หน้าหลัก / รักโบราณ / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 665 การสู้รบอย่างดุเดือด

แชร์

บทที่ 665 การสู้รบอย่างดุเดือด

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-04-30 19:08:22
ผีแคระนั่นก็ว่องไวมากเช่นกัน กระโดดขึ้นสูงจากพื้นระยะสามจ้าง และฟาดฝ่ามือไปที่เย่จิ่งอวี้

ฝ่ามือขนาดใหญ่พัดกรรโชกเข้ามา เย่จิ่งอวี้ตกใจเล็กน้อย ผีแคระเหล่านี้มีความสามารถไม่แพ้กันเลย

บูม

มีเสียงอึกทึกครึกโครมดังขึ้น พัดฝุ่นดินตลบ ทั้งสองต่างถอยคนละหนึ่งก้าว

ผีแคระด่าออกมาหนึ่งคำด้วยเสียงจ้อกแจ้กจอแจ จากนั้นก็โบกฝ่ามือโจมตีเย่จิ่งอวี้อีกครั้ง

ลูกศิษย์คนอื่นๆ ก็ต่อสู้กับผีแคระที่เหลือเหล่านั้น เสียงอึกทึกครึกโครมดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีลูกศิษย์หลายคนล้มลงบนพื้น

เย่จิ่งอวี้กวาดสายตามอง และเข้าใจอย่างชัดแจ้ง ผีแคระเหล่านี้ช่ำชองการโจมตีเป็นกลุ่ม โดยปกแล้วเป็นการต่อสู้แบบสามรุมหนึ่ง อีกคนหนึ่งเดินไปรอบๆ เพื่อต้านการเข้ามาปะทะของพวกลูกศิษย์

จึงพูดตะโกนทันทีว่า “อย่าแยกจากกัน คนเหล่านี้ช่ำชองการโจมตีเป็นกลุ่ม”

ระหว่างที่พูดก็มีอีกหลายคนล้มลงบนพื้น

ผีแคระคนหนึ่งส่งเสียงหัวเราะร่าดังออกมา ระหว่างสายตาเต็มไปด้วยความดูถูก ใช้ภาษาดินแดนจงหยวนพูดอย่างไม่เป็นธรรมชาติ “ไอ้โง่”

สายตาของเย่จิ่งอวี้เยือกเย็นทันที

“รนหาที่ตาย”

เขาชักดาบยาวข้างเอวออกมา เมื่อขยับข้อมือก็มีเสียงมังกร
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 666 ยุยงใส่ไฟ

    เมื่อพูดคำนี้ออกมา ทุกคนต่างก็หันไปทางเจ้าสำนักเซี่ยวการอ้างหลักศีลธรรมบังคับให้ทำตามที่ตนเองปรารถนายืนอยู่บนจุดสูงได้เสมอ แม้แต่ในสมัยโบราณก็ไม่มีข้อยกเว้น ในสายตาของทุกคนมีความแตกต่างกันมากขึ้นในทันทีเฮ่ออวิ๋นทงรุดหน้าไปหนึ่งก้าว และพูดด้วยสัจธรรมว่า “ผู้อาวุโสซูพูดผิดแล้วล่ะ พิณการเวกเป็นถึงสิ่งของของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ การใช้งานเป็นอย่างไรควรให้เจ้าสำนักเซี่ยวเป็นผู้ตัดสินใจเอง อีกทั้งแต่ละสำนักล้วนมีวิชาดาบเป็นหลัก แม้เจ้าสำนักเซี่ยวนำพิณนี้ออกมา ก็อาจไม่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่ สิ่งที่พวกเราควรทำให้ตอนนี้คือรักษาผู้คุมตราเซี่ยวให้เร็วที่สุด จึงจะใช้พิณการเวกได้อีกครั้ง”ซูถูส่ายหน้าด้วยความเบื่อหน่าย“ข้ารู้ว่าเจ้าสำนักเฮ่อและเจ้าสำนักเซี่ยวมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน แต่เรื่องสำคัญอย่างมาก เมื่อชายฝั่งทะเลเป่ยไห่ตกอยู่ในมือของศัตรู ทั่วทั้งดินแดนจงหยวนก็จะประสบหายนะ เกรงว่าทุกท่านที่อยู่ที่นี่ยังไม่รู้วิธีการของชาวตงหลิวชัดเจนดีนัก ตอนนี้จึงใช้วิธีการต้านศัตรูไว้ก่อน ตอนนี้ข้าได้พบผู้ที่รอบรู้ท่วงทำนองเพลงแล้ว ไม่ทราบว่าเจ้าสำนักเซี่ยวยินยอมที่จะลองดูหรือไม่”หา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-30
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 667 เวลาตายของเจ้าใกล้จะมาถึงแล้ว

