ถังคารวะเสด็จพี่ เสด็จพี่สะใภ้เพคะ!”เย่ไห่ถังกำลังจะคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ก็ปราดเข้าประคองนางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในฐานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว ทุกสิ่งต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม จะทำตัวเหลวไหลซุกซนเหมือนอยู่ในวังไม่ได้ หากใช้ชีวิตนอกวังจนเบื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา วังหลวงจะเป็นบ้านของเจ้าตลอดไป”อินชิงเสวียนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่รองของข้ารังแกเจ้า เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าแน่นอน”ถ้าคนที่เย่ไห่ถังแต่งงานด้วยไม่ใช่อินปู้อวี่ เย่จิ่งอวี้คงพูดคำนี้ไปนานแล้วเย่ไห่ถังสูดจมูก“ขอบพระทัยเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้เพคะ ตอนแรกข้าค่อนข้างมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่อยากจากไปเลย”เมื่อเห็นว่าจมูกของเย่ไห่ถังแดง กำลังจะร้องไห้อีก เย่จิ่งอวี้จึงตีหน้าขรึมพูดทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะให้คนไปแจ้งอินปู้อวี่ ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่มีแล้ว หลี่เต๋อฝู!”หลี่เต๋อฝูก็เป็นคนเจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1536 องค์หญิงกำลังจะเสกสมรส

    ในวันที่หนึ่งเดือนสี่ ลำดับการสอบการต่อสู้ชี้ให้เห็นว่า เฉินเซียงเยว่ที่อินชิงเสวียนสนใจ สอบได้ลำดับหนึ่ง คนผู้นี้หน้าตาดูดุร้ายและน่าเกลียด แต่กลับมีจิตใจอ่อนโยนดังเช่นสตรี ไม่เพียงแต่วรยุทธ์ดีเลิศเท่านั้น แต่ยังเก่งในเรื่องการจัดขบวนทัพด้วย เป็นยอดแม่ทัพที่หาได้ยากนางได้ลำดับหนึ่งก็คือจอหงวนด้านวิชาการต่อสู้ ไม่มีใครไม่ยอมรับเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ดูฮึกเหิมมีพลังมากกว่าผู้ชายทุกคนในตอนนั้นเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งแซ่หลิวมีชื่อว่าเยว่ ก็ได้รับเลือกให้ติดอยู่ในสามอันดับแรก รั้งอยู่ในเมืองหลวงฝ่าบาทขานรายชื่อสตรีมามากขนาดนี้ เหล่าขุนนางข้าราชบริพารก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามระเบียบประเพณี แต่ก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต้าโจวในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ที่ฝ่าบาทยินดีฟังพวกเขา ก็ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขาแล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากฟัง ถึงพูดมากไปก็ไร้ผลแต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าเย่จิ่งอวี้เป็นทรราช ฝ่าบาททรงงานปกครองบ้านเมืองอย่างหนัก แม้ว่าพระองค์จะทรงปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อประชาชนในราชวงศ์ต้าโจวเท่านั้น ขณะนี้แผ่นดินสงบสุข มีธัญพืชอุดมสมบูรณ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status