    ดวงตาสองข้างของผู้หญิงโกรธเป็นไฟ เกลียดที่นางหลงผิดไปเพียงชั่วครู่ เดิมทีคิดอยากสั่งสอนคนรักของนาง ไม่คิดว่าจะโดนย้อนเล่นงานและสูญเสียอำนาจไปมากกว่าครึ่งยิ่งเกลียดตัวเองที่แสดงตัวในชุดคลุมสีดำอยู่เสมอ ตอนนี้ถูกคนสวมรอยใช้ชื่อ เกรงว่าแม้แต่ลูกศิษย์ก็ไม่มีใครล่วงรู้“หากมีวันใดที่ข้ารอดไปได้ ข้าจะสับร่างสุนัขชั้นต่ำอย่างเจ้าเป็นหมื่นชิ้น”ชายชุดคลุมดำหัวเราะร่าและเดินมาด้านหน้า ใช้มือบีบใต้คางของหญิงสาว พูดด้วยน้ำเสียงมืดมนว่า “เจ้าคิดว่าข้าจะให้โอกาสนี้แก่เจ้างั้นหรือ?”ดวงตาสองข้างของผู้หญิงแทบถลนออก ความโกรธภายในดวงตาราวกับถูกเผาไหม้ถึงแก่นแท้ชายชุดคลุมดำปล่อยมือ และพูดอย่างเชื่องช้าว่า “แม้ว่าสำนักเซียวเหยาเป็นสำนักนอกรีต แต่เป็นทางลัดในการฝึกวิชาได้อย่างรวดเร็ว ข้าขอตำแหน่งนี้แล้วกัน ส่วนเจ้ายังคงมีประโยชน์อยู่ อย่างน้อยวิทยายุทธ์ของเจ้าก็สูงกว่าผู้หญิงที่ฝึกบำเพ็ญเพียรอยู่มาก”เขากระชากชุดกระโปรงของผู้หญิงออก และนอนทับลงบนร่างของนางผู้หญิงครางร้องด้วยความเจ็บปวด ผสมกับการหายใจถี่หนัก ระหว่างที่กำลังหลงระเริงในอารมณ์ ชายชุดคลุมดำบีบคอของนางไว้อย่างอดไม่ได้ และตะโกนเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-01
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 668 การฆ่าด้วยยาพิษ

    หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วยาม จูอวี้เหยียนก็มาถึงเป่ยไห่เมื่อเห็นป้ายบอกทางขนาดใหญ่ เด็กขายของก็ตื่นเต้นดีใจอย่างอดไม่ได้“แม่นางจู ถึงเป่ยไห่แล้วขอรับ”จูอวี้เหยียนพูดด้วยใบหน้าที่อ่อนโยน “ไปหาโรงเตี๊ยมพักผ่อนกันก่อนเถอะ”“ดีขอรับ ข้าจะไปหาเดี๋ยวนี้”เมื่อได้ยินเสียงราวกับสวรรค์ ร่างกายของเด็กขายของก็อ่อนระทวยลงทันที เขากระโดดลงจากรถม้าอย่างเซ่อซ่า และตามหาโรงเตี๊ยม เมื่อหาห้องพักได้แล้วก็อุ้มจูอวี้เหยียนลงจากรถม้าเมื่อมองเด็กขายของวิ่งไปวิ่งมา จูอวี้เหยียนก็รังเกียจเป็นอย่างมาก ในที่สุดก็ถึงที่หมายเสียที ไอ้คนรกสายตาก็ไม่มีความจำเป็นต้องมีชีวิตรอดอีกต่อไประหว่างที่ครุ่นคิด เด็กขายของก็ยกอาหารเดินเข้ามาจากด้านนอกประตู“แม่นางจู ข้าสั่งอาหารหลายอย่างที่ท่านชอบกิน รีบมาชิมดูสิ!”จูอวี้เหยียนเหลือบมองนางอย่างเขินอายและพูดว่า “ข้าอยากอาบน้ำ เพียงแต่เราสองคนยังไม่ได้แต่งงานกัน เจ้าปรนนิบัติข้าคงไม่เหมาะสม ข้าขอรบกวนเจ้าช่วยไปซื้อสาวรับใช้ให้ข้าหน่อย หากไปพบท่านแม่ของข้าในสภาพนี้ นางคงคิดว่าท่านทรมานข้า และจะต้องว่าจะไม่เห็นด้วยกับเรื่องของเรา”เด็กขายของพยักหน้าและพูดว่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-01
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 669 ความคิดของซูถู

    ลูกศิษย์หญิงตกใจเล็กน้อย เจ้าสำนักเป็นอะไรกัน? ผู้ที่สำนักโยกย้ายไปเป็นยอดฝีมือระดับหัวกะทิมาตลอด เหตุใดวันนี้จึงทำการสะเพร่าเช่นนี้? ระหว่างที่ครุ่นคิด จู่ๆ พลังมหาศาลก็ดูดเข้ามาและคนก็โผบินไปที่ฉุยอวี้อย่างไม่อาจควบคุมได้ลูกศิษย์หญิงรู้สึกถึงความเย็นที่ต้นคอ และถูกมือใหญ่ที่เย็นยะเยือกคว้าเอาไว้“เหตุใดจึงยังไม่ไปอีก? หรือว่าเจ้าสงสัยตัวข้า?”เสียงที่แหบพร่าดังออกมาจากผ้าคลุมสีดำ ลูกศิษย์หญิงหวาดกลัวในทันที“ลูกศิษย์ไม่กล้า”ฉุยอวี้ขยับข้อมือ ลูกศิษย์หญิงก็ล้มลงบนพื้นในทันทีความน่าสะพรึงหลังที่เย็นยะเยือกปล่อยออกมาจากร่างกายของฉุยอวี้ ลูกศิษย์หญิงจึงกลัวจนตัวสั่นอย่างอดไม่ได้ รีบคุกเข่าลงด้วยความลนลานและความเคารพฉุยอวี้ทำเสียงฮึดฮัด“ออกไปซะ”“ลูกศิษย์น้อมรับคำสั่ง”เมื่อรู้สึกถึงความอาฆาตที่น่าสะพรึงกลัว ลูกศิษย์หญิงก็วิ่งคลานออกไปจากห้องลับฉุยอวี้หลับตาลงอีกครั้ง นำลมปราณที่แท้จิตจากการถอนพลังทั้งหมดมาใช้ด้วยตัวเองวันถัดมาชายฝั่งทะเลเป่ยไห่สว่างสดแจ่มใสอย่างหาได้ยาก ท้องฟ้าสีครามไม่มีเมฆ และน้ำทะเลก็มีสีเดียวกับท้องฟ้าเวลาเช้าตรู่ ด้านในโรงน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-01
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 670 นักแม่นปืน

    เป่ยไห่เกิดเรื่องกะทันหัน ทางด้านของอินชิงเสวียนยังคงเพิ่มความเร็วในการเดินทางร่างกายของฮวาเชียนยังไม่ฟื้นตัวดี อินชิงเสวียนจึงให้นางและอวิ๋นฉ่าย รวมทั้งคนอื่นๆ รอในมิติของเย่จิ่งหลานชั่วคราวก่อนการเดินทางที่แสนยาวไกล การนั่งรถม้าไม่ใช่เรื่องที่สะดวกสบาย ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเสี่ยวหนานเฟิงด้วย อินชิงเสวียนไม่สามารถให้ลูกชายร่วมลำบากกันนางได้แน่นอนหวังซุ่นก็ตามเข้าไปอย่างกระฉับกระเฉง เมื่อเห็นผู้หญิงก็ก้าวเท้าไม่ออกเป็นปกติอินชิงเสวียนก็ไม่กังวลว่าเขาจะทําอะไรนอกกรอบ เจ้าหมอนี่มีทักษะศิลปะการต่อสู้ปานกลาง นอกจากความสามารถในการปลอมตัว ก็ไม่มีความสามารถอื่นอีกแล้วเมื่อทุกคนถูกอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมแล้ว บนรถก็เหลือเพียงอินชิงเสวียนและเย่จิ่งหลานเมื่อเห็นเย่จิ่งหลานหยิบปืนชี้ไปทั่ว อินชิงเสวียนก็ไม่พอใจอย่างน่าประหลาด ก่อนหน้านี้นางประหยัดประหยัดใช้ แทบจะต้องหักครึ่งคะแนนสะสมมาใช้ เพื่อสะสมให้ครบหนึ่งแสน แลกอาวุธปืนและอวดความโก้หรูตอนนี้ความหวังหมดสิ้น จึงใช้เงินตามอำเภอใจและปล่อยเลยตามเลย อยากกินอะไรก็กิน อยากเปลี่ยนอะไรก็เปลี่ยน โดยไม่นึกถึงปืนพกอีกแล้วเย่จิ่งหลานจึ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-02
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 671 ตู้เยี่ยน

    เมื่อเห็นเย่จิ่งหลานออกหน้าท่าทางเกินจริง อินชิงเสวียนก็พูดด้วยรอยยิ้ม “จะทำอะไรได้เล่า ก็เป็นแค่นักศึกษามหาวิทยาลัยผู้มีชีวิตลำเค็ญเท่านั้น น่าสงสารแต่ข้าที่ยังไม่ได้ทำงานสักวัน กลับต้องมาถูกรถเก๋งชนตาย”เย่จิ่งหลานมองนางตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอย่างพิจารณาอีกครั้ง ปล่อยมือแล้วพูดว่า “หรือ ว่าในโลกนี้จะมีอัจฉริยะจริงๆ?”อินชิงเสวียนพูดอย่างถ่อมตัว “อาจเป็นเพราะการดื่มน้ำพุวิญญาณกระมัง”“ข้าก็ดื่มน้ำพุวิญญาณเหมือนกัน ทำไมถึงไม่ได้ผลแบบนั้น เป็นเพราะเจ้าให้ข้าน้อยเกินไปแน่ๆ อีกเดี๋ยวใส่ไว้ในอ่างอาบน้ำให้ข้าหน่อยนะ ข้าจะแช่ตัวให้หนำใจไปเลย”เย่จิ่งหลานกล่าวอย่างอดรนทนไม่ไหวอินชิงเสวียนด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย“ได้สิ ถึงเติมน้ำให้เจ้าสิบตันก็ไม่มีปัญหา”“ถ้างั้นก็รีบเลย จะรออะไรอีกเล่า”หลังจากที่เย่จิ่งหลานพูดจบก็เข้าไปในมิติอินชิงเสวียนดูแผนที่คร่าวๆ เพื่อไม่ให้เจ้าม้าเหนื่อยเกินไป พวกนางพักผ่อนในเวลากลางคืน และเดินทางในตอนกลางวันตลอด ตอนนี้อยู่ห่างจากชายฝั่งทะเลเป่ยไห่เป็นระยะทางราวๆ หนึ่งวัน ซึ่งเร็วกว่าเวลาที่คำนวณไว้แต่แรกมาก เมื่อคิดถึงเย่จิ่งอวี้ที่ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย อิน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-02
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 672 สุดที่จะทนได้

    ศิษย์ชายคนหนึ่งเข้ามาจากด้านนอก พูดอย่างระมัดระวัง “เรียนเจ้าสำนัก ผู้อาวุโสซูนำคนจำนวนมากมาที่สำนัก บอกว่าขอพบเจ้าสำนักขอรับ”เจ้าสำนักเซี่ยวแค่นเสียงหึแล้วพูดว่า “ตาแก่นี่ ยังไม่ยอมแพ้อีก คิดจะเอาพิณการเวก ฝันไปเถอะ”เขาสะบัดชายเสื้อคลุม แล้วก้าวอาดๆ ออกจากประตูไปคนที่อยู่นอกประตูยังคงตะโกน หากมีเพียงหนึ่งหรือสองคน พวกเขาคงไม่มีความกล้าหาญเช่นนี้แน่ เจ้าสำนักเซี่ยวได้รับการยกย่องจากชาวยุทธ์ว่าเป็นปราชญ์แห่งดนตรี เพลงขลุ่ยสามารถทำให้คนร้องขอชีวิตไม่ได้ ร้องขอความตายยิ่งไร้หนทาง ยอดฝีมือเช่นนี้ ผู้ใดเล่าจะกล้าทำให้เขาไม่พอใจแต่พอมีคนมากขึ้น ย่อมไม่เหมือนเดิมแล้ว หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีคนจำนวนมากไม่ชอบหน้าเจ้าสำนักเซี่ยว ในเมื่อมีคนเต็มใจออกหน้า ทุกคนจึงอยากมารับส่วนแบ่งกันแม้ว่าจะไม่ได้อะไรเลย แต่การได้ต่อต้านเจ้าสำนักเซี่ยวก็คุ้มค่าที่จะเอาไปคุยโวได้พักหนึ่งขณะที่ฝูงชนกำลังดุเดือดเลือดร้อน จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงดังปัง และทันใดนั้นประตูของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ก็เปิดออกชายชราสวมเสื้อคลุมสีน้ำเงินเอามือไพล่หลังเดินออกไปหนวดเคราและเส้นผมของชายคนนี้เป็นสีขาว ดวงตาพยัคฆ์แม้นไม่เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-02
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 673 ทำไมนางถึงอยู่ที่นี่

    เย่จิ่งอวี้ประกบมือคำนับแล้วพูดว่า “ขอบคุณมาก เจ้ารู้จักคนที่ชื่อฮวาเชียนหรือไม่”ต่งจื่ออวี๋กล่าวว่า “ข้าพอจะรู้จักแม่นางฮวาอยู่ นางเป็นคนของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ แต่ไม่ถือว่าคุ้นเคยกันนัก แค่ได้พบหน้าไม่กี่ครั้งเท่านั้น”เย่จิ่งอวี้ตกใจมาก ฮวาเชียนยังไม่ตายจริงๆ ดูเหมือนว่าไทเฮาไม่ได้โกหกเขาเขาระงับความสับสนในดวงตา แล้วถามอีกครั้ง “เจ้ากับฮวาเชียนได้พบปะพูดคุยกันบ้างหรือไม่”ต่งจื่ออวี๋ส่ายศีรษะแล้วพูดว่า “เรื่องนั้นไม่เคยเลย แม้ว่าอาจารย์จะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้าสำนักเซี่ยว แต่ปกติเรามักจะฝึกฝนวรยุทธ์ในสำนักของใครของมัน ไม่มีการไปมาหาสู่กันเป็นประจำ หากคราวนี้ไม่ได้มาที่เป่ยไห่นี้ เกรงว่าเราอาจจะไม่มีโอกาสได้เจอหน้ากันด้วยซ้ำ”ต่งจื่ออวี๋เหลือบมองเย่จิ่งอวี้และถามด้วยความพิศวง “ท่านรู้จักแม่นางฮวาผู้นั้นหรือ”เย่จิ่งอวี้พูดเบาๆ “นับว่ารู้จักกันอยู่ ที่ข้ามาเป่ยไห่ครั้งนี้ เพราะมีเรื่องบางอย่างอยากถามนาง ไม่ทราบว่าน้องชายต่งพอจะช่วยตามนางมาพบข้าได้หรือไม่”ต่งจื่ออวี๋ไม่รู้ว่าฮวาเชียนออกจากเป่ยไห่แล้ว จึงตอบตกลงทันที“เรื่องนี้ไม่น่าจะยาก ประเดี๋ยวข้าจะหาข้ออ้าง เข้าไปใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-03

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1540 สองพระองค์ครองราชย์ จบบริบูรณ์

    ปีที่สามของการครองราชย์ในราชวงศ์ต้าโจวฮองเฮาให้กำเนิดพระธิดา ได้รับพระราชทานนามว่าองค์หญิงเจ๋อเทียน นามว่าเจิน มีชื่อเล่นว่าฝูเอ๋อร์ในเดือนเก้าของปีเดียวกัน เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนปกครองร่วมกัน แบ่งกันปกครองบ้านเมืองและการดำรงชีวิตของผู้คน ราษฎรเคารพทั้งสองในฐานะพระองค์ฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ประวัติศาสตร์ได้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้ด้วยถ้อยคำที่งดงามที่สุด และเรียกช่วงเวลานี้อย่างเคารพว่า ยุคที่สององค์ปกครอง!ห้าปีต่อมา เครื่องกำเนิดพลังงานลมเครื่องแรกปรากฏขึ้นด้วยฝีมือความสามารถของชาวต้าโจว ซึ่งก้าวล้ำหน้าสมัยโบราณที่ล้าหลังไปอย่างมากด้วยก้าวที่ยิ่งใหญ่นักเรียนจากทั่วแคว้นได้แสดงความสามารถ พัฒนาสิ่งที่ล้ำหน้าต่างๆ ผ่านความรู้ทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมีใหม่ล่าสุด บุปผานับร้อยบานสะพรั่งพร้อมกัน ก่อให้เกิดยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ต้าโจวตอนนี้อาหารไม่ขาดแคลน ราษฎรไม่ต้องทนทุกข์กับความหิวโหยอีกต่อไป ยิ่งไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน โครงการคลองส่งน้ำก็สำเร็จลุล่วง ด้วยการคมนาคมสะดวกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการได้ในที่สุด อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นยังสามารถเปลี่ยนเส้นท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1539 เสวียนเอ๋อร์ขอบคุณเจ้านะ

    ตำหนักจินอู๋อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่ไม่กล้าโคจรกำลังภายในต้านทานไว้ เพราะกลัวว่าจะทำร้ายลูกของนางเมื่อเห็นนางกัดริมฝีปากล่างแน่น มีเหงื่อไหลอาบหน้า หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกเหมือนถูกมีดคมๆ นับพันทิ่มแทง รู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง“ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาได้ ต้องปล่อยให้นางเจ็บปวดทนทุกข์เช่นนี้หรือ”หมอตำแยกล่าวอย่างกล้าหาญว่า “สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้เพคะ อดทนไว้ แล้วจะดีเอง”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความโกรธ “ฮองเฮาของข้าจะเทียบได้กับสตรีทั่วไปได้อย่างไร รีบหาทางบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาเดี๋ยวนี้”“ข้าไม่เป็นไร อาอวี้ออกไปก่อนเถอะ!”เสียงของอินชิงเสวียนนั้นอ่อนแรง แม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถูกเห็นเข้าในสถานการณ์เช่นนี้ก็น่าอายอยู่เหมือนกันเย่จิ่งอวี้เดินก้าวเดียวก็ไปถึงเตียง จับมือของนางแน่นๆ แล้วพูดอย่างกระวนกระวายใจ “ข้าไม่วางใจ มีวิธีถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ข้าได้ไหม เจ้าอยู่กับลั่วสุ่ยชิงมานานแล้ว ไม่ได้เรียนวิชาอาคมอะไรจากนางบ้างหรือ”อินชิงเสวียนเจ็บปวดเจียนตายอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้ก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1538 ไท่เฟยไท่ผินออกจากวัง

    อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดและกล่าวว่า “ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันแต่งงานของไห่ถัง ในฐานะพี่ชาย ควรเป็นประธานงานแต่งของนางด้วยตนเอง หากไม่มีคนในราชวงศ์ไป ไห่ถังจะผิดหวังได้”แม้น้องสาวจะเป็นญาติ แต่ก็ไม่ชิดเชื้อเท่ากับภรรยา ลูกคนแรกเกิดในตำหนักเย็น ซึ่งทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกผิดไปครึ่งชีวิตแล้ว ยากนี้เด็กคนนี้คือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงระหว่างพวกเขา ในฐานะพ่อของลูก เขาจะจากไปได้อย่างไรเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางซีด มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นเต็มขมับของนาง เย่จิ่งอวี้ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบนาง “ไม่เป็นไร มีแม่ทัพอินและจอมพลกวนอยู่ด้วย ไห่ถังก็ไม่นับว่าเสียเกียรติอะไรนัก”อินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา“จะได้อย่างไร หากไม่มีใครจากในวังไป มันจะกลายเป็นปมในใจของไห่ถังอย่างแน่นอน นี่คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง”ไม่ว่าอย่างไรเย่จิ่งอวี้ก็ไม่ยอมไป แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้น้องสาวเสียหน้าได้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีความคิดอยู่ในใจ“เจวี๋ยอิ่ง ไปเชิญไท่เฟยไท่ผินทุกท่าน ให้พวกนางออกจากวัง ร่วมงานเสกสมรสขององค์หญิงเดี๋ยวนี้”ทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่จิ่งอวี้จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1537 ฮองเฮาทรงมีพระประสูติการ

    เย่ไห่ถังยังคงมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงของหลี่เต๋อฝูก็ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตู เห็นเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้ยืนอยู่ที่กลางเรือน น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา“ไห่ถังคารวะเสด็จพี่ เสด็จพี่สะใภ้เพคะ!”เย่ไห่ถังกำลังจะคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ก็ปราดเข้าประคองนางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในฐานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว ทุกสิ่งต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม จะทำตัวเหลวไหลซุกซนเหมือนอยู่ในวังไม่ได้ หากใช้ชีวิตนอกวังจนเบื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา วังหลวงจะเป็นบ้านของเจ้าตลอดไป”อินชิงเสวียนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่รองของข้ารังแกเจ้า เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าแน่นอน”ถ้าคนที่เย่ไห่ถังแต่งงานด้วยไม่ใช่อินปู้อวี่ เย่จิ่งอวี้คงพูดคำนี้ไปนานแล้วเย่ไห่ถังสูดจมูก“ขอบพระทัยเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้เพคะ ตอนแรกข้าค่อนข้างมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่อยากจากไปเลย”เมื่อเห็นว่าจมูกของเย่ไห่ถังแดง กำลังจะร้องไห้อีก เย่จิ่งอวี้จึงตีหน้าขรึมพูดทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะให้คนไปแจ้งอินปู้อวี่ ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่มีแล้ว หลี่เต๋อฝู!”หลี่เต๋อฝูก็เป็นคนเจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1536 องค์หญิงกำลังจะเสกสมรส

    ในวันที่หนึ่งเดือนสี่ ลำดับการสอบการต่อสู้ชี้ให้เห็นว่า เฉินเซียงเยว่ที่อินชิงเสวียนสนใจ สอบได้ลำดับหนึ่ง คนผู้นี้หน้าตาดูดุร้ายและน่าเกลียด แต่กลับมีจิตใจอ่อนโยนดังเช่นสตรี ไม่เพียงแต่วรยุทธ์ดีเลิศเท่านั้น แต่ยังเก่งในเรื่องการจัดขบวนทัพด้วย เป็นยอดแม่ทัพที่หาได้ยากนางได้ลำดับหนึ่งก็คือจอหงวนด้านวิชาการต่อสู้ ไม่มีใครไม่ยอมรับเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ดูฮึกเหิมมีพลังมากกว่าผู้ชายทุกคนในตอนนั้นเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งแซ่หลิวมีชื่อว่าเยว่ ก็ได้รับเลือกให้ติดอยู่ในสามอันดับแรก รั้งอยู่ในเมืองหลวงฝ่าบาทขานรายชื่อสตรีมามากขนาดนี้ เหล่าขุนนางข้าราชบริพารก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามระเบียบประเพณี แต่ก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต้าโจวในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ที่ฝ่าบาทยินดีฟังพวกเขา ก็ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขาแล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากฟัง ถึงพูดมากไปก็ไร้ผลแต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าเย่จิ่งอวี้เป็นทรราช ฝ่าบาททรงงานปกครองบ้านเมืองอย่างหนัก แม้ว่าพระองค์จะทรงปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อประชาชนในราชวงศ์ต้าโจวเท่านั้น ขณะนี้แผ่นดินสงบสุข มีธัญพืชอุดมสมบูรณ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status